it 's plesure to help. please contact me at [email protected] โดย dr_morky ศุกร์ ส.ค. 04, 2006 3:28 pm

ใครคิดว่า PTL เป็นอย่างไรบ้าง ปัจจุบันราคาหุ้นของบริษัท ถือว่าต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (BV) หรือ P/B เพียง 0.7 เท่า รวมถึงอัตราส่วนของเงินปันผล ก็นับว่าอยู่ในระดับที่มากกว่า 6% แล้ว ซึ่งส่วนหนี้สินที่เพื่มมากขึ้นนันล้วนเป็นแต่เงินลงทุนในโครงการใหม่  โดยผลกำไรส่วนหนี่งที่ลดลง เนื่องจากไปรับรู้การขาดทุนจากการลงทุนในประเทศตรุกี ในช่วง สร้างโรงงานใหม่ และยังมีรายได้เพียงเล็กน้อยที่บันทึกเข้ามา ซึ่งนับดูแล้ว บริษัทยังคงให้ผลตอบแต่ของ ROA และ ROE ที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจเลยทีเดียวหากเทียบกับราคาปัจจุบัน ณ ตอนนี้ สามารถดู อัตราส่วนทางการเงินได้ที่ http://www.set.or.th/set/companyinfo.do?type=highlight [/img] โดย dr_morky อังคาร ก.ค. 25, 2006 1:55 pm

การที่หุ้น PTL ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะ เนื่องจาก การที่หุ้น PTL ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะ เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนของวัตถุดิบของ PTA และ MEG มีการปรับตัวสูงขี้นจากสภาวะราคาน้ำมันโลกมีการดีดตัวขึ้นสูงกว่า 70ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิต รวมถึงสภาวะ Over Supply ของธุรกิจแผ่นฟิลม์ที่ยังคงมีอยู่ จึงทำให้บริษัทไม่สามารถขึ้นราคาแผ่นฟิลม์ได้มากนัก ดังนั้นปีนี้ ส่วนต่าง (Margin) ของราคาขายแผ่นฟิลม์และต้นทุนเม็ดพลาสติกมีส่วนต่างที่น้อยมาก นั้นถือว่าได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 0.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ กิโลกรัม หรือนับเป็นการทำลายสถิตติใหม่ในช่วงธุรกิจขาลงของ PET Film ที่เคยทำไว้ต่ำสุดที่ 0.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ กิโลกรัม ในปี 1999 ซึ่งในช่วงธุรกิจขาขึ้นนั้น Margin ของ PET Film เคยทำไว้สูงสุดที่ 1.5 ดอลลาร์ ส่วนผลประกอบการปีที่แล้วนั้นส่วนต่าง อยู่ที่ประมาณ 1 ดอลลาร์/ กิโลกรัม ทั้งนี้จึงเห็นว่า ธุรกิจนั้นได้อยู่ในจุดที่เรียกว่าใกล้ต่ำสุดแล้ว โดยปัจจุบัน คุณมานิตย์ กรรมการและผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์กล่าวว่า ถึงแม้อัตรากำไรของบริษัทจะหดตัวลงไปอย่างมาก จากสาเหตุการหดตัวของ Margin แต่เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน ถือว่า PTL ยังมีจุดแข็งในเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิต ทั้งในส่วน Forward Integration และ Backward Integration ดังจะเห็นได้จากการที่บริษัท สร้างโรงงานผลิต PET Resin เอง เพื่อลดต้นทุนและควบคุมความผันผวนของราคาวัตถุดิบ การสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตุรกี เพื่อเป็นการลดต้นทุนด้านการขนส่ง สินค้าที่ส่งไปในประเทศยุโรป รวมทั้งสิทธิพิเศษด้านภาษี และยังเป็นการขยายฐานการตลาดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเครือข่ายของบริษัท  การมุ่งเน้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น รวมถึง เป็นการลงความเสี่ยงจากการขายผลิตภัณฑ์ PET Film เพียงอย่างเดียว ดังจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ Metalizer ที่ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรม และ อิเล็คโทรนิกค์ นอกจากนี้บริษัท ยังได้อนุมัติแผนการลงทุน ใหม่ในโครงการสร้างโรงงานผลิตแผ่นฟิลม์เคลือบอัดรูป หรือ( Extrusion Coating) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มี ส่วนต่างด้านอัตราส่วนการทำกำไรที่สูงขึ้น และยังมีความต้องการของตลาดเป็นอย่างมากในตลาดต่างประเทศเช่น อเมริกา และ ยุโรป ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จ และเริ่มผลิตได้ในประมาณ 1ปีข้างหน้า ทั้งนี้จะเห็นว่า บริษัทยังมีความแข็งแกร่งอยู่มากเมื่อเทียบ กับ บริษัทอื่นที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน เพราะปัจจุบันหากเทียบกับ บริษัทในภูมิภาคเดียวกัน หรือในผู้ผลิตบางรายในตลาดโลก ก็ได้รับ ผลกระทบ จากการขาดทุนจากการดำเนินงาน จนทำให้หลายบริษัทต้องหยุดสายการผลิต ซึ่งจะเห็นว่าบริษัท PTL ยังคงมีความแข็งแกร่ง กว่าบริษัทอื่นๆ อยู่มากในเรื่องกระแสเงินสด และการควบคุมต้นทุนการผลิต ซึ่งผู้บริหารเชื่อว่า หากเมื่อผ่านแนวโน้มขาลงแล้ว บริษัทจะได้ประโยชน์อย่างมาก จากวิกฤติของราคาน้ำมันที่จะทำให้ Supply น้อยลงด้วย และบริษัทจะสามารถเริ่มปรับราคาขายแผ่นฟิลม์ได้อีกครั้ง รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ลงทุน ไปไม่ว่าจะเป็นโรงงานในตรุกี และ โครงการ Extrusion Coating จะเห็นผลได้ในปีหน้า ดังนั้น นักลงทุน ระยะยาวที่มองถึงความแข็งแกร่งของ บริษัท และมีความเชื่อมั่นในโครงการต่างๆ ที่บริษัทลงทุนไว้แล้วในอนาคต ก็น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับการสะสมหุ้น เพื่อรอการฟื้นตัวของธรุกิจนี้อีกครั้ง โดย dr_morky อังคาร ก.ค. 25, 2006 1:35 pm

รับฟังบทสัมภาษณ์ในรายการคอหุ้น Modern9 tv วันที 5 มกราคม 49 http://s23.yousendit.com/d.aspx?id=013GJSPJAQQKX210M6O1MZWCF2 โดย dr_morky พฤหัสฯ. ก.พ. 23, 2006 11:57 pm