หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
bennn
Joined: อาทิตย์ พ.ค. 28, 2006 8:40 am
412
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - bennn
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ขออนุญาติแนะนำแอพอ่านบทวิเคราะห์แจกฟรี สำหรับ iPhone และ
ขอบคุณครับ ใช้งานง่าย สะดวกดีครับ
โดย
bennn
จันทร์ ก.พ. 10, 2014 1:02 pm
0
0
Re: รบกวนช่วยรวบรวมหุ้นที่ไม่เข้าข่ายอกุศลกรรม ให้ด้วยนะครับ
คือผมไปฟังงานสัมนามาและพบว่า หากเราต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่บาป 100% ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ 1) ธุรกิจที่มีการประมูล เป็นไปได้ว่าบาปเกือบทุกบริษัท 2) ธุรกิจบันเทิง โฆษณา บาปทุกบริษัท 3) ธุรกิจขาย หรือให้เช่าสถานที่ขาย เหล้า เบียร์ บาปทุกบริษัท 4) ธุรกิจสื่อ สิ่งพิมพ์ มีโอกาสบาป ขอโทษนะครับ ยังเหลืออะไรอีก แล้วที่เหลือนี่ น่าลงทุนมั้ย :?: :?: ตราบได้ที่ยังเป็นฆราวาสมันยังต้องมีบาป เพียงแต่เราลงทุนในธุรกิจที่ประกอบสัมมาอาชีพก็พอแล้วนะครับ ความคิดเห็นส่วนตัว ธุรกิจที่ไม่บาปก็เช่น ธุรกิจบริการขนส่ง ธุรกิจขายเครื่องดื่ม ขายอาหาร ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สื่อสาร ขายอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ขายมือถือ พลังงาน สาธารณูปโภค ขายของใช้ในบ้าน ขายเฟอร์นิเจอร์ เหล็ก อสังหา โรงงาน เรือ ขายน้ำมันพืช ขายน้ำตาล ยางพารา ข้าว รองเท้า พลาสติก บริการอินเตอร์เนต บริการโครงข่าย สนามบิน สายการบิน และอีกเยอะแยะไปหมด ผมว่าเผลอๆ ธุรกิจที่ไม่บาปจะมีมากกว่าธุรกิจบาปอีกนะครับ และคำว่าสัมมาอาชีพ ก็คือธุรกิจที่ไม่บาปนี่แหละครับ หากลงทุนในธุรกิจที่บาป คงจะบอกว่าสัมมาอาชีพไม่ได้แน่นอนครับ ขายอาหารพวกเนื้อสัตว์ พอขายอาหารได้ดีขึ้น ก็พอใจ เพิ่มการสั่งซื้อ ต่างกันตรงไหนครับ
โดย
bennn
อาทิตย์ เม.ย. 28, 2013 9:02 am
0
0
Re: ถ้า บ.ลูก ออกกองอสังหา จะส่งผ่านรายได้ไปให้แม่ยังไงครับ
ที่สงสัยคือ ถ้าถือ 80-90% ก็น่าจะปันผลพิเศษอยู่ แต่ถ้าถือแค่ 60% ก็แปลว่าเงินอีก 40% จะออกไปอยู่ในมือคนอื่น มันจะคุ้มเหรอครับ ขายของได้ 100 แต่ได้เงินมา 60 หรือว่าที่ตั้งราคา tender สูงๆ เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดจะต้องยอมขายออกมา? ถ้าถือแค่ 60% ความเป็นเจ้าของก็ 60 ก็ถูกต้องแล้วนะครับ เงินก็ออกไปอยู่ที่เจ้าของคนอื่นตามสัดส่วน อย่าลืมว่าตอนซื้อกี่% ก็จ่ายตามสัดส่วนครับ
โดย
bennn
เสาร์ เม.ย. 27, 2013 10:44 pm
0
0
Re: หุ้นที่เกี่ยวกับสัตว์
ถ้าลงทุนในกิจการที่ขายเนื้อสัตว์ แล้วไม่รู้ได้อย่างไรว่ากิจการตนเองได้กำไรหรือรายได้จากการฆ่าสัตว์ ถ้าเทียบกับการฆ่าเชื้อโรคนั้น เชื้อโรคเป็นอัตรายต่อร่างกาย ถ้ากินเข้ามาก็ตาย หรือป่วย แล้วสัตว์เช่นเป็ดไก่ เป็นอันตรายไหม ฆ่าเพื่ออะไร เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อเรา? หรือฆ่าเพื่อกำไร ฆ่าเพื่อขาย? ถึงท่านไม่ได้ฆ่าด้วยตัวเอง หรือมีเจตนาจะฆ่า แต่เงินลงทุนท่านก็ทำให้ท่านเป็นนายจ้างคนที่ฆ่า หรือระบบที่ฆ่าอยู่ดี ลองคิดต่อดู กินน่าจะบาปเหมือนกันนะครับ เหมือนเป็นการจ้างให้ไปฆ่ามาให้เรา เงินที่เราจ่ายจ้างเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ลองหาเวลาไปพบพระที่นับถือแล้วขอสนทนาธรรมกับท่านดูครับ แล้วจะทราบเองว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร :wink: ลองคิดแบบตามหลักเหตุผล โดยยกความเชื่อออกครับ ถ้าบอกว่าคนที่สนับสนุนเงินทุนบาป คนลงมือบาป แล้วคนจ่ายเงินซื้อกับคนเอามาขายต่อไม่บาปเหรอครับ เพราะมันก็คือเงินทุนที่ทำให้เกิดวงจรต่อไป ผมเห็นหัวข้อนี้พูดกันหลายครั้ง มันขึ้นอยู่ความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ บางทีความเชื่อต่างกันค่อนข้างยากในการคุยครับเรื่องนี้ ถ้าเกินเลยไป ต้องขออภัยด้วยครับ :D
โดย
bennn
เสาร์ มี.ค. 16, 2013 8:38 am
0
0
Re: หุ้นที่เกี่ยวกับสัตว์
ถ้าลงทุนในกิจการที่ขายเนื้อสัตว์ แล้วไม่รู้ได้อย่างไรว่ากิจการตนเองได้กำไรหรือรายได้จากการฆ่าสัตว์ ถ้าเทียบกับการฆ่าเชื้อโรคนั้น เชื้อโรคเป็นอัตรายต่อร่างกาย ถ้ากินเข้ามาก็ตาย หรือป่วย แล้วสัตว์เช่นเป็ดไก่ เป็นอันตรายไหม ฆ่าเพื่ออะไร เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อเรา? หรือฆ่าเพื่อกำไร ฆ่าเพื่อขาย? ถึงท่านไม่ได้ฆ่าด้วยตัวเอง หรือมีเจตนาจะฆ่า แต่เงินลงทุนท่านก็ทำให้ท่านเป็นนายจ้างคนที่ฆ่า หรือระบบที่ฆ่าอยู่ดี ลองคิดต่อดู กินน่าจะบาปเหมือนกันนะครับ เหมือนเป็นการจ้างให้ไปฆ่ามาให้เรา เงินที่เราจ่ายจ้างเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
โดย
bennn
เสาร์ มี.ค. 16, 2013 12:12 am
0
0
Re: ใกล้ฟองสบู่ ?
สุดท้าย... ขอให้ทุกคนมีความสุขกับงานเลี้ยงอันสุดแสนจะมันอย่างสุดเหวี่ยงนี้นะครับ... สำหรับผม ผมยินดีที่จะอยู่เกินเที่ยงคืนนิดหน่อย ช่วยล้างจานสักใบสองใบ แต่คงจะไม่อยู่จนถึงเช้า ล้างจานไปเรื่อยๆ ด้วยความหวังว่า พรุ่งนี้เช้าจะมีงานเลี้ยงรอบใหม่ ผมว่าเวลาที่มันเกิดฟองสบู่ ในส่วนของตลาดหุ้น ปัญหามันอยู่ที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าตัวเองจะออกจากงานเลี้ยงได้ก่อนคนอื่น แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็กลายเป็นคนต้องล้างจานไปแบบไม่ทันตั้งตัว ดีไม่ดีจะแย่งกันออกจากงานจนล้มเหยียบกันนี่สิครับ ส่วนผมเองขอคิดแบบนี้ครับ ผมขอออกจากงานก่อนเวลาบ้าง ถ้าขับรถมาก็จะได้ไม่ติดเวลาออกจากที่จอดรถ หรือถ้านั่งแท็กซี่มาก็จะได้ไม่ต้องมายืนรอแย่งรถกัน คนที่มาซื้อหุ้นต่อจากผม ๆ ก็ต้องขอขอบคุณเค้าที่อุตส่าห์มาซื้อหุ้นต่อจากผม เพราะเวลาตลาดเป็นขาลงหุ้นจะหาคนมาซื้อยาก ขายก็ไม่ได้ราคาดี ส่วนที่จะขายหมูไปบ้างก็ถือว่าให้โอกาสคนที่เค้ากล้าที่จะมาซื้อหุ้นราคาแพงต่อจากผมได้มีโอกาสกำไรบ้าง เพราะถ้าเค้าไม่มาขอซื้อหุ้นจากผม ๆ ก็คงขายหุ้นไม่ได้ ผมควรจะขอบคุณเค้ามากกว่าที่จะมากลัวว่าจะขายหมูไปบ้างครับ การออกก่อนเวลาต้องวิเคราะห์สถานการณ์ฟองสบู่ได้อย่างแม่นยำหรือเปล่าครับ เช่น ถ้าเราวิเคราะห์ว่าที่ SET 1200 จุด อยู่ในช่วงฟองสบู่ หรือคำนวณแล้วว่าหุ้นตัวที่เราถือเกินพื้นฐานไปมาก ถ้าเกิดงานเลี้ยงยืดยาวไปอีกเป็นปีๆ เราอาจจะออกจากตลาดเร็วเกินไปอ่ะครับ
โดย
bennn
พฤหัสฯ. มี.ค. 14, 2013 11:31 am
0
1
Re: 1000 พอร์ตบุคคล (28/12/12 คุณ คีรี กาญจนพาสน์ ที่ 1)
หมอปราเสริฐทำ big lot ไปตอนเดือนตุลา มูลค่าที่ถือ BGH ตอนนี้ก็สามหมื่นกว่าล้าน :shock: รอบหน้ามาแน่ครับ
โดย
bennn
ศุกร์ ธ.ค. 28, 2012 9:42 pm
0
0
Re: ความเข้มแข็งของประเทศ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
บทความนี้ดร. แบ่งการวิเคราะห์ดีมากครับ ขอบคุณครับ
โดย
bennn
อังคาร ธ.ค. 18, 2012 10:37 pm
0
0
Re: จิตสำนึกกับการลงทุน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
[quote="vim"][quote="kabu"]จิตสำนึกกับการลงทุนในหุ้น "โรงพยาบาล" ของอาจารย์น่าสนใจมากครับ ผมเคยสนใจคิดหาข้อมูลหุ้นโรงพยาบาลของประเทศญี่ปุ่นเพื่อลงทุน เพราะมองว่าสังคมคนชราที่ประเทศนี้คงไม่แพ้ประเทศไหน หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ปรากฎว่า ประเทศญี่ปุ่น ไม่ยอมให้เอาโรงพยาบาลเข้าตลาดหุ้น ผมลองไปหาเหตุผลดูเจอว่า เพราะรัฐบาลไม่อยากให้ โรงพยาบาลซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาคนไข้และมีการซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายบางส่วนจากทางรัฐบาล ต้องถูกมองเป็นการถูกบงการได้โดยอำนาจเงิน[/quote] ผมเคยฟังเคสของฝั่งแอฟริกามาครับ ว่าที่นั่นภาครัฐยังไม่สามารถสนับสนุนระบบสาธารณะสุขที่ดีได้ ดังนั้นหลายคนถึงตั้งความไว้ที่ภาคเอกชนที่จะไปลงทุนสร้างโรงพยาบาลราคาย่อมเยาสำหรับประชาชน ถ้าไม่มีโรงพยาบาลเอกชนราคาถูก ผู้ป่วยก็จะไม่มีทางเลือกในการรักษาที่ดี พอกลับมาดูหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในไทย ผมยังไม่เห็นมีโรงพยาบาลไหนประกาศให้ชัดเจนว่าจะเน้นทำประโยชน์ให้สังคมเป็นหลัก มุ่งสร้างกำไรเป็นรอง ถ้าเกิดผมเจอขึ้นมาจริงๆผมก็คงมั่นใจที่จะถือหุ้นได้นานๆครับ ถือว่าเงินลงทุนเราช่วยสังคมทางอ้อม[/quote] ปัญหาแต่ละประเทศนั้นต่างกันครับ ประเทศเราแทบไม่ได้มีการสนับสนุนโรงพยาบาลเอกชนจากภาครัฐครับ ธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจบริการครับ ทีนี้สิ่งที่คนไข้ต้องการมากกว่าการรักษาคือ ความรวดเร็วในการให้บริการ ความสะดวกสบาย การพักในห้องที่ดี เครื่องไม้เครื่องมือที่ดี ทุกอย่างมีต้นทุนครับ และคนไทยก็ต้องการส่วนเพิ่มมาตรงนี้ สังเกตจากความต้องการรักษาในรพ. เอกชน ทีนี้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่ค่ารักษาไปเทียบกับรพ.รัฐ ทำไม่ได้เพราะมีเงินสนับสนุนอยู่มากครับ ต้นทุนมันมีหลายส่วนครับไม่ใช่เฉพาะกำไรของโรงพยาบาลเอกชนอย่างเดียว อุปสงค์อุปทานมีส่วนสำคัญครับ ถ้าบีบให้รพ. ลดค่ารักษาลงซัก 10% โดยที่รพ. แทบจะไม่มีกำไรกันเลย ซึ่งก็จะมีคนบอกว่าค่ารักษายังแพงอยู่ดี สุดท้ายแล้วโรงพยาบาลจะขาดแคลนมากกว่านี้นะครับ โรงพยาบาลราคาย่อมเยานั้นอาจจะทำได้ แต่การลงทุนเครื่องไม้เครื่องมือเพิ่มเติม รวมไปถึงความรวดเร็วในการให้บริการก็ต้องทำใจนะครับ ไม่งั้นระยะยาวก็คงอยู่ไม่ได้(ถ้าไม่มีเงินสนับสนุน) ฉะนั้นเวลาที่ท่านได้รับการรักษาบริการที่ดีขึ้น การรักษาที่ดีขึ้น ด้วยเครื่องมือที่ดี ก็ต้องคิดถึงส่วนนี้ด้วยครับ การที่กล่าวถึงแต่เฉพาะส่วนของธุรกิจโรงพยาบาลโดยไม่ดูภาพรวม คิดว่าไม่ถูกต้องครับ
โดย
bennn
อังคาร ธ.ค. 18, 2012 10:10 pm
0
0
Re: จิตสำนึกกับการลงทุน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เห็นด้วยกับดร. ครับ ถ้าลงทุนแล้วไม่สบายใจก็อย่าลงทุน เท่านั้นเอง เพราะหัวข้อนี้กว้างมาก เป็นเรื่องส่วนบุคคลและสังคมนั้นๆ บางเรื่อง จะคิดให้ถูกก็ได้ผิดก็ได้ อาจไม่มีอะไรขาวหมดจดเลย เช่น ธุรกิจหนังสือ สำนักพิมพ์ ก็มีทั้งสิ่งพิมพ์ที่ดีและไม่ดี มีทั้งหนังสือให้ความรู้ มีทั้งหนังสืิอที่กระตุ้นอบายมุข มอมเมาสังคมได้เหมือนกัน ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ก็อาจจะเป็นธุรกิจที่ช่วยให้คนที่ยากจนหรือเสียเปรียบสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้ครับ
โดย
bennn
อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2012 7:48 pm
0
4
Re: พ่อรวยสอนลูกล้มละลายแล้วครับท่าน !!!!
Rich dad เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ทำให้หนีความคิดของมนุษย์เงินเดือนได้ครับ คนที่เคยเป็นลูกจ้างและมาทำกิจการจะเข้าใจดีว่าแนวคิด 2 ฝั่งต่างกันแค่ไหน (แนวคิดของคนส่วนใหญ่ของแต่ละกลุ่ม) และนักลงทุนแนว VI ก็ควรมีแนวคิดแบบเจ้าของกิจการครับ
โดย
bennn
อาทิตย์ ต.ค. 21, 2012 9:35 pm
0
0
Re: growth หลอกๆ แต่โตจริงๆ
บางทีไปยึดติดกับ pe เกินไปก็ทำให้มองผิดได้นะครับ โดยเฉพาะถ้าเราไม่ได้มองธุรกิจไปข้างหน้า หรือดูกำไรปกติในอดีต ยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ cpn pe อยู่ที่ 100 ราคาขึ้นมา 70% แต่ค่า pe ลดเหลือ 40 ส่วนเรื่องขยายเต็มที่แล้วหรือยังเรื่องนี้ก็พูดกันมานานหลายปีแล้ว เช่น ค้าปลีกเต็มแล้ว มือถืออิ่มตัว อสังหาฟองสบู่ ผมก็เคยมองเรื่อง growth พวกนี้ผิดไปหลายครั้ง
โดย
bennn
ศุกร์ ต.ค. 05, 2012 4:54 pm
0
2
Re: ***แจ้งเตือนการสมัครสมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า***
ผมสมัครไปวันที่ 11 กย ทีมงานตอบกลับมาในวันเดียวกันว่า โปรดรอการติดต่อกลับทาง
[email protected]
ต่อไป แต่ยังไม่มี email มาครับ (ผมได้ email ไปตามสองครั้งวันที่ 15 และวันที่ 19 กย) รบกวนทีมงานเช็คให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ ได้รับการเปลี่ยนสถานะเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณครับ :wink:
โดย
bennn
ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 9:20 pm
0
1
Re: ***แจ้งเตือนการสมัครสมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า***
ผมสมัครไปวันที่ 11 กย ทีมงานตอบกลับมาในวันเดียวกันว่า โปรดรอการติดต่อกลับทาง
[email protected]
ต่อไป แต่ยังไม่มี email มาครับ (ผมได้ email ไปตามสองครั้งวันที่ 15 และวันที่ 19 กย) รบกวนทีมงานเช็คให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
โดย
bennn
ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 3:40 pm
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
Test3
โดย
bennn
พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 11:58 pm
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
test2
โดย
bennn
พุธ ก.ย. 19, 2012 3:07 pm
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
:)
โดย
bennn
จันทร์ ก.ย. 17, 2012 9:29 pm
0
0
Re: ศึกชิงปาก/ ดร.นิเวศน์ เหมวชริวรากร
ขอบคุณครับ ธุรกิจอาหาร อาจจะไม่จำเป็นต้องมีเครือข่ายขนาดใหญ่เสมอไปนะครับ อย่างร้านขายขนมหวานขนมปังจานละร้อยกว่าที่พารากอน หรือร้านขายแพงๆบางร้าน แต่คนยังแน่นต่อคิวกันตลอด เปิดร้านเดียวก็รวยแล้วครับ แต่ก็ต้องมีความสามารถจริงๆ
โดย
bennn
พุธ ก.ค. 25, 2012 6:11 pm
0
0
Re: ศึกชิงเท้า/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณครับ ธุรกิจนี้ location ตัวแปรหลักเลยครับ แต่ถ้าวาง position กับบริหารจัดการ ถ้าทำไม่ดีก็เจ๊งครับ ใจกลางเมืองก็มีมาแล้ว คอมมิวนิตี้มอล บางที่เริ่มแย่แล้วครับ มีคนเยอะเฉพาะตอนเปิดใหม่ๆ ผมว่ามองตอนห้างเปิดใหม่ๆมักจะวิเคราะห์อะไรได้ไม่ค่อยตรงนะครับ คนเห่อกัน บางที่พอบูม คนไปถ่ายรูปกันเยอะช่วง 2 เดือนแรก
โดย
bennn
เสาร์ มิ.ย. 16, 2012 10:24 pm
0
0
Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ดร.คงไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทำสิ่งที่ตนเองรักหรือจำเป็นต้องทำนะครับ แต่น่าจะมองในมุมภาพรวมแบบนักลงทุน ว่าแต่ละงานมันได้ผลตอบแทนต่างกัน และให้เน้นทำในสิ่งสำคัญเพื่อให้ถึงเป้าหมายครับ (ในที่นี้คือเงิน/รายได้) เช่นเดียวกับการมองธุรกิจครับ บางธุรกิจก็ไม่ทำเงิน
โดย
bennn
อาทิตย์ ม.ค. 15, 2012 9:17 am
0
5
Re: perfect stock ในปี 2555 ท่านคิดว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใด
ผมเริ่มก่อนและกันนะครับ 1.อาหาร ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ คนก้ยังต้อง กิน ครับ 2.ค้าปลีกสมัยใหม่ ดูแนวโน้มแล้ว ใน10ปี นี้ โอกาส ที่จะล้มร้านพวกโมเดินเทรดยากมาก เทรนในการบริโภคเปลี่ยนสิ้นเชิง โชว์ห่วยไม่สามารถแข่งขันได้อย่างถาวร 3.ยานยนต์ การผลิตที่ล่าช้าออกไป อาจจะทำให้กลางปี ดีมานท์น่าจะกลับมามากกว่าเดิม 4.อสังหา เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจชั้นยอด ยามที่ต้องการประคองตัวเลข GDP แต่อสังหา แนวราบ ก้อาจจะเด่นน้อยกว่า อสังหาแนวสูง 5.ตลาด MAI กิจการบางอย่างเป็นหุ้นที่ตัวเล็กโตไว โอกาส เติบใหญ่ยังมีครับ ผมคิดว่าเป็นธุรกิจอาหารและค้าปลีกครับ ส่วนอสังหา,ยานยนต์ต้องติดตามดีมานด์อย่างใกล้ชิด
โดย
bennn
อังคาร ม.ค. 03, 2012 1:23 pm
0
0
Re: ลอกคราบ วอเรน บัฟเฟต (Warren Buffet)
เป็นบทความที่มองต่างมุม สรุปเอาเอง แบบไม่สมเหตุสมผลครับ ไม่มีคุณค่าแก่การอ่านเท่าไรครับ โดยเฉพาะข้อความ มีเว็บไซต์นึงว่าเขาเป็นตัวอย่างของพวก Buccaneer of Capitalism ที่คอยปล้นสดมภ์โดยใช้เครื่องมือของระบบทุนนิยม ทั้งๆ ที่กิจการ Berkshire นั้น มิได้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจเลย เขาเป็นเพียง “แมงป่องที่ขี่หลังเต่า” เท่านั้นเอง เพราะถ้าไม่มีบริษัทแบบ Berkshire ระบบเศรษฐกิจโดยรวมก็ไม่กระทบอันใดเลย ดังนั้นคนอย่าง Warren Buffet ก็เป็นแต่เพียง “กาฝาก” เท่านั้นเอง เมื่อลองพิจารณาพอร์ตโฟลิโอของ Bershire แล้ว ผมก็เริ่มเห็นด้วยกับความข้อนี้เช่นกัน ดูพอร์ตโฟลิโอแล้วเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประกัน เลยเห็นด้วยกับคำกล่าวอ้าง? ธุรกิจประกันไม่มีประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ?
โดย
bennn
เสาร์ ธ.ค. 10, 2011 12:00 am
0
0
Re: สรุปว่า ตกรถแล้วใช่ไหม
คิดว่าเป็นเรื่องของความโลภกับความกลัวครับ ตอนปลายเดือน กย. ที่กลัวปัญหายุโรปแล้ว SET ลงหนัก มีหลายกระทู้ว่าควรทำยังไงดีกับสถานการณ์ในตอนนั้น หลายท่านก็แนะนำให้ถือเงินสดครับ พอคนเรากลัวก็มองว่าให้ถือเงินสด กลัวติดดอย พอโลภก็ถือหุ้น กลัวตกรถ ทางที่ดีประเมินธุรกิจเป็นตัวๆไป ลงทุนแบบ VI แล้วเรียนรู้จากอดีต กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆครับ
โดย
bennn
พุธ ธ.ค. 07, 2011 3:45 pm
0
1
Re: น้ำท่วมในโรงงานที่เราถือหุ้นอยู่ถือว่าพื้นฐานเปลียนหรือไ
คำถามที่น่าสนใจก็คือ 1. ถือว่า บริษัทมีพื้นฐานเปลียนหรือไม่ 2. ในกรณีคิดว่าระยะยาวพืั้นฐานไม่เปลี่ยน ถ้าคุณถือหุ้นอยู่ คุณจะ ขายหุ้น(ซึ่งอาจจะกำไรอยู่หรือขาดทุนนิดหน่อยแล้วแต่กรณี) หรือไม่ แล้วค่อยมารอซื้อใหม่หลังจากพ้นปัญหานี้ หรือว่า ยืดหยัดถือหุ้นต่อไป ไม่สนใจ เรามันวีไอ ไม่สนใจผลกระทบระยะสั้นอยู่แล้ว ^ ^ 1. ถือว่าเปลี่ยนครับ แต่เปลี่ยนมากน้อย ต้องมาคิดถึงตัวแปรอื่นๆที่เคยวิเคราะห์เอาไว้ในตอนที่ซื้อ(ความสามารถในการแข่งขัน, know how, คู่แข่ง, ลักษณะสินค้า, ความสัมพันธ์กับคู่ค้า,...,...) แล้วสรุปว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร 2. ถ้าเคยวิเคราะห์ไว้เป็นอย่างดีแล้วก่อนที่จะซื้อหุ้น (รวมไปถึงความเสี่ยงของโรงงานหลักที่จะเสียหาย, เรื่องการเงิน,...) สัดส่วนหุ้นในพอร์ตเราก็น่าจะกระจายความเสี่ยงเอาไว้แล้ว กรณีนี้ถือไว้ไม่ขายครับ
โดย
bennn
พุธ ต.ค. 12, 2011 8:38 pm
0
1
Re: จะซื้อหรือจะขายหุ้น/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ประเด็นก็คือ เป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์ได้ถูกต้องว่าหุ้นที่ได้ปรับตัวลงมาอย่างหนักแล้ว จะตกลงต่อไป ประสบการณ์ในทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ “วิกฤติ” และทำให้หุ้นตกลงมารุนแรงนั้น ก็จะมีช่วงเวลาที่หุ้นจะ “กระเด้ง” ขึ้นมารุนแรงเป็นช่วง ๆ และก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าหุ้นจะขึ้นไปเลยหรือจะตกลงไปใหม่อีก ที่ยิ่งยากไปกว่านั้นก็คือ หุ้นตัวที่เราถืออยู่อาจจะมีพฤติกรรมการขึ้นลงแตกต่างจากภาวะตลาดโดยรวมด้วย นั่นคือ หุ้นตัวที่ถืออยู่อาจจะแย่หรือดีกว่าตลาด ทำให้การวิเคราะห์ภาวะตลาดได้ถูกต้องนั้น ไม่มีประโยชน์ เช่น ดัชนีตลาดอาจจะลงต่อ แต่หุ้นที่เราถืออยู่บางตัวอาจจะปรับตัวขึ้นไปแล้ว ดังนั้น ถ้าเราขายหุ้นไปโดยหวังว่าหุ้นจะลงแล้วเราเข้าไปซื้อกลับมาก็จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ในช่วงที่หุ้นขึ้นลงแรงๆมักมีการคาดการณ์อยู่มากมาย ขอบคุณครับดร. :8)
โดย
bennn
อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 11:49 pm
0
0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
ถ้าช็อตเพื่อมุ่งหวังประโยชน์อย่างข้อเขียนที่กล่าวมาก็เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ถ้าเป็นเครื่องมือใช้โจมตีของผู้ที่มีกำลังมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเก็งกำไร หรือหลักทรัพย์ต่างๆ รายย่อยก็จะเสียเปรียบยิ่งขึ้นครับ แม้ตลาดที่พัฒนาแล้วการสร้างสินค้าทางการเงินที่ซับซ้อนและปล่อยอิสระมากๆ ก็เป็นอันตรายกับคนส่วนใหญ่ครับ
โดย
bennn
พุธ ต.ค. 05, 2011 10:04 pm
0
1
Re: สถานการณ์ตอนนี้ เหมาะกับการ?
เหมือนว่าคนส่วนใหญ่ยังระวังๆกันอยู่นะครับ ตอนที่ผมโหวตนี้มีคนโหวตแล้ว 33 คะแนน ไม่มีใครแนะนำให้ใช้มาร์จินเลย และมีเพียง 9% ที่แนะนำให้ถือหุ้น 100% แถมข้อที่ได้คะแนนมากที่สุดถึง 36% ยังแนะนำให้มีเงินสดไว้บ้าง นอกจากนั้นยังมีคนแนะนำให้ออกจากตลาดไปขายเต้าฮวยอีกด้วย สภาพอารมณ์คนในตลาดตอนนี้ต่างกันกับเมื่อเดือนก่อนราวฟ้ากับดิน เพียงไม่กี่วันความรู้สึกคนจำนวนมากก็เปลี่ยนไปพร้อมๆกันได้ เหมือนที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ราคาเปลี่ยน อารมณ์ก็เปลี่ยน" จำนวนคนโหวตที่ยังไม่มากนัก ไม่รู้ว่าแบบนี้จะสรุปได้แล้วยังว่าคนส่วนใหญ่กำลังกลัวกันอยู่ และจะเข้าหลักการว่าให้กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัวได้แล้วยัง เพราะคงไม่มีใครรู้จริงๆว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่ไหน ยังไงก็คงได้แต่ Stay calm Stay invest ต่อไป :D ปล. ผมโหวต 1 กับ 10 ครับ :D โหวต 1 กับ 10 ครับ อยากรู้ว่าถ้าตลาดลงไปเรื่อยๆ จะมีคนโหวตข้อถือเงินสดลดลง (เพราะว่าต้องเอาเงินไปซื้อหุ้น จนสุดท้ายกลายเป็นถือหุ้น 100%) หรือผลโหวตจะตรงกันข้าม คือหุ้นยิ่งลง ยิ่งโหวตข้อถือเงินสดมากขึ้น!? (เพราะกลัวจะลงไปอีก)
โดย
bennn
พุธ ก.ย. 28, 2011 9:04 pm
0
0
ดอกเบี้ยผ่อนบ้านกับการลงทุน
ผมคิดว่าสภาพคล่องสำคัญกว่าครับ เมื่อมีเงินก็มีทางเลือก ถ้าปีก่อนผมเอาเงินสดไปซื้อบ้านแทนการผ่อน ตอนนี้คงไม่มีเงินลงทุน เครียดหนักไปแล้ว :8)
โดย
bennn
ศุกร์ ก.ย. 03, 2010 1:37 pm
0
0
กลุ่มยานยนต์มีตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ
[quote="ziannoom"][quote="bennn"][quote="eupatcha"]เค้าเรียกใกล้เกลือกินด่างมั้ยน่ะ ผมทำงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ไม่เห็นสนใจหุ้นกลุ่มนี้เลย แต่ละ Program ก็จบเร็ว 4-5 ปี เห็นแต่ AAT ล่ะลากยาว จบโปรแกรมเสร็จก็ต้อง qoute แข่งราคากันใหม่ ใครถูกที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ตามสัญญาซื้อขายก็กำหนดว่าทุกปีต้องลดราคา 1.5 - 2 % แถมมี Project VA/VE, 6-Sigma, improvement ที่จะสรรหา ตั้งชื่อให้ต่างๆกัน สรุปสุดท้ายเพื่อให้ Supplier ลดราคา ไม่ลดราคาให้ก็ยก Mold ยก Die หนีไปให้เจ้าอื่นซ่ะนั่น กำ...
โดย
bennn
อังคาร ม.ค. 19, 2010 10:54 pm
0
0
กลุ่มยานยนต์มีตัวไหนน่าสนใจบ้างคะ
[quote="eupatcha"]เค้าเรียกใกล้เกลือกินด่างมั้ยน่ะ ผมทำงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ไม่เห็นสนใจหุ้นกลุ่มนี้เลย แต่ละ Program ก็จบเร็ว 4-5 ปี เห็นแต่ AAT ล่ะลากยาว จบโปรแกรมเสร็จก็ต้อง qoute แข่งราคากันใหม่ ใครถูกที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ตามสัญญาซื้อขายก็กำหนดว่าทุกปีต้องลดราคา 1.5 - 2 % แถมมี Project VA/VE, 6-Sigma, improvement ที่จะสรรหา ตั้งชื่อให้ต่างๆกัน สรุปสุดท้ายเพื่อให้ Supplier ลดราคา ไม่ลดราคาให้ก็ยก Mold ยก Die หนีไปให้เจ้าอื่นซ่ะนั่น กำ...
โดย
bennn
เสาร์ ม.ค. 09, 2010 10:47 pm
0
0
Re: ดีกว่าไหมที่จะเลิกกิจการ
มีคนเคยเปรียบ Margin of Safety เหมือนการ ซื้อแบงค์ร้อย ในราคา ห้าสิบบาท ถ้าเป็นการซื้อในปัจจุบัน ก็น่าสนใจมาก แต่ถ้ารู้ว่า อนาคต แบงค์ร้อยจะมีการเสื่อมมูลค่าลง ( เปรียบกับธุรกิจที่ going-concern value น้อยกว่า liquidation value) แบบนี้ ในมุมมองนักลงทุน น่าจะเชียร์ให้บริษัทเลิกกิจการดีกว่าไหมครับ ปันผลออกมาบ้างจะดีกว่าครับ ดูปัญหาแล้วมาแก้ไขให้ตรงจุด อาจจะเป็นเรื่องบริหารจัดการ ตำแหน่งของสินค้า หรืออื่นๆ การเลิกกิจการไปเลย ทั้งๆที่ลูกค้าก็มี อยู่ในธุรกิจมานาน เสียค่าเสียโอกาสไปเปล่าๆครับ
โดย
bennn
เสาร์ ก.ค. 25, 2009 8:32 pm
0
0
น่าจ่ายตลาด... หรือยัง
พี่Bennครับ ผมคิดว่าไม่ต้องถูกทุกครั้งก็ได้ครับ ขอแค่ครั้งใหญ่ๆสักรอบ ก็เพียงพอแล้วครับ ช่วง 40 ถึงตอนนี้ก็สร้างเศรษฐีใหม่หลายคนเพราะเค้ามีทุนมาลงทุนหลังวิกฤตได้ครับ ไม่จำเป็นต้องรวยที่สุดก็ได้ครับ ผมหมายความว่าไม่มีใครรู้จริงในแง่ของเวลาครับ ว่าตลาดจะขึ้นหรือจะลงเมื่อไรเป็นระยะเวลาเท่าไรครับ นอกจากเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นไปแล้วเราก็จะบอกได้ครับ(เช่นครั้งนี้ตลาดลงยาว) ถ้าสมมุติว่าเริ่มเป็นขาขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าการขึ้นครั้งนี้จะเป็นรอบใหญ่จริงหรือเปล่าครับ คนที่เค้ารวยขึ้นมาได้จากหลังช่วง 40 หลายคน ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้ารู้ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงเมื่อไร เป็นระยะเวลายาวหรือสั้นเท่าไรครับ
โดย
bennn
เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:18 pm
0
0
น่าจ่ายตลาด... หรือยัง
[quote="AuI_a VI"] :8)
โดย
bennn
จันทร์ มี.ค. 02, 2009 1:26 pm
0
0
สถานการณ์เป็นแบบนี้ คุณรู้สึกว่าลงทุนผิดพลาดหรือเปล่า
ขาดทุนยังเยอะอยู่ครับ แต่ก็ซื้อตอนมันลงไปเรื่อยๆ จนเต็มพอร์ต รู้สึกพอใจตรงที่ได้ซื้อของดีในราคาที่ไม่น่าเชื่อครับ เพราะถ้าให้ทายว่าเมื่อไรหุ้นจะขึ้นจริง หรือเมื่อไรจะลงสุดแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ครับ
โดย
bennn
พุธ พ.ย. 05, 2008 9:59 pm
0
0
วันนี้พอร์ต ของท่าน ลดไปแล้ว กี่ %
40% ครับ
โดย
bennn
จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:58 pm
0
0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
อาจมีส่วนบ้างครับ ถ้าไม่รู้จักการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม แต่ส่วนหลักน่าจะเกิดจากความโลภของคนมากกว่าครับ
โดย
bennn
พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 10:45 pm
0
0
โอกาสทองในรอบทศวรรษ
เช่นกันครับ ถือ และ เก็บเพิ่มจนเต็มพอร์ต บางคนบอกให้ลงทุนตอนขาขึ้น และไม่ให้รับตอนขาลง เดี๋ยวก็ขึ้น แป๊ปๆ เดี๋ยวก็ลง เดี๋ยวขึ้นยาว เดี๋ยวลงยาว จะยาวถึงไหน ผมว่ามันก็คาดการณ์ยากทั้งสองขานั่นแหละ ปล.หวังว่าผมคงรอด :lol:
โดย
bennn
ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 9:33 pm
0
0
หยุดการซื้อขายชั่วคราวแล้วจ้า -10% !!
นั่งติดตามอยู่มันจริงๆครับ on sale เหมือนของตามห้าง ช่วยยันจนหมดแล้วเหมือนกัน :oops:
โดย
bennn
ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 4:25 pm
0
0
วิกฤติหรือโอกาส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
แล้วการที่ดูว่าเราขาดทุนในปีนี้เพียงปีเดียว ถือว่าไม่รอด อาจมองสั้นไปหรือเปล่าครับ
โดย
bennn
พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 9:45 am
0
0
วิกฤติหรือโอกาส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ถ้าเราใช้หลักการของ vi อยู่แล้ว บทความนี้ก็ไม่น่าส่งผลเสียอะไรนี่ครับ โอกาสทอง แต่ถ้าเรายังมองไม่เห็นโอกาสก็ยังไม่ต้องซื้อก็ได้ หรือถ้าเราคิดว่าบริษัทที่เราถือกำลังย่ำแย่ก็ควรขาย แต่บริษัทนั้นเป็นขาลงจริงหรือเปล่า หรือไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือเปล่าก็ต้องดูให้ดีอ่ะครับ
โดย
bennn
พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 9:40 am
0
0
## งบปี SUC มาแล้วจ้า (รอตั้งนาน) ##
ทำไม q4 น้อยกว่า q อื่นเนอะ ปล. ผมว่า 1.25 บาท ต่อหุ้นแน่เลยครับสำหรับปันผล ถ้ายังงั้น จะเก็บเงินไว้ทำไมตั้งเยอะล่ะครับ :shock: เฮ้อ ไม่น่านะ
โดย
bennn
พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 10:00 am
0
0
ช่วยวิเคราะห์ Jtsให้ด้วยครับ
จากประสบการณ์ของผมนะครับ การคาดการงานประมูลและการประมาณการกำไรของบริษัท IT เป็นเรื่องที่ยากมากครับ เช่นปีที่ผ่านมาบริษัทผมหวังรายได้เท่านี้ จากโปรเจ็คนี้ สินค้านี้ เอาจริงๆกลับได้ตรงตามคาดแค่ 50% เท่านั้น รายได้อื่นจากงานที่ไม่ได้คาดเอาไว้ กลับเข้ามาเยอะพอสมควร ประมาณว่างานไหน ลงทุนลงแรงเยอะ กลับได้กำไรน้อยแฮะ เป็นอย่างนี้มา 2-3 ปีแล้วครับ เห็นบริษัทไหนที่คาดรายได้ กำไรยาว 3-5 ปี เชื่อถือได้ยากเหมือนกันนะผมว่า
โดย
bennn
อังคาร ก.พ. 27, 2007 11:27 am
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
[email protected]
ขอบคุณครับ :)
โดย
bennn
จันทร์ ก.พ. 26, 2007 4:01 pm
0
0
ผมคิดว่าพวกเราน่าจะฟ้อง ธปท.นะครับ
แล้วการทำธุรกิจส่งออกมีความเสี่ยงไหมครับ ทำธุรกิจส่งออกแล้ว
โดย
bennn
พุธ ธ.ค. 20, 2006 10:53 am
0
0
VI ควรบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ครับ
ผมคิดว่าต้องดูธุรกิจเป็นรายตัวไปครับ มีหลายธุรกิจในบ้านเราอาศัยต่างชาติพอสมควร เหตุการณ์ครั้งนี้ (หรือครั้งก่อนๆ) ทำให้ธุรกิจบางอย่างมีผลกระทบครับ(ทั้งแง่บวกและแง่ลบ) หรือบางตัวแทบไม่มีผลกระทบครับ
โดย
bennn
ศุกร์ ก.ย. 22, 2006 4:37 pm
0
0
อิสระภาพทางการเงิน
ครอบครัวหนึ่งมี พ่อ แม่ ลูกสองคน มีบ้านหนึ่งหลัง มีรถหนึ่งคันแล้ว จะต้องมี Wealth เท่าไรถึงจะเรียกว่ามีอิสระภาพทางการเงิน? (สมมติว่าพ่อใจถึงต้องการเก็บ Wealth ทั้งหมดไว้ในตลาดหุ้นตลอดเวลา) ผมคิดว่าน่าจะมีซัก 50 ล้านนะครับ สำหรับหุ้นราคาปกติ ต้องมี margin of safety เผื่อไว้ในปีที่ไม่มีการปันผล และต้องการเก็บ Wealth ทั้งหมดไว้ในตลาดหุ้นตลอดเวลา เห็นด้วยครับ ต้องรู้จักพอครับ ถ้าไม่รู้จักพอมีเป็นหมื่นล้าน ก็ไม่มีอิสรภาพครับ ผมว่าหมื่นล้านเรียกว่ามีอิสระภาพแล้วนะครับ ถึงจะรู้จักพอ แต่ทุกคนก็ต้องทำงานครับ
โดย
bennn
พุธ ส.ค. 23, 2006 9:48 am
0
0
เพื่อนๆหวังความสำเร็จจากการลงทุนมากน้อยแค่ไหน
มั่นใจชนะเงินฝากครับ แต่ไม่มั่นใจเรื่องอิสรภาพจากการลงทุน เพราะจำเป็นต้องถอนเงินไปใช้ในช่วงสามปีนี้ครับ :?
โดย
bennn
อังคาร ส.ค. 22, 2006 5:38 pm
0
0
บลจ.ต่างๆประมาณการยอดขาย ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสัก 5 ปีได้ยังงัย
ผมคิดว่าแต่ละธุรกิจประมาณได้ยากง่ายแตกต่างกันนะครับ ธุรกิจที่ต้องประมูลงาน หรือต้องลุ้นการสั่งซื้อของลูกค้าจะประมาณยากครับ ธุรกิจที่ต้องผลิตสินค้าต้องดูปัจจัยในที่มีผลกระทบครับ ต้นทุนหลักมาจากอะไร ยิ่งประมาณไกลๆ โอกาสตรงแทบจะไม่มี ธุรกิจที่ขายได้เรื่อยๆ ไม่มีคู่แข่งใหม่อย่างเช่น มาม่า ก็จะประมาณการง่ายกว่าเยอะครับ
โดย
bennn
อังคาร ส.ค. 22, 2006 5:28 pm
0
0
ใครถือ CM บ้างครับ
เคยถือเมื่อสี่ปีก่อนครับ จำได้ว่าที่ซื้อตอนนั้นเพราะ ข้อดี 1.มีงบดุลแข็งแกร่ง หนี้น้อยมาก 2.เป็นหุ้นก้นบุหรี่ p/b ต่ำ 3.เป็นหุ้นปันผลเพราะปันผลดีมาก แม้ในปีที่ขาดทุนก็ยังอุตส่าห์เอากำไรสะสมมาจ่ายปันผล เหมือนกันเลยครับ ซื้อช่วงต้นปี 45 เลือก CM เพราะหนี้น้อยกับปันผลดี แต่ของผมถือไม่กี่เดือน ขายไปหลังปันผลเลย เพราะเหมือนรายงานจะบอกว่าจะโดนเรื่องกดราคาขาย.. ช่วงนั้นผมมักถือพวกธุรกิจเกษตร( CM, LEE, CPF) และผมขาดทุน CPF เยอะมากเลย
โดย
bennn
อาทิตย์ ส.ค. 20, 2006 8:44 pm
0
0
SUC งบไตรมาส 2 ออกแล้วนะครับ
ดูๆเหมือนกำไรจะใช้ได้นะครับ แล้วตัวเลขอื่นล่ะครับ อย่างสินทรัพย์ กำไรสะสม หนี้สิน เงินสด พี่ๆมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
โดย
bennn
พุธ ส.ค. 16, 2006 9:15 pm
0
0
129 โพสต์
of 3
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
bennn
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ พ.ค. 28, 2006 8:40 am
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร ก.พ. 26, 2019 9:30 am
โพสต์ทั้งหมด:
412 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.06 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว