หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Nawat
Joined: ศุกร์ ก.ย. 22, 2006 2:34 am
92
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Nawat
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
เครือข่ายลงทุน วิศวกร ครับ
com eng ด้วยคนครับ
โดย
Nawat
ศุกร์ ต.ค. 19, 2007 9:43 am
0
0
The Snowball
One vote
โดย
Nawat
ศุกร์ ต.ค. 19, 2007 9:37 am
0
0
ขอชื่นชม คุณพี่ chartchai madman
:D ขอบคุณมากครับ :D
โดย
Nawat
เสาร์ ส.ค. 04, 2007 6:40 pm
0
0
แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2550
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพตลาดรถจักรยานยนต์เดือนแรกของปี 50 เปิดประเดิมด้วยยอดการจดทะเบียนของผู้ใช้จำนวน 150,672 คัน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 101% แต่เติบโตขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 120% ในจำนวนนี้เป็นยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจำนวน 106,229 คัน คิดเป็นสัดส่วนตลาด 71% เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 108% เมื่อแบ่งการจำหน่ายออกเป็นแต่ละประเภทพบว่า สัดส่วนตลาด 52% หรือจำนวน 77,925 คัน ยังคงเป็นเค้กก้อนใหญ่สำหรับรถครอบครัว ส่วนรถแบบ เอ.ที. มีสัดส่วนตลาดที่ 44% และรถยอดนิยมอันดับ 1 ประจำเดือน ม.ค. ยังคงเป็นเป็นฮอนด้า Wave 100 ที่จำนวน 46,963 คัน ส่วนรถยอดนิยมในกลุ่ม เอ.ที. อันดับ 1 ยังคงเป็นรุ่นฮอนด้าคลิก ที่จำนวน 25,926 คัน
โดย
Nawat
เสาร์ มี.ค. 03, 2007 4:18 pm
0
0
อยากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัทไหนมากที่สุด
ถ้ามีเงื่อนไขนี้ก็ต้อง ILINK ครับ บริษัทกำลังจะโต ยอดขายเพิ่มปีละ 45% 5ปีต่อเนื่อง GPM ก็%ไม่ตก ราคาหุ้นก็มีรายใหญ่คอยดูแลคอยเชียร์(ใหญ่จริงๆ ใหญ่ที่สุด) แต่ต้องลุ้นหน่อยกับของแถมไม่พึงประสงค์ บริษัทใหนทำได้บ้าง :B
โดย
Nawat
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 2:26 pm
0
0
ร.พ. ไหนน่าลงทุนสุด
TNH ด้วยคนครับ รับมาในต้นทุนที่ค่อนข้างปลอดภัย กำลังรอลุ้นงบ Q2/50 BGH BH ก็ชอบแต่ราคานี้ขอรอดูไปก่อนครับ
โดย
Nawat
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 2:05 pm
0
0
ความเปลี่ยนแปลงของอากาศเริ่มมีผลกับสินค้าเกษตรตัวแรกข้าว
ตอนนี้ปริมาณข้าวสำรองของทั้งโลกก็น่าจะเข้าสู่ภาวะที่น่าเป็นห่วงแล้วนะครับ น่าจะเหลือแค่ประมาณ30ล้านตัน(ช่วงสิ้นฤดูการเพาะปลูกของปีนี้) ปีถัดไปก็มีแนวโน้มจะลดลงอีก สภาพอากาศมีปัญหาต่อกันหลายปี คนจีนกับอินเดียรวยขึ้นเลยบริโภคนิยมมากขึ้น สินค้าจากการเกษตรหลายๆอย่างก็มีสภาพเหมือนๆกัน
โดย
Nawat
เสาร์ ก.พ. 24, 2007 4:21 pm
0
0
ผลประกอบการณ์ PYLON Q4
ความเห็นส่วนตัวครับ บริษัทมีปัญหาค่อนข้างมากเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขัน อาจเพราะพึ่งตั้งได้ไม่นาน ความน่าเชื่อถือของผู้บริหารก็น่ากังขาเล็กน้อย ก่อนงบ Q3 ออกได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่า GPM จะกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ แต่... (Q4 ก็เคยบอกว่าจะดีขึ้นมาก) หลายคนอาจสนใจเพราะรถไฟฟ้า และมีข่าวจะเข้าร่วมรับงานกับบริษัทต่างชาติ แต่ pylon อาจจะมีหน้าที่แค่หาแรงงานกับอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ส่วนทีมงานวิศวะกรหลักๆน่าจะมาจากต่างชาติ รวมทั้งเครื่องจักรก็น่าจะเป็นของต่างชาติ กำไรของ pylon ที่ได้จากงานนี้อาจจะไม่มาก (ถ้าได้งาน) บริษัทมักจะได้งานจากผู้รับเหมารายใหญ่เป็นประจำ แต่การได้งานในลักษณะนี้ไม่รู้ว่ากำไรจะดีหรือไม่ดี? หุ้นตัวนี้หวือหวาดี เหมือนเล่นรถไฟเหาะ หรือจะเรียกว่าเจ้ามือลากไปเชือดดีน่ะ น่าจะรอดูจนกว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นชัดเจนค่อยเข้าไปลงทุนนะครับ
โดย
Nawat
เสาร์ ก.พ. 24, 2007 4:07 pm
0
0
อยากทราบครับว่า ESOP มีผลดี-ผลเสียอย่างไรครับ
ลองไปอ่านผลตอบรับ ESOP ในห้อง ilinkดูครับชัดเจนดี :vm:
โดย
Nawat
เสาร์ ก.พ. 24, 2007 2:49 pm
0
0
หุ้นกลุ่มเหล็กหนัก แนวโน้มคาดการณ์อย่างไรบ้างครับ
ปลายปีที่แล้ว ssi สั่งเครื่องขึ้นรูปเหล็กเข้ามาหลายชุด (ประมาณ30ชุด) จะเอามาแปรรูปเหล็กเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ แต่จะไปกระทบ pap ที่เป็นลูกค้าของตัวเอง pap กับเพื่อนๆ(น่าจะเป็น amc tmt)เลยไปขอซื้อเครื่องจักรต่อ แต่ ssi ไม่สนครับสุดท้ายไม่รู้จบยังไง เท่าที่รู้นะครับ tucc ใช้นิคเกิลเป็นส่วนประกอบในการผลิตสแตนเลสคุณสมบัติตามสั่งครับ
โดย
Nawat
พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 8:25 pm
0
0
เรียนถามท่านที่ลงทุนโดยเน้นมาที่เงินปันผลครับว่าควรจะได้กี่%
ลองศึกษาดูพวกหุ้นกองทุนอสังหา เช่น tfund ซื้อกระจายหลายๆตัวตามขนาดของเงินทุน(สภาพคล่องน้อยครับ) ซื้อตอนตลาดหุ้นตกหนักๆ หรือตอนตลาดซึมนานๆ capital gain คงไม่ค่อยมี แต่ราคาก็ไม่ค่อยตก น่าจะดีกว่าฝากธนาคารพอสมควรแต่ความเสี่ยงก็มากขึ้นนิดหน่อยครับ เทียบกับดอกเบี้ยน่าจะได้ประมาณ 8-10% ถ้ามีจังหวะซื้อดีๆ :?
โดย
Nawat
พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 7:57 pm
0
0
เผลอแว๊บเดียว TEAM ผมจะทะลุ 8 บาทแล้ว !!!
ถอยตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเมื่อวานแล้วครับ Q4 ต่ำกว่าที่หวังไว้พอสมควร น่าจะมีปัญหาจากปัจจัยแวดล้อม เดี่ยวรอดู Q1/50 อีกทีครับ ตอนนี้เหลือแค่ 80000 หุ้น :(
โดย
Nawat
พุธ ก.พ. 21, 2007 10:53 am
0
0
+มีอะไรกันในพอร์ตบ้างครับ รับตรุษจีน+
tnh / 3.8 seafco / 3.6 forth / 6.1 ah / 15.5 team / 6.4 bay-w1 / 5.2 sat / 7.4 ลอกการบ้านมาล้วนๆเลย555+ :wink: คงต้องขอเกาะใบบุญพี่ๆไปอีกนาน
โดย
Nawat
อังคาร ก.พ. 20, 2007 11:48 pm
0
0
หุ้นตัวไหน เป็นหุ้นตัวแรกที่คุณซื้อครับ
tnh seafco ครับ :D ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ครับ
โดย
Nawat
พฤหัสฯ. ก.พ. 15, 2007 11:20 pm
0
0
" หุ้นที่น่าจะมีผลกระทบต่อพ.ร.บ นอมีนี่ "
บัญชีการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวปี2542 บัญชี1 ธุรกิจที่ไม่อนุญาติให้คนต่างด้าวทำเนื่องจากเหตุผลพิเศษ ข้อ1 การทำธุรกิจหนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ ข้อ9 การค้าที่ดิน บัญชี2 ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศหรือมีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมวด1 ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศ ข้อ2 การขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศในประเทศ รวมถึงกิจการบินในประเทศ หมวด2 ธุรกิจที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน ข้อ5 เครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องถม เครื่องทองลงหิน เครื่องถม หมวด3 ธุรกิจที่เกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อ1 การผลิตน้ำตาลจากอ้อย ข้อ4 การทำเหมือง การระเบิดหรือย่อยหิน ข้อ5 การแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 10:02 pm
0
0
กฎหมายที่ออกมาทั้ง30% ทั้งnominee ผลดีผลเสียคืออะไรครับ?
ได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกหน่อยครับ กลุ่ม1,2 ในประเทศมี 80000 บริษัท อยู่ในตลาดไม่เกิน 15 บริษัท อยู่ในกลุ่มสื่อสาร อสังหา ต้องรอดูข้อมูลที่ชัดเจนอีกที (15 บริษัท ที่ว่าคงจะแย่หน่อย) กลุ่ม3 ในประเทศมี 30000 บริษัท บริษัทส่วนใหญ่ในตลาดจะอยู่ในกลุ่มนี้
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 8:51 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
รมว.พาณิชย์แจงยิบเหตุแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเหตุผลการเสนอแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีคนต่างด้าวหลีกเลี่ยงเข้ามาประกอบธุรกิจที่สงวนโดยอาศัยช่องกฎหมาย โดยออกหุ้นบุริมสิทธิให้คนต่างด้าวที่ลงทุนน้อยกว่าคนไทย แต่มีสิทธิออกเสียงมากกว่า และหรือให้คนไทยถือหุ้นแทน ดังนั้น กระทรวงฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกม.ดังกล่าว เพื่อให้สามารถกำกับดูแลการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวได้อย่างเหมาะสมในขณะเดียวกันไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการลงทุนการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่า กฎหมายเดิมมีช่องว่าง ทำให้มีคนบางจำพวกใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเลี่ยงกฎหมาย จึงต้องแก้ไขกฎหมายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้กฎหมายมีความรัดกุม และมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้มากขึ้น ถือเป็นการล้างไพ่ใหม่หมด แต่การแก้ไขครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร แต่ถ้าจะมีผลน่าจะเป็นทางดีมากกว่า เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความโปร่งใส ส่วนใครจะถอนลงทุนเป็นเรื่องของนักลงทุนที่จะตัดสินใจเอง สำหรับสาระสำคัญของร่างที่แก้ไขมี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) แก้ไขคำนิยาม "คนต่างด้าว" เดิมพิจารณาความเป็นคนต่างด้าวจากสัดส่วนการถือหุ้น/ลงทุนของคนต่างด้าวเท่านั้น ได้แก้ไขโดยให้พิจารณาจากสิทธิออกเสียงด้วย คือ หากคนต่างด้าวมีสิทธิออกเสียงตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไปของนิติบุคคลนั้นให้ถือว่า นิติบุคคลนั้นเป็นคนต่างด้าว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการออกหุ้นบุริมสิทธิให้คนต่างด้าวที่ลงทุนน้อยกว่าคนไทยมีสิทธิออกเสียงมากกว่าคนไทย สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้วและได้รับผลกระทบจากการแก้ไขคำนิยามดังกล่าว ทำให้กลายเป็นนิติบุคคลต่างด้าว จะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถประกอบธุรกิจนั้นต่อไปได้ โดยธุรกิจตามบัญชี 3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการสามารถประกอบธุรกิจได้ต่อไปจนกว่าจะเลิก ส่วนธุรกิจตามบัญชี 1 และ 2 ซึ่งเป็นธุรกิจที่กระทบต่อความมั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อีก 2 ปี เพื่อให้มีเวลาปรับตัว ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทันที 2) แก้ไขบทกำหนดโทษ กรณีที่ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือถือหุ้นแทนซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เพิ่มโทษปรับและปรับรายวันให้สูงขึ้น 5 เท่าจากเดิมปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท เป็น 5 แสนบาทถึง 5 ล้านบาท และเพิ่มโทษปรับรายวันจากวันละ 1-5 หมื่นบาท ส่วนโทษจำคุกให้เป็นไปตามเดิม แต่จะมีการผ่อนปรนโดยให้ผุ้กระทำความผิดก่อนหน้านี้มีระยะเวลาปรับตัวเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้แจ้งต่อทางราชการภายใน 90 วันและให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 1 ปี 3)ปรับปรุงบัญชีธุรกิจที่ควบคุม โดยยกเลิกธุรกิจที่กฎหมายหรือมีหน่วยงานอื่นดูแลอยู่แล้ว และหน่วยงานดังกล่าวได้ขอให้ก.พาณิชย์ยกเลิกการควบคุมธุรกิจนั้น ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเฉพาะที่ไม่มีการส่งมอบสินค้า และธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจหลักทรัพย์ อนุพันธ์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน เครดิตฟองซิเอร์ รวมถึงให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นธุรกิจที่ต้องขออนุญาต ทั้งนี้ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่เป็นประเภทอุตสาหกรรม ธุรกิจส่งออก และธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแต่อย่างใด นสพ.โพสทูเดย์
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:13 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
ครม.อนุมติร่างแก้ไขกม.คอนโดฯเปิดต่างชาติถือเกิน49% 9 มกราคม 2550 17:54 น. ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วานนี้ (9 ม.ค.) เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.อาคารชุด (ฉบับที่...) พ.ศ... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 ซึ่งได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งมีหลักการและรายละเอียดบางประการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดไม่เกิน 49% ของอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมครม.มีข้อสังเกตเพิ่มเติมและให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาต่อไป เช่น การกำหนดสัดส่วนของคณะกรรมการควบคุมจัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่เป็นสัญชาติไทย โดยในส่วนคณะกรรมการควบคุม ทีมีจำนวน 9 คนนั้น ที่ประชุมครม.มองว่า ควรมีกรรมการที่เป็นคนไทยไม่น้อยกว่า 5 คน และเรื่องสิทธิการเรียกประชุมของเจ้าของร่วม เช่น เจ้าของร่วมควรมีการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 25% ที่ประชุมครม.ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในบางพื้นที่ เช่น บางจังหวัดหรือบางโซน ที่มีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก อาจมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารชุดจำนวนมาก ซึ่งครม.เสนอว่า ในพื้นที่ดังกล่าวอาจจัดให้มีสัดส่วนของการถือครองโดยชาวต่างชาติ ในสัดส่วนที่เกิน 49% ได้หรือไม่ เช่น อาจให้ให้เป็นเจ้าของได้ 70% เป็นต้น โดยคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปพิจารณาทบทวนต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมครม.ได้มีข้อสังเกตให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องการกำหนดสัดส่วนคณะกรรมการควบคุมจัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่มีสัญชาติไทย และสิทธิของเจ้าของร่วมในการเรียกประชุม โดยสามารถเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 25% ก็สามารถเรียกประชุมได้ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:07 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
หอการค้าต่างประเทศมองพ.ร.บ.แก้ไขไม่เลวร้าย 9 มกราคม 2550 18:57 น. นายปีเตอร์ แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศ (เจเอฟซีซีที) ในไทย ระบุว่า ไม่รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด กับเงื่อนไขสำหรับการให้นักลงทุนต่างประเทศ ปฏิบัติตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่าวด้าวฉบับแก้ไข พร้อมระบุว่า เงื่อนไข และขอบเขตของกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ อยู่ในระดับกลางๆ ตามที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว หอการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขดังกล่าว ไม่ได้แย่อย่างที่ควรจะเป็น เพราะบริษัทในบัญชี 3 สามารถรอดพ้นจากสถานะที่ค่อนข้างอันตรายไปได้ แต่การที่นักลงทุนต่างประเทศมีความไม่มั่นใจมากขึ้น ยังจะส่งผลกระทบในแง่ลบอยู่ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:04 pm
0
0
ท่านผู้รู้กรุณาเอากฏหมายนอมีหนี้มาโพสต์หน่อยครับ
รัฐบาลเปิดทำเนียบพรุ่งนี้แจงหอต่างชาติ สาเหตุแก้กฎหมายนอมินี 9 มกราคม 2550 17:47 น. รัฐบาลเปิดทำเนียบพรุ่งนี้ชี้แจงหอการค้าต่างประเทศ"ปรีดิยาธร"ระบุ เหตุที่ต้องแก้กฎหมายธุรกิจต่างด้าว เพื่อให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ชี้"กุหลาบแก้ว"ต้องปฏิบัติตามกติกาใหม่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติการแก้ไขพ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหานักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยงกฎหมายในการถือหุ้นธุรกิจในประเทศไทย หลังจากมีการร้องเรียนกรณีการถือหุ้นแทนหรือนอมีนีในบริษัทกุหลาบแก้วเกิดขึ้น และจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาในวันพรุ่งนี้(10 ม.ค.) โดยก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมครม.กระทรวงพาณิชย์ ได้ใช้เวลาประมาณ 60 วันในการพิจารณาแก้ไขร่วมกับภาคเอกชน โดยมีสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นแกนนำในหารือร่วมกับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวจะต้องเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ทั้งนี้ ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542ได้มีการแก้ไขคำจำกัดความของคำว่า บริษัทต่างชาติให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเขียนให้ชัดว่า บริษัทต่างชาติ คือ บริษัทใดที่ต่างชาติถือหุ้นเกิน 50% ก็แปลว่าเป็นบริษัทต่างชาติ ซึ่งรวมถึงที่ให้คนไทยถือหุ้นแทนด้วย และ 2.กรณีต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 50% แต่ใช้สิทธิออกเสียงเกิน 50% หรือเรียกว่า voting right ซึ่งสามารถครอบงำบริษัทได้เหมือนเดิม วิธีนี้ก็คือ ให้สิทธิออกเสียงก็ไม่เกิน 50% เช่นกัน เขากล่าวว่า เมื่อแก้ไขคำจำกัดความให้ชัดเจนแล้ว บริษัทที่อยู่ในเมืองไทยมานานก็มีโอกาสผิดกฎหมายในข้อ 1 หรือ 2 วิธีการแก้ไข คือ ถ้าผิดเรื่องการออกเสียง ถ้าเป็นธุรกิจในลิสต์ที่ 3 คือ ธุรกิจบริการทั่วไปให้แจ้งภายใน 1 ปี จากนั้น ก็สามารถทำธุรกิจต่อได้ ถ้าอยู่ในลิสต์ 1 คือ อาชีพสงวนของคนไทย คือ เกษตรกรรม และตัดผม เป็นต้น และลิสต์ที่ 2 คือ อาชีพที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้แจ้งภายใน 1 ปี เมื่อแจ้งแล้ว มีโอกาสปรับแก้ voting right และสัดส่วนการถือหุ้นให้อยู่ใน 50% ภายใน 2 ปี นับจากกฎหมายออกและรวมปีที่แจ้งด้วย ส่วนกรณีของนอมินีหรือรวมแล้วถือเกิน 50% ถ้าเป็นลิสต์ที่ 3 ให้มาแจ้งภายใน 90 วัน จากนั้น ก็ให้เดินธุรกิจต่อโดยไม่ต้องลดหุ้น แต่ถ้าเป็นลิสต์ที่ 1 และ 2 ให้มาแจ้งภายใน 90 วัน จากนั้นต้องทยอยแก้ไข โดยลดจำนวนหุ้นลงให้เหลือภายใน 50%ในเวลา 1 ปี "กรณีที่ถือหุ้นไม่เกิน 50% ไม่มีนอมินี แต่ผิดที่ออกเสียงเกิน ตรงนี้ เราบอกว่า ถ้าเป็นบริษัทในลิสต์ที่ 3 คือ ธุรกิจบริการทั่วไป บริษัทกลุ่มนี้สามารถมาแจ้งว่า ถือปฏิบัติมานานแล้วใน 1 ปี ถ้าแจ้งในเวลาดังกล่าว เราถือว่าให้ปฏิบัติต่อไปได้ โดยไม่ต้องลดสิทธิการออกเสียงลง ทั้งนี้ ธุรกิจในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่อันตราย เป็นธุรกิจที่รอความพร้อมของคนไทย แต่เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในเมืองไทยนาน ก็แค่มาแจ้งให้เราทราบ ดังนั้น กลุ่มนี้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่กระเทือน แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เข้ามาใหม่หรือภายหลังกฎหมายอนุมัติต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด"เขากล่าว เขากล่าวว่า ที่รัฐบาลทำไปทั้งหมด ก็เพื่อให้ธุรกิจต่างชาติที่เคยเข้าลงทุนในไทยนานแล้ว แต่เราไม่เคยใช้กฎหมายบังคับนี้มา ให้เขาสามารถเดินต่อไปได้ และกฎหมายฉบับเคยมีการแก้ไขและมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2542 และเมื่อเป็นกฎหมายแล้วปรากฎว่ามีการใช้คนไทยถือหุ้นแทนหรือเรียกว่านอมินี แต่ไม่มีการร้องเรียน จึงไม่มีการตีความตามกฎหมายว่าใครผิดใครถูก เรื่องก็คาราคาซังเรื่อยมา นอกจากนี้ หลายบริษัทต่างชาติได้ทำตามคำแนะนำของนักกฎหมาย ซึ่งพยายามทำให้ตัวเองตรงคำในกฎหมาย คือ ถือไม่เกิน 51% แต่ที่จริงก็ยังครอบงำบริษัท โดยทำให้สิทธิการออกเสียงหุ้นไม่เท่ากันหรือ voting right คือ ต่างชาติสามารถออกเสียงได้มากกว่า ทั้งสองอันเป็นเทคนิคในการเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งเดิมก็ไม่มีการร้องเรียน จนเกิดกรณีกุหลาบแก้ว ซึ่งมีการร้องเรียนขึ้น ทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมธุรกิจการค้าก็พิจารณาตีความและส่งเรื่องให้ตำรวจสอบสวน ทำให้บริษัทจำนวนมากอกสั่นขวัญแขวนว่าจะโดนด้วยหรือเปล่า "เราได้พิจารณาบรรยากาศการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ จริงอยู่มีกลเม็ดที่ไม่ถูกกฎหมายจริง แต่เราปล่อยมานาน ฉะนั้น จำเป็นต้องรักษาบรรยากาศการลงทุน คือ เขียนกฎหมายให้ชัด และ ถ้าบังเอิญเขาอยู่มานาน ก็ต้องให้โอกาสเขาแก้ตัว ให้เวลาปรับให้เข้ากับกฎหมาย เพื่อบรรยากาศการลงทุนจะได้ไม่เสีย ถ้าไม่ทำและปล่อยไปนักลงใหม่ก็ไม่กล้าเข้ามา ส่วนที่เราคุมในบัญชี 1,2,3 นั้นถือว่า เป็นกลุ่มธุรกิจไม่เยอะเมื่อเทียบกับที่ไม่คุมที่มีเป็นแสนๆบริษัท และที่เราทำก็ถือว่า เป็นหลักสากลที่ต่างประเทศเขาก็ใช้"ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว รมว.คลัง กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้(10 มกราคม)เวลา 11.00 น.จะชี้แจงถึงรายละเอียดของการแก้ไขพ.ร.บ ดังกล่าวต่อสภาหอการค้าต่างประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เขากล่าวว่า ส่วนกรณีบริษัทกุหลาบแก้วนั้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในบัญญชีที่ 2 ก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย โดยต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลง ส่วนในแง่การสอบสวนก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งเราได้เสนอให้สภาฯได้พิจารณาในกรณีนี้ด้วย สำหรับธุรกิจประกันชีวิต และ สถาบันการเงิน ได้แยกออกมา เพราะถือว่า มีกฎหมายเฉพาะ กรุงเทพธุรกิจ
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 6:05 pm
0
0
กฎหมายที่ออกมาทั้ง30% ทั้งnominee ผลดีผลเสียคืออะไรครับ?
ตลท.เผยมีบจ.ไม่เกิน 15 ราย ได้รับผลกระทบจาก กม.ธุรกิจต่างด้าว 16:28 น. ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ระบุว่า มีบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหุ้นไทย ไม่เกิน 15 รายที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บประกอบธุรกิจคนต่างด้าว "จากที่มีการประเมินในเบื้องต้น พบว่า บจ.จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายคนต่างด้าวไม่เกิน 15 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทก็ต้องไปปรับตัว"นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าว เขาเชื่อว่า ในวันพรุ่งนี้ที่รมว.คลังจะชี้แจงกับต่างชาติในเรื่องกฎหมายดังกล่าวน่าจะทำให้ต่างชาติเกิดความเข้าใจมากขึ้น เชื่อดีไหมเนี่ย :x ถ้าจริงทำไมไม่บอกแต่เช้าๆ :vm:
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 5:49 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
ครม.รับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแล้ว และครม.มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาในแง่กฎหมายเพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น พร้อมทั้งให้นายเกริกไกร จิระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ชี้แจงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถึงความจำเป็น และเหตุผลในการเสนอ ร่างกฏหมายแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวด้วย ก่อนหน้านี้ คุณหญิงชฎา กล่าวว่า ด้านภาคการเงินไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีกฎหมายของ พ.ร.บ.สถาบันการเงิน ได้ระบุไว้ให้ต่างชาติถือหุ้นได้เพิ่มจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 49 อยู่แล้ว แต่หากมีความจำเป็นไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนได้และอาจมีความเสียหายได้ ทางการก็จะอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นเกินร้อยละ 49 ได้ ตามความเหมาะสม แต่ในธุรกิจอื่นๆ เอกชนต่างชาติต้องการทราบความชัดเจน เมื่อจะเข้ามาร่วมทุนในประเทศ ต้องตั้งบริษัทย่อย ต่างชาติจะถือหุ้นได้เท่าใด และส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และปัญหากลุ่มนอมินี หรือตัวแทนถือหุ้นของเทมาเส็ก ในกลุ่มชินฯ ต่างชาติก็ต้องการให้มีความชัดเจน ดังนั้น ทุกอย่างมีความชัดเจนจะทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยไม่ต้องการให้มีสัญญาณต้องการพึ่งพาเงินทุนต่างชาติน้อยลง เพราะในความจริงแล้ว การพัฒนาในยุคปัจจุบันยังต้องการอาศัยการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างงานในประเทศ เพราะอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ แต่ก็สามารถเลือกในสิ่งที่ต้องการนำเข้ามาได้เกิดประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีหอการค้าต่างประเทศ หรือ เจเอฟซีซีที ออกมาคัดค้านรัฐบาล กรณีการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย และหาก ครม.อนุมัติให้มีการผ่านกฏหมายฉบับดังกล่าว อาจทำให้ต่างชาติหลายรายถอนการลงทุนในประเทศไทย ว่า เหตุที่หอการค้าออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน เพราะยังไม่ได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนของกฏหมายฉบับนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม) จะนัดหารือกับบรรดาหอการค้าต่างประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในรายละเอียด พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ปฎิเสธการลงทุนจากต่างชาติ และยึดแนวทางนี้มาโดยตลอด. นายกฯ เชื่อต่างชาติลงทุนเพิ่มยัน กม.ธุรกิจต่างด้าวโปร่งใส-เป็นธรรม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้ให้ข้อสังเกตุที่สำคัญในแง่กฎหมาย คือ ต้องดูให้รัดกุมมากขึ้น เพราะจะมีผลกระทบ 2 ด้าน คือ ในประเทศ และผู้ลงทุนในภาพกว้าง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า จะสามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้นักลงทุนได้เข้าใจถึงการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่ยึดในเรื่องความโปร่งใสและเป็นธรรม "ถ้าเราชี้แจงให้นักลงทุนได้เข้าใจรับทราบและมีส่วนร่วมแล้ว เขาจะเห็นเองว่าเรายึดเรื่องความเป็นธรรมและความโปร่งใสอย่างไรบ้าง" นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า จากนี้ไปคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดถ้อยคำในกฎหมายให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าคงจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน ทั้งนี้ พอกฤษฎีกาเสร็จแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเสนอกลับมาที่ ครม.อีก สามารถเสนอไปยัง สนช.ได้เลย นสพ.โพสทูเดย์[/quote]
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:22 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
ทั้งไทยทั้งต่างชาติยังต้องพึ่งพาอาศัยกันไปอีกนาน หวังว่าสุดท้ายคงตกลงกันได้ด้วยดี :cry:
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:08 pm
0
0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
ครม.เห็นชอบหลักการแก้กม.ต่างด้าวยอมรับห่วงต่างชาติถอนลงทุน 9 มกราคม 2550 14:23 น. ครม.เห็นชอบหลักการร่างแก้ไขกฎหมายต่างด้าว สั่ง"ปรีดิยาธร-เกริกไกร"แจงป้องกันความสับสน ยอมรับห่วงต่างชาติถอนลงทุน แค่เห็นชอบหลักการก่อนให้กฎษฎีกาปรับปรุงรายละเอียดอีกครั้ง นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าวและได้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กลับไปพิจารณารายละเอียดของร่างแก้ไขให้รัดกุมอีกครั้ง นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ให้ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อให้การนำเสนอข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงนักลงทุนต่างประเทศ เกี่ยวกับการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการหยิบยกประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติ เตรียมถอนการลงทุนในประเทศไทยเข้ามาหารือด้วย ซึ่งที่ประชุมรู้สึกเป็นห่วง จึงได้เห็นชอบในหลักการไปก่อน ส่วนรายละเอียดต้องให้กฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
โดย
Nawat
อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:49 pm
0
0
สำรวจยอดผู้เสียหาย
ไม่รอดครับลงไป 9% แต่ได้ของราคาถูกสุดๆมาเพียบ จากเหยี่อรายไหนบ้างก็ไม่รู้ เซ็งเมือวานนี้สุดๆ หวังว่าวันนี้คงดีขึ้น :vm: :vm: :vm:
โดย
Nawat
พุธ ธ.ค. 20, 2006 9:10 am
0
0
มาตราการใหม่ของ ธปท. จะมีผลอย่างไรบ้างครับกับตลาดไทย
มาตรการที่ประกาศออกมาผมว่าเป็นมาตรการที่แรงดี(ไม่งั้นคงไม่ได้ผล) เพราะจะทำให้ต้นทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นเพิ่มขึ้น(เป็นการกีดกันเฉพาะพวกไม่น่าคบ ที่อาจแฝงเจตนาร้าย ส่วนพวกที่เข้ามาแล้วกับพวกที่ลงทุนยาวๆคงไม่กระทบมาก) เงินบาทคงปรับอ่อนค่าลงได้ในระยะสั้นแหงๆ แต่จะแรงหรือไม่แรงก็ไม่รู้(ต้องรอดูความชัดเจนของมาตรการอีกที แล้วยังต้องดูมาตรการที่จะตามมาว่าจะกดดันเพิ่มขึ้นหรือว่าจะช่วยผ่อนคลายความรุนแรงของมาตรการนี้) แต่ในระยะยาวคงต้องดูว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลยังไงอีกที เพราะถ้าค่าเงินอ่อนยวบไม่หยุดก็ต้องมาปวดหัวกับเงินเฟ้ออีก เร็วๆนี้ทุกอย่างคงคลี่คลายแล้วกลับมาดีกว่าเดิม คราวนี้ ธปท. เอาจริงกับปัญหานี้ซะที น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของไทยในระยะยาวนะครับ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมากผิดปกติ(บางคนก็ว่าแข็งผิดปกติมาตั้งแต่มีดีลยักษ์ใหญ่ขายหุ้นชิงคอก)ทำให้กระทบกับการส่งออก ซึ่งการส่งออกถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ส่งออกเดี้ยงกันหมดระยะยาวประเทศไทยที่พึ่งการส่งออกสุดๆคงดูไม่จืด ส่วนตลาดหุ้นอาจมีPanic แต่หวังว่าคงจะเล็กๆ(ธปท.ยังใจดีที่ประกาศหลังปิดตลาดให้เวลาได้วิเคราะห์ปนทำใจ) แต่มาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกันเพราะเรื่องค่าเงินบาทแข็งเกินจะได้จบๆไป (รู้สึกเหมือนมีปฏิรูปรอบเล็กๆอีกรอบเลย ปีนี้ตลาดมีเรื่องเข้ามากระทบถี่ยิบดีจริงๆ) แต่ในช่วงแย่ๆนี้ก็จะมีโอกาสให้เลือกของถูกอีกแล้ว พวกส่งออก พวกท่องเที่ยว พวกโรงบาลบางแห่ง พวกรับค่าแรงเป็นเงินต่างชาติ คงปรับตัวดีขึ้น ขี้เกียจปรับพอร์ทจังเลย พื้นฐานเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว(แต่ถ้าค่าเงินเปลี่ยนไม่มากก็คงช่างมัน) ฟ้าหลังฝนน่าจะสดใสขึ้นนะครับ หลังจากเขี่ยพวก Hot Money ออกไป ตลาดจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีก :?
โดย
Nawat
อังคาร ธ.ค. 19, 2006 7:34 am
0
0
เรื่องน่ารู้ของธุรกิจอสังหาฯ
รอช้าหน่อยปีหน้าคงมีคอนโดให้เลือกเพียบ แต่ถ้าเร็วหน่อยแล้วเจอที่ถูกใจก็คงประหยัดได้อีกนิด ต้นปี50 ราคาวัตถุดิบหลักน่าจะยังทรงๆ แต่หลังจากนั้นเท่าที่อ่านข่าวราคาน่าจะค่อยๆขยับขึ้นช้าๆ **ข้อมูลทำเลทอง เขาว่างั้นครับ ** รถไฟฟ้า 5 สาย และศูนย์พหลโยธิน (จตุจักร บางซื่อ) ทำเลสำคัญในอนาคต จะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ถึง 4 สาย มีจุดรวม หรือจุดเชื่อมต่อ บริเวณสถานีบางซื่อหรือย่านหมอชิต พหลโยธิน เลยทีเดียว (บริเวณลูกศรชี้) ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน, สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่, สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง-บางแค, รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่ รวมกับรถไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันทั้งสองสาย คือ รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ (บีทีเอส) และรถ ไฟฟ้าเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) นอกจากนี้ยังจะมีโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญในอนาคต คือ โครงการศูนย์คมนาคมพหลโยธิน จะยิ่งทำให้ย่านบางซื่อ-พหลโยธิน เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดบริเวณหนึ่งในอนาคต สำหรับการคมนาคมด้วยระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และในระดับภูมิภาคที่เชื่อมต่อภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการศูนย์คมนาคมพหลโยธิน จะมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณย่านสถานีรถไฟบางซื่อและสวน จตุจักรในปัจจุบัน รูปแบบการพัฒนาจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับพื้นที่ภาคกลาง, ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีทั้งสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และอื่นๆ ซึ่งโครงการนี้อยู่ในการดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย ปัจจุบันได้มีการศึกษา ผังแม่บทการพัฒนาไว้ในเบื้องต้นแล้ว เมื่อพิจารณาถึงข้อกฎหมายสำคัญที่มีผลต่อศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต คือ ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ที่ประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงสีผังเมืองเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ไว้ล่วงหน้า โดยได้ขยายพื้นที่สีแดง (ผังเมืองประเภทพาณิชยกรรม) ให้กว้างออกไปจากเดิมที่มีเพียงย่านสถานีรถไฟบางซื่อ ขยายออกไปยังย่านถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต ห้าแยกลาดพร้าว แสดงตามผังสีและข้อกำหนดการใช้ที่ดินเปรียบเทียบผังเมืองเก่าและผังเมืองใหม่ดังนี้ สำหรับราคาที่ดินโดยรอบทำเลย่านนี้ในปัจจุบัน สำหรับที่ดินติดถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ตารางวาละ 160,000-175,000 บาท โดยมีการเปลี่ยนแปลงราคาในปีที่แล้วเทียบกับปีนี้เพิ่มถึง 6-13% (เทียบกับค่าเฉลี่ยราคาตลาดของที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เพิ่มประมาณ 4.2%) ในอนาคตคาดว่าจะมีศักยภาพ สูงขึ้นยิ่งจะส่งผลต่อราคาที่ดินในอนาคตอีก แสดงราคาที่ดินในปัจจุบันตามแผนที่ดังนี้ สภาพการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ย่านนี้ในปัจจุบัน แต่เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยและสถานที่ราชการเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีทั้งที่ดินของการรถไฟฯ ที่ดินของกรมธนารักษ์ที่มีหน่วยงานต่างๆ ใช้งานอยู่ แต่ในช่วงหลังจากการมีรถไฟฟ้าบีทีเอสตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ได้มีการพัฒนาด้านพาณิชยกรรมมากขึ้นทั้งประเภทอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เช่น อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารทหารไทย อาคาร ปตท.สำนักงานใหญ่ อาคารซันทาวเวอร์ ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ รวมทั้งเซ็นทรัล พลาซา ที่มีอยู่เดิม เป็นต้น ส่วนในพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรในปัจจุบันที่ได้รับความ นิยมสูงมาก จนมีการลงทุนในการพัฒนาอาคารร้านค้าต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยสรุปแล้วเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญต่างๆ ข้างต้น ในอนาคตศักยภาพของพื้นที่ย่านสถานีบางซื่อ หรือศูนย์พหลโยธิน จะมีศักยภาพ สูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ เป็นที่ดินของรัฐ เช่น การรถไฟฯ กรมธนารักษ์ ทำให้การพัฒนาจะเป็นไปในรูปแบบการเช่า ที่ดิน ส่วนที่ดินเอกชนในบริเวณโดยรอบย่านถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ซอยอารีย์ ซอยราชครู ด้านถนนวิภาวดีรังสิต ลาดพร้าว ก็น่าจะมีศักย-ภาพต่อเนื่องในการพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัย อพาร์ตเมนต์ เนื่องจากโดยรอบข้อกำหนด ผังเมืองกำหนดให้ใช้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก อนึ่ง โครง-การศูนย์คมนาคมพหลโยธินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก (รัฐบาลที่แล้วมีแนวคิดจะย้ายไปที่เชียงราก ปทุมธานี ครั้งหนึ่ง แล้ว) แต่ถึงจะไม่ มีศูนย์คมนาคมพื้นที่ย่านนี้ก็จะมีศักยภาพ ในการพัฒนาในอนาคตสูง เนื่องจากปัจ-จุบันมีการพัฒนาสูงอยู่แล้วผนวกกับรถไฟฟ้าสองสายในปัจจุบัน และข้อกำหนดผังเมืองที่เอื้อให้มีการพัฒนาได้มาก โดยเฉพาะหากมีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ดังกล่าวเกิดขึ้นได้จริง ทำเลบริเวณนี้จะเป็นสุดยอดของทำเลทองสำคัญแห่งหนึ่งในอนาคตเลยทีเดียว จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2170 30 พ.ย. - 02 ธ.ค. 2549 **แต่การก่อสร้างรถไฟฟ้ามีปัญหาเพียบ กว่าทุกอย่างจะลงตัวคงอีกนาน** ข้อมูลชุมชนชาวคอนโด ลองอ่านดูเล่นๆๆครับ :D http://www.prakard.com
โดย
Nawat
จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 12:43 am
0
0
1,111,100
โรงพยาบาลขนาดจิ๋วแต่แจ๋ว :wink:
โดย
Nawat
อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 2:18 pm
0
0
รบกวนขอมุมมองหุ้น q-con หน่อยครับ
คงเหนื่อยหน่อยครับ และน่าจะเหนื่อยอีกนาน ผมเคยไปดูโรงงานรายย่อยที่เขาผลิตเอง2โรงงาน คุณภาพด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ดูแล้วพอทดแทนกันได้ ราคาก็ถูกมาก แถมการผลิตก็ง่ายนิดเดียว
โดย
Nawat
อังคาร พ.ย. 07, 2006 7:55 am
0
0
เรียนเชิญท่านเฟยหง แนะนำที่มาที่ไปของ "หุ้นเงา" ด้
ขอแอบอยู่หลังด้วยครับ
โดย
Nawat
จันทร์ พ.ย. 06, 2006 6:02 pm
0
0
สัญญาณจากตลาด mai บอกอะไรไหมครับ
:welcome: :B
โดย
Nawat
จันทร์ พ.ย. 06, 2006 4:47 pm
0
0
10 เดือนนี้ ชนะตลาดกันได้เยอะมั้ยครับ ขอแอบถามเซียนๆ
VI มือใหม่ลงทุนตามพี่ๆแบบเกาะติด เน้นหุ้นประเภท ข เพราะเป็นพวกใจง่ายความสามารถยังไม่มีแต่เน้นดวง 2เดือนกับ4วัน พอร์ทโตแล้ว57% เดี๋ยวจะแบ่ง2%ไปทำบุญ จะขอติดตามผลงานของพี่ๆยอดฝีมือในบอร์ดนี้ตลอดไป ขอบคุณมากครับขอฝากตัวอีกครั้ง :B :B :B
โดย
Nawat
เสาร์ พ.ย. 04, 2006 6:12 pm
0
0
เกิดอะไรขึ้นกับ TRC ทำไมราคาพุ่งกระฉูดขนาดนั้น 20 % วันเดียว
trcทำเอามือใหม่อย่างผมสติหลุดไปสองวันเพราะไม่มีประสบการณ์ถือหุ้นที่ร้อนสุดๆแบบนี้ ท่าทางพวกที่เก็งกำไรรายวันกับหุ้นแบบ live de gen หัวใจคงต้องทำงานหนักน่าดู ตอนแรกผมกะว่า eps ของ trc คงจะประมาณ 0.35ส่วนpe ก็น่าจะ 8เท่าได้ แต่วันพฤหัสราคาดันวิ่งทะลุเป้าไปแบบง่ายๆ เลยตกใจขายหุ้นออกไป 2ใน3ของที่ถืออยู่ แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ก็เลยเข้าใจว่าตัวเองโง่ขายหมูออกไปแล้ว(ขอบคุณมากครับ) คืนนั้นเลยไปอ่าน56-1ใหม่แล้วปรับ pe เป็น10เท่า แต่โชคยังดีเช้าวันศุกร์รับหมูกลับเล้ามาได้ถูกกว่าเดิม แต่ราคาก็ดันวิ่งทะลุเป้าอีกรอบเลยต้องยอมขายหมูอีกรอบเพราะไม่อยากผิดกฎที่ตัวเองตั้งไว้ แต่โชคก็ท่าจะเข้าข้างอีกรอบเพราะราคาย่อลงมาล่อใจอีกแล้ว แต่ก็ขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่ใช่ขายหมูแต่เป็นการเล่นรอบรอราคาย่อลงแล้วกล้าๆเข้าไปรับต้นทุนผมก็จะเหลือแค่1.5กว่าๆ สบายเลยเรา :? เฮ้อยังต้องฝึกอีกนานโชคดีคงไม่มีบ่อยๆ
โดย
Nawat
เสาร์ พ.ย. 04, 2006 5:53 pm
0
0
กำไรที่ต่อเนื่องและยาวนาน
ขอบคุณมากครับที่พี่ช่วยเตือนสติ ความโลภมันมาบังเต็มตาผมจริงๆด้วย จะรีบแก้ไขครับ :bow:
โดย
Nawat
ศุกร์ พ.ย. 03, 2006 2:13 pm
0
0
เกิดอะไรขึ้นกับ TRC ทำไมราคาพุ่งกระฉูดขนาดนั้น 20 % วันเดียว
TRCทำให้ผมผมรู้ตัวว่ายังห่างไกลจากการเป็น VI ที่ดี ทำการบ้านยังไม่พอ ดีใจที่ได้ 1 เด้งแรกแต่กลุ้มใจในความอ่อนหัดของตัวเองครับ :oops: ดีใจกับทุกท่านด้วยครับ :D
โดย
Nawat
ศุกร์ พ.ย. 03, 2006 1:57 pm
0
0
เกิดอะไรขึ้นกับ TRC ทำไมราคาพุ่งกระฉูดขนาดนั้น 20 % วันเดียว
:P ซื้อคืนมาได้มากกว่าเดิมแต่ขอขาย :pig: อีกรอบ :P เกิน1เด้งแล้วครับ
โดย
Nawat
ศุกร์ พ.ย. 03, 2006 11:42 am
0
0
เกิดอะไรขึ้นกับ TRC ทำไมราคาพุ่งกระฉูดขนาดนั้น 20 % วันเดียว
ผมก็ขายออกไปเกือบหมดเล้าเลย :pig:
โดย
Nawat
พฤหัสฯ. พ.ย. 02, 2006 9:25 pm
0
0
seafco พื้นฐานปรับตัวดีขึ้น พอจะถือลงทุนได้ไหมครับ
ขอบคุณครับ ต้นทุนผมประมาณ 3.6 มีอยู่ 30% ของพอร์ทครับ ซื้อไว้ต้นเดือนก่อน ตอนนี้ก็เริ่มสบายใจขึ้นกะว่าจะใจแข็งรอจนถึงเป้าค่อยขาย แต่ผมไม่กล้าถือตัวเดียวเลยซื้อ prin กับ tnh ที่อยู่คนละอุตสาหกรรมจะได้กระจายความเสี่ยง ซื้อพร้อมกับ seafco ตัวละ 30% เท่ากัน ไม่รู้ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก กำลังงงๆกับช่วงหนึ่งเดือนกว่าๆที่ผ่านมา ขอให้พี่ๆทุกคนโชคดีครับ
โดย
Nawat
อังคาร ต.ค. 10, 2006 9:15 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
Nawat
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ ก.ย. 22, 2006 2:34 am
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ ก.ค. 27, 2012 10:46 am
โพสต์ทั้งหมด:
92 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว