หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
wpong
Joined: อาทิตย์ พ.ย. 02, 2003 4:04 pm
1336
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - wpong
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: เส้นทางธรรมกับชีวิตการลงทุนแนววีไอ
ฟังพระพุทธเจ้า วิสัชนา เรื่องทาน แก่พระสารีบุตร น่าจะช่วยพวกเราได้รับอานิสงส์ จากการทำทาน ในประเภทที่ต้องไม่ต้องเวียนกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก [๔๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ฝั่งสระโบกขรณีชื่อคัคครา ใกล้จัมปานคร ครั้งนั้นแล อุบาสกชาวเมืองจัมปามากด้วยกัน เข้าไปหาท่าน พระสารีบุตรถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าว กะท่านพระสารีบุตรว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ธรรมีกถาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มี พระภาค พวกกระผมได้ฟังมานานแล้ว ขอได้โปรดเถิด พวกกระผมพึงได้ฟัง ธรรมีกถาของพระผู้มีพระภาค ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้นท่านทั้งหลายพึงมาในวันอุโบสถ ท่านทั้งหลายพึงได้ฟังธรรมีกถาใน สำนักพระผู้มีพระภาคแน่นอน อุบาสกชาวเมืองจัมปารับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ลุกจากที่นั่ง อภิวาทกระทำประทักษิณแล้วหลีกไป ต่อมา ถึงวันอุโบสถ อุบาสก ชาวเมืองจัมปาพากันเข้าไปหาพระสารีบุตรถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควร ข้างหนึ่ง ลำดับนั้น ท่านพระสารีบุตรพร้อมด้วยอุบาสกชาวเมืองจัมปา เข้าไป เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ครั้น แล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานเช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก พึงมีหรือหนอแล และทานเช่นนั้นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก พึงมีหรือพระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรสารีบุตร ทานเช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก พึงมี และทาน เช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก พึงมี ฯ สา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องให้ทาน เช่นนั้นแล ที่บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องให้ทานเช่นนั้นนั่นแล ที่บุคคลบางคนใน โลกนี้ ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ พ. ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ยังมีความหวังให้ทาน มีจิต ผูกพันในผลให้ทาน มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปจักได้ เสวยผลทานนี้ เขาให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่อง ลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์ แก่สมณะหรือพราหมณ์ ดูกร สารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ พึงให้ทาน เห็นปานนี้หรือ ฯ สา. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวังให้ทาน มีจิต ผูกพันในผลให้ทาน มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานด้วยคิดว่าตายไปแล้วจักได้ เสวยผลทานนี้ เขาผู้นั้นให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ดูกรสารีบุตร ส่วนบุคคลบางคน ในโลกนี้ ไม่มีหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่คิดว่า ตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ แล้วให้ทาน แต่ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี เขาให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์แก่สมณะหรือพราหมณ์ ดูกรสารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้พึงให้ทาน เห็นปานนี้หรือ ฯ สา. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มี จิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไป แล้วจักได้เสวยผลทานนี้ แต่ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี เขาผู้นั้นให้ทาน นั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ เขาสิ้น กรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ ความเป็นอย่างนี้ ฯ ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราก็ ไม่ควรทำให้เสียประเพณี เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นยามา เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดา มารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี แต่ให้ทานด้วย คิดว่า เราหุงหากิน สมณะและพราหมณ์เหล่านี้ ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหาไม่สมควร เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิต เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ แล้วยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะและพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะ ไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร แต่ให้ทานด้วย คิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชามหายัญ ฉะนั้น เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี เขาสิ้นกรรม สิ้น ฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เรา จักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี ฯลฯ และภคุฤาษี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส เกิด ความปลื้มใจและโสมนัส เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็น ใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อ เราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส แต่ให้ทานเป็น เครื่องปรุงแต่งจิต เขาให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและเครื่องอุปกรณ์ แก่สมณะหรือพราหมณ์ ดูกรสารีบุตร เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ พึงให้ ทานเห็นปานนี้หรือ ฯ สา. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลผู้ไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เรา ตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า การให้ทานเป็นการดี ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราไม่ควรทำให้เสีย ประเพณี ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้ หุงหากินไม่ได้ จะไม่ให้ทานแก่ผู้ที่หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร ไม่ได้ให้ทานด้วย คิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาช- *ฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี ผู้บูชามหายัญ ฉะนั้น และไม่ได้ ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานนี้ จิตจะเลื่อมใส จะเกิดความปลื้มใจและ โสมนัส แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ดูกร สารีบุตร นี้แลเหตุปัจจัย เป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก และเป็นเครื่องให้ทานเช่นนั้นที่บุคคลบาง คนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ http://www.84000.org/tipitaka/_mcu/v.php?B=23&A=1340&Z=1436
โดย
wpong
เสาร์ เม.ย. 28, 2018 10:44 am
0
2
Re: ขอซื้อหนังสือต่อ "ศาสตร์แห่งหุ้นเติบโตของเกรแฮม"
ขายแล้วครับ ผมได้ซื้อจาก B2S เมื่อสัปดาห์ที่แล้วครับ
โดย
wpong
ศุกร์ ก.ค. 14, 2017 11:36 am
0
1
Re: Money talk@mai Forum 1 July 17
ขอบคุณครับ
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 02, 2017 10:20 am
0
1
Re: Money talk@mai Forum 1 July 17
ขอบคุณครับ
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 02, 2017 10:20 am
0
3
Re: เส้นทางธรรมกับชีวิตการลงทุนแนววีไอ
คุณ Picatos ลองฟัง youtube ลำดับสายแห่งปัญญา หรือความจริงทั้งหลาย เริ่มจากนาที่ที่ 9:45 ดูครับ ท่านพุทธทาส ไล่เรียง ธรรม ตั้งแต่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จน กระทั่งถึง อตัมมยตา ให้ฟังครับ https://www.youtube.com/watch?v=GzDniLNnUWc
โดย
wpong
พุธ มี.ค. 01, 2017 9:29 pm
0
2
Re: เส้นทางธรรมกับชีวิตการลงทุนแนววีไอ
ผมสงสัยแค่อย่างเดียว การเริ่มสนใจธรรมะจากการทำทานมันไม่ถูกต้องเหรอครับ ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันเป็นขั้นแรก เพราะเป็นการฝึกละทรัพย์ภายนอก เวลาสอนฆราวาส ผมก็เข้าใจว่า ทาน ศีล ภาวนา เป็นไปตามขั้นตอนเช่นนี้ พี่ดำครับ ในสมัยพุทธกาล ถ้ามีผู้ฟังธรรมเป็นฆราวาสร่วมอยู่ด้วย พระพุทธเจ้าจะเทศน์ ธรรมที่ใช้สำหรับฟอกจิตก่อน แล้วจึงกล่าวถึงอริยสัจ4 ธรรมทีฟอกจิต มีชื่อว่า อนุปุพพิกถา จะเริ่มต้นด้วย ทาน และอานิสงส์ของทาน ศีล และ อานิสสงส์ของศีล สวรรค์ หรือ กามคุณทั้งหลาย อันเกิดจากทาน และศีล โทษของกาม อานิสสงส์แห่งการออกจากกาม โดยรวมแล้วธรรมชุดนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ตรงเรื่องทาน และอานิสงส์ของทาน แต่ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อฟอกจิต และยกระดับผู้ฟังให้เหมาะที่จะรับฟังอริยสัจ ถ้าจะทำทานเพื่อให้ได้กามคุณ ก็ขอให้ระลึกถึง โทษแห่งกาม และอานิสสงส์ แห่งการออกจากกาม จะครบถ้วนกว่าครับ ถ้าผมมีความเข้าใจผิดเรื่องใด วานเพื่อนๆช่วยแนะนำด้วยครับ :P
โดย
wpong
จันทร์ ก.พ. 27, 2017 6:47 pm
0
4
Re: เส้นทางธรรมกับชีวิตการลงทุนแนววีไอ
....... กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์ ยังบริโภคกาม อยู่ครองเรือน นอนเบียดบุตร ใช้จันทน์ในแคว้นกาสี ยังทรงดอก- *ไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้ ยังยินดีเงินและทองอยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงธรรมที่เหมาะแก่ข้าพระองค์ อันจะพึงเป็นไปเพื่อ ประโยชน์ เพื่อความสุขในปัจจุบัน เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขในภายหน้าเถิด ฯ รายละเอียดตาม link นี้ครับ http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=5934&Z=6025 ถ้าเราวางแผนไว้ว่าจะมีความสุข ในระยะยาวแล้ว ผมคิดว่าศีลเป็นสิ่งจำเป็นครับ ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจะอดทนต่อกิเลสของเราได้แค่ใหน
โดย
wpong
อังคาร ม.ค. 10, 2017 8:53 pm
0
6
Re: เส้นทางธรรมกับชีวิตการลงทุนแนววีไอ
ผมขอนำ แนวทางการปฎิบัติธรรม ที่หลวงพ่อชา ตอบคำถาม แก่พระลูกศิษย์ บางข้อ มา post นะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่พวกเรา คำถาม: ผมได้พากเพียรอย่างหนักในการปฏิบัติกรรมฐาน แต่ยังไม่มีที่ท่าว่าจะได้ผลคืบหน้าเลย คำตอบโดยหลวงพ่อชา : เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติความอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้นหรือรู้แจ้งนั้นจะเป็นความอยากที่ขวางกั้นท่านก็ได้ จะเร่งความเพียรทั่งกลางคืนกลางวันก็ได้ แต่ถ้าการฝึกปฏิบัตินั้นยังประกอบด้วยความที่อยากจะบรรลุเห็นแจ้งแล้ว ท่านจะพบความสงบไม่ได้เลย แรงอยากจะเป็นเหตุให้เกิดความสงสัยและความกระวนกระวายใจ ไม่ว่าท่านจะฝึกปฏิบัตินานเท่าใดหรือนานสักเพียงใด ปัญญา (ที่แท้) จะไม่เกิดขึ้นจากความอยากนั้น ดังนั้นจงเพียงแต่ละความอยากเสีย จงเฝ้าดูจิตและกายอย่างมีสติแต่อย่ามุ่งหวังที่จะบรรลุถึงอะไร อย่ายึดมั่นถือมั่นแม้ในเรื่องการฝึกปฏิบัติหรือในการรู้แจ้ง คำถาม: ผมควรจะทำอย่างไรครับเมื่อผมสงสัย บางวันผมวุ่นวายใจด้วยความสงสัยในเรื่องปฏิบัต หรือในความคืบหน้าของผม หรือในอาจารย์ คำตอบโดยหลวงพ่อชา : ความสงสัยนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทุกๆ คนเริ่มต้นด้วยความสงสัย ท่านอาจได้เรียนรู้อย่างมากจากความสงสัยนั้น ถ้าท่านยังถือเอาความสงสัยนั้นเป็นตัวเป็นตน นั่นคืออย่าตกเป็นเหยื่อของความสงสัย ซึ่งจะทำให้จิตใจของท่านหมุนวนเป็นวัฏฏะ อันไม่มีที่สิ้นสุด แทนที่จะเป็นเช่นนั้น จงเฝ้าดูกระบวนการเกิดดับของความสงสัย ของความฉงนสนเท่ห์ ดูว่าใครคือผู้ที่สงสัย ดูว่าความสงสัยนั้นเกิดขึ้นและ ดับไปอย่างไร และท่านจะไม่ตกเป็นเหยื่อของความสงสัยอีกต่อไป ท่านจะหลุดพ้นออกจากความสงสัยและจิตของท่านก็จะสงบ ท่านจะเห็นว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นและดับไปอย่างไร จงปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่ท่านยังยึดมั่นอยู่ ปล่อยวางความสงสัยของท่านและเพียงแต่เฝ้าดู นี่คือสิ่งที่สิ้นสุดของควาสงสัย ถ้าสนใจเพิ่มเติมดูได้จาก http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_cha/lp-cha_04.htm
โดย
wpong
อาทิตย์ ต.ค. 30, 2016 10:43 am
0
11
Re: เกมส์ทายชื่อหุ้น จากปริศนาคำใบ้
:bow: :bow: :bow: :bow: :bow: :bow: :bow: :bow: :bow: เข้ามาคารวะ อาจารย์โจครับ สุดยอดจริงๆ
โดย
wpong
อาทิตย์ ต.ค. 02, 2016 5:39 pm
0
2
Re: เรื่องน่ารู้
