เรื่องของ GMMM EPS ปีก่อนหน้า เอามาเทียบอะไรกับปีที่ผ่านมาไม่ได้หรอกครับ เพราะช่วงนั้นบริษัทยังไม่ได้เข้าตลาด ส่วนเรื่องสถานีโทรทัศน์จะเข้าตลาด อันนั้นผมว่ายังไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ที่อยากให้ติดตามมากกว่า สำหรับคนคิดจะถือหุ้นที่ประกอบกิจการเกี่ยวข้องกับวิทยุโทรทัศน์ คือเรื่อง "กสช." ลองศึกษา รัฐธรรมนูญมาตรา 40 กับ พรบ.องค์การจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ด้วยก็ดีนะครับ เพราะจะทำให้เข้าใจภาพในอนาคตของกิจการวิทยุโทรทัศน์ หลังเกิด "กสช." ขึ้นครับ.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2004 12:58 am

MEDIAS มีใครดูอยู่ป่าวง่ะ...อิอิ..... อนาคตน่าจะดีนะครับ เพราะเชื่อว่าเมื่อบริษัทตั้งตัวได้มั่นคง (เห็นตอนนี้กำลังรับพนักงานเข้าไปขนานใหญ่) บริษัทแม่น่าจะให้เวลามาบริหารเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ช่วงอาทิตย์ก่อนที่ราคาร่วงลึกจากแถว 29 ลงไปถึง 25 คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของ insider ที่รู้เรื่องการปรับผังของช่อง 9 ที่ประกาศเมื่อวาน ซึ่งรู้สึก medias จะหลุดไป 2 รายการ คือ หนังอินเดีย กับ แฮปปี้แฟมิลี่เกม รวมเป็นเวลาประมาณ 3 ชม.ต่อสัปดาห์ ส่วนตัวผมคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นจุดวัดใจครับ เพราะความอึมครึมที่กดดันราคาให้ทำ new low เมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าวันนี้ medias ยังยืนแถว 27 ได้ ผมว่าหุ้นตัวนี้ได้ผ่านจุด bottom ไปเรียบร้อยแล้ว ปล. รู้สึกสัดส่วนการถือหุ้นของช่อง 7 จะอยู่แถว ๆ 56% นะครับ ไม่ใช่ 71% ไม่รู้ว่าใครให้ข้อมูลกับโบรคเกอร์ เพราะทุกรายออกบทวิเคราะห์มาผิดตรงกันหมด โดย วอเรน บุฟเฟต์ พุธ มี.ค. 10, 2004 8:53 am

RS........จะไม่มีปันผล .......วันนี้ปิด 29 บาท วอลุ่ม 50 ล. แหม.. รู้สึกว่ากล่าวหาผมแรงเหมือนกันนะเนี่ย เอาเถอะครับ ยังไงก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ถ้าหากความคิดเห็นของผมจะทำให้หุ้นของคุณพี่มัวหมอง ถ้าคุณพี่คิดว่าติดตามและเช็คข้อมูลมาดีแน่แล้ว ก็ดู ๆ กันต่อไปแล้วกันครับ โชคดีครับ โดย วอเรน บุฟเฟต์ อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 12:03 am

RS........จะไม่มีปันผล .......วันนี้ปิด 29 บาท วอลุ่ม 50 ล. ลองติดตามเรื่องธุรกิจวีซีดีด้วยนะครัับ เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทรุกทางด้านนี้หนักมาก แต่ได้ข่าวว่ายอดขายแย่มาก ๆ ถึงขั้นอาจมีการปิดบริษัทเคมาสเตอร์ที่ทำธุรกิจนี้อยู่ โดย วอเรน บุฟเฟต์ เสาร์ ก.พ. 28, 2004 1:53 pm

ขอความเห็น BEC หน่อยครับ คาดว่ากำลังหาคลื่นอยู่ครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ทีมงานมืออาชีพกลุ่มนี้แมวเก้าชีวิต โดย วอเรน บุฟเฟต์ พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2004 8:47 am

ขอความเห็น BEC หน่อยครับ ราคา BEC ที่ปรับลงมา อาจเป็นผลจากที่นักลงทุนบางส่วนลดน้ำหนักการลงทุนเนื่องจากกังวลเรื่องผลประกอบการไตรมาสนี้ที่กำลังจะออกมา ที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐเรื่องห้ามโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มมึนเมาในช่วงไพร์มไทม์ และผลจากการปรับขึ้นราคาค่าโฆษณาของช่อง 3 เมื่อช่วงประมาณเดือนตุลาฯ ที่ทำให้ยอดขายโฆษณา "อาจ" ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ พุธ ม.ค. 14, 2004 4:20 pm

อ่าน The New Buffetology ฉบับภาษาไทย ชื่อ ลงทุนอย่าง........ หาซื้อที่ไหนไม่ได้ลองสั่งผ่าน chulabook.com ดูนะครับ เท่าที่ผมเซิร์ซดูยังมีในสต๊อค โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ม.ค. 13, 2004 11:00 am

ขอความเห็น BEC หน่อยครับ TRAF ต้องระวังครับ อยากให้ลองไปศึกษาในรายละเอียดให้ดี ข่าวที่ออกมาเรื่องคลื่นกองทัพบก TRAF ไม่ได้เข้าไปบริหารทั้งคลื่น หรือได้สัมปทาน เหมือนกรณี GMMM กับ 94.5 แต่เป็นการบริหารโฆษณา พูดง่าย ๆ ก็คือดูแลหาโฆษณานั่นแหละ และที่สำคัญคือได้บริหารโฆษณาเฉพาะช่วงข่าวต้นชั่วโมงเท่านั้น วันหนึ่ง ๆ ได้แค่ไม่กี่สปอตเท่านั้นครับ ต่างกับการได้บริหารเวลาทั้งคลื่นมาก อีกอย่างคือให้ระวังเรื่องจำนวนคลื่นที่ดูเหมือนมาก อาจหลอกตาได้ เพราะคลื่นส่วนใหญ่เป็นคลื่นในต่างจังหวัด ซึ่งปกติราคาค่างวดไม่มากดังนั้นเขาจึงมารวมเป็นแพคเกจแบบพ่วงขาย โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ม.ค. 13, 2004 10:42 am

รบกวนผู้รู้beclด้วยค่ะ ถ้ามองในแง่ของหุ้นปันผล ผมว่าหุ้นตัวนี้มีความน่าสนใจนะครับ เพียงแต่ระดับราคาปัจจุบันไม่ถือว่ามี margin of safety โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ม.ค. 12, 2004 8:11 pm

ข้อเสียของ GMMM กับ GRAMMY ในระยะสั้น ผมเชื่อว่าอาจจะปรับขึ้นไปถึง 40 ได้อีก แต่ถ้าจะยืนได้อย่างมั่นคง ผมคิดว่าน่าจะหลังประกาศผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมาไปแล้ว โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ม.ค. 12, 2004 3:50 pm

ทำไมราคา Tender offer ที่ EGAT ให้ Ratch = 43 บาท รู้สึกเป็นราคเฉลี่ยย้อนหลังสามสิบวันนะครับ ไม่มีข้อบังคับนะครับ เรื่องราคาซื้อคืนต้องสูงกว่าตลาด แต่ต้องสูงกว่าบุคแวร์ลูร์เท่าไหร่เนี่ยรู้สึกว่าจะมี ไม่ยอมขายก้อได้ครับ คุณก็ยังจะได้เงินปันผลต่อไป แต่ถ้าเขาออกตลาดได้จริง ต่อไปคุณก็คงขายหุ้นตัวนี้ออกไปลำบาก เพราะไม่มีตลาดรองรับ.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ม.ค. 06, 2004 3:35 pm

PL ปันผล 2.75 บาท ใครถืออยู่บ้าง ตามพฤตินัยถือว่าเป็นวันนี้ครับ T-3 (9-3=6) โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ม.ค. 06, 2004 3:23 pm

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) โอเคครับ.. ผมกลับมาแล้ว.. ขอต่อนะครับ.. ก่อนอื่นบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ต่อต้านการถือหุ้นน้อยตัว หรือตัวเดียว เพราะผมเองก็ทำอยู่บ้างเป็นครั้งคราว (พอร์ตผมตอนนี้ก็ร้อยเปอร์เซนต์อยู่ที่หุ้นตัวเดียว) แต่ทั้งนี้ ผมไม่เห็นด้วย กับการที่ "มือใหม่" จะทำเช่นนี้ เพราะผมมองว่าทำอย่างนี้มันเสี่ยงเกินไป ด้วยเหตุผลดังที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว คือผมรู้สึกว่าความสามารถ และประสบการณ์ ในการ "ทำการบ้าน" อาจจะยังไม่มากพอ ซึ่งนั่นผมถือว่าเป็นอีกปัจจัยของ "ความเสี่ยง" คราวนี้ที่พี่ Jeng เสนอว่าการถือหุ้นตัวเดียว หรือน้อยตัว(มาก ๆ) น่าจะเป็นผลดีกับมือใหม่ เพราะจะได้มีเวลาทำการบ้านในหุ้นนั้นอย่างเต็มที่ ซึ่งอันนี้ผมก็ต้องบอกว่า ผมก็ไม่เห็นด้วย ผมเห็นด้วยเรื่องน้อยตัว แต่ผมไม่เห็นด้วยอย่างหัวชนฝาเรื่อง "ตัวเดียว" ถ้าถามว่าเพราะอะไร ผมได้อธิบายไปแล้วข้างต้น คือถ้าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด หุ้นตัวนั้นมีค่าเป็นศูนย์จะทำอย่างไร?? เท่ากับว่า "ค่าเล่าเรียน" ที่เตรียมมาจะหมดไปเลย โดยไม่ได้อะไร หรือได้อย่างมาก ก็ได้ประสบการณ์ว่าหุ้นเจ๊งหมดตัวเป็นอย่างไร ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงแค่แบบฝึกหัดเดียว ยังไม่สามารถครอบคลุมทุกกรณี อาจจะนำไปประยุกต์ใช้กับกรณีอื่น ๆ ได้หรือไม่ได้ก็ไม่แน่นอน ซึ่งถ้าจะแย้งกันว่ากรณีที่ผมยกมามันสุดโต่งเกินไป แต่ก็คงไม่มีใครเถียงนะครับว่ามันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ย้อนกลับไปไม่ถึงทศวรรษเราเคยมีเหตุการณ์ปิดไฟแนนซ์ครั้งใหญ่ ไฟแนนซ์หายไปทีเดียวเกือบครึ่งร้อย มูลค่าหุ้นเหลือแค่หนึ่งสตางค์ นั่นก็เป็นตัวอย่างหนึ่งซึ่งมีมาแล้ว และมีคนเจ็บตัวไปไม่ใช่น้อย นอกจากนั้นการจำกัดการทำแบบฝึกหัดอยู่ในหุ้นเพียงตัวเดียวนั้น ผมมองว่ามันเป็นการใช้เวลาไม่คุ้มค่า ถ้าสมมติอย่างที่พี่ Jeng ยกมาว่า ให้ลองเล่นสักสามปีก็เก่งแล้ว ผมว่ามันไม่แน่นะครับ.. เพราะถ้าสามปีศึกษาอยู่ที่หุ้นตัวเดียว หรือสามปีเปลี่ยนปีละตัว สามตัว.. ผมว่าแบบฝึกหัดที่ได้มันไม่หลากหลายพอนะครับ เพราะผมรู้สึกว่า ถ้ามองว่าเป็นการ "ฝึกหัด" แน่นอนว่าผู้ฝึกหัดยังไม่จำเป็นต้องหวังรวย หรือกำไรเป็นกอบเป็นกำ การได้ประสบการณ์ หรือความรู้ เพื่อเท่าทันเกมในตลาดน่าจะสำคัญกว่า ดังนั้นจุดประสงค์จึงน่าจะต่างจากที่คุณวิบูลย์ยกเหตุผลมาข้างต้น ที่เสนอว่าการถือหุ้นน้อยตัว หรือตัวเดียว น่าจะดีกว่า ดังนั้นผมจึงเสนอว่าสำหรับ "มือใหม่" แล้ว การกระจายถือหุ้นจึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยง(จากการขาดทุน)แล้ว ยังเป็นการกระจายการทำแบบฝึกหัดในแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์ให้มากขึ้นครับ... โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ธ.ค. 02, 2003 2:31 pm

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) พี่ Jeng ค้าบบ.. ผมขอแป๊ะไว้ก่อนได้มั้ยครับ.. เดี๋ยวบ่าย ๆ ผมมาสนทนาวิวาทะด้วยต่อ ยังไม่หายไปไหนนะครับ :wink: โดย วอเรน บุฟเฟต์ อังคาร ธ.ค. 02, 2003 7:22 am

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) แต่คุณ Jeng ครับ.. ถ้ามองว่าการแบ่งเงินมาเพื่อเป็นแบบฝึกหัด การเอาโอกาสฝึกหัดไปลงที่แบบฝึกหัดเพียงข้อเดียว ถ้าเกิดการทำแบบฝึกหัดข้อนั้นนักเรียนใหม่ของเรา ทำผิดอย่างมหันต์ ทำผิดชนิดคะแนนเป็น "สูญ" นักเรียนใหม่คนนี้ก็คงหมดโอกาสในการที่จะเรียนรู้ ทดลองทำแบบฝึกหัดอื่น ๆ ต่อไปสิครับ.. เพราะเงินค่าเล่าเรียนทั้งหมดที่เตรียมมา ได้จ่ายไปเพื่อค่าทำแบบฝึกหัดข้อแรกและข้อเดียวนั้นหมดสิ้นแล้ว.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ธ.ค. 01, 2003 4:05 pm

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) ผมไม่โต้แย้งเรื่องการแบ่งเงินนะครับ แต่เรื่องการลงทุนเน้นหนักที่หุ้นเพียงตัวเดียว โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ ผมยังมองว่าเป็นความเสี่ยง ผมมองว่าการมีหุ้นอย่างน้อยสามถึงสี่ตัวน่าจะดีกว่า โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ธ.ค. 01, 2003 3:46 pm

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) หมายความว่า คุณ Jeng เห็นว่า มือใหม่เมื่อแบ่งเงินมาสิบเปอร์เซนต์แล้ว ควรเอามาลงที่หุ้นตัวเดียวเหรอครับ.. ผมว่าก็ไม่น่านะครับ เพราะหุ้นบางตัวที่เราวิเคราะห์ว่าดีแล้ว แต่มันก็เกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงขึ้นได้เสมอ ดูอย่างหุ้นบันเทิงบางตัวสิครับ ยังลงจากสามสิบกว่าบาท มาอยู่แถวที่ราคาไอพีโอ ได้เลย.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ธ.ค. 01, 2003 3:37 pm

คำคมของพี่วิบูลย์ (สตรองก์ลี่ เร็คคอมเม็นด์ โดย ผมเอง) ผมว่าคำคมข้างบน มีจุดอ่อนอยู่นิดนึงนะครับ คือความสามารถในการทำการบ้านของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ถ้าทำงานหนักและมีความรู้เหมือนบางท่าน เทคนิคดังกล่าวก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่สำหรับบางคนที่ยังเป็นมือใหม่ หรือมือเก่าที่ "คิด" ว่าตัวเองทำการบ้านมาดีแล้ว (แต่จริง ๆ ไม่ดีพอ) การลงที่หุ้นตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวเดียว (หรือน้อยตัว) โอกาสที่จะพลาดทำให้พอร์ตเสียหายใหญ่หลวงก็เป็นไปได้สูงครับ ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงด้วยการถือหุ้นหลายตัว จึงยังเป็นเทคนิคที่ดีสำหรับมือใหม่ ที่ท่านที่ยังไม่มั่นใจในความสามารถในการทำการบ้านของตนครับ.. ปล. ผมอยากตั้งข้อสังเกตไว้ เผื่อเดี๋ยวมือใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด มาอ่านกระทู้นี้เข้า แล้วจะคิดว่าเทคนิคนี้ดีแน่ แล้วเกิดผลุนผลันทำตาม เพราะคำว่า "ทำการบ้าน" ผมว่ามันต้องทำงานหนัก และใช้ความรู้และประสบการณ์มากทีเดียว โดย วอเรน บุฟเฟต์ จันทร์ ธ.ค. 01, 2003 3:25 pm

GRAMMY แกรมมี่ พยายามขายหนัง บิวตี้ฟูลบ็อกเซอร์ ในตลาดต่างประเทศมาเกือบปีแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังหาไม่ได้ ไว้รอดูหนังก่อนน่าจะให้คำตอบได้พอสมควรว่าทำไม ส่วนเรื่องปะหัว ฟอกซ์ เป็นเพราะเหตุผลบางประการ ฟอกซ์ ไม่ได้ซื้อหนังเรื่องนี้อย่างที่เข้าใจ ดังนั้นอนาคตหนังเรื่องนี้จึงยังน่าห่วงทั้งในประเทศและต่างประเทศ.. ส่วนเรื่อง GMMM กับ กสช. ยังอีกนานนะครับ เพราะทุกวันนี้กรรมการสรรหายังไม่ลงตัวเลย ดังนั้นตัว กสช. จึงยังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี การด่วนสรุปว่าแกรมมี่จะได้ประโยชน์อาจจะยังเร็วเกินไปนะครับ โดย วอเรน บุฟเฟต์ อาทิตย์ พ.ย. 23, 2003 7:08 pm

Value Investing Made Easy ฉบับแปล งั้นสงสัยเล่มที่ผมเห็นแว่บ ๆ ที่ศูนย์หนังสือฯ คงเป็นฉบับไม่แปลอ้ะครับ แหะ.. แหะ.. โดย วอเรน บุฟเฟต์ เสาร์ พ.ย. 01, 2003 2:15 pm

Value Investing Made Easy ฉบับแปล เอ๊ะ!! ทำไมวันนี้เหมือนผมเห็นแว่บ ๆ ชื่อนี้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ หรือว่าตาฝาด?!?! (เผอิญกำลังหาหนังสืออื่นอยู่เลยไม่ได้หยิบขึ้นมาดู) โดย วอเรน บุฟเฟต์ ศุกร์ ต.ค. 31, 2003 4:13 pm

GRAMMY ผมมองว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของ GMMM คือการประมูลสถานีวิทยุและโทรทัศน์ การนำบริษัทนี้แยกตัวเข้าตลาด เพื่อสะสมเม็ดเงินไว้เมื่อวันนั้นมาถึง ซึ่งถ้าทำได้อย่างตั้งใจ GMMM จะกลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกทีเดียว แต่ก้ออีกแหละครับ เงื่อนไขของการได้มาของสถานีวิทยุและโทรทัศน์นั้นมีอะไรบ้าง ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เพราะแค่ กสช. ซึ่งจะเป็นผู้คุ้มกฏตัวจริง ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ผุดได้เกิดด้วยซ้ำ โดย วอเรน บุฟเฟต์ เสาร์ ต.ค. 25, 2003 1:20 am