การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
กิตติพจน์ครับ
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อยากทราบว่าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับrequire rate of return ของตลาดธุระกิจcommercialได้จากที่ไหนครับ

ขอบคุณมากครับ

-
M149
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
คุณกิตติพจน์จะเอาไปทำรายงานละสิ ผมต้องบอกก่อนว่าค่าKที่คุณจะเอาไปใช้ทำรายงานมันใช้ทฤษฎี Efficience Market ของ มาโควิช ซึ่งจะแตกต่างกันกับ ทฤษฎี Margin of Safety ของ เบน เกรแฮม ซึ่งหลักการแรกพึ่งพิงตัวเลขทางสถติ ซึ่งคุณอาจจะใช้ yieldของหุ้นในกลุ่ม commerceมาหาค่าเฉลี่ยเพื่อหาค่าKดูก็ได้นะครับ หรืออีกทีก็ใช้ สูตร CAPMหาค่า =Risk free rate+Beta(Mkt rate-Risk free rate)
เฮ้อเหนื่อย ใช้แบบValueง่ายกว่าเยอะ หวังว่าคงไม่มาถามเรื่องefficience setด้วยนะครับ ไม่งั้นผมตายแน่

-
Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
นักเรียนการเงินแน่นอนเลย หาBetaของกลุ่มได้ก็หืดขึ้นคอแล้ว market rate ก็ไม่เท่าไรหรอก risk free rateก็เอาผลตอบแทนพันธบัตรก็ได้
-
Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
:lol: แหะๆ :lol:
พออธิบายค่าต่างๆ ละเอียดกว่านี้ซักเล็กน้อย
เป็นวิทยาทานแก่เด็กวิศวะตาดำๆ ได้ไหมครับ
ด้วยความเคารพ
-
zynetic
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อืม........สงสัยเราจะต้องเรียนเพิ่มเติมอีกเยอะ -_-' ยังไม่เข้าใจอะไรเลย....จะทันชาวบ้านเค้ามั้ยเนี่ย
Financial Architect: Intermediate level
-
Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อย่าไปคิดมากกลับคำพวกนี้เลย จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่นักการเงินการลงทุนเขาเรียนกัน สำหรับเรานักลงทุนแบบเน้นคุณค่าแค่รู้ไว้ก็พอ ไม่รู้ก็ไม่ได้เป็นอะไร การลงทุนที่ถูกต้องก็คือการลงทุนในบริษัทที่ดี ผู้บริหารซื่อสัตย์และเห็นแก่ประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ผมไม่เห็นมันจะไปเกี่ยวอะไรกับ Beta หรืออะไรที่ดูแล้วน่าปวดหัวเลย เชื่อผมเถอะ ผมเองไม่เคยใช้มันทำประโยชน์เลย
-
vesarach
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เดี๋ยวจะตอบให้นะ วันนี้ต้องรีบ logout ไปทำธุระก่อน
-
vesarach
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
consept ง่ายๆ ของ beta (b)
สมมุติจะหา beta ของหุ้น gfpt
beta หุ้น gfpt เปรียบได้กับความชันของกราฟแสดงคู่ลำดับ
คู่ลำดับแต่ละคู่คือข้อมูลของแต่ละวัน
เมื่อแกน x คือ required return of the market และแกน y คือ required rate of return ของ gfpt
หรือแกน x คือ set index และแกน y คือ ราคาหุ้น gfpt
ถ้า beta (ความชัน) ของ gfpt เท่ากับ 1 คือ ราคา gfpt ขึ้นลงตาม set index
ถ้า beta (ความชัน)สูงมาก สมมุติ b = 5 คือ ราคาหุ้นจะมีความแปรปรวนสูง ถ้า index ขึ้น ราคา gfpt จะขึ้นเป็น 5 เท่าของ index
ถ้า beta ติดลบ คือ index วิ่งขึ้น ราคาหุ้นจะวิ่งลง ... index ลง ราคาหุ้นจะขึ้น
beta จึงหาได้จากความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้น และ set index ในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอดีต
อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างคะ ถ้ามีคำถามหรือสนใจตรงไหนก็ถามต่อได้นะคะ
ป.ล. beta คล้ายความชันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวนะ วิธีหา beta จะยุ่งยากกว่านิดหน่อย
-
M149
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
จิ๊บเธอสรุปแบบภาษาชาวบ้านหน่อยสิ เล่นภาษาเทคนิคแบบนี้คนอื่นจะไม่เข้าใจเอานา

-
ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เอจะว่าไปแล้วยุคก่อตั้งก็พอมีสาวๆพอสมควรนี่หน่า แถมแสดงความรู้ออกมาแบบนักการเงินด้วย แล้วตอนนี้เพื่อนพี่ จินนี่คนนี้ไปไหนแล้วครับ หรือเปลี่ยนชื่อ ซ่อนนามแฝงกายอยู่ลับๆ
-
M149
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อ๋อเพื่อนพี่คนนี้ตอนนี้ไปอังกฤษแล้วละ แกเป็นอาจารย์สอนอยู่ABAC เป็นคนที่ได้คะแนนเต็มวิชาquantitative คนเดียวในclass แต่ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้างไม่ได้คุยกันเลย
-
ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
คนอื่นๆ อย่าไปท้อถอยนะครับ ความรู้ย่อมเรียนเท่าทันกันหมดครับ แต่คุณธรรมนั้นแตกต่างครับต้องอาศัยความเพียรและจิตใจมุ่งมั่นด้วย
เค้าเก่งได้เราก็เก่งได้ครับ การลงทุนแบบ VI ใช้ความรู้แบบธุรกิจค่อนข้างมากสำหรับผมคิดว่าความเข้าใจในธุรกิจคือหากเป็นเรา จะบริหารบริษัทนั้นอย่างไร หากเราเข้าใจได้ขนาดนั้นก็คงไม่ต่างจากปู่บัฟเฟตครับ