เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 1
เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
แต่ละตัวที่ถือแดงเถือก -20 % up
ปันผล 1-2 % น้อยกว่าฝากประจำซะอีก
กว่าจะได้ปันผลมาซื้อหุ้นใหม่ก็ปีหน้า
ข้อเสียของการเต็มพอร์ทตลอดเวลา
แต่ละตัวที่ถือแดงเถือก -20 % up
ปันผล 1-2 % น้อยกว่าฝากประจำซะอีก
กว่าจะได้ปันผลมาซื้อหุ้นใหม่ก็ปีหน้า
ข้อเสียของการเต็มพอร์ทตลอดเวลา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 2
แล้วไปซื้อที่ ปันผล 1-2% เท่าไมล่ะครับ
ถ้าชอบปันผล ก็ต้องเน้นปันผล มากกว่า 5% อยู่แล้ว
ถ้าชอบเติบโต แบบได้กำไร ก็ต้องหาหุ้นเติบโตราคาต่ำถึงปานกลาง สิครับ
ตลาดลงมา 10% พี่ลงมา 20% แสดงว่าหุ้นที่ซื้อ เป็นหุ้นเด็ดหรือเปล่าครับ
ถ้าทำการบ้านมาดี แค่นี้ บ่เปงยั่ง
ถ้าชอบปันผล ก็ต้องเน้นปันผล มากกว่า 5% อยู่แล้ว
ถ้าชอบเติบโต แบบได้กำไร ก็ต้องหาหุ้นเติบโตราคาต่ำถึงปานกลาง สิครับ
ตลาดลงมา 10% พี่ลงมา 20% แสดงว่าหุ้นที่ซื้อ เป็นหุ้นเด็ดหรือเปล่าครับ
ถ้าทำการบ้านมาดี แค่นี้ บ่เปงยั่ง
ปล ความเห็นส่วนตัว
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 3
ขาดทุนถือเป็นอดีตไม่ต้องสนใจ
คำถามคือ ณ ปัจจุบัน หุ้นที่เราถือ รวมไปถือหุ้นที่อยู่ใน watch list มี upside มี MOS มากขนาดไหน
ถ้าตัวอื่นมี upside สูงกว่า ก็ขายตัวที่ upside ต่ำไปซื้อ upside สูง แต่ถ้าหุ้นที่เราถือ upside สูงมากพอก็ถือไป
การลงทุนต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปสนใจอดีต (ต้นทุน) ถึงจะประสบความสำเร็จ
คำถามคือ ณ ปัจจุบัน หุ้นที่เราถือ รวมไปถือหุ้นที่อยู่ใน watch list มี upside มี MOS มากขนาดไหน
ถ้าตัวอื่นมี upside สูงกว่า ก็ขายตัวที่ upside ต่ำไปซื้อ upside สูง แต่ถ้าหุ้นที่เราถือ upside สูงมากพอก็ถือไป
การลงทุนต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปสนใจอดีต (ต้นทุน) ถึงจะประสบความสำเร็จ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- generalman
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 4
จากที่ผ่านมา ถ้าผมเงินสดหมด ก็ไม่ซื้ออะไรเพิ่ม เพราะไม่มีตังค์จะซื้อ
แต่ถ้าหุ้นของเราตกลงมามากกว่า 20% ผมก็จะมาดูเหตุผลว่า เกิดจากอะไร เราคิดผิดรึเปล่าเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้น
ถ้าเราไม่ได้คิดผิด ก็อยู่เฉยๆ ครับ
ผมจำจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ท่านสอนว่า
"อย่าคิดจะเป็นเจ้าของหุ้น ถ้ามันจะทำให้คุณตื่นตระหนกและขายหุ้นของคุณเมื่อราคาตกลง 50%"
แต่ถ้าหุ้นของเราตกลงมามากกว่า 20% ผมก็จะมาดูเหตุผลว่า เกิดจากอะไร เราคิดผิดรึเปล่าเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้น
ถ้าเราไม่ได้คิดผิด ก็อยู่เฉยๆ ครับ
ผมจำจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ท่านสอนว่า
"อย่าคิดจะเป็นเจ้าของหุ้น ถ้ามันจะทำให้คุณตื่นตระหนกและขายหุ้นของคุณเมื่อราคาตกลง 50%"
"Investing is not a game where the guy with 160 IQ beats the guy with 130 IQ. What is needed is a sound intellectual framework for making decisions and the ability to keep emotions from corroding the framework."
Warren Buffett
Warren Buffett
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 5
สิ่งที่ควรทำคือ กลับไปมองตัวเราเองก่อนว่า...
ที่ซื้อไปนั้นได้วิเคราะห์เองหรือไม่?
วิเคราะห์ดีแล้วหรือยัง?
ที่วิเคราะห์ไปนั้นผิดจากความจริงไหม คุณภาพกิจการยังดีอยู่หรือไม่?
ราคาที่ซื้อนั้นมีส่วนลดแค่ไหน?
และก็จะบริหารพอร์ตอย่างไร โดยสมมติว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์แตกต่างกันออกไป...
ถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะมีความสุขไหม?
................................................
ตอบตัวเองก่อนแล้วค่อยมาถามผม
ที่ซื้อไปนั้นได้วิเคราะห์เองหรือไม่?
วิเคราะห์ดีแล้วหรือยัง?
ที่วิเคราะห์ไปนั้นผิดจากความจริงไหม คุณภาพกิจการยังดีอยู่หรือไม่?
ราคาที่ซื้อนั้นมีส่วนลดแค่ไหน?
และก็จะบริหารพอร์ตอย่างไร โดยสมมติว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์แตกต่างกันออกไป...
ถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะมีความสุขไหม?
................................................
ตอบตัวเองก่อนแล้วค่อยมาถามผม
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 6
พี่ปิฯ ครับpicatos เขียน:ถ้าตัวอื่นมี upside สูงกว่า ก็ขายตัวที่ upside ต่ำไปซื้อ upside สูง แต่ถ้าหุ้นที่เราถือ upside สูงมากพอก็ถือไป
การลงทุนต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปสนใจอดีต (ต้นทุน) ถึงจะประสบความสำเร็จ
ซากเข้าใจว่า การโยกเงินจากที่ upside ต่ำ ไปยัง upside สูง คือการเพิ่มโอกาสให้เงินลงทุนตามราคาหุ้นที่น่าปรับตัวขึ้นไปตามผลประกอบการที่ดีขึ้นมากๆในอนาคต แต่ความเป็นจริง ในหุ้นที่ upside เราเห็นว่าสูง แต่ downside ของมันก็อาจสูงได้เช่นกัน ถ้าเป็นกิจการที่ยอดขาย/กำไร อ่อนไหวตามภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ
1. พี่ปิฯ คิดว่ามี ปัจจัยอะไรบ้างครับ ที่สำคัญกว่าการประเมิน upside vs downside เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินต้น หลังจากที่เราโยกเงินไปแล้ว
2. ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดว่า เราไม่สามารถประเมิน upside vs downside ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วเราหันไปทำอีกอย่าง คือการโยกเงินจากที่ downside สูง ไปยัง downside ต่ำ แต่ไม่ค่อยเหลือ upside หรือแตะ fair ไปแล้ว พี่ปิฯ คิดว่า วิธีนี้จะรักษาเงินต้นไว้ได้มากกว่า การทำอย่างวิธีแรกแต่ไม่แน่ใจใน downside ไหมครับ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 7
VI ควบคุม Downside ด้วย MOS เมื่อเราซื้อหุ้นที่มี MOS สูงๆ ในระยะยาวแล้ว... เราจะไม่มีทางขาดทุน... ซึ่งคำว่า MOS จะคิดในกรณี Conservative ที่เราคิดเผื่อกรณีเลวร้ายเอาไว้แล้ว จึงทำให้ไม่ขาดทุนในระยะยาวซากคน เขียน:พี่ปิฯ ครับpicatos เขียน:ถ้าตัวอื่นมี upside สูงกว่า ก็ขายตัวที่ upside ต่ำไปซื้อ upside สูง แต่ถ้าหุ้นที่เราถือ upside สูงมากพอก็ถือไป
การลงทุนต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปสนใจอดีต (ต้นทุน) ถึงจะประสบความสำเร็จ
ซากเข้าใจว่า การโยกเงินจากที่ upside ต่ำ ไปยัง upside สูง คือการเพิ่มโอกาสให้เงินลงทุนตามราคาหุ้นที่น่าปรับตัวขึ้นไปตามผลประกอบการที่ดีขึ้นมากๆในอนาคต แต่ความเป็นจริง ในหุ้นที่ upside เราเห็นว่าสูง แต่ downside ของมันก็อาจสูงได้เช่นกัน ถ้าเป็นกิจการที่ยอดขาย/กำไร อ่อนไหวตามภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ
1. พี่ปิฯ คิดว่ามี ปัจจัยอะไรบ้างครับ ที่สำคัญกว่าการประเมิน upside vs downside เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินต้น หลังจากที่เราโยกเงินไปแล้ว
2. ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดว่า เราไม่สามารถประเมิน upside vs downside ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วเราหันไปทำอีกอย่าง คือการโยกเงินจากที่ downside สูง ไปยัง downside ต่ำ แต่ไม่ค่อยเหลือ upside หรือแตะ fair ไปแล้ว พี่ปิฯ คิดว่า วิธีนี้จะรักษาเงินต้นไว้ได้มากกว่า การทำอย่างวิธีแรกแต่ไม่แน่ใจใน downside ไหมครับ
แต่คำว่า downside โดยทั่วไป น่าจะเป็น downside ในระยะสั้น... ในระยะสั้นแล้ว ตลาดก็เป็นแค่เครื่องลงคะแนนเสียง... ใครจะไปรู้ได้ว่า ผลลัพธ์ของความเห็นของคนทุกคนที่มีอยู่ในตลาดจะเป็นอย่างไรได้ชัวร์ๆ สุดท้ายก็ได้แต่เดา
แต่ในระยะยาวแล้ว ถ้ากิจการที่คุณลงทุนให้อัตราผลตอบแทนที่สูงลิบลิ่ว เมื่อเทียบกับราคาที่คุณซื้อ ยังไงมันก็เป็นการลงทุนที่ดีถึงแม้ว่าในระยะสั้นหุ้นคุณอาจจะลงไปอีก 50%
จะสนใจก็เพราะว่า เราเป็นนักลงทุนระยะสั้น หรือ เราไม่เข้าใจกิจการมากพอ ที่จะมองผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นในระยะสั้นไปได้ว่า เราจะได้กำไรในท้ายที่สุด
ส่วน downside คำในความหมายของพี่ซาก ว่ากิจการที่รายได้และกำไรมันแกว่ง คำถามคือเราเข้าใจหรือไม่ ว่ามันแกว่งเพราะอะไร และเราสามารถคาดเดาการแกว่ง และอนาคตของกิจการได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้... มันก็แค่กิจการที่เราไม่เข้าใจ และไม่สามารถประเมินมูลค่าของกิจการได้ ภายใต้ Circle of Competency ของเราเท่านั้นเอง
ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เสียหาย มันจะเกิดจากการออกไปนอก Circle ของเรา กระโดดลงไปเล่นในเกมที่เราไม่เข้าใจ ได้กำไรมาแบบไม่เข้าใจ และหมดตัวไปแบบไม่เข้าใจ
ดังนั้นขอตอบว่า
1) การลงทุนแบบ VI ไม่มี downside ที่จะทำให้เราสูญเสียเงินต้น หากลงทุนในธุรกิจที่มี MOS มากพอ ผลประกอบการที่ออกมาแย่ว่าที่คาดอาจจะเป็น downside ซึ่ง downside ของผลประกอบการจะถูกชดเชยด้วย MOS จากการลงทุน ดังนั้นถ้าลงทุนแบบ VI อย่างถูกต้อง ในระยะยาวจะไม่มีทางขาดทุนเด็ดขาด ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ความเข้าใจในความสามารถของตัวเอง และความเข้าใจในกิจการที่เราลงทุน
2) ถ้าเราไม่สามารถประเมิน upside และ downside ของผลประกอบการได้มากเพียงพอ แสดงว่าเราไม่เข้าใจกิจการพอ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือ ตัดกิจการนั้นออกจาก List แล้วยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ามันยากเกินความเข้าใจของเรา ถึงแม้ว่าคนทั้งตลาด เซียน เทพ กำลังเล่นกันอย่างสุดฤทธิ์ ยอมรับมันตรงๆ ว่า เราไม่มีบุญได้เงินจากหุ้นตัวนี้ดีกว่าครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณพี่ปิฯ มากครับ
เรื่องการยอมรับในขีดจำกัดของตัวเอง บางครั้งก็ถูกลวงตาด้วย bias และ ความรู้ต่างๆที่เราเสพ และคิดว่ารู้ คิดว่าจัดการได้ เพียงเพราะไม่เคยถามตัวเราว่า เราทำอะไรได้ดีที่สุด
เรื่องการยอมรับในขีดจำกัดของตัวเอง บางครั้งก็ถูกลวงตาด้วย bias และ ความรู้ต่างๆที่เราเสพ และคิดว่ารู้ คิดว่าจัดการได้ เพียงเพราะไม่เคยถามตัวเราว่า เราทำอะไรได้ดีที่สุด
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 9
อยู่เฉยๆครับviviosmanager เขียน:เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
แต่ละตัวที่ถือแดงเถือก -20 % up
ปันผล 1-2 % น้อยกว่าฝากประจำซะอีก
กว่าจะได้ปันผลมาซื้อหุ้นใหม่ก็ปีหน้า
ข้อเสียของการเต็มพอร์ทตลอดเวลา
ถ้ามั่นใจว่าหุ้นที่ถือเลือกมาดีแล้วตอนตัดสินใจซื้อ ก็อยู่เฉยๆครับ
ถ้าอึดอัดก็หากิจกรรมอย่างอื่นทำไปพลางๆครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 10
http://www.hks.harvard.edu/fs/akhwaja/p ... ct2005.pdf
เป็น academic journal....kab long read doo. หน้าแรกๆอ่านได้แต่ถ้าอยากได้เนื้อก็ลองคลิครงบท
Pump and dump manipulation
อ่านก็สนุกดีได้สาระเพื่อที่จะหา MOS โชคดีคร้าบ
เป็น academic journal....kab long read doo. หน้าแรกๆอ่านได้แต่ถ้าอยากได้เนื้อก็ลองคลิครงบท
Pump and dump manipulation
อ่านก็สนุกดีได้สาระเพื่อที่จะหา MOS โชคดีคร้าบ
Its all about getting alpha.
- ziannoom
- Verified User
- โพสต์: 1041
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 11
ขออนุญาตตัดข้อความนี้ไปเป็น ลายเซ็นต์นะครับพี่ โดนใจผมมากเลยpicatos เขียน:ถ้าเราไม่สามารถประเมิน upside และ downside ของผลประกอบการได้มากเพียงพอ แสดงว่าเราไม่เข้าใจกิจการพอ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือ ตัดกิจการนั้นออกจาก List แล้วยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ามันยากเกินความเข้าใจของเรา ถึงแม้ว่าคนทั้งตลาด เซียน เทพ กำลังเล่นกันอย่างสุดฤทธิ์ ยอมรับมันตรงๆ ว่า เราไม่มีบุญได้เงินจากหุ้นตัวนี้ดีกว่าครับ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 12
ขอแชร์ความคิดหน่อยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีแบบนี้เราจะทำไปเพื่ออะไรครับ โยกเงินไปในที่ downside ต่ำ แต่ upside ก็ต่ำหรือไม่มีเลย อย่างนี้โยกไปถือเงินสดไม่ดีกว่าหรือครับ เหมือนมีแต่เสมอตัวเท่านั้น เผลอ ๆ ถือหุ้นตัวใหม่ไปก็ยังอาจจะไม่รู้สึกสบายใจอีกต่างหากซากคน เขียน:
2. ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดว่า เราไม่สามารถประเมิน upside vs downside ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วเราหันไปทำอีกอย่าง คือการโยกเงินจากที่ downside สูง ไปยัง downside ต่ำ แต่ไม่ค่อยเหลือ upside หรือแตะ fair ไปแล้ว พี่ปิฯ คิดว่า วิธีนี้จะรักษาเงินต้นไว้ได้มากกว่า การทำอย่างวิธีแรกแต่ไม่แน่ใจใน downside ไหมครับ
ครั้งก่อนตอนช่วงที่ตลาดลงหนักตอนตค.ปีก่อน ผมถือหุ้น 100% แต่ผมเลือกที่จะพิจารณาดูว่าหุ้นในพอร์ตว่าตัวใดที่มีอนาคตน้อยที่สุด เทียบกับหุ้นที่ผมมีอยู่ในพอร์ตหรือยังไม่มี ตอนนั้นผมเลือกที่จะขายหุ้น 3 ตัวที่ผมคิดว่า มีแนวโน้มจะเป็น "วัชพืชมากกว่าดอกไม้" ทิ้ง แล้วหันไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่มีอนาคตดีกว่า มาถึงตอนนี้จริงอยู่หุ้นทั้ง 3 ตัวที่ผมขายทิ้งไปมีราคาขึ้นมาตามสภาวะตลาดระดับหนึ่ง แต่ 2 ใน 3 ผลประกอบการแย่ลงเรื่อย ๆ ตอนที่ตลาดตกหนักผมก็ยังคงถือหุ้นเกือบ 100% ในขณะที่เพื่อนบางคน "โดดหนี" ก่อนที่ SET จะลงหนัก หุ้นของเค้ากับหุ้นของผมก็ตัวใกล้เคียงกัน ตอนที่ SET ลงไปแถว 800 จุด ดูเหมือนเค้าจะไม่ขาดทุนหนักเท่าผม แถมยังถือเงินสดเต็มมือ แต่สุดท้ายเมื่อตลาดกลับหัวขึ้น ความไม่แน่ใจก็เกิดขึ้นว่าตลาดจะขึ้นจริงหรือไม่ สุดท้ายก็พลาดโอกาสที่จะมีกำไรในช่วงที่ตลาดขึ้นมาถึง 1200 จุด เรียกได้ว่า "เสียหาย" มากกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย
ผมไม่ได้บอกว่าคนที่โดดหนีก่อนไม่ดีหรือคนที่ถือหุ้น 100% คือคนเก่งนะครับ บทเรียนนี้สอนผมว่า "อย่าพยายามจับจังหวะตลาดครับ" ถ้าโชคดีหรือเก่งจริงก็คงจับจังหวะถูก แต่ถ้าโชคไม่ดีก็เสียโอกาสครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 13
โชคดีจิงๆคับ ที่เป็นวีไอแล้วได้เป็นแฟนคลัป(ซุปตาข้างล่างคับ)
Uploaded at Picoodle.com
ช่วงแรกๆของเพลงฟังแล้วรู้สึกเหมือนตอนเจอหุ้นที่ถูกใจ พอฟังไปถึงท่อนฮุคแล้วรู้สึกเหมือนอินกับสภาวะตลาดช่วงนี้เลยคับ
Uploaded at Picoodle.com
ช่วงแรกๆของเพลงฟังแล้วรู้สึกเหมือนตอนเจอหุ้นที่ถูกใจ พอฟังไปถึงท่อนฮุคแล้วรู้สึกเหมือนอินกับสภาวะตลาดช่วงนี้เลยคับ
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 14
อีกอย่างผมว่าหลายคนน่าจะเกิดอาการหวั่นไหวครับ หมายถึงหุ้นที่เราถืออยู่จริง ๆ ก็ยังรู้สึกว่ายังดี เพียงแต่อาจจะรับไม่ได้ถ้าเห็นราคามันตกลงไปอย่างรุนแรง เช่นจากกำไรราคาหุ้นมากกลายเป็นกำไรน้อย เท่าทุนหรือแม้แต่ขาดทุน ในขณะที่คนที่ขาดทุนอยู่แล้วก็กลัวจะขาดทุนเพิ่มขึ้นไปอีก อาการหวั่นไหวที่ว่าหมายถึง หลายคนอาจจะคิดว่าจะทำ SAP ดีหรือไม่ อย่างน้อยก็ซื้อหุ้นตัวเดิมได้ในราคาที่ต่ำกว่าเดิมบวกกำไรอีกนิดหน่อย
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 321
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 15
ผมว่าตลาดปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดรอบนี้ที่ 1247.72 จุด ลงมาปิดวันนี้ที่ 1154.44 จุด ปรับตัวลดลงมาประมาณ
7.5 % (ซึ่งความรู้สึกของผมคิดว่ายังไม่เยอะเท่าไรนะครับ) แล้วทำให้หุ้นที่ถืออยู่ในพอร์ตขาดทุนมากถึง 20%
ผมคิดว่าน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างของหุ้นตัวนั้นที่เราถืออยู่มันถึงได้ลงมามากถึงขนาดนี้ เราอาจจะซื้อในราคาที่สูงเกินไป คือมี mos น้อยไป ก็เป็นได้ หรือเป็นที่แนวโน้มของกิจการเอง ผมเลยคิดว่าเราต้องมานั่งคิดวิเคราะห์และทบทวนว่าตอนที่เราซื้อหุ้นตัวนั้นเราวิเคราะห์อะไรผิดพลาดไปหรือเปล่าครับ
7.5 % (ซึ่งความรู้สึกของผมคิดว่ายังไม่เยอะเท่าไรนะครับ) แล้วทำให้หุ้นที่ถืออยู่ในพอร์ตขาดทุนมากถึง 20%
ผมคิดว่าน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างของหุ้นตัวนั้นที่เราถืออยู่มันถึงได้ลงมามากถึงขนาดนี้ เราอาจจะซื้อในราคาที่สูงเกินไป คือมี mos น้อยไป ก็เป็นได้ หรือเป็นที่แนวโน้มของกิจการเอง ผมเลยคิดว่าเราต้องมานั่งคิดวิเคราะห์และทบทวนว่าตอนที่เราซื้อหุ้นตัวนั้นเราวิเคราะห์อะไรผิดพลาดไปหรือเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 16
ซากว่า คงไม่ใช่ทุกคนมั้งครับ ที่ขายแบบเดาจังหวะตลาด แต่ขายด้วย ราคาที่ถือนั้น แทบไม่มี upside เหลือให้เก็บเกี่ยวแล้ว ในขณะเดียวกันก็ไม่เจอหุ้นที่ควรค่าแก่การถือ มันก็กลายเป็นเงินสด อย่างที่คุณ leky กล่าวไว้นั่นเองครับ
ส่วนเรื่องกลับเข้ามาไม่ทัน ก็ไม่ใช่ทุกคนอีกเช่นกันที่เดาตลาดเช่นเดียวกับการขายหนีตาย หากแต่ไม่เจอหุ้นที่ทั้ง upside คุ้มค่าแก่การลงทุน รวมไปถึงความแน่นอนของผลประกอบการต่างหาก ที่ซากเองเชื่อว่า หลายคนต้องการมากกว่านี้เพื่อซื้อไปแล้วกินอิ่มนอนหลับครับ
ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ไม่ว่าจะเต็มพอร์ทตลอดเวลา หรือ เสี้ยวพอร์ต หรือ เงินสดล้วน
ก็ไม่สำคัญเท่ากับ เลือกแล้ว เหมาะสมกับความเสี่ยง, ความสามารถและความคาดหวังของเจ้าของเงินเถิดครับ เมื่อตัดสินใจไปแล้ว รู้สึกว่าไม่ ok ก็ปรับปรุงกันไป
การหากินในตลาดอันเรืองรองแห่งนี้ นอกจากการอยู่ให้รอดแล้ว ไม่ได้วัดความสำเร็จที่ยั่งยืนที่ผลตอบแทนอย่างเดียว แต่วัดกันที่ รวมๆแล้ว เราทำได้สมกับความคาดหวังหรือเปล่า เพียงเท่านี้ครับ
ส่วนเรื่องกลับเข้ามาไม่ทัน ก็ไม่ใช่ทุกคนอีกเช่นกันที่เดาตลาดเช่นเดียวกับการขายหนีตาย หากแต่ไม่เจอหุ้นที่ทั้ง upside คุ้มค่าแก่การลงทุน รวมไปถึงความแน่นอนของผลประกอบการต่างหาก ที่ซากเองเชื่อว่า หลายคนต้องการมากกว่านี้เพื่อซื้อไปแล้วกินอิ่มนอนหลับครับ
ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ไม่ว่าจะเต็มพอร์ทตลอดเวลา หรือ เสี้ยวพอร์ต หรือ เงินสดล้วน
ก็ไม่สำคัญเท่ากับ เลือกแล้ว เหมาะสมกับความเสี่ยง, ความสามารถและความคาดหวังของเจ้าของเงินเถิดครับ เมื่อตัดสินใจไปแล้ว รู้สึกว่าไม่ ok ก็ปรับปรุงกันไป
การหากินในตลาดอันเรืองรองแห่งนี้ นอกจากการอยู่ให้รอดแล้ว ไม่ได้วัดความสำเร็จที่ยั่งยืนที่ผลตอบแทนอย่างเดียว แต่วัดกันที่ รวมๆแล้ว เราทำได้สมกับความคาดหวังหรือเปล่า เพียงเท่านี้ครับ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 17
+1picatos เขียน:ขาดทุนถือเป็นอดีตไม่ต้องสนใจ
คำถามคือ ณ ปัจจุบัน หุ้นที่เราถือ รวมไปถือหุ้นที่อยู่ใน watch list มี upside มี MOS มากขนาดไหน
ถ้าตัวอื่นมี upside สูงกว่า ก็ขายตัวที่ upside ต่ำไปซื้อ upside สูง แต่ถ้าหุ้นที่เราถือ upside สูงมากพอก็ถือไป
การลงทุนต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปสนใจอดีต (ต้นทุน) ถึงจะประสบความสำเร็จ
it shall pass ครับ อดีตเซียนหลายท่านย้ำไว้ว่า ตัวไหนที่ลงแรงแล้ว
มักจะไม่ลงแรงมาก ขณะที่ตัวเพิ่งลง หรือมันไม่ค่อยลง เวลาลงมันลงลิฟท์
ัดังนั้นขายกิจการที่ลงน้อยและซื้อกิจการที่ลงเยอะ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 19
ผมว่าที่ผมเห็นแน่ ๆ คือ กิจการที่ไม่ดี เวลาลงก็ลงแบบรุนแรง แต่หุ้นที่กิจการแข็งแกร่ง ผลประกอบการดี ถึงจะลงตามสภาวะตลาดบ้าง แต่ก็ไม่ลงหนักครับchukieat30 เขียน: +1
it shall pass ครับ อดีตเซียนหลายท่านย้ำไว้ว่า ตัวไหนที่ลงแรงแล้ว
มักจะไม่ลงแรงมาก ขณะที่ตัวเพิ่งลง หรือมันไม่ค่อยลง เวลาลงมันลงลิฟท์
ัดังนั้นขายกิจการที่ลงน้อยและซื้อกิจการที่ลงเยอะ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 20
viviosmanager เขียน:เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
แต่ละตัวที่ถือแดงเถือก -20 % up
ปันผล 1-2 % น้อยกว่าฝากประจำซะอีก
กว่าจะได้ปันผลมาซื้อหุ้นใหม่ก็ปีหน้า
ข้อเสียของการเต็มพอร์ทตลอดเวลา
เงินเท่าไหร่อะครับ ถ้าไม่เยอะเสียดาย ถือเป็นค่าครู ศึกษาเยอะๆ อ่านจิตตัวเองเยอะๆ ครับ
ถ้าเงินเยอะ ก็เอาออกมา ถือเงินสด ถือหุ้นเท่าที่รับความเสี่ยงได้ คำว่ารับความเสี่ยงได้คือรับได้เท่าที่ความรู้และจิตใจอำนวย จนกว่าจะรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ค่อยๆใส่เงินเพิ่มเข้าไป
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 21
ไม่มีใครเดาได้หรอกครับว่าสถานการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร
ต้องอาศัย MOS อย่างที่คุณ picatos ว่าไว้
และสิ่งนี้ นั้นมีความสำคัญจริงๆในระยะยาว
ผมเองก็พึ่งลงทุนไปพอสมควรกับหุ้นตัวหนึ่ง
ซึ่งมี Upside มากพอสมควร
เพียงแต่อาจจะต้องให้เวลาบริษัทแสดงผลการดำเนินงานซักระยะ
ราว 5 ปีขึ้นไป
ณ ขณะที่เราซื้อ เราก็ไม่รู้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้
แต่ตอนที่เราซื้อ เราซื้อเพราะเห็นศักยภาพ เห็นการเติบโตของบริษัท
หลังที่ซื้อแล้วเพียง 1 วัน
ราคาก็ตกลงมา
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ออกได้ทั้ง 2 หน้า ไม่เขียวก็แดง
เดาไม่ได้ในระยะสั้น
แต่ในระยะยาว ราคามันก็ต้องไปตามผลประกอบการ
ถ้าผลดำเนินงานดี ก็เขียว
ถ้าไม่ดี ก็แดง
ลองกลับไปดูหุ้นที่ผลดำเนินงานดีขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆปีสิครับ
ว่ามีตัวไหนบ้างที่ราคามันไม่สัมพันธ์กับผลประกอบการณ์
ดังนั้นจะกังวลไปทำไม หากว่าคุณวิเคราะห์บริษัทมาอย่างดี
ถ้าบริษัทมีการเติบโตในระยะยาว ก็แทบจะปิดประตูขาดทุนไปแล้ว
ต้องอาศัย MOS อย่างที่คุณ picatos ว่าไว้
และสิ่งนี้ นั้นมีความสำคัญจริงๆในระยะยาว
ผมเองก็พึ่งลงทุนไปพอสมควรกับหุ้นตัวหนึ่ง
ซึ่งมี Upside มากพอสมควร
เพียงแต่อาจจะต้องให้เวลาบริษัทแสดงผลการดำเนินงานซักระยะ
ราว 5 ปีขึ้นไป
ณ ขณะที่เราซื้อ เราก็ไม่รู้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้
แต่ตอนที่เราซื้อ เราซื้อเพราะเห็นศักยภาพ เห็นการเติบโตของบริษัท
หลังที่ซื้อแล้วเพียง 1 วัน
ราคาก็ตกลงมา
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ออกได้ทั้ง 2 หน้า ไม่เขียวก็แดง
เดาไม่ได้ในระยะสั้น
แต่ในระยะยาว ราคามันก็ต้องไปตามผลประกอบการ
ถ้าผลดำเนินงานดี ก็เขียว
ถ้าไม่ดี ก็แดง
ลองกลับไปดูหุ้นที่ผลดำเนินงานดีขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆปีสิครับ
ว่ามีตัวไหนบ้างที่ราคามันไม่สัมพันธ์กับผลประกอบการณ์
ดังนั้นจะกังวลไปทำไม หากว่าคุณวิเคราะห์บริษัทมาอย่างดี
ถ้าบริษัทมีการเติบโตในระยะยาว ก็แทบจะปิดประตูขาดทุนไปแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 22
มันเป็นบทเรียนที่ดีครับ
เพราะ คนเราเรียนรู้จากประสบการณ์
โดยเฉพาะประสบการณ์ที่ผิดพลาดมันสอนได้อย่างดีเชียวครับ
ยิ่งรู้ว่า ทำแบบนี้เกิดผลแบบไหน
ผู้ที่กระทำการก็จดบันทึกไว้ครับ
ปัจจุบันมันย้อนรอยอดีตเป็นประจำครับ
เพราะ คนเราเรียนรู้จากประสบการณ์
โดยเฉพาะประสบการณ์ที่ผิดพลาดมันสอนได้อย่างดีเชียวครับ
ยิ่งรู้ว่า ทำแบบนี้เกิดผลแบบไหน
ผู้ที่กระทำการก็จดบันทึกไว้ครับ
ปัจจุบันมันย้อนรอยอดีตเป็นประจำครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 23
วันนี้ ทั้งพอร์ท - 7 แสนกว่าๆแล้วครับ
Mr.market ทุบหนัก
เดี๋ยวเอารถไปเข้า car for cash เอาตังค์มาช้อนเพิ่ม
Mr.market ทุบหนัก
เดี๋ยวเอารถไปเข้า car for cash เอาตังค์มาช้อนเพิ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 1049
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 24
เอารถเข้าไฟแนนช์เสียดอกเบี้ยนะ. มีแผนสำรองมั้ยถ้ามันไม่เป็นไปตามที่เราคาดviviosmanager เขียน:วันนี้ ทั้งพอร์ท - 7 แสนกว่าๆแล้วครับ
Mr.market ทุบหนัก
เดี๋ยวเอารถไปเข้า car for cash เอาตังค์มาช้อนเพิ่ม
แต่ถ้ามีใคร support เราอยู่ตอนเราล้มก็โอเค
ปล.ผมความรู้น้อยแต่เป็นห่วงครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 25
ใจเย็นๆครับ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ
ขาลงถ้าหากลงทุนในหุ้นสามัญอย่างเดียวไม่มีอาวุธอะไรนอกเหนือจาก
Short Again Port สำหรับคนที่มีหุ้น
ส่วนคนที่ไม่มีหุ้น ก็เป็นเวลาที่หาของถูกครับ
ส่วนคนที่มี Future เป็นเครื่องมือช่วย ก็สามารถใ้ช้ Future ในการช่วยได้เลย
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ
ขาลงถ้าหากลงทุนในหุ้นสามัญอย่างเดียวไม่มีอาวุธอะไรนอกเหนือจาก
Short Again Port สำหรับคนที่มีหุ้น
ส่วนคนที่ไม่มีหุ้น ก็เป็นเวลาที่หาของถูกครับ
ส่วนคนที่มี Future เป็นเครื่องมือช่วย ก็สามารถใ้ช้ Future ในการช่วยได้เลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 379
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 26
ผมคิดว่า ในฐานะคนลงทุนด้วยกัน คงต้องช่วยแชร์ เป็นผมคงไม่ทำเช่นนี้ครับ มันอาจลงลึกไปเรื่อยๆก็ได้ ทำไมต้องรีบ รีบเพราะกลัวเด้งแล้วเสียโอกาสอย่างงั้นหรือ ถ้าอย่างงั้นก็แสดงว่า เรากำลังจับจังหวะ ซึ่งๆใครๆ ชาวvi ก็พูดไม่ใช่หรือว่า โอกาส ถูกผิด มีค่าเท่ากัน นั่นหมายความว่าไม่ควรทำ หรืออีกมุมนึง ลง แล้วเราเห็นว่ามันถูก ถูกแล้วก็อาจมีถูกกว่า ก็มีให้เห็นเยอะแยะ ผมว่าที่สำคัญ กลับไปสำรวจเหตุผล ในการลงทุนก่อนดีมั้ยครับ ถ้าซื้อแนวพื้นฐาน ก็สำรวจธุระกิจ สำรวจ mos ถ้าคิดว้่าที่ซื้อมันไม่แพง แน่ๆ ก็คงดูให้ชัดเจนอีกทีซิว่า เครื่องมือที่ใช้วัด ความถูกแพงที่ว่า มันใช้ใด้ มันรอบคอบที่สุดแล้ว บางครั้งความมั่นใจเกินเหตุนี่แหละที่ทำให้เราพัง (โดยเฉพาะไม่รู้ตัวว่าเราไม่รู้ ยิ่งอันตราย ) แม้กระทั้งคนที่คิดว่า มี mos แล้ว ไม่มีทางขาดทุน อันนี้คงไม่ใช่แน่ๆ เพียงแต่ปลอดภัยกว่า ขึ้นชื่อว่าทำธุระกิจ ก็มีความเสี่ยงทั้งแหละครับ บริษัทเจ๊ง มีให้เห็นเยอะแยะ ผมอยากให้ใจเย็นๆ ใช้เวลาคิดให้รอบคอบ อย่าคิดเอง เออเองคนเดียว ผมเคยเจอมาก่อน แล้วไม่อยากให้คนอื่นและตัวเองเป็นอีก โชคดีครับviviosmanager เขียน:วันนี้ ทั้งพอร์ท - 7 แสนกว่าๆแล้วครับ
Mr.market ทุบหนัก
เดี๋ยวเอารถไปเข้า car for cash เอาตังค์มาช้อนเพิ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 28
viviosmanager เขียน:เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
แต่ละตัวที่ถือแดงเถือก -20 % up
ปันผล 1-2 % น้อยกว่าฝากประจำซะอีก
กว่าจะได้ปันผลมาซื้อหุ้นใหม่ก็ปีหน้า
ข้อเสียของการเต็มพอร์ทตลอดเวลา
viviosmanager เขียน:วันนี้ ทั้งพอร์ท - 7 แสนกว่าๆแล้วครับ
Mr.market ทุบหนัก
เดี๋ยวเอารถไปเข้า car for cash เอาตังค์มาช้อนเพิ่ม
ผมว่าดูเหมือนเป็นการ "บ่น" ของจขกท.มากกว่ามั๊งครับ แต่ผมอยากทราบหน่อยนะครับ เพราะไหน ๆ ก็มีหลายคนเข้ามาตอบซะยืดยาว ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคุณจขกท.ถือหุ้นตัวไหนอยู่ พอจะบอกได้ไหมครับว่าหุ้นตัวที่คุณซื้อ คุณซื้อเพราะอะไรครับ แล้วที่มันลงมา 20% หรือมากกว่า เพราะอะไรครับ เพราะตลาดไม่ดี หรือเพราะผลประกอบการออกมาแล้วไม่ดี ผมว่าแบบนี้มันน่าจะมีประโยชน์กว่าและเราจะได้มาเรียนรู้กันครับ แต่ไม่ต้องบอกหรอกครับว่าหุ้นไหนsone เขียน:ถ้าเข้าใจไม่ผิด ดูจากโพสต์ที่ผ่านมา
เจ้าของกระทู้มีเจตนาเหน็บแนมการลงทุนแบบvi ขอให้ทีมงานจับตาด้วย
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อตลาดวาย แต่เงินสดหมดพอร์ท จะทำยังไงกันครับ
โพสต์ที่ 30
ผมอ่านยังไงก็ไม่ได้ดูเหน็บแนมนะครับ ขขกท.เค้่าคงแค่ร้อนใจที่เห็นพอร์ทติดลบ7แสน บางคนเงิน7แสนอาจจะเล็ก แต่ของหลายๆก็มีความหมายมากๆนะครับ ยังไงก็เอาใจช่วยจขกท.ครับ ลองกลับไปดูคุณภาพของกิจการนั้นใหม่ดูครับว่าเป็นกิจการคุณภาพดีหรือไม่ ถ้ามั่นใจในกิจการว่าดีจริง แปลว่าเราอาจจะพลาดซื้อกิจการที่ดีแต่ในราคาที่แพงเกินไปแค่นั้นเองครับซึ่งเคสนี้ถือไปเถอะครับ เดี๋ยวมันก็กลับมาเอง(แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีก็จะน้อยซึ่งก็ถือว่าเป็นบทเรียนไปละกันครับ)sone เขียน:ถ้าเข้าใจไม่ผิด ดูจากโพสต์ที่ผ่านมา
เจ้าของกระทู้มีเจตนาเหน็บแนมการลงทุนแบบvi ขอให้ทีมงานจับตาด้วย
นักเลงคีย์บอร์ด4.0