Re: ปลดล็อคผลตอบแทนให้สูงขึ้นด้วยการก้าวข้ามกับดักบนเส้นทาง เห็นด้วยครับ เป็นโพสต์ที่ดีเยี่ยมเลย โดย genedemonvi เสาร์ ก.พ. 11, 2017 1:19 pm

Re: ปลดล็อคผลตอบแทนให้สูงขึ้นด้วยการก้าวข้ามกับดักบนเส้นทาง เห็นด้วยครับ เป็นโพสต์ที่ดีเยี่ยมเลย โดย genedemonvi เสาร์ ก.พ. 11, 2017 12:32 pm

Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี ขอด้วยคนนะครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย genedemonvi เสาร์ ก.พ. 11, 2017 12:20 pm

Re: ==การซื้อ Makro ของ CPall ที่ อจ.นิเวศน์ บอกว่าซื้อไว้เห ถ้าตั้งใจซื้อจริง 100 % แต่ได้จริง 60% การวิเคราะห์จะเปลี่ยนไปมั้ยครับ หรือได้ทั้ง 100% แล้วปรับโครงสร้างสักพัก แตกพาร์ แล้วออก IPO ใหม่ เอาส่วนเกินมูลค่าไปใช้หนี้ เป็นไปได้มั้ยครับ โดย genedemonvi ศุกร์ เม.ย. 26, 2013 10:27 pm

Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี ขอด้วยคนครับพี่ [email protected] โดย genedemonvi ศุกร์ เม.ย. 26, 2013 9:02 pm

Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล,ราคา,19ปี,Ratio ต่างๆ,แบบเครดิตภาษี ขอด้วยคนครับพี่ครรชิต [email protected] โดย genedemonvi พฤหัสฯ. มิ.ย. 14, 2012 10:48 pm

Re: วิจารณ์ กลต. ผมอ่านเจอในกรอบถนนนักลงทุนกรุงเทพธุรกิจฉบับประมาณวันที่สอง ว่ามีคนสนิทของตระกูลชินวัตรเข้ามาเป็นกลต ด้วยนะครับ การเมือง-โจ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 12:09 pm

Re: Key Sucess Factors ของกิจการ SOP : store operating profit คือกำไรสุทธิที่แต่ละสาขาทำได้ครับ SKU : stock keeping unit คือ สินค้า 1รายการ ที่มีขายในร้าน ถ้า SOP แต่ละร้าน คือ1ล้านบาทต่อเดือน หาก เทสโก้มี 100สาขา ก็จะมีกำไรเดือนละ 100 ล้านบาท แต่นี่ไม่ใช่กำไรของบริษัท เพราะ มันยังมีรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมาก ส่วน SKU ซอสภูเขาทองแพ็ค3 กับ ขวดเดี่ยว นับเป็นคนละ SKU ถ้าราคาแพ็ค3 มันถูกกว่ามากๆ จนลูกค้า100คนหยิบแพ็ค3 จึงจะมีลูกค้ามาหยิบขวดเดี่ยว1คน SKU ที่ทำรายได้และกำไรจึงเป็นแพ็ค3 ถ้าเราเอาข้อมูลการเคลื่อนไหวของสินค้ารวมทั้งประเทศผ่านเครื่องคิดเงินรวมกับข้อมูลของตลาดที่สาขาตั้งอยู่มาประกอบกันมาวิเคราะห์แล้วคัดเฉพาะ 20% ของSKU ที่ทำกำไรมาขาย จะทำให้ขายดีขึ้นแต่ลดต้นทุนอื่นๆได้มาก ดังนั้นประเด็นเรื่องของไม่ครบทำให้ไม่ดึงดูดลูกค้าจึงไม่น่าเกี่ยวครับ เพราะเทสโก้มีเครื่องมือที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่าของครบ แถมยังได้เงินอีกด้วย นั่นคือร้านเช่าด้านล่างนั่นเอง โดย genedemonvi จันทร์ ก.พ. 13, 2012 11:37 am

Re: Key Sucess Factors ของกิจการ ประเด็นของคุณ viim เรื่อง lotus 2 คนน้อย ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเพราะการเห่อของใหม่หรือของไม่ครบเป็นหลักนะครับ แต่อาจเป็นเพราะธรรมชาติของห้างเปิดใหม่ที่ต้องมีโปรโมชั่นเจ๋งๆ ดึงดูดลูกค้าด้วยทำให้คนแห่ไปใช้บริการ และที่สำคัญบางทีจุดประสงค์ของการขยายสาขาอาจเป็นเหตุผลทางยุทศาสตร์มากกว่าก็ได้ครับ เพราะธรรมชาติของธุรกิจค้าปลีก แต่ละสาขาขอให้ SOP มากกว่าค่าเสียโอกาสก็ทำกำไรหลายเด้งให้บริษัทแล้วครับ ซึ่งการทำให้ SOP ดีขึ้นนั้น มันมีมากกว่าของครบนะครับ SKU ที่น้อยลงอาจทำให้ SOP ดีกว่าด้วยซ้ำ โดย genedemonvi จันทร์ ก.พ. 13, 2012 1:31 am

Re: การเปลี่ยนแปลงทางสังคม/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผมรู้แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเอียนเกาหลีครับ โดย genedemonvi จันทร์ พ.ค. 02, 2011 6:48 pm

Re: หุ้นไทยปี 2573 ทะลุ 4,695 จุด ผมคิดว่า เป็นไปได้ถ้ามีบริษัทดีๆเข้ามาในตลาดอีกเยอะๆ โดย genedemonvi พุธ เม.ย. 13, 2011 11:02 am

Re: อัจฉริยภาพทางด้านการเขียนบทความและการลงทุนของอาจารย์นิเว สิ่งที่ผมคิดว่า คุ้มที่สุดในการไปครั้งนี้ คือ มิตรภาพของ ดร.ทั้งสองที่มีต่อกันครับ วินาทีนั้น ผมรู้สึกได้เลยครับว่า มันยิ่งใหญ่กว่า ความสำเร็จในการลงทุนของท่านมากครับ โดย genedemonvi อังคาร มี.ค. 29, 2011 11:56 am

Re: ไม่มีใครคิดจะจัด Meeting ภาคอีสานมั่งเหรอครับ.... เห็นด้วยครับที่จะจัดที่ขอนแก่น เดือนหน้าผมจะไปทำงานที่ขอนแก่นพอดีครับ โดย genedemonvi พุธ มี.ค. 16, 2011 4:20 pm

Re: คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ เอาชนะต้นทุนค่าเสียโอกาสของตัวเองให้ได้ก่อนหวังผลเลิศ โดย genedemonvi พุธ มี.ค. 09, 2011 11:16 am

Re: เมื่อ VI เต็มตลาดแล้วมือใหม่จะเป็นใช่ไร ??? ราคาที่เหมาะสม ที่ว่า ต้องดูต้นทุนค่าเสียโอกาสของตัวเองครับ ถ้ามัวแต่น้อยใจ แล้วเมื่อไหร่จะได้เริ่มเรียนรู้ โดย genedemonvi อังคาร มี.ค. 01, 2011 10:13 pm

Re: เพื่อนๆชาว VI อ่านหนังสืออะไรกันบ้างครับ พูดถึงหนังสือแล้ว แนะนำ เล่มนี้เลยครับ แก่นพุทธศาสน์ ของท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านสอนว่า ถ้าจะสรุปหลักธรรมะให้เป็นประโยคๆเดียว สามารถสรุปได้ว่า สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย แปลว่า สรรพสิ่งไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เมื่อเราไม่ยึดมั่นเราก็มีอิสระในการตัดสินใจด้วยปัญญา โดยเฉพาะ การไม่ยึดมั่นในอารมณ์ อันประกอบด้วย ความกลัว และความโลภ ที่เกิดจากภาวะตลาด เราก็จะมองเห็นแก่นแท้ของการลงทุนแบบ VI โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2011 12:15 pm

Re: เำบื่อมาม่า! มานั่งทบทวนแนวคิดของตัวเองดีกว่า กระทู้ดีมีประโยชน์ครับ.... เกี่ยวอะไรกับมาม่าอ่ะครับ นั่นดิ ตอนแรกคิดว่าคนแก่ ไม่รับมุขศัพท์ใหม่ๆของวัยรุ่น แต่ไม่กล้าถาม :lol: 555 อย่าว่าแต่พี่นริศเลยครับ ผมว่า ผมวัยรุ่นแล้วนะครับ แต่ก็ยังงงเหมือนกันว่า มาม่าอะไรว้า โดย genedemonvi อังคาร ก.พ. 15, 2011 3:44 pm

Re: หนังสือเเกะรอยหยักสมอง รวยหุ้นหม่ืนล้าน ภาค2 ถ้าหากว่าในตลาดหุ้นมันมีการปั่นหุ้น บางทีในแง่วิชาการก็อาจจะมีการปั่นหัวคนเล่นหุ้นครับ ถ้าหนังสือมันขายดีมากๆ เป็นไปได้ที่เราอาจจะเห็นแมงเม่าทางวิชาการ ตามแห่เข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนำไปสู่การเป็นแมงเม่าในตลาดหุ้นจริงๆได้ บางทีคนเขียนอาจได้เงิน จากกระแสนี้ 2 เด้ง เด้งที่ 1 ได้เงินจากค่าหนังสือและการอบรมสัมมนา เด้งที่ 2 ได้เงินจากการขายหุ้นที่เกิดจากการปั่นหัวคนอ่านหรือคนเข้าร่วมประชุมสัมมนา ไม่รวมประโยชน์ด้านอื่นๆที่จะตามมาจากชื่อเสียง นักลงทุนที่ดีต้องใช้วิจารณญาณให้มากๆครับ โดย genedemonvi อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 12:07 pm

Re: จะเล่นหุ้นให้ชนะตลาด จำเป็นต้องiq สูง เรียนเก่งๆมั้ยครับ ผมจบ ป.ตรี เกรด 2.3 นิดๆ ไม่มีประวัติที่หรูเลิศ ไม่เคยทำอะไรประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันให้โม้ได้ แต่ให้ตายเหอะ ผมรู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ตราบใดที่ผมยังอยู่ในเส้นทางสู่อนาคตที่ผมเลือกแล้ว ใครจะว่าอะไรก็เชิญครับ สู้ๆนะครับคุณ โดย genedemonvi อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:55 am

Re: กระทู้เพิ่มพลังความเชื่อในการลงทุนแนววีไอ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปครับ ไม่ว่าช่วงเวลาที่ดี หรือเลวร้าย สุดท้ายมันก็จะผ่านไป สิ่งสำคัญคือ ระหว่างที่เราเผชิญเหตุการณ์นั้นๆ เราจะมองมันอย่างไร และตอบสนองอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย genedemonvi อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:50 am

Re: EPS16YEAR อับเดทงบ Q3 2010 เสร็จแล้ว ขอด้วยคนครับพี่ [email protected] ขอบคุณครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2010 10:12 am

