มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 321
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 2
อยากฟังไว้เป็นประสบการณ์ครับ เพราะผมก็เคยถือหุ้นตัวเดียว100% เป็นปี เพราะได้ไตร่ตรอง
อย่างละเอียดครับเลยมั่นใจ และทำมาหลายครั้งก็ยังไม่เคยพลาดครับ แต่ก็รู้ว่าเสี่ยงมากครับซึ่งผมอาจจะโชคดีก็ได้ครับ รอฟังนะครับ
อย่างละเอียดครับเลยมั่นใจ และทำมาหลายครั้งก็ยังไม่เคยพลาดครับ แต่ก็รู้ว่าเสี่ยงมากครับซึ่งผมอาจจะโชคดีก็ได้ครับ รอฟังนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 571
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 6
ผมเคยลงทุน KTC ประมาณ 50% ของพอร์ทครับ ถ้าอยากทราบรายละเอียด
ลองเข้าไปอ่านในห้อง KTC ตอนช่วง มีนาคม 54 ประกาศงบปีดูครับ ปัจจุบัน
กลายเป็น 80% ของพอร์ทแล้วครับ ยังถืออยู่ครับ
ในพอร์ทปัจจุบันเหลือหุ้น 3 กองทุนอสังหา 1 ลดจำนวนลงมาเรื่อยๆ สถานการณ์ปัจจุบันเลือกเน้นรายตัวครับ
ลองเข้าไปอ่านในห้อง KTC ตอนช่วง มีนาคม 54 ประกาศงบปีดูครับ ปัจจุบัน
กลายเป็น 80% ของพอร์ทแล้วครับ ยังถืออยู่ครับ
ในพอร์ทปัจจุบันเหลือหุ้น 3 กองทุนอสังหา 1 ลดจำนวนลงมาเรื่อยๆ สถานการณ์ปัจจุบันเลือกเน้นรายตัวครับ
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 7
ทำอยู่ครับ สาเหตุที่ทำเพราะ
1.พอร์ต30kไม่คุ้มค่าที่จะกระจายการลงทุน ถ้าพอร์ตใหญ่กว่านี้มากๆก็คงลงตัวหนึ่งไม่เกิน50%ของพอร์ต
2.ศึกษามาดีแล้วมั่นใจ(มั้ง ใส่"มั้ง"เพราะอาจมีผิดพลาดได้) ว่าdownsideต่ำ upsideสูงคุ้มค่าความเสี่ยง
3.อายุยังน้อยเร่งศึกษา(จากการเจ็บจริง) เจ็บจนหมดตัวก็หาใหม่ได้ ลบ>20%ก็นอนหลับมาแล้ว ไม่เครียด
4.อยากขยายพอร์ตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอายุจะน้อย แต่ถ้าเทียบรุ่นเดียวกัน ผมอยู่ในช่วง10%สุดท้าย
เกือบกระเด็นตกขอบโลกไปแล้ว
โดยสรุป แม้ว่าจะดูเหมือนเสี่ยงมาก แต่ผมเข้าใจความเสี่ยง(หุ้นตัวนั้น)อย่างดีและยอมรับมันได้
เลยtake riskมากขึ้นครับ และเมื่อดูrisk vs returnคิดว่าคุ้มค่าครับ
อย่าเลียนแบบและอย่าซื้อตามผมนะครับ เพราะคนเรารับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
และขนาดพอร์ตผมอาจเป็นแค่ขี้เล็บของท่าน เวลาเจ็บผมเจ็บน้อยกว่าท่านเยอะ
1.พอร์ต30kไม่คุ้มค่าที่จะกระจายการลงทุน ถ้าพอร์ตใหญ่กว่านี้มากๆก็คงลงตัวหนึ่งไม่เกิน50%ของพอร์ต
2.ศึกษามาดีแล้วมั่นใจ(มั้ง ใส่"มั้ง"เพราะอาจมีผิดพลาดได้) ว่าdownsideต่ำ upsideสูงคุ้มค่าความเสี่ยง
3.อายุยังน้อยเร่งศึกษา(จากการเจ็บจริง) เจ็บจนหมดตัวก็หาใหม่ได้ ลบ>20%ก็นอนหลับมาแล้ว ไม่เครียด
4.อยากขยายพอร์ตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอายุจะน้อย แต่ถ้าเทียบรุ่นเดียวกัน ผมอยู่ในช่วง10%สุดท้าย
เกือบกระเด็นตกขอบโลกไปแล้ว
โดยสรุป แม้ว่าจะดูเหมือนเสี่ยงมาก แต่ผมเข้าใจความเสี่ยง(หุ้นตัวนั้น)อย่างดีและยอมรับมันได้
เลยtake riskมากขึ้นครับ และเมื่อดูrisk vs returnคิดว่าคุ้มค่าครับ
อย่าเลียนแบบและอย่าซื้อตามผมนะครับ เพราะคนเรารับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
และขนาดพอร์ตผมอาจเป็นแค่ขี้เล็บของท่าน เวลาเจ็บผมเจ็บน้อยกว่าท่านเยอะ
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 571
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 8
แก้คำผิดนะครับ มีนาคม 55 ช่วงประกาศงบของปี 54 ครับdragonrider เขียน:ผมเคยลงทุน KTC ประมาณ 50% ของพอร์ทครับ ถ้าอยากทราบรายละเอียด
ลองเข้าไปอ่านในห้อง KTC ตอนช่วง มีนาคม 54 ประกาศงบปีดูครับ ปัจจุบัน
กลายเป็น 80% ของพอร์ทแล้วครับ ยังถืออยู่ครับ
ในพอร์ทปัจจุบันเหลือหุ้น 3 กองทุนอสังหา 1 ลดจำนวนลงมาเรื่อยๆ สถานการณ์ปัจจุบันเลือกเน้นรายตัวครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 571
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 9
อย่างไรก็ตาม อยากฟังครับ ประสบการณ์ที่ผิดพลาดเป็นครูที่ดีครับ ขอความกรุณาด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 10
เคยทำครับ ตอนเป็นมือใหม่มั่นใจมาก เพียงแต่รู้สึกว่าขาดสภาพคล่อง ตอนนี้เลยไม่ทำแล้วครับ แต่ตลาดแบบนี้จะหาหุ้นที่น่าถือก็มีน้อยทางเลือกเหลือเกินจนทำให้ถือได้ไม่กี่ตัว
Invincible MOS is knowing what you're doing
- Guiman
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 11
อ้าว อายุยังน้อยหรอครับ ท่านอานูบิส (ชื่อนี้มันหมาอียิปต์รึเปล่านะ)anubist เขียน: 1.พอร์ต30kไม่คุ้มค่าที่จะกระจายการลงทุน ถ้าพอร์ตใหญ่กว่านี้มากๆก็คงลงตัวหนึ่งไม่เกิน50%ของพอร์ต
2.ศึกษามาดีแล้วมั่นใจ(มั้ง ใส่"มั้ง"เพราะอาจมีผิดพลาดได้) ว่าdownsideต่ำ upsideสูงคุ้มค่าความเสี่ยง
3.อายุยังน้อยเร่งศึกษา(จากการเจ็บจริง) เจ็บจนหมดตัวก็หาใหม่ได้ ลบ>20%ก็นอนหลับมาแล้ว ไม่เครียด
4.อยากขยายพอร์ตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอายุจะน้อย แต่ถ้าเทียบรุ่นเดียวกัน ผมอยู่ในช่วง10%สุดท้าย
เกือบกระเด็นตกขอบโลกไปแล้ว
เห็นไปถกกระทู้ ดอกเบี้ยนโยบาย อย่างเมามันส์ (อายุยังน้อย แต่ความรู้กว้างขวางจัง แฮะๆ ปลื้ม)
ปล.อายุเท่าไหร่อะครับ (เจือกจัง)
http://guimanstock.blogspot.com/
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
-
- Verified User
- โพสต์: 122
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 12
ผมมาสารภาพครับ ผมชอบถือ 1 ตัว 100 % ของพอร์ตและถือนานด้วยอย่างต่ำก็เป็นปีละครับ และก็ตอนนี้ก็ยังถืออยู่ครับ
ถ้าถามว่าทำไมถึงกล้าถือ กล้าเสี่ยง ก็ขอตอบเลยว่า "ผมรับความเสี่ยงตรงนั้นได้"
ผมคิดว่าถ้าเกิดเลวร้ายที่สุด ผมขาดทุนเหลือศูนย์(บริษัทเจ๊ง) ตอนนี้ผมก็ยังมีงานทำ
Hi risk hi return ครับ แต่ข้อสำคัญที่คุณต้องระวังในการจะทำแบบนี้ก็คือ คุณต้องพิจารณาอย่างดี ถึงดีที่สุด ต้องไม่เป็นนักค้าหุ้น แต่ต้องเป็นนักลงทุนร่วมไปกับบริษัทนั้น โตไปด้วยกัน (แต่ไม่ได้แปลว่าห้ามขายทำกำไรนะครับ ผมจะขายถ้าผมพอใจครับ)
ผมไม่ขอบอกนะครับว่าผมถือตัวไหน แต่บอกได้แค่อยู่กลุ่มยานยนต์ครับ เริ่มถือเมื่อ พ.ค. ครับตัวนี้ ณ วันนี้กำไร 59.34% เป็นอะไรที่น่าพอใจมากครับ
ปล อยู่ในตลาดมาก็ 7-8 ปีครับ เจ็บมาเยอะ คริ คริ
ถ้าถามว่าทำไมถึงกล้าถือ กล้าเสี่ยง ก็ขอตอบเลยว่า "ผมรับความเสี่ยงตรงนั้นได้"
ผมคิดว่าถ้าเกิดเลวร้ายที่สุด ผมขาดทุนเหลือศูนย์(บริษัทเจ๊ง) ตอนนี้ผมก็ยังมีงานทำ
Hi risk hi return ครับ แต่ข้อสำคัญที่คุณต้องระวังในการจะทำแบบนี้ก็คือ คุณต้องพิจารณาอย่างดี ถึงดีที่สุด ต้องไม่เป็นนักค้าหุ้น แต่ต้องเป็นนักลงทุนร่วมไปกับบริษัทนั้น โตไปด้วยกัน (แต่ไม่ได้แปลว่าห้ามขายทำกำไรนะครับ ผมจะขายถ้าผมพอใจครับ)
ผมไม่ขอบอกนะครับว่าผมถือตัวไหน แต่บอกได้แค่อยู่กลุ่มยานยนต์ครับ เริ่มถือเมื่อ พ.ค. ครับตัวนี้ ณ วันนี้กำไร 59.34% เป็นอะไรที่น่าพอใจมากครับ
ปล อยู่ในตลาดมาก็ 7-8 ปีครับ เจ็บมาเยอะ คริ คริ
- LittleChicky
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 15
ถือหุ้น 3 ตัว 60-20-20 ครับ ตัวที่ถือ 60% เป็นตัวโตเร็วสุด ซึ่งถือมา 6 ปีแล้ว และยังโตต่อไป
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่ควรซื้อหุ้นสามัญเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูก แต่ควรซื้อเฉพาะว่ามันสัญญาว่าจะทำกำไรงดงามให้กับเขา...ฟิลลิป เอ พิชเชอร์
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1369
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 16
เมษานี้ก็26ล่ะ ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลยครับGuiman เขียน:
อ้าว อายุยังน้อยหรอครับ ท่านอานูบิส (ชื่อนี้มันหมาอียิปต์รึเปล่านะ)
เห็นไปถกกระทู้ ดอกเบี้ยนโยบาย อย่างเมามันส์ (อายุยังน้อย แต่ความรู้กว้างขวางจัง แฮะๆ ปลื้ม)
ปล.อายุเท่าไหร่อะครับ (เจือกจัง)
Anubisเป็นเทพที่คอยนำทางวิญญาณไปสู่โลกหลังความตายและตัดสินความดีความชั่วของอียิปต์ครับ
เรื่องนโยบายการเงินเป็นหนึ่งในสิ่งที่สนใจครับ มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียนเลยมั่วๆไปได้ 555
อยากเพิ่มเติมเหตุผลอีกนิด จากสาเหตุข้างต้น ทางเลือกผมมีไม่มาก
และอยากพิสูจน์ให้คนที่บ้านเห็นด้วยว่าเรามาถูกทาง เค้าจะได้วางใจ
อีกอย่างคือถ้ามัน"ตีแตก"จริงๆ จะได้มีโปรไฟล์ไฟยื่นสมัครงานครับ
การทำครั้งนี้มันมีเหตุผลหลากหลายด้านมาซับพอร์ตครับ มั่นใจว่ากลั่นกรองมาดีแล้ว
ทั้งด้านหุ้นที่ลงทุนและด้านเหตุผลสนับสนุน
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 5011
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 17
ผมครับ ถือตัวเดียวครับ ซีเอ็ด เป็นความชอบส่วนตัวครับ
-------------------------------------
รวยด้วยรัก
http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA
-------------------------------------
รวยด้วยรัก
http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 18
มี คุณ anubist เพียงคนเดียวที่บอกเหตุผลในการถือanubist เขียน:ทำอยู่ครับ สาเหตุที่ทำเพราะ
1.พอร์ต30kไม่คุ้มค่าที่จะกระจายการลงทุน ถ้าพอร์ตใหญ่กว่านี้มากๆก็คงลงตัวหนึ่งไม่เกิน50%ของพอร์ต
2.ศึกษามาดีแล้วมั่นใจ(มั้ง ใส่"มั้ง"เพราะอาจมีผิดพลาดได้) ว่าdownsideต่ำ upsideสูงคุ้มค่าความเสี่ยง
3.อายุยังน้อยเร่งศึกษา(จากการเจ็บจริง) เจ็บจนหมดตัวก็หาใหม่ได้ ลบ>20%ก็นอนหลับมาแล้ว ไม่เครียด
4.อยากขยายพอร์ตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอายุจะน้อย แต่ถ้าเทียบรุ่นเดียวกัน ผมอยู่ในช่วง10%สุดท้าย
เกือบกระเด็นตกขอบโลกไปแล้ว
โดยสรุป แม้ว่าจะดูเหมือนเสี่ยงมาก แต่ผมเข้าใจความเสี่ยง(หุ้นตัวนั้น)อย่างดีและยอมรับมันได้
เลยtake riskมากขึ้นครับ และเมื่อดูrisk vs returnคิดว่าคุ้มค่าครับ
อย่าเลียนแบบและอย่าซื้อตามผมนะครับ เพราะคนเรารับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
และขนาดพอร์ตผมอาจเป็นแค่ขี้เล็บของท่าน เวลาเจ็บผมเจ็บน้อยกว่าท่านเยอะ
ส่วนคนอื่นไม่ได้บอกถึงเหตุผลในการถือ (อาจจะมีแต่ผมอาจอ่านพลาดไป)
ผมคิดว่า ข้อ 1 ข้อ3 เป็นตรรกะที่ถูกต้อง ดังนั้นถ้าใคถือหุ้นตัวนึงเข้าใกล้ 100% โดยมีหลักคิดแบบข้อ 1,3
ไม่น่าเสียหายที่จะถือหุ้นตัวเดียวเข้าใกล้ 100% ส่วนใครบอกว่าศึกษามาอย่างดี มีอัพไซด์มากกว่าดาวไซด์
หรือ บลาๆๆๆๆ นั่นเป็นความเชื่อซึ่งความจริงมีโอกาสที่จะผิด
ตลอด2-3ปีที่ผ่านมาผมจะถือหุ้น ประมาณ 2ตัว ตัวมากอาจจะประมาณ 70%-80%
พอร์ตโตอย่างน่าพอใจ จนกระทั่งมีการประกาศผลประกอบการในเดือนสิงหาคม
ผมเล็งหุ้นไว้ 3 ตัวมี ABC ระดับความอยากได้ก็เรียงกันไป A ซื้อไม่ได้เลย
ทั้งที่ตั้งในราคาซีลลิ่งและ ATO ไม่ได้ซักหุ้น หุ้นตัวนี้ ขึ้นไป 3-4ซีลลิ่งทุกวัน
ซื้อได้เฉพาะ B C เมื่อได้แล้วก็มาศึกษาอย่างจริงๆจัง
ยิ่งศึกษายิ่งชอบ B ผมจึงเพิ่มเงินลงใน B ขึ้นเรื่อย ส่วน Cโยนทิ้งไป(ไม่มีกำไร)
พอผ่านไปประมาณเดือนสองเดือน B ก็ขึ้นมาประมาณ 40% ส่วน Cขึ้นไปมากกว่า100%
ผมหวังกับ B มากและคิดว่าราคามันยังถูกมาก ตอนนั้นก็ชักอยาก ลด B หาหุ้นตัวอื่นมาเพิ่ม
เพราะตอนนี้ ถือ B มากกว่า 90%แล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 19
อยากได้เหตุผล ?
ส่วนตัวคิดว่าพอร์ตเล็ก
น่าจะทำง่าย
สอง มั่นใจมากก็ถือมาก
แต่ถ้าตลาดยังไม่สนใจ
เราก็จะมีเวลาเก็บนาน
สัดส่วนที่ถือมันก็มากเอง
ประเด็นคือ มั่นใจ นะครับ
เข้าข่ายตีแตก
ตามความเห็นของผม
คือผลตอบแทนน่าสนใจ
ในขณะที่โอกาสแพ้มีน้อย
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า
ซื้อแล้วราคาหุ้นต้องขึ้นนะครับ
ส่วนตัวคิดว่าพอร์ตเล็ก
น่าจะทำง่าย
สอง มั่นใจมากก็ถือมาก
แต่ถ้าตลาดยังไม่สนใจ
เราก็จะมีเวลาเก็บนาน
สัดส่วนที่ถือมันก็มากเอง
ประเด็นคือ มั่นใจ นะครับ
เข้าข่ายตีแตก
ตามความเห็นของผม
คือผลตอบแทนน่าสนใจ
ในขณะที่โอกาสแพ้มีน้อย
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า
ซื้อแล้วราคาหุ้นต้องขึ้นนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 20
ผมถือตัวเดียว 100% เนื่องด้วยมันยัง undervalue อยู่ อีกทั้งหาหุ้นตัวอื่นที่มี MOS ไม่ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 21
พอประกาศผลประกอบการใน เดือน พ.ย. กำไรของ B ลดลงจนน่าเกียด
ผมเตรียมตัวแต่เช้า เพื่อมาขายหุ้นตัวนี้โดยเฉพาะ ราคาเปิด ลดทันที 24%จากเมื่อวาน
หุ้นที่มันขาดทุนยังลดแค่ไม่ถึง 10% แต่นี่ลด 24% ผมก็เลยเลิกคิดที่จะขาย
ถ้าผมขายด้วยราคาคงลงไปฟลอแน่ หุ้นสภาพคล่องน้อย
ความรู้สึกผม เครียดบ้างแต่ก็รับสภาพได้ คิดว่าจะทำอย่างไร สรุปคือรอ opp day
พอมี opp day ก็ไปฟัง และถามถึงเหตุผล ผบห อธิบาย ผมก็คิดตาม คำอธิบายมีเหตุผล
ผมรอต่อไปจนผลประกาศผลประกอบการในเดือน กพ ไม่โดดเด่น พอรับไหว
วันแรกทำไมหุ้นมันลงไปอีก 3 ช่องทั้งๆที่ผมว่า ผลประกอบการก็ไม่น่าเกียดเท่าไหร่
ตอนนั้นดูอย่างลวกๆ แต่เมื่อดูแล้วดูอีก ดูซ้ำๆ ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ
อนาคตอีกสามเดือนคงไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับธุรกิจนี้
ก็เลยตั้งน่าตั้งตาหาหุ้น ที่มันดีกว่า หุ้นที่ผมขายไปแล้วเอาเงินไปซื้อหุ้น B
หาแทบไม่ได้เลย แต่จะกลับไปซื้อตัวนั้นก็ไม่ได้ มันขึ้นไปแล้ว 50%-60%ที่ผมขายไป
สุรุปผมหาหุ้น มาได้ 10ตัว ขายหุ้น B ขาดทุนเป็นตัวเงิน 20% ของพอร์ต ในช่วงที่setขึ้นมา 50%
บางคนอาจจะคิดว่า 20%นิดหน่อย แต่เมื่อเราลงทุนต่อ เรากำลังซื้อหุ้น ที่ set 1400กว่า
ดังนั้นหุ้นที่ขึ้นมาเยอะขนาดนี้ ถ้ามันจะลงไปซัก 20%คนอื่นๆจะไม่เป็นไร เพราะ กำไรจะเหลือ 30%
แต่ผมจะขาดทุน เป็น 40%
การซื้อหุ้น 10ตัวแล้วถือ แล้วเขย่ามันอีกที ผมขายขาดทุนไปอีก 2ตัวตอนนี้ถือ 8ตัว
ผมรู้สึกดีมากเลย โอกาสที่หุ้นใน port เราจะขึ้นก็มากขึ้น ถ้าถือตัวเดียว ถ้าหุ้นไม่ขึ้นเราก็เบื่อ
แต่ตอนนี้มี 8 ตัว วันนี้ขึ้นทุกตัว ก็เลยอารมณ์ดี เลยมาโพสต์
ผมไม่ทำอะไร เห็นครั้งแรกก็เซ็ง แต่เมื่อดูคร่าวๆรู้สึกดีขึ้น เป็นไปได้ และสรอไปอีกวันนั้น ขายแน่ ขาดทุน
ผมเตรียมตัวแต่เช้า เพื่อมาขายหุ้นตัวนี้โดยเฉพาะ ราคาเปิด ลดทันที 24%จากเมื่อวาน
หุ้นที่มันขาดทุนยังลดแค่ไม่ถึง 10% แต่นี่ลด 24% ผมก็เลยเลิกคิดที่จะขาย
ถ้าผมขายด้วยราคาคงลงไปฟลอแน่ หุ้นสภาพคล่องน้อย
ความรู้สึกผม เครียดบ้างแต่ก็รับสภาพได้ คิดว่าจะทำอย่างไร สรุปคือรอ opp day
พอมี opp day ก็ไปฟัง และถามถึงเหตุผล ผบห อธิบาย ผมก็คิดตาม คำอธิบายมีเหตุผล
ผมรอต่อไปจนผลประกาศผลประกอบการในเดือน กพ ไม่โดดเด่น พอรับไหว
วันแรกทำไมหุ้นมันลงไปอีก 3 ช่องทั้งๆที่ผมว่า ผลประกอบการก็ไม่น่าเกียดเท่าไหร่
ตอนนั้นดูอย่างลวกๆ แต่เมื่อดูแล้วดูอีก ดูซ้ำๆ ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ
อนาคตอีกสามเดือนคงไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับธุรกิจนี้
ก็เลยตั้งน่าตั้งตาหาหุ้น ที่มันดีกว่า หุ้นที่ผมขายไปแล้วเอาเงินไปซื้อหุ้น B
หาแทบไม่ได้เลย แต่จะกลับไปซื้อตัวนั้นก็ไม่ได้ มันขึ้นไปแล้ว 50%-60%ที่ผมขายไป
สุรุปผมหาหุ้น มาได้ 10ตัว ขายหุ้น B ขาดทุนเป็นตัวเงิน 20% ของพอร์ต ในช่วงที่setขึ้นมา 50%
บางคนอาจจะคิดว่า 20%นิดหน่อย แต่เมื่อเราลงทุนต่อ เรากำลังซื้อหุ้น ที่ set 1400กว่า
ดังนั้นหุ้นที่ขึ้นมาเยอะขนาดนี้ ถ้ามันจะลงไปซัก 20%คนอื่นๆจะไม่เป็นไร เพราะ กำไรจะเหลือ 30%
แต่ผมจะขาดทุน เป็น 40%
การซื้อหุ้น 10ตัวแล้วถือ แล้วเขย่ามันอีกที ผมขายขาดทุนไปอีก 2ตัวตอนนี้ถือ 8ตัว
ผมรู้สึกดีมากเลย โอกาสที่หุ้นใน port เราจะขึ้นก็มากขึ้น ถ้าถือตัวเดียว ถ้าหุ้นไม่ขึ้นเราก็เบื่อ
แต่ตอนนี้มี 8 ตัว วันนี้ขึ้นทุกตัว ก็เลยอารมณ์ดี เลยมาโพสต์
ผมไม่ทำอะไร เห็นครั้งแรกก็เซ็ง แต่เมื่อดูคร่าวๆรู้สึกดีขึ้น เป็นไปได้ และสรอไปอีกวันนั้น ขายแน่ ขาดทุน
- Highway_Star
- Verified User
- โพสต์: 440
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 23
เคยถือ 100% ตัวนึงครับ ตัวนั้นคือ SIS
ก่อนซื้อเดินสำรวจตลาดมาบุญครอง เดินผ่านแล้วจดๆๆๆ
เห็นใครหยิบมือถือผมก็ดูว่าเค้าใช้อะไร
สัดส่วน smart phone กับมือถือง่อยๆ เป็นเท่าไหร่
มือถือที่อยู่ในตู้ตอนนั้น อัตราส่วน smart : feature phone
ประมาณ 30 : 70 ถ้าจำไม่ผิด
ผมถามกับตัวเองว่า smart phone จะมาแทนที่ feature ใช่หรือไม่
ผมตอบกับตัวเองว่า แน่นอน มันก็เหมือนกับที่มือถือจอสี แทนที่จอขาวดำทั้งหมด
เป็นไปได้หรือไม่ ที่คนจะไม่เปลี่ยนมือถือมาเป็น smart phone ?
คำตอบก็คือไม่มีทาง โลกมันหมุนไปทางนี้ ในอนาคตไม่มีใครกลับไปผลิตมือถือจอขาวดำแน่ๆ
ถ้างั้นผู้เล่นหลักๆ ในตลาดหุ้น ใครจะเป็นคนได้ประโยชน์ไป SIS หรือ SYNEX
ผมชอบผบห.ของ SIS มากกว่า ก็เลยจัดให้ SIS ครับ
ผมจัดเต็มไปตอน 7.15 บาท (จำแม่นครับ หุ้นตัวแรกในชีวิต)
แล้วผมก็ดูมันวิ่งไป 18 บาท (ด้วยความเป็น VI ใสซื่อ ประเมินไว้ว่า 20 บาท จึงไม่ขายแม้แต่หุ้นเดียว... เงิบได้โล่ห์)
พอน้ำท่วม bbแป๊ก มันก็ไหลลงๆ (ด้วยความเป็น VI ใสซื่อ คิดว่านี่คือเหตุการณ์ครั้งเดียว จึงยังไม่ขายออกไป)
...ผมขายไปไม้สุดท้ายที่ราวๆ 9 บาทกลางๆ หลังจากวันนั้นผมก็ได้บทเรียนว่า ถ้ามันครั้งเดียว แต่มันยาวเรื้อรังล่ะก็
สวัสดีมันกันเถอะ (แต่ตอนนี้เกมมันเปลี่ยนนะครับ ส่วนตัวคิดว่าคนขายมันเปลี่ยน คนได้ประโยชน์
จาก smart phone มันเปลี่ยน ...แต่ก็ใช่ว่า sis จะขายแต่ smart phone )
อ่อ ลืม จริงๆ แล้วระหว่างที่ถือ 100% ได้ซักพักผมไปเจอหุ้นสุดรักอีกตัวคือ HTECH
ด้วยความที่ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับ cutting tools จึงเข้าใจมันเป็นอย่างดี
มันมีอยู่ในหลายอุตสาหกรรมมากๆ เพียงแต่คนทั่วไปจะไม่รู้
มันเป็นสินค้าใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว ผบห.เองก็เข้าใจธรรมชาติ ขยัน และมองเกมขาดเอาเรื่อง
ผมจึงทำการเพิ่มทุนตัวเอง(ขอที่บ้าน ฮาๆ) แล้วจัดไปไม้แรกที่ราวๆ 2.5 บาท สัดส่วนการถือหุ้นทั้งสองคือ 50:50 เป๊ะๆ
ผมนั่งดูหุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างสนุกสนาน มันเป็นหุ้นที่มีเรื่องราวมากมายจริงๆ
ลุ้นกันตัวโก่งทุก Q ตั้งแต่ยอดขาย HDD หด, ตั้งโรงงานใหม่ค่าใช้จ่ายบาน, พายุเข้าฟิลิปปินส์, น้ำท่วมไทย,
พยายามเข้าอุตสาหกรรมรถยนต์ margin ลด บลาๆๆ
(เป็นหุ้นที่ให้บทเรียนกับผมว่า บางทีผลกำไรที่โตเอาๆ ก็โดนกดดันจากหลายๆอย่างทำให้ PE ไม่โตตาม)
ปล.ตอนนี้ทั้งสองตัวเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนะครับ เพราะผมเพิ่มทุน แล้วก็ลองเข้าไปอุตฯใหม่ๆ ได้ซักพักแล้ว
ขออภัยที่โม้มาซะยาว แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ใหม่กับตลาดจริงๆ
หาแนวทางของตัวเองให้เจอ แล้วผลตอบแทนจะดีขึ้นครับ (หุ้นสองตัวด้านบน คือหุ้นที่ผมซื้อตัวที่หนึ่งและสองตามลำดับ
และเป็นหุ้นที่ให้อะไรกับผมมาก มากจริงๆ เรียกได้ว่ากำไรที่หดหายไป คุ้มค่าแก่การเรียนรู้มากๆ)
ก่อนซื้อเดินสำรวจตลาดมาบุญครอง เดินผ่านแล้วจดๆๆๆ
เห็นใครหยิบมือถือผมก็ดูว่าเค้าใช้อะไร
สัดส่วน smart phone กับมือถือง่อยๆ เป็นเท่าไหร่
มือถือที่อยู่ในตู้ตอนนั้น อัตราส่วน smart : feature phone
ประมาณ 30 : 70 ถ้าจำไม่ผิด
ผมถามกับตัวเองว่า smart phone จะมาแทนที่ feature ใช่หรือไม่
ผมตอบกับตัวเองว่า แน่นอน มันก็เหมือนกับที่มือถือจอสี แทนที่จอขาวดำทั้งหมด
เป็นไปได้หรือไม่ ที่คนจะไม่เปลี่ยนมือถือมาเป็น smart phone ?
คำตอบก็คือไม่มีทาง โลกมันหมุนไปทางนี้ ในอนาคตไม่มีใครกลับไปผลิตมือถือจอขาวดำแน่ๆ
ถ้างั้นผู้เล่นหลักๆ ในตลาดหุ้น ใครจะเป็นคนได้ประโยชน์ไป SIS หรือ SYNEX
ผมชอบผบห.ของ SIS มากกว่า ก็เลยจัดให้ SIS ครับ
ผมจัดเต็มไปตอน 7.15 บาท (จำแม่นครับ หุ้นตัวแรกในชีวิต)
แล้วผมก็ดูมันวิ่งไป 18 บาท (ด้วยความเป็น VI ใสซื่อ ประเมินไว้ว่า 20 บาท จึงไม่ขายแม้แต่หุ้นเดียว... เงิบได้โล่ห์)
พอน้ำท่วม bbแป๊ก มันก็ไหลลงๆ (ด้วยความเป็น VI ใสซื่อ คิดว่านี่คือเหตุการณ์ครั้งเดียว จึงยังไม่ขายออกไป)
...ผมขายไปไม้สุดท้ายที่ราวๆ 9 บาทกลางๆ หลังจากวันนั้นผมก็ได้บทเรียนว่า ถ้ามันครั้งเดียว แต่มันยาวเรื้อรังล่ะก็
สวัสดีมันกันเถอะ (แต่ตอนนี้เกมมันเปลี่ยนนะครับ ส่วนตัวคิดว่าคนขายมันเปลี่ยน คนได้ประโยชน์
จาก smart phone มันเปลี่ยน ...แต่ก็ใช่ว่า sis จะขายแต่ smart phone )
อ่อ ลืม จริงๆ แล้วระหว่างที่ถือ 100% ได้ซักพักผมไปเจอหุ้นสุดรักอีกตัวคือ HTECH
ด้วยความที่ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับ cutting tools จึงเข้าใจมันเป็นอย่างดี
มันมีอยู่ในหลายอุตสาหกรรมมากๆ เพียงแต่คนทั่วไปจะไม่รู้
มันเป็นสินค้าใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว ผบห.เองก็เข้าใจธรรมชาติ ขยัน และมองเกมขาดเอาเรื่อง
ผมจึงทำการเพิ่มทุนตัวเอง(ขอที่บ้าน ฮาๆ) แล้วจัดไปไม้แรกที่ราวๆ 2.5 บาท สัดส่วนการถือหุ้นทั้งสองคือ 50:50 เป๊ะๆ
ผมนั่งดูหุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างสนุกสนาน มันเป็นหุ้นที่มีเรื่องราวมากมายจริงๆ
ลุ้นกันตัวโก่งทุก Q ตั้งแต่ยอดขาย HDD หด, ตั้งโรงงานใหม่ค่าใช้จ่ายบาน, พายุเข้าฟิลิปปินส์, น้ำท่วมไทย,
พยายามเข้าอุตสาหกรรมรถยนต์ margin ลด บลาๆๆ
(เป็นหุ้นที่ให้บทเรียนกับผมว่า บางทีผลกำไรที่โตเอาๆ ก็โดนกดดันจากหลายๆอย่างทำให้ PE ไม่โตตาม)
ปล.ตอนนี้ทั้งสองตัวเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนะครับ เพราะผมเพิ่มทุน แล้วก็ลองเข้าไปอุตฯใหม่ๆ ได้ซักพักแล้ว
ขออภัยที่โม้มาซะยาว แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ใหม่กับตลาดจริงๆ
หาแนวทางของตัวเองให้เจอ แล้วผลตอบแทนจะดีขึ้นครับ (หุ้นสองตัวด้านบน คือหุ้นที่ผมซื้อตัวที่หนึ่งและสองตามลำดับ
และเป็นหุ้นที่ให้อะไรกับผมมาก มากจริงๆ เรียกได้ว่ากำไรที่หดหายไป คุ้มค่าแก่การเรียนรู้มากๆ)
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 24
ผมว่าถ้าอายุน้อย พอร์ทเล็ก และเจอหุ้นตีแตก
ถือตัวเดียวทั้งพอร์ทหรือแค่2-3ตัว
เป็นวิธีที่ทําให้พอร์ทโตอย่างรวดเร็ว
และหลายๆคนก็ใช้วิธีนี้
แต่ถ้าพอร์ทโตขึ้น อายุมากขึ้น
โอกาสแก้ตัวเมื่อผิดพลาดน้อยลง
การรักษาความรํ่ารวยที่มีอยู่อาจสําคัญกว่า
ความพยายามที่จะรํ่ารวยให้มากขึ้น
ถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ท
อาจไม่ใช่คําตอบที่เหมาะสม
ทุกอย่างไม่มีคําตอบสําเร็จรูป
สําหรับคนที่ตั้งใจมีพอร์ทพันล้านหมื่นล้านตั้งแต่อายุน้อย
หรือต้องการเป็นกระบี่มือหนึ่งในยุทธจักรนักลงทุน
อาจต้องถือหุ้นตัวเดียวตลอดและแถมมาร์จิ้นด้วย
แต่เขาคนนั้นต้องมีหัวใจที่แข็งแรงกว่านักลงทุนทั่วไป
ถือตัวเดียวทั้งพอร์ทหรือแค่2-3ตัว
เป็นวิธีที่ทําให้พอร์ทโตอย่างรวดเร็ว
และหลายๆคนก็ใช้วิธีนี้
แต่ถ้าพอร์ทโตขึ้น อายุมากขึ้น
โอกาสแก้ตัวเมื่อผิดพลาดน้อยลง
การรักษาความรํ่ารวยที่มีอยู่อาจสําคัญกว่า
ความพยายามที่จะรํ่ารวยให้มากขึ้น
ถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ท
อาจไม่ใช่คําตอบที่เหมาะสม
ทุกอย่างไม่มีคําตอบสําเร็จรูป
สําหรับคนที่ตั้งใจมีพอร์ทพันล้านหมื่นล้านตั้งแต่อายุน้อย
หรือต้องการเป็นกระบี่มือหนึ่งในยุทธจักรนักลงทุน
อาจต้องถือหุ้นตัวเดียวตลอดและแถมมาร์จิ้นด้วย
แต่เขาคนนั้นต้องมีหัวใจที่แข็งแรงกว่านักลงทุนทั่วไป
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 25
ในสภาพทั่วไปทำไม ผมจึงบอกว่าการถือหุ้นตัวเดียวไม่ดี
ผมมีเหตุผลดังนี้
1.เมื่อผมกรองหุ้นมาได้ 10ตัว ผมจะคัดให้เหลือตัวเดียว ผมต้องโยน 9 ตัวทิ้ง
จากประสพการณ์ของผม ตัวที่ผมคิดว่าดีสุดจริงๆ มันอยู่แค่อันดับ 3-4 เท่านั้น ผมโยนหุ้น
อันดับ 1,2 ทิ้ง
2.ถ้าหุ้นที่เราถือเจออุบัติเหตุ ที่เราคิดไม่ถึง เช่น SCBLIF ตอนที่ SCB ซื้อหุ้นจาก ฝรั่งทั้งหมด
และทำเทรนเดอร์หุ้นที่ ราคาประมาณ 280 ทั้งที่ราคาตลาด ตอนนั้น ประมาณ 400กว่า และมีข่าวว่า
SCBLIF จะเอาออกจากตลาด ตอนนั้นผมไม่ได้ถือ ผมเลยไม่ได้ศึกษาแต่ที่เห็น หุ้นในตลาดลดลง
จาก 400กว่าเหลือ 300ต้น เราวิเคราะหุ้นตัวนี้ให้ตายเราก็ไม่คิดถึงเรื่องนี้
3.ประเทศในอเมริกาใต้ ยึดบ่อน้ำมันจากบริษัทน้ำมันในประเทศสเปน
4.กรณีน้ำมันรั่วในประเทสอเมริกา มีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย กันหลายหมื่นล้านเหรียญ
5.ซือนามิ ที่ทำรายโรงไฟฟ้าปรมาณูในญี่ปุ่น
6.แก๊ซพิษรั่วในอินเดีย คนตายหลายพันคน (หลายสิบปีแล้ว)
อุบัติเหตุแบบนี้ เราจะคิดออกได้ยังงัย
แค่ข้อ 1 ข้อเดียว ผมก็คิดว่า เลิกถือหุ้นตัวเดียวได้แล้ว
อันดับสุดยอด
หลายตัวที่ผมขายทิ้งเมื่อกำไรนิดๆหน่อย
ด้วยผมอยากจะตีแตก ผมจะคัดให้เหลือตัวเดีย หรืออย่างมาก 2
มาเรื่อยๆ 10 ตัว ผม ว่า 10นี้ดีที่สุดในตลาดแล้ว
ผมมีเหตุผลดังนี้
1.เมื่อผมกรองหุ้นมาได้ 10ตัว ผมจะคัดให้เหลือตัวเดียว ผมต้องโยน 9 ตัวทิ้ง
จากประสพการณ์ของผม ตัวที่ผมคิดว่าดีสุดจริงๆ มันอยู่แค่อันดับ 3-4 เท่านั้น ผมโยนหุ้น
อันดับ 1,2 ทิ้ง
2.ถ้าหุ้นที่เราถือเจออุบัติเหตุ ที่เราคิดไม่ถึง เช่น SCBLIF ตอนที่ SCB ซื้อหุ้นจาก ฝรั่งทั้งหมด
และทำเทรนเดอร์หุ้นที่ ราคาประมาณ 280 ทั้งที่ราคาตลาด ตอนนั้น ประมาณ 400กว่า และมีข่าวว่า
SCBLIF จะเอาออกจากตลาด ตอนนั้นผมไม่ได้ถือ ผมเลยไม่ได้ศึกษาแต่ที่เห็น หุ้นในตลาดลดลง
จาก 400กว่าเหลือ 300ต้น เราวิเคราะหุ้นตัวนี้ให้ตายเราก็ไม่คิดถึงเรื่องนี้
3.ประเทศในอเมริกาใต้ ยึดบ่อน้ำมันจากบริษัทน้ำมันในประเทศสเปน
4.กรณีน้ำมันรั่วในประเทสอเมริกา มีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย กันหลายหมื่นล้านเหรียญ
5.ซือนามิ ที่ทำรายโรงไฟฟ้าปรมาณูในญี่ปุ่น
6.แก๊ซพิษรั่วในอินเดีย คนตายหลายพันคน (หลายสิบปีแล้ว)
อุบัติเหตุแบบนี้ เราจะคิดออกได้ยังงัย
แค่ข้อ 1 ข้อเดียว ผมก็คิดว่า เลิกถือหุ้นตัวเดียวได้แล้ว
อันดับสุดยอด
หลายตัวที่ผมขายทิ้งเมื่อกำไรนิดๆหน่อย
ด้วยผมอยากจะตีแตก ผมจะคัดให้เหลือตัวเดีย หรืออย่างมาก 2
มาเรื่อยๆ 10 ตัว ผม ว่า 10นี้ดีที่สุดในตลาดแล้ว
- Pordamo
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 26
ชอบ SE-ED เหมือนกันครับ ไม่รู้ทำไม ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าคนเข้าร้านเยอะตลอดเวลา ส่วน Trend ของ E-Book ใจผมยังมองว่าการอ่านหนังสือด้วยวิธีการสัมผัสจากกระดาษจริงๆ ยังไม่น่าจะหมดไปจากโลกง่ายๆ แต่ผมก็ยังไม่เคยซื้อหุ้น SE-ED เลยครับ งงตัวเองเหมือนกันnaijan เขียน:ผมครับ ถือตัวเดียวครับ ซีเอ็ด เป็นความชอบส่วนตัวครับ
-------------------------------------
รวยด้วยรัก
http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA
Stay Calm, Stay Invest.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 28
กรองหุ้น ผมจะทำตอนว่างๆ
นานๆ จนลืมๆ ว่ากี่ปีทำสักหนึ่งครั้ง
sis ผมก็เคยซื้อนะ จรดๆ จ้องๆ
ตอนประมาณ 4 บาท
พอดีกับตอนที่เสี่ยท่านนึงเก็บเพิ่ม
ราคารีบวิ่งไป 6 บาท
จำได้ว่าหุ้นเคยสภาพไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
แต่ตอนนั้นซื้อง่ายขายกันคล่องเลย
จำได้ว่าเคยอ่าน 56-1
ตอนปี 51 อ่านแล้วร้องยี้
เพราะมาจิ้นต่ำมาก
แต่มาเอ๊ะใจตรงรายได้ที่มันโตนี่แหละ
ผมต้องรีบขายตัวอื่นเพื่อนำเงินมาซื้อ
แต่ซื้อไปเท่าไหร่จำไม่ได้
แต่มากกว่า 50% แน่นอน
พอซื้อหนักเข้า สามัญสำนึก
ก็เตือนว่า เฮ้ยๆ พอเหอะ
ธุรกิจมีมาร์จิ้นบางเฉียบ
จาก sis ก็พาให้ผมไปแกะ synex
แล้วก็เจอ tks หุ้นตัวต่อมา
ที่ผมถือตัวเดียว 100 % หลังจากนั้น
เหตุผลคือ asset play ครับ
ราคาหุ้นต่ำกว่าสินทรัพย์
โรงพิมพ์ก็เพิ่งขยาย
และ synex ก็กำลังโต
นึกไม่ออกว่าจะแพ้ได้ยังไง
ก็จัดไปเต็มๆ ถือมาไม่ถึงปี
ก่อนจะมาเจอน้องน้ำ
หลังจากนั้นก็ปรับพอร์ต
ไปสนใจหุ้นผีดิบตัวนึง
จากการบ้านของคนอื่นๆ
เอะใจมาก ว่าทำไมงบถึงดีเกินเหตุ
เลยไปแกะหุ้นผีดิบอีกตัว
เพื่อเปรียบเทียบ
ตอนนั้นทำให้รู้จักกับ kamart
ซึ่งตอนนั้น kamart ราคาขึ้นมา
10 เท่าแล้วมั้ง แต่ก็มี นลท.
หลายคนไม่มั่นใจว่า
หุ้นจะจ่ายปันผลได้
ธุรกิจน่าสนใจ ใช้เงินลงทุนก็ต่ำ
วิเคราะห์แล้วจ่ายปันผลได้แน่
แล้วอนาคตก็จะนำสินค้า
เข้า modern trade
ผมก็จัดไป 100% อีกครั้ง
นานๆ จนลืมๆ ว่ากี่ปีทำสักหนึ่งครั้ง
sis ผมก็เคยซื้อนะ จรดๆ จ้องๆ
ตอนประมาณ 4 บาท
พอดีกับตอนที่เสี่ยท่านนึงเก็บเพิ่ม
ราคารีบวิ่งไป 6 บาท
จำได้ว่าหุ้นเคยสภาพไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
แต่ตอนนั้นซื้อง่ายขายกันคล่องเลย
จำได้ว่าเคยอ่าน 56-1
ตอนปี 51 อ่านแล้วร้องยี้
เพราะมาจิ้นต่ำมาก
แต่มาเอ๊ะใจตรงรายได้ที่มันโตนี่แหละ
ผมต้องรีบขายตัวอื่นเพื่อนำเงินมาซื้อ
แต่ซื้อไปเท่าไหร่จำไม่ได้
แต่มากกว่า 50% แน่นอน
พอซื้อหนักเข้า สามัญสำนึก
ก็เตือนว่า เฮ้ยๆ พอเหอะ
ธุรกิจมีมาร์จิ้นบางเฉียบ
จาก sis ก็พาให้ผมไปแกะ synex
แล้วก็เจอ tks หุ้นตัวต่อมา
ที่ผมถือตัวเดียว 100 % หลังจากนั้น
เหตุผลคือ asset play ครับ
ราคาหุ้นต่ำกว่าสินทรัพย์
โรงพิมพ์ก็เพิ่งขยาย
และ synex ก็กำลังโต
นึกไม่ออกว่าจะแพ้ได้ยังไง
ก็จัดไปเต็มๆ ถือมาไม่ถึงปี
ก่อนจะมาเจอน้องน้ำ
หลังจากนั้นก็ปรับพอร์ต
ไปสนใจหุ้นผีดิบตัวนึง
จากการบ้านของคนอื่นๆ
เอะใจมาก ว่าทำไมงบถึงดีเกินเหตุ
เลยไปแกะหุ้นผีดิบอีกตัว
เพื่อเปรียบเทียบ
ตอนนั้นทำให้รู้จักกับ kamart
ซึ่งตอนนั้น kamart ราคาขึ้นมา
10 เท่าแล้วมั้ง แต่ก็มี นลท.
หลายคนไม่มั่นใจว่า
หุ้นจะจ่ายปันผลได้
ธุรกิจน่าสนใจ ใช้เงินลงทุนก็ต่ำ
วิเคราะห์แล้วจ่ายปันผลได้แน่
แล้วอนาคตก็จะนำสินค้า
เข้า modern trade
ผมก็จัดไป 100% อีกครั้ง
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 29
แนะนำให้ลอง kindle ดูครับ อาจจะเปลี่ยนใจได้Por เขียน:ชอบ SE-ED เหมือนกันครับ ไม่รู้ทำไม ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าคนเข้าร้านเยอะตลอดเวลา ส่วน Trend ของ E-Book ใจผมยังมองว่าการอ่านหนังสือด้วยวิธีการสัมผัสจากกระดาษจริงๆ ยังไม่น่าจะหมดไปจากโลกง่ายๆ แต่ผมก็ยังไม่เคยซื้อหุ้น SE-ED เลยครับ งงตัวเองเหมือนกันnaijan เขียน:ผมครับ ถือตัวเดียวครับ ซีเอ็ด เป็นความชอบส่วนตัวครับ
-------------------------------------
รวยด้วยรัก
http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA
ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านว่ายอดขายหนังสือแบบ ebook ใน amazon นี่แซงหนังสือเล่มไปแล้วครับ
ทุกวันนี้ถ้ามีหนังสือแปลออกมาเป็นภาษาไทย เทียบกับ ebook เป็นภาษาอังกฤษ ผมเลือกที่จะซื้อ ebook แม้ว่าผมอ่านภาษาอังกฤษได้แย่กว่าไทยพอสมควร
มันสะดวกกว่ากันแบบเห็นได้ชัดเลยครับ ไม่ต้องเปลืองที่เก็บ ไม่ต้องกลัวโดนปลวกกิน ไม่ต้องกลัวเก่า สามารถพกหนังสือติดตัวได้เป็นพันเล่ม (รวมกับที่อยู่ใน cloud อีกไม่จำกัด)
แต่ต้องอ่านบน ebook reader เท่านั้นนะครับ มันสบายตาไม่ต่างจากหนังสือเล่มเลย
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ
โพสต์ที่ 30
ผมคงไม่เก่งและกล้าพอที่จะซื้อหุ้นตัวเดียว 70% ครับ
ผมเคยซื้อหุ้นมาหลายแบบทั้งประเภทราคาไม่กี่สต. W ฯลฯ
พอร์ตผมบางช่วงมันก็โตเพราะหุ้นพวกนั้น เคยซื้อ W 25% ของพอร์ต ก็เคยมาแล้ว บางครั้งหุ้นที่คิดว่ามาแน่กลับกลายเป็นมีอะไรผิดพลาด หุ้นที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกลับวิ่งเป็นเท่า ๆ
ผมว่าความเสี่ยงยังไงมันก็คือความเสี่ยงครับ บางเรื่องมาแบบไม่ทันตั้งตัวจริง ๆ ไม่ต้องอะไรมากครับ แค่หุ้นเพิ่มทุนบางทีราคาก็ไหลลงแล้ว ถ้าถือหุ้นตัวเดียวจะเอาเงินที่ไหนไปเพิ่มทุนครับ
ผมเคยซื้อหุ้นมาหลายแบบทั้งประเภทราคาไม่กี่สต. W ฯลฯ
พอร์ตผมบางช่วงมันก็โตเพราะหุ้นพวกนั้น เคยซื้อ W 25% ของพอร์ต ก็เคยมาแล้ว บางครั้งหุ้นที่คิดว่ามาแน่กลับกลายเป็นมีอะไรผิดพลาด หุ้นที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกลับวิ่งเป็นเท่า ๆ
ผมว่าความเสี่ยงยังไงมันก็คือความเสี่ยงครับ บางเรื่องมาแบบไม่ทันตั้งตัวจริง ๆ ไม่ต้องอะไรมากครับ แค่หุ้นเพิ่มทุนบางทีราคาก็ไหลลงแล้ว ถ้าถือหุ้นตัวเดียวจะเอาเงินที่ไหนไปเพิ่มทุนครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"