"บทเรียน"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
thedoc
Verified User
โพสต์: 277
ผู้ติดตาม: 0

"บทเรียน"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เห็นมีแต่คนคุยกันว่าลงทุนตามหลักการนั้นหลักการนี้แล้วได้กำไร...%/ปีทบต้น portโตขึ้นเรื่อยๆ แต่เวลาขาดทุนไม่เห็นมีใครเคยคุยกันเลย

จึงเปิดหัวข้อนี้ไว้ เผื่อมีใครอยากถ่ายทอด "บทเรียน" ไว้สอนคนอื่นๆบ้าง
แต่อยากให้ช่วยอธิบายว่า
-ทำไมถึงเลือกซื้อหุ้นตัวนั้น ณ เวลานั้น
-คาดการณ์ผลตอบแทนอย่างไร
-ทำไมถึงไม่เป็นไปตามคาด
อาจจะเป็นทั้งกรณีที่ถืออยู่แล้วยังขาดทุน ตัดขายขาดทุนไปแล้ว
หรือขาดทุนกำไร(ขายหมู)ก็ได้นะครับ
มาแชร์ๆประสบการณ์กัน :D
ถ้าใครมีlink บทความแนว"บทเรียน"นี้ของท่านอาจารย์ต่างๆด้วยก็ช่วยแปะให้ด้วยนะครับ
ถือว่าการเรียนรู้จากความผิดพลาดก็เป็นการเรียนรู้ที่ดีอย่างหนึ่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
ziannoom
Verified User
โพสต์: 1041
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 7&start=90
ไม่รู้นี่ถือเป็นบทเรียนได้ป่าวครับ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
ภาพประจำตัวสมาชิก
luangrit
Verified User
โพสต์: 376
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอร่วมแชร์ประสบการณ์นะครับ


-ทำไมถึงเลือกซื้อหุ้นตัวนั้น ณ เวลานั้น
1. มองว่าที่ผลดำเนินงานที่ผ่านมาดี กำไรโตสม่ำเสมอ
2. มีแผนการลงทุน ทำให้รายได้โตในอีก 3-5 ปี
3. ตัวเลขทางการเงินหลักๆ ดี เงินสดในมือมีพอสมควร
4. ปันผลดีมาตลอด
5. รายได้ที่คาดว่าจะโตเท่าตัวในอีก 3-5 ปี เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ลงทุนในหุ้นตัวนี้


-คาดการณ์ผลตอบแทนอย่างไร
1. Upside 100% ในอีก 3-5 ปี

-ทำไมถึงไม่เป็นไปตามคาด
1. เราไม่ได้เริ่มจากการดูตัวธุรกิจก่อน ผมเริ่มมาจากดูตัวเลขทางการเงิน แล้วค่อยมาดูว่าธุรกิจคืออะไรเป็นข้อสุดท้าย
2. ธุรกิจที่ได้เลือกลงทุนนั้น เป็นลักษณะรับจ้างผลิต ซึ่งรายได้ค่อนข้างผันผวนตาม Demand ของลูกค้าหลักๆไม่กี่เจ้า
ทำให้อำนาจการต่อรองค่อนข้างน้อย และหากลูกค้าเจอผู้ผลิตรายใหม่ที่ให้ราคาถูกกว่าเค้าก็ไป
3. เมื่อถือนานเข้า รู้จักบริษัทมากขึ้น ผมก็เริ่มรู้แล้วว่าเราลงทุนผิดไป
คือบริษัทไม่ได้ผิดอะไรนะครับ แต่ผมต่างหากที่ลงทุนอย่างผิดวิธี
ไม่ได้ลงทุนตามแนว ดร.นิเวศน์ ซึ่งท่านจะเริ่มจากตัวธุรกิจ >> ผลการดำเนินงาน >> ราคา


สรุป (ความเห็นของผมอาจจะผิดนะครับ โปรดไตร่ตรองก่อน)
การลงทุนของผมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก โดย
1. ผมจะเริ่มจากตัวธุรกิจคืออะไร มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าแค่ไหน
เช่น ค้าปลีก โรงพยาบาล ที่เน้นการบริโภคภายใน คนจำเป็นต้องกิน-ใช้ รายได้ไม่ขึ้นลงหวือหวา
2. มีการเติบโตเป็นอย่างไร โดยดูการเทรนที่จะเกิดในอนาคต เช่นสังคมผู้สูงวัยที่มีมากขึ้น, 3G หรือ เรื่อง Food constrain
3. ตัวบริษัทเองต้องมีการเติบโตอย่างชัดเจน เช่น ขยายสาขา หรือ มีสินค้าใหม่ที่จะทำให้รายได้เพิ่ม เป็นต้น
4. มี DCA (Durable Competitive Advantage) เป็นอย่างไร
5. งบการเงินเป็นอย่างไร
6. ราคาแพงไปหรือไม่
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 4

โพสต์

jas หุ้นตัวนี้จริงๆชอบมาก
มากจนไม่ดู down side

banpu ดูแต่ growth
ไม่ได้ดูราคาถ่านหินอะไร เป็นเรื่องเป็นราวเลย
เจอระเบิด shale gas เงิบ เลยคับ

กำลังรอตัวต่อไป ถ้าเงิบอีก ค่อยมาอัพเดทเพิ่มคับ
show me money.
thedoc
Verified User
โพสต์: 277
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ให้1+ คุณluangritด้วยคนครับ
บอกได้มั๊ยครับว่าเป็นหุ้นอะไร
พอคิดได้ขายทิ้งแล้ว กลับไปดูอีกมั๊ยครับว่าถ้ายังถืออยู่จะเป็นยังไงตอนนี้ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
luangrit
Verified User
โพสต์: 376
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 6

โพสต์

thedoc เขียน:ให้1+ คุณluangritด้วยคนครับ
บอกได้มั๊ยครับว่าเป็นหุ้นอะไร
พอคิดได้ขายทิ้งแล้ว กลับไปดูอีกมั๊ยครับว่าถ้ายังถืออยู่จะเป็นยังไงตอนนี้ :)

ตัดขายบางส่วนครับ
แล้วเอาไปซื้อหุ้นที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นครับ

ตอนนี้ยังขาดทุนราว 10 %
แต่หุ้นตัวนี้ข้อดีอย่างนึงคือปันผลค่อนข้างมาก
และผู้บริหารก็มีธรรมาภิบาลสูงมาก ทำให้เกิดความประทับใจส่วนตัวครับ
เลยเก็บเอาไว้ส่วนนึง

ถ้ารวมปันผลก็เกือบเสมอตัวครับคุณ thedoc
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ที่พอจำได้คือเคยซื้อหุ้นอสังหาและหุ้นโรงแรมเพราะ PB ต่ำ โดยไม่เข้าใจว่าธุรกิจมันมีขึ้นมีลงเป็นวัฎจักร พอดูว่ากำไรก่อนหน้านี้มันดีก็เลยซื้อ ปรากฎว่าปีนั้นอสังหาราคาสูงขายไม่ออก ต้องยุบสำนักงานขายบางแห่งเพื่อลดต้นทุน โรงแรมไม่มีคนพักเพราะมีการแข่งขันสูงแถมเจอภัยธรรมชาติ ดีที่ตัดใจขายได้แต่เนิ่นๆไม่อย่างนั้นต้องมาระทมทุกข์อีกเป็นปีๆ ตอนนั้นเป็นความผิดพลาดที่ขาดประสบการณ์ในหมวดอุตสาหกรรม

เร็วๆนี้คือหุ้นโรงไฟฟ้า ตอนนั้นมีสัมปทานโรงไฟฟ้าหลักกำลังจะหมด ผู้บริหารให้ข่าวมานานว่าจะซื้อโรงไฟฟ้าอื่นมาเข้าพอร์ทเพราะ D/E ยังต่ำ ตอนนั้นก็รอแล้วรออีกก็ยังไม่ซื้อเสียที จนรอไม่ไหวเริ่มคิดว่าผู้บริหารชักช้า ก็เลยขายทิ้งไป ไม่นานก็ต่อมาก็ได้ข่าวเข้าซื้อโรงไฟฟ้าหลายแห่ง ราคาก็วิ่งเอาๆ ได้แต่มองตาปริบๆ.. :roll: อันนี้เป็นความผิดพลาดที่ใจไม่นิ่งพอ

ล่าสุดหุ้นไก่ ตอนนั้นมั่นใจมากๆเพราะยอดขายโตแซงราคา ถือไว้ประมาณ 1/3 ของพอร์ทได้ คาดว่าการส่งออกเข้า EU จะทำให้ขายไก่ได้เพิ่มอีก ปรากฏว่าไม่ได้ตามเช็คซัพพลายว่าการเปิดรับพ่อแม่พันธ์ไก่เสรีในปีก่อนทำให้ปีนี้ซัพพลายเยอะและราคาไก่ตกในปีนี้ ตอนนี้ยังหวังว่าเป็นแค่เหตุการณ์ระยะสั้น หุ้นนี้เป็นตัวอย่างของการผิดพลาดในการถือหุ้นหนึ่งในอัตราส่วนที่สูงไป พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันทีทำให้ผลตอบแทนรวมของพอร์ทเสียหาย

แล้วก็ผิดตัวนั้นตัวนี้เยอะแยะไปหมด หุ้นการเมืองบ้าง หุ้นเติบโตแต่ราคาสูงเกินไปบ้าง หุ้นสินทรัพย์แต่เจ้าของเดิมไม่ยอมขายทิ้งบ้าง หุ้นวัฎจักรหมวดใหม่ที่ไม่เชี่ยวชาญบ้าง ผมนี่ตัวโง่เลย...

แต่บางครั้งผิดบ่อยๆแต่ผิดไม่หนักก็ทำให้ได้เรียนรู้อะไรดีครับ
Vi IMrovised
thedoc
Verified User
โพสต์: 277
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 8

โพสต์

หากไม่เคยพลาด ก็ไม่มีทางพบความสำเร็จ
กดlikeให้คุณvimเลยครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 9

โพสต์

1. ซื้อหุ้นเพราะขาดการไตร่ตรอง
สายการบิน ชื่อดัง ร่วงมาเยอะจัง สงสัยมีแต่คนบ่นในตลาด คงถึงจังหวะซื้อเผื่อเด้งกลับจะได้มีกำไรติดมือ เลยซื้อติดพอร์ต ไม่เกินสองสัปดาห์ยังร่วงต่อ แล้วก็วิ่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม ก่อนจะร่วงลงไปอีก สุดท้ายขายขาดทุนครับ ทำใจไม่ได้

2. ซื้อหุ้นเพราะไม่รู้วัฏจักร
เดินเรือตัวนี้เยี่ยมจัง PE ต่ำสุดยอด ปันผลยิ่งดีใหญ่ เอ๊ะทำไมไม่มีคนซื้อกันนะ หรือว่าจะเข้าทางหุ้นที่ไม่มีใครสนใจ พึ่งอ่านเจอในหนังสือ (ความจริงมันตกรอบลงของวัฏจักรเดินเรือ) ซื้อเลยดีกว่า ได้ปันผลมาสองรอบ แล้วไม่นานมันก็ร่วงลงไป และไม่มีทีท่าขึ้น ขายขาดทุนหักปันผล ขาดทุนนิดหน่อย

3. ซื้อหุ้นตามเซียน
ให้ตายสิตัวนี้เซียนเข้านี่นา พึ่งมีชื่อเข้ามาด้วยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เราทุนต่ำกว่าแหงมๆ เพราะชื่อเซียนพึ่งมี ซื้อเพิ่มเฉลี่ยไปเรื่อยๆดีกว่า ถัวเข้าๆๆ เริ่มเยอะ สักพักเซียนออกไม่บอกเรา หุ้นตกดิ่ง ได้ปันผลมาหลายรอบ ยังไม่พอเงินที่ขายขาดทุน ช้ำใจมาก

4. ซื้อหุ้นตามข่าว
พันทิพย์พูดตัวนี้บ่อยจังนะ วิ่งมันส์ดีเชียว ทำไมมันขึ้นดีแบบนี้ รอดูอีกหน่อย ผ่านไปสองสามสัปดาห์ ให้ตายสิวิ่งขึ้นดีจริงๆ เราจะพลาดโอกาสแบบนี้ได้ยังไงกัน เข้ามั่งสิ วิ่งตามเค้า เดี๋ยวไม่ทัน ไม่นานเกินรอ ไม่ถึงสัปดาห์ตัดขาดทุน ช้ำใจอีกแล้ว..

อาจจะไม่ตรงหัวข้อบทเรียนที่ทาง จขกท.ต้องการ แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ผมประสบเจอมา มามองย้อนหลังไปดูแล้วก็ทำให้เข้าใจว่า ทุกอย่างที่เราซื้อแล้วขาดทุน ส่วนใหญ่เป็นการซื้อโดยที่ขาดความรู้ ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ยิ่งสำหรับผม บทเรียนที่ได้อีกอย่างคือ การขาดทุนที่ผมสูญเสียไปมันคือการเสียเงินต้นซึ่งเป็นสิ่งที่ผมหามาได้อย่างยากยิ่งในการเติมพอร์ตแต่ละเดือน ขาดทุนทีนึงของการมั่นใจที่ซื้อหุ้นตามเซียนตามที่เขียนไว้ข้างต้น มันหมายถึงการเติมเงินเข้าพอร์ตของผมเป็นเวลา 8 เดือนทีเดียว มานึกได้ก็เลยเศร้าใจ การรักษาเงินต้นนั้นสำคัญที่สุด น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมที่อยากแชร์ให้กับเพื่อนๆทุกคนครับ...
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
thedoc
Verified User
โพสต์: 277
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 10

โพสต์

บทเรียนคุณนพพรมีค่ามากกว่าเงินที่เสียไปแน่นอนครับ :D สู้ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1281
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 11

โพสต์

:mrgreen: 1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
                                           วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
tomiea
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 12

โพสต์

หัวข้อนี้ดีครับ แต่คนไม่ค่อยนำมาบอกกันเพราะ "ถ้าไม่ทำผิดเดี๋ยวก็ถูกเอง" จำคำพระสอนมาอีกทีนะครับไม่ได้คิดเอง
เพราะเวลาอ่านความเก่งของคนอื่นๆ บ่อยๆ อาจจะทำให้เราหึกเหิมเกินไปจนเกิดอันตรายกับ Port ได้

ส่วนตัวเคย
1 Follow buy หุ้น ofm กับ Kamart แล้วมันร่วงลงแรงเพราะงบออกมาไม่ดีต้องรีบ Cut lost แล้วมันก็ขึ้นไปใหม่มากกว่าที่เรา Cut lost ไป :(
ก็ขาดทุนกำไรไปเยอะไม่น่าโลภตามแห่ทั้งๆ ที่คำนวนราคาไว้แล้วแต่ไม่มั่นคงในสิ่งที่เราคำนวนได้
2.คำนวนราคาได้แล้วซื้อน้อยมัวแต่ต่อรองราคาช่องสองช่อง หุ้นเลยขึ้นไปไกล หลังๆเลยถ้าต่ำกว่าที่คำนวนได้จะรีบซื้อทันทีไม่ต่อรองมากมี Singer,Eason,Kamart

อันอื่นยังนึกไม่ค่อยออกแต่เยอะกว่าที่ทำถูกแน่นอน :oops:
yakjabon
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ประสบการณ์เฉียดตาย ตอนนั้นวิเคราะห์แล้วเกือบกินปู รอเงินเดือนออก แต่ติดใจ 2 ข้อ
1) -- shale gas trend มา แต่มีคนว่าพลังงานไงก็ไม่พอ หน้าหนาวนี้กำไรก็หลุดแล้ว
2) -- มี ข้อพิพาททางกฎหมาย = =!

สุดท้าย ข้อแรกเชื่อเขา แต่ข้อ 2) ไม่สบายใจ กลัวนอนไม่หลับ สุดท้ายเปลี่ยนแนวอยากกินหมูมากกว่าเลยเลิกกินปูไป :D
Invincible MOS is knowing what you're doing
Zolaa
Verified User
โพสต์: 172
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 14

โพสต์

1.เข้าเก็งปิโตรตัวใหญ่เลยก่อนจะมีคิวอี3ประเมินไว้มาแน่ซัดไปพอคิวอี3มาราคามันก็วิ่งนะแต่ไปนิดเดียวก็ถือรอคิดว่ามันจะวิ่งดันนิ่งและร่วงลงต่อซะงั้นสรุปขาดทุนไป..
ภาพประจำตัวสมาชิก
อ่อนซ่อนศิลป์
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 15

โพสต์

1 เข้าซื้อหุ้น IPO วันแรกที่ราคา ATO เปิดตลาดสูงลิ่ววว
2 ขายหมู
3 ปูน้อยทำลายพอร์ต แต่โชคดีมากๆๆๆๆๆ ที่ไม่รู้คิดยังไงคัดลอสไปก่อนวันที่จะมีข่าวว่าเเพ้คดีหงสา ดวงเเท้ๆ
เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ไม่ได้เก่ง
เพียงแต่ไม่เข้าไปยุ่งในพื้นที่สีเทาสำหรับตัวเองเท่านั้นเอง
เลือกอะไรที่มันชัวร์ๆ ขาวๆ อวบๆ เอ้ย.. สว่างๆ

แฮ่ม...

ผมก็เลยไม่มีอะไรจะเล่าครับ
luz666
Verified User
โพสต์: 845
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เรื่องเลือกหุ้นผิดผมก็เยอะครับ แต่ผมขอเล่าเรื่อง money management ละกันครับ

คือเมื่อก่อนผมเก็บเงินไว้ในหุ้นแทบจะ 100% เลยครับ เพราะคิดว่าเงินเย็น ไม่ได้ใช้ แต่ดันมีช่วงหนึ่ง หุ้นตัวหลักของพอร์ทมีปัญหาชั่วคราว งบออกมาไม่ดี หุ้นร่วงใหญ่เลย และดันเป็นจังหวะเดียวกับที่ต้องใช้เงินก้อนครับ เลยต้องขายขาดทุนเอาเงินมาใช้ ทั้งที่ถ้าถือต่อไม่กี่เดือน ราคาหุ้นตัวนั้นก็กลับมาที่เดิมแล้ว เลยเป็นบทเรียนว่าการกันเงินไว้เผื่อฉุกเฉินก็สำคัญครับ
all i need is Zero
yakjabon
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 18

โพสต์

nameisnothing เขียน:เรื่องเลือกหุ้นผิดผมก็เยอะครับ แต่ผมขอเล่าเรื่อง money management ละกันครับ

คือเมื่อก่อนผมเก็บเงินไว้ในหุ้นแทบจะ 100% เลยครับ เพราะคิดว่าเงินเย็น ไม่ได้ใช้ แต่ดันมีช่วงหนึ่ง หุ้นตัวหลักของพอร์ทมีปัญหาชั่วคราว งบออกมาไม่ดี หุ้นร่วงใหญ่เลย และดันเป็นจังหวะเดียวกับที่ต้องใช้เงินก้อนครับ เลยต้องขายขาดทุนเอาเงินมาใช้ ทั้งที่ถ้าถือต่อไม่กี่เดือน ราคาหุ้นตัวนั้นก็กลับมาที่เดิมแล้ว เลยเป็นบทเรียนว่าการกันเงินไว้เผื่อฉุกเฉินก็สำคัญครับ
เห็นด้วยครับ มอาจารย์เคยสอนว่าให้เก็บสำรองไว้ 6 เดือนกันตกงานสำหรับมนุษย์เงินเดือน ผมก็ตามสูตรละครับ :mrgreen:
Invincible MOS is knowing what you're doing
thedoc
Verified User
โพสต์: 277
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 19

โพสต์

เหมือนกันครับ
ที่ผ่านมาพอหุ้นขึ้นก็จัดเต็ม
พอหุ้นลงเลยไม่มีเงินไว้คอยซื้อเพิ่ม
ใจก็ไม่นิ่ง เลยต้องขายออกบางตัว
ถือโอกาสปรับportใหม่ ถือเงินสดไว้ให้พอใช้1ปี ทีนี้ลงมายังไงก็รู้สึกเฉยๆ เมื่อมีเงินสดเข้ามาเพิ่มก็ค่อยซื้อเพิ่ม
ไม่ค่อยรู้สึกกดดันเท่าไหร่ ตัวที่มีก็รับปันผลไป แล้วเอาไปซื้อเพิ่มอีก

จึงได้บทเรียนว่า ต้องแบ่งเงินสดไว้ให้พอใช้จ่ายตามจำเป็นเสียก่อนค่อยเอาเงินที่เหลือไปลงทุน จะทำให้ใจเรานิ่งขึ้นเยอะ
wee1
Verified User
โพสต์: 204
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 20

โพสต์

เอาเป็นรายตัวเลยนะครับ

BLA ตอนที่ซื้อดูแล้วประกันชีวิตยังเติบโตได้อีกเยอะ แถมมี BBL เป็น Back up อีก เจ๋งสุดๆ พอหลังๆราคาไม่ขยับแถมร่วงกระจาย เลยมาดูข้อมูลดีๆ เฮ้ยเป็นลูกเมียน้อย BBL ที่แม่ไม่รักไม่สนับสนุนเท่า SCBLIF ของ SCB แถมกรมธรรม์ยังมีแต่ตัวที่ตั้งสำรองแยะๆ เลยรีบเผ่นโดยเร็ว ดีที่ทุนต่ำยังพอได้กำไร

SINGER ราคาพุ่งกระฉูดขึ้นมามากๆ ตอนนั้น 9 บาทมองว่าราคามาไวเกินไป นั่งวิเคราะห์ธุรกิจแล้ว ไม่เชื่อว่าธุรกิจจะทำกำไรได้ขนาดนั้น มาถึงตอนนี้ 16 บาทกว่าๆ มาดูอีกทีอืม ธุรกิจเขาดูโอเคจริงๆด้วยแฮะ โอกาสเติบโตมีอีกจริงๆ อันนี้ไม่รู้เรียกว่าบทเรียนได้หรือปล่าว
jupiterwin
Verified User
โพสต์: 154
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ไม่ได้ศึกษาอะไรมาก คิดว่ายังไงบริษัทต้องโตไปเรื่อย รถเก่า รถใหม่ยังไงก็ใช้ยาง อย่างมากก็เสมอตัวเพราะรถเก่าต้องเปลี่ยน มีแผนขยายโรงงาน สินค้าส่งขายทั่วโลก กระจายความเสี่ยงดี จีนกำลังโต ยอดขายต้องกระฉูด กำไรโตต่อเนื่อง 3 ปีล่าสุด (หารู้ไม่ ใกล้ peak วัฎจักรแล้ว) หุ้นลงก็อัดเพิ่ม คิดว่าซื้อของถูก สุดท้าย มี 2 ใน 3 ของพอร์ต ขาดทุนไป 40 %
ช่วงไหนขึ้น ก็ขาย ไปซื้อตัวอื่น ตอนนี้ดีขึ้น เหลือ -30% :'O

บทเรียน
- อย่าลงทุนในสัดส่วนที่มากเกินไป ในหุ้นตัวใดตัวหนี่ง
- หุ้นลงต้องดูว่าเกิดจากอะไร ไม่ใช่คิดเอง เออเอง (มั่นใจมากเกิน เพราะไม่เคยขาดทุน)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tibular
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 522
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ส่วนใหญ่ที่พลาด ก็จะเกิดจาก "คิดอะไรง่ายๆอ่ะคับ"
ที่เซียนๆว่าทำอะไรให้ง่ายๆ ลงทุนให้ดูที่เข้าใจง่ายๆ
ในความง่ายๆเนี๊ย มันไม่ใช่มักง่ายๆ แต่เป็นเพราะเซียนเค้ารู้ จึงง่ายๆสำหรับเค้า
เราเข้าใจเหมือนเซียนเค้าเข้าใจหรือเปล่า อันนี้ซิน่าคิด

เพราะงั้นถึงต้องหาความรู้ให้เยอะขึ้นๆ
ต้องรอบคอบขึ้นให้มากๆ
ศึกษาตัวธุรกิจให้ดีๆ การเติบโต คุณภาพ สินค้า ฯลฯ
ศึกษาภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมของธุรกิจให้ดีๆยาวๆ

สนใจนายตลาดเค้าหน่อย อย่าคิดว่านายตลาดโง่นัก
นายตลาดอาจจะมึนๆเป็นบางครั้ง แต่เค้าไม่ใช่คนไม่มีความรู้
หลายๆครั้งลางสังหรณ์ของนายตลาดก็ถูก เช่น ปัจจัยพื้นฐานหุ้นมันเปลี่ยน
ราคาค่อยๆไหลลง เราสนใจเข้ามาดูหรือเปล่า ไม่ใช่ทัศนคติว่า
หุ้นเราดีราคาลงซื้อเพิ่มไม่ลืมหูลืมตา

สุดท้าย ประเมินมูลค่าให้เหมาะสม ในสมมุติฐานที่สมเหตุสมผลที่สุด
เข้าซื้อเมื่อมี MoS ไม่ต่ำกว่า 20-30% จากราคาในตลาดอันนี้แล้วแต่นายตลาดเสนอราคาให้เรายามมึนๆไหม
แต่ถ้าไม่ได้เราต้องรอราคาที่เหมาะสม หรือ
ถ้าเราให้การเติบโตเป็นส่วนหนึ่งของ MoS นั่นหมายถึง ถ้าเราซื้อ ณ.ราคาแฟร์เวลู
เราต้องรออีกอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไป กว่ากำไรจะเติบโต และสะท้อนมาที่ราคาหุ้น
ในระหว่างนั้นเราก็ต้องตรวจสอบว่ามันเติบโตได้ตามนั้นหรือเปล่า
yakjabon
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ผมว่าง่ายๆที่เซียนบอก คือ พยายามเลือกธุรกิจที่มันง่ายสำหรับตัวเรา ซึ่งอาจไม่ง่ายสำหรับคนอื่น แม้แต่เซียนผมว่าก็ไม่ใชทุกทธุรกิจจะง่ายสำหรับเขา แต่ถ้าจะบอกว่าไม่มีธุรกิจที่ง่ายสำหรับเราเลย และไม่สามารถทำให้ง่ายได้เลย อันนี้ผมว่าอาจต้องหาอย่างอื่นที่ไม่ใช่การลงทุนที่อาจง่ายสำหรับเรา
Invincible MOS is knowing what you're doing
แตงอ่อน
Verified User
โพสต์: 76
ผู้ติดตาม: 0

Re: "บทเรียน"

โพสต์ที่ 24

โพสต์

1. เจอธุรกิจที่เข้าใจแล้ว ทุกอย่างโอเคหมด ราคาพอได้ แต่ไม่กล้าซื้อ เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้ไม่ได้กำไรจากหุ้นตัวนั้นครับ
2. บางครั้งการไม่ไปยุ่งกับพอร์ต (ซื้อ-ขาย) บ่อยครั้งนัก ก็ให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าการเปลี่ยนใจกลับไปกลับมาครับ
3. ไปซื้อตามเซียน โดยที่ไม่เข้าใจตัวธุรกิจเลยครับ (บทเรียนราคาแพงเลย)
4. รักหุ้นมากจนไม่สนใจอะไรแล้ว พื้นฐานเปลี่ยน แต่เรารักหุ้นไม่เปลี่ยน สุดท้ายขาดทุนครับ


ส่วนขายหมู/ติดดอย ก็พอมีบ้างครับ
โพสต์โพสต์