Re: พฤติกรรมรายย่อยฯ เผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีประเด็นให้ตั้งข้อสังเกตร่วมกันครับ 1.เป็นข้อมูลที่เก็บตั้งแต่ ม.ค.52 - ปัจจุบัน (5 ต.ค. 53) (จากหน้า 3.) 2.เรื่องประสบการณ์การลงทุน กลุ่มตัวอย่างที่มีประสบการณ์ ไม่เกิน 1 ปี ที่กำไร มีมากถึง 22 % ในขณะที่กลุ่มที่ขาดทุน มี 6 % (จากหน้า 4.) 3.ช่วงเวลาที่สำรวจ 11 ส.ค. 53 - 5 ต.ค. 53 (จากหน้า 3.) แปลว่า คนที่มีประสบการณ์การลงทุนน้อยกว่า 1 ปี เริ่มลงทุน หลังจากวันที่ 11 ส. ค. 52 และในช่วงนั้น เป็นช่วงที่ตลาดตกต่ำ และกำลังปรับตัวขึ้น ดังนั้น โอกาส ที่ คน 22 % นี้ แค่ โชคดี ก็เป็นไปได้สูงครับ โดย genedemonvi พุธ ธ.ค. 08, 2010 2:44 pm

แนะนำหนังสือ SLOW BOOK ครับ เป็นเรื่องที่ดีครับที่หันมาใส่ใจสุขภาพ แต่ยังไงก็ควรจะอยู่บนความเหมาะสมนะครับ ใช้สติและปัญญาพิจารณาให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของความหลง ในโลกนี้มีสินค้าที่อ้างว่า เพื่อสุขภาพมากมาย แต่ความจริงแล้วไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายยังส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว แถมยังแพงอีกต่างหาก กรณีศึกษาก็มีอยู่มากพอควรในบ้านเรา มันก็เหมือนหุ้นเน่าๆ ที่ มีราคาสูงกว่าคุณค่ามากมาย แต่อาศัย การโฆษณา ภาพลักษณ์ ข้อมูลลวง ฯลฯ ทำให้ขายได้ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2010 9:03 am

ขออำลาครับ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างครับ โดย genedemonvi ศุกร์ ต.ค. 29, 2010 1:22 pm

+++ช่วยรักษาเวปไซต์คุณภาพให้ยั่งยืนหน่อยครับ+++ เป็นธรรมดาครับ เมื่อคนเยอะ เรื่องก็เยอะเป็นเงาตามตัว คุณภาพเว็บไซต์นี้ จริงๆแล้วผมว่า มันไม่ได้ลดลงเลยครับ เพียงแต่ มันเกิด ไดลูชั่น เอฟเฟกต์จาก ปริมาณของคนโพสต์มากกว่า ของดีๆมีอยู่ ซึ่ง คนที่อยู่ในเว็บนี้มานาน มีหลักการลงทุนที่ชัดเจนไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่สำคัญคือ คนรุ่นหลังๆ ที่เข้ามานี่สิครับ น่าห่วงอาจแยกแยะไม่ออกว่า อันไหน ดี อันไหน อันตราย แต่เว็บนี้เยี่ยมอยู่แล้วครับ แค่ตามอ่าน บทความของ ดร. นิเวศน์ ในหน้าแรกก็คุ้มแล้ว ซึ่ง เราควรแนะนำสมาชิกรุ่นใหม่ๆ ว่า ควร อ่านบทความของ ดร. นิเวศน์ อย่างน้อย 300 บทความก่อน ค่อยเข้าบอร์ด น่าจะทำให้เกิดความเข้าใจได้ดีขึ้น หรืออาจจะแนะนำว่า อ่านตีแตกยังไม่ครบ 3 จบ อย่าคบ ไทยวีไอ ผมว่า เว็บเราชัดอยู่แล้วครับจึงจัดให้เปิดมา เจอบทความของ ดร.ก่อน โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 5:17 pm

Re: ถ้า สมมติ สถานการณ์..หุ้นแบบไหนที่จะแกร่งพอ 1. ตลาดหุ้นปิด 5 ปี เพราะ มี สงคราม กลางเมือง / สงครามไทย-เขมร 2. หรือ อะไร ทำนองนี้ ที่มันมีความรุนแรงมากขนาดทำให้ตลาด shock ซึ่งโอกาส เกิดมี่น้อย...มากๆ....แต่ก็มี... เอาประเทศชาติให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน ค่อยคิดถึงหุ้นครับ :) ใช่ครับ ถ้าประเทศชาติไม่รอด หุ้นอะไร ก็มีค่าเป็นศูนย์ครับ . . ขนาดแค่ เสื้อแดง เผาเมือง ปิดถนนตรวจค้นผู้บริสุทธิ์ เรายังรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินเลยครับ ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่ชาติไม่รอด ล้างทุกอย่างแล้วเริ่มต้นกันใหม่ กรรมสิทธิ์ในหุ้น ยังจะเป็นของเราอยู่มั้ย อิอิ[/quote ไม่อยากให้พูดเรื่องการเมืองครับ อืม ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองครับ ถึงมันจะมีกลิ่นอายการเมืองอยู่บ้าง ใจความหลัก อยู่ที่บรรทัดแรกครับ ที่เหลือเป็นแค่ส่วนขยายครับ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 2:27 pm

อาชีพยอดนิยมของThai VI การศึกษามีความเกี่ยวข้องกับแนวความคิดจริงๆ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ อันนี้เป็นผลโหวต ที่ผมแอบไปดึงมาครับ วิศวกร      30%  [ 118 ] แพทย์      10%  [ 43 ] เจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการ ธุรกิจส่วนตัว      18%  [ 74 ] นักเศรษฐศาสตร์      1%  [ 5 ] ก่อนลงทุน ไม่เคยทำอาชีพใดๆ แม่บ้าน พ่อบ้าน      1%  [ 5 ] นักศึกษา      7%  [ 31 ] ลูกจ้างในบริษัทเอกชน      20%  [ 80 ] รับราชการ รัฐวิสาหกิจ      5%  [ 22 ] รัฐวิสาหกิจ      0%  [ 2 ] นักวิเคราะห์ มาร์เกตติ้ง อาชีพเกี่ยวกับหุันโดยตรง      2%  [ 11 ] จากกลุ่มตัวอย่าง 391 คน จากจำนวน สมาชิก 33074 คน (วันที่ 1 ก.ย. 53) คิดเป็น % ได้ 1.182 % ดูเผินๆ อาจจะห่างจากจำนวนประชากรมากและไม่ใช่ตัวแทนประชากร แต่จากความรู้ทางสถิติกิ๊กก๊อก เท่าที่จำได้ มันมีตารางของ Krejcie & Morgan ที่กำหนด จำนวนตัวอย่างของกลุ่มประชากรเอาไว้ ผมเลยลองค้นดู ปรากฎว่า เหลือเชื่อ ครับ ที่เขากำหนด ว่า ขนาดของกลุ่ม ประชากร ให้สุ่มตัวอย่าง 379 ตัวอย่างก็ถือเป็นตัวแทนประชากรได้ (มั้ง) แต่เรื่องคุณภาพของข้อมูลก็ทำให้กังขาอยู่ว่า ข้อมูลนี้ จะใช้ได้ดีหรือเปล่า เพราะว่าอาจมีโหวต ซ้ำ โหวตมั่ว หรือไม่แน่ใจว่าจะจัดตัวเองลงอาชีพไหนดี แต่ไหนๆ เราก็ได้ข้อมูลมาแล้ว เราลองวิเคราะห์ต่อกันเลยนะครับ เราเจอว่า 1 ถ้าเรียงลำดับตามข้อมูลนี้ วิศวกร มาเป็นเบอร์ 1 ตามด้วยลูกจากบริษัทเอกชน และธุรกิจส่วนตัว และแพทย์ กะนักศึกษา คิดเป็น สัดส่วน ได้ 3:2:1 2 จำนวนรวม ของ 4 อันดับแรก คิดเป็น 80% ของจำนวนทั้งหมด มัน พาเรโตเฉยเลยครับ (ขอตัด นศ. ออกไปก่อนครับ เพราะ ยังไม่รู้ว่า เขาจะออกไปทำอาชีพอะไร) (แต่เรื่องจำนวนเงินนี่ไม่แน่ครับ บางที แม่บ้าน กะนักเศรษฐศาสตร์ อาจเป็นเจ้าของเงิน 80% ของทั้งหมดก็ได้ ถ้า นายใหญ่ ของ ดร. เลือกโหวตช่องนี้ 555) ความน่าสนใจอาจมีมากกว่านี้ครับ แต่ที่ผมอยากให้ลองคิดเล่นๆ สัก 3 ประเด็นคือ 1.จริงมั้ยครับ ที่อาชีพต่างกันทำให้คิดเหมือนกัน หรือความเป็นจริงคือ คนคิดไม่เหมือนกันเลยไปประกอบอาชีพต่างกัน 2.เป็นไปได้มั้ยครับว่า จริงๆแล้ว ทุกคนก็อยากเล่นหุ้นกันทั้งนั้น เพียงแต่ วิศวกร ลูกจ้างบริษัทเอกชน เจ้าของกิจการส่วนตัว และแพทย์ มีเงินเหลือมากกว่าอาชีพอื่นๆ เลยหาวิธีนำเงินเหลือนั้น ไปทำให้มันงอกเงย ไม่นับ มรดกวัฒนธรรมที่แต่ละคนได้รับการถ่ายทอดมาจากสภาพแวดล้อมในครอบครัว สังคม หรือลักษณะพิเศษของอาชีพที่มันแตกต่างกันซึ่งทำให้ 4 อาชีพข้างต้นได้เปรียบในการลงทุนอีก ซึ่งทำให้ผมนึกได้อีก 1 ประเด็น 3 บางทีที่ตัวเลขออกมาเช่นนี้ อาจจะเพราะ ช่วงนี้ 4 อาชีพข้างต้น ได้กำไรจากหุ้นมากเป็นพิเศษ เลยมีอารมณ์เข้ามาท่องเว็บหุ้น แล้ว เจอกระทู้นี้เข้าเลยแวะโหวตซะน่อย ในขณะที่ อาชีพอื่นๆ อาจจะขาดทุน จนไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องหุ้นไปสักระยะ อิอิ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 12:18 pm

หุ้นถูกๆ อยู่ที่หนายย รอแล้วรออีก ก็ไม่ลงมาให้เราเก็บซะที ช่วงนี้ก็ลองๆ มองหาหุ่นดีๆ ที่ มีแบรนด์เยี่ยม (หน้าตาโอเค นิสัยใช้ได้) ฐานะทางการเงินดี (ไม่มีหนี้เยอะๆ หรือ มีภาวะขาดทุนสะสม) มีธุรกิจที่แข็งแกร่ง (หน้าที่การงานดี) โอกาสเติบโตสูง (มีที่ว่างให้เลื่อนตำแหน่งพอสมควร) มีธรรมาภิบาล (ซื้อสัตย์ มีคุณธรรม) ไม่ต้องลงทุนเพิ่มบ่อยๆ (ทำจมูก ทำปาก ทำตา ...) ค่าใช้จ่ายในการรักษาผลกำไรอยู่ในระดับเหมาะสม(ค่าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง..) ..... แล้วก็รอจังหวะ เข้าซื้อในราคาที่เหมาะสม อิอิ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 11:22 am

