หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
arm10182
Joined: อังคาร ต.ค. 02, 2018 1:25 pm
1232
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - arm10182
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: สรุปไอเดียจากหนังสือ 100 Baggers by Christopher W. Mayer
ขอบคุณจขกท.มากครับ ที่ทำสรุปมาให้ เป็นประโยชน์มากเลยครับ
โดย
arm10182
เสาร์ มิ.ย. 19, 2021 10:59 pm
0
0
Re: มีโบรกเกอร์ไหนทำบทวิเคราะห์กลุ่มอุตสาหกรรมดีๆบ้างครับ
ส่วนตัวผมติดตามจากของธนาคารกรุงศรีครับ https://www.krungsri.com/th/research/industry ถ้าท่านอื่นมีที่ไหนน่าสนใจก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ
โดย
arm10182
ศุกร์ พ.ค. 21, 2021 10:08 am
0
5
Re: หุ้นโรงไฟฟ้าระหว่างหุ้นของไทยกับฮองกง และแนะนำโบรกตปท.ค่าคอมถูก
ขอบคุณมากครับ
โดย
arm10182
ศุกร์ พ.ค. 21, 2021 9:43 am
0
0
Re: ชวนมาร่วมโหวต-โครงการถอดเทป Oppday by ThaiVI 30 : Q1/2021
PSL PTL TTA IVL KEX HANA (พวกกลุ่มที่ present oppday ภาษาอังกฤษ ฟังแล้วใช้พลังเยอะมาก ถ้ามีคนถอดเทปให้ +-แปลให้ จะเยี่ยมมากเลยครับ)
โดย
arm10182
จันทร์ เม.ย. 12, 2021 2:10 pm
0
2
Re: Research Paper ของ Industry ปกติหาจากไหนหรอครับ
ในโบรกใหญ่ๆมีบทวิเคราะห์อุตสาหกรรมอัพเดตอยู่เรื่อยๆนะครับ ทั้ง scbs kbank bls แต่ส่วนตัวชอบอ่านของธนาคารกรุงศรีเพราะมีตั้งแต่ปูพื้นเรื่องการดำเนินงานของธุรกิจในอุตสาหกรรมเลยครับ
โดย
arm10182
พฤหัสฯ. เม.ย. 01, 2021 2:08 pm
1
7
Re: กองทุนหุ้นETF ที่ลงทุนตลาดหุ้นประเทศจีน
ถ้ามีพอร์ทต่างประเทศ มองว่า etf ตัว iShares Hang Seng TECH ETF ในตลาดหุ้น HK น่าสนใจครับ (ตัวย่อ 3067 / 9067 :Hang Seng) พอร์ทหลักๆมี Name Weight (%) XIAOMI CORP 9.17 KUAISHOU TECHNOLOGY 7.89 ALIBABA GROUP HOLDING LTD 7.81 TENCENT HOLDINGS LTD 7.69 MEITUAN 7.51 JD.COM CLASS A INC 6.84 SUNNY OPTICAL TECHNOLOGY LTD 6.31 JD HEALTH INTERNATIONAL INC 6.10 ALIBABA HEALTH INFORMATION TECH LT 4.45 SEMICONDUCTOR MANUFACTURING INTERN 4.31 ค่าธรรมเนียม Management Fee 0.25% ต่อปี ยาวๆ tech จีนคงไปต่อได้ครับ แต่มีความเสี่ยงเรื่องนโยบายภาครัฐอยู่ ปีที่ผ่านมาราคาหุ้น tech จีนขึ้นมาเยอะพอควร ตอนนี้ก็เริ่มพักฐานลงไปบ้าง
โดย
arm10182
อังคาร มี.ค. 30, 2021 11:35 pm
0
2
Re: กอง Reit ทำไมราคายังปรับขึ้นตามหุ้นไม่ทัน ทั้งที่ yieldสูง
ส่วนนึงน่าจะมีความกังวลเรื่อง bond yield จะขึ้นครับ ถ้าดอกขึ้น risk free rate จะเพิ่ม เวลามา valuation พวกreit(ขออนุญาตเรียกรวมๆกองอสังหาว่า reit ไปเลยนะครับ) จะได้มูลค่าที่ลดลง อีกอย่าง พวกนี้มันไม่หวือหวาเท่าหุ้นรายตัวบางอัน เพราะไม่เน้นเติบโต ค่าเช่า ปรับขึ้น3ปีครั้งตามเงินเฟ้อ อีกอย่างคือ ช่วงที่ผ่านมาที่ reit ราคาขึ้น เพราะคนแห่ไปซื้อพวกกองทุนอสังหา เพราะช่วงนั้นผลตอบแทนย้อนหลังสูง คนเลยแห่ซื้อตามๆกัน ผลคือ พวกนี้สภาพคล่องต่ำเลยโดนดันไปสูงขึ้นไปอีก แต่ช่วงโควิดคือตกหนักจนหลายๆคนขาดทุนไปตามๆกัน คนที่ไม่ได้เตรียมใจรับการขาดทุนก็ขายกองออกกันมา +พอตอนนี้ ผลตอบแทนย้อนหลังมันเริ่มไม่สวย คนก็เลยไม่ค่อยอยากซื้อกันเท่าไร (หันไปซื้อ ARK หรือเทคตามๆที่บลจโฆษณากัน)
โดย
arm10182
อังคาร มี.ค. 30, 2021 11:26 pm
1
3
Re: น่าจะมี Berkshire Hathaway ขายในไทย
ถ้ามีจริงก็น่าสนใจนะครับ แต่ถ้าโดนค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1-1.5% +ค่าธรรมเนียมรายปี 1-2% ก็ไปซื้อจากตลาด us เองน่าจะคุ้มกว่านะครับ (ถ้าเงินลงทุนต่อไม้หลักแสนขึ้น)
โดย
arm10182
จันทร์ มี.ค. 29, 2021 12:09 am
0
0
Re: **วันนี้ 10.00 น. เปิดรับ 15 ที่นั่ง CV@ITEL**
จอง 1 ที่ เดินทางไปเองครับ
โดย
arm10182
ศุกร์ มี.ค. 26, 2021 10:02 am
0
0
Re: **วันนี้ 10.00 น. เปิดรับจอง 15 ที่นั่ง CV@MC (วิสิท 3 มี.ค.64)**
จอง 1 ที่เดินทางเองครับ
โดย
arm10182
จันทร์ ก.พ. 15, 2021 10:02 am
0
0
Re: ทำไมค่า p/e ของกองทุน etf ติดลบคะ
รบกวนถามค่ะ คือสงสัยว่าทำไมค่า p/e ของกองทุน etf ติดลบคะ แปลว่ากองทุนไปลงทุนในหุ้นที่ขาดทุนรึเปล่าคะ หรือมาจากการดำเนินงานของกองทุนเองคะ ถ้าแบบนี้ คือเาไม่ควรลงทุนรึเปล่าคะ ขอบคุณค่ะ รบกวนยกตัวอย่างกองได้ไหมครับ แต่โดยคร่าวๆก็คือ กองทุนบางกองไปลงทุนในหุ้นกลุ่ม Tech หรือ Health-tech หรือหุ้นที่คาดหวังอนาคต ซึ่งหุ้นพวกนั้นหลายๆตัวยังทำกำไรไม่ได้ สาเหตุหนึ่งก็คือมีการลงทุนเยอะ ค่าเสื่อมเยอะ ถ้าเป็นกรณีนี้อาจจะต้องไปดูพวก EV/EBIDA หรือ P/S แทน ส่วนที่ว่าควรลงทุนไหม อันนี้แล้วแต่ความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มนั้นครับ อย่างหุ้นรถEVบางตัว งบปีก่อนหน้านี้ก็แทบไม่เคยกำไรมาก่อน แต่ราคาหุ้นก็ขึ้นไปหลายเด้งได้ใน1ปีครับ (ขึ้นได้จากความคาดหวังอนาคต) ปล.แต่หุ้นบางกลุ่มก็อาจจะรับความคาดหวังเยอะไปจนเกิดเป็นฟองสบู่ได้ เพราะงั้นต้องดูว่ากองนั้นถือหุ้นตัวไหนบ้างแล้วหุ้นเหล่านั้นแพงไปหรือยังครับ
โดย
arm10182
พฤหัสฯ. ธ.ค. 31, 2020 10:37 pm
0
2
Re: ค่ารักษาพยาบาลส่งต่อ ?
ถ้าเข้าใจจากคำถามจขกท.ไม่ผิดนะครับ มันคือเงินส่วนต่างที่รพ.นั้นเบิกจากสิทธิการรักษาของคนไข้ไม่ได้ เวลาเคสยากที่เกินความสามารถของรพ. ทางรพ.นั้นจะต้องส่งเคสไปยังรพ.ที่ระดับสูงกว่า โดนทางรพ.ระดับสูงกว่าจะเรียกเก็บค่ารักษาจากรพ.ที่ส่งต่อคนไข้ (แต่ถ้าเป็นเคสเงินสดทางผู้ป่วยจะเป็นคนจ่ายเอง) โดยรพ.ที่ส่งต่อสามารถไปเรียกค่ารักษาตามสิทธิคนไข้ได้แต่ค่าที่เบิกได้ก็ขึ้นกับแต่ละโรค (ซึ่งมักจะได้น้อยกว่าที่รพ.ระดับสูงกว่าเรียกเก็บ) ส่วนตัวมองว่าเป็น variable cost ครับ ยิ่งส่งต่อเคสยากเยอะ ยิ่งเสียเงินเยอะ
โดย
arm10182
พุธ ธ.ค. 02, 2020 8:09 pm
0
3
Re: วันนี้**เปิดรับ 25 ที่นั่ง** CV@ORI (Origin Property PCL.)
จอง1ที่ เดินทางไปเองครับ
โดย
arm10182
จันทร์ พ.ย. 23, 2020 11:45 am
0
0
Re: **วันนี้ 9 โมง**เปิดรับสมัคร Thai VI Global Forum เปิดประตูสู่หุ้นต่างประเทศ
สมัครร่วมงาน
โดย
arm10182
ศุกร์ ต.ค. 09, 2020 1:02 pm
0
0
Re: SSI-SCA ( Sustainable Competitive Advantage Fund ) by SSIAM
76C2B963-F724-4357-AE4B-D69516F25268.jpeg 972BD317-79C3-4F37-95C9-E9E0339466BE.jpeg
โดย
arm10182
ศุกร์ ต.ค. 02, 2020 11:41 pm
0
2
Re: SSI-SCA ( Sustainable Competitive Advantage Fund ) by SSIAM
การลงทุนในเวียดนาม ปี 64 . ปีหน้าจะลงทุนอย่างไร? ควรเลือกกองทุนแบบไหน? มาเช็กทิศทางการลุงทุนและแนวโน้มกองทุนเวียดนามปี 64 ก่อนใครกับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในประเด็นสำคัญจากงานสัมมนา DIRECTION of Asset Allocation ใครเป็นนักลงทุนห้ามพลาด รีบปรับตัวให้ทัน แล้วลุยฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันครับ . #ส่องทิศทางเศรษฐกิจโลก 🌎ผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นไปได้ช้า 🌎IMF คาดว่าถ้ามีการระบาดของ COVID-19 รอบ 2 จะทำให้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตต่ำกว่า 1% ในปี 2564 🌎ปี 2564 เศรษฐกิจมีโอกาสเป็น Double Dip เพราะหากมีการระบาดรอบ 2 จะส่งผลกระทบน้อยกว่ารอบแรก 🌎ไตรมาส 4 ของปี 2563 การลงทุนอาจผันผวนมาก เนื่องจากรอความชัดเจนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 🌎ถ้าการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ความชัดเจนจะมีแนวโน้มทำให้ตลาดหุ้นไทยและกลุ่ม Emerging Market ได้รับผลบวก . #เศรษฐกิจแบบนี้ควรลงทุนอย่างไรในปี64 📌หัวใจที่สำคัญที่สุดในปี 2564 คือการกระจายสินทรัพย์เพื่อลงทุน (Diversify) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารสินทรัพย์ (Asset Allocation) เพื่อคงการรักษาผลตอบแทน (Capital Preservation) 📌 การลงทุนควรต้องสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก แนะนำให้กระจายน้ำหนักลงทุนใน Portfolio ดังนี้ - หุ้นไทย 10-20% (เน้นหุ้น Small-Mid Cap) - หุ้นจีนและเวียดนามในระดับ 10% - ตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว 10-20% - ทองคำ 5-10% - เงินสด 35% . #ทำไมกองทุนเวียดนามถึงน่าสนใจในปี64 1.เวียดนามจะขึ้นเป็น เบอร์ 1 ในดัชนี MSCI Frontier composite ในปี 2564 เพราะตลาดหุ้นคูเวต ซึ่งเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน กำลังจะถูกปรับเข้าดัชนี MSCI EM . 2.เวียดนามมีโอกาสเข้าสู่ดัชนี MSCI EM ในช่วงกลางปี 2565 จากการออกพ.ร.บ.หลักทรัพย์ และกฎหมาย NVDR . 3. ตลาดหุ้นเวียดนามมีคุณสมบัติคือ ขนาดของตลาด จำนวนบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ปริมาณการซื้อขาย และการเพิ่ม Foreign Free Float . 4. เศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในรูปแบบ V Shape เพราะช่วง Covid-19 เวียดนามมี GDP เป็นบวก คาดว่าปี 2564จะเติบโตมากขึ้น . 5.ค่าเงินเวียดนามดอง (VND) มีเสถียรภาพมากขึ้น จากดุลบัญชีเดินสะพัดของเวียดนามเป็นบวกต่อเนื่อง และเวียดนามมีทุนสำรองกว่า US$ 8 หมื่นล้าน . 6.การลงนามในความตกลง FTA กับ Euro Group จะนำไปสู่การส่งออกไปยุโรปเพิ่มขึ้น และอาจดึงดูดบริษัทใหญ่ย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม . #แนวทางการลงทุนในเวียดนาม ✨ #แนะนำลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนาม กับ Trinity SSI-SCA และหุ้นจีนในสัดส่วน 5-10% ของ Portfolio เป็นระยะเวลา 2 ปีขึ้นไป เพื่อกระจายสินทรัพย์ลงทุน . ✨ #จังหวะการเข้าซื้อที่เหมาะสม คือ ตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 โดยอาจใช้ Dollar Cost Average (DCA) เพื่อบริหารต้นทุน . Trinity SSI-SCA ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท . สนใจการลงทุนในเวียดนามติดต่อได้ที่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โทร. 02-088-9350, 9358 ฝ่ายการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ โทร. 02-088-9125 – 27 Official Line : @trinitysecurities หรือเว็บไซต์ www.trinityquicktrade.com/th/Service/Vietnamfund . #InvestingVietnam #Diversification #การลงทุนเวียดนาม #กองทุนSSISCA #TrinitySecurities #ประเทศเวียดนาม #กองทุนเวียดนาม #กองทุนหุ้นเวียดนาม #TrinitySSISCA . *ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
โดย
arm10182
ศุกร์ ต.ค. 02, 2020 6:31 pm
0
2
Re: SSI-SCA ( Sustainable Competitive Advantage Fund ) by SSIAM
รบกวนสอบถามครับ - https://www.trinityquicktrade.com/th/Service/Vietnamfund/27 อิงตามรูปภาพในเว็บนี้ เราต้องสั่งล่วงหน้า T-3 หรือ 3 วันล่วงหน้าเลยหรอครับ - เราจำเป็นต้องเปิดบัญชี Streaming กับ trinity มั้ยครับ - กองนี้สั่งซื้อขายต้องใช้ใบคำสั่งซื้อขายที่ปริ้นท์จากหน้าเว็บเท่านั้นใช่มั้ยครับ ขอบคุณครับ 1.ใช่ครับราคา NAVที่ได้จะเป็นของสามวันทำการถัดไปครับ เพราะ trinity เป็นแค่นายหน้าเฉยๆแล้วเขาต้องไปแลกเปลี่ยนเงินตราไปเป็นดองครับ แต่ถ้ามองในแง่ถือยาวให้มันโต ผมว่าไม่ต้องซีเรียสกับ NAV ที่เปลี่ยนแปลงรายวันเท่าไรครับ 2.ข้อสองตามเม้นบนครับ แค่เปิดบัญชีกองทุน (แต่เอกสารก็เหมือนของเปิดบัญชีหุ้นครับ) 3.ของตอนนี้ เท่าที่ทราบคือมีแค่วิธีเดียวครับ โทรแจ้งเจ้าหน้าที่การตลาดว่าเราจะซื้อ/ขาย แล้วปริ้นใบสั่งซื้อ แล้วรอ messenger มารับเอกสารครับ ส่วนอนาคตจะสะดวกกว่านี้ไหม ยังไม่รู้ครับ
โดย
arm10182
พุธ ก.ย. 30, 2020 10:52 pm
0
2
Re: **เปิดรับ 40 ที่นั่ง** CV@IIG บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป
จอง1 ที่ ไปเองครับ
โดย
arm10182
อาทิตย์ ก.ย. 27, 2020 4:03 pm
0
0
Re: จิตวิทยา Biasที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ thaiviรุ่น17 อ.พี่เวป
สุดยอดเลยครับ ขอบคุณมากครับ รอติดตามต่อนะครับ
โดย
arm10182
อังคาร ก.ย. 22, 2020 1:58 pm
0
2
Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
สวัสดีครับ รบกวนขอไฟล์ด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณมากครับ
โดย
arm10182
เสาร์ ก.ค. 11, 2020 6:42 pm
0
0
Re: **เปิดรับสมัคร VI 101 ** - วันนี้ 10.00 น.
ลงทะเบียน
โดย
arm10182
ศุกร์ ก.ค. 10, 2020 12:00 pm
0
0
Re: คุณฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ เค้าทำยังไงให้มีพอรต์ 6,000 ล้าน
อันนี้เคยเซฟไว้จากเพจ เล่นหุ้นตลอดชีวิต - Full Life Stock Investor ครับ เป็นรายละเอียดของสมัยช่วงแรกๆ Timeline คุณฮง สถาพร จาก 100,000 เป็น 6,000 ล้าน (แบบคร่าว ๆ ครับ) #2547 -เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท ************ #2548 -เริ่มจับหลักลงทุนได้ซื้อหุ้น CSL ราคา 5 บาท ขายไปที่ 9 บาท เป็นหุ้นตัวแรกที่ได้กำไรเน้น ๆ จากการลงทุน -ระหว่างนี้อ่านหนังสือและไปสัมนาทุกอาทิตย์ (ขยันมาก) ************ #2550 -ที่บ้านให้เงินเพิ่มทุน เพราะเริ่มเห็นผลงานและเห็นความตั้งใจในการที่จะเดินอาชีพนักลงทุน ************ #2551 -ซื้อหุ้น CPALL มูลค่า 7 แสนบาท และขายไปได้ 1.1 ล้านบาท (ซื้อที่ 7 บาทและขายไปที่ 11 บาท จำนวน 100,000 หุ้น) ************ #2552 -นำเงิน+อัดมาร์จิ้น 80% ซื้อ CPF -ที่บ้านเติมเงินให้อีกหลักล้านบาท -ซื้อหุ้น VNG ราคา 3 บาท และไปขายที่ราคา 5 บาท ในเวลา 3เดือน -พอร์ตมูลค่าหลักสิบล้านบาท ************ #2553 -นำเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้น PTL ต้นทุน 7.50 บาท ใช้มาร์จิ้น 60% ************ #2554 -กำไรจากขายหุ้น PTL ซื้อมา 7.5 ขายไป 45 ภายในครึ่งปี ทำให้มีเงินในพอร์ต 65 ล้าน -ที่บ้านขายกิจการเพราะเล่นหุ้นได้กำไรดีกว่าทำกิจการ -ให้สัมภาษณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า (2563) ต้องมีพอร์ต 300 ล้าน โตปีละ 20% (แต่ ณ ปี 63 มีพอร์ต 6,000 ล้าน) ************ #2555 -พอร์ตสวิงอยู่ที่ 100 - 200 ล้านบาท ************ #2556 -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น KTC 1,763,400 หุ้น ************ #2558 -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น KTC 6,774,500 หุ้น (ขายตัวอื่นมาลง KTC เพิ่ม) ************ #2561 -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น KTC 12,848,900 หุ้น (ขายตัวอื่น หรือ เติมเงิน หรือ อัดมาร์จิ้น) ************ KTC เป็นหุ้นที่ราคาขึ้นไปหลายสิบเท่านับตั้งแต่วันที่คุณฮงถือหุ้น ************ #2563 -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น KTC 128,509,000 หุ้น (แตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท) ราคาหุ้นละ 31.25 คิดเป็นเงิน 4,015,906,250 บาท -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น DOHOME 67,433,200 หุ้น ราคาหุ้นละ 7.00 คิดเป็นเงิน 472,032,400 บาท -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น AEONTS 4,119,100 หุ้น ราคาหุ้นละ 115.50 คิดเป็นเงิน 475,756,050 บาท -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น BFIT 10,494,200 หุ้น ราคาหุ้นละ 26.50 คิดเป็นเงิน 278,096,300 บาท -ติดรายชื่อผู้ถือหุ้น EKH 13,089,900 หุ้น ราคาหุ้นละ 4.92 คิดเป็นเงิน 64,402,308 บาท รวม 5,306,193,308 บาท มูลค่าพอร์ตเวลานี้เป็นมูลค่าพอร์ตที่ตลาดหุ้นเจอวิกฤตทำให้มูลค่าพอร์ตลดลงอย่างมาก แต่ก็ 5,000 ล้าน++ นะครับ 😁😁 ปล. -ในระหว่างนั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ซื้อวอแรนท์และหุ้นตัวอื่นอยู่ด้วยนะครับ -คุณฮงไม่มีคอร์สสอนเล่นหุ้นอะไรทั้งสิ้น -คลิปสัมภาษณ์ต่าง ๆ ของคุณฮงมีประโยชน์อย่างมากสามารถหาฟังได้ตาม youtube -จาก 100,000 เป็น 6,000 ล้าน หรือ เซียนหุ้นอัจริยะ เป็นสิ่งที่สื่อใช้พาดหัวข่าวเท่านั้น ตัวคุณฮงเองเป็นคนถ่อมตัวมากครับ ส่วนรายละเอียดระหว่างนั้นอาจจะต้องขอรบกวนคุณฮงมาให้ข้อมูลเป็นความรู้ แก่นักลงทุนรุ่นใหม่ๆครับ
โดย
arm10182
พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2020 12:19 pm
0
36
Re: SSI-SCA ( Sustainable Competitive Advantage Fund ) by SSIAM
คิดเหมือนกันครับ อยากกระจายความเสี่ยงไปในตลาดอื่น แต่พอถ้าซื้อกองทุนสัญชาติไทยติดเรื่องค่าธรรมเนียม แต่สำคัญคือเรื่อง FOL และไม่อยากซื้อกองทุนดัชนีเพราะต้องเหมารวมซื้อบริษัทราคาแพงไปด้วย ให้ไปค้นหุ้นรายตัวเองก็ไม่ไหว แค่ตลาดประเทศไทยก็เหนื่อยละ คนจัดการกองทุนเป็นประเทศนั้นๆน่าจะรู้มากกว่า ผลตอบแทนที่ผ่านมาก็ไม่แย่ด้วยครับ ขั้นตอนการเปิดบัญชีสะดวกไหมครับ ไม่เคยมีบัญชีที่นั่น :D คล้ายๆเปิดบัญชีหุ้นเลยครับ โทรไปทางนั้นแล้วเขาจะส่งไฟล์มาให้เราปริ้นเพื่อเขียน แล้วเดียวเขาจะให้แมสเซนเจอร์มารับ ส่วนเวลาสั่งซื้อยังไม่สะดวกเท่าไร ต้องใช้วิธีโทรบอกว่าจะซื้อแล้วปริ้นใบคำสั่งซื้อแล้วแมสเซนเจอจะมารับใบ (จ่ายเงินโดยการตัดบัญชีได้ โดยสมัครการตัดบัญชีตอนยื่นใบเปิดบัญชี)
โดย
arm10182
จันทร์ มิ.ย. 01, 2020 7:39 am
0
0
Re: SSI-SCA ( Sustainable Competitive Advantage Fund ) by SSIAM
ผมมีลงทุนอยู่ครับ ผลตอบแทนก็ดูดีกว่า กองทุนเวียดนามกองอื่นบางกองพอควรครับ ค่าธรรมเนียมก็ถูกกว่ากองเวียดนามกองอื่นในไทย แถมทางนั้นเป็นกองของเวียดนามเอง เลยไม่มีจำกัด Foreign Ownership Limit ทำให้กองนี้มีทางเลือกในการซื้อหุ้นมากกว่ากองจากต่างประเทศ ส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจกว่ากอง SET50 ในไทยอีกครับ และน่าสนใจกว่ากอง Active (เวียดนาม)ในบางบลจ ที่ค่าธรรมเนียมก็แพงแต่ผลงานแพ้ดัชนี (ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง แต่น่าจะเป็นเพราะเขามี FOL เลยทำให้ทางเลือกในการลงทุนน้อยกว่า) แต่ถ้าไม่อยากไปดำหาหุ้นในเวียดนามรายตัว (ซึ่งจากที่ฟังหลายท่านมา ท่าจะยากจริง แถมเราอยู่ไทยติดตามข่าวสารยาก) คิดว่า ให้ลงทุนรายตัวในไทย แล้วถ้าอยากกระจายความเสี่ยงในตลาด EM ก็แบ่งลงทุนในกองทุนเวียดนามก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
โดย
arm10182
อาทิตย์ พ.ค. 31, 2020 10:48 pm
0
5
Re: ถ้าจะเป็นVI จำเป็นต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ไหมครับ
ไม่จำเป็นขนาดนั้นครับ (แต่ถ้าอ่านอังกฤษได้ก็จะได้เปรียบกว่าหน่อย) มีหนังสือไทยหลายเล่มที่แปลมาจากสุดยอดหนังสือจากต่างประเทศครับ อ่านพวกนั้นไปก่อนก็ได้ครับ ถ้าอ่านหมดแล้ว อยากศึกษาเพิ่มเติมก็ค่อยไปอ่านจากภาษาอังกฤษเพิ่มทีหลังครับ
โดย
arm10182
พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2020 8:28 pm
0
2
Re: อาจารย์ เทพ รุ่งธนาภิรมย์ เสียแล้วนะครับ
RIP อ.เทพครับ ผมติดตามซีรีย์หุ้นห่านทองคำของท่านตั้งแต่เริ่มศึกษาการลงทุนแรกๆเลยครับ
โดย
arm10182
เสาร์ พ.ค. 09, 2020 4:56 pm
0
1
Re: สอบถาม เกี่ยวกับการที่บริษัทซื้อหุ้นคืน
ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากลิงค์นี้ดูได้ครับ https://www.set.or.th/th/products/financial/files/TreasuryStock_2560.pdf https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/files/20191225_ShareRepurchase.pdf
โดย
arm10182
อาทิตย์ มี.ค. 22, 2020 8:48 pm
0
0
Re: สอบถาม เกี่ยวกับการที่บริษัทซื้อหุ้นคืน
พอดีช่วงนี้ บริษัทที่ผมถือหุ้นอยู่ มีหลายบริษัทที่เริ่มซื้อหุ้นคืน.... ...แต่ผมงง ตรงรายงานการซื้อหุ้นคืน ....อ่านแล้ว เค้าบอกว่าผู้ถือหุ้น จะได้ประโยชน์ เพราะ จะได้เงินปันผลเพิ่มขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนจะไม่ได้ปันผล เมื่อเอากำไรมาหารเฉลี่ย จะทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้รับเงินปันผลมากขึ้น ตกลงหุ้นที่บริษัทซื้อคืน จะถือว่าหายไปจากตลาดเลย เหรอครับ ... บริษัทหลังซื้อหุ้นคืนจะมีสองทางเลือกครับ 1. ขายคืนตลาดภายหลัง 2. ลดทุน ถ้าเป็นกรณีที่2 จะหายไปจากตลาดเลย ทำให้ จำนวนหุ้นลดลง EPS และ DIV เลยเพิ่มจากตัวหารที่ลดลงครับ
โดย
arm10182
อาทิตย์ มี.ค. 22, 2020 8:46 pm
0
4
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
อันนี้เป็นสรุปของอีกเจ้านึงครับ ด่วน! เฮีย Ray Dalio ชวนวิเคราะห์ผลกระทบจากเรื่องโควิด 19 . #ลงทุนนอกโลก โดยถามอีก กับอิก . ก่อนหน้านี้แกเคยให้ความเห็นไปรอบนึงแล้วสามารถอ่านย้อนหลังได้ที่นี่ครับ . https://www.facebook.com/Tam.eig/posts/2701157563313901/ . ========= . มาวันนี้แกยอมรับว่า แกไม่ชอบเดิมพันอะไรก็ตามที่แกไม่คิดว่าตัวเองเก่งมากๆ และไม่ชอบเดิมพันด้วยเงินก้อนใหญ่ในการลงทุนแต่ละครั้ง . เบื้องต้น เฮีย Ray Dalio แบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ๆครับ . คือ 1.ไวรัส 2.ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัส และ 3.ปฏิกิริยาของตลาด . “ทั้งสามสิ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของนักลงทุน” เฮียบอกครับ โดยปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้ง สาม อย่างอาจจะทำให้ตลาดกลายเป็นขาลง และอาจจะทำให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆมันผิดเพี้ยนไป และอาจจะประเมินมูลค่าผิดพลาดก็ได้ . แต่จุดที่สำคัญมาก ที่เฮียแกค่อนข้างกังวลคือ อาจจะกระทบต่อ ความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านความมั่งคั่งและการเมือง และในท้ายที่สุดก็อาจจะถึงจุดจบของวัฏจักรหนี้ (ซึ่งตอนนี้ระดับหนี้ตอนนี้สูงมาก) . ในขณะที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆก็แทบจะไม่มีสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้แล้ว . ========= . มาลุยอย่างแรกกันก่อนครับ “ไวรัส” . 1.ไวรัส ด้วยตัวมันเองจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ชัวคราว) แล้วเดี๋ยวก็จะผ่านไป . 2.ปัญหาไวรัสจะส่งผลกระทบรุนแรงต่ออารมณ์ของนักลงทุน ซึ่งก็มักจะทำให้ตลาดร่วงลงอย่างรุนแรง . 3.นอกจากนี้ ไวรัสก็ยังจะทำให้เกิดวิกฤตสุขภาพ ที่แทบจะควบคุมไม่ได้ และจะทำให้เกิดต้นทุนของมนุษย์ (ทั้งป่วย และเสียชีวิต) รวมถึงส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างมาก . 4.แม้ว่าการรับมือกับปัญหาและผลพวงจาก การควบคุมก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ แต่ละพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดการลงทุนที่อาจจะแตกต่างกันไป (ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศครับ) . 5.ทั้งนี้การควบคุมไวรัส เช่น การลดการแพร่กระจาย จะมีประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ . “เช่น ผู้นำที่ต้องเก่งซึ่งสามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง และรวดเร็ว” “ประชาชนเองก็จะต้องทำตามคำสั่งของผู้นำ” “ระบบการบริหารจัดการที่จะช่วยบังคับและบริหารแผนงาน” และ “ระบบสาธารณสุขที่ดี เพื่อระบุว่าใครป่วย และสามารถรักษาได้อย่างดี และรวดเร็ว” . 6.สิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้นำ คือ ต้องทำให้สังคมห่างกัน ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ (ความหมายน่าจะเป็นการแยกผู้ป่วย และไม่ให้คนมาแออัดกันในแต่ละพื้นที่) . ซึ่งควรจะทำตั้งแต่ก่อนที่ไวรัสจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และถ้าสถานการณ์คลี่คลายลง ก็จะต้องเร่งถอนมาตรการในการควบคุม หรือห้ามไม่ให้ประชาชนมาแออัดกัน โดยเร็วที่สุด . 7.”ส่วนตัวผมเชื่อว่า จีนทำได้ดีมากๆในเรื่องนี้ ในขณะที่ตอนนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วในหลายประเทศทำได้ดีน้อยกว่าจีน แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่โอเค” . แต่สำหรับประเทศที่แข็งแรงน้อยกว่า อาจจะแย่มากกว่าจีนและประเทศพัฒนาอีกครับ . 8.เพราะฉะนั้นในหลายๆประเทศที่ควบคุมได้ไม่ดีมากพอ ก็อาจจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากๆ แต่จริงๆก็ยังมีปัจจัยอื่นอีกนะครับ เช่นเรื่องของสภาพอากาศ เช่น อากาศร้อนในแถบเขตร้อน ก็จะมีการระบาดได้น้อยกว่าประเทศอื่นเป็นต้นครับ . 9.และตอนนี้สิ่งที่เราเห็นคือ กำลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศและมีรายงานผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเช่นกัน . และถ้าติดตามข่าวก็จะเห็นว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเนี่ยแหละที่จะทำให้เกิดการตกอกตกใจได้ในตลาดลงทุนได้ ซึ่งในสหรัฐเองก็เช่นกันที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า . “โดยมองว่าจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากครับ” และแน่นอนก็จะทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอย่างหนัก และจะมีมาตรการควบคุมให้สังคมแยกจากกัน ลดความแออัด ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาอีกเช่นกัน . 10.เฮีย Ray Dalio มองว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือ โรงพยาบาลจะรับมือกับจำนวนผู้ป่วยได้ยากลำบากมากๆ และก็มีคนบอกเฮียแกด้วยว่า ปัญหากำลังจะหนักหน่วงมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ . ========= . พักหายใจสักแวบนึงแล้ว มาลุยต่อด้านที่ 2 ครับ “ผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัส” . 1.มาตรการที่ทำให้สังคมห่างกัน จะทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบในระยะสั้นอย่างรุนแรง แต่ก็จะมีการฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง . 2.แกมองว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว . 3.ข้อเท็จจริง คือ ในอดีตโรคระบาดที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจำนวนมาก มักจะทำให้เกิดความวิตกกังวล ส่งผลทางจิตใจ มากกว่าเศรษฐกิจเสียอีก . 4.แกยกตัวอย่างไข้หวัดสเปน ที่เคยเกิดในอดีต ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 “ผมมองว่าน่าจะเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นแล้วแหละ“ . “ส่วนตัวผมมองว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว” . 5.แต่เฮีย Ray Dalio ก็ยอมรับนะว่า แกก็ไม่สามารถรับประกันได้เพราะเหตุการณืในอดีตมันอาจจะเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน . “เช่น อาจจะมีความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งและทางการเมือง” และอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างนักการเมืองฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวา . “และอาจจะแย่ลงถ้าเกิดเศรษฐกิจขาลง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และทำให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้เกิดปัญหาสำหรับการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ” . และอาจจะแย่ลงอีก ถ้าเป็นกรณีที่มีภาระหนี้สินอยางมาก และนโยบายการเงินที่ไร้ประสิทธิภาพ . และอาจจหนักอีก ถ้าเกิดขั้วอำนาจใหม่ที่พยายามขึ้นมาท้าทายประเทศมหาอำนาจเดิม . 6.รอบที่แล้วที่เคยเกิดขึ้น คือเกิดขึ้นในช่วงปี 1930 ซึ่งในท้ายที่สุดก็ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และก่อนหน้านั้นก็เคยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 . 7.และแน่นอนครับว่า ปัญหาที่แกย้ำมาโดยตลอดคือ ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งและปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนี่แหละครับ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย ซึ่งก็น่าจะส่งผลต่อการเลือตั้งตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี Super Tuesday (ในวันนี้) . ========= . โอเค ด้านสุดท้ายครับ “ปฏิกิริยาของตลาด” หรือของนักลงทุน . 1.ต้องยอมรับว่าตอนนี้โลกของเราอยู่ในช่วงที่มีการกู้เงินมานาน ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เองก็ซื้อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆเข้าพอร์ต . “นักลงทุนมีหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงเต็มพอร์ต เพราะช่วงที่ผ่านมาดอกเบี้ยต่ำมาก เมื่อเทียบกับความคาดหวังผลตอบแทนในการลงทุนในหุ้น” . 2.ทำให้การกู้ยืมเงิน มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น . 3.ทั้งนี้ไวรัส จะทำให้รายได้ของบริษัทลดลง แต่เมื่อเหตุการณ์จบลง ก็จะทำให้บริษัทมีรายได้ฟื้นกลับมาได้ แต่อาจจะเป็นรูปแบบ V shape หรือ U Shape เพียงแต่ไม่รุ้ว่าจะเมื่อไหร่ . 4.แต่อย่างไรก็ตาม การร่วงลงรอบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือจะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่มีหนี้สินจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะ . 5.”ผมเดาว่า ตลาดจะแยกไม่ออกว่า บริษัทไหนที่จะสามารถอยู่รอดได้ หรือไม่สามารถอยู่รอด จากภาวะช็อคที่เกิดขึ้นในครั้งนี้” . 6. เช่น บริษัทที่มีเงินสดมาก และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมาก ก็จะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า บริษัทที่มีภาระหนี้สินมาก . 7.ทั้งนี้ทั้งนั้นเฮีย Ray Dalio มองว่า นี่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยหนัก แทบจะเรียกว่าเป็นหนึ่งในวิกฤตที่เกิดขึ้นหนักๆ ในรอบ 100 ปี อาจจะมีสักหนึ่งครั้ง . ทั้งนี้หลายฝ่ายก็อาจจะได้รับผลกระทบตามไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รับประกันความเสี่ยง และคนที่ไม่สนใจจะปิดความเสี่ยง เพราะมันเหมือนเป็นความเสี่ยงที่ไม่เคยเกิดขึ้น . 8.ยกตัวอย่างเช่น บริษัทประกัน ที่ไปรับประกันเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น หรือบริษัทที่ขาย option ป้องกันความเสี่ยง เพื่อกินค่าพรีเมี่ยม . 9.ตอนนี้ตลาดเองก็กำลังจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะตอนนี้กำลังเจอปัญหาถูกบีบอย่างหนัก และถูกบังคับเรื่องสภาพคล่อง มากกว่าการวิเคราะห์พื้นฐาน . 10.พวกเรามองเห็นปัญหาเหล่านี้ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติมากๆ และอาจจะมีการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไปในทิศทางไหน . 11.สิ่งที่น่าสนใจคืออะไรครับ? คือ ตอนนี้หลายบริษัทกำลังให้ผลตอบแทนสูงทำให้น่าสนใจ และอีกผู้เล่นในตลาดหลายรายก็อาจจะล้มหายตายจากไป . 12.สำหรับนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย และการเพิ่มสภาพคล่อง อาจจะไม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ . เพราะประชาชนก็อาจจะอยู่บ้าน ไม่ออกไปนอกบ้านไม่จับจ่ายใช้สอยข้างนอก . 13.แต่ประเด็นคือตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น เพราะตอนนี้อัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แทบจะติด 0% อยู่แล้ว ทำให้ยากที่จะใช้นโยบายการเงินให้มีประสิทธิภาพต่อไป . 14.ในยุโรป เองตอนนี้ก็มีสิ่งที่น่าสนใจ คือต้องติดตามว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังจะช่วยได้แค่ไหน ภายใต้ปัญหาการเมืองตอนนี้ . 15.แต่ก็อย่าไปหวังอะไรมากมาย ว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษบกิจได้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการลดดอกเบี้ยแบบรัวๆกันหลายประเทศอยู่แล้ว สังเกตจากการที่ผลตอบแทนของพันธบัตรตอนนี้ลดไปอย่างมาก . “เช่นเดียวกับหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆที่ถูกเทหนักมาก” . 16.เท่าที่เฮีย Ray Dalio มองคือ “การที่จะควบคุมไม่ให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบมาก ก็ยังต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างนโยบายการเงินและการคลัง โดยเฉพาะกรณีบริษัทที่มีปัญหาหนี้และปัญหาสภาพคล่อง” . มากกว่าการหว่านนโยบายด้วยการลดดอกเบี้ย และเพิ่มสภาพคล่องแบบกว้างๆไม่เฉพาะเจาะจง . 17.และสิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือการดูแลทั้งตัวคุณและสุขภาพของครอบครัวของคุณ . 18.หลักคิดการลงทุนตามสไตล์ของเฮียแก คือ การคิดดูว่าอะไรคือ สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แล้วเราก็ปกป้องความเสี่ยงเหล่านั้นซะ
โดย
arm10182
พุธ มี.ค. 04, 2020 8:47 pm
0
1
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
บทความน่าสนใจครับ ขอแชร์มาให้อ่านกัน สรุปความคิด Ray Dalio ต่อ โคโรนาไวรัส /โดย ลงทุนแมน ล่าสุด Ray Dalio ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่สุดในโลก ได้ออกมาเขียนบทความล่าสุดเรื่อง My Thoughts About the Coronavirus ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟังว่า นักคิดระดับโลกผู้เขียนหนังสือขายดีอย่าง Principles เขามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส (ฝรั่งจะใช้คำว่า Coronavirus ไม่ใช่ COVID-19 เหมือนคนไทย ต่อไปนี้จึงจะขอใช้ทับศัพท์ว่าโคโรนาไวรัส) เริ่มจาก Ray Dalio บอกว่า เขาไม่อยากจะเดิมพันในสิ่งที่เขาไม่เชี่ยวชาญ เขาจะไม่เดิมพันครั้งใหญ่ในครั้งเดียว เขาต้องการหาวิธีทำตัวให้เป็นกลาง มากกว่าที่จะหาวิธีเดิมพันในเรื่องที่ยังไม่รู้แน่ชัด ซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่าไม่ได้รู้จริงเกี่ยวกับ โคโรนาไวรัส จนตอนนี้ตัว Ray Dalio เองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร และควรรับมือกับมันอย่างไร ดังนั้น Ray Dalio ให้หมายเหตุไว้ก่อนเริ่มว่า บทความนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเขา ซึ่งแล้วแต่วิจารณญาณของผู้อ่านเอง และนี่คือความคิดเห็นของเขา.. จากมุมมองของ Ray Dalio เรื่องนี้มี 3 สิ่งที่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง 1. ไวรัส 2. ผลกระทบของไวรัสที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ 3. ปฏิกิริยาของตลาด โดยทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก “อารมณ์” ซึ่งอาจเป็นเพราะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจรวมกันทั้งหมด ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว และตามมาด้วย การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่ผิด และเรื่องนี้มันอาจไปกระตุ้นให้เกิดความเสื่อมสลายของอีกอย่างหนึ่ง ซึ่ง Ray Dalio เคยพูดมาแล้วก็คือ “ความเหลื่อมล้ำของ ความมั่งคั่ง และการปกครอง” และนั่นจะเป็นจุดจบของวัฏจักรหนี้ครั้งใหญ่ ซึ่งหนี้ทั้งหมดในระบบตอนนี้ อยู่ในระดับที่สูงมาก และธนาคารกลาง “กำลังหมดแรง” ที่จะกระตุ้นมัน เริ่มด้วยเรื่องแรก 1) ไวรัส ตัวไวรัสเองก็เกือบเป็นที่แน่นอนว่า - มันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาและก็จะผ่านไป - สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงทางจิตใจหรืออารมณ์ ซึ่งทำให้เกิดการปรับตัวของตลาดอย่างรวดเร็ว และไวรัส ก็นำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ ที่ดูเหมือนจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ในทั่วโลก ซึ่งเรื่องทั้งหมด ก็นับเป็นต้นทุนทางด้านมนุษย์ และเศรษฐกิจที่สูงมาก ถึงแม้วิธีการรับมือ และผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ (ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดของประเทศนั้นๆ แตกต่างกันด้วย) โดยการควบคุมไวรัสจะได้ผลดี และมีประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อ - ผู้นำของประเทศมีศักยภาพในการตัดสินใจได้ถูกต้องและฉับไว - ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่ง - ผู้นำสามารถบังคับให้หน่วยงานต่างๆ ทำได้ตามแผน - ระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ในการบ่งชี้และรักษาผู้ติดเชื้อได้ดีและรวดเร็ว เรื่องนี้ผู้นำต้องทำให้ “สังคมห่างกัน” ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถ้ามีการระบาดเกิดขึ้นในสังคมนั้น (คำว่าสังคมห่างกันก็คือการลดการเจอกันของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกงาน ห้ามบุคคลออกนอกอาคาร หรือการปิดเมือง) และผู้นำต้อง “ถอน” การทำให้สังคมห่างกันโดยเร็วที่สุด ถ้าการระบาดนั้นลดลง ซึ่ง Ray Dalio เขาเชื่อว่า จีนมีความสามารถในการทำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ จะทำได้ดีน้อยกว่าจีน แต่ก็น่าจะถือว่าพอใช้ได้ สำหรับประเทศที่ทำได้แย่ ก็อาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงตามมากับประเทศนั้น ดังนั้นประเทศอื่นๆ ที่จัดการเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นได้ไม่ดี ก็จะทำให้โรคแพร่ระบาดไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่น เช่น อากาศ ซึ่งประเทศในเขตร้อนจะมีการระบาดของโรคไม่เท่าประเทศในภูมิภาคอื่น ตอนนี้โรคกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ รวมถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน และในสหรัฐฯ จะมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อมากขึ้นใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตาม และก็น่าจะทำให้สังคมเกิดความกังวลมากขึ้นไปอีก โดยจะมีคนได้รับผลกระทบจากการทำให้ “สังคมห่างกัน” ในโรงพยาบาลจะเกิดความตึงเครียดมากขึ้น และโรงพยาบาลจะรับมือกับเคสผู้ป่วยได้ยากลำบากขึ้น สุดท้ายแล้ว แน่นอนว่าจะเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ในเร็วๆ นี้ 2) ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ปฏิกิริยาของเราต่อเหตุการณ์โรคระบาดจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในระยะสั้น และตามมาด้วยการฟื้นตัวในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว จริงๆ แล้ว โรคระบาดที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ในประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัดสเปน ก็สามารถนำมายกเป็น worst-case scenario ได้ดี สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราวิตกกังวลมากเกินกว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง ทำให้เราอาจสรุปได้ว่าเหตุการณ์ในรอบนี้ก็คงไม่ต่างกัน.. อย่างไรก็ตาม Ray Dalio ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจถดถอยจะไม่เกิดขึ้น เพราะจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่มีต้นตอมาจาก - ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง และการปกครอง - ความขัดแย้งที่รุนแรง - หนี้สินจำนวนมากและนโยบายการเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ - รวมถึงขั้วอำนาจใหม่ที่เกิดขึ้นมาท้าทายขั้วอำนาจเดิม ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็คือปี 1930 จนกลายเป็นที่มาของสงครามโลกครั้งที่ 2 และถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นก็คือ การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 แน่นอนว่า ความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง และการปกครอง จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย และมันจะถูกนำไปรวมเข้ากับเหตุการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ ซึ่งจะเห็นผลใน การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขั้นต้น หรือ Super Tuesday 3) ผลกระทบต่อตลาด ตอนนี้โลกกำลังอยู่ในช่วงกู้หนี้ยืมสินมานานด้วยเงินสดที่ล้นในระบบ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนักลงทุนส่วนใหญ่จะซื้อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ด้วยวิธีการกู้ยืมส่วนหนึ่งเพื่อให้ได้สินทรัพย์นั้นมา การกู้ยืมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผลตอบแทนคาดหวังของหุ้นที่มากกว่า ผลกระทบจากไวรัสจะทำให้รายได้บริษัทลดลง แต่เมื่อเหตุการณ์จบ รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ ก็จะฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบ V หรือ U Shaped แต่สำหรับบริษัทที่กู้หนี้ยืมสินมาก จะเจอปัญหาและกลับมาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตลาดยังแยกไม่ออกว่าบริษัทไหนสามารถอยู่รอด และบริษัทไหนจะไม่สามารถอยู่รอดได้ ตลาดกลับไปให้ความสนใจแต่เรื่องที่จะมาส่งผลกระทบต่อรายได้ชั่วคราว แทนที่จะสนใจบริษัทที่กู้หนี้ยืมสินมาก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ บริษัทที่มีเงินสดมากแต่ได้รับผลกระทบชั่วคราว กลับถูกตลาดลงโทษมากกว่า บริษัทที่ได้รับผลกระทบน้อยแต่มีหนี้สินมาก ซึ่ง Ray Dailio สนใจที่ตัวหนี้สินของบริษัทมากกว่าผลกระทบชั่วคราว และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์หายนะในรอบ 100 ปี ที่จะทำให้หลายฝ่ายต้องสั่นคลอนไปตามๆ กัน ทั้งผู้ที่เป็นคนรับประกันความเสี่ยงนี้ และคนที่ไม่สนใจจะปิดความเสี่ยงนี้ เพราะพวกเขาทำเหมือนมันเป็นความเสี่ยงหนึ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง อย่างเช่นพวกบริษัทประกัน หรือพวกที่ขาย Option ป้องกันความเสี่ยงนี้ (เพราะคิดว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง) เพื่อหาโอกาสกินเบี้ยประกันสูงๆ และตอนนี้ตลาดก็กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผู้เล่นเหล่านี้ ที่กำลังถูกบีบเรื่องปัญหาด้านกระแสเงินสด มากกว่าจะเป็นการวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน เรากำลังเห็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติ และการเคลื่อนไหวของตลาดที่ดูไม่ค่อยมีเหตุมีผล ที่น่าสนใจก็คือ หลายบริษัทในเวลานี้ให้กระแสเงินสดสูง และดูน่าสนใจขึ้นมาก ในขณะที่อีกหลายบริษัทกำลังเจอปัญหา และน่าจะล้มหายไป สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มสภาพคล่องจะไม่ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก หากประชาชนเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน ไม่จับจ่ายใช้สอยอะไร แม้ว่าจะช่วยให้สินทรัพย์เสี่ยงดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยก็เข้าใกล้ศูนย์แล้ว ตัวอย่างเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศเหล่านี้ได้หมดแรงที่จะลดดอกเบี้ยอีกต่อไปแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า นโยบายทางการเงินเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และมีความจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายทางการคลังเข้าช่วย เพราะฉะนั้น อย่าไปคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยอะไรได้มากนัก เพราะผลของมันได้เกิดขึ้นไปแล้ว ด้วยการที่ yield ของพันธบัตรต่างๆ ลดลงไปแล้ว และราคาสินทรัพย์อื่นๆ รวมถึงหุ้น ก็สะท้อนเรื่องนี้ไปแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ Ray Dalio คาดหวังสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในครั้งนี้ ก็คือการดำเนินนโยบายทางการเงินร่วมกับนโยบายทางการคลังให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น กับหน่วยงานที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินและสภาพคล่อง มากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มสภาพคล่องแบบเหมารวมกันทั้งหมด และสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดที่เราควรเป็นห่วงในมุมมองของ Ray Dalio ก็คือ “ตัวเราเองและครอบครัว” ซึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การลงทุนที่ดี เราควรประเมินกรณีที่เลวร้ายที่สุด หรือ worst-case scenario เพื่อเตรียมตัวที่จะรับมือกับมัน ถ้ามันเกิดขึ้น.. ———- สรุปแล้วสิ่งที่ลงทุนแมนได้รู้จาก Ray Dalio ก็คือ เขาเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว แต่ในระหว่างนี้บริษัทที่กู้หนี้ยืมสินมาก จะเจอปัญหาสภาพคล่อง สำหรับประเทศที่มีประสิทธิภาพในการปกครอง จะสามารถควบคุมโรคนี้ได้มากกว่า และไม่น่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นในระยะยาว เขาให้ความสำคัญมากๆ กับคำว่า ให้สนใจระยะยาว อย่าสนใจ ระยะสั้น ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะมองบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน ให้กระแสเงินสดดี และมองความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องสำคัญ
โดย
arm10182
พุธ มี.ค. 04, 2020 8:32 pm
0
2
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
ไปอ่านมาคิดว่าน่าสนใจอยู่ครับ ขอเอามาแปะให้คนอื่นได้อ่านกันนะครับ https://www.bangkokbiznews.com/blog/blogger/89 ทําไมเศรษฐกิจปีนี้ อาจลําบากกว่าปี 40 ช่วงนี้ผมเจอคําถามบ่อยเรื่องเศรษฐกิจ คําถามไม่ใช่เศรษฐกิจจะดีหรือแย่ แต่คําถามคือเศรษฐกิจปีนี้จะแย่แค่ไหน จะเป็นเหมือนตอนเกิดวิกฤติปี 40 หรือไม่ เพราะปัจจัยลบมีมากมายที่ประดังเข้ามากระทบเศรษฐกิจ ทั้งเศรษฐกิจโลก ไข้หวัดโควิด-19 ภัยแล้ง ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณ และปัญหาการเมืองภายในประเทศเอง คําตอบของผมก็คือ ปีนี้เราคงไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนอย่างที่เกิดในปี 40 ที่เศรษฐกิจตกลงแบบหัวทิ่มจนอัตราการขยายตัวปี 40 ติดลบ จากการไหลออกฉับพลันของเงินทุนต่างประเทศ แต่ปีนี้เศรษฐกิจจะชะลอมาก อัตราการขยายตัวยังเป็นบวกแต่อาจตํ่ากว่า 1% แต่ผลกระทบจะกระจายตัวมากทําให้ความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ถูกกระทบ และสําหรับบางกลุ่มอาจลําบากกว่าปี 40 เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอปีนี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่ความสามารถของคนส่วนใหญ่ที่จะปรับตัว หรือมีตัวช่วยจากภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลก หรือนโยบายเศรษฐกิจ มีน้อยกว่าเทียบกับปี 40 ทําให้ประชาชนและธุรกิจส่วนใหญ่ต้องพึ่งตัวเองมาก นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้ เทียบกับปี 40 มีสามเหตุผลที่จะทําให้ผลกระทบของเศรษฐกิจปีนี้ต่อคนทั่วไปจะต้องระมัดระวังมาก 1. วิกฤติปี 40 เกิดจากการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศอย่างฉับพลัน เกิดปัญหาสภาพคล่อง นําไปสู่ภาวะฟองสบู่แตกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ค่าเงินบาทที่อ่อนลงจากการเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนทําให้ภาคธุรกิจที่มีหนี้มากโดยเฉพาะหนี้ต่างประเทศขาดทุน เกิดปัญหาหนี้เสีย ที่ส่งผลกระทบต่อฐานะและความมั่นคงของสถาบันการเงิน ดังนั้น วิกฤติปี 40 จึงเป็นปัญหาที่เกิดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และภาคการเงินเป็นหลัก และส่งผลกระทบต่อถึงส่วนที่เหลือของเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจก็ฟื้นเร็วเมื่อการส่งออกกลับมาขยายตัว เงินทุนต่างประเทศไหลกลับ และปัญหาในสถาบันการเงินคลี่คลาย แต่ปีนี้ ภาคการเงินไม่มีปัญหา สภาพคล่องมีมาก และไม่มีฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ปัญหาของเศรษฐกิจอยู่ที่ภาคเศรษฐกิจจริง หรือ real sector ที่อ่อนแอมาก เพราะเศรษฐกิจขยายตัวตํ่าต่อเนื่องมานานกว่าห้าปี ทําให้กําลังซื้อในประเทศไม่มี ประชาชนไม่ใช้จ่ายและหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ภาคธุรกิจไม่ลงทุน กระทบความสามารถในการแข่งขันและการจ้างงาน ที่สําคัญ เศรษฐกิจโลกที่จะชะลอมากปีนี้และผลจากการระบาดของไข้หวัดโควิด-19 จะกระทบรายได้ของประเทศจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ซํ้าเติมโดยภาวะภัยแล้งที่กระทบรายได้ของเกษตรกร ความอ่อนแอเหล่านี้จะส่งผลกระทบกว้างขวางต่อทั้งระบบเศรษฐกิจ กระทบการมีงานทํารายได้และความเป็นอยู่ของคนในประเทศกว้างกว่าปี 40 โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าของกิจการระดับเล็กและกลางและชนชั้นกลางที่มีหนี้แต่ไม่มีเงินออม ล่าสุดผลสํารวจของสวนดุสิตโพลรายงานว่า ประชาชนกว่า 63% ไม่มีรายได้พอใช้จ่าย ที่จะยังดีอยู่คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ที่สายป่านยาวและบริษัทที่ใกล้ชิดหรือได้ประโยชน์จากงบประมาณและหรือค้าขายกับภาครัฐ 2. เศรษฐกิจปีนี้ไม่มีตัวช่วยเหมือนปี 40 ปี 40 ค่าเงินบาทที่อ่อนลงและเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดีได้ช่วยให้การส่งออกฟื้นตัวเร็ว ดึงให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัว แต่ปีนี้เศรษฐกิจโลกชะลอและค่าเงินบาทไม่ได้อ่อนมาก ประโยชน์ต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวจึงไม่มี ปี 40 เศรษฐกิจได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกอบเป็นกําต่อเนื่องไปถึงปีต่อๆ ไป เช่น โครงการมิยาซาว่า ขณะที่ปีนี้ งบประมาณรายจ่ายประจําปีล่าช้ามาก ทําให้การกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีข้อจํากัด ปี 40 นโยบายการเงินมีพื้นที่ที่จะลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากเพราะอัตราดอกเบี้ยไม่ใกล้ศูนย์และหนี้ภาคครัวเรือนตํ่า แต่ปีนี้สถานการณ์ตรงกันข้าม ปี 40 คนที่ตกงานหรือถูกกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจสามารถกลับไปภาคเกษตรเพื่อหารายได้ทดแทน แต่ปัจจุบันโอกาศดังกล่าวมีน้อยลงเพราะพื้นที่เกษตรมีน้อยลง คนที่ทํางานในเมืองอาจขายสวนขายที่ไปแล้ว ไม่มีพื้นที่เกษตรให้กลับไปหารายได้และยังเจอกับปัญหาภัยแล้ง ท้ายสุด วิกฤติปี 40 เกิดขึ้นหลังเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่สูงต่อเนื่องหลายปี ทําให้คนส่วนใหญ่มีกําลังที่จะปรับตัว แต่ปีนี้การชะลอตัวเกิดขึ้นท่ามกลางความอ่อนแอของภาคเศรษฐกิจจริงที่มีมาต่อเนื่อง สายป่านต่างๆ ที่ประชาชนพอมีได้ถูกใช้ไปเกือบหมดแล้วทําให้ความสามารถในการปรับตัวจะจํากัดเทียบกับปี 40 3. ปี 40 การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทําอย่างจริงจัง ทั้งการปฎิรูประบบและการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้เร็ว พร้อมกับการไหลกลับของเงินทุนต่างประเทศ ขณะที่การเมืองของประเทศในระบบประชาธิปไตยขณะนั้นมีเสถียรภาพ สร้างความมั่นใจในการทํานโยบาย แต่ปัจจุบันความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการทํานโยบายมีน้อยมาก เพราะการทํานโยบายให้ความสําคัญกับการจัดสรรผลประโยชน์มากกว่าการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่มีการปฎิรูปเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายเศรษฐกิจกลับไปกลับมา (นักลงทุนใช้คําว่า flip flop) เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้แต่การผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปี ทําให้เศรษฐกิจไทยขณะนี้ไม่ได้อยู่ในเรดาห์ของนักลงทุนต่างชาติ ประเทศจึงเสียโอกาศจากเงินทุนต่างประเทศ เห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นที่ล่าสุดปรับลดลงตํ่ากว่าระดับ 1,400 จุด นี่คือเหตุผลที่เศรษฐกิจปีนี้จะกระทบความเป็นอยู่ของคนในประเทศมาก ที่ห่วงก็คือ ปีนี้นอกจากปัญหาเศรษฐกิจ เราอาจมีปัญหาการเมืองและปัญหาสังคมเข้ามาซํ้าเติม ปัญหาการเมืองทําให้เกิดความไม่แน่นอนด้านนโยบาย ส่วนปัญหาสังคมก็มาจากเรื่องการตกงาน ไม่มีรายได้ ไข้หวัดระบาด ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินจากภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า ทําให้ความเป็นอยู่ของคนไทยปีนี้ไม่ง่าย เครียด ต้องมีสติ ต้องระมัดระวัง และต้องพึ่งตัวเองมาก
โดย
arm10182
อังคาร มี.ค. 03, 2020 8:42 am
0
3
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
ส่วนของครั้งนี้น่าจะเป็น ศก.ชะลอตัวจากผู้ผลิต supply โลก หยุดชะงักจากโรคระบาด+ คนไม่ค่อยใช้จ่าย เพราะกลัวโรคระบาด + คนกลัวกันว่าโรคระบาดจะทำให้ศก.ชะลอตัวมากขึ้น จน GPD (ของไทย)จะติดลบ จากการส่งออกที่ลดและท่องเที่ยวที่ลดลง พอคนกลัวกัน เลยทำให้ตลาดหุ้น panic ลงมาหรือเปล่าครับ (หรืออาจจะต้องเรียกว่า วิกฤติโรคระบาด=วิกฤติตลาดหุ้น?)
โดย
arm10182
จันทร์ มี.ค. 02, 2020 8:42 pm
0
1
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
วิกฤติเศรษฐกิจ นิยามว่างัยนะ ใครรู้บอกด้วย ขอลองเสนอมุมมองนะครับ วิกฤติเศรษฐกิจ น่าจะหมายถึง การลดลงมูลค่าของสินทรัพย์(ฟองสบู่ของอะไรสักอย่างแตก)+หนี้ที่มีเพิ่มขึ้นเร็ว จนทำให้เสียสภาพคล่อง ทำให้เกิดการล้มกันเป็นโดมิโน่ของ หน่วยเศรษฐกิจ(ในประเทศ)นั้นๆ หรือเปล่าครับ ถ้าผิดบอกได้นะครับ
โดย
arm10182
จันทร์ มี.ค. 02, 2020 8:34 pm
0
1
Re: คิดว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจรึยังครับ?
แปะให้ครับ เผื่อจขกท.สนใจดูครับ https://youtu.be/xwLqrazjqgE
โดย
arm10182
จันทร์ มี.ค. 02, 2020 4:20 pm
0
6
Re: ** วันนี้ **เปิดรับงานสังสรรค์ VI ประจำปี 2563 ครั้งที่ 1
arm10182 / สมาชิกสมาคม / 1ที่นั่ง / 1,440.00บาท / กรุงไทย / 05-02-2563 /12:16
โดย
arm10182
พุธ ก.พ. 05, 2020 12:18 pm
0
0
Re: แจกโพยหุ้นสินทรัพย์เยอะครับ
แจกโพยหุ้นสินทรัพย์เยอะครับ แสดงข้อมูล %hidden asset, pe, roe, divident yield สำหรับคนชอบแนวนี้ https://hoonapp.com/gem ขอบคุณครับ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ Gems (%) เขาคำนวณยังไงหรือครับ เอามูลค่าหุ้นที่บริษัทถืออยู่ มาหารด้วย marketcap ของตนเองหรือครับ (หรือว่าคิดจากสินทรัพย์รวมทั้งหมดหารด้วยmarketcapครับ หรือใช้วืธีคิดยังไงครับ)
โดย
arm10182
อาทิตย์ ก.พ. 02, 2020 10:24 pm
0
0
Re: ในไทยวีไอมีตั้งกลุ่ม line บ้างมั้ยครับ
ขอเข้าด้วยคนครับ หรือท่านก่อนๆที่ได้เข้าแล้ว ฝากลากเข้าทีนะครับ ID : arm10182 ขอบคุณครับ
โดย
arm10182
อาทิตย์ ก.พ. 02, 2020 10:19 pm
0
0
Re: E1VFVN3001
ลงทุนอยู่ครับ //ตัวนี้ดูสะดวกดีตรงที่ สามารถติดตามข่าวสารจากบัวหลวงได้ทุกวัน
โดย
arm10182
อังคาร ก.ย. 10, 2019 10:04 pm
0
1
Re: **เปิดรับ** งานสังสรรค์ VI ประจำปี 2562 ครั้งที่1
arm10182 / สมาชิกสมาคม / 1ที่นั่ง / 1,440.00 บาท / scb / 23-04-62 /18.35
โดย
arm10182
อังคาร เม.ย. 23, 2019 6:37 pm
0
0
Re: แนะนำหนังสือ Active Value Investing
ใครที่มีไฟล์ รบกวนขอด้วยคนครับ
[email protected]
โดย
arm10182
จันทร์ ธ.ค. 10, 2018 4:01 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
arm10182
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ต.ค. 02, 2018 1:25 pm
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2021 10:15 pm
โพสต์ทั้งหมด:
1223 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.07% จากโพสทั้งหมด / 0.55 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว