ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 1
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
>เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้.....ประเทศต่าง ๆในโลกนี้มีเกิด มีดับตลอดเวลา.....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
>สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
>ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
>เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
>ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆหัวเราะจนฟันกระเด็น
>
>แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
>ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็นติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศอาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา
>
>ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
>คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 -6 ประเทศแน่นอน!
>ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
>ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
>
>สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
>ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
>และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
>ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
>เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
>จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
>คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
>เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
>เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
>
>เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
>เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
>เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก
>GMOsและเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้
>วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
>
>รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
>เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
>โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้วเขาสามารถตั้งราคา
>ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่าเขาจะไม่มีกำไร
>ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟตัดโทรศัพท์
>คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้
>
>ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
>การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมาคนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
>ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
>เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
>เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
>Carrefour,ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,McDonal,สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ
>ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
>
>เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
>
>4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
>เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553
>คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
>การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
>จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหารก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
>ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน
>
>จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
>เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
>ทั้งสมุนไพรอาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
>นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จากRussia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
>
>เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?
>
>ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น
>ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
>ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์บ่อยครั้งที่นิติภูมิ
>มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า
>ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
>ก่อนล่มจริง...เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค
>ข้อคิดรวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
>
>ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
>
>นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู
>ของ 3 ห้างดัง
>ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
>เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 เปอร์เซ็นต์
>สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5
>บาทก็ซื้อที่นี่
>เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง
ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
>ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท
>ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
>ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้างทั่วประเทศ
>คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์
>เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
>
>ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
>เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด
>ผมอธิบายวิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้านและลูกฟัง
>หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว
>ดีครับ ได้ผล...ลูกเปลี่ยนวิธีกิน. วิธีคิดไปเลย... เปลี่ยนไปได้มาก
>พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
>ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
>แล้วผมไป
kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย
>
>ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
>ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทยไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
>ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
>ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว
>
>ปล.ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
>เพื่อที่ไทยเราจะได้อยู่รวมเป็นชาติไทยต่อไป
>
>** เมื่อกี้ดูที่นี่ประเทศไทย เปิดเพลงชาติให้ฟัง ไม่เคยฟังแล้วรู้สึกว่าอยากร้องไห้เท่าวันนี้เลย
>ฟังแล้วเห็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ แต่อยากจะขออีกอย่างหนึ่งคือรักชาติหน่อย
>ช่วยกันหน่อยครับซื้อสินค้าไทย เลิกได้แล้วกับการซื้อของแบรนเนม มันจะทำให้ชาติล่มจม
และชาวviจะรับมือกับeventนี้อย่างไรถ้าเกิดขึ้นจริง ?
ปัญญหาก็คือถ้าคนกินเงินเดือนหรือ น.ศจบใหม่ที่มีภาระต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน
อาหาร คงไม่สามารถที่จะยอมจ่ายแพงเพื่อ ซื้อของไทยกินได้ เนื่องจาก
อาหารผักต้องทานทุกวัน หากจ่ายเพิ่มขึ้น 3-5 บาท หลายๆวันก็เยอะเหมือนกัน
>เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้.....ประเทศต่าง ๆในโลกนี้มีเกิด มีดับตลอดเวลา.....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
>สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
>ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
>เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
>ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆหัวเราะจนฟันกระเด็น
>
>แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
>ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็นติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศอาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา
>
>ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
>คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 -6 ประเทศแน่นอน!
>ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
>ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
>
>สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
>ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
>และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
>ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
>เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
>จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
>คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
>เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
>เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
>
>เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
>เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
>เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก
>GMOsและเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้
>วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
>
>รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
>เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
>โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้วเขาสามารถตั้งราคา
>ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่าเขาจะไม่มีกำไร
>ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟตัดโทรศัพท์
>คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้
>
>ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
>การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมาคนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
>ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
>เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
>เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
>Carrefour,ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,McDonal,สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ
>ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
>
>เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
>
>4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
>เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553
>คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
>การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
>จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหารก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
>ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน
>
>จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
>เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
>ทั้งสมุนไพรอาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
>นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จากRussia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
>
>เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?
>
>ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น
>ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
>ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์บ่อยครั้งที่นิติภูมิ
>มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า
>ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
>ก่อนล่มจริง...เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค
>ข้อคิดรวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
>
>ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
>
>นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู
>ของ 3 ห้างดัง
>ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
>เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 เปอร์เซ็นต์
>สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5
>บาทก็ซื้อที่นี่
>เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง
ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
>ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท
>ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
>ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้างทั่วประเทศ
>คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์
>เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
>
>ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
>เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด
>ผมอธิบายวิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้านและลูกฟัง
>หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว
>ดีครับ ได้ผล...ลูกเปลี่ยนวิธีกิน. วิธีคิดไปเลย... เปลี่ยนไปได้มาก
>พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
>ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
>แล้วผมไป
kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย
>
>ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
>ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทยไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
>ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
>ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว
>
>ปล.ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
>เพื่อที่ไทยเราจะได้อยู่รวมเป็นชาติไทยต่อไป
>
>** เมื่อกี้ดูที่นี่ประเทศไทย เปิดเพลงชาติให้ฟัง ไม่เคยฟังแล้วรู้สึกว่าอยากร้องไห้เท่าวันนี้เลย
>ฟังแล้วเห็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ แต่อยากจะขออีกอย่างหนึ่งคือรักชาติหน่อย
>ช่วยกันหน่อยครับซื้อสินค้าไทย เลิกได้แล้วกับการซื้อของแบรนเนม มันจะทำให้ชาติล่มจม
และชาวviจะรับมือกับeventนี้อย่างไรถ้าเกิดขึ้นจริง ?
ปัญญหาก็คือถ้าคนกินเงินเดือนหรือ น.ศจบใหม่ที่มีภาระต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน
อาหาร คงไม่สามารถที่จะยอมจ่ายแพงเพื่อ ซื้อของไทยกินได้ เนื่องจาก
อาหารผักต้องทานทุกวัน หากจ่ายเพิ่มขึ้น 3-5 บาท หลายๆวันก็เยอะเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 530
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 3
ผมว่ามองในแง่ลบมากเกินไปนะ ผมก็อ่านคอลัมน์เขาบ่อย ๆ เกือบทุกวัน เพื่อจะได้วิเคราะห์ทุกแง่มุม บ่อยครั้งเขาเขียนอะไรที่เขาก็รู้ไม่จริง
ยกตัวอย่างเช่น แนะให้พ่อค้าไทยไปจำหน่ายสินค้าในแอฟริกา หรือไปลงทุนที่โน่น แม้กระทั่งแนะให้ไปทำไร่ทำนาที่โน่น เขาไม่เคยคำนึงถึงความเป็นไปได้ หรือไม่ค่อยเอ่ยถึงอุปสรรคต่าง ๆ
การขายสินค้าไปแอฟริกานั้น ไม่ใช่อะไรที่ง่ายนะครับ นอกจากพ่อค้าจะยอมเสี่ยง ระบบธนาคารที่โน่นยังมีปัญหา โดยเฉพาะแอฟริกาตะวันตก ผมพอจะรู้อยู่บ้าง พ่อค้าผู้นำเข้าที่โน่น ถ้าจะเปิด L/C จะต้องมีเงินไปวางธนาคาร 100 เปอร์เซนต์ ฉะนั้น ธุรกิจที่พอเป็นไปได้ ก็ควรจะเป็นธุรกิจ SME เช่นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ไม่ใช่ข้าวสาร ซึ่งจะต้องขนส่งไปเที่ยวหนึ่ง 2/30000 ตัน เพื่อจะได้ค่าระวางที่สู้ได้ เรื่องนี้ โรงสี พ่อค้ารายย่อย นั้นคงสู้ยาก นอกจากจะยอมส่งข้าวไป และหวังว่าจะได้รับการชำระค่าข้าวในช่วงเรือถึง ผมอยากจะให้เขาพูดถึงอุปสรรคด้วย เพื่อนักธุรกิจไทยจะได้ตัดสินใจถูกต้อง
มีพ่อค้าไทย และ เทศกี่รายแล้ว ที่ส่งสินค้าไปแล้วเก็บเงินไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น แนะให้พ่อค้าไทยไปจำหน่ายสินค้าในแอฟริกา หรือไปลงทุนที่โน่น แม้กระทั่งแนะให้ไปทำไร่ทำนาที่โน่น เขาไม่เคยคำนึงถึงความเป็นไปได้ หรือไม่ค่อยเอ่ยถึงอุปสรรคต่าง ๆ
การขายสินค้าไปแอฟริกานั้น ไม่ใช่อะไรที่ง่ายนะครับ นอกจากพ่อค้าจะยอมเสี่ยง ระบบธนาคารที่โน่นยังมีปัญหา โดยเฉพาะแอฟริกาตะวันตก ผมพอจะรู้อยู่บ้าง พ่อค้าผู้นำเข้าที่โน่น ถ้าจะเปิด L/C จะต้องมีเงินไปวางธนาคาร 100 เปอร์เซนต์ ฉะนั้น ธุรกิจที่พอเป็นไปได้ ก็ควรจะเป็นธุรกิจ SME เช่นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ไม่ใช่ข้าวสาร ซึ่งจะต้องขนส่งไปเที่ยวหนึ่ง 2/30000 ตัน เพื่อจะได้ค่าระวางที่สู้ได้ เรื่องนี้ โรงสี พ่อค้ารายย่อย นั้นคงสู้ยาก นอกจากจะยอมส่งข้าวไป และหวังว่าจะได้รับการชำระค่าข้าวในช่วงเรือถึง ผมอยากจะให้เขาพูดถึงอุปสรรคด้วย เพื่อนักธุรกิจไทยจะได้ตัดสินใจถูกต้อง
มีพ่อค้าไทย และ เทศกี่รายแล้ว ที่ส่งสินค้าไปแล้วเก็บเงินไม่ได้
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 5
ผมก็ว่าเขามองในแง่ลบเกินไปครับ
ที่จริงการมองในแง่ลบก็มีส่วนดี ตรงที่ก่อให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็มีส่วนเสียในแง่จิตวิทยาและเสียโอกาสดีๆหลายอย่าง
การมองในแง่บวกเกินไปอาจจะได้ประโยชน์ในแง่จิตวิทยาหรือโอกาสหลายๆด้าน
ที่จริงการมองในแง่ลบก็มีส่วนดี ตรงที่ก่อให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็มีส่วนเสียในแง่จิตวิทยาและเสียโอกาสดีๆหลายอย่าง
การมองในแง่บวกเกินไปอาจจะได้ประโยชน์ในแง่จิตวิทยาหรือโอกาสหลายๆด้าน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 6
[quote="lychee"]ผมว่ามองในแง่ลบมากเกินไปนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 7
การมองคงต้องมองหลายมิติ
ผมเห็นด้วยที่คนไทยจะมาซื้อสินค้าจากคนไทยด้วยกัน
แต่อยากถามว่าร้านค้าคนไทยพัฒนาบ้างรึเปล่า
ขายสินค้าแพงบ้าง ไม่ติดป้ายราคาบ้าง
เอาเปรียบลูกค้าบ้าง คนซื้อจะเลือกซื้อสินค้า
เหมือนห้างก็ยาก พูดตรง ๆ คือไม่มีการพัฒนาใด ๆ เลย
