ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียักยอก
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียักยอก
โพสต์ที่ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ วันที่ 8 มิ.ย.เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 503 ศาลอ่านคำพิพากษา คดีนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน คดียักยอกทรัพย์ บีบีซี สั่งให้จำคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท และร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 1,132 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายเงินค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ 2 ปี ในฐานะที่ นายราเกซ เป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด เนื่องจากนายราเกซเป็นที่ปรึกษาของ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อันเป็นความผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากคดีหมายเลขดำ ด.3054/2552 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน อดีตที่ปรึกษาของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 กรณีระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2538
นายราเกซ ร่วมกับ นายเกริกเกียรติกับพวก ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วและกับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันยื่นขอสินเชื่อกู้ยืมเงินในนามบริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 2,000,000,000 บาท จากผู้เสียหายโดยอ้างวัตถุประสงค์การกู้และการนำหลักทรัพย์ใบหุ้นและที่ดินมาเป็นหลักประกันโดยจำเลยเป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารเสนอต่อนายเกริกเกียรติ ซึ่งความจริงแล้วจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติไม่มีเจตนาที่จะเอาใบหุ้นมามอบให้และใช้เป็นหลักประกันและที่ดินมีราคาประเมินที่แท้จริงเพียง 26,900,000 บาท มิใช่ 1,350,100,000 บาทที่จำเลยกับพวกทำหลักฐานขึ้น ซึ่งการกระทำของพวกจำเลยเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์สินของ บีบีซีผู้เสียหายไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,657,000,000 บาท
ทั้งนี้อัยการขอศาลสั่งให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 1,657,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่ นายราเกซถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศ แคนาดากลับมาดำเนินคดีในไทยข้อหายักยอกทรัพย์ บีบีซี หลังจากที่หลบหนีไปยังต่างประเทศกว่า 20 ปี ขณะที่คดีนี้ถือเป็นคดีแรกของนาย ราเกซ ซึ่งศาล จะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้นายราเกซ มีอาการป่วยและถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหลังจากที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมา นาย ราเกซ ยังไม่เคยได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีนี้อัยการได้นำพยานประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กลต. ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาสืบพยานตั้งแต่ปี2553 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและนำพยานเข้าสืบหักล้าง โดยมีการอ้างพยานผู้เชี่ยวชาญ มาเบิกความอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม นายราเกซ มีสีหน้าและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้จะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ก็ตาม
-------------------------------
ข้อมูลจาก http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1339132685
จากคดีหมายเลขดำ ด.3054/2552 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน อดีตที่ปรึกษาของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 กรณีระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2538
นายราเกซ ร่วมกับ นายเกริกเกียรติกับพวก ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วและกับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันยื่นขอสินเชื่อกู้ยืมเงินในนามบริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 2,000,000,000 บาท จากผู้เสียหายโดยอ้างวัตถุประสงค์การกู้และการนำหลักทรัพย์ใบหุ้นและที่ดินมาเป็นหลักประกันโดยจำเลยเป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารเสนอต่อนายเกริกเกียรติ ซึ่งความจริงแล้วจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติไม่มีเจตนาที่จะเอาใบหุ้นมามอบให้และใช้เป็นหลักประกันและที่ดินมีราคาประเมินที่แท้จริงเพียง 26,900,000 บาท มิใช่ 1,350,100,000 บาทที่จำเลยกับพวกทำหลักฐานขึ้น ซึ่งการกระทำของพวกจำเลยเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์สินของ บีบีซีผู้เสียหายไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,657,000,000 บาท
ทั้งนี้อัยการขอศาลสั่งให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 1,657,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่ นายราเกซถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศ แคนาดากลับมาดำเนินคดีในไทยข้อหายักยอกทรัพย์ บีบีซี หลังจากที่หลบหนีไปยังต่างประเทศกว่า 20 ปี ขณะที่คดีนี้ถือเป็นคดีแรกของนาย ราเกซ ซึ่งศาล จะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้นายราเกซ มีอาการป่วยและถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหลังจากที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมา นาย ราเกซ ยังไม่เคยได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีนี้อัยการได้นำพยานประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กลต. ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาสืบพยานตั้งแต่ปี2553 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและนำพยานเข้าสืบหักล้าง โดยมีการอ้างพยานผู้เชี่ยวชาญ มาเบิกความอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม นายราเกซ มีสีหน้าและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้จะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ก็ตาม
-------------------------------
ข้อมูลจาก http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1339132685
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 2
คดีแรกตัดสินแล้ว
ไม่รู้ว่ามีใครถือหุ้น BBC บ้างหรือเปล่า
ไม่รู้ว่ามีใครถือหุ้น BBC บ้างหรือเปล่า
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 3
ชดใช้เงินเป็นจำนวน 1,132 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายเงินค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ 2 ปี สมน้ำสมเนื้อจริงๆ
- Tsurumi
- Verified User
- โพสต์: 268
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 4
ความเห็นส่วนตัวครับ
หลายผู้อ่านก็ไม่เข้าใจกดหมายว่าทำใมโทษต่างกันมากมาย วันนี้ก็มีตัดสินพนักงานธนาคารรัฐ ยักยอกเงินลูกค้าประมาณ32,622 บาท แต่ได้รับโทษจำคุก120 ปี รับสารภาพและกดหมายให้ลงโทษสูงสุดได้เพียงห้าสิบปี ติดคุกนานเพราะเป็น พนัง. ธนาคารรัฐ (เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ) เลยไม่เข้าใจว่า ทั้งสองเป็นคดีอาญา แต่ดคดีของบีบีซี ยักยอกเงิน 1,657 ล้านบาทคืนมาแล้ว 525 ล้าน ขาดอีก 1,132 ล้าน จำคุกเพียง 10ปี ปรับ 1 ล้านถ้าไม่มีเงินเสียค่าปรับ ให้กักขังแทน2 ปี ผมเข้าใจตื้นๆว่าติดคุกน้อย เพราะเป็นพนักงานธนาคารเอกชน อีกข่าวเกียวข้องกันหลายอาทิตย์ก่อน ธปท. ให้สัมภาษณ์ว่า 15ปีแล้วคดีอาญาของบีบีซียังค้างศาลอีกมากกว่าสิบคดี ที่ตามฟ้องกันก็ทำตามกม.เท่านั้น เงินก็คงไม่ได้คืนมาแล้วเพราะมันเหลือแต่ซากเป็นส่วนใหญ่ คิดไปแล้วก็ไม่เข้าใจเพราะขัดกับหลักธรรมชาติ
หลายผู้อ่านก็ไม่เข้าใจกดหมายว่าทำใมโทษต่างกันมากมาย วันนี้ก็มีตัดสินพนักงานธนาคารรัฐ ยักยอกเงินลูกค้าประมาณ32,622 บาท แต่ได้รับโทษจำคุก120 ปี รับสารภาพและกดหมายให้ลงโทษสูงสุดได้เพียงห้าสิบปี ติดคุกนานเพราะเป็น พนัง. ธนาคารรัฐ (เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ) เลยไม่เข้าใจว่า ทั้งสองเป็นคดีอาญา แต่ดคดีของบีบีซี ยักยอกเงิน 1,657 ล้านบาทคืนมาแล้ว 525 ล้าน ขาดอีก 1,132 ล้าน จำคุกเพียง 10ปี ปรับ 1 ล้านถ้าไม่มีเงินเสียค่าปรับ ให้กักขังแทน2 ปี ผมเข้าใจตื้นๆว่าติดคุกน้อย เพราะเป็นพนักงานธนาคารเอกชน อีกข่าวเกียวข้องกันหลายอาทิตย์ก่อน ธปท. ให้สัมภาษณ์ว่า 15ปีแล้วคดีอาญาของบีบีซียังค้างศาลอีกมากกว่าสิบคดี ที่ตามฟ้องกันก็ทำตามกม.เท่านั้น เงินก็คงไม่ได้คืนมาแล้วเพราะมันเหลือแต่ซากเป็นส่วนใหญ่ คิดไปแล้วก็ไม่เข้าใจเพราะขัดกับหลักธรรมชาติ
- nonation
- Verified User
- โพสต์: 70
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 5
ไม่แน่ใจนะครับ แต่อาจเป็นได้ดังนี้
1. กรณี จนท.ธนาคารรัฐ
- เนื่องจากถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้กฏหมายกำหนดอัตราโทษสูงกว่าปกติ
- เป็นการกระทำผิดหลายกรรม หลายวาระ ( ความผิดเดียวกัน แต่ทำหลายครั้ง ) จึงนับโทษแยกกันของแต่ละครั้ง
2. กรณีราเกซ
- เป็นคดีฉ้อโกงระหว่างเอกชน - ประชาชน ( เอกชน )
- เป็นคดีอาญาที่มีการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
- กฏหมายกำหนดการกักขังแทนค่าปรับได้สูงสุดเพียงเท่านั้น
ทั้งหมดเป็นความเข้าใจส่วนตัวครับ
1. กรณี จนท.ธนาคารรัฐ
- เนื่องจากถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้กฏหมายกำหนดอัตราโทษสูงกว่าปกติ
- เป็นการกระทำผิดหลายกรรม หลายวาระ ( ความผิดเดียวกัน แต่ทำหลายครั้ง ) จึงนับโทษแยกกันของแต่ละครั้ง
2. กรณีราเกซ
- เป็นคดีฉ้อโกงระหว่างเอกชน - ประชาชน ( เอกชน )
- เป็นคดีอาญาที่มีการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
- กฏหมายกำหนดการกักขังแทนค่าปรับได้สูงสุดเพียงเท่านั้น
ทั้งหมดเป็นความเข้าใจส่วนตัวครับ
- whitecastle
- Verified User
- โพสต์: 406
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 6
จำคุก 2 ปีในกรณีไม่จ่ายค่าปรับ 1 ล้าน มั้ยอ่ะครับ ส่วนอีกพันกว่าล้านนั่นเป็นรับผิดทางแพ่งรึเปล่าถ้าไม่จ่ายส่วนนี้ก็ฟ้องล้มละลายกันต่อ กรณีพนักงานแบงค์ 120 ปีนี่คิดว่าทำผิดหลายกรรมชัวร์ๆครับ
- Tsurumi
- Verified User
- โพสต์: 268
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียั
โพสต์ที่ 9
ด้วยความเคารพต่อคำตัดสินของศาลครับ
สิ่งที่ผมสนใจในคดีราเกซ คือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ที่เป็นหลักในการฟ้อง ผบห. ใน บมจ. ถ้าบริษัทที่เราลงทุนด้วย ผบห. ไม่มีธรรมาบิบาล ถึงขนาดยักยอก เบียดบังเอาทรัพย์สินออกไป เพื่อนๆก็ต้องตระหนักเหมือนผมหลังจากคดีนี้มีคำพิพากษานี้ออกมา โทษผู้บริหารก็ประเมินเอาได้จากกรณีนี้ ข้อเท็จจริงและโทษก็ว่ากันตามแต่ละรูปคดี หัวใจอยู่ที่ พรบ. หลักทรัพย์ฯ ทึ่คุ้มกันผู้ลงทุน เป็นเกราะ เป็น MOS เป็นที่พึ่งของพวกเราให้ผู้คิดจะกระทำผิดได้เกรงกลัว ส่วนกม. อาญาในกรณีราเกซมีแค่ มาตรา 83 (ตัวการและผู้สนับสนุน) เท่านั้น
ส่วนคดีของพนักงานธนาคารรัฐเบียดบังทรัพย์ (ไม่ใช่ยักยอกทรัพย์) ผมไม่คิดมีประเด็นพิเศษ ก็ออกมาตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 กม.คนละฉบับกับคดีราเกซ โทษที่พนักงานธนาคารก็เบาที่สุดคือ 5 ปีต่อกระทง มี 24 กระทง (ทำความผิดเดียวกันแต่ 24 ครั้ง) ก็ 24 กระทง x 5 ปี = 120 ปี ใช้แค่สองมาตราคือ 3, 4 โทษหนักที่สุดคือ จำคุกตลอดชีวิต มีข้อสังเกตุในความล่าช้าคือ คดีเกิดปี 2540 แต่หน่วยงานรัฐแจ้งความตำรวจปี 2551
ข้อน่าสังเกตุอีกข่าวเกี่ยวเนื่องกันที่จะมีการเสนอระงับการบังคับใช้อายุความกับคดี คอร์รับชั่น ปัจจุบันอายุความอยู่ที่ 20 ปีเหมือนคดีอาญา สาเหตุเพราะมีการหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ พอครบ ยี่สิบปี ก็หมดอายุความแล้วกลับมาอยู่ไทยต่อไป แต่การระงับอายุความ 20 ปีคงเป็นไปได้ยาก ณ ปัจจุบัน เพราะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้โดยตรง รายละเอียด www.bangkokpost.com 9/6/12
สิ่งที่ผมสนใจในคดีราเกซ คือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ที่เป็นหลักในการฟ้อง ผบห. ใน บมจ. ถ้าบริษัทที่เราลงทุนด้วย ผบห. ไม่มีธรรมาบิบาล ถึงขนาดยักยอก เบียดบังเอาทรัพย์สินออกไป เพื่อนๆก็ต้องตระหนักเหมือนผมหลังจากคดีนี้มีคำพิพากษานี้ออกมา โทษผู้บริหารก็ประเมินเอาได้จากกรณีนี้ ข้อเท็จจริงและโทษก็ว่ากันตามแต่ละรูปคดี หัวใจอยู่ที่ พรบ. หลักทรัพย์ฯ ทึ่คุ้มกันผู้ลงทุน เป็นเกราะ เป็น MOS เป็นที่พึ่งของพวกเราให้ผู้คิดจะกระทำผิดได้เกรงกลัว ส่วนกม. อาญาในกรณีราเกซมีแค่ มาตรา 83 (ตัวการและผู้สนับสนุน) เท่านั้น
ส่วนคดีของพนักงานธนาคารรัฐเบียดบังทรัพย์ (ไม่ใช่ยักยอกทรัพย์) ผมไม่คิดมีประเด็นพิเศษ ก็ออกมาตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 กม.คนละฉบับกับคดีราเกซ โทษที่พนักงานธนาคารก็เบาที่สุดคือ 5 ปีต่อกระทง มี 24 กระทง (ทำความผิดเดียวกันแต่ 24 ครั้ง) ก็ 24 กระทง x 5 ปี = 120 ปี ใช้แค่สองมาตราคือ 3, 4 โทษหนักที่สุดคือ จำคุกตลอดชีวิต มีข้อสังเกตุในความล่าช้าคือ คดีเกิดปี 2540 แต่หน่วยงานรัฐแจ้งความตำรวจปี 2551
ข้อน่าสังเกตุอีกข่าวเกี่ยวเนื่องกันที่จะมีการเสนอระงับการบังคับใช้อายุความกับคดี คอร์รับชั่น ปัจจุบันอายุความอยู่ที่ 20 ปีเหมือนคดีอาญา สาเหตุเพราะมีการหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ พอครบ ยี่สิบปี ก็หมดอายุความแล้วกลับมาอยู่ไทยต่อไป แต่การระงับอายุความ 20 ปีคงเป็นไปได้ยาก ณ ปัจจุบัน เพราะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้โดยตรง รายละเอียด www.bangkokpost.com 9/6/12