เฉลยข้อ 5 คือเงินดาวน์จากลูกค้าที่จะถูกบันทึกไว้เป็นหนี้สิน เฉลยข้อ 6 คือ โครงกำรปำร์คเวนเชอร์อีโคเพล็กซ์ (โดยไม่รวมพื้นที่ในส่วนที่ประกอบกิจกำรโรงแรม ดิ โอกุระ) ซึ่งเป็นของ GVREIT :P
โดย
wpong
อาทิตย์ ต.ค. 02, 2016 5:35 pm
0
5
Re: เรื่องน่ารู้
เฉลยข้อ 4 ครับ SPWPF คิดค่าเช่าโรงแรมจากบริษัทลูกของ CI ในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน โดยคิดค่าเช่าสูงในเดือนที่เป็น High season ERWPF ก็คิดค่าเช่าแต่ละเดือนสูงต่ำต่างกัน แล้วแต่ว่าเป็นช่วง High หรือ Low season รายละเอียดตามนี้ครับ
โดย
wpong
อาทิตย์ ต.ค. 02, 2016 5:31 pm
0
6
Re: เรื่องน่ารู้
ถ้าบริษัทใหญ่ ถือหุ้นในบริษัทย่อย ในระดับที่ควบคุมบริษัทย่อยได้ เช่น 50% แต่งบดุลในบริษัทย่อย และงบการเงินรวมของบริษัทใหญ่ ลงบัญชีทรัพสินก้อนนั้นต่างกัน เช่น ในบริษัทใหญ่ลงเป็น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ ซึ่งในการคำนวนหากำไรจะมีการคิดค่าเสื่อมราคา แต่ของบริษัทย่อย ลงเป็น เงินนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่ายุติธรรม ในงบการเงินรวม กำไรที่บริษัทใหญ่รับรู้จากบริษัทย่อยจะเท่ากับ กำไรจากบ.ย่อยที่คำนวนได้ในงบการเงินรวม 100% - ส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ซึ่งในกรณีนี้คือ 50% ของกำไรที่คำนวนในงบของบริษัทย่อยหรือเปล่าใช่ใหม ตัวอย่าง สมมติว่า บริษัทใหญ่และ บริษัท ย่อยไม่มีรายการระหว่างกันเลย โดยบริษัทใหญ่มีกำไรจากบริษัทย่อยเท่านั้นและ ในงบกำไรขาดทุนของบริษัทย่อย บริษัทย่อยมีกำไร 300 บาท ( กำไรก้อนนี้ ไม่ได้ถูกหัก ค่าเสื่อมราคา ) แต่กำไรขาดทุนในงบการเงินรวมจะแสดงกำไรจากทรัพย์สินก้อนนั้น 200 บาท (น้อยกว่าบริษัทใหญ่ อยู่ 100 บาท ซึ่ง อาจเกิดจาก ค่าเสื่อมราคา, ภาษี และอื่นๆ) โดยแบ่งเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 50 บาท และ เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 150 บาท ( 150 บาท คือ 50% ของ 300 บาท ในงบกำไรขาดทุนของบริษัทย่อย ) หมายความว่า ถ้าเราที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 100% ซึ่งถือหุ้นในบริษัทย่อย 50%บริษัทเราจะได้รับกำไร 50 บาท ไม่ใช่ 50% ของ 200 บาท หรือ 50% ของ 300 บาท เพื่อนคิดว่า การรับรู้กำไร ในกรณี นี้ มีอยู่จริงใหม หรือว่า ผมมโนไปเอง ผมไม่ได้เป็น นักบัญชี ถ้ามีท่านใด มีคำแนะนำ จะขอบคุณมากครับ :P
โดย
wpong
ศุกร์ ก.ย. 30, 2016 10:20 am
0
3
Re: เรื่องน่ารู้
มีน้อง ท่านหนึ่ง PM ถามข้อที่ 3 มา ผมอ่านแล้วคิดว่าตัวเองควรเขียนกรณีปกติ ของการรับรู้กำไรก่อน ที่จะชี้ ไปถึงกรณีที่ทรัพย์สินตัวเดียวกัน แต่ลงบัญชีในงบรวม และงบบริษัทย่อยแตกต่างกัน จะได้ทำความเข้าใจกันง่ายขึ้น ขออธิบายใหม่ทีละขั้นครับ ในกรณีทั่วๆไปที่บริษัทใหญ่ ถือหุ้นในบริษัทย่อย ในระดับที่ควบคุมบริษัทย่อยได้ เช่น 50% และทั้งงบดุลในบริษัทย่อย และงบรวมของบริษัทใหญ่ ลงบัญชีทรัพสินย์นั้นเหมือนกัน เช่นลงเป็น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ ซึ่งในการคำนวนหากำไรจะมีการคิดค่าเสื่อมราคา เหมือนกัน ดังนั้น กำไรที่บริษัทใหญ่รับรู้บริษัทย่อยในงบรวมจะเท่ากับ กำไรจากบ.ย่อย 100% - ส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ซึ่งเท่ากับ 50% ของบริษัทย่อยนั่นเอง ตัวอย่าง สมมติว่า บริษัทใหญ่และ บริษัท ย่อยไม่มีรายการระหว่างกันเลย โดยบริษัทใหญ่มีกำไรจากบริษัทย่อยเท่านั้นและ บริษัทย่อยมีกำไร 200 บาท งบรวมจะแสดงกำไรงวดนั้น 200 บาท โดยแบ่งเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 100 บาท และ เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 100 บาท หมายความว่า ถ้าเราที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 100% บริษัทเราจะได้รับกำไร 100 บาท ซึ่งเป็นส่วนของบริษัทใหญ่เท่านั้น ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมไม่ใช่ของเรา ในกรณีนี้ ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมมีกำไร 100 บาท ซึ่งเป็นกำไรหลังหักค่าเสื่อมราคา เหมือนกับ ส่วนที่เป็นกำไร 100 บาท ที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ อธิบาย มาถึงจุดนี้แล้วขอถามว่า ผมอธิบายถูกใหมครับ :mrgreen: ใครมีอะไรเสริมใหมครับ
โดย
wpong
พุธ ก.ย. 28, 2016 8:00 pm
0
5
Re: เรื่องน่ารู้
ข้อ 3 จะพูดเรื่องกำไร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้เปรียบเทียบความถูกแพงของแต่ละบริษัท ผมขอยกตัวอย่างกรณี บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ถือหุ้นบริษัทย่อยอยู่ 50% และบริษัทย่อยนั้นเป็น REITS ดังนั้นบริษัทใหญ่นั้นจึงต้องนำงบของ REITS มา consolidate เป็นงบรวมด้วย (สมมติว่าไม่มีรายการระหว่างกัน เพื่อให้ง่ายในการทำความเข้าใจ) บริษัทใหญ่ ลงสินทรัพย์ ของ REITS นั้นเป็น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ และมีการตัดค่าเสื่อมราคา ดังนั้นกำไรที่แสดงในบริษัทใหญ่จึงเป็นกำไรที่เกิดขึ้นหลังจากหักค่าเสื่อมราคาแล้ว บริษัทย่อยซึ่งมีสถานะเป็น REITS บันทึกสินทรัพย์ตัวเดียวกันนี้ เป็น เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่ายุติธรรม ซึ่งไม่มีการหักค่าเสื่อมราคา ดังนั้นกำไรที่แสดงใน REITS จะเป็นกำไรที่ไม่ได้มีการหักค่าเสื่อมราคา กำไรบริษัทใหญ่นี้ในงบรวม จะถูกหักโดยส่วนของกำไร ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย ซึ่งก็คือผู้ถือหุ้นอื่นอีก 50% ของกอง REITS กอง REITS โดยปกติปันผลมากกว่า 90% ของกำไรซึ่งไม่ได้หักค่าเสื่อมราคา ดังนั้น เงินปันผลที่บริษัทใหญ่ได้รับ เมื่อเทียบกับ กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ที่แสดงในงบ จะแตกต่างกันอย่างไร ??? และถ้าบริษัทใหญ่ นี้ลดการลงทุนในกอง REIT เหลือ 25% บริษัทใหญ่นั้น ก็ไม่ต้องนำงบของกอง Reits มา consolidate และสามารถรับรู้กำไรจากสัดส่วนที่ลงทุนใน กอง Reits ได้ ข้อนี้ ขอให้ไปคิดกันต่อเองนะครับ ยิ่งถ้าใครลองแกะงบ ทำตัวเลขประกอบ จะเห็นภาพมากขึ้น ถ้าผมผิดพลาด เรื่องใหน ช่วยชี้แนะด้วยครับ :P
โดย
wpong
พุธ ก.ย. 28, 2016 10:31 am
0
11
Re: เรื่องน่ารู้
เฉลยข้อ 2 ครับ หุ้นเปลี่ยนชีวิตของใคร หลายๆคน AOT พื้นที่ที่ค่าเช่าสูงๆ น่าจะเป็นพื้นที่ที่ ผู้คนที่ตั้งใจที่จะซื้อของอยู่แล้ว และมี การไหลเวียนของคนจำนวนมาก โดย Terminal 1 ของดอนเมือง ก่อนเปิด Terminal 2 มีพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ (ผมเข้าใจว่าเฉพาะส่วนที่เป็นสัมปทานของค้าปลีกนะครับ เพราะส่วนอื่นๆค่าเช่าน่าจะถูกกว่านี้) ที่ไม่เกียวกับกิจการบินอยู่ 6,144 ตารางเมตร สร้างรายได้ ปีละ2,540 ล้านบาท ครับ ถ้าคิดต่อเดือน ก็จะได้เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร :mrgreen:
โดย
wpong
อังคาร ก.ย. 27, 2016 2:08 pm
0
10
Re: เรื่องน่ารู้
ขอบคุณ คุณดำที่แนะนำให้เปลี่ยนคำถามให้ง่ายขึ้นครับ แต่ผมขอคงคำถามไว้เหมือนเดิม เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ขอเฉลยข้อแรกก่อนนะครับ สินทรัพย์ชนิดใหนหนอ ที่สามารถขายได้กำไรเกิน 20 เท่า …. เชื่อว่าทุกท่านที่ติดตามหุ้นแห่งทศวรรษ คงหาคำตอบได้ไม่ยาก ว่าราคา ประเมินมูลค่าของทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง ที่ JAS ขายให้ JASIF หากคิดด้วยวิธีต้นทุนทดแทน จะมีมูลค่า ราว 2,500 – 2,690 ล้านบาท และ หากคิดด้วยวิธี Income approach โดย IFA จะมีมูลค่าราว 7 หมื่นล้านบาทสุดท้ายแล้ว JASIF ถูกนำออกขายให้นักลงทุน ที่ 55,000 ล้านบาท ถ้าผมผิดพลาดตรงใหน ช่วยแนะนำด้วยครับ :P
โดย
wpong
อังคาร ก.ย. 27, 2016 11:17 am
0
17
Re: เกมส์ทายชื่อหุ้น จากปริศนาคำใบ้
สนุกมากครับ :P ข้อ 1, 4, 7, 8, 13 ผมพอจะเดาได้
โดย
wpong
จันทร์ ก.ย. 26, 2016 1:37 pm
0
3
Re: สรุปความรู้งานVIครั้งที่ 2/59(Investment by looking arou
ขอบคุณ คุณearthcu มากครับ :P
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ย. 11, 2016 3:57 pm
0
1
Re: เลือกหุ้น 20 ตัวสำหรับลงทุน 20 ปี เลือกตัวละ 5% จะเลือกใ
LRH ขอมุมมองหน่อยครับ สนใจอยู่เหมือนกันครับ แต่การแข่งขันน่าจะแรงและรอการปลดล็อคที่ดินซึ่งอาจจะใช่เวลานาน ตามมุมมองผมครับ เรื่องของการปลดล็อคมูลค่าที่ดิน ผมคิดจะไปถามให้แน่ใจ ในวันประชุม AGM ที่ผ่านมา อ่าน งบการเงิน รายงานการประชุม รายงานประจำปี ย้อนหลังหลายปี หลายรอบ ก็พอมีมุมมองอยู่บ้าง แต่ยังไม่แน่ใจถึงขั้นจะมา share ให้ฟังกันครับ กลัวทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เรื่องการแข่งขันที่รุนแรงนั้นผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ผมว่าของเขาดีใช้ได้ครับ กำไรก็ไม่ได้ขี้เหร่ http://www.paksabuy.com/banyan-tree-phuket-bangtao-beach/ http://www.paksabuy.com/angsana-laguna-phuket-bang-tao-beach/ บริษัทเคยปรับปรุงมูลค่า PPE เพิ่มมาพอสมควร ดังนั้น เวลาดูค่า ROA ROE มันก็เลยดูต่ำกว่าเงินที่ลงทุนจริง อีกทั้ง mark to market ของหลักทรัพย์เผื่อขาย TWPC แสดงอยู่ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ คนส่วนใหญ่เลยมองไม่เห็น ข้อได้เปรียบของบริษัทคือ มี facility ที่หาดบางเทาอยู่แล้ว เช่น ระบบความปลอดภัย ดังนั้นเวลาจะพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ ค่าใช้จ่ายโดยรวมน่าจะต่ำกว่าเจ้าอื่นๆครับ
โดย
wpong
พุธ ส.ค. 24, 2016 6:59 pm
0
3
Re: เลือกหุ้น 20 ตัวสำหรับลงทุน 20 ปี เลือกตัวละ 5% จะเลือกใ
ตามที่ พี่ NB ให้โจทย์มา ถ้าเลือกหุ้น/กองทุน 20 ตัวสำหรับลงทุน 20 ปี สมมุติฐาน ห้ามขาย มีปันผลเอามาลงในพอร์ตต่อเนื่อง ผมคิดว่าหุ้นที่เหมาะสมควรมีลักษณะ 1. มีราคาต่ำกว่า fair value ในระยะยาว เพื่อที่ว่า เงินปันผลที่เราเอาไป Reinvest จะยิ่งทวีค่า 2. บริษัท ต้องมี Business unit ที่ เลี้ยงทั้งบริษัท ให้กระแสเงินสด เป็นบวก อยู่เสมอ และควรมี อีก Business unit ที่มีศักยภาพ และอยู่ในช่วงกำลังจะเจริญเติบโตและถูกมองข้าม 3. บริษัทเลือกลงทุนเฉพาะโครงการที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวดี และควรมีปันผลสม่ำเสมอ 4. มี Moat สูง 5. มีธรรมาภิบาลดี ผมหาได้แค่ 3 ตัว สำหรับ 20 ปี 1. Bland 2. AOT 3. LRH แต่ถ้าระยะเวลาอยู่ที่ 5 ปี ผมขอเพิ่มอีก 2 ตัว 4. FORTH 5. HFT
โดย
wpong
อังคาร ส.ค. 23, 2016 10:21 am
0
4
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ปีหนึ่งผ่านไป ไวเหมือนโกหกเลยนะครับ :P
โดย
wpong
เสาร์ ส.ค. 02, 2014 11:12 pm
0
3
Re: หุ้นพื้นฐานใช้ได้ ราคาตกลงมาเกิน 50%
เสนอ ASK ครับ จาก 28 มา 17 กำไรทำ newhigh ต่อเนื่องมาหลายไตรมาสครับ npl ต่ำกว่า 1% Bland จาก 2.2 มา 1.4 เป็น Asset Play
โดย
wpong
อาทิตย์ ม.ค. 12, 2014 1:15 pm
0
4
Re: ชวนไปทอดกฐิน และกำหนดการการทอดกฐินของวัดป่าสายหลวงปู่มั่
อนุโมทนาด้วยครับ
โดย
wpong
อังคาร ธ.ค. 31, 2013 9:44 am
0
0
Re: POLL สรุปผลตอบแทนชาว Thaivi ประจำปี 2556
เมื่อเทียบกับความสามารถที่ผมมี ปีนี้นับเป็นปีที่ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจอีกครั้ง :P แต่ถ้าเลือกได้ผมยังอยากจะให้ราคาหุ้นตกลงไปกว่านี้อีก เพราะในราคาระดับนี้ยังไม่ใช่ราคาที่ผมควรจะนำเงินทั้งหมดมาลงทุนในหุ้น ความผิดพลาดที่มากที่สุดของปีนี้คือ การเลือกที่จะซื้อกิจการที่ดีในราคาที่แพงเกินไป ความสำเร็จที่มากที่สุดของปีนี้คือการยอมซื้อกิจการปานกลางในราคาที่ถูกมาก และการขายกิจการเมื่อรูว่าคิดผิด หรือราคาแพงกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
โดย
wpong
เสาร์ ธ.ค. 28, 2013 7:17 pm
0
15
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ในช่วงแรกจากนี้จนถึง 2018 DTAC จะมี Bandwidth พร้อมใช้งานมากที่สุด แต่หลังจาก 2018 True จะมี Bandwidth ให้ใช้งานมากที่สุด นับเฉพาะ Bandwith ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้แล้วเท่านั้นนะครับ อย่าเชื่อสิ่งที่เห็นมากไปครับ .. จริง ๆ แล้ว Bandwidth 50 MHz @ 1800 MHz .. DTAC เอามาใช้จริงได้เพียง 25 MHz นะครับ ที่เหลือเอามาใช้ไม่ได้ติดปัญหากับทาง CAT .. ดังนั้น DTAC ก้อไม่ได้มี Bandwidth ที่ใช้งานได้จริง มากกว่าเจ้าอื่นเท่าไหร่หรอกครับ อีกอย่าง การดูแค่ขนาดของ Bandwidth มันหยาบเกินไปนะครับ ต้องดูจำนวนลูกค้าด้วยว่ามีเท่าไหร่ และต้องดูจำนวนสถานีฐานด้วยว่ามีเท่าไหร่ ครับ เงื่อนไขของ Dtac ที่มีต่อ CAT คือต้องใช้ 25 Mhz แรกให้เต็มก่อน ถึงจะใช้อีก 25 Mhz ที่เหลือได้ครับ แต่ก็คาดว่า 25 Mhz ที่เหลือคงไม่ได้ใช้แล้วหละครับ เวลาสัมปทานมันเหลือน้อยจนน่าจะไม่คุ้มค่าการลงทุนแล้วหละครับ เรื่องดูจำนวนลูกค้า เราจะต้องให้ความสำคัญกับจำนวนลูกค้าที่อยู่ในคลื่นที่กำลังจะหมดสัมปทาน เท่ากับลูกค้าบนระบบ license กะ Wholesale ที่ยังเหลืออีกนานใหมครับ ส่วนเรื่องสถานีฐานของแบบสัมปทาน หลังจากหมดสัมปทานมันก็จะกลายเป็นของ CAT กะ TOT แล้วนี่ครับ มาดูว่าใครจะได้ประโยชน์จากสถานีฐานของ CAT หลังจากหมดสัญญาสัมปทาน เดือนหน้าไม่ดีกว่าเหรอครับ :P