สิ่งที่อยากบอกคือร้านค้าคนไทยก็ไม่เคยพัฒนาเลย
คนไทยส่วนมากยังคงไม่เข้าใจระบบทุนนิยมที่กำลังครองโลกนี้อยู่ว่า
มันคือระบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก
โลกมันพัฒนาไปมาก แต่คนไทยบางส่วนก็ไม่พัฒนาเลย
อยากให้ทุกคนมองแบบหลากมิติ อย่างผู้นำไทยคนปัจจุบัน
ไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ก็อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย
เมือเลือกไปแล้ว อะไรที่คิดว่าไม่ดี ควรจะตักเตือนดี ๆ มากกว่า
ลองคิดดูดี ๆ จะเห็นว่านายกคนปัจจุบัน มีสายตาที่ทอดยาวไกลกว่าพวกเรามาก
ผมเห็นด้วยที่คนไทยจะมาซื้อสินค้าจากคนไทยด้วยกัน
แต่อยากถามว่าร้านค้าคนไทยพัฒนาบ้างรึเปล่า
ขายสินค้าแพงบ้าง ไม่ติดป้ายราคาบ้าง
เอาเปรียบลูกค้าบ้าง คนซื้อจะเลือกซื้อสินค้า
เหมือนห้างก็ยาก พูดตรง ๆ คือไม่มีการพัฒนาใด ๆ เลย
สิ่งที่อยากบอกคือร้านค้าคนไทยก็ไม่เคยพัฒนาเลย
คนไทยส่วนมากยังคงไม่เข้าใจระบบทุนนิยมที่กำลังครองโลกนี้อยู่ว่า
มันคือระบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก
โลกมันพัฒนาไปมาก แต่คนไทยบางส่วนก็ไม่พัฒนาเลย
อยากให้ทุกคนมองแบบหลากมิติ อย่างผู้นำไทยคนปัจจุบัน
ไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ก็อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย
เมือเลือกไปแล้ว อะไรที่คิดว่าไม่ดี ควรจะตักเตือนดี ๆ มากกว่า
ลองคิดดูดี ๆ จะเห็นว่านายกคนปัจจุบัน มีสายตาที่ทอดยาวไกลกว่าพวกเรามาก
นักลงทุนเน้นคุณค่ามือใหม่ยังไม่เก่ง แต่ใจรักครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 8
ออกตัวก่อนนะครับไม่ได้เชียร์ นายก
ไอ้เรื่องไม่ดีท่านก็มี
แต่คิดว่าประเทศชาติมาก่อน
ไอ้เรื่องไม่ดีก็เตือน ๆ กันดี ๆ หาทางแก้ไขกัน
ไอ้เรื่องไม่ดีท่านก็มี
แต่คิดว่าประเทศชาติมาก่อน
ไอ้เรื่องไม่ดีก็เตือน ๆ กันดี ๆ หาทางแก้ไขกัน
นักลงทุนเน้นคุณค่ามือใหม่ยังไม่เก่ง แต่ใจรักครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 10
ผมอ่านจบ สะดุดตรง เรื่องเกี่ยวกับเกษตรกรในบทความ
ผมว่า แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวงท่าน
ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืช หลายๆ อย่างบนพื้นที่ของตน
เน้นที่การปลูกเพื่อกินเองก่อนเป็นหลัก แทนที่จะทำเพื่อขายได้เงินปีละครั้งแต่ต้องซื้อกินทุกวัน
สนับสนุนให้ทำ แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อขาย น่าจะช่วยได้มากนะครับ
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่แล้ว ชอบมากๆ ครับ
ผมว่า แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวงท่าน
ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืช หลายๆ อย่างบนพื้นที่ของตน
เน้นที่การปลูกเพื่อกินเองก่อนเป็นหลัก แทนที่จะทำเพื่อขายได้เงินปีละครั้งแต่ต้องซื้อกินทุกวัน
สนับสนุนให้ทำ แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อขาย น่าจะช่วยได้มากนะครับ
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่แล้ว ชอบมากๆ ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 11
ผมว่าคงถึงมือฝรั่งเศสไม่ถึง 86 บาทหรอกครับ เพราะเราซื้อสินค้า 100 บาท ทางบริษัทก็คงต้องหักต้นทุนสินค้า ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ถ้ามีกำไรก็หักภาษีอีกRocker เขียน:>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
แต่ถ้าคิดกลับกัน ทางต่างชาติก็เป็นฝ่ายนำเงินเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากก่อนที่จะสามารถขยายกิจการ
ถ้าคุณคิดว่าจะไม่สนับสนุนกิจการต่างชาติ เราคงไม่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย รถยนต์ ยารักษาโรค และอื่นๆอีกมากมายที่เราต้องซื้อจากต่างชาติ
ค่าลิขสิทธิ์ผมเข้าใจว่าอย่างมากคงไม่เกิน 10% หรอกครับ อย่าง KFC ต้นทุนก็ประมาณ 50% แล้วครับ และต้นทุนที่แพงอีกอย่างก็คือค่าทำเลครับ ค่าเซ้งพื้นที่ในศูนย์การค้าแพงอย่าบอกใครเชียวRocker เขียน:>ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
อีกอย่างลองดู แมคโดนัลซิครับ รู้สึกว่าขาดทุนมาหลายปีแล้วนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 12
license fee น่าจะไม่เกิน 10% อย่างคุณฉัตรชัยว่าครับ ถ้ารวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างเข้าไป
เรื่องแยกดินแดน นิสัยคนไทยไม่นิยมการเผชิญหน้า
นอกจากภาคใต้ยังไม่เห็นที่อื่นจะเป็นไปได้
เรื่องเกษตรกร มีมูลน่าเชื่อถือครับ
เรื่องแยกดินแดน นิสัยคนไทยไม่นิยมการเผชิญหน้า
นอกจากภาคใต้ยังไม่เห็นที่อื่นจะเป็นไปได้
เรื่องเกษตรกร มีมูลน่าเชื่อถือครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 13
ผมก็สงสัยนะว่า ประเทศที่มีขนาดเล็กๆเพียง 3 - 4 จังหวัด จะอยู่รอดหรือครับในสถานการณ์การแข่งขันของโลกในปัจจุบัน
ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากอดอยากหรอกครับ
ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากอดอยากหรอกครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 14
8) ติวเต้อร์หมู นิติภูมิ เนี่ยไม่ธรรมดาเลย
ตอนเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
พ้มยังเลือกแกเลย
ผมว่าบ้านเมืองถ้ามีคนเก่งและอินเตอร์อย่างแกเยอะๆน่าจะดีมากๆ
ดูๆแล้วแกทำอะไรเพื่อส่วนรวมเยอะเหมือนกันนะ
ผมมีหนังสือแกเกือบทุกเล่มเลย
ผมเพิ่งทราบว่าแก ลองทำนายอนาคตประเทศไทย จากกระทู้นี้
น่าคิดครับจะเซฟไว้แล้วคอยติดตามดู
ผมยังเคารพแกเสมอต้นเสมอปลายครับ
อีกคนนึงในวงการที่ผมเคยติดตามขนาดซื้อวีซีดีมาฟัง
คืออาจารย์วีระ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนดีจะแตก
เพราะรายการตอนบ่าย3ชั่วโมง
โฆษณาซะ1ชั่วโมง
เปิดเพลงซะ1ชั่วโมง
ขายหนังสือกะทัวร์กะรายการทีวีซะ1ชั่วโมง
แฮ่ๆๆหมดเวลาแล้ว
ไม่รู้แกจะรู้ตัวอ่ะเปล่า
ตอนนี้ชอบแกอยู่เรื่องเดียว
แกไม่ดีกะใครได้หมด
แต่กะเด็กแกดีโคตร แกยอมเด็กมากๆ อันนี้ต้องชม
ตอนเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
พ้มยังเลือกแกเลย
ผมว่าบ้านเมืองถ้ามีคนเก่งและอินเตอร์อย่างแกเยอะๆน่าจะดีมากๆ
ดูๆแล้วแกทำอะไรเพื่อส่วนรวมเยอะเหมือนกันนะ
ผมมีหนังสือแกเกือบทุกเล่มเลย
ผมเพิ่งทราบว่าแก ลองทำนายอนาคตประเทศไทย จากกระทู้นี้
น่าคิดครับจะเซฟไว้แล้วคอยติดตามดู
ผมยังเคารพแกเสมอต้นเสมอปลายครับ
อีกคนนึงในวงการที่ผมเคยติดตามขนาดซื้อวีซีดีมาฟัง
คืออาจารย์วีระ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนดีจะแตก
เพราะรายการตอนบ่าย3ชั่วโมง
โฆษณาซะ1ชั่วโมง
เปิดเพลงซะ1ชั่วโมง
ขายหนังสือกะทัวร์กะรายการทีวีซะ1ชั่วโมง
แฮ่ๆๆหมดเวลาแล้ว
ไม่รู้แกจะรู้ตัวอ่ะเปล่า
ตอนนี้ชอบแกอยู่เรื่องเดียว
แกไม่ดีกะใครได้หมด
แต่กะเด็กแกดีโคตร แกยอมเด็กมากๆ อันนี้ต้องชม
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 15
chatchai เขียน: ผมก็สงสัยนะว่า ประเทศที่มีขนาดเล็กๆเพียง 3 - 4 จังหวัด จะอยู่รอดหรือครับในสถานการณ์การแข่งขันของโลกในปัจจุบัน
ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากอดอยากหรอกครับ
8) คุณทั้งสองคนเนี่ยมีเหลี่ยมให้อึ้งอยู่เรื่อยๆCK เขียน: license fee น่าจะไม่เกิน 10% อย่างคุณฉัตรชัยว่าครับ ถ้ารวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างเข้าไป
เรื่องแยกดินแดน นิสัยคนไทยไม่นิยมการเผชิญหน้า
นอกจากภาคใต้ยังไม่เห็นที่อื่นจะเป็นไปได้
เรื่องเกษตรกร มีมูลน่าเชื่อถือครับ
เขาว่าสิ่งที่มีเหลี่ยมอยู่เยอะๆ
มันเป็น เพชร ใช่ไหม่เอ่ย
เสียดายคุณวิบูลย์แกไม่ค่อยออกนอกกระทู้ปักหมุด
คุณมนก็มัวแต่รบขบเหลี่ยมกะแม่ยาย
คุณเจ๋งก็ชอบปลีกวิเวกทีละนานๆ
ต้องมาช่วยกันปั้นน้องๆให้แจ้งเกิดให้ได้เสียก่อน
จะได้เป็นรุ่นที่สองที่สามต่อไปเรื่อยๆนะครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 16
ครับ แต่ถ้า ภาคใต้แยกตัว จริงละก็ เค้าคงไม่สนโลกภายนอกคงคล้าย east timor อะครับคงคิดดีแล้วไม่อยากอยู่กับ indo
อีกอย่างภาคใต้เราเป็นประเทศmuslimคงเคร่งแต่ศาสนาอะครับ พี่chatchai
วัตถุค่อยว่ากัน
ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน นํามันยิ่งไม่ไหว รถตู้ก็ปรับเพิ่มราคา
คนกินเงินเดือน น้อยๆ 10000 บาทไม่พอกินแน่ถ้าต้องจ่ายค่าห้อง
ค่าเช่า เดินทาง อาหาร
ยังไม่มีแนวโน้มจะลดลงบ้างเลย เฮ้ออ .......วัยรุ่นเซ็ง

อีกอย่างภาคใต้เราเป็นประเทศmuslimคงเคร่งแต่ศาสนาอะครับ พี่chatchai
วัตถุค่อยว่ากัน
ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน นํามันยิ่งไม่ไหว รถตู้ก็ปรับเพิ่มราคา
คนกินเงินเดือน น้อยๆ 10000 บาทไม่พอกินแน่ถ้าต้องจ่ายค่าห้อง
ค่าเช่า เดินทาง อาหาร
ยังไม่มีแนวโน้มจะลดลงบ้างเลย เฮ้ออ .......วัยรุ่นเซ็ง

- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 17
เห็นดีด้วยกับการ ไทยช่วยไทย
แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องของธรรมชาติครับ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง โลกก็ไม่พัฒนาขึ้น
แต่ที่ผมอยากเห็นมากกว่าคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านธรรม ที่ไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงทางโลกมากกว่าครับ
รับรองไม่มีการแตกแยกให้เห็น
แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องของธรรมชาติครับ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง โลกก็ไม่พัฒนาขึ้น
แต่ที่ผมอยากเห็นมากกว่าคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านธรรม ที่ไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงทางโลกมากกว่าครับ
รับรองไม่มีการแตกแยกให้เห็น
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 18
ผมก็กลัวนะ อีก 5 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ :(
แต่ก็งงๆ เรื่องแยกประเทศ ไทย
อาเจะห์ ก็ดูเงียบๆ ไปหลังจาก สึนามิ
อาร์เจน เศรษฐกิจล่ม แล้วไม่เห็นเค้าแยกประเทศเลย
ขนาดประเทศเค้า ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก มีพื้นที่แบ่งได้ สบายๆ
พี่ฉัตรชัย ว่าขนาดเล็กๆ 3-4 จังหวัด
ดูจากแผนที่ มันก็น่าจะพอๆ กับ คูเวต หรือ กาตาร์ นะครับ (แต่ว่า เขามีน้ำมัน)
แต่ก็งงๆ เรื่องแยกประเทศ ไทย
อาเจะห์ ก็ดูเงียบๆ ไปหลังจาก สึนามิ
อาร์เจน เศรษฐกิจล่ม แล้วไม่เห็นเค้าแยกประเทศเลย
ขนาดประเทศเค้า ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก มีพื้นที่แบ่งได้ สบายๆ
พี่ฉัตรชัย ว่าขนาดเล็กๆ 3-4 จังหวัด
ดูจากแผนที่ มันก็น่าจะพอๆ กับ คูเวต หรือ กาตาร์ นะครับ (แต่ว่า เขามีน้ำมัน)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 19
ของผม เขาเรียก "เหลี่ยมจัด" รึเปล่าครับ :lovl:คุณทั้งสองคนเนี่ยมีเหลี่ยมให้อึ้งอยู่เรื่อยๆ
จริงๆ ช่วงนี้ผมออกจะกลมอยู่พอควรนะครับ
น้ำหนักขึ้นไปทำ all-time high อีกครั้งในรอบสองเดือน
เป็นดับเบิ้ลท๊อปไปแล้ว ถ้าทะลุ 70 ขึ้นไปได้
อาจจะเห็น 80 เป็นครั้งแรกครับ
เอ ทำไมน้ำหนักเราอาการเหมือนน้ำมันดิบเลยหว่า กรั่กๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 20
คุณนิติภูมิ เป็น นอสตราดามุส เหรอครับ????
ขอโทษทีเถอะ ผมอ่านบทความนี้หลายครั้งแล้วครับ และผมก็ไม่ buy เลยจริงๆ
p.s. คุณนิติภูมิไม่ได้บอกไว้ว่าเราจะ ผลิต อะไร ครับ เรากลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีตังค์ งั้นหรอครับ ????? แล้วจะบริโภคได้ไงครับ
ขอโทษทีเถอะ ผมอ่านบทความนี้หลายครั้งแล้วครับ และผมก็ไม่ buy เลยจริงๆ
p.s. คุณนิติภูมิไม่ได้บอกไว้ว่าเราจะ ผลิต อะไร ครับ เรากลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีตังค์ งั้นหรอครับ ????? แล้วจะบริโภคได้ไงครับ
. . .
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 21
โหนี่เรื่องระดับประเทศเลยนะนี่
ความคิดของผมนะ ประเทศในแถบ นี้ประเทศไทย โดดเด่นที่สุด ที่ต่างชาติจะเข้ามาเจาะ เพื่อยึดครองก่อนเพื่อนๆ
เพราะ
1. ญี่ปุ่น เก่งไป
2. ใต้หวันไม่มั่นคง
3. ฮ่องกง มาเก๊า ไปเป็นของจีนแล้ว
4. พม่า ลาว เขมร ยังล้าสมัยคุยกันไม่รู้เรื่อง
5. เวียดนาม ก็อืม อดีตอันแสนปวดร้าว เอามาอวดให้นักท่องเทียวดูทุกวัน ว่าเจ็บช้ำขนาดไหนกับ ชาวต่างประเทศ
6. มาเลเซีย ก็อิสลาม
7. อินโดนีเซีย ก็ไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย
สรุปคือ ต่างชาติก็ยึดประเทศไทยสำเร็จไปแล้ว
หนังล่าสุด stelth อืม มีฉากในประเทศไทยด้วย พระ ท้องนา สาวไทยที่พร้อมจะนอนกับชาวต่างชาติทั้งๆที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ตลาดน้ำ
และมีการไปทิ้งบอมที่พม่า เพราะนักก่อการร้ายไปประชุมกันที่นั่น
นี่เป็นหนังเรื่องแรกๆเลยนะครับ ที่เกี่ยวกับ ไทย พม่า และเมกา
กลับมาเรื่องแบ่งแยกประเทศ
ผมคิดว่า ชาวต่างประเทศจะยันให้ไทยเป็นประเทศครับ ไทยยิ่งมั่นคง ยิ่งเป็นฐานในการยึดครองทางเศรษฐกิจ ประเทศอื่นไปได้เรื่อยๆ
ดูจาก google earth แล้วรู้เลยว่า ไทย เวียดนาม พม่า ลาว เป็นที่หมายตาของชาวโลกครับ เพราะมีป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์
ถ้าไทยเป็นมหาอำนาจ เราคงกำหนดให้น้ำมัน บาเรลละ 2 เหรียญ ส่วนข้าวคิดถังละ 70 เหรียญ ละกัน
ในอนาคตเมื่อชาวต่างประเทศยึดประเทศแถบนี้เรียบร้อยแล้ว
น้ำมันก็หมดโลกไปแล้ว
ประชากรโลก มีสักประมาณ 12000 ล้านคน
ถึงตอนนั้น สิ่งที่ต้องการที่สุดบนโลกคือพื้นที่ในการทำเกษตร ซึ่ง โลกเจอมลภาวะมาก และ มีแผ่นดินไหว ทะเลทราย และหิมะ ทำให้พื้นที่ทำเกษตรมีน้อยลงไปมาก
ข้าว และ มาม่าตอนนั้นจะราคาเท่าไรกันนะ
และข้าวก็คงจะจัดจำหน่ายโดย คาฟุ โลตัส bigC wall mart
อิอิ ถ้ารัฐบาลไทยมองไกลจริง ก็ขอให้นำเงินงบประมาณของประเทศไทย ไปซื้อบริษัทเหล่านี้มา บริษัทละ 25 % เพื่อร่วมครองโลก โดยให้ฝรั่งทำให้ไทย
ความคิดของผมนะ ประเทศในแถบ นี้ประเทศไทย โดดเด่นที่สุด ที่ต่างชาติจะเข้ามาเจาะ เพื่อยึดครองก่อนเพื่อนๆ
เพราะ
1. ญี่ปุ่น เก่งไป
2. ใต้หวันไม่มั่นคง
3. ฮ่องกง มาเก๊า ไปเป็นของจีนแล้ว
4. พม่า ลาว เขมร ยังล้าสมัยคุยกันไม่รู้เรื่อง
5. เวียดนาม ก็อืม อดีตอันแสนปวดร้าว เอามาอวดให้นักท่องเทียวดูทุกวัน ว่าเจ็บช้ำขนาดไหนกับ ชาวต่างประเทศ
6. มาเลเซีย ก็อิสลาม
7. อินโดนีเซีย ก็ไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย
สรุปคือ ต่างชาติก็ยึดประเทศไทยสำเร็จไปแล้ว
หนังล่าสุด stelth อืม มีฉากในประเทศไทยด้วย พระ ท้องนา สาวไทยที่พร้อมจะนอนกับชาวต่างชาติทั้งๆที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ตลาดน้ำ
และมีการไปทิ้งบอมที่พม่า เพราะนักก่อการร้ายไปประชุมกันที่นั่น
นี่เป็นหนังเรื่องแรกๆเลยนะครับ ที่เกี่ยวกับ ไทย พม่า และเมกา
กลับมาเรื่องแบ่งแยกประเทศ
ผมคิดว่า ชาวต่างประเทศจะยันให้ไทยเป็นประเทศครับ ไทยยิ่งมั่นคง ยิ่งเป็นฐานในการยึดครองทางเศรษฐกิจ ประเทศอื่นไปได้เรื่อยๆ
ดูจาก google earth แล้วรู้เลยว่า ไทย เวียดนาม พม่า ลาว เป็นที่หมายตาของชาวโลกครับ เพราะมีป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์
ถ้าไทยเป็นมหาอำนาจ เราคงกำหนดให้น้ำมัน บาเรลละ 2 เหรียญ ส่วนข้าวคิดถังละ 70 เหรียญ ละกัน
ในอนาคตเมื่อชาวต่างประเทศยึดประเทศแถบนี้เรียบร้อยแล้ว
น้ำมันก็หมดโลกไปแล้ว
ประชากรโลก มีสักประมาณ 12000 ล้านคน
ถึงตอนนั้น สิ่งที่ต้องการที่สุดบนโลกคือพื้นที่ในการทำเกษตร ซึ่ง โลกเจอมลภาวะมาก และ มีแผ่นดินไหว ทะเลทราย และหิมะ ทำให้พื้นที่ทำเกษตรมีน้อยลงไปมาก
ข้าว และ มาม่าตอนนั้นจะราคาเท่าไรกันนะ
และข้าวก็คงจะจัดจำหน่ายโดย คาฟุ โลตัส bigC wall mart
อิอิ ถ้ารัฐบาลไทยมองไกลจริง ก็ขอให้นำเงินงบประมาณของประเทศไทย ไปซื้อบริษัทเหล่านี้มา บริษัทละ 25 % เพื่อร่วมครองโลก โดยให้ฝรั่งทำให้ไทย
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 22
ผมอ่านมาหลายรอบแล้วนะครับ เรื่องนี้เนี้ย
นิติภูมิ เนี้ยผมก็ตามอ่านเรื่องที่แกเขียนอยู่เกือบทุกวัน เนื่องจากแกเดินทางบ่อย จะได้มีข้อมูลเพิ่มเติม
แต่เรื่องนี้หลายเรื่องไม่เห็นด้วยนะครับ
เรื่องอินโดจะแบ่งแยก เป็นไปได้สูง เพราะหลายปัจจัย เช่น ทรัพยากร เรื่องพื้นที่ เรื่องของชนชาติ แต่ประเทศไทย ณ ตอนนี้ผมว่ายังไม่มีโอกาสขนาดนั้นครับ
เอาแค่ภาคใต้ 3 จังหวัดนี้ก็ยากที่จะเป็นประเทศแน่ๆ ถ้าต้องการกอบกู้รัฐปัตตานี จริงๆให้มีอำนาจต่างๆ และมีทรัพยากรมากพอ ต้องเอาดินแดนตอนบนของมาเลย์ ที่เสียให้อังกฤษไป มาเกี่ยวด้วย นะครับ พวก กลันตัน ตังกานู ปะริส เป็นต้น แต่มาเลย์ คงไม่ยอมแน่ๆ ฟันธง
เรื่องการเกษตรมีโอกาสเป็นไปได้สูง
เรื่องห้างใหญ่ๆของคนไทยก็มีนิครับ อย่าง TOPs ในเครือเซ็นทรัลเป็นต้น เห็นมีข่าวจะบุกตลาดต่างประเทศแล้วด้วยนะครับ
นิติภูมิ เนี้ยผมก็ตามอ่านเรื่องที่แกเขียนอยู่เกือบทุกวัน เนื่องจากแกเดินทางบ่อย จะได้มีข้อมูลเพิ่มเติม
แต่เรื่องนี้หลายเรื่องไม่เห็นด้วยนะครับ
เรื่องอินโดจะแบ่งแยก เป็นไปได้สูง เพราะหลายปัจจัย เช่น ทรัพยากร เรื่องพื้นที่ เรื่องของชนชาติ แต่ประเทศไทย ณ ตอนนี้ผมว่ายังไม่มีโอกาสขนาดนั้นครับ
เอาแค่ภาคใต้ 3 จังหวัดนี้ก็ยากที่จะเป็นประเทศแน่ๆ ถ้าต้องการกอบกู้รัฐปัตตานี จริงๆให้มีอำนาจต่างๆ และมีทรัพยากรมากพอ ต้องเอาดินแดนตอนบนของมาเลย์ ที่เสียให้อังกฤษไป มาเกี่ยวด้วย นะครับ พวก กลันตัน ตังกานู ปะริส เป็นต้น แต่มาเลย์ คงไม่ยอมแน่ๆ ฟันธง
เรื่องการเกษตรมีโอกาสเป็นไปได้สูง
เรื่องห้างใหญ่ๆของคนไทยก็มีนิครับ อย่าง TOPs ในเครือเซ็นทรัลเป็นต้น เห็นมีข่าวจะบุกตลาดต่างประเทศแล้วด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 23
Rocker เขียน:ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
>ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
มุมมองผม อาจจะแตกต่างกันนิด
สินค้าชนิดเดียวกัน ซื้ในห้าง ราคาถูกกว่า แน่นอนที่สุด
ยามเกิดภาวะวิกฤติ น้ำท่วม หรือ อะไรบางอย่าง ร้านโชห่วย ถือโอกาสขึ้นราคาทันที
เงิน 100 บาท ที่ผมจ่ายไปในห้าง ส่วนหนึ่ง ถูกแปรเป็นภาษีเงินได้ ของห้าง เข้ารัฐ
แต่เงินที่จ่ายในร้าน โชห่วย .....คุณว่า มีโชห่วยเจ้าใด เสียภาษีที่ถูกต้องบ้างครับ
ที่ผมซื้อ ร้านข้างบ้างอยู่ตอนนี้ ก็คือ น้ำแข็ง เท่านั้น เองครับ ถุงละ 6 บาท เวลาเพื่อนฝูง หิ้ว แอลกอฮอล์กลั่น มา น้ำแข็งในตู้เย็น ไม่พอ ก็ต้อง ไปซื้อ โชห่วยนี่แหละครับ
Rgds,
Novice_bkk.
Novice_bkk.
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์ที่ 24
เข้ามาดูครับ :\/:
สงสัยผมต้องเริ่ม เศรษฐกิจพอเพียงด้วยการปลูกข้าว หลังบ้านแล้วมั๊ง :mrgreen:
ก่อนนี้บ้านผมก็ขายของ โชว์หว่ย แต่ปัจจุบันนี้ไปไม่ไหว ครับ สู้ห้าง บ่ได้
ห้าง แอร์เย็นกว่า ถูกกว่า คนเดินมากกว่า
แต่หลังๆ หลังจากที่ร้าน โชว์ห่วยเริมหมดลง ผมไปเดินเล่นกับแม่(ซึ่งเค้าจะรู้ราคาต้นทุนพวกนี้ค่อนข้างดี) เค้าว่า เดินไปซื้ออะไรห้างก็แพง(เค้าเรียกว่าเอาคืนรึป่าว)
ยกเว้นมันจะมี โปรโมชั่น
สงสัยผมต้องเริ่ม เศรษฐกิจพอเพียงด้วยการปลูกข้าว หลังบ้านแล้วมั๊ง :mrgreen:
ก่อนนี้บ้านผมก็ขายของ โชว์หว่ย แต่ปัจจุบันนี้ไปไม่ไหว ครับ สู้ห้าง บ่ได้
ห้าง แอร์เย็นกว่า ถูกกว่า คนเดินมากกว่า
แต่หลังๆ หลังจากที่ร้าน โชว์ห่วยเริมหมดลง ผมไปเดินเล่นกับแม่(ซึ่งเค้าจะรู้ราคาต้นทุนพวกนี้ค่อนข้างดี) เค้าว่า เดินไปซื้ออะไรห้างก็แพง(เค้าเรียกว่าเอาคืนรึป่าว)
ยกเว้นมันจะมี โปรโมชั่น