หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
ADIPOON
Joined: จันทร์ พ.ย. 26, 2018 10:54 am
4
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - ADIPOON
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: สอบถามเรื่อง D0 ใน DividendDiscountModel
ถ้าตามหลักการคือใช้ปีล่าสุดครับ แต่มีข้อสังเกตุดังนี้ครับ DDM จะใช้ได้ดีสุดคือกับหุ้นที่มีสมมติฐานว่า ปันผลสม่ำเสมอครับ และอาจจะค่อยๆเติบโตเรื่อยๆ ซึ่งไม่เหมาะกับบริษัทอสังหาที่ผลประกอบการขึ้นๆลงๆครับ จะเห็นได้ว่ามันขึ้นๆลงๆเป็น seasonality ครับ valuation ที่ออกมาจะไม่ reflect จุดนี้ครับผม
โดย
ADIPOON
จันทร์ มิ.ย. 10, 2019 3:41 pm
0
0
Re: บันทึกการลงทุน 2: Discount Rate, CAPM, กับ Buffet
บันทึกการลงทุน 2: Discount Rate, CAPM, กับ Buffet “การวัดความเสี่ยงด้วยค่า beta นั้นเป็นอะไรที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่นักวิชาการเคยคิดมา” Warren Buffet เคยกล่าวไว้ แต่ทำไมเจ้าพ่อแห่งวีไอถึงได้วิจารณ์ค่าที่คนส่วนใหญ่ในอุตสหกรรมการเงินใช้กัน และเป็นสิ่งที่สอนกันในทุกมหาวิทยาลัยแรงขนาดนี้ จริงๆแล้ว Buffet เองก็ใช้วิธีการ DCF เหมือนคนอื่นๆในการหามูลค่าของหุ้น สิ่งที่เค้าทำไม่เหมือนคนส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่ Discount rate ต่างหาก สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการหามูลค่าของหุ้นแบบ DCF ก็คือ discount rate น่าที่ของ discount rate จริงๆแล้วตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก คือการที่เราจะวัดมูลค่าของเงินในอนาคตมา ณ มูลค่าปัจจุบัน สูตรการคำนวณ discount rate ที่ buffet มีปัญหาด้วยจริงๆคือตัว Cost of Equity ซึ่งคนทั่วไปยอบรับกับการคำนวณด้วย CAPM (Cost of Equity = Rf + B[Rm-Rf]) ซึ่งแปลได้ว่า ถ้าหุ้นตัวนั้นๆมีค่า Beta ที่สูง (ยิ่งราคาเหวี่ยงกว่าตลาดโดยรวม beta ยิ่งสูง) เราก็ควรคิดลดเงินสดในอนาคตให้มากขึ้นเพื่อจะชดเชยความเสี่ยงนี้ด้วย แน่นอนอย่างที่บอกไป Buffet คิดว่าเรื่องนี้ช่างไร้สาระสิ้นดี ปู่เคยบอกให้ลองคิดดีๆว่าถ้ามีหุ้นสองตัว หุ้นตัวแรกราคาไม่ค่อยขยับเลยแต่เป็นหุ้นที่พื้นฐานแย่มากๆ ค่า Beta ก็จะต่ำไปด้วย แต่มันแปลว่าหุ้นตัวนั้นความเสียงน้อยกว่าหุ้นอีกตัวที่ราคาเหวี่ยงสุดๆ พื้นฐานดี และเหวี่ยงในราคาที่ถูกอีกต่างหาก มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ฉะนั้นแล้วทั้ง Buffet และ Munger ทั้งคู่มองว่าการที่ทุกๆคนในสายการเงินยอมรับเรื่องนี้เป็นอะไรที่ประหลาดอย่างสิ้นเชิง แล้วปู่ทั้งสองใช้ค่าอะไรกันแน่สำหรับ cost of equity? Buffet นั้นบอกว่าเค้าใช้ค่าของผลตอบแทนที่สูงที่สุดที่เข้าจะทำได้ถ้าเกิดว่าเค้าไม่ได้เอาเงินนี้ไปลงในหุ้นตัวนั้นๆ เค้าให้เหตุผลว่า ถ้าจะลงทุนในอะไรซักอย่างนึง ก็ต้องลงทุนในอะไรที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าที่เค้าจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นสิถึงจะถูกต้อง ถ้าเราลองตีความจากตรรกะแบบนี้ เราจะเห็นได้เลยว่า Buffet ไม่เคยคิดถึงความเสี่ยงของตัวบริษัท เพราะการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับบริษัทที่เพียงพอ และการทำ Forecast ที่ไม่เว่อรเกินไปนั้น ก็จำกัดความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เค้ายังใช้ Margin of Safety หรือการที่จะซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้อีก ฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีอะไรจะสมเหตุสมผลไปกว่าการที่จะใช้ Discount rate เพื่อหาราคาที่เหมาะสมในการลงทุนของคนนั้นๆเอง เค้าควรจะซื้อในราคาที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าการเอาเงินไปวางไว้ที่อื่น ไม่เกี่ยวข้องกับตลาด หรือค่า Beta เลยซักนิด แก้สูตรผิดครับ
โดย
ADIPOON
พฤหัสฯ. พ.ค. 23, 2019 7:13 am
0
2
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
ADIPOON
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ พ.ย. 26, 2018 10:54 am
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ มิ.ย. 18, 2021 5:01 pm
โพสต์ทั้งหมด:
4 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.00 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว