หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Obe-one
Joined: อังคาร ต.ค. 24, 2006 6:40 pm
16
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Obe-one
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
นักวิเคราะห์เชื่อยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% มีโอกาสเห็นหุ้นไทยยืนอยู่ที่ 890- 925 จุด Posted on Friday, February 29, 2008 นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว พร้อมทั้งได้มาตรการต่าง ๆ รองรับสถานการณ์ ทั้งมาตรการสกัดการเก็งกำไรและมาตรการชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยยืนยันว่าการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง แต่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และในวันจันทร์นี้ก็จะเรียกธนาคารพาณิชย์มาชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการ และการดำเนินเกี่ยวกับเงินที่กันสำรอง โดยเงินที่กันสำรองอยู่กับธนาคารพาณิชย์สามารถคืนให้นักลงทุนได้ทันที แต่เงินที่กันสำรองไว้ที่แบงก์ชาติจะคืนภายใน 7 วัน ผู้ว่าการแบงก์ชาติระบุด้วยว่า แบงก์ชาติจะมีมาตรการรองรับการบริหารจัดการการไหลเข้า-ออกของเงินทุนหลังจากที่ได้มีการยกเลิกมาตรการ รวมทั้งออกมาตรการติดตามข้อมูลและป้องกันการเก็งกำไรค่าเงิน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มวงเงินเป็นจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. เพื่อจัดสรรให้กับบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลหรือผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งยังปรับปรุงมาตรการป้องปราบการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่สำคัญ ได้แก่ ปรับเกณฑ์การกู้ยืมเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยลดวงเงินกู้ยืมโดยไม่มีธุรกรรมรองรับทุกอายุสัญญาให้มียอดคงค้างแต่ละสถาบันการเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ เพื่อจำกัดช่องทางการเก็งกำไร การปรับเกณฑ์การจำกัดการปล่อยสภาพคล่องเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศแก่ผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยไม่มีธุรกรรมรองรับ ให้มียอดคงค้างแต่ละธนาคารไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศเพื่อเพิ่มความต้องการซื้อเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ยังได้ปรับปรุงโครงสร้างบัญชีผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยแยกประเภทบัญชีเงินบาทออกเป็นบัญชีเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่น และบัญชีเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพื่อประโยชน์ในการติดตามการไหลเข้า-ออกของเงินทุน โดยเงินบาทในแต่ละประเภทบัญชีสามารถโอนระหว่างประเภทบัญชีเดียวกันได้ แต่ห้ามโอนข้ามประเภทบัญชี นางธาริษาบอกด้วยว่า แบงก์ชาติยังมีมาตรการชั่วคราว เพื่อสนับสนุนการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิของผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME โดยจัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ปี ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท และจัดโครงการรับซื้อต่อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ผู้ประกอบการรายย่อยขายผ่านสถาบันการเงิน เป็นเวลา 6 เดือน นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวในรายการ Trading Hour ว่า การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ในครั้งนี้ถือเป็นข่าวดี และน่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 จุด โดยคาดว่า แนวต้านจะอยู่ที่ 850-860 จุด และตลาดน่าจะตอบรับในเชิงบวกต่อไป และดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคมน่าจะขึ้นไปได้ถึง 890 จุด แต่ถ้าปัจจัยภายนอกประเทศเอื้ออำนวยก็น่าจะไปได้ไกลถึง 925 จุด ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะให้ความสำคัญกับเณษฐกิจ ตลาดทุน และการใช้จ่ายของภาคเอกชน แม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการปลดข้าราชการประจำออกมาเป็นระยะ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจากนี้ไปจะทยอยมีข่าวดีออกมา โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และการพิจารณาเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง บอกว่า การยกเลิกมาตราการ 30% จะส่งผลดี ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากมาตราการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสำคัญมาก ส่วนค่าเงินบาทในประเทศจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า แบงก์ชาติมีมาตรการในการป้องกันอยู่แล้ว ผู้บริหารหลักทรัพย์บัวหลวงมองว่า ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า จะผ่านแนวต้านสำคัญที่ 850 จุดไปได้ หลังจากที่วันนี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 845.76 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.64 จุด หรือ 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 24,572 ล้านบาท เนื่องจากหุ้นไทยขณะนี้ ยังถือว่าถูกกว่าภูมิภาค โดยจะมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการออกกองทุนอสังหา เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดเกณฑ์ 30% นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชื่อว่า หลังจากที่แบงก์ชาติประกาศยกเลิก มาตรการกันสำรอง 30% น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ในแง่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่น่าจะ กลับมาเช่นเดิม แต่ตลาดตราสารหนี้น่าจะได้รับผลดีมากกว่าตลาดหุ้น เพราะตลาดหุ้นได้รับการ ยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% อยู่แล้ว แต่ตลาดตราสารหนี้ยังใช้มาตรการดังกล่าวอยู่ หลังจากนี้ จึงน่าจะมีเงินไหลเข้ามาตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นด้วย ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ นายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติคนใหม่บอกว่า การประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ถือเป็นข่าวดีมากสำหรับตลาดหุ้นไทยและนักลงทุนต่างชาติ เพราะต่างก็รอคอยมานานแล้ว โดยเชื่อว่า จะทำให้ต่างชาติเอาเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดไทยได้ง่ายขึ้น และน่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามากด้วย แต่สิ่งที่ยังวิตกเป็นเรื่องของค่าเงินบาท อาจจะแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งทางการคงจะต้องมีมาตรการรองรับ เพื่อให้การแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้แข็งค่าเกินไป กว่าค่าเงินของประเทศอื่นในภูมิภาคจนผิดปกติ แต่การแข็งค่าของเงินบาทก็ไม่ได้เป็นผลเสียทีเดียว ยังมีผลดีในแง่ของการช่วยลดเรื่องอัตราเงินเฟ้อให้น้อยลง ภายหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมา ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าการเทรดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทบนกระดาน on-shore จากนี้ไปคงจะมีระดับใกล้ ๆ กันกับกระดาน off-shore หรือเรียกได้ว่าเป็นกระดานเดียวกันก็ได้ หลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% โดยปัจจุบันมีส่วนห่างกันแค่ 1 บาทเท่านั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2549 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินที่ทำธุรกรรมกับต่างชาติและต้องรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ของเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ของเงินทุนระยะสั้น และการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมีผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันทำการถัดมา ก่อนจะมีการผ่อนคลายมาตรการออกมาเป็นระยะ และมีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการในที่สุด ที่มา http://www.moneychannel.co.th/Menu6/TradingHour/tabid/86/newsid480/48622/Default.aspx
โดย
Obe-one
ศุกร์ ก.พ. 29, 2008 9:28 pm
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
รบกวนขอ files ด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณครับผม
โดย
Obe-one
อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 8:26 pm
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
รบกวนด้วยครับ
[email protected]
โดย
Obe-one
อาทิตย์ ม.ค. 14, 2007 9:26 pm
0
0
Port ผมลบ 8% แล้วครับ !!
ผมสมาชิกใหม่ thaivi ครับ port ผม -9.35% ตั้งแต่ต้นปี 50 ครับ
โดย
Obe-one
อาทิตย์ ม.ค. 14, 2007 9:21 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
Obe-one
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ที่อยู่:
ราชบุรี
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ต.ค. 24, 2006 6:40 pm
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 6:44 am
โพสต์ทั้งหมด:
16 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.00 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว