สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 1
ราคาหุ้นต้องน้อยกว่า หรือเท่ากับ 2/3 ของ (สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินทั้งหมด) ของบริษัท
นั่นหมายความว่า ถ้าเอาสินทรัพย์หมุนเวียนซึ่งสามารถขายได้คล่องเปลี่ยนเป็นเงินสด แล้วไปจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดของบริษัทแล้ว
ก็จะยังมีเงินสดเหลืออยู่มากเกินกว่าราคาหุ้นที่เราซื้อ นี่ยังไม่ได้นับสินทรัพย์ถาวรอื่นๆเช่น ที่ดินและโรงงาน ซึ่งอาจขายได้ราคาอีก
ถ้าเป็นเช่นนี้ ถือว่าหุ้นตัวนั้นมีราคาถูกและคุ้มค่าที่จะซื้อ เพราะโอกาสที่จะขาดทุนเกิดยากมาก มีความปลอดภัยสูง
คำถาม
1. จากข้อมูลข้างบนผมเอามาจากหนังสือตีแตกของ ดร. นิเวศน์ รบกวนผู้รู้ช่วยยกตัวอย่างการคำนวนจริงๆออกมาเป็น
คำตอบให้เห็นภาพได้ไหมครับ และถ้ามีอะไรอธิบายเพิ่มเติมด้วยก็จะดีครับ
นั่นหมายความว่า ถ้าเอาสินทรัพย์หมุนเวียนซึ่งสามารถขายได้คล่องเปลี่ยนเป็นเงินสด แล้วไปจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดของบริษัทแล้ว
ก็จะยังมีเงินสดเหลืออยู่มากเกินกว่าราคาหุ้นที่เราซื้อ นี่ยังไม่ได้นับสินทรัพย์ถาวรอื่นๆเช่น ที่ดินและโรงงาน ซึ่งอาจขายได้ราคาอีก
ถ้าเป็นเช่นนี้ ถือว่าหุ้นตัวนั้นมีราคาถูกและคุ้มค่าที่จะซื้อ เพราะโอกาสที่จะขาดทุนเกิดยากมาก มีความปลอดภัยสูง
คำถาม
1. จากข้อมูลข้างบนผมเอามาจากหนังสือตีแตกของ ดร. นิเวศน์ รบกวนผู้รู้ช่วยยกตัวอย่างการคำนวนจริงๆออกมาเป็น
คำตอบให้เห็นภาพได้ไหมครับ และถ้ามีอะไรอธิบายเพิ่มเติมด้วยก็จะดีครับ
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 3
ถึงหาได้ก็ใช่ว่าจะซื้อได้ เพราะถ้าบริษัทนั้นอยู่ในช่วงขาลง กำลังจะล้มละลาย ถ้าซื้อไปอีกมินานหรอกมูลค่าของมันก็จะเหลือศูนย์ เพราะบริษัทได้ล้มละลายออกจากตลาดหลักทรัพย์ไปrabbitz เขียน:เป็นวิธีคิดมูลค่าของเบนจามิน เกรแฮมครับ
วิธีนี้หาบริษัทที่ต่ำกว่ามูลค่ายากมากครับในปัจจุบันนี้
การซื้อหุ้นคือการซื้ออนาคต
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 4
เบน แกรแฮมใช้วิธีนี้ด้วยก็จริง
แต่ก็ถืออยู่เป็นร้อยตัวเลยนะครับ
น่าจะมากพอที่จะกระจายความเสี่ยงได้
นอกจากนั้นถ้าราคาหุ้นไม่ขึ้นมา
ในช่วงเวลาประมาณสองปี
(จำเวลาไม่ได้แน่นอน)ก็ขายทิ้งนะครับ
แต่ก็ถืออยู่เป็นร้อยตัวเลยนะครับ
น่าจะมากพอที่จะกระจายความเสี่ยงได้
นอกจากนั้นถ้าราคาหุ้นไม่ขึ้นมา
ในช่วงเวลาประมาณสองปี
(จำเวลาไม่ได้แน่นอน)ก็ขายทิ้งนะครับ
Sixth Sense Investor
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 5
ผมยกตัวอย่างหุ้น TIW ครับ แต่อธิบายอย่างเดียวคุณ INDEPENDENT82 อาจไม่เห็นภาพจริงๆ ถ้ายังไงคุณ INDEPENDENT82 ลองดูงบดุลรอบปี 2012 ของ TIW นะครับ แล้วตอบคำถามว่าINDEPENDENT82 เขียน:ราคาหุ้นต้องน้อยกว่า หรือเท่ากับ 2/3 ของ (สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินทั้งหมด) ของบริษัท
นั่นหมายความว่า ถ้าเอาสินทรัพย์หมุนเวียนซึ่งสามารถขายได้คล่องเปลี่ยนเป็นเงินสด แล้วไปจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดของบริษัทแล้ว
ก็จะยังมีเงินสดเหลืออยู่มากเกินกว่าราคาหุ้นที่เราซื้อ นี่ยังไม่ได้นับสินทรัพย์ถาวรอื่นๆเช่น ที่ดินและโรงงาน ซึ่งอาจขายได้ราคาอีก
ถ้าเป็นเช่นนี้ ถือว่าหุ้นตัวนั้นมีราคาถูกและคุ้มค่าที่จะซื้อ เพราะโอกาสที่จะขาดทุนเกิดยากมาก มีความปลอดภัยสูง
คำถาม
1. จากข้อมูลข้างบนผมเอามาจากหนังสือตีแตกของ ดร. นิเวศน์ รบกวนผู้รู้ช่วยยกตัวอย่างการคำนวนจริงๆออกมาเป็น
คำตอบให้เห็นภาพได้ไหมครับ และถ้ามีอะไรอธิบายเพิ่มเติมด้วยก็จะดีครับ
1. สินทรัพย์หมุนเวียนของ TIW เท่ากับเท่าไหร่?
2. หนี้สินทั้งหมดของ TIW เท่ากับเท่าไหร่?
3. มูลค่าตลาดของ TIW เท่ากับเท่าไหร่ (ณ วันที่ 8 มิ.ย. 55)?
4. คุณ INDEPENDENT82 จะซื้อ TIW ที่ราคานี้หรือไม่? เพราะอะไรครับ?
ลองดูครับ ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะทำให้เห็นภาพได้ชัดกว่านะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 6
ขอแจม เป็นความรู้นะครับ
TIW
สินทรัพย์หมุนเวียน = 907.98 mb
หนี้สินทั้งหมด = 109.47 mb
net nets = 907.98 - 109.47 = 798.51 mb
market cap = 600 mb at 06.07.2012
หุ้นจดทะเบียน 6 ล้านหุ้น ดังนั้น 798.51/6 = 133.085 บาทต่อหุ้น
เทียบ ราคาปัจจุบัน วันที่ 09.07.2012 = 102.00 บาท
ดังนั้นมองว่า undervalue = 133.085-102.00/102.00 = 30.475 เปอร์เซ็นต์
ถ้าคิดแบบนี้ถูกรึป่าวครับ
TIW
สินทรัพย์หมุนเวียน = 907.98 mb
หนี้สินทั้งหมด = 109.47 mb
net nets = 907.98 - 109.47 = 798.51 mb
market cap = 600 mb at 06.07.2012
หุ้นจดทะเบียน 6 ล้านหุ้น ดังนั้น 798.51/6 = 133.085 บาทต่อหุ้น
เทียบ ราคาปัจจุบัน วันที่ 09.07.2012 = 102.00 บาท
ดังนั้นมองว่า undervalue = 133.085-102.00/102.00 = 30.475 เปอร์เซ็นต์
ถ้าคิดแบบนี้ถูกรึป่าวครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 7
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลข ถ้าผิดพลาดต้องขอโทษด้วยครับ แต่ถ้ามองตามเกรแฮมแล้วล่ะก็ การคำนวณแบบนี้ก็ถือว่าถูกต้องตามหลักการหุ้นถูกมากของท่านนะครับ แต่จะมีการเสริมรายละเอียดเข้าไปอีกตรงที่ว่า จะต้องดูคุณภาพของสินทรัพย์หมุนเวียนแต่ละอย่างด้วยcharonp เขียน:ขอแจม เป็นความรู้นะครับ
TIW
สินทรัพย์หมุนเวียน = 907.98 mb
หนี้สินทั้งหมด = 109.47 mb
net nets = 907.98 - 109.47 = 798.51 mb
market cap = 600 mb at 06.07.2012
หุ้นจดทะเบียน 6 ล้านหุ้น ดังนั้น 798.51/6 = 133.085 บาทต่อหุ้น
เทียบ ราคาปัจจุบัน วันที่ 09.07.2012 = 102.00 บาท
ดังนั้นมองว่า undervalue = 133.085-102.00/102.00 = 30.475 เปอร์เซ็นต์
ถ้าคิดแบบนี้ถูกรึป่าวครับ
เช่น สินทรัพย์หมุนเวียนที่เป็นเงินสด กับที่เป็นสินค้าคงเหลือ จะมีคุณภาพในการที่จะแปลงเป็นเงินสดไม่เท่ากันครับ
สมมติว่าเราตั้งสมมติฐานว่า สินค้าคงเหลือจะมีมูลค่าเมื่อแปลงเป็นเงินสดเหลือแค่ 50% จากยอดที่แจ้งในงบการเงิน แบบนี้ก็จะทำให้ตัวเลขยอดรวมของสินทรัพย์หมุนเวียนเปลี่ยนไปด้วยครับ
มันเหมือนเป็น Margin of Safety ที่เพิ่มเข้ามาอีกนั่นเองครับ คือคิดเผื่อในแง่ร้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าคิดแง่ร้ายมากๆแล้ว (ปรับลดสินทรัพย์หมุนเวียนแบบอนุรักษ์นิยมสุดๆ ในขณะที่ไม่ปรับลดหนี้สินทั้งหมดลงเลย) ราคาหุ้นยังคง net-nets แบบนี้แปลว่าหุ้นตัวนี้เรียกได้ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ลงมาขายจริงๆ
แต่ทีนี้ถ้ามันถูกขนาดนั้นคงต้องย้อนมาคิดในมุมกลับแล้วล่ะครับ ว่าเพราะอะไรราคามันจึงตกต่ำได้ขนาดนั้นกันแน่
ธุรกิจตะวันตกดิน? รอวันตาย? ไม่มีการเติบโตอีกแล้ว? ผู้บริหารแย่? ทุจริต?
พวกนี้ตัวเลขอย่างเดียวบอกไม่ได้หรอกครับ
ขอให้โชคดีนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 8
ไม่เคยใช้วิธีนี้เลยครับเพราะเหมือนเป็นการมองเหรียญแค่ด้านเดียว
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: สูตรในการเลือกซื้อหุ้น
โพสต์ที่ 9
ลองอ่าน Case Study ตอนที่ Warren Buffett ซื้อ Dempster Mill เมื่อปี 1962 ครับ
ซื้อแบบ Graham เลย โดยให้ Valuation Asset ต่างๆ เป็น % ปล. แต่ตอนนั้นเขาซื้อแบบ "Control" คือการ Takeover กิจการนะครับ ถึงได้ Unlock มูลค่า Asset ได้ด้วยตัวเอง
credit : http://csinvesting.wordpress.com/2012/0 ... nborn-map/
ซื้อแบบ Graham เลย โดยให้ Valuation Asset ต่างๆ เป็น % ปล. แต่ตอนนั้นเขาซื้อแบบ "Control" คือการ Takeover กิจการนะครับ ถึงได้ Unlock มูลค่า Asset ได้ด้วยตัวเอง
credit : http://csinvesting.wordpress.com/2012/0 ... nborn-map/
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530