เป็น FULLTIMETRADER มันผิดตรงไหนชีวิตฉันใครกํากับ

[MASTANG]

ขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆพี่ในนี้หน่อยนะครับ ว่ามีใครเป็นเหมือนผมไหม ปัจจุบันผมเป็น Fulltime trader โดยที่เมื่อกอ่นหน้านี้ ผมก็เป็นพนักงานบริษัทเหมือนคนอื่นทั่วไปแหละครับ เวลาไปรับส่งลูกที่โรงเรียน คนเห็นเราแต่งตัวดีใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงสแลคเขาก็จะชมว่าเหมาะกันดีกับแฟนที่เป็นดอกเตอร์ลูกก็เรียนหนังสือเก่ง แต่พอวันเวลาผ่านไปเราออกจากงานประจําด้วยเหตุผลจากเจ้านายและของเรา เราก็เลยออกมาเป็น Fulltime trader พอทีนี้ เราไปรับส่งลูกที่โรงเรียนเราก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไป พ่อแม่เพื่อนเริ่มจะสงสัยว่าทําไมเราเปลี่ยนไป ก็ไปถามลูกเรา ลูกเราบอกว่า พอ่นั่งดูหุ้นทั้งวันเลย หลังจากนั้นสายตาของพ่อแม่เพื่อนก็มองเราเปลี่ยนไป จนเราดูออก ในสายตาคนส่วนใหญ่เขายังมองตลาดหุ้นว่าเหมือนการพนันอยู่ผมเข้าใจ แต่ปัจจุบันผมสามารถทําเงินได้มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า ซึ่งผมก็ภูมิใจนะ แต่สายตาที่มองเราจากเพื่อนลูกที่โรงเรียนและจากเพื่อนบ้านที่มาแอบถามลูกเราว่าพ่อไม่ไปทํางานแล้วเหรอเห็นขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วก็กลับบ้านลูกก็บอกพอ่เล่นหุ้นอย่างเดียว สายตาเพื่อนบ้านก็เปลี่ยนไปอีก แต่ผมก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไรนะ เพราะว่าผมภูมิใจอยู่ลึกๆว่าถึงแม้ปัจจุบันผมจะไม่ได้ทํงานประจํา แต่ผมก็สามารถทําเงินจากการลงทุนในหุ้นจนสามารถซื้อที่ดินที่ลําปางได้2ไร่เพื่อที่จะปลูกบ้านให้พ่อแม่และครอบครัวของผม ซึ่งในปี58นี้ผมคงได้ย้ายภูมิลําเนาไปอยู่ที่นั่น ซึ่งพ่อแม่ท่านอายุมากแล้วท่านจะได้อยู่ที่อากาศดีๆ แฟนผมก็ย้ายไปเป็นอาจารย์ที่นั่น ลูกผมก็ย้ายไปเรียนที่นั่นซึ่งผมวางแผนไว้หมดแล้วสว่นตัวผมก็คง เป็นพ่อบ้านและก็เทรดหุ้นไปด้วยกับบรรยากาศทิวเขาต้นสักมากมาย ชีวิตที่ผ่านมาผมเคยอยู่อังกฤษมา5ปีทํางานในร้านอาหารบ้างส่งหนังสือพิมพ์บ้างเป็นพนักงานทําความสะอาดบ้างแต่ก็ไม่เคยโดนสายตาดูถูกกันขนาดนี้เลยนะทํางานเงินเดือนกับfulltime trader มันต่างกันขนาดนี้เลยหรือครับ สไตล์การลงทุนของผมอาจจะไม่ใช่vi ร้อยเปอร์เซนต์แต่ผมก็อยู่ในตลาดหุ้นมานานพอสมควรตั้งแต่ตอนอยู่อังกฤษผมเปิดพอร์ทตอนอยู่ที่นั่นเลย วันแรกที่เริ่มเทรด set ก็ลงไปร้อยกว่าจุดเลยงงเลย แต่ก็ศึกษามาเรื่อยๆก็ถึงปัจจุบันก็เลยออกมาเป็นFulltime trader เลยแต่ก็ไม่ได้เก่งไรมากหรอกพอเลี้ยงครอบครัวพ่อแม่เมียและลูกได้เท่านั้นเองครับ ก็ยังดีที่ได้กําลังใจจากครอบครัวเราเลยไม่ท้อจากสายตาคนพวกนั้นนะครับ ไม่ทราบเพื่อนๆพี่ๆมีใครโดนมองไม่ได้เหมือนกับผมไหมครับ ช่วยกันมาแชร์หน่อยครับ ขอบคุณครับ

[ดำ]

ที่เล่ามาน่ะ ผมว่าคุณแคร์สังคมมากเลยแหละ ไม่ใช่ตามที่บอกว่าไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่

ลองถามตัวเองใหม่ครับว่า ชีวิตเราอะไรสำคัญที่สุด เงิน ชื่อเสียง อำนาจ ครอบครัว ประโยชน์ต่อสังคม หรือความหลุดพ้นจากทุกข์

[dome@perth]

Fulltime Trader ทำให้ผมนึกถึง เจ้าพ่อคาสิโนครับ

[bono]

สังคมโรงเรียนลูกผมนี่เป็นอะไรที่คล้ายๆ กับที่คุณ MASTANG เล่ามาเลยครับ
การเปลี่ยน การแต่งตัว กับ รถยนต์ สามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงต่อคนรอบข้าง
ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะครับ เพียงแต่มันเป็นแบบนี้อะครับ

[picatos]

คนเราเวลาเริ่มต้นที่จะทำอะไรที่แปลก แตกต่างจากคนอื่น ก็จะเจอสายตามองแบบนี้แหละครับ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูก หรือเป็นสิ่งที่ผิด

และไม่ว่าจริงๆ แล้วสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกหรือสิ่งที่ผิด ยิ่งเราทำอะไรที่ไปทำลายความเชื่อ ทำลายขนบ ทำลายกรอบความคิด ที่เค้าถูกโรงงานอุตสาหกรรม ที่ชื่อว่าสังคม ผลิตออกมาให้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปกำหนดให้เค้าเหล่านั้นเดินตามเส้นทางตามกระแสสังคม เค้าจะยิ่งมีปฏิกิริยาต่อต้านต่อสิ่งที่เราทำ...​ ธรรมชาติของอัตตาของตัวเค้าจะยิ่งปกป้องตัวเค้าเองว่าการเดินตามกระแสสังคมเป็นสิ่งที่ถูก และคนที่เป็นขบถสังคมเป็นสิ่งที่ผิด จะทำให้เค้ามอง วิพากษ์ วิจารณ์ ไปจนถึงดูถูก เยียดหยาม ต่างๆ นานา ได้มากมาย

แต่วิถีของขบถ ก็คือ วิถีของขบถอยู่วันยังค่ำ...​ ถ้าคุณเป็นคนที่มีเจตจำนงเสรี ถ้าคุณเป็นคนที่กล้าที่จะทำสิ่งที่ต่างจากคนอื่น ถ้าคุณมี passion ที่จะทำสิ่งๆ นั้นมากเพียงพอ... สายตาของคนเหล่านั้น ความคิดเห็นของคนเหล่านั้น จะเป็นเพียงแค่ noise ที่เข้ามากระทบหู ให้หงุดหงิด รำคาญใจได้ในบางครั้ง... แต่คุณก็ยังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่คุณเชื่อต่อไป

แต่ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเพื่อนนะครับ... สุดท้าย จิตวิญญาณของความเป็นขบถจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้าหากัน... คุณอาจจะเสียสังคมคนปกติที่เดินตามกระแสสังคมไป... แต่สิ่งที่คุณจะได้มาใหม่ก็คือสังคมคนที่เป็นขบถเช่นเดียวกับคุณ ที่เข้าใจหัวอกหัวใจของขบถด้วยกัน

ขอให้มีความสุขและสนุกกับการฝืนกระแสสังคมครับ

[zephyr]

ผมว่าสังคมก็อาจจะไม่ค่อยให้เกียรติกับอาชีพนี้เท่าไหร่
แต่ว่าถ้าเราตัดสินใจทำแบบนั้น ก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก เพราะเราทำงานสุจริตครับ

สรุปคือ ก็ฟังดูไม่เท่ แต่เราอยู่รอดได้ก็พอแล้วล่ะครับ

[satit]

จุดสำคัญถ้าลูกและแฟนเข้าใจคุณและเป็นกำลังใจให้ ก็ไม่ต้อง care คนรอบข้าง แต่คงต้องพยายามหน่อยเพราะสังคมเรายังชอบเปรียบเทียบและยกย่องหัวโขนครับ อีกอย่างอยากให้เน้นที่ความสุขและความชอบในงานของเรา มากกว่าตัวเงินเพราะเราอาจไม่สามารถทำเงินได้มากตลอดไป และครอบครัวต้องเข้าใจเราด้วยเมื่อมันเกิดขึ้น เป็นกำลังให้ครับ

[ดำ]

แต่วิถีของขบถ ก็คือ วิถีของขบถอยู่วันยังค่ำ...​ ถ้าคุณเป็นคนที่มีเจตจำนงเสรี ถ้าคุณเป็นคนที่กล้าที่จะทำสิ่งที่ต่างจากคนอื่น ถ้าคุณมี passion ที่จะทำสิ่งๆ นั้นมากเพียงพอ... สายตาของคนเหล่านั้น ความคิดเห็นของคนเหล่านั้น จะเป็นเพียงแค่ noise ที่เข้ามากระทบหู ให้หงุดหงิด รำคาญใจได้ในบางครั้ง... แต่คุณก็ยังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่คุณเชื่อต่อไป

แต่ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเพื่อนนะครับ... สุดท้าย จิตวิญญาณของความเป็นขบถจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้าหากัน... คุณอาจจะเสียสังคมคนปกติที่เดินตามกระแสสังคมไป... แต่สิ่งที่คุณจะได้มาใหม่ก็คือสังคมคนที่เป็นขบถเช่นเดียวกับคุณ ที่เข้าใจหัวอกหัวใจของขบถด้วยกัน

ขอให้มีความสุขและสนุกกับการฝืนกระแสสังคมครับ

ขอร่วมขบวนการขบถสังคมด้วยคนครับ

[saichon]

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ
ผมยังไม่ใช่นักลงทุนเต็มเวลา แต่ผมเคยคิดประเด็นนี้ไว้นิดหน่อย
(แฮ่...เผื่อผมมีวันนั้นเหมือนพี่ๆบ้าง)

วันนี้ผมจะบอกคนรอบตัวที่ผมสนิท ว่าผมกำลังทำอะไร และมีแผนอะไรในอนาคต
ผมคงไม่ถึงขั้นไม่แคร์ใครและสามารถตัดขาดความรู้สึกคนรอบข้างได้ทั้งหมด
แต่ขอแค่คนที่เราคิดว่าสำคัญกับเรา เข้าใจเรา แค่นั้นพอครับ...

ได้อ่านประสบการณ์ของพี่จขกท.ก็ได้ไอเดียใหม่ว่า ตอนผมไปส่งลูกเรียนวันแรก
ผมนุ่งกางเกงขาสั้น ใส่แตะไปดีกว่า คนที่เห็น เค้าจะได้ไม่ต้องคาดหวังอะไรเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน

[luz666]

อย่าไปแคร์ครับ มีอาชีพสุจริต เลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้ก็น่าภูมิใจแล้วครับ ยิ่งเป็นงานที่มีอิศระและเราชอบด้วย น่าอิจฉาออกครับ ผมมีเสื้อตัวหนึ่งเขียนว่า

"They all laugh because I'm difference. I laugh because they're all the same"

ดังนั้น ยืดอกอย่างภาคภูมิใจดีกว่าครับ

[kjarrung]

WARREN Buffet ก็เป็นนักลงทุนเต็มเวลา สมัยเขากลับไปอยู่โอบาฮ่า เขาก็ทำงานอยู่บ้าน อ่านรายงานประจำปี จนเดี๋ยวนี้ บริหารเบิกไชย์ ก็ยังนั่งอ่านทั้งวัน ไม่เห็นว่าเขาจะแคร์ใคร ชีวิตก็ประสบความสำเร็จ ผมว่าอยู่ที่ความต้องการของเรามากกว่า ผมก็กำลังจะเป็นอย่างคุณเร็ว ๆ นี้ แต่ตอนนี้ยังทำงานประจำ ควบกำลงทุนไปก่อน

[neong]

ผมคิดว่า ตอนนี้มันยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมไทยครับ แต่ตอนนี้เริ่มมีนักลงทุนหุ้นเต็มเวลามากขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่คนที่เรียนจบปริญญา. แล้วเลือกที่จะเป็นนักลงทุนหุ้นเต็มเวลาเลยก็มีมากขึ้น. ถ้ามีคนออกมาทำแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วประสบความสำเร็จในระยะยาว. ก็จะมีคนทำตามมากขึ้น พอถึงตอนนั้นก็อาจจะกลายเป็น
เรื่องธรรมดาสำหรับสังคมไทยครับ.

[netirut]

ถ้าใจเราฝากไว้กับคนอื่น ชีวิตนี้ก็เป็นไม่ใช่ของเราอีกต่อไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

[Factor_9]

เมื่อตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ เพื่อนมองว่าผมเป็นคนบ้าครับพี่

แต่ผมก็ไม่แคร์ครับ เพราะรู้ว่าเรากำลังทำอะไร

[leky]

คนที่คุณบอกว่ามองคุณด้วยสายตาแปลก ๆ เค้าไม่ได้มาจ่ายเงินค่าข้าว ค่าเทอมให้ลูกคุณ แล้วคุณก็ทำงานสุจริต ไยต้องไปสนใจสายตาของคนเหล่านั้นครับ

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าคือที่คุณบอกว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ ผมไม่แน่ใจว่าความหมายของคุณคือเดย์เทรดหรือเปล่า ถ้าใช่ คุณก็ต้องเผื่อใจไว้ว่ายามตลาดหุ้นสดใส การทำกำไรในวิธีการแบบนี้มันย่อมไม่ยาก แต่ควรจะเผื่อใจหรือหาทางหนีทีไล่ถ้าวันหนึ่งตลาดมันไม่เป็นใจด้วยครับ เพราะไม่งั้นถ้าถึงตอนนั้นเกิดไม่มีรายได้ขึ้นมาจนต้องกลับไปทำงานประจำ คุณก็จะต้องมารู้สึกอีกว่าคนเหล่านั้นก็จะมองว่าคุณล้มเหลวถึงต้องเลิกเล่นหุ้นแล้วกลับไปทำงานอีก

[netirut]

ถ้าใจเราฝากไว้กับคนอื่น ชีวิตนี้ก็เป็นไม่ใช่ของเราอีกต่อไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

[dr1]

ฟังดูเหมือนถูกตัดสินจากเปลือกนอกที่ไม่เหมือนคนทั่วไป
รวมทั้งใส้ใน(ความคิด)ซึ่งก็แตกต่างอีก

ผมไม่ใช่เทรดเดอร์ (และไม่คิดว่าจะเป็น)
ยังเป็นลูกจ้างชั่ว(คราว)รายวันหน่วยราชการบางแห่งอยู่
ยังพยามเลี้ยงชีวิตด้วยงานชั่วคราวจนกว่าปันผลจะเลี้ยงเราได้

แต่เรื่องเปลือกนอก ผมเนี่ยดูจะยิ่งถูกตัดสินยิ่งกว่าท่านmustangอีกนะครับ
นิสัยทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านนี่ (จะเรียกเด็กแนวก็ได้)
เป็นมาตั้งแต่ก่อนลงทุนอีกครับ

แต่ก่อนผมใช้คาถาประจำตัวว่า
"กูบ้า อย่ามายุ่งกะกู"(ปล่อยผมไปเถอะ ไม่ต้องสนใจ)
"อิไซกูนิ"(แปลว่าผมเป็นอย่างนี้ จะทำไมผมเหรอ)
ถ้ามั่นใจแนวทางของตัวเอง จะเอาไปใช้บ้างก็ได้นะครับ

[Flashy]

ผมก็กำลังวางแผน fulltime เช่นกันครับ
เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา ...เงินยังน้อยค่อยๆสะสมอยู่ครับ
และคิดไว้แล้วว่า อนาคตจะต้องเจอปัญหาแบบพี่ๆ แน่นอน

ชื่นชมพี่ๆ fulltime หลายคนนะครับ ที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ โดยไม่ตามกระแสสังคม
ส่วนตัวผม ยังทำใจไม่ค่อยได้ครับ เพราะเท่าที่เซอเวย์คนรอบข้าง ก็มองว่าความคิดผมมันแปลกดี

ก็เลยมีความคิดว่า จะหาธุรกิจเล็กๆบังหน้าครับ เช่น เปิดร้านกาแฟ ขายขนม เบเกอรี่
หรือไม่ก็ซื้อธุรกิจอะไรซักอย่างไปเลยครับ ไม่ต้องลงไปบริหารเองมาก เช่น อพาร์ทเม้นให้เช่า

เวิร์คมั้ยครับ 555

[MASTANG]

ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นครับ อย่างที่บอกผมไม่ได้เป็น vi ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะว่าผมต้องมีภาระเรื่องครอบครัวที่ต้องใช้จ่าย ผมเลยแบ่งพอร์ทออกเป็นหลายส่วนนะครับ สว่นนึง อยู่ในกองทุนทั้งปันผลและไม่ปันผล สว่นนึง อยู่ในหุ้น เติบโต สว่นนึงเอาไว้ในหุ้นระยะกลาง ส่วนนึงเอาไว้เทรด ที่ผ่านมาตั้งแต่คราวหม่อมอุ๋ย จนถึงปัจจุบัน ก็พอได้อยู่บ้างครับ แต่ที่มาตั้งกระทู้เพราะว่า สายตาที่เขามองผมและมาถามที่ลูกของผมครับ ผมยอมรับครับว่าไม่แคร์ แต่มันก็อดไม่ได้ครับที่จะไม่คิดเลย เวลาคุณต้องไปเข้าสมาคมกับเพื่อนผู้ปกครองคนอื่นเขาจะคุยกันนะครับ และลูกก็มาถามว่าพ่อไม่ออกไปทํางนแล้วหรือ แต่ผมก็อธิบายให้ลูกเข้าใจนะครับ แต่ลูกผมมันอธิบายให้ผู้ปกครองคนอื่นฟังไม่ได้ไงครับ วันนึงที่เพื่อนๆพี่ๆเป็นอย่างผม เพื่อนๆพี่จะเข้าใจครับ แต่ผมก็ดีใจนะครับ ที่มีเพื่อนๆี่พี่ๆสว่นนึงในนี้ พอจะเข้าใจความรู้สึกผมบ้างว่าเป้นไง ขอบคุณอีกครั้งที่ให้กําลังใจครับ

[Guiman]

แต่ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเพื่อนนะครับ... สุดท้าย จิตวิญญาณของความเป็นขบถจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้าหากัน... คุณอาจจะเสียสังคมคนปกติที่เดินตามกระแสสังคมไป... แต่สิ่งที่คุณจะได้มาใหม่ก็คือสังคมคนที่เป็นขบถเช่นเดียวกับคุณ ที่เข้าใจหัวอกหัวใจของขบถด้วยกัน

กฏแห่งการดึงดูด

[The Kop 71]

การเดินทางบนเส้นทางที่เราเลือก สิ่งสำคัญคือ...จิตใจเราเอง

ไม่มีใครเชื่อ... ไม่มีใครยกย่อง... ไม่มีใครศรัทธา... ไม่มีใครทำตาม... ไม่สำคัญ

แต่ที่พูดมาทั้งหมดต้องมีคนๆหนึ่งที่ เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ศรัทธาในเส้นทางที่เลือก ทำตามในสิ่งที่ถูกที่ควร ภูมิใจในทุกย่างก้าว

คนๆนั้นคือ....กายกับจิต...ของเราเอง

แต่ไม่ได้หมายความว่าอัตตาสูงส่ง ตัวกูของกู การลดอัตตาทำได้ด้วยการให้...ให้แล้ว...จบ

ทุกคนมีทางเลือกของตัวเองเสมอ...อยู่ที่ว่าจะเป็นผู้เลือก...หรือเป็นผู้ถูกเลือก(โดยไม่รู้ตัว)

ฝากหลักให้ไปคิดต่อเองครับ

ถ้าเราตระหนักชัดในความไม่แน่นอนของชีวิตนี้แล้ว ไม่มีทางที่เราจะไปทะเลาะกับใคร หรือจะไปอิจฉาใคร หรือเบียดเบียนใคร เพราะอะไร เพราะเวลาไม่พอ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเราหรือของเขา เราควรใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ รักษาใจให้เป็นบุญ ชีวิตเรา...มีค่าเพราะมันมีจำกัด ยิ่งสำนึกในความไม่เที่ยงของชีวิตก็ยิ่งสำนึกในค่าของมัน ทำให้เราระมัดระวังในสิ่งที่เราทำและถ้อยคำที่เราพูดมากขึ้น เพราะต้องการให้มันเหมาะสม ให้มันสมค่ากับชีวิตของตน

- พระอาจารย์ชยสาโร จากหนังสือ กระโถน กระถาง โดย มูลนิธิปัญญาประทีป และโรงเรียนทอสี

[ดำ]

คุณไม่ต้องทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมีเวลาอยู่กับลูกภรรยามากขึ้น

ถามลูกถามภรรยาสิครับว่าระหว่างพ่อต้องไปทำงานเกือบทุกวันกลับดึกๆดื่นๆ

กับอยู่ที่บ้านพร้อมเสมออยากเจอเมื่อไหร่ก็ได้เจอ

ชอบแบบไหนกว่ากัน

[ดำ]

ถ้า บิล เกตส์ มัวแต่แคร์สังคม ป่านนี้เราคงไม่มี Windows ใช้

ถ้า สตีฟ จ๊อบส์ มัวแต่แคร์สังคม ป่านนี้เราคงไม่มี Mac iPhone iPad

ถ้า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มัวแต่แคร์สังคม ป่านนี้เราคงไม่มี Facebook

ทั้งสามคนข้างต้น แม้แต่ปริญญาซักใบยังไม่มีด้วยซ้ำครับ

[Ryotaro]

ผมก็อยากจะเป็นนักลงทุนเต็มเวลา แต่เนื่องจากว่า port ของผมยังไม่สามารถที่จะทำงานแทนผม เพื่อหาเลี้ยงตัวผมเองได้ ผมก็เลยยังไม่ได้เป็นนักลงทุนเต็มเวลา และไม่เคยเจอคนรอบข้างมองแบบนี้

แต่เท่าที่อ่านดูแล้ว เหมือนกับว่าคุณยังแคร์คนรอบข้างอยู่นะครับ เลยเกิดคำถามอย่างนี้
ผมคิดว่าคุณต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไร
แต่ในเมื่อทุกคน ไม่ได้คุยกับคุณโดยตรง จึงไม่เข้าใจ และเกิดความสงสัย จึงไปถามลูกของคุณ
เนื่องจากลูกของคุณยังเด็กอยู่ จึงไม่สามารถสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจได้
คนต่างๆ เหล่านั้นก็จะคิดไปเองว่า คุณเลิกทำงาน และหันมาเล่นหุ้น ซึ่งทัศนคติในเรื่องหุ้น ของแต่ละคนก็จะต่างกันไป
คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าหุ้นเหมือนกับการพนัน จึงทำให้มองคุณซึ่งเลิกทำงานเพราะเล่นหุ้น เหมือนกับพวกติดพนัน
ถ้าคุณสามารถทำให้คนเหล่านั้นเข้าใจได้ว่าหุ้นคืออะไร สิ่งที่คุณทำอยู่คืออะไร คนเหล่านั้นอาจจะเข้าใจคุณ และเคารพในการตัดสินใจของคุณก็ได้ครับ

ผมคิดว่า ดร.นิเวศน์ ตอนที่หันมาลงทุนในหุ้นแรกๆ คนรอบตัวก็มองว่าท่านแปลกจากคนอื่นเช่นเดียวกับคุณ แต่ตอนนี้ คนที่เคยมองท่านแบบนั้นคงต้องยอมรับในเส้นทางที่ท่านเลือก เพราะท่านได้แสดงให้เห็นแล้วว่าผลเป็นอย่างไร

[harikung]

เข้าใจเลย เจอคล้ายๆกันเลยครับ แต่ของพี่ยังดีกว่าผมเยอะครับที่เป็นกับคนนอก ของผมนี่คือคนในครอบครัวครับ
ปล.ถ้าเป็นคนนอกผมไม่เคยแคร์เลย

[noname]

มาให้กำลังใจทุกท่านครับ ทำไปอย่าได้เเคร์ ถ้าทำให้สิ่งที่ถูกต้องเเละไม่เดือดร้อนตัวเองเเละผู้อื่น

[leky]

ผมว่าถ้าไม่ใช่ว่าได้กำไรจนพอร์ตใหญ่ระดับ 8 หลักขึ้นไป แบบว่าถ้าผลตอบแทนไม่มากก็ยังหาเลี้ยงชีพได้ การออกไปเป็นนักลงทุนอาชีพก็ต้องระวังให้ดีครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ไม่เคยผ่านช่วงตลาดตกต่ำมากกว่า 1 ครั้ง และเคยมีประสบการณ์ได้กำไรกับตลาดที่ดี ๆ เท่านั้น ผมว่ามันเสี่ยงไม่น้อยครับ ยามตลาดไม่ดี จะได้กำไรจากหุ้นซักตัวแค่ 10% ยังไม่ง่ายเลยครับ ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี

[October]

ถ้าคุณบอกเค้าว่ากำไรปีละสักสิบล้าน เด่วเค้าก็ชื่นชมคุณเอง

[yakjabon]

แคร์คนที่เขาแคร์เราก็พอครับ

[soi]

ทำใจยอมรับคะ หาคนเข้าใจยากคะ เวลากรอกว่าอาชีพอะไร ยังไม่รู้เลยคะว่าจะลงว่าไง