เป็น FULLTIMETRADER มันผิดตรงไหนชีวิตฉันใครกํากับ

[lekkung]

เป็นผมก้อไม่แคร์ใครหรอก เพราะชีวิตผม ผมกำหนดเอง เปนกำลังใจครับ

[Tibular]

"Have the courage of your knowledge and experience.
If you have formed a conclusion from the facts and if you know your judgment is sound,
act on it - even though others may hesitate or differ.
You are neither right nor wrong because the crowd disagrees with you.
You are right because your data and reasoning are right."

-Benjamin Graham-


นี่แสดงว่าคุณยังไม่มั่นใจในตัวเองคับ
ต้องมั่นใจในตัวเองหน่อยคับ
แหม เรื่องแค่นี้ แคร์คนอื่นได้คับ แต่เราก็มั่นใจของเราด้วย
เวลาพูดกับคนอื่นก็เต็มปากไปเลยคับ
ว่าเป็นเทรดเดอร์

จะเข้าใจไม่เข้าใจไม่เป็นไร
ตัวเราเองต้องมั่นใจ ภูมิใจกับอาชีพที่เราเลือก
เราเป็นมืออาชีพคับในเรื่องนี้

คนอื่นทำแบบเราไม่ได้คับ เค้าถึงมองเราอย่างแปลกๆ
ไม่เป็นไปตามสามัญสำนึก ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่า รูปแบบ
การใช้ชีวิตในสังคมของเค้ามันเป็นแบบนั้น พอเจออะไร
ที่ไม่เหมือนก็ต้องสงสัย เป็นธรรมดาคับ เป็นรูปแบบหนึ่งของ
ความกลัวคับ คือมนุษย์เราอยู่เป็นกลุ่มก้อนมาได้ด้วย
การขัดเกลาทางสังคม หากทำอะไรแตกต่างออกไป
จะเกิดพฤติกรรมแบบนี้คับ เช่น ในสังคมไทยเอง ก็ยังคลางแคลงถึง
การทำมาหากินแบบนี้

เค้าก็เลือกชีวิตของเค้า เช่น ทำงานประจำไปก็เหมาะกับเค้าแล้ว
เราเป็นอาชีพอิสระก็เหมาะกับของเรา เท่านั้นเอง

ผมก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน ไม่มั่นใจ พะวงกับสายตาคนรอบข้าง
แต่พอคิดมาคิดไป เอ...เวลาเราลำบากเค้าลำบากกับเราหรือป่าวหว่า
คนอื่นเค้าจะมาวิพากษ์วิจารณ์เรา แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเราได้เหรอ เอ...ทำไมคนอื่น
ถึงมีอิทธิพลกับชีวิตเราจังหว่า โอเคคับ เราเป็นสัตว์สังคม
แต่บางเรื่อง บางอย่างไม่จำเป็นต้องไม่มั่นใจกับสายตาคนรอบข้าง

ชีวิตต่างคนต่างดูแลคับ เราก็ใส่ใจคนรอบข้างเหมือนเดิม ไม่ทำตัวแปลกไป

ทุกวันนี้เวลาใครถามผมว่าทำอะไร ผมก็ตอบไปอย่างมั่นใจว่า

"ผมเป็นนักลงทุนครับ"

[Power Investor]

ผมกลับไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถทำงานไปด้วยเล่นหุ้นไปด้วยล่ะครับ ถ้าไม่ได้เป็นพวกday traderนะ
ผมว่าความเครียดมันต่างกันมากเลยนะครับ
ทุกวันนี้เวลาหุ้นเน่า ผมยังรู้สึกดีทุกครั้งว่าเรายังมีงานประจำทำอยู่
เวลาหุ้นดีเราก็ไม่เครียดกับงานมากนักเพราะมีรายได้เสริมทางอื่น ไม่ต้องไปหวังว่าจะต้องได้เงินเดือนโบนัสมากมายนัก
การทำงานทำให้เราได้ท้าทาย ทำให้เรามีเพื่อน ทำให้เราได้แบ่งบันความรู้แก่ผู้อื่นหรือได้เรียนรู้จากผู้อื่น
อยู่บ้านทั้งวันกับครอบครัวก็ไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไปนะครับ
ทุกวันนี้ผมอาจกลับดึกบ้างเป็นบางช่วง แต่เสาร์อาทิตย์ผมก็เต็มที่กับครอบครัว มีพักร้อนยาวบางช่วงไปเที่ยวต่างประเทศกัน ใช้ชีวีตและใช้จ่ายได้เต็มที่ตามฐานะและlifestyle
ผมไม่เคยคิดดูถูกคนที่ชิวๆอยู่บ้านเล่นหุ้นหากินทุกวันแม้แต่พวกday trader แต่ผมก็ไม่ได้ยกย่องเค้าแน่นอน
ยังไงตัวผมถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องหาอย่างอื่นทำครับ ไปสอนหนังสือก็ยังดี หรือไปเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น หรือไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ไม่มีทางอยู่บ้านเทรดหุ้นทั้งวันแน่นอน มันง่ายเกินไปครับ

[KittipongS]

ผมกลับไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถทำงานไปด้วยเล่นหุ้นไปด้วยล่ะครับ ถ้าไม่ได้เป็นพวกday traderนะ
ผมว่าความเครียดมันต่างกันมากเลยนะครับ
ทุกวันนี้เวลาหุ้นเน่า ผมยังรู้สึกดีทุกครั้งว่าเรายังมีงานประจำทำอยู่
เวลาหุ้นดีเราก็ไม่เครียดกับงานมากนักเพราะมีรายได้เสริมทางอื่น ไม่ต้องไปหวังว่าจะต้องได้เงินเดือนโบนัสมากมายนัก
การทำงานทำให้เราได้ท้าทาย ทำให้เรามีเพื่อน ทำให้เราได้แบ่งบันความรู้แก่ผู้อื่นหรือได้เรียนรู้จากผู้อื่น
อยู่บ้านทั้งวันกับครอบครัวก็ไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไปนะครับ
ทุกวันนี้ผมอาจกลับดึกบ้างเป็นบางช่วง แต่เสาร์อาทิตย์ผมก็เต็มที่กับครอบครัว มีพักร้อนยาวบางช่วงไปเที่ยวต่างประเทศกัน ใช้ชีวีตและใช้จ่ายได้เต็มที่ตามฐานะและlifestyle
ผมไม่เคยคิดดูถูกคนที่ชิวๆอยู่บ้านเล่นหุ้นหากินทุกวันแม้แต่พวกday trader แต่ผมก็ไม่ได้ยกย่องเค้าแน่นอน
ยังไงตัวผมถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องหาอย่างอื่นทำครับ ไปสอนหนังสือก็ยังดี หรือไปเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น หรือไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ไม่มีทางอยู่บ้านเทรดหุ้นทั้งวันแน่นอน มันง่ายเกินไปครับ

ผมคิดว่ากระทู้นี้น่าจะพอช่วยอธิบายได้นะครับว่า ทำไมบ้างคนชอบถึงลาออกจากงานมาเป็นนักลงทุ้นเต็มเวลา หรือทำไมบ้างคนชอบทำงานไปด้วยลงทุนไปด้วยนะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=54590

[Power Investor]

เข้าใจเลย เจอคล้ายๆกันเลยครับ แต่ของพี่ยังดีกว่าผมเยอะครับที่เป็นกับคนนอก ของผมนี่คือคนในครอบครัวครับ

ไม่แปลกเลยครับ ถ้าลูกผมเรียนจบมาแล้วบอกว่าจะเป็นfulltime trader
ผมคงถามกลับไปว่าแค่นั้นเองหรอ
คือไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่นึกสภาพไม่ออกว่าวันๆนั่งดูจอหุ้นทั้งวันได้ยังไง ไม่เบื่อหรอ
ยังไงผมก็มองการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คืองานอดิเรกครับ it's just a hobby
ถ้าผมสนใจมากจนอยากทำเป็นอาชีพ ผมก็จะหางานทำเป็นfund managerครับ

ส่วนลูกผมก็คงแนะนำเค้าให้ไปหางานทำด้านนั้น ถ้าเค้าสนใจจริงๆ
จะไปเป็นmarketing หรือนักวิเคราะห์ หรือไปอยู่กองทุนไหนก็แล้วแต่
จนวันนึงเค้าอยู่ตัวแล้ว จะออกมาลงทุนเอง แล้วทำอย่างอื่นไปด้วย โดยไม่ต้องพึ่งเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียวก็พอ

ถ้าคุณมีfinancial freedomจริง คุณไม่จำเป็นต้องเปิดจอดูหุ้นเลยครับ
อย่าไปคิดว่าคนเค้าดูถูกคุณหรือไม่เข้าใจคุณเสมอไปครับ
บางทีคนเหล่านั้นเค้าอาจจะรู้อะไรดีกว่าคุณก็ได้ หรือเค้าอาจจะแค่มองว่าสิ่งที่คุณยึดไว้เลี้ยงดูครอบครัวคุณ มันไม่ยั่งยืน
ที่สำคัญ คิดดูให้ดีว่าคุณเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกคุณแล้วหรือยัง
คุณจะบอกเค้าอย่างไรเมื่อเค้าบอกว่าเค้าอยากเป็นแบบคุณ
ถ้าคืนนี้มีระเบิดนิวเคลียร์ ระเบิดในอเมริกา คุณจะทำอย่างไรกับเศษกระดาษที่คุณถืออยู่
คิดดูให้ดีนะครับ

[Nevercry.boy]

หมอ วิศวะ พ่อค้า ตำรวจ นักลงทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย

เรียกกันว่าอาชีพ และหลายคนก็เริ่มต้นอาชีพที่เค้าใฝ่ฝันด้วยตัวเขาเอง

ในไม่ช้าคนส่วนใหญ่จะจบลงที่คำสามคำ

1 ล้มเหลว
2 ล้มเลิก
3 งั้น ๆ เช้าชามเย็นชาม

มีคนส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จ

[lekkung]

ในมุมมองผม ผมไม่สนใจหรอกครับเปน fund manager ไปทำงานวิเคราะห์เงินให้คนอื่น ทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า อีกอย่าง มุมมองผมก้อคือ fulltime trader ผมไม่จำเปนต้องมานั่งดูจอทั้งวันทุกวันก้อได้ อยากไปเที่ยวก้อไป อยากนอนตื่นสายก้อได้ ลองคิดดูว่า การทำงานประจำ คุณจะลางานไปเที่ยวทีเดียว1เดือนได้มั้ย อย่างผมตอนนี้ทำงานบริษัท มีวันหยุดให้ปีละ15วัน ถ้าผมจะลาไปเที่ยวทีเดยวยาว1เดือนถ้าไม่ลาเดือน ธค ผมจะลาเดือนไหนได้มั่ง อะไรประมาณนั้น

ผมสงสัยที่ว่าคุณบอกว่าวันไหนเกิดระเบิดนิวเคลียร์ที่เมกาแร้วเศษกระดาษหุ้นจะทำยังงัย แร้วไม่ลองคิดกลับกันล่ะครับ ถ้าบริษัทที่คุณทำ เปนบริษัทฝรั่ง บริษัทแม่โดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย หรือ บ.ลูกค้าหลักของคุณที่อยุเมกาโดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย ไม่ต่างกันหรอกครับ

