Re: นักลงทุนแนว vi เปิดดูพอร์ทบ่อยแค่ไหน? ปกติดูไม่เกินวันครั้งครับ ยิ่งงานยุ่งนี้ไม่ดูเลยเกือบสัปดาห์ แต่ช่วงหุ้นขึ้นเยอะติดๆจะดูบ่อย เพราะดูแล้วมีความสุขครับ โดย LittleChicky พฤหัสฯ. ต.ค. 08, 2015 9:53 am

Re: แนวโน้ม online shopping กับหุ้นค้าปลีก ผมคิดว่า น่าจะจับลูกค้ากลุ่มนึงได้ คือแค่บางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเดินห้างบ่อยๆ - ผมเคยเดินหา TV LED ต้องการจอใหญ่ๆ function ไม่เยอะ แต่เน้นราคาถูก ไว้ซื้อให้พ่อแม่ดู เดินห้างมาเกือบปีก็ยังไม่เจอที่อยากได้ตอนนี้ ซื้อผ่าน http://www.lazada.co.th ได้ราคาถูกแถมส่งให้ถึงบ้านและเก็บเงินปลายทาง ไม่ต้องกลัวเรื่องสินค้ามีปัญหา - ก่อนหน้านี้ผมก็ซื้อแอร์ผ่าน directtoshop ของโฮมโปรให้มาติดตั้งที่ห้องเลย ตัวนึงติดห้องแม่ อีกตัวติดห้องผม ซื้อผ่านเวบได้โปรโมชั่นราคาถูกกว่าซื้อที่ร้านโฮมโปรด้วย - ส่วนพวก IPAD, MacBook ผมก็ซื้อผ่านเวบของ apple thailand ตัดบัตรเครดิตแล้ว ส่งถึงบ้านเหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้ซัก 5 ปี ผมคงไม่กล้าซื้อ ถ้ายังไม่ได้เห็นตัวเป็นๆของสินค้า :wall: แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่า ถึงเราไปเดินหาบางทีก็ไม่เจอสเปคที่อยากได้ และ search เอาในเวบสะดวกและประหยัดเวลามาก :D อย่างสุดท้ายคือ บางทีพนักงานขายความรู้เกี่ยวกับตัวสินค้าน้อยกว่าลูกค้าซะอีก :evil: และชอบบางครั้งให้ข้อมูลไม่ถูกต้องเพื่อเชียร์สินค้าของเขาให้ขายได้ ถ้าดูในอินเตอร์เนตเราสามารถดูรายละเอียดสเปคได้เอง ดูรีวิวของคนใช้งานจริง และไม่มีใครมากดดันให้เราต้องรีบตัดสินใจซื้อเหมือนเรายืนดูที่หน้าร้าน :8) โดย LittleChicky อังคาร พ.ค. 26, 2015 3:28 pm

Re: นักลงทุนสายตาสั้น (ผมไม่ได้สั้นนะครับ) ผมคิดว่า ถ้าธุรกิจดีจริงทำไมรัฐต้องเข้ามาช่วย เหมือนจำนำข้าว ถ้าธุรกิจดีจริงทำไมรัฐต้องมารับซื้อในราคาสูงกว่าตลาด พอรัฐบอกจะเลิกช่วยเกิดม็อบเลย ถ้าธุรกิจดีจริง รัฐไม่ช่วยธุรกิจมันก็โตด้วยตัวมันเองได้ :mrgreen: โดย LittleChicky อาทิตย์ ก.ค. 14, 2013 4:50 pm

Re: มีใครถือหุ้นตัวเดียวมากกว่า 70% ครับ ถือหุ้น 3 ตัว 60-20-20 ครับ ตัวที่ถือ 60% เป็นตัวโตเร็วสุด ซึ่งถือมา 6 ปีแล้ว และยังโตต่อไป โดย LittleChicky พุธ ก.พ. 20, 2013 7:02 pm

Re: upside คืออะไรและหายังไงครับ แบบนี้ก็เรียก อัพไซต์ http://1.bp.blogspot.com/-f7qjiR0aJXg/TfTkIrFgDtI/AAAAAAAAANo/Sx38SVwgP5c/s1600/mao_woman3.gif จากที่นี่นะครับ http://www.maoinvestor.com/2011/06/blog-post.html โดย LittleChicky อังคาร ก.ค. 05, 2011 1:32 pm

Re: ความเสี่ยงมีหรือไม่B/E ผมคิดว่า น่าจะมีความเสี่ยงเหมือนหุ้นกู้นะครับ คือผู้ซื้อ B/E เป็นเจ้าหนี้ แต่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันเงินต้น http://www.thailaws.com/aboutthailaw/knowledge_27.htm ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) ตั๋วแลกเงิน คือ หนังสือตราสารที่บุคคลผู้หนึ่งที่เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกผู้หนึ่ง เรียกว่าผู้จ่าย ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน http://www.krungsri.com/th/ourservice-consumer-list.aspx?cid=59 หมายเหตุ: - ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยธนาคารไม่ได้รับการประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดย LittleChicky จันทร์ ธ.ค. 27, 2010 8:55 am

Re: ความคาดหวังเฟ้อ -ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ โดย LittleChicky อาทิตย์ ธ.ค. 26, 2010 9:46 pm

Re: พี่ๆเพื่อนๆถือหุ้นกี่ตัว และ top3 คิดเป็นกี่ % ผมถือ 6 ตัว นับที่ราคาตลาด 3 ตัวแรกเป็น 90% ของพอร์ต :D โดย LittleChicky อาทิตย์ ธ.ค. 26, 2010 9:44 pm

Re: บริษัทไหนเริ่ม Go inter บ้างครับ PTTEP จะไปซื้อเหมือง OIL SAND ที่แคนาดาครับ :wall: :wall: :wall: โดย LittleChicky เสาร์ ธ.ค. 25, 2010 9:13 pm

Re: ทำไมถึงแพ้ตลาด !!! แพ้ตลาดเพราะซื้อหุ้นที่กำลังมีข่าวร้ายครับ :lovl: แล้วหวังว่าซักวันข่าวร้ายหมดแล้วมันจะกลับมาดี :wall: :wall: :wall: โดย LittleChicky เสาร์ ธ.ค. 25, 2010 9:12 pm

Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ ขอบคุณครับ :D โดย LittleChicky อาทิตย์ ธ.ค. 19, 2010 2:53 pm

Re: EPS16YEAR อับเดทงบ Q3 2010 ขออัพเดตด้วยคนครับ email: [email protected] ขอบพระคุณพี่ครรชิตมากๆครับ :lol: โดย LittleChicky จันทร์ พ.ย. 22, 2010 2:26 am

การปลูกต้นไม้กับการลงทุน ต้นอะไรอ่ะครับ ใบสีเทาๆ คงไ่ม่ไม่ใช่แบงค์หรอกนะ  :lol: โดย LittleChicky อังคาร พ.ย. 09, 2010 11:33 am

หนังสือของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เซียนหุ้นมือทอง ผู้เขียน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9789749589137 โดย LittleChicky พุธ ต.ค. 06, 2010 3:38 pm

โบรกเกอร์ไหน make Differentiation ในการให้บรการบ้าง ของ UOBKay Hian ทำได้ครับ ผมใช้่อยู่ ตัวอย่าง Menu ให้เลือก     Select your order alert condition when you buy/sell stock and click confirm button         - Alert when fully matched - Alert when partially or fully matched - Inactivated Order Alert ที่เหลือก็มีพวก แจ้งเตือนราคาของหุ้นในแต่ละที่เราเลือกว่า เช่น >,<,= ราคาที่เรากำหนดไว้ก็จะ alert sms    และหลังปิดตลาดก็จะส่งข้อมูลสรุปการซื้อขายให้ เช่น สถาบัน,รายย่อย,ต่างชาติ,บล ซื้อขายสุทธิเท่าไหร่ เหมือนๆใน settrade แต่ settrade เก็บตังค์ sms ละ 3 บาท  แต่ใช้ของโปรกเข้าใจว่า ฟรี นะครับ ( ถ้าเก็บตังค์เด่วต้องรีบไปเอาออก หุหุ :8)  ) ผมว่าน่าจะมีหลายโบรกที่ีใช้ได้นะ โดยเฉพาะโบรกที่ deal กับ settrade โดย LittleChicky พุธ ต.ค. 06, 2010 3:13 pm

นี้มันการพนัน ชัดๆเลย กำไรที่ได้จาก DW จะต้องเสียภาษีด้วยนะครับ เป็นโต๊ะพนันที่จ่ายภาษีด้วย อิอิ ตัวอย่าง ผู้ถือมี DW 1,000 หน่วย ราคาหุ้นอ้างอิง 15 บาท ราคาใช้สิทธิ 10 บาท และอัตราส่วนการใช้สิทธิ 1 DW ต่อ 1 หุ้น  ในกรณีนี้ ผู้ถือจะได้รับเงินจากการใช้สิทธิเท่ากับ 5,000 บาท ((15-10) x 1,000)  (ส่วนต่างระหว่างราคาหุ้นอ้างอิงและราคาใช้สิทธิคูณด้วยจำนวนหุ้นที่มี สิทธิซื้อ) ระวัง : ผู้ถือต้องยื่นเสียภาษีเงินได้จากการใช้สิทธิบนรายได้ 5,000 บาท http://www.kgieworld.co.th/th/ED/ED_DW.asp โดย LittleChicky จันทร์ ก.ย. 27, 2010 10:31 pm

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ ขอบคุณมากครับ ให้ความรู้สึกเหมือนไปนั่งฟังเรย โดย LittleChicky จันทร์ ส.ค. 23, 2010 10:22 pm

ธรรมโฆษณ์ของพุทธทาส เวบไซต์พุทธทส dot com http://www.buddhadasa.com/ คู่มือมนุษย์ ไฟล์เสียง http://www.archive.org/details/PT_MB แด่ทุกคนที่สนใจในธรรมครับ โดย LittleChicky เสาร์ ส.ค. 14, 2010 7:06 pm

ธุรกิจคอนโดกำลังโต? จะมีทางไหม ที่คนขายน้ำเต้าหู้ จะบอกว่าน้ำเต้าหู้ของตัวเองเริ่มไม่อร่อยแ้ล้ว ^^ ชอบครับ :8) โดย LittleChicky เสาร์ ส.ค. 07, 2010 11:12 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ [quote="VI Wanabe"][quote="โว้กว้าก"][quote="ลูกอิสาน"][quote="LittleChicky"]เรียนถามพี่โจลูกอิสาน อย่างกรณี MINT-W4 ที่มีราคาใช้สิทธิ 13 บาท ( 1 วอแรนต์แลกได้ 1 หุ้น อายุ 3 ปี) โดย LittleChicky พุธ มิ.ย. 09, 2010 10:40 am

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ เรียนถามพี่โจลูกอิสาน อย่างกรณี MINT-W4 ที่มีราคาใช้สิทธิ 13 บาท ( 1 วอแรนต์แลกได้ 1 หุ้น อายุ 3 ปี)  แต่ราคา MINT อยู่ที่แถวๆ 10 บาท  ทำไมตลาดยังให้ราคาวอแรนต์ให้ยืนได้แถวๆ 2 บาทครับ (เปิดมาวันนี้วันแรก 2.18 บาทเลย)  ซื้อตัวแม่ถูกกว่าตัวลูกตั้งเยอะ  พี่มีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ โดย LittleChicky อังคาร มิ.ย. 08, 2010 3:09 pm

1 ล้านบาทแรกในชีวิต Conservative ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผมเองรู้น้อย วิเคราะห์ลึกๆไม่ค่อยเก่ง Conservative ของผมจึงเหลือหุ้นให้ลงทุนไม่กี่ตัว บางทีความ Conservative ก็ทำให้พลาดโอกาสในหุ้นที่ขึ้นแรงๆ หลายๆตัว แต่ผมก็มั่นใจในทางนี้ว่าจะไม่ทำให้ผมหมดตัวเป็นครั้งที่2 บางทีก็ถือเป็นการเสียโอกาส เพราะถึงแม้ผมจะเห็นว่ามี Upside เยอะ แต่ผมไม่มั่นใจในธุรกิจว่าจะมีความแน่นอนเพียงพอหรือไม่ ผมก็ได้แต่มองหุ้นขึ้นแรงๆ ไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ผมหมายถึง ผม conservative ตั้งแต่เริ่มลงทุนเลยน่ะครับ ต่างจากคุณ skyforever นิดนึงที่เคยได้บทเรียนสมัยเริ่มลงทุนๆแรก ผมเคยพลาดๆหนักๆตัวเดียวคือจากราคา 11 บาทหล่นไปอยู่ 2 บาท (ทำไปได้ ฮ่าฮ่า) แต่เพราะกระจายความเสี่ยงซื้อหลายตัวเลยไม่เจ็บหนักมาก.... ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน และประสบความสำเร็จในชีวิตนะครับ  :D ดูจากปีที่เริ่มทำงานเราน่าจะอายุพอๆกัน โดย LittleChicky จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 1:09 pm

1 ล้านบาทแรกในชีวิต ยินดีด้วยครับ คุณ skyforever ผมก็เรียนจบและทำงานปี 2000 เป็นปีแรก เงินเดือน 15,000 เท่ากันเลยครับ ฐานะทางบ้านไม่ดีเหมือนกัน และต้องมีภาระทางบ้านที่ต้องรับผิดชอบเยอะ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมีเพื่อนที่กำลังต่อสู้ชีวิตคล้ายๆกันเลย ต่างกันแค่ผมเริ่มลงทุนปลายปี 2006 และ conservative ค่อนข้างมาก เลยไม่เคยขาดทุนหนักๆ แต่ก็ได้กำไรไม่มาก ขอบคุณครับที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ โดย LittleChicky เสาร์ มิ.ย. 05, 2010 4:07 pm

ใครยังไม่ได้หนังสือรับรองการหักภาษีบ้างครับ ยังไม่ได้ของ MINT กับ CPALL ครับ จ่ายเิงินปันผลวันที่ 24 พ.ค. 2553 เงินโอนเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าหนังสือรับรองยังไม่ส่งมาเลยครับ  :cry: โดย LittleChicky พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 9:06 pm

ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิว http://www.posttoday.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/29448/%E0%B8%A8%E0%B8%AD%E0%B8%89-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1- ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวคุมพื้นที่กรุงเทพฯ ห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 20.00น.วันที่19พ.ค. ถึง 06.00น.วันที่ 20พ.ค. โดย LittleChicky พุธ พ.ค. 19, 2010 5:41 pm

เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๘พ.ค.๒๕๕๓) วันปรองดอง มองจากข้างบนล่างลง - หมุนตามเข็ม ตอนใช้เท้าซ้ายเป็นจุดหมุน อีกซักพักจะเปลี่ยนมาใช้เท้่าขวาเป็นจุดหมุน - กลายมาเป็นหมุนทวนเข็ม รึเปล่าเอ่ย โดย LittleChicky อังคาร พ.ค. 11, 2010 5:24 pm

ด่วน ! ประกาศ ขอความช่วยเหลือ SAVE Money Talk ส่งแล้วครับ +1 เสียง โดย LittleChicky อังคาร พ.ค. 04, 2010 3:25 pm

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร จากวิศวกรสู่ นักลงทุน ขอบคุณครับ  :D โดย LittleChicky ศุกร์ เม.ย. 30, 2010 12:50 pm

อนาคต!!! หุ้นอสังหา!!! - ผมเห็นด้วยนะครับ ในเรื่องที่ demand บ้านเพื่อขึ้น เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น แต่มันไม่ได้มีความสัมพันธ์กันในเชิงเส้นตรง ถ้าเป็นเส้นตรงจริงประชากรเพิ่มขึ้นทุกๆปีอยู่แล้ว นานนับเป็นร้อยปี แต่ทำไมพวกธุรกิจอสังหาถึงขึ้นลงเป็นรอบๆ แบบเป็นวัฐจักรล่ะครับ ทั้งที่จำนวนประชากรมีแต่ขึ้นไม่มีลง - อย่างเรื่อง lifestyle ที่คนนิยมอยู่คอนโดมากขึ้นอันนี้ เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะคนที่มีกำัลังซื้อและบ้านพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด มักจะซื้อคอนโดไว้ที่กรุงเทพฯสะดวกในการไปทำงาน โดยไม่ต้องเช่า พอผ่อนเสร็จก็ได้เป็นเจ้าของ คนกลุ่มนี้นิยมซื้อคอนโดมากกว่าบ้านเพราะว่า ปลอดภัยกว่าครับ ทำความสะอาดก็ง่าย เดินทางสะดวก และราคาต่ำกว่าบ้าน ถ้ายังโสดอาศัยอยู่คนเดียวนี่อยู่คอนโดได้ แต่ถ้าซื้อบ้านหลังนึงแล้วอยู่คนเดียวนี่มันวังเวงสุดๆเลยนะครับ  :oops: - โดยส่วนตัวคิดว่า โตได้เพราะดอกเบี้ยเงินฝากเหมือนกันครับ เพราะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเตี้ยติดดินมาก คนที่พอมีเงินก้อนถ้าไม่กล้าลงทุนหุ้นก็หันมาซื้อบ้าน/คอนโดแทน  บวกกับแบงค์ปล่อยกู้ง่ายทำให้คนทำงานประจำ แต่ไม่มีเงินก้อนโต ก็สามารถกู้ได้100% ในบางโครงการด้วย - ตามบูตขายคอนโดของบางยี่ห้อ (จำไม่ได้แล้วนะ เคยไปดูเมื่อปีก่อน) เห็นมีการโปรโมตเรื่องการซื้อคอนโดเก็บไว้ลงทุน โดยให้เหตุผลว่าราคาปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ แถมยังปล่อยเช่าได้อีก บางยี่ห้อ(อันนี้โครงการไม่ดังนะ)เพียงแค่ซื้อทางโครงการก็จะติดต่อหาผู้เช่ามาให้ด้วย โดยรับประกันว่าถ้าหาลูกค้ามาเช่าไม่ได้ในปีแรก ยินดีจะจ่ายค่าชดเชยให้ โดย LittleChicky พุธ เม.ย. 28, 2010 7:45 pm

ใครใส่แว่นสายตากันบ้างครับ จากประสบการณ์ ถ้าใช้ multicoat จะลดแสงสะท้อนกลับตอนเวลา ถ่ายรูปติดบัตรถ้าเป็น multicoat ช่างจะให้ถ่ายได้ แต่ถ้าเป็นเลนส์ธรรมดาช่างจะให้ถอดแว่นถอดออก เพราะแสงมันสะท้อน ผมสายตาสั้น -6.5 แต่ไม่ชอบใส่คอนแทคเพราะว่าใส่ยากตาเล็กเกิน ล่าสุดไปดำสน๊อกเกิ้ลมาต้องซื้อแว่นดำน้ำแบบเป็นเลนส์สายตา แล้วปากคาบท่อหายใจ(สน๊อกเกิ้ล)แทน เอาหน้ากากดำน้ำไปเก็บไว้ในเต็นท์  :lol: โดย LittleChicky พุธ มี.ค. 31, 2010 4:55 pm

คุยกันประสาคนบ้าเกม เล่นมาหลายเกมส์เหมือนกันครับ เด็กๆบ้าเกมส์มากไม่ยอมไปโรงเรียนเอาแต่เล่นเกมส์  สมัย Famicom กับ SFC เล่นแล้วต้องเคลียร์ ถ้าไม่เคลียร์ไม่ยอมเลิกเล่น พวก final mission, gradius, R-type เคลียร์หมด  :lol: สุดยอดที่เคยทำคือ เล่น Mario3 จนเคลียร์โดยไม่ตายซักตัว ( แบบใช้ขลุ่ยวาร์ปฉากอะนะ ) เล่นบ่อยจนมือเราแทบจะเป็นส่วนนึงของจอย ไม่ก็ รู้สึกว่าจอยเป็นอวัยวะนึงในตัวเรา โดย LittleChicky พุธ มี.ค. 31, 2010 3:21 pm

ขออนุญาติสรุปความรู้ที่ได้จากงาน จิบเบียร์เมื่อวันที่ 12 คับ ขอบคุณคุณ Champ มากครับ  อ่านแล้วได้อารมณ์เหมือนได้ฟังจากปากท่านอาจารย์ โดย LittleChicky อังคาร มี.ค. 16, 2010 4:08 pm

เป็น VI แล้ว FCF น้อยลง?? ผมก็เข้าใจคุณ iamrinkung ครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งมักโดนผู้หญิงว่า มีเงินไม่รู้จักเอามาเลี้ยงสาว แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟน  ( ไอ้เราก็บ่นในใจ ก็เมิงมีแฟนแล้วนี่หว่า เรื่องไรกูจะเลี้ยงเมิง  :lol: )  แต่ส่วนใหญ่คนก็มองแค่วันนี้หาได้เท่าไหร่ ก็ใช้ซื้อความสุขให้หมด ตายไปเงินก็เอาไปไม่ได้  บางคนคิดอย่างนั้นได้เพราะว่าตังค์หมดก็กลับอยู่กับพ่อแม่ได้ ถ้ามองกลับกันสำหรับบางคนที่ขนาดพ่อแม่ยังต้องพึ่งพาเราล่ะ คงไม่มีใครถูกใครผิด เพราะความจริงของคนหนึ่ง อาจไม่ใช่ความจริงของอีกคน ทั้งที่อยู่บนโลกใบเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่า คนๆนั้นได้สัมผัสที่ส่วนไหน โดย LittleChicky อังคาร มี.ค. 02, 2010 10:48 pm

ผมโดนสรรพากรดัดหลังครับ เพราะยื่นรายได้จากปันผลไม่ครบทุกตัว มีผลครับ ถ้ายื่นไม่ครบสาเหตุนั่นคือ ถ้าคุณไนท์เอารายได้ส่วนที่ไม่ได้ยื่น มายื่นรวมอาจทำให้รายได้สุทธิ มากกว่า 5 แสนบาทได้ ซึ่งในกรณีนี้มีิสิทธิไปตก rate 20% เช่น แบบ A กรณีถ้าไม่ยื่นส่วนไม่เครดิต รายได้สุทธิ 490,000 บาท ( ยังไม่ได้ยื่นอีก 20,000 บาท เพราะหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว 10% ) แบบ B กรณียื่นรวม  รายได้สุทธิ 490,000 + 18,000 บาท =508,000 บาท ( 20,000 บาทหัก ณ ที่จ่าย 10% = 18,000 บาท ) ส่วน 8,000 บาท ตก rate 20% ซึ่งแบบ A เสีย rate 10% ทั้งหมด แต่แบบ B จะเสีย rate 10% และ บางส่วนเสีย 20% เพราะฉะนั้นควรจะยื่นรวมดีกว่า ให้มันชัดเจนครับ ว่า เกิน Rate จริงหรือไม่เกิน :8) โดย LittleChicky อังคาร มี.ค. 02, 2010 10:34 pm

Re: หุ้นปันผล (stock dividend) มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เข้าใจว่า น่าจะเหมือนถึงกรณีที่มีการจ่ายปันผลเป็นหุ้น แทนการจ่ายเงินสด เช่น ในกรณี HMPRO ที่เพิ่งจ่ายไปนะครับ 10หุ้นเดิมต่อ 9 หุ้นใหม่ หุ้นใหม่ตรามูลค่าไว้ที่หุ้นละ 1 บาท และปันผลเป็นเงินสด 0.1 บาทต่อหุ้น  พอดีถือไว้เลยพอมีประสบการณ์บ้าง ช่วยตอบหน่อยนะคะ แบบว่าความรู้น้อยอ่ะค่ะ 1. อยากทราบว่าหุ้นปันผล (stock dividend) มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้างคะ ข้อดี   - เพิ่มทุนจดทะเบีียนมากขึ้นทำให้บริษัทดูใหญ่ขึ้น ดูมีความเชื่อถือมากขึ้น   - เพิ่มสภาพคล่อง   - ในกรณีHMPRO ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์มากจากการเครดิตภาษีคืน เนื่องจากบริษัทจ่ายภาษีในอัตรา 30% และ 25% แต่ปกติผู้ถือหุ้นรายย่อยมีรายเสียภาษีที่ 10% เครดิตส่วนต่างคืนได้เยอะ   - ในกรณี HMPRO บริษัทจ่ายเงินสด 10% หรือ 0.1 บาทต่อหุ้น ทำให้ผู้ได้รับหุ้นปันผลไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% เพราะหักลบกลบหนี้กันพอดี ( คือ เราได้หุ้นใหม่มา 0.9 หุ้นต่อหุ้นเดิม ก็คือ ได้มา 0.9 บาท + ปันผลเงินสด 0.1 บาท รวมได้ปันผล 1 บาท หักภาษี ณ ที่จ่าย10% = 0.1 บาทพอดี ) บริษัทเสียเงินแค่ 0.1 บาทต่อหุ้น แต่ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์มาก ข้อเสีย    - จำนวนหุ้นมากขึ้น ทำให้ราคาต่อหุ้น dilute คือลดลงตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น เช่น ก่อน XD HMPRO ราคา 8 บาทหลัง XD จะเหลือ 8/(1+0.9) = 4.2 บาท 2. เวลาบริษัทออกหุ้นปันผลมาจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น ใครคือคนชำระค่าหุ้นดังกล่าวคะ หรือว่าไม่มีการชำระค่าหุ้นคะ ไม่ทราบเหมือนกันครับ  รู้แต่ว่า ผู้ถือหุ้นไม่ต้องชำระและ หลังเพิ่มทุนส่วนทุนของบริษัทในงบดุลจะเพิ่มขึ้น กำไรสะสมน้อยลง โดย LittleChicky อังคาร มี.ค. 02, 2010 10:24 pm

พบ ดร.นิเวศน์ วิเคราะห์หุ้นเด่น เสาร์ 20 กพ. ตลาดหลักทรัพย์ ขอบคุณครับ peodpeod55 น้ำใจงามจริงๆ โดย LittleChicky อาทิตย์ ก.พ. 21, 2010 7:18 pm

Moneytalk Weekly พวกเราอยากได้บริษัทไหนมาออกรายการบ้างครับ OGC ครับ อยากรู้ว่า แก้วคริสตัลที่ลงทุนไป ขายดีไหม สามาารถทำตลาดได้ไหม โดย LittleChicky ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 11:03 am

อยากเล่าให้อ่าน ไม่ซีเรียสคะ ไปซื้อหนังสือบ้านและสวน ที่ร้าน SE-ED ครับ   กระจายรายได้กันไป  :lol: โดย LittleChicky พฤหัสฯ. ม.ค. 28, 2010 4:18 pm

Re: สอบถามหน่อยครับว่าผมควรทำอย่างไรกับการลงทุน ผมเลยติดต่อกับธนาคาร ว่าขอกู้เงินประมาณ 770,000.- เพื่อจะ ไปรวมหนี้ทั้งสอง และจ่ายเงินทางเดียว แต่ทางธนาคารอนุมัติให้แค่ 600,000 บาท ซึ่ง ออมสิน อนุมัติเงินให้ 6 แสน นี่ต้องเอาบ้านไป refinance รึเปล่าครับ หรือว่ากู้ได้เพราะว่า เป็นข้าราชการทหาร (60เท่าของเงินเดือน แอบอิจฉาทำไมกู้ได้เยอะจัง  :oops:  ) เพราะว่าถ้าเป็นการ refinance บ้าน เงินสดคงไม่ตกมาถึงมือเรามั้งครับ อีกคำถามคือออมสินคิดดอกเบี้ยกี่ % ครับ โดย LittleChicky จันทร์ ม.ค. 25, 2010 5:38 pm

เคยต้องถอนตัว หรือล้างพอร์ต ออกจากตลาดหุ้นมั้ยครับ [quote="LittleChicky"]เคยครับ เอาตั้งไปซื้อดาวน์บ้าน โดย LittleChicky จันทร์ ม.ค. 25, 2010 1:17 pm

เคยต้องถอนตัว หรือล้างพอร์ต ออกจากตลาดหุ้นมั้ยครับ เคยครับ เอาตั้งไปซื้อดาวน์บ้าน  :lol:   ขายหมดพอร์ตเลย โดย LittleChicky จันทร์ ม.ค. 25, 2010 1:14 pm

Re: หากเป็นเจ้าของ Hmpro ผมจะซื้อ หุ้น Global 30% หากเป็นผู้บริหาร hmpro ผมจะซื้อ global ด้วยราคา 3 บาท * จำนวนหุ้น ประมาณ 250 ล้านหุ้น ใช้เงิน 750 ล้านบาท ให้ผู้บริหารเซ็นทรัลซื้อหุ้น global แทนที่จะตั้ง ไทวัสดุ มาแข่งดีไหมครับ  :8) โดย LittleChicky พุธ ม.ค. 20, 2010 12:01 pm

ธุรกิจอพาร์ทเม้นต์ 7-8% ของ ROI ใช่ไหมครับ ถ้าเราลงทุน 25% + กู้แบงค์ 75% 7% = ROI = Return/(x+3x) ROE = 7%x3 = 28% ผมคิดถูกไหมครับ ดูเหมือนผลตอบแทนดีแบบใช้ margin  แต่ไม่นับเรื่องปัญหาต่างๆที่คุณ Preeda ได้แชร์ให้ฟัง โดย LittleChicky ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 10:36 pm

เทคนิคการซื้อ RMF แต่จากเงื่อนไข 2 เวบนี้ ไม่เห็นมีบอกเลยว่า ต้องเอาเงินจากการขายหน่วยมาเป็นรายได้และคิดภาษี   ชักงง ไหง เงื่อนไขไม่เหมือนกัน http://edu.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=111&Itemid=93&limit=1&limitstart=3 http://www.sec.or.th/infocenter/report/Content_0000000744.jsp?categoryID=CAT0000292&lang=th โดย LittleChicky ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 10:17 pm

เทคนิคการซื้อ RMF เอามาจาก http://www.tsi-thailand.org/e-LearningRoom/Knowledge/posttoday/B09.pdf อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวข้างต้น ผู้ลงทุนต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขการลง ทุนของ RMF ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. เงินลงทุนใน RMF ต้องมาจากการประกอบอาชีพ และเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวล รัษฎากร 2. ต้องลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาทต่อปี แล้วแต่ว่าจำนวนเงินใดจะต่ำ กว่า 3. เงินลงทุนใน RMF ขั้นสูงสุดต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ และเมื่อรวมเข้ากับเงินลงทุนในกองทุนสำรอง เลี้ยงชีพ หรือ กบข. ที่ผู้ลงทุนมีอยู่เดิมต้องไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี ทั้งนี้หากมีการลงทุนเกินกว่าที่ กำหนดข้างต้น และมีการขายคืนหน่วยลงทุน ผู้ลงทุนต้องนำกำไรที่ได้รับจากการขายคืนหน่วยลงทุน เฉพาะส่วนที่เกินกว่าที่กำหนด ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย 4. ห้ามนำหน่วยลงทุนของกองทุน RMF ไปจำหน่าย โอน จำนำ หรือใช้เป็นหลักประกันใดๆ 5. ต้องลงทุนสะสมอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยไม่มีการระงับการลงทุนเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน ซึ่งหากมีความจำเป็นก็สามารถระงับการลงทุนได้แต่ต้องไม่เกินหนึ่งปีติดต่อกัน ยกเว้นเสีย แต่ว่าผู้ลงทุนผู้นั้นไม่มีเงินได้จากการประกอบอาชีพแต่อย่างใด ก็สามารถว่างเว้นจากการลงทุนได้จนกว่า ผู้ลงทุนผู้นั้นจะมีเงินได้กลับมาลงทุนต่อไป ซึ่งในกรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไขการลงทุนแต่อย่างใด ทั้งนี้ให้นับอายุการลงทุนแบบวันชนวันตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุน ยกตัวอย่างเช่น หากลงทุนซื้อหน่วยลงทุน ของ RMF ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548 สามารถนับระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุนครบ 1 ปี ในวันที่ 31 ธันวาคมปีถัดไปนั่นเอง 6. การขายคืนหน่วยลงทุนกระทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี และต้องถือหน่วยลงทุน นั้นไม่น้อยกว่า 5 ปี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มลงทุนตอนอายุ 51 ปีอย่างสะสม และต่อเนื่องในกองทุน RMF ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ไปในอนาคต จวบจนเมื่อผู้ลงทุนมีอายุครบ 56 ปี จะสามารถขายคืน หน่วยลงทุนได้โดยไม่ผิดเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2553 นับเวลา 5 ปีพอดี 7. หากขายคืนหน่วยลงทุนก่อนเงื่อนไขการลงทุนที่กำหนดไว้ข้างต้น ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทาง ภาษีอีกต่อไป อีกทั้งต้องคืนเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับในช่วง 5 ปีล่าสุดให้แก่กรมสรรพากร นอก จากนี้เงินที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนยังต้องนำไปคำนวณรวมเพื่อเสียภาษีเงินได้ในปีที่มีการขายคืน หน่วยลงทุนนั้นด้วย 8. กรณีที่ผู้ลงทุนขายคืนหน่วยลงทุนบางส่วนก่อนกำหนดในปีใดปีหนึ่ง และได้คืนเงินสิทธิประโยชน์ทาง ภาษีในช่วง 5 ปีย้อนหลังแล้ว (ผู้ลงทุนยังคงถือครองหน่วยลงทุน RMF ในส่วนที่เหลืออยู่) หากผู้ลงทุนผู้ นั้นประสงค์ที่จะลงทุนต่อก็สามารถลงทุนต่อเนื่องได้ทันที โดยสามารถนับระยะเวลาการถือครองหน่วย ลงทุนใหม่ต่อเนื่องจากระยะเวลาการลงทุนเดิมได้ 9. เฉพาะกรณีที่ผู้ลงทุนเสียชีวิต หรือทุพพลภาพเท่านั้น จึงจะไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ลงทุนต้องทำการศึกษาเงื่อนไขการลงทุนข้างต้น เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ทางภาษีก่อนการลงทุนใน RMF เสมอ โดยกองทุนรวมประเภทนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอาชีพอิสระ หรือลูก จ้างที่ไม่มีระบบบำเหน็จบำนาญรองรับ หรือลูกจ้างที่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญอยู่แล้ว แต่ต้องการที่จะลงทุน เพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มวงเงิน 300,000 บาทต่อปีด้วย และหากท่านมีความสนใจที่จะได้รับความรู้เรื่องการลงทุนในตราสารทางการเงินรูปแบบต่างๆ ท่าน สามารถสมัครเข้าร่วมสัมมนาที่หลากหลายหัวข้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านทาง TSI e- Learning กับโครงการพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ที่ www.tsi-thailand.org เงื่อนไขไม่ครบครับ ที่จริงมีเงื่อนไขมากมาย ถ้าทำตามวิธีข้างต้นจะโดน ข้อ 7 ครับ  คือ เงินที่ขายหน่วย RMF ต้องนำมาคิดภาษีด้วย ซึ่งมันจะวนกลับไปตอนแรกที่เราซื้อ RMF เพื่อลดรายได้สุทธิลง   เช่น ปีที่ 1  รายได้สุทธิ X+500,000 บาท ตกคิดภาษีที่ 37%  เราเอา 500,000 มาซื้อ RMF ทำให้ประหยัดภาษีไป 500,000x0.37 ปีที่ 11 ขายหน่วย RMF รายได้สุทธิ Y+500,000 บาท ถ้าตกภาษีที่ 37% เราก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 500,000x0.37 อยู่ดี แต่ถ้า ปีที่ 11 ธุรกิจเรามีปัญหา รายได้สุทธิเราตกที่ ภาษี 20% ล่ะ ?   :8) ปล แต่ในข้อมูล Link ดูเหมือนจะเก่าเพราะว่า ลดหย่อนได้แค่ 300,000 บาทเอง ของใหม่ 500,000 โดย LittleChicky ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 9:52 pm

มาแล้วครับ moneytalk weekly เร่ิมเสาร์-อาทิตย์นี้ 4 ทุ่ม รอดูอยู่เหมือนกันครับ ปกติดูทุกวันถ้าไม่ได้แอบไปเล่นเกมส์ซะก่อน โดย LittleChicky ศุกร์ ม.ค. 08, 2010 3:21 pm

จะดีไหม ถ้าจะมี ห้องเพิ่ม ดีครับ อย่างหมอนี่น่าจะช่วยตอบเกี่ยวกับเรื่องอาการเจ็บป่วย แต่ว่า อย่างวิศวกรนี่มันก็มีหลายแขนงมากๆ อย่าง โยธา ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เคมี  อุตสหการ ซึ่งความรู้ก็ค่อนข้างไม่เกี่ยวเนื่องกัน  อาจจะต้องจัดกลุ่มดีๆ เช่น เกี่ยวกับบ้าน ก็เป็นสถาปนิก+วิศวะโยธา , ด้านไอที ก็ คอมพิวเตอร์+ไฟฟ้า+อิเล็กทรอนิกส์   ประมาณนั้นอ่ะครับ โดย LittleChicky จันทร์ ม.ค. 04, 2010 11:48 am

ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ มีมากกว่า 300%  6 คน  :lol: โดย LittleChicky พฤหัสฯ. ธ.ค. 31, 2009 7:31 pm

รบกวนสอบถามเรื่องการวิเคราะห์งบกระแสเงินสดหน่อยครับ (งงมากคร งบกระแสเงินสด บอกเงินที่มีอยู่ในมีได้ค่อนข้างชัดเจนครับ ถ้าดูในงบปี จะดูง่ายขึ้น ถ้าดูในงบปีจะเห็นว่า เงินสดต้นปี + เงินสดที่ได้จากการดำเนินการ ปีนี้  = เงินสดตอนสิ้นปี เช่น ปีที่แล้วบริษัทมีเงินสดในมือ 100 ล้าน ปีนี้ หาเงินสดได้ 50 ล้าน สิ้นปีนี้เงินสดในมือ ก็จะมี 150 ล้าน และ เงินสดต้นปีนี้ จะเท่ากับเงินสดตอนสิ้นปีที่แล้ว ( ยกยอดมา ) โดย LittleChicky ศุกร์ ธ.ค. 25, 2009 5:41 pm

Re: รบกวนสอบถามเรื่องการวิเคราะห์งบกระแสเงินสดหน่อยครับ (งงม ข้อ 1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน สำหรับข้อนี้ ผมอ่านหนังสือเท่าไหร่ ผมก็ไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจว่า เขาใช้หลักเกณฑ์ยังไงว่ารายการนี้ ติดลบ รายการโน้น ติดบวก ถ้าเงินสดเข้ากระเป๋าเป็น +  ครับ ถ้าเงินสดออกจากกระเป๋าเป็น - หลักการคือ รายการนี้จะยกยอด "กำไรสุทธิ" ของปลายงวดมา เสร็จแล้วก็จะตามมาด้วยรายการในงบดุลต่างๆ ว่ามีการเคลื่อนไหวของกระแสเงินสดอย่างไรบ้าง (ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า?) :!: โดย LittleChicky ศุกร์ ธ.ค. 25, 2009 5:37 pm