Re: ถ้า สมมติ สถานการณ์..หุ้นแบบไหนที่จะแกร่งพอ 1. ตลาดหุ้นปิด 5 ปี เพราะ มี สงคราม กลางเมือง / สงครามไทย-เขมร 2. หรือ อะไร ทำนองนี้ ที่มันมีความรุนแรงมากขนาดทำให้ตลาด shock ซึ่งโอกาส เกิดมี่น้อย...มากๆ....แต่ก็มี... เอาประเทศชาติให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน ค่อยคิดถึงหุ้นครับ :) ใช่ครับ ถ้าประเทศชาติไม่รอด หุ้นอะไร ก็มีค่าเป็นศูนย์ครับ . . ขนาดแค่ เสื้อแดง เผาเมือง ปิดถนนตรวจค้นผู้บริสุทธิ์ เรายังรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินเลยครับ ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่ชาติไม่รอด ล้างทุกอย่างแล้วเริ่มต้นกันใหม่ กรรมสิทธิ์ในหุ้น ยังจะเป็นของเราอยู่มั้ย อิอิ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 10:52 am

5 ขวบแล้วครับ ปีนี้ก็8ขวบแล้ว ปีหน้าThaiviก็ก้าวขึ้นสู่ปีที่เก้า ใครที่ไม่เคยอ่านกระทู้เก่าๆที่เต็มไปด้วยสาระเนื้อหาที่เข้มข้น ท่านจะพลาดสิ่งดีๆไปนะครับ :) ผมขอมอบรางวัล สุดยอดนักขุดกระทู้ให้เลยครับ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 10:41 am

ทำไม่โบรกเกอร์ ถึงเกลียดนักลงทุนแนว VI ขอออกความเห็นในฐานะอดีตมาร์นะครับ สมัยที่ผมไปลองทำอยู่ 1 ปีในช่วงปี 2005 ผมทำอยู่ที่เชียงใหม่ ตอนนั้นมาร์ที่ประสบการณ์น้อยส่วนใหญ่มีเงินเดือนขั้นต่ำ 7-8พันบาท ด้วยจำนวนเงิน 8 พันบาทนี้ ต้องทำยอดให้ได้เดือนละ 12 ล้านเป็นอย่างต่ำ ถ้าทำเกินก็จะได้เพิ่มตามอัตราส่วนไป แต่ถ้าทำยอดไม่ถึงก็จะได้ตามขั้นต่ำ มาร์ที่มีรายได้ในหลักแสนบาทต่อเดือนนั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่มีรายได้ในระดับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และยังมีอีกหลายคนที่ทำได้แค่พยายามให้ได้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยในปีนึงๆ จะมีเพียง 2-3 เดือนที่จะเป็นช่วงที่มาร์จะมีรายได้ดี เดือนที่เหลือ มาร์จะต้องดิ้นรนและใช้จ่ายอย่างประหยัดมากๆ ถ้าเดือนไหนผมทำยอดได้ไม่ถึง ผมจะโดนผู้จัดการเรียกเข้าไปกดดัน และให้โทรหาลูกค้าบ่อยๆ ชวนซื้อชวนขาย จนผมรู้สึกอึดอัด เพราะในมุมมองของผู้จัดการ เขามองที่ยอดซื้อขายเป็นหลัก เรื่องความมั่งคั่งของลูกค้า เขาก็ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่เขามองเป็นเรื่องรองลงไป เพราะเราต้องอยู่ต้องกิน ไม่ทำก็อยู่ไม่ได้ มาร์ที่ผมรู้จักเกือบทุกคน ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นจริงๆหรอกครับ จะไปฟังจากฝ่ายวิเคราะห์มาอีกที นักวิเคราะห์บอกยังไงก็พูดตามนั้น และมาร์ที่ทำได้หลายปีนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเคยเทรดหุ้นตัวเองทั้งนั้น และเกือบทุกคนจะเลิกเทรดหุ้นตัวเองไปแล้ว เพราะกลัว เนื่องจากเคยเจ็บมาก่อน ถ้ามีเทรดก็จำนวนน้อยๆ เล่นๆเอามัน ไม่กล้าลงเยอะ ผมออกมาจากตรงนั้น แล้วก็เข้าใจนะครับว่าเขาก็ทำตามหน้าที่เพื่อปากท้องของตัวเอง ผมก็เลยไม่ได้โทษอะไรเขา แต่เราก็ยึดหลักของเราก็บอกให้เขาเข้าใจ จริงๆแล้วชีวิตมาร์ไม่ใช่มนุษย์ทองคำเหมือนยุคฟองสบู่แล้วนะครับ ผมว่าน่าเห็นใจมากกว่า ความเห็นเหมือนกัน เพราะเคยเป็นเหมือนกัน มาร์นี่ แต่ผมเป็นเพราะผมไปหาความรู้ 8 เดือนกับเงินเดือนไม่ถึงหมื่น นั่งรถไฟฟ้า กินข้าวเที่ยงมื้อละห้าสิบก็ไม่อิ่ม แต่คิดย้อนหลังก็คุ้มนะ ไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมที่ต้องคอย เดย์เทรด อืม น่าเห็นใจครับ แต่รายได้ของมาร์ ส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้เยอะเท่าไหร๋ เพราะ มีตัวเลือกจากเด็กจบใหม่ที่ ขอแค่ให้ได้งานทำไว้ก่อนเพียบ แถมยังมีการเทรด ผ่านอินเตอร์เน็ตอีกตะหาก ซึ่งต่อไปก็คงจะผ่านระบบนี้มากขึ้น โดยเฉพาะ รายย่อย ที่เริ่มลงทุนเร็ว เนื่อง จาก พอร์ตเริ่มต้นมันเล็ก และเทรดได้แบบไม่ต้องอายมาร์ อิอิ โดย genedemonvi พุธ ก.ย. 01, 2010 10:36 am

หุ้นถูก เต็มตลาด [quote="chatchai"]ผมอยากถกเรื่องราคาหุ้นพื้นฐาน โดย genedemonvi อังคาร ส.ค. 31, 2010 3:32 pm

อาชีพยอดนิยมของThai VI ขอเพิ่ม เภสัชกร ด้วยนะครับ โดย genedemonvi อังคาร ส.ค. 31, 2010 3:27 pm

เบื่องานจะลาออกมาลงทุนหุ้นคุณค่าแต่กลัว.... ถนนเลนอื่นไม่ได้ไปเร็วกว่าเลนเราเสมอไป โดย genedemonvi พุธ ส.ค. 25, 2010 11:35 am

กระทิงแท้หรือเทียม [quote="nw108"]:8) โดย genedemonvi อาทิตย์ ส.ค. 22, 2010 2:53 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอด้วยคนครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย genedemonvi อาทิตย์ ส.ค. 22, 2010 2:48 pm

เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรกระจายการลงทุนในหุ้นกี่ตัว จึงจะเหมาะ ผมมี 30 ตัวครับ โรคจิตมาก และกำลัง จะเพิ่มต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ส่วนใหญ่ ซื้อเพราะความเป็นโรคจิตครับ เห็นกิจการดีๆไม่ได้ ต้องขอมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ หุ้นเดียวก็เอาครับ แต่ตัวที่ถือด้วยเหตุผล มีแค่ 4 ตัวครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ส.ค. 12, 2010 9:40 pm

หนังสือจิตวิทยาการลงทุน ไม่พิมพ์ใหม่บ้างเหรอครับ พี่ WEB ผมเห็นที่ ศูนย์หนังสือ มข. มีหลายเล่มนะครับ นอกจากเล่มนี้ แล้วยังมีหนังสือของพี่ WEB อีกหลายเล่ม เช่น กุณแจห้าดอก  กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนขายกิจการให้บัฟเฟต ประมาณนี้ . . อาจจะเป็นเพราะ หนังสือดีๆ ไม่มีโฆษณา หรืออาจจะเป็นเพราะ การบริหารศูนย์หนังสือของมหาลัยไม่ค่อยดี  ทำให้การหมุนเวียนสินค้าไม่เกิด หนังสือดีๆที่ขายยากเลยยังคงมีอยู่ . . ถ้าหากสมมติฐาน มันถูก น่าจะลองดูตามศูนย์หนังสือมหาลัยนะครับ หรือไม่ก็ ร้านหนังสือเอกชนที่ไม่ใช่โมเดิร์นเทรด ใน ร้านหนังสือมือสองก็ได้ หรือเทศกาลเปิดท้ายขายหนังสือในมหาลัย ลองดูครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ส.ค. 12, 2010 9:30 pm

ตลาดยามนี้ เหมือนน้ำเต็มนาแต่หาที่ปักกล้ายากจริงๆ ผมก็น้องใหม่ในตลาดเหมือนกันครับ เพิ่งลงทุน ก่อน คดียึดทรัพย์ทักษิณ 1 สัปดาห์ กะว่า มันต้องลงแน่ๆ ปรากฎว่า ไม่เป็นอย่างที่คิดครับ ถ้าหากมันหาตัวลงยาก ราคาเกินพื้นฐานไปเยอะ แนะนำให้ลงหุ้น ปันผลครับ ระหว่างที่ รอจังหวะ แช่เงินไว้ในหุ้นปันผลดีๆ ที่ราคาไม่ไปไหน แล้วก็รับปันผลรอ อย่างน้อย ปี ละ 5 เท่าของเงินฝากออมทรัพย์ แล้วพอตัวที่เราเล็งไว้ มันราคาตก จนถึงจุดที่เราพอใจ ค่อย ขายไปซื้อครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ก.ค. 29, 2010 1:59 pm

สัญญาณเตือน!!!! จะว่าไป แท็กซี่ รายได้ไม่ใช่น้อยนะครับ ขนาดที่ ขอนแก่น เพิ่ง มีแท็กซี่ เมืองก้ไม่ใหญ่มาก แต่ มีลูกค้าตลอด ผมเคยถามคนขับ เค้าบอกว่า แท็ก ซี่ ที่มีอยู่ 70 คัน ไม่พอให้บริการ ส่วนเรื่องหุ้น ผมมีวิถี ดันโด ของตัวเองครับ ถ้าวิเคราะห์ถูก หุ้นขึ้นตามที่คิด ผมได้กำไรมาก ในระยะเวลาตามแผน ถ้าวิเคราะห์ผิด ผมก็ถือรับปันผล ที่ได้มากกว่า ฝากประจำ 1 ปี 4-5 เท่า เพื่อรอ เวลาที่เหมาะสมต่อไป มันก็ไม่เลวร้ายหรอกครับ สำหรับ คนที่ ทำงานประจำเป็นปกติ และออมเงินไว้ในแบ๊งค์ โดย genedemonvi พุธ ก.ค. 28, 2010 3:51 pm

วิกฤติ คุณภาพเวปบอร์ด Thaivi.com ปกติ คนเข้าวัด... บ้างไปเพราะธรรม แต่บ้างก็ไปเพราะหวย นี่แหละครับ VI ขนานแท้ สุดยอดจริงๆ ครับ สั้นๆ ง่ายๆ ขออนุญาติต่อยอดนะครับพี่ แล้วยิ่งวัดไหน ที่มีข่าวว่า ให้หวยแม่นๆ คนยิ่งแห่ไปครับพี่ ดังนั้น ช่วงนี้ วัด ไทย วีไอ คงมีคนเข้ามาเยี่ยมแน่นนขนัด จนที่จอดรถไม่พอ และคงเป็นเช่นนี้อีกนาน เพราะ วัดนี้ อาจารย์เจ๋งๆ มีเยอะเหลือเกิน แต่อย่างว่าแหละครับ หุ้น ไม่ใช่การพนัน ดังนั้น ต้องอาศัย ฝีมือด้วย ไม่ใช่ ดวงล้วนๆ โดย genedemonvi ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 2:04 pm