[Plant]

ผมมองแบบนี้นะครับ ผมมองว่าการที่คนเราจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร
จะเหมือน หรือไม่เหมือนคนอื่น มั่นขึ้นอยู่กับ "เป้าหมายและแผนการ " ของคนๆนั้นครับ
คำถามที่สำคัญ คือ สิ่งที่คุณทำมันอยู่ในแผนของคุณหรือเปล่า มันมีผลต่อเป้าหมายที่คุณวางไว้หรือไม่
ผมคิดว่าแต่ละคนมีทางเดินในแบบของตนเองที่สร้างขึ้นมา ไม่มีใครลอกใครได้หรอกครับ
ถ้ามันเป็นไปตามแผนที่คุณวางไว้ และมันเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายของคุณ ผมเชื่อว่าคุณจะไม่สนใจ
หรือลืมคำพูดของคนอื่น ที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คุณทำไปเลยครับ "เพราะคุณรู้ตัวว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่"

ปล. แล้วนี่เราเดินอยู่บนแผนการของเราหรือเปล่าเนี่ย?? 555+...^^)

[Power Investor]

ในมุมมองผม ผมไม่สนใจหรอกครับเปน fund manager ไปทำงานวิเคราะห์เงินให้คนอื่น ทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า อีกอย่าง มุมมองผมก้อคือ fulltime trader ผมไม่จำเปนต้องมานั่งดูจอทั้งวันทุกวันก้อได้ อยากไปเที่ยวก้อไป อยากนอนตื่นสายก้อได้ ลองคิดดูว่า การทำงานประจำ คุณจะลางานไปเที่ยวทีเดียว1เดือนได้มั้ย อย่างผมตอนนี้ทำงานบริษัท มีวันหยุดให้ปีละ15วัน ถ้าผมจะลาไปเที่ยวทีเดยวยาว1เดือนถ้าไม่ลาเดือน ธค ผมจะลาเดือนไหนได้มั่ง อะไรประมาณนั้น

ผมสงสัยที่ว่าคุณบอกว่าวันไหนเกิดระเบิดนิวเคลียร์ที่เมกาแร้วเศษกระดาษหุ้นจะทำยังงัย แร้วไม่ลองคิดกลับกันล่ะครับ ถ้าบริษัทที่คุณทำ เปนบริษัทฝรั่ง บริษัทแม่โดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย หรือ บ.ลูกค้าหลักของคุณที่อยุเมกาโดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย ไม่ต่างกันหรอกครับ

สิ่งที่คุณเขียนมาทั้งหมด บ่งบอกให้เห็นว่าคุณทำงานไม่เป็น ไม่เข้าใจการทำงาน เลยไม่คิดอยากจะทำ จึงคิดหาอะไรง่ายๆสบายๆทำมากกว่า ถ้าคุณทำแล้วมีความสุขประสบความสำเร็จก็ยินดีด้วยครับ
แต่ยังไงคุณก็ไม่ได้เก่งหรือฉลาดไปกว่าคนที่เค้าทำงานกันนะครับ

ปล. ความคิดที่ว่าทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า นี่น่าจะเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่นะครับ

[13055]

ผมว่าใจเย็นๆกันดีกว่านะครับ

แต่ละคนมีมุมมองชีวิตและทัศนคติไม่เหมือนกัน การมองต่างกันไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ไม่มีใครถูกใครผิดทั้งคู่ อย่าไปบังคับให้คนอื่นคิดเหมือนตัวเองเลยครับ

บางคนอาจจะแค่อยากมีเงินเหลือๆ บางคนอาจจะรู้สึกว่าเกิดมาทั้งทีต้องทำให้อะไรให้มีคุณค่า บางคนอาจจะแค่อยากหาความสุขไปเรื่อยๆ

บางคนอาจจะมองการลงทุนเป็นงานอดิเรก บางคนอาจจะมองการลงทุนเป็นงานหลัก บางคนมองการลงทุนคือ passive income ในอนาคต

เพราะคนเรามันต่างกันครับ


จะดีกว่าไหมถ้ายอมรับในความคิดต่าง


ด้วยความเคารพครับ

[xavi]

ผมก็เคยผ่านช่วงนี้มาครับ ไม่ได้เป็นในฐานะของ "นักลงทุน" แต่เป็นในฐานะของ "เจ้าของกิจการ"

ตอนออกจากบริษัทก็สัมผัสได้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของเวลาในการชีวิต เรื่องของกลุ่มสังคม แต่ที่มีผลมากสุดก็คือความเป็นห่วงจาก "คนในครอบครัว" ว่าเราจะทำได้ดีเหมือนเดิมยามเป็นลูกจ้างหรือไม่

ในวันนี้ผมผ่านช่วงยากลำบากในการเป็นเจ้าของมาได้สักพักแล้ว คือธุรกิจที่ทำอยู่เริ่มอยู่ตัว ไม่ยากเหมือนช่วงตั้งต้น ผมก็พบว่า

ทุกครั้งที่ผมเจอคนที่ออกจากงานมาทำธุรกิจส่วนตัว ก็มักจะเป็นห่วง เพราะทุกคนต้องผ่านช่วงยากลำบากในช่วงแรกอยู่นาน อาจจะยากกว่าการเป็นลูกจ้างด้วย และผมก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดูถูกกันในเรื่องนี้ครับ (คงมีบ้างแต่ไม่เยอะ) แต่ความรู้สึกว่าโดนมองแปลกๆหรือโดนดูถูก ก็น่าจะเป็นก็เพราะเราต้องมาเริ่มต้นหลายอย่างใหม่ๆ เช่น ไม่ได้ตื่นเช้าเหมือนเดิม เหงาๆตอนเช้าไม่ต้องคุยอะไรกับใคร คนอื่นออกไปนอกบ้านกันหมด เราอยู่เฝ้าหมู่บ้าน บางครั้งคนนอกดูเหมือนว่างงาน บางครั้งสถานการณ์แบบนี้ก็ทำให้เราคิดไปเองว่ามีคนเขามองเราครับ (จริงๆอาจจะไม่ได้ใครสนใจเรา 555)

แต่คนที่สนใจเรามากจริงๆ มักจะเป็นคนในครอบครัวครับ กว่าจะสบายใจได้ต้องผ่านสถานการณ์แห่งความเป็นห่วงนานเป็นปีๆ จนเห็นว่าเราได้ดีมากกว่าตอนเป็นพนักงาน อาจมีความไม่เห็นด้วยที่เราเลือกจะไม่รับเงินเดือนประจำมาเสี่ยงข้างนอก เปรียบเปรยว่างานประจำดีกว่าอยู่เสมอๆ ผมคิดว่าข้อนี้เป็นสิ่งดีที่มีคนเป็นห่วงเราครับ (ตอนนี้คนเป็นห่วงมากๆคือภรรยา ก็ออกจากงานมาเรียบร้อยแล้วครับ

แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเทียบกันได้หรือเปล่า ระหว่างออกมาเป็น "ผู้ประกอบการ" จริงๆ กับ "นักลงทุน" แต่คิดว่าก็ไม่น่าต่างกันมากเกินไป ผมก็คิดว่าเราก็สนใจจริงๆเฉพาะ "ครอบครัว" ก็พอครับ เพราะเรื่อง "คนนอก" เราไม่รู้ใจเขาจริงๆ บางครั้งเราอาจคิดไปเองก็ได้

[ศิษย์เซียน007]

คำว่า FULLTIMETRADER ในความหมายของผมคือตลาดที่เทรดเดอร์เทรดอยู่นั้นจะต้องทำให้รู้สึกถึงคำว่า money never sleeps ของgekko ได้ ซึ่งตลาดหุ้นมีเวลาเปิดและปิดประจำทุกวันทำให้ไม่รู้สึกถึงคำที่ว่าได้ครับและที่สำคัญผมคิดว่าตลาดหุ้นเหมาะสมแก่การลงทุนมากกว่าการเทรดเพราะส่วนตัวผมเชื่อว่าตลาดหุ้นออกแบบมาเพื่อการลงทุน แต่ตลาดที่ทำให้ผมรู้สึกถึงคำที่ว่าได้นั้นมีเพียงแห่งเดียวที่ผมค้นพบตลาดแห่งนี้เมื่อเปิดตลาดในวันจันทร์แล้วจะไม่มีเวลาปิดประจำวันเพราะจะไปปิดอีกทีเมื่อพ้นค่ำคืนวันศุกร์ไปแล้ว นั่นก็คือตลาดค่าเงินรวมถึงสินค้าคอมโมดิตี้ครับซึ่งตลาดแห่งนี้เหมาะสมกับการเทรดด้วยประการทั้งปวงซึ่งผู้ที่เทรดอยู่แวดวงนี้จึงเหมาะกับคำว่า FULLTIMETRADER ซึ่งชมนุมเทรดเดอร์ที่น่าสนใจในเวลานี้ก็คือที่ zultrade ครับ สามารถแวะไปดูผลงานและการเทรดที่ทุ่มเทของพวกเขาได้ครับ

เช่น สุดยอดFULLTIMETRADERท่านนี้มีผลงานน่าประทับใจมากแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะได้วางมือไปแล้วครับ

http://classic.zulutrade.com/TradeHisto ... ?pid=24490

[choochart]

ถ้าลูกเราขอมาเป็น daytrader ไม่ขอเรียนต่อแล้วเราจะคิดยังไง
Daytrade หาเงิน. สร้าง price
ทำงาน --> สร้าง value ให้ชีวิต
เกิดมาทำไม ถ้าไม่ทำประโยชน์ให้คนอื่นบ้าง (ด้วยการทำงาน real sector)


ปล. Buffet. Lynch ก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นโดยการเป็นผู้จัดการกองทุน

[harikung]

เข้าใจเลย เจอคล้ายๆกันเลยครับ แต่ของพี่ยังดีกว่าผมเยอะครับที่เป็นกับคนนอก ของผมนี่คือคนในครอบครัวครับ

ไม่แปลกเลยครับ ถ้าลูกผมเรียนจบมาแล้วบอกว่าจะเป็นfulltime trader
ผมคงถามกลับไปว่าแค่นั้นเองหรอ
คือไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่นึกสภาพไม่ออกว่าวันๆนั่งดูจอหุ้นทั้งวันได้ยังไง ไม่เบื่อหรอ
ยังไงผมก็มองการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คืองานอดิเรกครับ it's just a hobby
ถ้าผมสนใจมากจนอยากทำเป็นอาชีพ ผมก็จะหางานทำเป็นfund managerครับ

ส่วนลูกผมก็คงแนะนำเค้าให้ไปหางานทำด้านนั้น ถ้าเค้าสนใจจริงๆ
จะไปเป็นmarketing หรือนักวิเคราะห์ หรือไปอยู่กองทุนไหนก็แล้วแต่
จนวันนึงเค้าอยู่ตัวแล้ว จะออกมาลงทุนเอง แล้วทำอย่างอื่นไปด้วย โดยไม่ต้องพึ่งเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียวก็พอ

ถ้าคุณมีfinancial freedomจริง คุณไม่จำเป็นต้องเปิดจอดูหุ้นเลยครับ
อย่าไปคิดว่าคนเค้าดูถูกคุณหรือไม่เข้าใจคุณเสมอไปครับ
บางทีคนเหล่านั้นเค้าอาจจะรู้อะไรดีกว่าคุณก็ได้ หรือเค้าอาจจะแค่มองว่าสิ่งที่คุณยึดไว้เลี้ยงดูครอบครัวคุณ มันไม่ยั่งยืน
ที่สำคัญ คิดดูให้ดีว่าคุณเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกคุณแล้วหรือยัง
คุณจะบอกเค้าอย่างไรเมื่อเค้าบอกว่าเค้าอยากเป็นแบบคุณ
ถ้าคืนนี้มีระเบิดนิวเคลียร์ ระเบิดในอเมริกา คุณจะทำอย่างไรกับเศษกระดาษที่คุณถืออยู่
คิดดูให้ดีนะครับ

แล้วถ้าผมไม่ได้เป็นtraderและมีเงินมากพอที่จะเรียกว่าไม่ต้องทำงาน อาศัยปันผลก็อยู่ได้สบาย แบบนี้คำตอบของพี่จะต่างไปจากเดิมมั้ย

[Power Investor]

แล้วถ้าผมไม่ได้เป็นtraderและมีเงินมากพอที่จะเรียกว่าไม่ต้องทำงาน อาศัยปันผลก็อยู่ได้สบาย แบบนี้คำตอบของพี่จะต่างไปจากเดิมมั้ย

ไม่ต่างครับ เพราะทุกวันนี้ผมก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว และไม่ใช่จากปันผลด้วยนะครับ แค่จากดอกเบี้ยก็เหลือกินแล้ว
ทุกวันนี้เล่นหุ้นเป็นงานอดิเรก และที่ยังทำงานประจำอยู่ทุกวันก็เพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตยังมีความหมาย
จะนึกลงทุนทำกิจการของตัวเองก็รู้สึกจะเสี่ยงไปหน่อย แต่จะอยู่บ้านเฉยๆก็รู้สึกชีวิตมันไร้ค่าเกินไป
แต่ต้องยอมรับว่าบังเอิญได้งานดีครับ ไม่น่าเบื่อ มีทีมงานมีเพื่อนร่วมงานดี

ส่วนตัวยกย่องนายเก่าคนหนึ่ง เค้าร่ำรวยมาก แต่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าจริงๆ
ทุกวันนี้คนถามเค้าว่าเค้าทำอะไร เค้าตอบอย่างภูมิใจว่า I'm unemployed
แต่จริงๆแล้วเค้าก็มีอะไรทำเยอะครับ เค้าไปลงทุนทำกิจการหลายอย่าง เข้าไปบริหารงานเอง
สร้างคน สร้างงาน และที่สำคัญ สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเค้า

สุดท้ายแค่อยากจะบอกว่า ไม่อยากให้คนเห็นความสำคัญกับหุ้นจนมากเกินไป
หุ้นไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง ถ้ามันทำให้คุณร่ำรวยจนสุขสบายได้ก็ดีครับ
แต่สุดท้ายแล้วถ้าความพอใจคุณหยุดอยู่แค่การนั่งกินนอนกินไปวันๆ
ก็อย่าแปลกใจที่คนจะมองคุณด้วยความงงๆ ว่าคุณทำแค่นั้นหรือ

[harikung]

แล้วถ้าผมไม่ได้เป็นtraderและมีเงินมากพอที่จะเรียกว่าไม่ต้องทำงาน อาศัยปันผลก็อยู่ได้สบาย แบบนี้คำตอบของพี่จะต่างไปจากเดิมมั้ย

ไม่ต่างครับ เพราะทุกวันนี้ผมก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว และไม่ใช่จากปันผลด้วยนะครับ แค่จากดอกเบี้ยก็เหลือกินแล้ว
ทุกวันนี้เล่นหุ้นเป็นงานอดิเรก และที่ยังทำงานประจำอยู่ทุกวันก็เพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตยังมีความหมาย
จะนึกลงทุนทำกิจการของตัวเองก็รู้สึกจะเสี่ยงไปหน่อย แต่จะอยู่บ้านเฉยๆก็รู้สึกชีวิตมันไร้ค่าเกินไป
แต่ต้องยอมรับว่าบังเอิญได้งานดีครับ ไม่น่าเบื่อ มีทีมงานมีเพื่อนร่วมงานดี

ส่วนตัวยกย่องนายเก่าคนหนึ่ง เค้าร่ำรวยมาก แต่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าจริงๆ
ทุกวันนี้คนถามเค้าว่าเค้าทำอะไร เค้าตอบอย่างภูมิใจว่า I'm unemployed
แต่จริงๆแล้วเค้าก็มีอะไรทำเยอะครับ เค้าไปลงทุนทำกิจการหลายอย่าง เข้าไปบริหารงานเอง
สร้างคน สร้างงาน และที่สำคัญ สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเค้า

สุดท้ายแค่อยากจะบอกว่า ไม่อยากให้คนเห็นความสำคัญกับหุ้นจนมากเกินไป
หุ้นไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง ถ้ามันทำให้คุณร่ำรวยจนสุขสบายได้ก็ดีครับ
แต่สุดท้ายแล้วถ้าความพอใจคุณหยุดอยู่แค่การนั่งกินนอนกินไปวันๆ
ก็อย่าแปลกใจที่คนจะมองคุณด้วยความงงๆ ว่าคุณทำแค่นั้นหรือ

