==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เหมือน
-
- Verified User
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เหมือน
โพสต์ที่ 1
ดูคลิป ดร.นิเวศน์ให้สัมภาษณ์ รายการ Monney Chanel ช่วง Hard Talk วันนี้
http://www.moneychannel.co.th/0Live_0/p ... p?listid=5
ให้มุมมองที่ การซื้อ Makro ที่น่าคิด
ฝากเพื่อนๆลองช่วยกันคิดดู และให้คำแนะนำเพิ่มเติม ได้นะครับ
อจนิเวศน์.บอกว่า จากที่ฟังจากผู้บริหาร เค้่าจะไม่เพิ่มทุนให้คน ถือหุ้นเดือดร้อน
ดร.บอกว่า ทางผู้บริหารบอกว่า จะใช้เงินสดบริษัท ราวๆ 10% ที่เหลือใช้เงินกู้ และ กำไรจาก แมคโคร ก็เกือบพอมาส่งดอกเบี้ยได้ และปีหลังๆ โตขึ้น ก็จะ ส่งหักต้น สุดท้าย ก็จะเหมือน CPall ได้บริษัท แมคโครมาฟรีๆ
ผมฟังดูแล้วเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ซื้อแมคโครแพง ถึง เกือบ 190,000 ล้านจะคล้ายได้ฟรีเชียวเหรอ ก็ เลยลอง มาคิดดู ลองตามมาดูกัน แล้วช่วยกัน คิดก็ได้ครับ
=====================================================
คำนวน Deal จากราคาที่ ซื้่อ และ จะทำ Tender offer Makro ที่ราคา 787 ถ้าซื้อหุ้นกลับมา 100% ก็ใช้เงิน 787X 240 ล้าน = 188,880ล้าน
แต่จะใช้การกู้ โดยใช้เงินสดบริษัท 10% (18,888 ล้าน) ที่เหลือ อีก 90% = ราวๆ 170,000 ล้าน ใช้เงินกู้ ที่ตอนนี้ มีสถาบันการเงิน รอให้กู้
อยู่แล้ว
ดอกเบี้ย มีบางบทวิเคราะห์ คิดว่า น่าจะเป็น 3% แต่ผมว่า อาจจะต่ำไปนิด แต่บริษัทยักษ์มั่นคงระดับ CPall กู้หรือ ออกหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 3.5% ก็
น่าจะพอได้ ดังนั้น คิดดอกเบี้ยจากเงิน ต้น 170,000 ล้าน= 5950 หรือ ตก ประมาณ ปีละ 6 พัน ล้าน
Makro ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี 4, 776 ล้่าน ปีหน้า คิดว่า คงทะลุเกิน 5000 ล้่าน ค่อนข้างแน่ (โอเคตัวเลข เจ้าสัว ธานินทร์ บอกว่า กำไร 5 พันล้าน ก็พอจะถือได้ว่าไม่มั่ว ) แต่ถ้าหักภาษีแล้ว น่าจะเหลือกำไรราวๆ 4 พันล้าน และขอคิดให้ มีการเติบโต ปีล่ะ ซัก 10% ล่ะกัน ไม่รวมถึงการ Synergist กัน ของสองบริษัททีจะเกื้อธุรกิจ กันที่อาจจะช่วยให้ โตขึ้นได้อีก
มาดูทางด้าน Cpall บริษัทแม่ ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี อยู่ ประมาณ 14000 ล้าน (ปีหน้าก็คงเติบโตไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ต้องไปดูตรงนั้นก็ได้)
พอหักภาษี ออกไปเกือบๆ 3000 ล้าน ก็เหลือกำไรสุทธิ 11000 ล้าน
ตรงภาษีนี่แหละ มันเป็นผลประโยชน์แฝง ที่ทาง CPall จะได้รับเพิ่มมาด้วย
ปีหน้าภาษี จะเป็น Rate 20%
สมมุติปีหน้า Cpall กำไรโต อีก 10% เป็นกำไรก่อนหักภาษี 15,400 ล้าน ต้องเสียภาษี 3800 ล้าน คงเหลือกำไรสุทธิ 11600 ล้าน (ถ้าไม่ได้ไปซื้้อ แมคโครมา)
แต่เมื่อ ซื้อแมคโครมา มีรายจ่ายดอกเบี้ยจากการ ซื้อ Makro 6 พันล้าน กำไรสุทธิ ที่จะต้องนำคำนวนภาษี จะเหลือ 9400 ล้าน ซึ่งต้องเสียภาษี 1880 ล้าน เหลือยอดกำไรสุทธิ ของบ.แม่ หลังหักภาษี 7520 ล้าน
ถ้าเอาปันผล จากกำไร 4 พันล้านที่เสียภาษี ของ แมคโครแล้ว นี้ส่งให้แม่ CPall ก็จะรวมกำไรของแม่ เป็น 11,520 ล้าน
จะเห็นได้ว่าแค่ ปีแรกๆ นี่ผลของกำไรจาก ตัวแมคโคร บวกกับส่วนของภาษีที่ได้หักออกไปจากดอกเบี้ยจ่าย ส่งผลให้ เกือบพอกับ ดอกเบี้ย 6 พันล้าน ที่ต้องจ่ายให้กับเงินกู้เลย
แน่นอน พอปีต่อๆ มา บริษัท แมคโครย่อมโตขึ้นทำกำไรส่งมาให้แม่เอาไว้จ่ายดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยก็จะลดลง(แม้ CPall จะได้ประโยชน์ทางภาษีลดลง แต่ว่าก็ยังคุ้มเกินภาระดอกเบี้ย ซึ่งแน่นอน) เงินส่วนเกินนี้ ก็เอาไปทะยอยลดเงินต้นไปได้เรื่อยๆ
ส่วนมันจะหมดเร็วหรือ ช้า ก็ขึ้นกับการเติบโตของผลกำไรของ แม็คโครเอง (ส่วนของ CPALL ผมเองมองว่า แม้จะกำไรโตมากเท่าไร ไม่ต้องไปคิดก็ได้ โตมากก็อาจจะไม่ต้องเอาไปเร่งชำระเงินกู้ส่วนั้นก็ได้ แบ่งออกมาปันผลให้ผู้ถือหุ้นมีกำลังใจกันต่อไปก่อนได้)
ดีลนี้ อาจจะไม่ใช่ว่า จะหมดหนี้ ใน 2-3 ปีอย่างที่ เจ้าสัวว่า (ยกเว้นจะ เอากำไรของ CPall ไปโปะด้วย) แต่ถ้าปล่อยกำไร ของ CPall เอาออกมาปันผลให้ผู้ถือหุ้นตามปกติ ปล่อยให้ผลกำไร ของการเติบโต ของ Makro และ ประโยชน์ของภาษี ช่วย ส่งดอกเบี้ยในปีแรก และ ช่วยตัดเงินต้นด้วยในปีต่อๆ มา อย่างนี้ ก็จะเข้าข่าย ที่ว่าเหมอน ได้แมคโคร มาฟรีๆ(จริงๆ ก็ไม่เชิงฟรี ต้องจ่ายสิบเปอร์เซนต์ แรก ไปก่อน)
นึกภาพเหมือน ซื้อ คอนโด ราคา 1.9 ล้าน ควักสด จ่ายดาว 2 แสน เหลือต้น ราวๆ 1.7 ล้าน จ่ายดอกเบี้ย ร้อยล่ะ 3.5 ตกปีล่ะ ประมาณ 6 หมื่น แล้ว มีคนเช่าให้ผลประโยชน์รวม ปีแรก 6 หมื่นต่อปี และเพิ่มให้ปีล่ะ 10% ทุกปี ปล่อยมันเลี้ยงตัวมันไป ส่วนเกินที่เพิ่ม ก็เอาไปลดต้นๆเรื่อยๆจนหมด สุดท้าย เมื่อหมด ได้คอนโด ราคา 1.9 มาโดยจ่ายแค่ 2 แสน
แต่ที่ต่างกัน ก็คือ คอนโดมันเสื่อม แต่มูลค่า ของแมคโคร นอกจากผลตอบแทนกำไร แล้ว มูลค่าของตัวมัน ก็สูงค่าขึ้นไปด้วย
ต้องบอกว่า มุมมองของ คนระดับบริหารสูงๆนี่ เค้า เกินเราคิด เหมือนกัน
ไม่รวมถึง มูลค่าที่ดินของ Makro ที่มีเยอะเป็นพิเศษ จนหลายคนตาเป็นมัน
แหม ทำไมไม่เก็บ Makro ตอนอจ.บอกว่า คนจ้องเทค เพราะว่า ที่ดินเยอะ เมื่อตอนเจออจ.ตอนมีทติ้งนะ เสียดายนะเนี่ย อิๆ
ขอบคุณมุมมอง ขิงแก่ อย่าง ดร.นิเวศน์ ครับ สุดยอดจริงๆ
http://www.moneychannel.co.th/0Live_0/p ... p?listid=5
ให้มุมมองที่ การซื้อ Makro ที่น่าคิด
ฝากเพื่อนๆลองช่วยกันคิดดู และให้คำแนะนำเพิ่มเติม ได้นะครับ
อจนิเวศน์.บอกว่า จากที่ฟังจากผู้บริหาร เค้่าจะไม่เพิ่มทุนให้คน ถือหุ้นเดือดร้อน
ดร.บอกว่า ทางผู้บริหารบอกว่า จะใช้เงินสดบริษัท ราวๆ 10% ที่เหลือใช้เงินกู้ และ กำไรจาก แมคโคร ก็เกือบพอมาส่งดอกเบี้ยได้ และปีหลังๆ โตขึ้น ก็จะ ส่งหักต้น สุดท้าย ก็จะเหมือน CPall ได้บริษัท แมคโครมาฟรีๆ
ผมฟังดูแล้วเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ซื้อแมคโครแพง ถึง เกือบ 190,000 ล้านจะคล้ายได้ฟรีเชียวเหรอ ก็ เลยลอง มาคิดดู ลองตามมาดูกัน แล้วช่วยกัน คิดก็ได้ครับ
=====================================================
คำนวน Deal จากราคาที่ ซื้่อ และ จะทำ Tender offer Makro ที่ราคา 787 ถ้าซื้อหุ้นกลับมา 100% ก็ใช้เงิน 787X 240 ล้าน = 188,880ล้าน
แต่จะใช้การกู้ โดยใช้เงินสดบริษัท 10% (18,888 ล้าน) ที่เหลือ อีก 90% = ราวๆ 170,000 ล้าน ใช้เงินกู้ ที่ตอนนี้ มีสถาบันการเงิน รอให้กู้
อยู่แล้ว
ดอกเบี้ย มีบางบทวิเคราะห์ คิดว่า น่าจะเป็น 3% แต่ผมว่า อาจจะต่ำไปนิด แต่บริษัทยักษ์มั่นคงระดับ CPall กู้หรือ ออกหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 3.5% ก็
น่าจะพอได้ ดังนั้น คิดดอกเบี้ยจากเงิน ต้น 170,000 ล้าน= 5950 หรือ ตก ประมาณ ปีละ 6 พัน ล้าน
Makro ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี 4, 776 ล้่าน ปีหน้า คิดว่า คงทะลุเกิน 5000 ล้่าน ค่อนข้างแน่ (โอเคตัวเลข เจ้าสัว ธานินทร์ บอกว่า กำไร 5 พันล้าน ก็พอจะถือได้ว่าไม่มั่ว ) แต่ถ้าหักภาษีแล้ว น่าจะเหลือกำไรราวๆ 4 พันล้าน และขอคิดให้ มีการเติบโต ปีล่ะ ซัก 10% ล่ะกัน ไม่รวมถึงการ Synergist กัน ของสองบริษัททีจะเกื้อธุรกิจ กันที่อาจจะช่วยให้ โตขึ้นได้อีก
มาดูทางด้าน Cpall บริษัทแม่ ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี อยู่ ประมาณ 14000 ล้าน (ปีหน้าก็คงเติบโตไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ต้องไปดูตรงนั้นก็ได้)
พอหักภาษี ออกไปเกือบๆ 3000 ล้าน ก็เหลือกำไรสุทธิ 11000 ล้าน
ตรงภาษีนี่แหละ มันเป็นผลประโยชน์แฝง ที่ทาง CPall จะได้รับเพิ่มมาด้วย
ปีหน้าภาษี จะเป็น Rate 20%
สมมุติปีหน้า Cpall กำไรโต อีก 10% เป็นกำไรก่อนหักภาษี 15,400 ล้าน ต้องเสียภาษี 3800 ล้าน คงเหลือกำไรสุทธิ 11600 ล้าน (ถ้าไม่ได้ไปซื้้อ แมคโครมา)
แต่เมื่อ ซื้อแมคโครมา มีรายจ่ายดอกเบี้ยจากการ ซื้อ Makro 6 พันล้าน กำไรสุทธิ ที่จะต้องนำคำนวนภาษี จะเหลือ 9400 ล้าน ซึ่งต้องเสียภาษี 1880 ล้าน เหลือยอดกำไรสุทธิ ของบ.แม่ หลังหักภาษี 7520 ล้าน
ถ้าเอาปันผล จากกำไร 4 พันล้านที่เสียภาษี ของ แมคโครแล้ว นี้ส่งให้แม่ CPall ก็จะรวมกำไรของแม่ เป็น 11,520 ล้าน
จะเห็นได้ว่าแค่ ปีแรกๆ นี่ผลของกำไรจาก ตัวแมคโคร บวกกับส่วนของภาษีที่ได้หักออกไปจากดอกเบี้ยจ่าย ส่งผลให้ เกือบพอกับ ดอกเบี้ย 6 พันล้าน ที่ต้องจ่ายให้กับเงินกู้เลย
แน่นอน พอปีต่อๆ มา บริษัท แมคโครย่อมโตขึ้นทำกำไรส่งมาให้แม่เอาไว้จ่ายดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยก็จะลดลง(แม้ CPall จะได้ประโยชน์ทางภาษีลดลง แต่ว่าก็ยังคุ้มเกินภาระดอกเบี้ย ซึ่งแน่นอน) เงินส่วนเกินนี้ ก็เอาไปทะยอยลดเงินต้นไปได้เรื่อยๆ
ส่วนมันจะหมดเร็วหรือ ช้า ก็ขึ้นกับการเติบโตของผลกำไรของ แม็คโครเอง (ส่วนของ CPALL ผมเองมองว่า แม้จะกำไรโตมากเท่าไร ไม่ต้องไปคิดก็ได้ โตมากก็อาจจะไม่ต้องเอาไปเร่งชำระเงินกู้ส่วนั้นก็ได้ แบ่งออกมาปันผลให้ผู้ถือหุ้นมีกำลังใจกันต่อไปก่อนได้)
ดีลนี้ อาจจะไม่ใช่ว่า จะหมดหนี้ ใน 2-3 ปีอย่างที่ เจ้าสัวว่า (ยกเว้นจะ เอากำไรของ CPall ไปโปะด้วย) แต่ถ้าปล่อยกำไร ของ CPall เอาออกมาปันผลให้ผู้ถือหุ้นตามปกติ ปล่อยให้ผลกำไร ของการเติบโต ของ Makro และ ประโยชน์ของภาษี ช่วย ส่งดอกเบี้ยในปีแรก และ ช่วยตัดเงินต้นด้วยในปีต่อๆ มา อย่างนี้ ก็จะเข้าข่าย ที่ว่าเหมอน ได้แมคโคร มาฟรีๆ(จริงๆ ก็ไม่เชิงฟรี ต้องจ่ายสิบเปอร์เซนต์ แรก ไปก่อน)
นึกภาพเหมือน ซื้อ คอนโด ราคา 1.9 ล้าน ควักสด จ่ายดาว 2 แสน เหลือต้น ราวๆ 1.7 ล้าน จ่ายดอกเบี้ย ร้อยล่ะ 3.5 ตกปีล่ะ ประมาณ 6 หมื่น แล้ว มีคนเช่าให้ผลประโยชน์รวม ปีแรก 6 หมื่นต่อปี และเพิ่มให้ปีล่ะ 10% ทุกปี ปล่อยมันเลี้ยงตัวมันไป ส่วนเกินที่เพิ่ม ก็เอาไปลดต้นๆเรื่อยๆจนหมด สุดท้าย เมื่อหมด ได้คอนโด ราคา 1.9 มาโดยจ่ายแค่ 2 แสน
แต่ที่ต่างกัน ก็คือ คอนโดมันเสื่อม แต่มูลค่า ของแมคโคร นอกจากผลตอบแทนกำไร แล้ว มูลค่าของตัวมัน ก็สูงค่าขึ้นไปด้วย
ต้องบอกว่า มุมมองของ คนระดับบริหารสูงๆนี่ เค้า เกินเราคิด เหมือนกัน
ไม่รวมถึง มูลค่าที่ดินของ Makro ที่มีเยอะเป็นพิเศษ จนหลายคนตาเป็นมัน
แหม ทำไมไม่เก็บ Makro ตอนอจ.บอกว่า คนจ้องเทค เพราะว่า ที่ดินเยอะ เมื่อตอนเจออจ.ตอนมีทติ้งนะ เสียดายนะเนี่ย อิๆ
ขอบคุณมุมมอง ขิงแก่ อย่าง ดร.นิเวศน์ ครับ สุดยอดจริงๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 2
หลักการคิดแบบนี้ ทำให้เราสามารถคำอธิบายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเลยว่า การที่ FED พิมพ์เงินออกมาท่วมโลก ดึงอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำติดดินนั้น เป่าฟองสบู่เข้าลูกโป่งสินทรัพย์ให้โตขึ้นได้อย่างไร
เพราะถ้า วันนี้ อัตราดอกเบี้ยเป็น 5% 7% หรือ 10% ราคาคงไม่ใช่เท่านี้
งานใหญ่สุดของผู้บริหารก็คือ ต้องหาทางปลดภาระหนี้สินก้อนโตให้หมดสิ้น หรือ เหลือให้น้อยที่สุด ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยโลกจะเป็นขาขึ้น
เพราะถ้า วันนี้ อัตราดอกเบี้ยเป็น 5% 7% หรือ 10% ราคาคงไม่ใช่เท่านี้
งานใหญ่สุดของผู้บริหารก็คือ ต้องหาทางปลดภาระหนี้สินก้อนโตให้หมดสิ้น หรือ เหลือให้น้อยที่สุด ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยโลกจะเป็นขาขึ้น
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณ คุณฉัตรชัย สำหรับ ความเห็น
ปล.ตัวเลขข้างบนผม พลาดตรง ภาษีของ CPall กรณีสมมุติปีหน้าโตประมาณ 10% จาก 13990 ล้านมาเป็น 15400 ล้าน คิดภาษี 20% แบบคิดในใจได้ 3800 ล้าน จริงๆ มันต้องเป็น 3080 ล้าน ส่งให้ ตัวเลขกำไร หลังหักภาษีเหลือ 12,320 แต่มันก็ไม่ได้มีผล กระทบ กับเรื่องการชำระหนี้ ให้กับ ตัว Makro ด้วย ผลต่างทางภาษี บวกกับ กำไรของแมคโคร
ปล.ตัวเลขข้างบนผม พลาดตรง ภาษีของ CPall กรณีสมมุติปีหน้าโตประมาณ 10% จาก 13990 ล้านมาเป็น 15400 ล้าน คิดภาษี 20% แบบคิดในใจได้ 3800 ล้าน จริงๆ มันต้องเป็น 3080 ล้าน ส่งให้ ตัวเลขกำไร หลังหักภาษีเหลือ 12,320 แต่มันก็ไม่ได้มีผล กระทบ กับเรื่องการชำระหนี้ ให้กับ ตัว Makro ด้วย ผลต่างทางภาษี บวกกับ กำไรของแมคโคร
-
- Verified User
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 4
โทษอีกครับ พอ ตัวเลขข้างบนผิด มันเลยทำให้ตัวเลข เคลื่อนไปอีกอย่างDr.Jfk เขียน:ขอบคุณ คุณฉัตรชัย สำหรับ ความเห็น
ปล.ตัวเลขข้างบนผม พลาดตรง ภาษีของ CPall กรณีสมมุติปีหน้าโตประมาณ 10% จาก 13990 ล้านมาเป็น 15400 ล้าน คิดภาษี 20% แบบคิดในใจได้ 3800 ล้าน จริงๆ มันต้องเป็น 3080 ล้าน ส่งให้ ตัวเลขกำไร หลังหักภาษีเหลือ 12,320 แต่มันก็ไม่ได้มีผล กระทบ กับเรื่องการชำระหนี้ ให้กับ ตัว Makro ด้วย ผลต่างทางภาษี บวกกับ กำไรของแมคโคร
คือ เมื่อ รวมผลได้ทางภาษี จากการตัดดอกเบี้ยจ่ายไป 6000 ล้าน = ได้ลดภาษีไป 1200 ล้าน รวมกับ เงินกำไรหลังหักภาษี จากแมคโคร อีก 4000 ล้่าน ก็จะได้ รวมกันราวๆ 5200 ล้าน ดังนั้นในปีแรกๆ ส่วนนี้หักกับ ดอกเบี้ยหนี้ อาจจะยังขาดอีกเล็กน้อย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 5
เรื่องชำระดอกเบี้ยคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่าไร
แต่เรื่องชำระหนี้เงินต้น จำนวน 170,000 ล้านบาทซิครับ ไม่รู้ว่าบริษัทจะนำเงินจากไหนมาชำระ น่าสนใจมากๆ
แต่เรื่องชำระหนี้เงินต้น จำนวน 170,000 ล้านบาทซิครับ ไม่รู้ว่าบริษัทจะนำเงินจากไหนมาชำระ น่าสนใจมากๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 6
อื่มมมมม ฟังคุณฉัตรชัยว่า นี่ก็น่าคิดเหมือนกันchatchai เขียน:เรื่องชำระดอกเบี้ยคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่าไร
แต่เรื่องชำระหนี้เงินต้น จำนวน 170,000 ล้านบาทซิครับ ไม่รู้ว่าบริษัทจะนำเงินจากไหนมาชำระ น่าสนใจมากๆ
ถ้าแมคโคร ไม่ได้เติบโต แบบ ไวๆ ลำพัง กำไรทีส่งเข้ามา สมมุติว่า เพิ่มมา ปีล่ะ 10% ตามสมมุติฐานเดิม
เงินต้นกว่าจะหมด นี่นานน่าดู แล้วระหว่างนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ก็น่าคิด
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 7
้เหมือนคนมีเงินเดือน 500,000 ต่อปี กู้เงินซื้อบ้าน ราคา 18,888,000 บาท เกินตัวสุด ๆ
หวังว่าเงินเดือนจะขึ้นทุกปี และลุ้นดอกจะไม่ขึ้น หรือถ้าขึ้นก็หา fix rate ไว้ไม่ให้สูงเกินไป ..
แต่ถ้ารอด คนเงินเดือน 500,000 ได้ซื้อบ้านระดับ Laddawan นอนสบายตลอดชีวิต อวดเพื่อนได้ด้วย อิอิ
แต่บริษัทไทยในอดีตกู้เงินมาหนัก ก็ล้มไม่เป็นท่ามาแล้ว ดีลนี้ไม่มีเรื่องค่าเงิน แต่มีเรื่องดอกเบี้ยแทน...
ในฐานะนักลงทุน ผมว่ามีทั้งโอกาส และความเสี่ยง ซ่อนอยู่ในดีลนี้ไม่น้อยเลยครับ
หวังว่าเงินเดือนจะขึ้นทุกปี และลุ้นดอกจะไม่ขึ้น หรือถ้าขึ้นก็หา fix rate ไว้ไม่ให้สูงเกินไป ..
แต่ถ้ารอด คนเงินเดือน 500,000 ได้ซื้อบ้านระดับ Laddawan นอนสบายตลอดชีวิต อวดเพื่อนได้ด้วย อิอิ
แต่บริษัทไทยในอดีตกู้เงินมาหนัก ก็ล้มไม่เป็นท่ามาแล้ว ดีลนี้ไม่มีเรื่องค่าเงิน แต่มีเรื่องดอกเบี้ยแทน...
ในฐานะนักลงทุน ผมว่ามีทั้งโอกาส และความเสี่ยง ซ่อนอยู่ในดีลนี้ไม่น้อยเลยครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
- waririn
- Verified User
- โพสต์: 80
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 8
ส่วนตัว เห็นว่าดีลนี้ ยังไม่ชัดเจนใน 2 ส่วนค่ะ
1. กระแสเงินสดจาก MAKRO จ่ายภาระดอกเบี้ยได้จริง แต่เงินต้นยังมองไม่ออกว่าจะหาเงินตรงไหนมาจ่าย ให้ปลดหนี้ได้ภายในเวลาอันสั้น
2. ย้อนดู 2554-2555 ช่วงที่ MAKRO หันมาเติบโตอีกครั้ง ใช้งบลงทุนต่อปีประมาณ 3 พันล้านบาท เงินที่ MAKRO หามาได้ต้องเอาไปชำระดอกเบี้ย แล้วจะเอาเงินส่วนไหนมาลงทุนขยายกิจการเพิ่มอย่างที่วางแผนว่าจะเติบโตในต่างประเทศ ซึ่งฟังจากคำพูดของผู้บริหารอยากจะขยายกิจการแบบ agressive ไปในพื้นที่ที่ 7-11 ข้อจำกัด
ขอเฝ้าศึกษาไปด้วยนะคะ
1. กระแสเงินสดจาก MAKRO จ่ายภาระดอกเบี้ยได้จริง แต่เงินต้นยังมองไม่ออกว่าจะหาเงินตรงไหนมาจ่าย ให้ปลดหนี้ได้ภายในเวลาอันสั้น
2. ย้อนดู 2554-2555 ช่วงที่ MAKRO หันมาเติบโตอีกครั้ง ใช้งบลงทุนต่อปีประมาณ 3 พันล้านบาท เงินที่ MAKRO หามาได้ต้องเอาไปชำระดอกเบี้ย แล้วจะเอาเงินส่วนไหนมาลงทุนขยายกิจการเพิ่มอย่างที่วางแผนว่าจะเติบโตในต่างประเทศ ซึ่งฟังจากคำพูดของผู้บริหารอยากจะขยายกิจการแบบ agressive ไปในพื้นที่ที่ 7-11 ข้อจำกัด
ขอเฝ้าศึกษาไปด้วยนะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1244
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 10
เงินสด ผถห makro เหลืออะไรถึงมือไหมครับ หรือ เอาไปจ่ายภาระเงินกู้ cpall หมด
การพูดลักษณะนี้เหมือน makro เป็นของ cpall 100% เลยหละ 5555+
แต่มี major control ก็กำหนดทิศทางนโยบายได้ ทำอะไรก็ได้
แล้วการลงทุนเพิ่มของ makro หละครับ
จะเอากระแสเงินสดมาหักล้างภาระเงินกู้อย่างเดียว
เหมือนจะไม่ค่อยเหลือเงินสดทำอย่างอื่นเลย?
การพูดลักษณะนี้เหมือน makro เป็นของ cpall 100% เลยหละ 5555+
แต่มี major control ก็กำหนดทิศทางนโยบายได้ ทำอะไรก็ได้
แล้วการลงทุนเพิ่มของ makro หละครับ
จะเอากระแสเงินสดมาหักล้างภาระเงินกู้อย่างเดียว
เหมือนจะไม่ค่อยเหลือเงินสดทำอย่างอื่นเลย?
การเดินทางสำคัญกว่าจุดหมาย
- 6666666v
- Verified User
- โพสต์: 1089
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 11
Makro ใช้เงินในการขยายหนึ่งสาขา ใช้เงินเฉลี่ยสาขาละ500ล้านบาทเองครับน้อยมาก เพราะไม่ต้องตบแต่งทำร้านค้าเหมือนโกดัง และเงินสดที่มีอยู่ตอนนี้แมคโครมี6000ล้านบาทได้ ขยายได้อีก สิบ สาขาสบายๆโดยที่เอากำไรไปจ่ายดอกให้cpall และเอาตังที่มีอยู่ตอนนี้ไปขยายสาขาSPL เขียน:เงินสด ผถห makro เหลืออะไรถึงมือไหมครับ หรือ เอาไปจ่ายภาระเงินกู้ cpall หมด
การพูดลักษณะนี้เหมือน makro เป็นของ cpall 100% เลยหละ 5555+
แต่มี major control ก็กำหนดทิศทางนโยบายได้ ทำอะไรก็ได้
แล้วการลงทุนเพิ่มของ makro หละครับ
จะเอากระแสเงินสดมาหักล้างภาระเงินกู้อย่างเดียว
เหมือนจะไม่ค่อยเหลือเงินสดทำอย่างอื่นเลย?
I Like To Invest.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 14
500 ล้านบาท รวมค่าที่ดินด้วยหรือเปล่าครับ6666666v เขียน:Makro ใช้เงินในการขยายหนึ่งสาขา ใช้เงินเฉลี่ยสาขาละ500ล้านบาทเองครับน้อยมาก เพราะไม่ต้องตบแต่งทำร้านค้าเหมือนโกดัง และเงินสดที่มีอยู่ตอนนี้แมคโครมี6000ล้านบาทได้ ขยายได้อีก สิบ สาขาสบายๆโดยที่เอากำไรไปจ่ายดอกให้cpall และเอาตังที่มีอยู่ตอนนี้ไปขยายสาขาSPL เขียน:เงินสด ผถห makro เหลืออะไรถึงมือไหมครับ หรือ เอาไปจ่ายภาระเงินกู้ cpall หมด
การพูดลักษณะนี้เหมือน makro เป็นของ cpall 100% เลยหละ 5555+
แต่มี major control ก็กำหนดทิศทางนโยบายได้ ทำอะไรก็ได้
แล้วการลงทุนเพิ่มของ makro หละครับ
จะเอากระแสเงินสดมาหักล้างภาระเงินกู้อย่างเดียว
เหมือนจะไม่ค่อยเหลือเงินสดทำอย่างอื่นเลย?
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 15
ผมยังไม่ตัดประเด็นเรื่องเพิ่มทุนในอนาคตนะครับต่อให้ผบห.บอกว่าไม่เพิ่ม ตอนนี้เท่าที่ฟังหลายๆท่านทางออกที่ลดหนี้น่าจะเป็นออกกองอสังหา แต่ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดออกไม่ได้ล่ะ จะจ่ายหนี้ยังไง(หมายถึงจ่ายเงินต้นนะครับ)
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 16
เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจครับ
ผมไม่รู้ว่าซื้อแพงหรือถูก
แต่ถ้าเป็นอย่างที่ cpall คิด
เท่ากับเป็นการปลดปล่อยมูลค่า
ของ makro ที่ซ่อนอยู่
แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ากู้มาซื้อแล้วคุ้ม
makro น่าจะโดนไปตั้งนานแล้ว
แต่เท่าที่เพิ่งอ่าน เป็นเพราะก่อนหน้านี้
เจ้าของไม่ได้อยากขาย
(อาจจะยังไม่ใช่ราคาที่ดึงดูดใจ)
ผมไม่รู้ว่าซื้อแพงหรือถูก
แต่ถ้าเป็นอย่างที่ cpall คิด
เท่ากับเป็นการปลดปล่อยมูลค่า
ของ makro ที่ซ่อนอยู่
แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ากู้มาซื้อแล้วคุ้ม
makro น่าจะโดนไปตั้งนานแล้ว
แต่เท่าที่เพิ่งอ่าน เป็นเพราะก่อนหน้านี้
เจ้าของไม่ได้อยากขาย
(อาจจะยังไม่ใช่ราคาที่ดึงดูดใจ)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 737
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 17
ไม่ทราบว่า เงินกู้เป็นเงิน บาทหรือดอลล์ และดีลนี้จ่ายเงินด้วยบาทหรือสกุลเงินดอลล์หรือยูโร
(เอาเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ)
1. กรณีกู้เป็นบาท จ่ายเป็นบาท
ถ้าเป็นบาท ก็น่าคิดว่ามีสถาบันการเงินไหนที่มีต้นทุนทางการเงินถูกมากจนสามารถให้กู้ได้ด้วยดอกกู้เพียง 3%
(3% ตลอดหรือกี่ปี) เพราะ แม้แต่กลุ่ม ptt หรือ scc ยังต้องออกหุ้นกู้ด้วยดอก 4 - 5% ไม่ได้กู้แบงค์ เหตุผล
ก็น่าจะมาจากดอกกู้ถูกกว่า (หากคิดผิดก็ขออภัย และขอความรู้นะครับ)
2. กู้บาท จ่ายเป็นดอลล์ หรือยูโร
กรณีนี้ สั้น ๆ นี้อาจได้เปรียบจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่บาทจะแข็งค่าแบบนี้อีกนานเท่าไหร่
3. กู้ดอลล์หรือยูโร จ่ายเป็นดอลล์หรือยูโร
แม้สกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่า เยน หรือดอลล์ ขณะนี้ดอกถูกมาก อาจมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
ในระยะยาว (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการชำระหนี้) ซึ่งบาทแข็งค่ามากในขณะนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะ qe ของหลาย
ประเทศ
4. กู้เป็นดอลล์ จ่ายเป็นบาท
ก็เหมือนกับกรณีที่ 3
(เอาเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ)
1. กรณีกู้เป็นบาท จ่ายเป็นบาท
ถ้าเป็นบาท ก็น่าคิดว่ามีสถาบันการเงินไหนที่มีต้นทุนทางการเงินถูกมากจนสามารถให้กู้ได้ด้วยดอกกู้เพียง 3%
(3% ตลอดหรือกี่ปี) เพราะ แม้แต่กลุ่ม ptt หรือ scc ยังต้องออกหุ้นกู้ด้วยดอก 4 - 5% ไม่ได้กู้แบงค์ เหตุผล
ก็น่าจะมาจากดอกกู้ถูกกว่า (หากคิดผิดก็ขออภัย และขอความรู้นะครับ)
2. กู้บาท จ่ายเป็นดอลล์ หรือยูโร
กรณีนี้ สั้น ๆ นี้อาจได้เปรียบจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่บาทจะแข็งค่าแบบนี้อีกนานเท่าไหร่
3. กู้ดอลล์หรือยูโร จ่ายเป็นดอลล์หรือยูโร
แม้สกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่า เยน หรือดอลล์ ขณะนี้ดอกถูกมาก อาจมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
ในระยะยาว (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการชำระหนี้) ซึ่งบาทแข็งค่ามากในขณะนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะ qe ของหลาย
ประเทศ
4. กู้เป็นดอลล์ จ่ายเป็นบาท
ก็เหมือนกับกรณีที่ 3
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 18
ในที่สุดก็ "เริ่ม" ส่อเค้าว่าอาจซ้ำรอยวิกฤตครั้งก่อนๆ ดูจากมุมมองเวลาวิเคราะห์ ส่วนใหญ่จะเป็นมุมมองที่มั่นใจว่าโตแน่ๆ ไม่มีทางที่กำไรจะตก แรงซื้อจะหดไปได้เลย ไหนจะ AEC อีก
พอบริษัทใหญ่ทำได้ และกูรู กูไม่รู ทั้งหลายก็ทยอยออกมาวิเคราะห์วิจารณ์กันว่าทำได้ เหมือนเกือบจะจับเสือมือเปล่า สุดยอดไอเดีย ในที่สุด บริษัทรองๆ บริษัทเล็กๆ ก็ทยอยทำตาม จนสักพักใครไม่ทำกลายเป็นเชย เสียโอกาส ขาดวิสัยทัศน์ รู้ตัวอีกทีก็ D/E สูงปรี๊ด (อย่างมีเหตุผลว่าไม่เหมือนเดิมที่เคยเกิดวิกฤตมาก่อน)
พออีก 2 ปี ศก.เมกาเริ่มฟื้น ต่างชาติดึงเงินกลับ ดอกเบี้ยขึ้น เลิก QE จากนั้นก็เตรียมเริ่มวงจรวิกฤตรอบใหม่ของ Emerging Market ได้เลย ทุกครั้งมันก็เริ่มจากแบบนี้ ไปถาม ผบห. ปูนใหญ่ บำรุงราษฎร์ ทีพีไอโพลีน เหมราช ได้ครับ
พอบริษัทใหญ่ทำได้ และกูรู กูไม่รู ทั้งหลายก็ทยอยออกมาวิเคราะห์วิจารณ์กันว่าทำได้ เหมือนเกือบจะจับเสือมือเปล่า สุดยอดไอเดีย ในที่สุด บริษัทรองๆ บริษัทเล็กๆ ก็ทยอยทำตาม จนสักพักใครไม่ทำกลายเป็นเชย เสียโอกาส ขาดวิสัยทัศน์ รู้ตัวอีกทีก็ D/E สูงปรี๊ด (อย่างมีเหตุผลว่าไม่เหมือนเดิมที่เคยเกิดวิกฤตมาก่อน)
พออีก 2 ปี ศก.เมกาเริ่มฟื้น ต่างชาติดึงเงินกลับ ดอกเบี้ยขึ้น เลิก QE จากนั้นก็เตรียมเริ่มวงจรวิกฤตรอบใหม่ของ Emerging Market ได้เลย ทุกครั้งมันก็เริ่มจากแบบนี้ ไปถาม ผบห. ปูนใหญ่ บำรุงราษฎร์ ทีพีไอโพลีน เหมราช ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 19
ความเสี่ยงของ deal นี้น่าจะอยู่ที่ การที่สามารถลดหนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ ดอกเบี้ยจะกลับเป็นขาขึ้น ซึ่งน่าจะมีเวลาอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ซึ่งทางออกนี้ก็อยู่ที่การจัดตั้ง property fund ให้สำเร็จครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 20
ในความคิดผม ถ้าเศรษฐกิจยังดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง การที่บริษัทมีหนี้มากก็ไม่น่าเป็นอะไรครับ
เพราะสามารถเอากำไรที่เติบโตขึ้นมาเรื่่อยๆมาจ่ายหนี้ได้ ส่วนทีเหลือจากกำไรก็สามารถเก็บเป็นกำไรสะสม
และจ่ายเป็นปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้
แต่เมื่อไรก็ตามเมื่อเศรษฐกิจเป็นขาลง กำไรไม่เติบโตตามคาดหรือเปลี่ยนเป็นไม่กำไร การมีหนี้เยาะถือเป็นผลร้ายต่อบริษัท
ครับ ความเห็นส่วนตัวครับ
เพราะสามารถเอากำไรที่เติบโตขึ้นมาเรื่่อยๆมาจ่ายหนี้ได้ ส่วนทีเหลือจากกำไรก็สามารถเก็บเป็นกำไรสะสม
และจ่ายเป็นปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้
แต่เมื่อไรก็ตามเมื่อเศรษฐกิจเป็นขาลง กำไรไม่เติบโตตามคาดหรือเปลี่ยนเป็นไม่กำไร การมีหนี้เยาะถือเป็นผลร้ายต่อบริษัท
ครับ ความเห็นส่วนตัวครับ
"สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น "
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น "
-
- Verified User
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 21
การจัดตั้ง property fund มีข้อเสียอะไรบ้างครับ และมีความเสี่ยงบ้างไหมครับ
เห็นเดี่ยวมีตั้งกันเยาะครับ
เห็นเดี่ยวมีตั้งกันเยาะครับ
"สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น "
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น "
-
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 22
ความเสี่ยงเดียวที่อาจารย์ กล่าวไว้ ก็เรื่อง ดอกเบี้ยขาขึ้น ที่จะกระทบกับหนี้ที่เกิด และต้องติดตาม
ส่วนการชำระเงินต้น ก็คิดเหมือนหลาย ๆ ท่าน ว่า คงต้องออก กองทุนอสังหาฯ แน่ๆ
ส่วนการชำระเงินต้น ก็คิดเหมือนหลาย ๆ ท่าน ว่า คงต้องออก กองทุนอสังหาฯ แน่ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 23
ขอบคุณ มุมมอง และ ความคิดเห็นของเพื่อนๆทุกท่าน เลยครับ
อ่านแล้ว ได้ ความเห็นหลากหลาย เปิดมุมมองใหม่ๆให้รอบด้านเพิ่มขึ้น
ไ่ม่ผิดหวังเลย กับ สังคมคุณภาพ ด้านการลงทุนที่นี่
อ่านแล้ว ได้ ความเห็นหลากหลาย เปิดมุมมองใหม่ๆให้รอบด้านเพิ่มขึ้น
ไ่ม่ผิดหวังเลย กับ สังคมคุณภาพ ด้านการลงทุนที่นี่
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 24
มูลค่าที่ดิน ของ แมคโคร มองแบบง่ายๆ ก็คือราคาตลาด
แต่ให้ลึกอีกนิด ผมว่า utilization ต่ำมากครับ
อย่่างที่ หาดใหญ่ ข้างหน้า เมื่อก่อนเป็นปั้มน้ำมัน ปัจจุบัน
ปล่อยไว้เฉยๆ มูลค่าราคาขาย อยู่ไร่ละ 20 ล้านได้. ตรง
ข้าม Central ใหม่พอดี ผบห.ชุดนี้ สุดยอดเรื่อง
บริหารจัดการการตลาดค้าส่งปลีก มือเยี่ยมสุดๆ แต่
ด้านอสังหาฯ ไม่เก่งเลยครับ. ถ้าได้คนเก่งๆ ด้านนี้ระดับ
CPN ผมว่าด้านนี้จะดีขึ้นอีกมากมาย ....
ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับ การผูกขาด แต่เรื่องธุรกิจ ผมว่า
CPALL น่าจะตัดสินใจได้ถูกต้องนะครับ ...
ผมว่า CPALL น่าจะลดหนี้ได้เร็วจากการออก REIT
หรือ PROP FUND ...
แต่ให้ลึกอีกนิด ผมว่า utilization ต่ำมากครับ
อย่่างที่ หาดใหญ่ ข้างหน้า เมื่อก่อนเป็นปั้มน้ำมัน ปัจจุบัน
ปล่อยไว้เฉยๆ มูลค่าราคาขาย อยู่ไร่ละ 20 ล้านได้. ตรง
ข้าม Central ใหม่พอดี ผบห.ชุดนี้ สุดยอดเรื่อง
บริหารจัดการการตลาดค้าส่งปลีก มือเยี่ยมสุดๆ แต่
ด้านอสังหาฯ ไม่เก่งเลยครับ. ถ้าได้คนเก่งๆ ด้านนี้ระดับ
CPN ผมว่าด้านนี้จะดีขึ้นอีกมากมาย ....
ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับ การผูกขาด แต่เรื่องธุรกิจ ผมว่า
CPALL น่าจะตัดสินใจได้ถูกต้องนะครับ ...
ผมว่า CPALL น่าจะลดหนี้ได้เร็วจากการออก REIT
หรือ PROP FUND ...
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 223
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 25
ผมกลับมองว่า ถ้าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำมากๆ (<3-4%) ก็ไม่น่าจะมีความจำเป็นต้องออกกองอสังหานะครับ
ถ้าออกมาเป็น lease hold คิดว่า rate ที่จะต้องจ่ายเป็นค่าเช่าเผลอๆ จะเกินจ่ายค่าดอกเบี้ย
(ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่มีตัวเลขยืนยันด้วย เดาล้วนๆ)
แล้วสำหรับDeal นี้ เรื่องที่น่าจะ focus ก็คงเป็นในเรื่องของการ raise fund ให้ได้ดอกเบี้ยต่ำๆ และระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสม อย่างที่ ดร. concern จริงๆแหละครับ
จริงๆ ถ้าได้ดอกต่ำๆ นี่ผมว่า ดีลนี้ คุ้มสุดๆเลยนะครับ เพราะเท่าที่ดูศักยภาำพการเติบโตของ MAKRO เผลอๆ ผ่านไป 3-4ปี ก็สามารถเอากำไรจากปันผลไปจ่ายดอกเบี้ยหมดได้เองโดยไม่ต้องมาดึงกำไรจาก CPALL แล้ว (มั้งนะครับ)
ส่วนอีกประเด็นก็คือ จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเงินต้น เท่าที่ดูๆ น่าจะยากมากที่จะจ่ายหนี้หมดได้ภายใน 10 ปีนะครับ
ถ้าออกมาเป็น lease hold คิดว่า rate ที่จะต้องจ่ายเป็นค่าเช่าเผลอๆ จะเกินจ่ายค่าดอกเบี้ย
(ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่มีตัวเลขยืนยันด้วย เดาล้วนๆ)
แล้วสำหรับDeal นี้ เรื่องที่น่าจะ focus ก็คงเป็นในเรื่องของการ raise fund ให้ได้ดอกเบี้ยต่ำๆ และระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสม อย่างที่ ดร. concern จริงๆแหละครับ
จริงๆ ถ้าได้ดอกต่ำๆ นี่ผมว่า ดีลนี้ คุ้มสุดๆเลยนะครับ เพราะเท่าที่ดูศักยภาำพการเติบโตของ MAKRO เผลอๆ ผ่านไป 3-4ปี ก็สามารถเอากำไรจากปันผลไปจ่ายดอกเบี้ยหมดได้เองโดยไม่ต้องมาดึงกำไรจาก CPALL แล้ว (มั้งนะครับ)
ส่วนอีกประเด็นก็คือ จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเงินต้น เท่าที่ดูๆ น่าจะยากมากที่จะจ่ายหนี้หมดได้ภายใน 10 ปีนะครับ
- Paul Octopus
- Verified User
- โพสต์: 798
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 27
สมมุติฐานนี้พอเข้าใจได้ถ้าคู่แข่งอย่าง Lotus ไม่สามารถตอบโต้ makro+cpall ได้เลยในอีกหลายๆปีข้างหน้า (ซี่งอาจมาจากการ Synergy ในครั้งนี้สร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มแบบสุดๆ) makro+cpall ยังเติบโตได้ต่อไปเหมือนเดิม
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะชี้ชัด และ ยากที่จะทำนายผลของมัน
ถ้าคิดแบบตรงกันข้าม...การรวมกันครั้งนี้อาจเกิดจากการคุกคามของ Lotus ที่ cpall ไม่อาจรับมือได้ผู้เดียว
อย่างลืมว่า Lotus ได้เข้าเจาะ/ตีตลาดที่มีตำแหน่ง (segmentation) ใกล้ cpall มากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยการขยายสาขาของ Lotus Express (เกือบจะกระทบ 7-11 โดยตรง) และ Lotus market (Blue Ocean Strategy ในการเข้าตีตลาดสดที่ยังไม่มีใครเข้า)
ดูเหมือนว่าถ้ามองในแง่มุมนี้ในเรื่องกลยุทธ ...makro+cpall ยังทำได้แค่ตอบโต้ Lotus เท่านั้น
ใครจะไปรู้ครับว่า ท้ายสุด Strategic Move ของ makro+cpall ในครั้งนี้จะทำให้ ฝ่ายที่รุกก่อน (Lotus) หยุดการคุกคามลงได้ และ กลุ่ม makro+cpall สามารถเติบโตได้เหมือนอดึตที่ผ่านมาทุกประการ
หวังว่าคงไม่โกรธกันนะครับสำหรับคนที่ Cheer ....
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะชี้ชัด และ ยากที่จะทำนายผลของมัน
ถ้าคิดแบบตรงกันข้าม...การรวมกันครั้งนี้อาจเกิดจากการคุกคามของ Lotus ที่ cpall ไม่อาจรับมือได้ผู้เดียว
อย่างลืมว่า Lotus ได้เข้าเจาะ/ตีตลาดที่มีตำแหน่ง (segmentation) ใกล้ cpall มากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยการขยายสาขาของ Lotus Express (เกือบจะกระทบ 7-11 โดยตรง) และ Lotus market (Blue Ocean Strategy ในการเข้าตีตลาดสดที่ยังไม่มีใครเข้า)
ดูเหมือนว่าถ้ามองในแง่มุมนี้ในเรื่องกลยุทธ ...makro+cpall ยังทำได้แค่ตอบโต้ Lotus เท่านั้น
ใครจะไปรู้ครับว่า ท้ายสุด Strategic Move ของ makro+cpall ในครั้งนี้จะทำให้ ฝ่ายที่รุกก่อน (Lotus) หยุดการคุกคามลงได้ และ กลุ่ม makro+cpall สามารถเติบโตได้เหมือนอดึตที่ผ่านมาทุกประการ
หวังว่าคงไม่โกรธกันนะครับสำหรับคนที่ Cheer ....
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 29
ตราบใดที่ยังมีกระแสเงินสดพอที่จะจ่ายดอกเบี้ย ก็ยังดูไม่น่ากลัวอะไรเท่าไร
หากมีปัญหาอะไรจริงๆ คนอย่างระดับเจ้าสัวคงหาวิธีการอะไรสักอย่างออกมาแน่ๆ
ผมนึกถึง True นะครับ หนี้ออกจะเยอะ ยังดิ้นพลิกแพลง งัดกระบวนท่าออกมาโลดแล่นอยู่ในยุทธภพได้อยู่เลย ^^
หากมีปัญหาอะไรจริงๆ คนอย่างระดับเจ้าสัวคงหาวิธีการอะไรสักอย่างออกมาแน่ๆ
ผมนึกถึง True นะครับ หนี้ออกจะเยอะ ยังดิ้นพลิกแพลง งัดกระบวนท่าออกมาโลดแล่นอยู่ในยุทธภพได้อยู่เลย ^^
-
- Verified User
- โพสต์: 1723
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห
โพสต์ที่ 30
But it made TRUE to face lots of problems over the past 10 years. and TRUE still has not come out from the hole yet.Saran เขียน:ตราบใดที่ยังมีกระแสเงินสดพอที่จะจ่ายดอกเบี้ย ก็ยังดูไม่น่ากลัวอะไรเท่าไร
หากมีปัญหาอะไรจริงๆ คนอย่างระดับเจ้าสัวคงหาวิธีการอะไรสักอย่างออกมาแน่ๆ
ผมนึกถึง True นะครับ หนี้ออกจะเยอะ ยังดิ้นพลิกแพลง งัดกระบวนท่าออกมาโลดแล่นอยู่ในยุทธภพได้อยู่เลย ^^
It's all about interest rates and currency exchanges...