โดย
wpong
พุธ ส.ค. 07, 2013 8:50 pm
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ส่วนเรื่องค่าเสื่อมราคา ผมยังไม่เข้าใจที่น้อง sai สื่อครับ ถ้าเป็นงบรวมจะไม่รวมค่าเสื่อมราคาของบริษัทย่อยได้อย่างไรคาับ แต่ถ้าเป็น Infrafund ก็ไม่ต้องมีค่าเสื่อมราคา
โดย
wpong
อาทิตย์ ส.ค. 04, 2013 9:05 am
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ผมประเมินคร่าวๆตามนี้ ไม่แน่ใจว่าหยาบเกินไปหรือเปล่า License 2100 Mhz = 14 พันล้านบาท ได้ใบอณุญาติ 15 ปีและจะเสียค่าใช้จ่าย 5.25 % ของรายได้ Whole Sale CAT 850 Mhz = ซื้อ Hutch 6.2 พันล้านบาท ได้คลื่น 850 มาใช้ 14.5 ปี และสถานีฐาน 1,400 สถานี เสียค่าใช้จ่าย 20 - 25% ของ BFKT เรียกเก็บ CAT สมมติว่าถ้าค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บ CAT ประมาณ 40% ของรายได้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้ CAT ราว 8 - 10% และถ้ามาดูว่าค่าใช้จ่ายด้ารสถานีฐาน ของคลืน 850 อยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของคลื่น 2100 Mhz ผมว่าแบบ Whole Sale เป็นประโยชน์กับ True มากกว่าครับ ปล.การใช้สถานีฐานที่น้อยกว่าของคลืี่น 850 Mhz จะไม่เป็นประโยชน์ในบริเวณที่มีการใช้รับส่งข้อมูลหนาแน่นมาก เพราะ Bandwidth จะไม่พอใช้ถ้า Coverage Area ใหญ่เกินไปครับ ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยครับผม :P
โดย
wpong
อาทิตย์ ส.ค. 04, 2013 8:55 am
0
3
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ส่วนเรื่องต้นทุนที่เป็น cost plus ผมถามจาก ir ของ true เป็นแบบที่พี่ wpong มาเกริ่นไว้ครับ คือ เราคิดค่าเช่าเสากับทาง cat แล้วทาง cat บวกกลับมา 20-25 % (ir ให้ตัวเลขแน่นอนไม่ได้ ให้ได้เป็นคร่าวคร่าวครับ ) โดยเราจะยังมีต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายมาด้วยสำหรับการลงทุนโครงข่าย truemove h ครับ จะเห็นว่าตรงบรรทัด network rental rev รายได้ตรงนี้คือรายได้ที่เราคิดค่าเช่าโครงข่ายไปยัง cat ครับ ทั้งหมดคือ 1539 ล้านบาท (ที่ต้องเอา 132 ล้านของทรูมูฟมาคิดด้วย เพราะ รายได้ตรงนั้นเป็นรายได้ที่ทาง ทรูมูฟเฮชไปเช่าใช้กับ ทรูมูฟครับ คือเป็นรายได้ที่เกิดจาก 3g 850 นั่นเอง เลยต้องเอายอดรวมจะสะท้อนความจริงมากกว่า ครับ ) แล้ว cat ก็จะบวก20-25% กลับมาคิดเป็นต้นทุนของ ทรู กรณีดังกล่าวก็จะเป็น 1539*20%เป็น 1846 ล้านบาท แต่ที่ถาม ir มา ยอดค่าเช่าข้างต้นเกิดจากเสาโครงข่ายและอุปกรณ์บนเสาเพียง 5000 ต้น แต่ตั้งแต่ไตรมาสนี้จะเพิ่มเป็น 13500 ต้น ถ้าคิดตามสัดส่วน ต้นทุนส่วนนี้จะเพิ่มเป็นเกือบ 4984 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าเสื่อมราคา หาดูได้จากหมายเหตุประกอบงบครับ ) คงต้องตามดูว่ารายได้ส่วนของทรูมูฟเฮช จะวิ่งตามทันหรือไม่ครับ ขอบคุณน้อง sai ที่ช่วยแชร์ข้อมูลครับ เรื่องตัวเลขที่ True จ่ายให้ Cat เท่าไหร่กันแน่ ผมเองยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ เท่าที่ทราบเหมือนทั้งสองฝ่ายรอชี้ขาดอยู่ครับ http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000051535&CommentReferID=23070188&CommentReferNo=1& 2. กสท กับทรูมูฟ ได้ร่างข้อตกลงสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อยุติข้อพิพาท (ในเรื่องการปรับลดค่าเช่าอุปกรณ์ของ BKFT, การโอนกรรมสิทธิ์ เสาสูงโทรคมนาคมและตู้คอนเทนเนอร์, การตั้งบริษัททาวเวอร์โค) โดยจะลงนามระหว่าง กสท-ทรู-BFKT ซึ่งการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน เพื่อให้คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงว่าคำชี้ขาดเป็นที่สุดและสละการใช้สิทธิทางศาลพร้อมกันนั้น
โดย
wpong
อาทิตย์ ส.ค. 04, 2013 8:06 am
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
คุณ Luty 97 ครับ ผมไม่เจอข้อมูลที่บอกว่า True ตัดค่าเสื่อม true move ถึงปี 2018 เจอแต่ข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ต้องจ่ายให้ CAT อีก 3พันกว่าล้านบาทครับ ผมถาม ir มาครับ ผมถึงบอกว่าทรูเค้าเก่งสุดๆ ตัดค่าเสื่อมเกินสัมปทาน ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆนะครับ(มาจากความมั่นใจที่จะได้ดำเนินงานอีก 5 ปีไงครับ) ถ้าทรูไม่สามารถดำเนินการคลื่น 1800 ได้เนื่องจากสาเหตุใดๆก็ตามจะต้อง ไรท์อ็อฟ ก้อนเบ้อเริ้มเลยทีเดียวครับ แต่ผมว่าดำเนินการต่อได้แล้วก็ตัดค่าเสื่อมต่อไปเรื่อยๆถ้าดำเนินการได้ 1 ปี ก็ไป ไรท์อ็อฟ หนักๆเอาปลายปีหน้าครับ ในแง่ร้ายการ write off ทำให้เกิดการขาดทุนก้อนใหญ่ ทำให้ส่วนของเจ้าของลดไปอีก ปันผลยิ่งยาก กู้หนี้ยิ่งลำบาก ราคาหุ้นอาจลดลง แต่แง่ดีก็มี เช่น กระแสเงินสดไม่ได้เปลี่ยนแปลง และผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น สามรถนำไปลดภาษีในปีที่มีกำไรได้
โดย
wpong
อาทิตย์ ส.ค. 04, 2013 7:35 am
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
คุณ Luty 97 ครับ ผมไม่เจอข้อมูลที่บอกว่า True ตัดค่าเสื่อม true move ถึงปี 2018 เจอแต่ข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ต้องจ่ายให้ CAT อีก 3พันกว่าล้านบาทครับ
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 21, 2013 10:03 pm
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ยังไม่มีความแน่นอนว่าหลังจากสิ้นสุดสัมปทานคลื่น 1800 ใน กย ปีนี้ True จะได้บริหารคลื่นนี้ต่อหรือไม่ ถ้าได้จะได้กี่ปี และเสียส่วนแบ่งให้ CAT หรือ กสทชเท่าไหร่ http://www.blognone.com/node/46559 ในฐานะนักลงทุนเราทำได้เพียงแต่ประมาณการผลกระทบในแต่ละทางเลือก และความน่าจะเป็น เพื่อหา fair value ของ True ครับ :P
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 21, 2013 9:58 pm
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ปูพื้นเรื่องสัญญาที่ True ทำกับ CAT
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 21, 2013 12:28 pm
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
กลับมาคุยกันต่อเรื่อง การสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 Mhz ว่าจะลดผลขาดทุนเท่าไหร่ ขอปูพื้นกันก่อนว่าในปี 2555 นั้น True Move ซึ่งก็คลื่น 1800 นั้น ขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ 4,077 ล้านบาท EBITDA 4,097 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่าย 2,563 ล้านบาท ภาษี 637 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย 4,960 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 2,137 ล้านบาท ดูคร่าวๆแล้ว True Move ยังให้ EBITDA เป็นบวกอยู่ และงบภาษีอากรมีกำไรเพราะมีการจ่ายภาษี ดังนั้นถ้าสิ้นสุดสัมปทาน และลูกค้าโดนย้ายไปค่ายอื่นหมดจะเป็นผลลบต่อ True ถ้าดูรายได้ในปี 2555 True Move มีรายได้จากการให้บริการ Mobile Phone 22,345 ล้านบาท ดังนั้นต้องจ่ายสัมปทานให้ CAT 30% ราว 6,700 ล้านบาท
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 21, 2013 12:20 pm
0
3
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ส่วนข้อ 2 นี่ซับซ้อนครับ ถ้ามีเวลาจะมาคุยให้ฟังครับ ส่วนข้อ 3 ก็คือเรื่องค่าตัดจำหน่ายที่คุยไปในข้อที่ 1 ครับ ผมไม่แน่ใจว่ายังเหลืออีกเท่าไหร่ แต่ถ้าหมดแล้วคงทำให้งบดูดีขึ้นอีกเยอะครับ
โดย
wpong
ศุกร์ ก.ค. 19, 2013 9:38 pm
0
2
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ถ้าคิดมากขึ้นอีกหน่อยในข้อ 1 ก็จะมองได้ว่าการลงทุนตั้งเสาในคลื่น 850 Mhz นั้นได้ Coverage area มากกว่าคลื่น 2100 Mhz ราว 3 เท่า แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์มากในช่วงแรกเพราะคนใช้ 3g ในช่วงแรกยังไม่มากเท่าไหร่ นอกจาก Cost plus model (Whole Sale) แล้วยังมีค่าตัดจำหน่ายที่สูงเนื่องจากตอนที่ซื้อ Hutch จ่ายไปแค่ 6,204 ล้านบาท แล้วมาประเมินมูลค่ายุติธรรมเป็น 18,281 ล้าน หลังจากนั้นก็มาตัดจำหน่ายเป็นรายปีอีก ในส่วนของค่าตัดจำหน่ายผมไม่แน่ใจว่าปีละเท่าไหร่และสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าใครมีข้อมูลแล้วก็ช่วยบอกหน่อยครับ
โดย
wpong
ศุกร์ ก.ค. 19, 2013 9:33 pm
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ครับ งบ และ story ของ True ละเอียดซับซ้อนมากครับ ผมเองก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง พยายามแกะไปเรื่อยๆ ที่มาตั้งกระทู้ก็หวังว่าจะมีเพื่อนๆช่วยกันแชร์ความรผู้ความคิดเห็นนี่หละครับ ข้อ 1 นั้นผมก็คิดคล้ายกะคุณ Luty97 ครับ กำไรจะน้อย หรือแทบขาดทุนในช่วงแรก แต่จะโตเร็วมากเมื่อมีผู้ใช้เครือข่ายอย่างเเต็มที่ อีกทั้งค่า IC และค่า Roaming ไม่ต้องแบ่งใครครับ
โดย
wpong
ศุกร์ ก.ค. 19, 2013 9:09 pm
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ขอบคุณครับ คุณRyotaro สำหรับคนที่สนใจงบการเงินของ True ผมอยากแนะนำให้ดู 3 เรื่องหลักๆก่อน 1. การคิดค่าใช้จ่ายแบบ cost plus ของสัญญา 850 Mhz ว่าเป็นอย่างไร 2. การสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 Mhz ว่าจะลดผลขาดทุนเท่าไหร่ 3. การสิ้นสุด amortization ของการ revalue มูลค่าสัญญา ของคลื่น 850 mhz จะมีผลอย่างไร
โดย
wpong
จันทร์ ก.ค. 15, 2013 7:19 pm
0
3
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
Insert youtube ไม่เป็น ช่วยทีครับ Delete by wpong
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 14, 2013 7:41 pm
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
คุณชอบแบบใหนครับ [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=UGhggXucE10[/youtube] [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=I8kKWszCKIE[/youtube] [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=MnnLoVfE_dk[/youtube]
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 14, 2013 7:36 pm
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ผมชอบ CEO AIS มากเลยครับ ท่านเป็นคนเก่ง และตรงไปตรงมาดีครับ :bow: http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1358750406 ซีอีโอ "เอไอเอส" เปิดใจ เมื่อเบอร์ 1 ตกเป็นมวยรอง Prev updated: 21 ม.ค. 2556 เวลา 13:39:02 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ สัมภาษณ์ ใช้ คำว่า "โล่งอก" คงไม่ผิดหนัก สำหรับยักษ์มือถือ "เอไอเอส" หลังได้รับใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G บนคลื่นใหม่ 2.1 GHz แม้ต้องจ่ายแพงกว่าคู่แข่งก็ตาม เพราะคลื่นเดิมที่มีจำกัดจำเขี่ยส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการอย่างมาก ถึงกับไม่สามารถใช้ "คุณภาพ" เป็นจุดแข็งได้อีกต่อไป หากพิจารณา สถานะธุรกิจและฐานลูกค้าที่มีในมือกว่า 39 ล้านราย "เอไอเอส" ยังครองตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่ง แต่คงเหมือนดังคำกล่าวที่ว่า การสร้างความสำเร็จว่ายากแล้ว การรักษาไว้ยิ่งยากกว่า โดยเฉพาะในสมรภูมิ "3G" คลื่นใหม่ในระบบไลเซนส์ ซึ่งทุกรายนับหนึ่งบนกฎกติกาเดียวกัน "ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "วิเชียร เมฆตระการ" หัวหน้าคณะผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ดังนี้ - วางโพซิชั่น 3G ไว้อย่างไร ขณะ นี้เรามาถึงจุดที่ว่าจะอิมพลิเมนต์ยังไงให้ทันเวลา ให้ลูกค้ารู้สึกพอใจ เอไอเอสเป็นที่ 1 อยู่แล้วใน 2G ถามว่า เป็นแล้วยังไง ใน 2G ใช่ แต่ 3G ไม่ใช่ ที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 2 ปี แต่ถ้าติดตั้งไม่ได้ ไม่เสร็จ สิ่งที่เตรียมมาก็ไม่ได้สำแดงฤทธิ์ ดัง นั้นสิ่งสำคัญคืออิมพลิเมนต์ให้ทัน การใช้ดาต้าต้องสมูทที่สุด อาจไม่ต้องเร็วมากแต่ต้องสมูท เดิมเราเป็นเบอร์ 1 เราก็ต้องพยายามรักษา ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะ 3G เรามาทีหลัง - การมีฐานลูกค้าเดิมช่วยได้เยอะ ไม่ ช่วยอะไรเลย แต่ความได้เปรียบคือเครดิต แต่ต้องบอกว่า ถ้าคุณบอกคนนี้เก่งเรียนเศรษฐศาสตร์ได้เหรียญทอง ถามว่า ลองไปเรียนอย่างอื่นจะเป็นอย่างไร เหมือนกัน 3G ไม่ใช่หลักสูตรปริญญาโทของปริญญาตรีลูกค้าวันนี้ชอบใช้โซเชียลมีเดีย ที่ผ่านมาเราไม่รู้เลยว่าไอโฟน 5 ออกมาจะทำให้การใช้แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือไอแพดมินิ ทุกอย่างใช้แบนด์วิดท์เยอะแยะ ดังนั้นสิ่งที่เรามองวันนั้นกับวันนี้เปลี่ยนไปมาก แน่นอนว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงต้องมาแน่นอน - จะเปิดบริการเมื่อไร พ.ค. แต่ยังไม่รู้ว่าช่วงไหน ใช้แบรนด์เดิม สีเดิม คือเอไอเอส แต่เพิ่มสัญลักษณ์ 3G เข้าไป - ไม่ค่อยเปลี่ยนอะไรเยอะ เปลือก นอกเราเปลี่ยนแบรนด์ เปลี่ยนสี เป็นแค่เปลี่ยนลุก เหมือนวันนึงอยากทำผม แต่งตัวใส่ส้นสูงจากเดิมสองนิ้วมาเป็นห้านิ้ว สิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือวิธีคิด แต่ยาก ก็พยายามทำมาตลอด วิธีคิด เช่น การให้บริการต้องหาวิธีใหม่ ๆ เพราะสิ่งที่ทำมาในอดีตไม่ได้ผลแล้ว วันนี้ เอาสาวหน้าแฉล้มไปนั่งรับเงิน ลูกค้าไม่สนแล้ว แต่สนว่าคุณมีอะไรให้ผมในร้านคุณ ผมเดินไปร้านข้าง ๆ ซื้อมินิไอแพดราคาไม่ต่างกัน อะไรบันเดิลให้ เพราะดีไวซ์ซื้อที่ไหนก็ได้ ซิมไม่ต้องพูดถึง แจกฟรีด้วยซ้ำ 3G ต้องมีบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม และต้องพร้อมให้บริการความรู้ด้านไอที หรือคุณเป็นซีอีโอบริษัท ผมมีผู้ช่วยช่วยคุณ มีที่จอดรถให้ลูกค้าเซเรเนด มีที่ดื่มกาแฟ ร้านอาหาร ทุกอย่างก๊อปปี้กันได้ในโลก แต่มาทีหลังต้นทุนแพงกว่า นอกจากนี้ยังต้องทำงานในกรอบ เมื่อก่อนไม่มี กสทช. แต่วันนี้มี - อ่านเกมได้ว่า ราคาคงไม่แข่ง คงไม่แข่งรุนแรงใช่ แต่ยังมีอยู่ คู่แข่งวันนี้ไม่กล้าลดราคาต่ำกว่าเรา เพราะคิดว่าดีกว่าเรา แต่เราจะกล้าคิดขนาดไหน - ต่างจากเอไอเอสในอดีตมาก ผม ถึงบอกว่า วันนี้ไม่ง่าย เราอยากเป็นที่ 1 แต่ 3G ตามหลังเขา ต้นทุนเราสูงกว่าด้วย เพราะอะไร เรามีคน 8-9 พันชีวิต รวมคอลเซ็นเตอร์ แต่คู่แข่งมีเท่าไร ไลเซนส์เรายังจ่ายมากกว่าเป็นพันล้าน หรือมีคนบอกโบนัสเอไอเอสดี นั่นก็คือต้นทุน - จังหวะเปิดตัวจึงต้องทำดี ๆ ใช่เป็นโจทย์ที่ยากมาก วันนี้เราเป็นมวยรอง ซึ่งอาศัยเครดิตเดิมไม่ได้ ถ้าจะกลับมาทวงคืนต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ดีกว่า - เมื่อเปิดจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาด จะ เกิดแรงกระเพื่อม เพราะทุกคนก็ต้องทำแคมเปญออกมา เราต้องโดนรับน้องใหม่แน่นอน (หัวเราะ) ถือเป็นความท้าทาย ถ้าเอไอเอสทำได้ไม่ดีก็เสียเครดิต - ต้องถึงกับลงไปคุมเองไหม ไม่ ถึงกับต้องคุมเอง ผมมองดูว่าทุกอย่างสมูท เป็นไปตามแผนไหม การเปิดตัวมีปัญหาอะไรบ้าง ซัพพลายเออร์ส่งของทันไหม การดิวกับซับคอนแทร็กเตอร์เปลี่ยนวิธีคิดรึยัง คู่แข่งเพิ่มเงินให้ แต่เราบีบทุกอย่างจะไหวไหม ซัพพลายเออร์พูดว่าขายของกับเราทัฟมาก ดังนั้นเราต้องเข้าใจว่าเกมเปลี่ยนไปหมดแล้ว บางคนไม่แคร์ต้นทุนถูก หรือแพง แต่ต้องการความเร็ว ในแง่โปรดักต์แบรนด์ยังมีต่อไป เช่น วันทูคอลเพิ่ม 3G ไปด้วย แต่ในที่สุดก้าวสุดท้ายจะเหลือเอไอเอสอย่างเดียว - การเติบโตของตลาดจะต่างจากปีที่แล้วมากไหม อุตสาหกรรม ในภาพรวมเปลี่ยนแน่ เพราะดาต้าเป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมชัดเจน ส่วนรายได้ที่เกิดกับเรายังไม่ชัดเจนว่าจะยังไง หลังเข้าตลาดชัดเจนสักไตรมาสจะรู้ว่าการเติบโตเป็นไปอย่าง ที่ต้องการหรือไม่ จะมีบริการใหม่ ๆ เยอะมาก - ยึดคอนเซ็ปต์เดิมเยอะไว้ก่อน คง ไม่ได้ ทุกอย่างมีต้นทุน เมื่อก่อนบริการต่าง ๆ มากับสวิตชิ่ง แต่วันนี้แอปพลิเคชั่นต้องพัฒนา คนทำไม่ขายเราก็ไปเข้าแอปสโตร์ได้ สิงเทลทำไมต้องเปลี่ยนการลงทุนว่า ไม่ใช่การทำเน็ตเวิร์ก แต่เป็นการทำแอ ปพลิเคชั่น ไปซื้อบริษัททำแอป ต้องไปตั้งศูนย์ที่เทลอาวีฟ เพราะเป็นจุดที่เคลื่อนไหว มีการทำซอฟต์แวร์ ทำอะไรเยอะแยะ เราอยากได้ก็ไปขอซื้อต่อได้ ถ้ามีดิวพิเศษกับสิงเทล เราก็ขอด้วยได้ แต่ต้องจ่ายเงินนะ ไม่มีของฟรีในโลก นี่คือสิ่งที่เราจะได้ แต่ก็นั่นล่ะ การที่ดีในอเมริกาอาจไม่ดีกับบ้านเราก็ได้ ไม่มียาสำเร็จรูป ฝรั่งกับเรากินพาราหายปวดหัว แต่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ก็ได้
โดย
wpong
พฤหัสฯ. ก.ค. 11, 2013 7:25 pm
0
10
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
เรื่องถัดมาที่น่าสนใจคือ พื้นที่การกระจายสัญญาณของแต่ละคลื่น http://www.macthai.com/2013/05/05/3g-850-mhz-vs-2100-mh/
โดย
wpong
พฤหัสฯ. ก.ค. 11, 2013 7:14 pm
0
7
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
น้อง anubist ครับ ผมขอใช้ความคิดเห็นของ AIS และ True ตอบคำถามนะครับ ทั้งนี้ มีข้อเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด กทค.คือ ต้องการให้กำหนดวันเวลาที่ชัดเจนในการสิ้นสุดระยะเวลาเยียวยา ซึ่งกรอบการเยียวยา การต่ออายุการใช้คลื่นควรมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เกินวันที่ 30 ก.ย. 2557 ขณะที่การประมูลคลื่น 1800 เพื่อนำมาทำประมูล 4จี และขั้นตอนประมูล ควรเสร็จให้ทันปี 2557 "เอไอเอส ยืนยันมาตลอดว่ามีความประสงค์จะเข้าประมูลคลื่น 1800 หรือ 4จี และยอมรับว่า คลื่น 3จี ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่เอไอเอสประมูลได้เกือบไม่เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว" หลังจาก เอไอเอส เปิดตัว 3จี คลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการแล้ว 2 ล้านเลขหมาย และหากสิ้นสุดสัมปทานกับบมจ.ทีโอที เดือนต.ค. 2558 ก็พร้อมนำคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ไปเปิดประมูลให้พร้อมกับคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ด้วยในเวลาเดียวกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องมีช่วงเวลาเยียวยาลูกค้า และเอไอเอสก็พร้อมจะประมูลคลื่น 900 ด้วย นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ต้องการให้ระยะเวลาการเยียวยานานมากกว่า 1 ปี เพราะบริษัทไม่มีสิทธิไปดึงลูกค้าที่ค้างอยู่ในทรูมูฟออกมา อย่างไรก็ตาม ยังต้องให้บริการต่อไป http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130605/509396/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%991800%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD1%E0%B8%9B%E0%B8%B5.html True จะได้เปรียบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆถ้าไม่มีการประมูลคลื่นใหม่ AIS และ DTAC จะเสียเปรียบลงเรื่อยๆถ้าไม่มีการประมูลคลื่นใหม่ครับ
โดย
wpong
พฤหัสฯ. ก.ค. 11, 2013 6:50 pm
0
3
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