ผมยอมแล้วครับ ผมโต้แย้งสู้พี่ไม่ได้จริงเพราะพี่ตงมีประสบการณ์และเจนโลกมากกว่าผมเยอะ แต่ขออย่างนึงครับ ถ้าตัดสินสินว่าคนที่ลงทุนอย่างเดียว วันๆนอนอยู่บ้านเฉย(ซึ่งความจริงก็คงไม่ได้นอนอยู่บ้านเฉยๆหรอกนะ)นั้นเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าครับ การที่พี่ลงทุนและทำงานไปด้วยอย่างภาคภูมิใจไม่ได้หมายความว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำแบบพี่จะไม่มีคุณค่าเทียบเท่าพี่นะครับ

[f.escape]

Do not let the behavior of others destroy your inner peace. - Dalai Lama

[ดำ]

บางคนยึดติดกับความเชื่อของตัวเองอย่างมากๆ และยังไปคิดว่าความเชื่อของคนอื่นที่ไม่ตรงกับเราคือใช้ไม่ได้

ผมอยากรู้ว่า การไปทำงานตอกบัตรเช้าเย็นนี่มันสร้างประโยชน์แก่สังคมมากนักเหรอ การเป็นเจ้าของธุรกิจมันมีประโยชน์มากนักใช่มั้ย

ถามตัวเองดูซิว่า เกิดมาเพื่ออะไร

[sunrise]

มุมมองต่างกันครับ

เคยทำงานวันละ12ชมเครียดสุดขีด
คุมคนสี่สิบกว่าคน ป.ตรีขั้นต่ำ
ป.โทเกือบสิบคน

ให้บริษัทต่างชาติ
งานChallenge มากแต่เครียดสุดขีด
บริษิทเตรียมเลย์เอาท์50% ของพนักงาน
เราจะทำไงบางคนทำงานมาแล้ว25ปีแทบจะก่อนเราเกิดอีก

เคยประชุมจนเงินเก็บหายไปมากกว่าทำงานทั้งปี
มาร์โทรมาหาเพื่อนโทรมาหาเราบอกเรื่องหุ้นเพิ่มทุน
แต่เราติดประชุมสุดท้ายปิดมือถือ ออกมาเดินแทบไม่เป็น

ทุกวันนี้ผมเห็นคนออกมาลงทุนอย่างเดียว
ผมก็ว่าเค้ามีเหตุผลของเค้า
ผมเห็นคนทำงานไปด้วยลงทุนไปด้วยผมก็ว่าเค้ามีเหตุผลของเค้า
ผมว่าคนทำงานอย่างเดียวไม่ลงทุนเค้าก็มีเหตุผลของเค้า

ทางใครก็ทางมัน

[Power Investor]

ผมยอมแล้วครับ ผมโต้แย้งสู้พี่ไม่ได้จริงเพราะพี่ตงมีประสบการณ์และเจนโลกมากกว่าผมเยอะ แต่ขออย่างนึงครับ ถ้าตัดสินสินว่าคนที่ลงทุนอย่างเดียว วันๆนอนอยู่บ้านเฉย(ซึ่งความจริงก็คงไม่ได้นอนอยู่บ้านเฉยๆหรอกนะ)นั้นเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าครับ การที่พี่ลงทุนและทำงานไปด้วยอย่างภาคภูมิใจไม่ได้หมายความว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำแบบพี่จะไม่มีคุณค่าเทียบเท่าพี่นะครับ

ผมไม่คิดเช่นนั้นแน่นอนครับ
ผมแค่แชร์ความคิดให้กับเจ้าของกระทู้ เป็นอีกมุมมองหนึ่งว่าคนอื่นเค้ามองfulltime traderยังไง
สุดท้ายแล้วความสุขอยู่ที่ความพอใจของตัวคุณเอง
บังเอิญเค้าไปตั้งคำถามกับสังคม ซึ่งไม่มีถูกผิดอยู่แล้ว

[lekkung]

ในมุมมองผม ผมไม่สนใจหรอกครับเปน fund manager ไปทำงานวิเคราะห์เงินให้คนอื่น ทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า อีกอย่าง มุมมองผมก้อคือ fulltime trader ผมไม่จำเปนต้องมานั่งดูจอทั้งวันทุกวันก้อได้ อยากไปเที่ยวก้อไป อยากนอนตื่นสายก้อได้ ลองคิดดูว่า การทำงานประจำ คุณจะลางานไปเที่ยวทีเดียว1เดือนได้มั้ย อย่างผมตอนนี้ทำงานบริษัท มีวันหยุดให้ปีละ15วัน ถ้าผมจะลาไปเที่ยวทีเดยวยาว1เดือนถ้าไม่ลาเดือน ธค ผมจะลาเดือนไหนได้มั่ง อะไรประมาณนั้น

ผมสงสัยที่ว่าคุณบอกว่าวันไหนเกิดระเบิดนิวเคลียร์ที่เมกาแร้วเศษกระดาษหุ้นจะทำยังงัย แร้วไม่ลองคิดกลับกันล่ะครับ ถ้าบริษัทที่คุณทำ เปนบริษัทฝรั่ง บริษัทแม่โดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย หรือ บ.ลูกค้าหลักของคุณที่อยุเมกาโดนนิวเคลียร์จะเปนยังงัย ไม่ต่างกันหรอกครับ

สิ่งที่คุณเขียนมาทั้งหมด บ่งบอกให้เห็นว่าคุณทำงานไม่เป็น ไม่เข้าใจการทำงาน เลยไม่คิดอยากจะทำ จึงคิดหาอะไรง่ายๆสบายๆทำมากกว่า ถ้าคุณทำแล้วมีความสุขประสบความสำเร็จก็ยินดีด้วยครับ
แต่ยังไงคุณก็ไม่ได้เก่งหรือฉลาดไปกว่าคนที่เค้าทำงานกันนะครับ

ปล. ความคิดที่ว่าทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า นี่น่าจะเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่นะครับ

ผมเฉยๆนะครับ ผม่ไม่ได้สนใจว่าผมทำงานเป็นหรือไม่เป็น ผมมองแค่ว่า เป้าหมายที่ผมต้องการทำคืออะไร แร้วผมก้อมุ่งไปถึงจุดนั้นครับ ผมอาจจะเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจ + ค้าขายมาแต่เล็ก ทำให้มุมมองผมเกี่ยวกับการทำงานกินเงินเดือนจะค่อนข้าง bias เล็กน้อยน่ะครับ
แล้วคุณรู้ได้ยังงัยครับว่าผมเก่งหรือไม่เก่ง เอาอะไรเปนตัววัดหรอครับ?
มุมมอง ประสบการณ์ผมอาจจะสู้คุณไม่ได้ก้อไดัครับ ผมเปิดใจรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ที่คุณตอบกลับมาเนี่ย อารมณ์ดูถูก + ถากถางนะครับ

[Zolaa]

อันไหนสุขกว่าก็ทำไปเหอะครับนานาจิตตัง..อย่าลืมเผื่อแผ่คนอื่นบ้างถ้าเราสบายแล้ว นักลงทุนทำเพื่อตัวเองอย่างเดียวกับพวกทำงานประจำที่ทำงานไปวันๆก็คงไม่ต่างกันหรอกมั้ง มันอยู่ที่ใครจะแบ่งปันมากกว่ากันแค่นั้นละครับการวัดค่าของคน ถ้ายังเห็นแก่ตัวมากไ่ม่ว่าจะงานประจำจะนักลงทุนเต็มเวลาก็คงไร้ค่าเท่ากันในความเห็นผมนะครับ

[MASTANG]

ผมขอบขอบคุณในการแนะนําอีกครั้งนะครับ และก็ไม่อยากให้กระทู้ผมเกิดความเข้าใจผิดหรือว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ ที่ผมมาpost ก้เพื่อจะแชร์ประสบการณ์และก็ถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆพี่ในนี้นะครับ ผมบอกก่อนนะครับว่าที่ผมบอกว่าเป็น FULLTIME TRADER นั้น จริงๆแล้ว ผมก็มีjobที่คนมาว่าจ้างอยู่บ้างครับ เพราะว่าที่ผ่านมาผมทํางานติดต่อคนมามีconnectionมากพอสมควร ไม่ว่าในส่วนงานราชการหรือติดต่อกับพวกสํานักพระราชวังนะครับ ก็เลยมีคนติดต่อมาให้เป็นแบบนายหน้าพอสมควรนะครับ แต่ว่าผมไม่ต้องไปofficeนะครับ ก็มีออกไปติดต่อพบปะพูดคุยประชุมอยู่บ้างนะครับ ไม่ได้ถึงกับว่า นั่งดูหุ้นทั้งวัน ผมได้ตอบข้อสงสัยของพี่ท่านบนแล้วนะครับ สว่นทําไมผมไม่ทํานประจํานะครับ ก็คือที่ออกมาเพราะว่าเจ้านายต้องการปิดบริษัท และผมออกมาอยู่บ้านได้ดูแลพ่อแม่ซึ่งผมไม่ได้ดูแลท่านมาหลายปีตอนอยู่อังกฤษนะครับ ผมไม่อยากว่ามีเงินแล้วต้องไปจ้างพยาบาลมาดูแลนะครับ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งสําหรับ กําลังใจและการเข้ามาcomment กันนะครับ

[kraikria]

เป็นห่วงอยู่อย่างเดียว คือความพร้อมของการลงทุน ถ้าพร้อมก็ทำไปเลยแต่ก็อย่าประมาทนะครับ

ประสบการณ์สมัยต้มยำกุ้งมันมักจะมาเตือนผมเสมอ ว่าสุดท้ายเงินจำนวนมากเหลือแค่กระดาษแผ่นเดียวมันเป็นยังไง

สุดท้ายเราไม่ต้องแคร์ใครมากครับ เรารู้ตัวเองดีที่สุดเป็นพอ

[ดำ]

สว่นทําไมผมไม่ทํานประจํานะครับ ก็คือที่ออกมาเพราะว่าเจ้านายต้องการปิดบริษัท และผมออกมาอยู่บ้านได้ดูแลพ่อแม่ซึ่งผมไม่ได้ดูแลท่านมาหลายปีตอนอยู่อังกฤษนะครับ ผมไม่อยากว่ามีเงินแล้วต้องไปจ้างพยาบาลมาดูแลนะครับ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งสําหรับ กําลังใจและการเข้ามาcomment กันนะครับ

เแค่เหตุผลที่ได้ดูแลปรนนิบัติผู้มีพระคุณก็เกินพอแล้วครับ

[Power Investor]

ผมขอบขอบคุณในการแนะนําอีกครั้งนะครับ และก็ไม่อยากให้กระทู้ผมเกิดความเข้าใจผิดหรือว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ ที่ผมมาpost ก้เพื่อจะแชร์ประสบการณ์และก็ถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆพี่ในนี้นะครับ ผมบอกก่อนนะครับว่าที่ผมบอกว่าเป็น FULLTIME TRADER นั้น จริงๆแล้ว ผมก็มีjobที่คนมาว่าจ้างอยู่บ้างครับ เพราะว่าที่ผ่านมาผมทํางานติดต่อคนมามีconnectionมากพอสมควร ไม่ว่าในส่วนงานราชการหรือติดต่อกับพวกสํานักพระราชวังนะครับ ก็เลยมีคนติดต่อมาให้เป็นแบบนายหน้าพอสมควรนะครับ แต่ว่าผมไม่ต้องไปofficeนะครับ ก็มีออกไปติดต่อพบปะพูดคุยประชุมอยู่บ้างนะครับ ไม่ได้ถึงกับว่า นั่งดูหุ้นทั้งวัน ผมได้ตอบข้อสงสัยของพี่ท่านบนแล้วนะครับ สว่นทําไมผมไม่ทํานประจํานะครับ ก็คือที่ออกมาเพราะว่าเจ้านายต้องการปิดบริษัท และผมออกมาอยู่บ้านได้ดูแลพ่อแม่ซึ่งผมไม่ได้ดูแลท่านมาหลายปีตอนอยู่อังกฤษนะครับ ผมไม่อยากว่ามีเงินแล้วต้องไปจ้างพยาบาลมาดูแลนะครับ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งสําหรับ กําลังใจและการเข้ามาcomment กันนะครับ

ถ้าตามนี้ผมเห็นด้วยกับคุณเลยนะครับ
ถ้าอย่างนั้นผมอาจจะเข้าใจนิยามคำว่าfulltime traderผิดไป ต้องขออภัยด้วย
ผมไม่ได้สนับสนุนเรื่องทำงานประจำเพราะไม่ได้เหมอะกับทุกคนเสมอไป
แต่ผมสนับสนุนให้ทำอะไรมากกว่าแค่tradeหุ้นเพียงอย่างเดียว
ยิ่งเป็นอะไรที่คืนประโยชน์ให้สังคมได้ยิ่งดี เช่นการให้ความรู้แก่คนอื่น

[Power Investor]

แล้วคุณรู้ได้ยังงัยครับว่าผมเก่งหรือไม่เก่ง เอาอะไรเปนตัววัดหรอครับ?

มาจากประโยคที่ว่า"ผมไม่สนใจหรอกครับเปน fund manager ไปทำงานวิเคราะห์เงินให้คนอื่น ทำดีเสมอตัว ทำพลาดโดนด่า"ครับ คนที่เป็นผู้จัดการกองทุนเค้าคงหัวเราะ
ว่าแต่Warren Buffetก็เป็น Fund Managerคนนึงเหมือนกันนะครับ

[zephyr]

เข้ามาอ่านอีกรอบนึง

คนเรามีชีวิตและแนวคิดแตกต่างกันครับ
ผมทำงานเป็นลูกจ้างมาตลอดจนปัจจุบัน อายุเกือบ 40 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
เพื่อนผมหลายคนเค้าก็ทั้งเล่นทั้งลงทุนในหุ้น แล้วก็ทำงานธุรกิจส่วนตัวด้วย
เค้าไม่ชอบคน trade หุ้นอย่างเดียว เค้าเคยบอกผมว่า พวกนี้ไม่สร้างประโยชน์อะไร

ส่วนตัวผม ผมมองว่าคนเราต่างกัน เพื่อนผมและหลายๆคนอาจคิดอย่างนั้น
เค้าอาจมีเป้าหมายที่สวยหรู ในการทำงานใน real sector

แต่เป้าหมายชีวิตผมไม่ได้มีอุดมการณ์ขนาดนั้น
ผมแค่ต้องการทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจจริงๆ ไม่ใช่เป็นลูกจ้างทำงานที่บางครั้งไม่ได้ชอบ บางครั้งก็โอเค

ดังนั้นผมไม่มีอคติกับ full time investor/trader ตราบใดที่เค้าทำสิ่งที่สุจริต และเค้าพอใจแบบนั้น
ผมเองถ้ามีโอกาส ผมคงไม่ทำงานเป็นลูกจ้างแล้ว แต่อยากทำอะไรที่ตัวเองชอบเล็กๆน้อยๆ
โดยไม่ต้องคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นหาเลี้ยงชีพได้หรือไม่มากกว่า

[MarcoPolo]

Live Like You Mean it!

[drsp]

สําหรับคนบางคน รวมทั้งผม หุ้นคือวิถีชีวิต หุ้นคือลมหายใจ
หุ้นคือความท้าทาย หุ้นคือความสนุก
หุ้นคือผลตอบแทนจํานวนมหาศาลที่ไม่เคยคิดมาก่อน
หุ้นคือกําไรนับล้านนับสิบล้านนับร้อยล้านต่อปี
หุ้นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงสถานะความเป็นอยู่ของครอบครัวให่ดีขึ้น
ทรัพย์สินมากมายเกือบทั้งหมดอยู่ในหุ้น
แล้วจะให้คนแบบนี้ไปทํางานประจําเพื่ออะไร

ถ้าคุณลองแนะนําโจลูกอีสาน หมอสามัญชน narisว่า
เล่นหุ้นทั้งวันไม่สร้างสรรค์ หางานประจําดีกว่าไหม
คุณคิดว่าคนเหล่านี้จะตอบว่าอย่างไร

ในทางตรงกันข้าม
บางคนที่ได้ทํางานที่ตัวเองพอใจ
และเล่นหุ้นบ้างด้วยเหตุผลต่างๆ
แต่ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย
ก็ย่อมเป็นสิทธิของเขา

ผมว่าคนในที่นี้ล้วนแต่ปัญญาชน
พูดคุยแนะนําด้วยใจเมตตาและกัลยาณมิตรดีกว่า
อย่าตัดสินคนอื่นด้วยความคิดตัวเอง
ถ้าคิดแต่ว่าผมถูกคุณผิดตลอด
อยู่ที่ไหนก็มีแต่สร้างความขัดแย้ง
นักลงทุนเหมือนกันเดินฝ่าทุ่นระเบิดเหมือนกัน
จะระบายอารมณ์ใส่กันเพื่ออะไร