อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 1
"อิชิตัน" เตรียมเดินทัพเข้าตลาดหลักทรัพย์ปลายปี'56*
*ส่ง **"เย็นเย็น เครื่องดื่มสู้ร้อนเย็นลึกจากภายใน" เสริมทัพ*
*หวังกวาดยอดขาย **4,500 ล้าน*
* *
*(27 มกราคม 56 **: ประจวบคีรีขันธ์)* หลังปิดยอดขายตามเป้าปีที่ผ่านมา *อิชิตัน
กรุ๊ป* ลุยเต็มสูบเปิดแคเทกอรี่ใหม่ส่งเครื่องดื่มใหม่ "เย็นเย็น"
น้ำจับเลี้ยงผสมชาเขียวลงตลาด ตั้งเป้ายอดขายรวม
ทั้งพอร์ต 4,500 ล้านบาท ใส่เกียร์เดินหน้าเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ* *
*"เย็นเย็น เครื่องดื่มสู้ร้อนเย็นลึกจากภายใน"*น้ำจับเลี้ยงผสมชาเขียวพร้อมดื่มเป็นสินค้า
แบรนด์ใหม่ล่าสุดภายใต้กลุ่มสินค้าของ*อิชิตันกรุ๊ป*ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของสมุนไพรฤทธิ์เย็น
7
ชนิด ผสานคุณค่าเพื่อสุขภาพของชาเขียว ทำให้ "เย็นเย็น"
เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีฤทธิ์ดับร้อนจากภายในร่างกาย
และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นเครื่องดื่มคู่กับอาหารเผ็ดเพื่อบรรเทาความร้อนจัดจ้านของอาหาร
*ตัน ภาสกรนที* กรรมการผู้อำนวยการ *บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด* เปิดเผยว่า "*
อิชิตัน*เชื่อว่า
ยังพอมีช่องว่างทางการตลาดสำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใหม่ๆ
ซึ่งจะเป็นทางเลือกของผู้บริโภคโดยเฉพาะประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและยังเป็นสวรรค์สำหรับอาหารรสจัด
ทำให้*อิชิตัน*พัฒนาสินค้าที่ตรง
ความต้องการของผู้บริโภคและมั่นใจอย่างยิ่งต่อศักยภาพเครื่องดื่ม
"เย็นเย็น"ในการเติมช่องว่าง ทางการตลาดดังกล่าว
จะเห็นได้ว่าเมื่อมองเทรนด์เครื่องดื่มจับเลี้ยงในประเทศจีนมีมูลค่าตลาดสูงถึง
90,000
ล้านบาท ทำให้เรามั่นใจว่า "เย็นเย็น"
จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ*อิชิตันกรุ๊ป*ในการเสริมทัพพอร์ตสินค้าของบริษัทฯ
ในปีนี้ที่จะผลักดันยอดขายรวมของธุรกิจเครื่องดื่มไปให้ถึง 4,500
ล้านบาทและเตรียมตัวในการจดทะเบียนเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4
ต่อไป"
ในเบื้องต้นเตรียมใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
เพื่อทำการตลาดเน้นสื่อสารไปยังกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18-35
ปี
ซึ่งเป็นกลุ่มพร้อมเปิดรับสินค้าใหม่ๆค้นหาสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
และเตรียมกระจายสินค้าไปตามช่องทางหลัก อาทิ
ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น, แฟมิลี่ มาร์ท,
โมเดิร์นเทรด ทั้ง โลตัส, แม็คโคร ฯลฯ
และคาดว่าจะกระจายสินค้าครอบคลุมทั้งประเทศภายในเดือนมีนาคมนี้
โดยตั้งเป้าหมายยอดขายปีแรก 700 ล้านบาทและปี 2557 จะเพิ่มเป็น1,000
ล้านบาท
*ตัน* กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2556
เป็นปีที่*อิชิตัน*มีกำลังการผลิตสมบูรณ์เต็มที่
ดังนั้น
แผนการดำเนินธุรกิจยังให้ความสำคัญกับสินค้าทั้งแบรนด์ใหม่และแบรนด์เดิมอย่างต่อเนื่อง
ได้แก่ อิชิตัน กรีนที, ดับเบิ้ลดริ้งค์, อิชิตัน
ดราก้อน แบลคที
และแผนต่อไปคือการทุ่มเทกับการพัฒนาสินค้ารสชาติใหม่สำหรับสุขภาพในระดับพรีเมียมเพื่อสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งด้วยการคงคอนเซ็ปต์
การเป็น "ชาเขียวจากยอดฝีมือ" ทั้งนี้กลยุทธ์การทำตลาดในปี 2556
อิชิตันยังคงมุ่งเน้นการทำโปรโมชั่น
3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1.* ไลฟ์สไตล์คนเมือง (Urban
Lifestyle) *: ตอบสนองลูกค้าคนเมือง
เช่น การจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความชอบและไลฟ์สไตล์
ของกลุ่มคนเมืองโดยร่วมมือกับพันธมิตร ทางธุรกิจด้านต่างๆ
อาทิ การจัดกิจกรรมดูหนังฟรีกว่า 100,000 ใบ
หรือจัดกิจกรรมท่องเที่ยวฟรี
กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 2.* บุกเข้าร้านค้าปลีก*
:โดยมีกลุ่มป้าหมายเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ทั่วประเทศ
ซึ่งได้ร่วมกับแมคโคร ที่เป็นพันธมิตรหลักในการผลักดันกิจกรรม
"ขับทั้งบ้านหน้าบานรับทอง" และ
3.*แคมเปญรับหน้าร้อน*เพื่อกระตุ้นลูกค้าทุกกลุ่มพร้อมกัน
*ส่ง **"เย็นเย็น เครื่องดื่มสู้ร้อนเย็นลึกจากภายใน" เสริมทัพ*
*หวังกวาดยอดขาย **4,500 ล้าน*
* *
*(27 มกราคม 56 **: ประจวบคีรีขันธ์)* หลังปิดยอดขายตามเป้าปีที่ผ่านมา *อิชิตัน
กรุ๊ป* ลุยเต็มสูบเปิดแคเทกอรี่ใหม่ส่งเครื่องดื่มใหม่ "เย็นเย็น"
น้ำจับเลี้ยงผสมชาเขียวลงตลาด ตั้งเป้ายอดขายรวม
ทั้งพอร์ต 4,500 ล้านบาท ใส่เกียร์เดินหน้าเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ* *
*"เย็นเย็น เครื่องดื่มสู้ร้อนเย็นลึกจากภายใน"*น้ำจับเลี้ยงผสมชาเขียวพร้อมดื่มเป็นสินค้า
แบรนด์ใหม่ล่าสุดภายใต้กลุ่มสินค้าของ*อิชิตันกรุ๊ป*ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของสมุนไพรฤทธิ์เย็น
7
ชนิด ผสานคุณค่าเพื่อสุขภาพของชาเขียว ทำให้ "เย็นเย็น"
เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีฤทธิ์ดับร้อนจากภายในร่างกาย
และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นเครื่องดื่มคู่กับอาหารเผ็ดเพื่อบรรเทาความร้อนจัดจ้านของอาหาร
*ตัน ภาสกรนที* กรรมการผู้อำนวยการ *บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด* เปิดเผยว่า "*
อิชิตัน*เชื่อว่า
ยังพอมีช่องว่างทางการตลาดสำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใหม่ๆ
ซึ่งจะเป็นทางเลือกของผู้บริโภคโดยเฉพาะประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและยังเป็นสวรรค์สำหรับอาหารรสจัด
ทำให้*อิชิตัน*พัฒนาสินค้าที่ตรง
ความต้องการของผู้บริโภคและมั่นใจอย่างยิ่งต่อศักยภาพเครื่องดื่ม
"เย็นเย็น"ในการเติมช่องว่าง ทางการตลาดดังกล่าว
จะเห็นได้ว่าเมื่อมองเทรนด์เครื่องดื่มจับเลี้ยงในประเทศจีนมีมูลค่าตลาดสูงถึง
90,000
ล้านบาท ทำให้เรามั่นใจว่า "เย็นเย็น"
จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ*อิชิตันกรุ๊ป*ในการเสริมทัพพอร์ตสินค้าของบริษัทฯ
ในปีนี้ที่จะผลักดันยอดขายรวมของธุรกิจเครื่องดื่มไปให้ถึง 4,500
ล้านบาทและเตรียมตัวในการจดทะเบียนเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4
ต่อไป"
ในเบื้องต้นเตรียมใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
เพื่อทำการตลาดเน้นสื่อสารไปยังกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18-35
ปี
ซึ่งเป็นกลุ่มพร้อมเปิดรับสินค้าใหม่ๆค้นหาสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
และเตรียมกระจายสินค้าไปตามช่องทางหลัก อาทิ
ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น, แฟมิลี่ มาร์ท,
โมเดิร์นเทรด ทั้ง โลตัส, แม็คโคร ฯลฯ
และคาดว่าจะกระจายสินค้าครอบคลุมทั้งประเทศภายในเดือนมีนาคมนี้
โดยตั้งเป้าหมายยอดขายปีแรก 700 ล้านบาทและปี 2557 จะเพิ่มเป็น1,000
ล้านบาท
*ตัน* กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2556
เป็นปีที่*อิชิตัน*มีกำลังการผลิตสมบูรณ์เต็มที่
ดังนั้น
แผนการดำเนินธุรกิจยังให้ความสำคัญกับสินค้าทั้งแบรนด์ใหม่และแบรนด์เดิมอย่างต่อเนื่อง
ได้แก่ อิชิตัน กรีนที, ดับเบิ้ลดริ้งค์, อิชิตัน
ดราก้อน แบลคที
และแผนต่อไปคือการทุ่มเทกับการพัฒนาสินค้ารสชาติใหม่สำหรับสุขภาพในระดับพรีเมียมเพื่อสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งด้วยการคงคอนเซ็ปต์
การเป็น "ชาเขียวจากยอดฝีมือ" ทั้งนี้กลยุทธ์การทำตลาดในปี 2556
อิชิตันยังคงมุ่งเน้นการทำโปรโมชั่น
3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1.* ไลฟ์สไตล์คนเมือง (Urban
Lifestyle) *: ตอบสนองลูกค้าคนเมือง
เช่น การจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความชอบและไลฟ์สไตล์
ของกลุ่มคนเมืองโดยร่วมมือกับพันธมิตร ทางธุรกิจด้านต่างๆ
อาทิ การจัดกิจกรรมดูหนังฟรีกว่า 100,000 ใบ
หรือจัดกิจกรรมท่องเที่ยวฟรี
กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 2.* บุกเข้าร้านค้าปลีก*
:โดยมีกลุ่มป้าหมายเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ทั่วประเทศ
ซึ่งได้ร่วมกับแมคโคร ที่เป็นพันธมิตรหลักในการผลักดันกิจกรรม
"ขับทั้งบ้านหน้าบานรับทอง" และ
3.*แคมเปญรับหน้าร้อน*เพื่อกระตุ้นลูกค้าทุกกลุ่มพร้อมกัน
- untrataro25
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 2
บริษัทนี้เวลา oppday คงน่าสนุกดีนะครับ
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
-
- Verified User
- โพสต์: 385
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 5
เขาเปลี่ยนกฎใหม่แล้วนะครับ หาแหล่งข่าว official ไม่เจอ แต่กรณีล่าสุด เช่น ANAN ครับzz99 เขียน:ไม่ทราบว่าต้องมีกำไรย้อนหลังถึงเกณฑ์ 3 ปีก่อนหรือป่าวคับถึงจะเข้าตลาดได้ ดูแล้วยังไม่น่ามีกำไรได้จากการแข่งขันที่สูงมากในช่วงที่ผ่านมาและยังใช้กำลังการผลิตได้ไม่เต็มที่
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 0&catid=09ยักษ์อสังหาฯสบช่อง ตลท.เปิดช่องบริษัทที่ผลประกอบการ "ขาดทุน" สามารถระดมทุนในตลาดหุ้นได้ บนเงื่อนไขต้องเป็นบริษัทใหญ่มาร์เก็ตแคปไม่ต่ำกว่า 5 พัน ล. "อนันดา-เพซ" นำร่อง วงในชี้หนุนบริษัทปรับโครงสร้างหนี้ฉุดกำไรหาย หวังเพิ่มความสามารถแข่งขัน โบรกฯเผยเน้นขายนักลงทุนสถาบันที่มองโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
...แหล่งข่าวที่ปรึกษาทางการเงินแห่งหนึ่งเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ออกเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ด้วยมาร์เก็ตแคป (Market Capitalization) เพิ่มเข้ามา โดยมีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จากเดิมที่กำหนดให้บริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนใน ตลท.ต้องมีกำไรต่อเนื่อง 2 ปี หรือ 3 ปี รวมกันไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท และปีล่าสุดต้องมีกำไรไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยบริษัทที่จะใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปได้มีเงื่อนไขว่า หลังเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต้องมีมาร์เก็ตแคปไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อจำกัดเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้บริษัทที่สนใจหลายราย อาทิ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN), บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น...
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 6
น่าสนใจโดยเฉพาะทฤษฏีจมูกกับปากของคุณตัน ซึ่งท่านได้ยกตัวอย่างทฤษฏีก็คือ เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้ว สมมุติว่าน้ำท่วมบ้านคุณตันถึงจมูก ท่วมบ้านคุณแค่ปาก ใครตาย คำตอบ คุณตัน แต่คุณรอด การทำธุรกิจก็เหมือนกัน คุณตันเล่าว่าสายการผลิตคุณตันใช้เครื่องจักรเป็นใหญ่ มีพนักงานประมาณ 150 คน แต่อีกบริษัทหนึ่งใช้พนักงานมากกว่า รัฐบาลประกาศขึ้น ค่าแรง 300 ใครรอด?
มีอีกตัวอย่างเรื่องการสร้างโรงงาน ปกติต้องใช้เวลา 1 ปีแต่คุณตันเสร็จภายใน 8 เดือนอันนี้ก็ถือว่าคุณตันเป็นจมูกเพราะเสร็จก่อนผลิตก่อน แล้วตอนน้าท่วมโรงงานคุณตันก็เป็นโรงงานแรกในขณะที่คู่แข่งยังผลิตไม่ได้ ช่วงนั้นผลิตออกมาเท่าไรก็ขายหมด อันนี้ก็ถือว่าคุณตันเป็นจมูก
มีอีกตัวอย่างเรื่องการสร้างโรงงาน ปกติต้องใช้เวลา 1 ปีแต่คุณตันเสร็จภายใน 8 เดือนอันนี้ก็ถือว่าคุณตันเป็นจมูกเพราะเสร็จก่อนผลิตก่อน แล้วตอนน้าท่วมโรงงานคุณตันก็เป็นโรงงานแรกในขณะที่คู่แข่งยังผลิตไม่ได้ ช่วงนั้นผลิตออกมาเท่าไรก็ขายหมด อันนี้ก็ถือว่าคุณตันเป็นจมูก
Win Win
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 9
เมื่อไม่กี่วันคุณตันมาออกรายการ hard topic ครับเห็นบอกว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น วันที่เลขเรียงกันครับ คือ ในวันที่ 11/12/13 และจะนำเงินทุนส่วนหนึ่งไปสร้างโรงงานแห่งที่2และจะเชื่อมสองโรงงานเข้าด้วยกันครับ อีกส่วนก็จะนำไปชำระหนี้ธนาคารเพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อเดือนประมาณ10กว่าล้านบาทครับ http://www.moneychannel.co.th/0Live_0/p ... p?listid=5
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อิชิตันเตรียมเข้าตลาดหุ้นปลายปี2556
โพสต์ที่ 10
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย "โออิชิ" ? "ร้อนนี้" ตัวตัดสิน "เบอร์ 1" ชาเขียว
updated: 24 ก.พ. 2556 เวลา 22:58:46 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=1103
การออกมาประกาศขึ้นอันดับ 1 ของตลาดชาเขียวแบบชั่วคราวของ "อิชิตัน" แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดเมื่อกลางปี 2554 ถือว่าสร้างความฮือฮาให้กับวงการเครื่องดื่มอยู่พอสมควร
โดย "ตัน ภาสกรนที" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ตุลาคม 2555 ต่อเนื่องมาถึงมกราคม 2556
เป็นการขึ้นนำในช่วง 4 เดือนติดต่อกัน ผลมาจากการทำแคมเปญในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เมื่อวัดกันเฉพาะแคมเปญ อิชิตันสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 40% ขึ้นแซงโออิชิที่มีส่วนแบ่ง 38%
เป็นการขึ้นนำหลังจากทำตลาดมาได้เพียง 1 ปีครึ่ง
"4 เดือนเราเป็นเบอร์ 1 ชั่วคราว จะถาวรเมื่อไรไม่รู้ เราเป็นมวยรอง ตัวเล็กนิดเดียว คู่แข่งเขาใหญ่มาก จริงๆ จะเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ก็ได้ไม่สำคัญ สำคัญที่กำไรมากกว่า"
จริง ๆ แล้วการทำโปรโมชั่นในช่วงไตรมาส 4 ของทั้งคู่ถือว่าผิดธรรมเนียมตลาดชาเขียว ที่ปกติจะแข่งโปรโมชั่นกันในช่วงหน้าร้อน
ฝั่งที่เปิดเกมคือ อิชิตัน ที่เปิดตัวโปรโมชั่น "ลุ้นรหัส รวยเปรี้ยง 60 วัน 60 ล้าน" ออกมาปลุกยอดหน้าหนาว ร้อนถึงโออิชิต้องส่งแคมเปญ "รวยซ้ำ รวยซ้อน ได้ทั้งล้าน ได้ทั้งรถ" ออกมาตอบโต้
ความคล้ายคลึงคือ "แจกทุกวัน" แต่สิ่งที่แตกต่างคือ วิธีการส่งชิงโชค
ฝั่งอิชิตัน ใช้วิธีส่งรหัสใต้ฝา ขณะที่โออิชิยังเป็นรูปแบบเดิม เขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ใส่ลงในฝาแล้วส่งมาชิงโชค
"ตัน" เชื่อว่า นวัตกรรมและ "ความสะดวก" นี้เองที่ทำให้อิชิตันสามารถเก็บชัยชนะในสงครามชาเขียวปลายปีไปได้อย่างสวยงาม
พร้อมกับสร้าง "Signature" หรือโปรโมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อิชิตัน ได้สำเร็จกับ "ลุ้นรหัส รวยเปรี้ยง" จนมาสู่การจัดภาค 2 ในช่วงซัมเมอร์ปีนี้
ทำให้ล่าสุดเมื่อโออิชิซึ่งเปิดตัวแคมเปญในชื่อ "รหัสโออิชิ ลุ้นรวยทุกชั่วโมง" พร้อมเปลี่ยนวิธีมาส่งรหัสใต้ฝา เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าใช้กลยุทธ์ Me too ไม่แตกต่างจากที่อิชิตันถูกมองว่า "เลียนแบบ" แคมเปญ "ทัวร์ยกแก๊ง" ของโออิชิเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว
นับเป็นการโต้ตอบกันแบบถึงพริกถึงขิง และประกาศสงครามกันอย่างดุเดือดของทั้งคู่
แน่นอนว่าแคมเปญหน้าร้อนปีนี้ โออิชิต้องทุ่มสุดตัว เพราะอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นศึกที่จะ "ชี้เป็นชี้ตาย" และตัดสินความเป็น "เบอร์ 1" ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท
โออิชิรู้ดีว่า โจทย์ที่สำคัญที่สุดในช่วงหน้าร้อนปีนี้คือ ต้อง "เบรก" โมเมนตัม ที่กำลังเทมาทางอิชิตันให้ได้ พร้อมดึง "กระแส" และ "ส่วนแบ่งตลาด" กลับมาที่ตัวเอง
โออิชิตั้งเป้าจากแคมเปญโปรโมชั่น จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดกลับไปอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% และรักษาให้ได้ในระดับ 50% ไปถึงสิ้นปีนี้
ขณะที่อิชิตันก็ตั้งเป้าสิ้นปีมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 35-40%
ซึ่งหากได้ในระดับนั้นเขาก็เชื่อว่าจะสามารถขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มได้สำเร็จ
หากมองย้อนกลับไป ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ดูคลับคล้ายคลับคลากับการเข้าสู่วงการชาเขียวของ "ตัน ภาสกรนที" เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว
ย้อนกลับไป ขณะนั้น "โออิชิ กรีนที" จากเครื่องดื่มซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในร้านอาหารเครือโออิชิ เข้าสู่ตลาดเป็นน้องใหม่ไฟแรง ภายใต้การบริหารของตัน นักการตลาดตัวยงของวงการที่ไม่ว่าหยิบจับอะไรก็สามารถสร้าง "กระแส" หรือทอล์กออฟเดอะทาวน์
"ตัน ภาสกรนที" เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคจากแคมเปญการตลาดที่ใช้กับ "โออิชิ บุฟเฟ่ท์" ที่สร้างความฮือฮาจนเป็นร้านอาหารที่มีคนมาต่อแถวรอมากมาย ทำให้ชาเขียวโออิชิเป็นที่จับตามองของใครต่อใคร และเพียง 1 ปีเศษ น้องใหม่รายนี้ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแซง "ยูนิฟ กรีนที" ขึ้นสู่อันดับ 1
"ยูนิฟ กรีนที" ของบริษัท ยูนิ เพรสซิเดนท์ จำกัด เปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 2544 กับ "ตัวหนอนยูนิฟ" และโฆษณาที่สร้างกระแสเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานความแรงของผู้ชายที่ชื่อ "ตัน ภาสกรนที" นักการตลาดตัวยงในวงการ
วันนี้เหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง เมื่อ "อิชิตัน" แบรนด์ชาเขียวของ "ตัน" ที่เข้าสู่ตลาดในช่วงกลางปี 2554 กำลังจะวิ่งแซง "เบอร์ 1" อย่างโออิชิ ที่ครองความเป็นผู้นำอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 65% ก่อนที่อิชิตันจะเข้าสู่ตลาด
เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับ "ยูนิฟ กรีนที"
อิชิตันจะสร้างปรากฏการณ์ล้ม "ยักษ์" ได้อีกครั้งหรือไม่
สำหรับโออิชิ ศึกครั้งนี้ช่างใหญ่หลวงนัก
-จบ-
updated: 24 ก.พ. 2556 เวลา 22:58:46 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=1103
การออกมาประกาศขึ้นอันดับ 1 ของตลาดชาเขียวแบบชั่วคราวของ "อิชิตัน" แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดเมื่อกลางปี 2554 ถือว่าสร้างความฮือฮาให้กับวงการเครื่องดื่มอยู่พอสมควร
โดย "ตัน ภาสกรนที" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ตุลาคม 2555 ต่อเนื่องมาถึงมกราคม 2556
เป็นการขึ้นนำในช่วง 4 เดือนติดต่อกัน ผลมาจากการทำแคมเปญในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เมื่อวัดกันเฉพาะแคมเปญ อิชิตันสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 40% ขึ้นแซงโออิชิที่มีส่วนแบ่ง 38%
เป็นการขึ้นนำหลังจากทำตลาดมาได้เพียง 1 ปีครึ่ง
"4 เดือนเราเป็นเบอร์ 1 ชั่วคราว จะถาวรเมื่อไรไม่รู้ เราเป็นมวยรอง ตัวเล็กนิดเดียว คู่แข่งเขาใหญ่มาก จริงๆ จะเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ก็ได้ไม่สำคัญ สำคัญที่กำไรมากกว่า"
จริง ๆ แล้วการทำโปรโมชั่นในช่วงไตรมาส 4 ของทั้งคู่ถือว่าผิดธรรมเนียมตลาดชาเขียว ที่ปกติจะแข่งโปรโมชั่นกันในช่วงหน้าร้อน
ฝั่งที่เปิดเกมคือ อิชิตัน ที่เปิดตัวโปรโมชั่น "ลุ้นรหัส รวยเปรี้ยง 60 วัน 60 ล้าน" ออกมาปลุกยอดหน้าหนาว ร้อนถึงโออิชิต้องส่งแคมเปญ "รวยซ้ำ รวยซ้อน ได้ทั้งล้าน ได้ทั้งรถ" ออกมาตอบโต้
ความคล้ายคลึงคือ "แจกทุกวัน" แต่สิ่งที่แตกต่างคือ วิธีการส่งชิงโชค
ฝั่งอิชิตัน ใช้วิธีส่งรหัสใต้ฝา ขณะที่โออิชิยังเป็นรูปแบบเดิม เขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ใส่ลงในฝาแล้วส่งมาชิงโชค
"ตัน" เชื่อว่า นวัตกรรมและ "ความสะดวก" นี้เองที่ทำให้อิชิตันสามารถเก็บชัยชนะในสงครามชาเขียวปลายปีไปได้อย่างสวยงาม
พร้อมกับสร้าง "Signature" หรือโปรโมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อิชิตัน ได้สำเร็จกับ "ลุ้นรหัส รวยเปรี้ยง" จนมาสู่การจัดภาค 2 ในช่วงซัมเมอร์ปีนี้
ทำให้ล่าสุดเมื่อโออิชิซึ่งเปิดตัวแคมเปญในชื่อ "รหัสโออิชิ ลุ้นรวยทุกชั่วโมง" พร้อมเปลี่ยนวิธีมาส่งรหัสใต้ฝา เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าใช้กลยุทธ์ Me too ไม่แตกต่างจากที่อิชิตันถูกมองว่า "เลียนแบบ" แคมเปญ "ทัวร์ยกแก๊ง" ของโออิชิเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว
นับเป็นการโต้ตอบกันแบบถึงพริกถึงขิง และประกาศสงครามกันอย่างดุเดือดของทั้งคู่
แน่นอนว่าแคมเปญหน้าร้อนปีนี้ โออิชิต้องทุ่มสุดตัว เพราะอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นศึกที่จะ "ชี้เป็นชี้ตาย" และตัดสินความเป็น "เบอร์ 1" ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท
โออิชิรู้ดีว่า โจทย์ที่สำคัญที่สุดในช่วงหน้าร้อนปีนี้คือ ต้อง "เบรก" โมเมนตัม ที่กำลังเทมาทางอิชิตันให้ได้ พร้อมดึง "กระแส" และ "ส่วนแบ่งตลาด" กลับมาที่ตัวเอง
โออิชิตั้งเป้าจากแคมเปญโปรโมชั่น จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดกลับไปอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% และรักษาให้ได้ในระดับ 50% ไปถึงสิ้นปีนี้
ขณะที่อิชิตันก็ตั้งเป้าสิ้นปีมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 35-40%
ซึ่งหากได้ในระดับนั้นเขาก็เชื่อว่าจะสามารถขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มได้สำเร็จ
หากมองย้อนกลับไป ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ดูคลับคล้ายคลับคลากับการเข้าสู่วงการชาเขียวของ "ตัน ภาสกรนที" เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว
ย้อนกลับไป ขณะนั้น "โออิชิ กรีนที" จากเครื่องดื่มซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในร้านอาหารเครือโออิชิ เข้าสู่ตลาดเป็นน้องใหม่ไฟแรง ภายใต้การบริหารของตัน นักการตลาดตัวยงของวงการที่ไม่ว่าหยิบจับอะไรก็สามารถสร้าง "กระแส" หรือทอล์กออฟเดอะทาวน์
"ตัน ภาสกรนที" เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคจากแคมเปญการตลาดที่ใช้กับ "โออิชิ บุฟเฟ่ท์" ที่สร้างความฮือฮาจนเป็นร้านอาหารที่มีคนมาต่อแถวรอมากมาย ทำให้ชาเขียวโออิชิเป็นที่จับตามองของใครต่อใคร และเพียง 1 ปีเศษ น้องใหม่รายนี้ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแซง "ยูนิฟ กรีนที" ขึ้นสู่อันดับ 1
"ยูนิฟ กรีนที" ของบริษัท ยูนิ เพรสซิเดนท์ จำกัด เปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 2544 กับ "ตัวหนอนยูนิฟ" และโฆษณาที่สร้างกระแสเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานความแรงของผู้ชายที่ชื่อ "ตัน ภาสกรนที" นักการตลาดตัวยงในวงการ
วันนี้เหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง เมื่อ "อิชิตัน" แบรนด์ชาเขียวของ "ตัน" ที่เข้าสู่ตลาดในช่วงกลางปี 2554 กำลังจะวิ่งแซง "เบอร์ 1" อย่างโออิชิ ที่ครองความเป็นผู้นำอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 65% ก่อนที่อิชิตันจะเข้าสู่ตลาด
เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับ "ยูนิฟ กรีนที"
อิชิตันจะสร้างปรากฏการณ์ล้ม "ยักษ์" ได้อีกครั้งหรือไม่
สำหรับโออิชิ ศึกครั้งนี้ช่างใหญ่หลวงนัก
-จบ-
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530