1000 พอร์ตบุคคล (14/06/13 คุณ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ 1) [quote="j2methai"][quote="moonchild"][quote="newbie_12"][quote="ครรชิต ไพศาล"]ไอ้ มดวิ่งไปมาบนหน้าจอ นี้ทำเอาผมตกใจ เอานิ้วไปไล่บี้ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 2:16 pm

ผลจาก "ปิดห้องร้อยคนร้อยหุ้น Effect" คนแอบอ่านก็เผ ยังงี้ต้องฉลองครับ โดย genedemonvi พุธ ก.ค. 14, 2010 8:31 pm

เด็กเลี้ยงแกะไปแว้้ว๑๐กค๒๕๕๓ หยุดเขียนชั่วคราว? ถ้าไม่อยากให้เชียร์หุ้นกัน... เรามองนอกกรอบเลยดีมั๊ยครับ อย่างสัมภาษณ์ก็ลองถามไปในแนวว่าหุ้นตัวไหนเจ๊ง ไม่เป็นท่า หุ้นตัวไหนที่เคยคิดว่าดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ สุดท้ายแล้วก็ขาดทุน หรือหุ้นที่คิดว่าห่วยๆ ไม่ซื้อๆๆ แต่สุดท้ายมันกลับดีกว่าที่คาด เค้าว่ากันว่า ถ้าเราได้เห็นว่านรกอยู่ที่ไหน เราจะได้ไม่ต้องไปที่นั่น (เค้านี่ใครก็ไม่รู้ครับ จำเค้ามาแต่จำไม่ได้) อย่างผมเองนี้ประสบการณ์เจ๊งก็ใช่น้อยๆซะที่ไหน ถ้ารวมประสบการณ์ขายหมูด้วยนี่ เรื่องยาวเลยล่ะครับ เค้าว่ากันว่า ถ้าเราได้เห็นว่านรกอยู่ที่ไหน เราจะได้ไม่ต้องไปที่นั่น (เค้านี่ใครก็ไม่รู้ครับ จำเค้ามาแต่จำไม่ได้) อาจจะเป็นคำพูดของ ชาลี มังกร คู่หูปู่บัพ ก้ได้ครับพี่โย แต่ผมไม่ชัวร์เหมือนกันครับ ว่าแต่ ในตลาด มีหุ้น ตั้ง 500 กว่าตัว พี่โย แนะนำ สัก 400 ขุมได้มั้ยพี่ 55 จะได้ไม่ยุ่งกะมัน 5555 ยิ่งช่วงนี้ ราคาหุ้นนรกกะสวรรค์ แยกกันยากจริงๆครับ โดย genedemonvi จันทร์ ก.ค. 12, 2010 11:54 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอด้วยคนครับพี่ [email protected] ขอบคุณครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 5:35 pm

หนังสือการลงทุนมีจำนวนมากเพียงพอแล้วหรือยัง? ผมว่า ถ้าพี่แปลมา แสดงว่า พี่พิจารณาแล้วว่ามันมีคุณค่าครับ ส่วนตัวผม ถ้าเจอหนังสือเกี่ยวกัยการลงทุนแนว VI ถ้าดูแล้วน่าสนใจผมก็เก็บเรียบเหมือนพี่โยครับ ผมซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหมดไปหลายหมื่นแล้วครับพี่ และยังคงจะซื้อต่อไป 555 โดย genedemonvi พุธ พ.ค. 12, 2010 7:44 pm

แหล่งหนังสือถูกๆที่ไหนบ้างครับ ผมว่าสำคัญที่คุณค่าของมันนะครับ จะเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าทั้งทีอย่าไปเสียดายครับ ถ้าเงินไม่มาก แทนที่จะหาซื้อหนังสือมือสอง (ที่วัดดวงพอสมควรว่า จะได้หนังสือดีหรือเปล่า หรือไอ้ที่ถูกนั้น เนื้อหาอาจห่วยกว่าราคา หนำซ้ำยังพาออกทะเลอีก) ผมว่า เอาเวลาที่จะไปเดินหาหนังสือมือสอง เดินเข้าไปร้านหนังสือใหม่ SE-ED เลยครับ จากนั้นก็เดินไปที่โซนบริหารธุรกิจหรือการลงทุน แล้วก็อ่านครับ อ่านจนกว่าจะพอใจ เพราะร้านเหล่านี้ ไม่มีการไล่ลูกค้า  แล้วก็ประเมินคุณค่าของหนังสือเล่มนั้น จนกว่าจะมั่นใจว่า หนังสือมีคุณค่าพอค่อยซื้อ ผมว่า บางทีมันอาจจะดีกว่าหาซื้อหนังสือเก่านะครับ โดย genedemonvi ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 10:06 am

อยากทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆชาว VI เริ่มลงทุนตอนอายุเท่าไหร่ครับ? Rich dad, poor dad. นี่ต้องอ่านดีๆนะครับ เอาเรืื่่่องดีๆมาปรับใช้ แต่ไม่ใช่ว่าต้องเชื่อหมด บางอย่างนี่ไม่เหมาะสมกับสังคมบ้านเรา เรื่องของความกตัญญูีนี่แทบไม่มีเลย เอาแ่ต่ว่าพ่อตัวเอง ถึงจะชื่นชม บ้างก็ในแง่ที่พ่อเป็นครู เรื่องเงินทองใครๆก็อยากได้ คิโยซากิ เค้าฉลาดเขียนครับ ที่ร่ำรวยมาได้เพราะงานสอน และตลาดบ้านเมกาช่วงนั้น มันขาขึ้น เรื่องแนวความคิดทางบัญชีเค้าก็ถูกบ้าง แต่บอกไม่หมด แต่เรื่องจิตวิทยาการพูดและเขียนนี่ขอนับถือจริงๆ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ เรื่องการสอน เรื่องเกมกระแสเงินสด ก็ดีจริง สรุปว่าเค้าก็เก่งมาก แต่ความร่ำรวยไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ ก็อยากจะเตือนเด็กๆรุ่นใหม่ๆไว้ว่า ใ้ห้ระวังแนวความคิดเรื่องอิสระทางการเงินไว้มากๆ มันอันตรายถ้า ไม่เข้าใจจริง จะกลายเป็นเพ้อฝันไป หรือทำให้เราทำอะไรเกินตัวจน เสียหายได้ ให้ลงทุนในตัวเองแบบที่ปู่บัฟเฟตบอกไว้ดีกว่าครับ ต้องขอโทษที่อาจจะออกความเห็นขัดแย้ง เพราะเห็นว่าบางทีความเห็นต่างๆ มันเออออกันเกินไปอาจทำให้มองโลกผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้ เห็นด้วยครับ หลังๆมาผมเริ่มจับได้ว่า ธุรกิจของเค้าคือการขายการศึกษานี่เอง และเล่มหลังๆนี่ เริ่มออกทะเลไปมาก แต่ก็ต้องขอบคุณนะครับ ที่ทำให้ผมตาสว่างเพราะ rich dad จำได้ว่า ได้อ่านตอนนั้น ตอนอายุ 16 เหมือนกับได้คำตอบของชีวิตเลยครับ และในปี เดียวกัน ได้รู้จักบัฟเฟตต์ จากหนังสือ วาทะของ วอเรน บัพเฟตต์ ที่ ดร. เกรียงศักดิแปล แต่ตอนนั้นยังไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนอายุ 20 ได้ เข้าร่วมอบรมนักลงทุนรุ่นเยาว์ และได้อ่านหนังสือ แก่นแท้ของบัฟเฟต์ เล่มที่ ดร.นิเวศน์แปล และเข้าใจการลงทุนในหุ้นมากขึ้น หลังจากนั้น ก็ตัดสินใจว่า ชีวิตนี้จะเป็น vi นี่แหละครับ แต่กว่าจะได้ลงทุนจริงๆ ก็เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์นี่เองครับ ก่อน ตัดสินคดียึดทรัพย์ 1 สัปดาห์ เพราะ พึ่งทำงานครับ ที่บ้าน ไม่ค่อยมีฐานะ ต้องเริ่มด้วยมือเปล่าล้วนๆ 555 ** แต่ถ้าจะถามว่า เริ่มลงทุนจริงๆเมื่อไหร่ ต้องย้อนไปตอน ม.1 ครับ เป็นหุ้นสหกรณ์ของโรงเรียน ตอนนั้น อาจารย์ให้สิทธิ์ซื้อได้ คนละ 100 บาท ตอนนั้นยังเด็กมากครับ แต่สิ้นปี รับปันผล 87 บาท คิดเป็น 87% จำมาจนทุกวันนี้ครับ วันนี้ มามองย้อนกลับไป นั่นมันหุ้น โคตรเทพเลยครับ ปันผลปีแรกก็เกือบได้ทุนคืนแล้ว ส่วนกำไรจริงๆไม่ทราบ แต่ถ้าคิดเล่นๆ โดยให้ ถือว่า กำไร 100 บาทต่อหุ้น (สำรอง 13% จ่ายปันผล 87%) ดูความแข็งแกร่งของกิจการ หนี้ระยะยาวไม่มี เงินสดเพียบ ต้นทุนบริหารจัดการต่ำ ธรรมมาภิบาลพอสมควร เป็นธุรกิจผูกขาด ในโรงเรียนประจำที่มีนักเรียน 450 คน ที่กำลังขยายเป็น 1000 คนในระยะเวลา 3 ปี ถ้าให้ pE ในปีนั้น 20 เท่า ผมว่า ราคาหุ้น ควรจะอยู่ ที่ 2000 บาท ผมอยากเจอหุ้นแบบนี้อีกสักครั้งครับ **** ปัจจุบัน หุ้นตัวนั้นยังคงอยู่ พื้นที่ของสหกรณ์เพิ่มขึ้น ประมาณ 2 เท่า นักเรียนประจำ ที่กินนอนอยู่ในโรงเรียน ประมาณ 1200 คน และนักเรียน ไป-กลับ อีก 100 คนเศษๆ และยังมีโอกาส ทำยอดขายที่สูงกว่าปกติได้ในช่วงที่มีกิจกรรมอย่าง กีฬาสี จัดสอบแข่งขันทักษะทางวิชาการ สอบเข้าเรียนต่อ ม.1 ม.4 (ตอนที่ผมอยุ่จำได้ว่า ของที่อาจารย์สั่งมาสต๊อกไว้เท่าไหร่มีอันขายเกลี้ยง เพราะ นักเรียน มาสอบ ประมาณ 1000-1500 แต่ผู้ติดตามอีก 3-4 คน) ล่าสุด น้องชายผม ที่เรียนพึ่งจบม.6 เมื่อเดือน มีนาคม ได้รับเงินต้นคืน 2000 บาท (เต็มโควต้า) และปันผล 1600 บาท คิดเป็น 80% ยังคงสุดยอดอยู่เหมือนเดิม โดย genedemonvi ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 9:55 am

ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดใช้แนวทาง VI กันหมด ผมว่า ถ้า เป็น vi กันหมด ผลตอบแทนของหุ้นทุกตัวก็จะวัดกันที่ ปันผลครับ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 2:53 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย genedemonvi พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 2:48 pm