มาพูดถึงสัญญาประเภทที่ 3 นะครับ การอนุญาตให้ใช้ คลืนความถี่ 2100 Mhz Banndwidth 15 Mhz ผลการประมูลและค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดคือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นเงิน 14,625 ล้านบาท เลือกย่านความถี่ 1950 MHz - 1965 MHz และ 2140 MHz - 2155 MHz ส่วนบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด และ บริษัท ดีแทค เนคเวอร์ค จำกัด เสนอราคาเท่ากันที่ 13,500 ล้านบาท โดยทางบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด จับฉลากได้เลือกช่วงความถี่ก่อน จึงเลือกช่วงความถี่ 1935 MHz - 1950 MHz และ 2125 MHz - 2140 MHz ส่วนบริษัท ดีแทค เนคเวอร์ค จำกัด เลือกช่วงความถี่ 1920 MHz - 1935 MHz และ 2110 MHz - 2135 MHz ดังนั้น ผลการประมูล 3G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz จึงได้ราคารวมแค่ 41,625 ล้านบาท โดยค่ายโทรศัพท์มือถือในไทย 3 รายได้แบ่งช่วงความถี่กันไปเครือข่ายละ 15 MHz เป็นระยะเวลา 15 ปี Revenue Share ตามนี้นะครับ
โดย
wpong
พุธ ก.ค. 10, 2013 5:48 pm
0
4
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
หลังจากทั้ง 3 operator ได้ license 2100 มาครบทุกรายแล้ว เรื่อง banwidth ผมคิดว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอีกต่อไปละครับ เพราะ 15mh ที่ได้มามันก็เพียงพอสำหรับการให้บริการทั้งประเทศแล้ว ส่วนเจ้าไหนจะโฆษณาว่ามีคลื่นเยอะกว่าหรืออะไรก็ตาม ผมมองว่าเป็นเรื่องของการตลาดเท่านั้น (ส่วนเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น 850 ไปไกลกว่า 2100 ผมไม่เก็บมาเป็นประเด็นนะครับ เพราะถ้าคุณมีเงินเยอะพอ คุณสามารถปูพรม 2100 ให้ครอบคลุมเท่าๆกับ 850 ได้) กลับมาเรื่องความสามารถทางการแข่งขันตามหัวข้อกระทู้ ผมคิดว่าบริษัทที่มีความสามารถทางการแข่งขันสูงสุดก็คือบริษัทที่มีลูกค้าเก่าเยอะที่สุด เพราะต้นทุนจากการลงทุน network ให้คลุมทั้งประเทศ เมื่อหารเฉลี่ยต่อหัวลูกค้าแล้วจะต่ำที่สุด เมื่อต้นทุนต่ำกว่าชาวบ้าน ทำอะไรก็ได้เปรียบครับผม ผมขอใช้คำพูดของ CEO AIS แย้งความเห็นของตุณ newbie_12 ตามนี้ครับ "วิเชียร" บอกว่า คลื่นที่มีกำลังจะไม่พอ แม้เพิ่งได้ 2100 MHz ทุกรายเจอปัญหาว่าโทรศัพท์มือถือ 3G วันนี้ต่างจาก 5 ปีก่อนมาก ไอโฟน 5 แท็บเลต และ Line ใช้ความเร็วมากกว่า 2-3 ปีก่อน ทำให้ต้องใช้แบนด์วิดท์มาก ทางออกคือหาความถี่เพิ่ม หรือหาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ มาให้บริการ เช่น 4G LTE "หากลูกค้าเอไอเอสย้ายมาใช้ 3G 2100 MHz ทั้ง 30 ล้านราย คลื่น 2100 MHz ก็จะติดขัด ที่ต้องเร่งให้โอนย้าย เพื่อกระจายการใช้คลื่น 900 MHz ใช้ได้อีก 2-3 ปี 1800 MHz ไม่รู้จะออกมาแบบไหน ลูกค้าเอไอเอสย้ายไปใช้ 2100 MHz 2 ล้านรายแล้ว โดย Call Transit แทนย้ายด้วย MNP (คงสิทธิเลขหมาย) เพราะปัญหาเคลียริ่ง http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1371183537
โดย
wpong
พุธ ก.ค. 10, 2013 5:32 pm
0
8
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
เรามาพูดถึงสัญญาประเภทที่สองกันดีกว่า Wholesale คลื่น 850 Mhz ระหว่าง TRUE กะ CAT การคิดค่าใช้จ่ายของสัญญานี้ เป็น แบบ cost plus ไม่ได้เป็น แบบ Share Revenue เหมือนกับ BTO และการซื้อ license Cost Plus คืออะไรลองหาข้อมูลมาถกกันดีใหมครับ ในกรณีที่การใช้มือถือเจริญเติบโตอย่างมาก รายได้ของ true ก็จะโตตาม แต่รายจ่ายเป็นแบบ cost plus ตัวอย่าง BFKT ซึ่งเป็น บ ย่อยของ true ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ทุกอย่างจนระบบสามารถใช้งานได้ ก็จะคิดค่าใช้จ่ายไปยัง CAT 100 บาท CAT ก็จะคิดค่าเช่าจาก true 120 - 125 บาท รายละเอียดลองถาม IR ได้ครับ
โดย
wpong
จันทร์ ก.ค. 08, 2013 7:56 pm
0
1
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
น้อง anubist ครับ bandwidth แปลง่ายๆก็คือจำนวนช่องสัญญาณ หรือความกว้างของสัญญาณ ยิ่งมีมากยิ่งดี ส่วนเรื่องอื่นๆผมว่านอกจากbandwidth แล้วยังมี ความได้เปรียบของแต่ละความถี่ และค่าใช้จ่ายของแต่ละ mobile operator ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเปลี่ยนไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง
โดย
wpong
จันทร์ ก.ค. 08, 2013 7:43 pm
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ขอบคุณ chaitorn ด้วยครับ ผมได้เรียนรู้เรื่องประกันจากกระทู้ของคุณ chaitorn เช่นกันครับ น้อง anubist ครับเรื่องการประมูลคลื่น 1800 หรือ 700 ยังไม่มีความแน่นอนเลยครับ
โดย
wpong
จันทร์ ก.ค. 08, 2013 11:44 am
0
0
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
นอกจาก BTO แล้วยังมี Whole sale - Resell ของ True คลื่น 850 Mhz และ Auction License ของทั้ง 3 เจ้า ที่คลื่น 2.1 Ghz มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงคิดว่าผมคงหา Competitive Advancetage ของ True ไม่เจอหละสิ
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 07, 2013 11:21 am
0
6
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
ถ้าดูจาก Fee structure ในสัญญา BTO AIS จ่าย 24.7% DTAC และ TRUE จ่าย 30% Fee Structure ในสัญญา BTO ทำให้ AIS มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 07, 2013 11:07 am
0
7
Re: Competitive Advancetage --> ADVANC, DTAC, TRUE
พักเรื่อง Bandwidth ไว้ก่อนนะครับ มาคุยเรื่องสัญญา 3 ประเภทก่อน ประเภทแรก BTO (Build Transfer Operate) ประเภทนี้ Mobile Operator สร้างโดยใช้เงินของ Mobile Operator เอง สร้างเสร็จแล้วต้องโอนให้ผู้ให้สัมปทาน โดย Mobile Operator แต่ละเจ้าจะมีสิทธ์ใช้งานตามระยะเวลาที่กำหนดครับ
โดย
wpong
อาทิตย์ ก.ค. 07, 2013 10:52 am
0
5
342 โพสต์
of 7
ต่อไป
ต่อไป
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
ชื่อล็อกอิน:
wpong
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ พ.ย. 02, 2003 4:04 pm
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2021 10:34 pm
โพสต์ทั้งหมด:
1336 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.07% จากโพสทั้งหมด / 0.17 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว