หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
meadow
Joined: อังคาร ต.ค. 30, 2012 11:44 am
210
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - meadow
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
ช่วงที่หุ้นโดนสาดมา หางๆโวลุ่ม โอกาสเยอะมากครับ :) แต่เวลามันสั้นมาก กั้นใจใส่กระสุน จู่โจมกำลังพลที่แตกกระเจิงจาก force sell ได้ไม่กี่นัด เหล่าขุนศึกผู้กล้าท่านอื่นก็กระทำการตีกระนาบกวาดต้อนไปหมดสิ้น
โดย
meadow
จันทร์ ธ.ค. 15, 2014 7:57 pm
0
3
Re: MONO NBC RS เลือกใครดี
ผมก็ตัดใจยากก็เลยเลือก สามตัวเลย MONO เร็ทติ้งดีไม่มีตกจาก top 10 คงจะได้กลุ่มคนดูคอหนัง ที่ไม่ชอบดูนิยายหรือเกมม์โชว์ จัดเป็นแนวเดียวกับ HBO NBC ข่าว Nation ชื่อเสียงเป็นประกัน เป็นกลางไม่เชียร์ใครอย่างที่ทราบกัน RS หุ้น super star มีดาราในสังกัดเป็นสินทรัพย์แฝง อานิสงค์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโลยี่ และคอขวดผูกขาด 3-5-7-9 big bang คงใหลบ่าออกไปทั่วส่วนชองไหนจะเป็นดาวค้างฟ้า คงต้องดูหลังจากผ่านไปสักพัก
โดย
meadow
อังคาร ธ.ค. 02, 2014 11:09 pm
0
1
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
ผู้บริหารกองทุน ค้าน ยกเลิกภาษี LTF – RMFวันเผยแพร่ | | ผู้บริหารธุรกิจกองทุน ไม่เห็นด้วย กับแนวคิดของกรมสรรพากร ในการยกเลิกภาษี LTF และ RMF http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-32/21509-ab8.html ระยะเวลากว่า 10 ปีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ในการนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน มาคำนวนเพื่อหักลดหย่อยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐที่ต้องการจูงใจ ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 2 กองทุน มีเงินลงทุนรวมกันทั้งสิ้น กว่า 3 แสน 4 หมื่นล้านบาท แต่จากการเปิดเผยล่าสุดของ อธิบดีกรมสรรพากร นายสุทธิชัย สังขมณี ระบุว่า สิทธิลดหย่อนภาษีในกองทุน LTF และ RMF เป็นหนึ่งใน 20 รายการ ที่กรมสรรพากร จะหยิบขึ้นมาทบทวนว่าจะยกเลิกหรือไม่ เพื่อเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี โดยในส่วนของกองทุนแอลทีเอฟนั้น ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ ไปจนถึงปี 2559 ก่อนจะไปสิ้นสุดหลังจากนั้นอีก 5 ปี หรือในปี 2564 ตามเงื่อนไขที่ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ในขณะที่อาร์เอ็มเอฟ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิเอาไว้ แต่ผู้ถือหน่วยจะสามารถไถ่ถอนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จากการสอบถามผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการยกเลิกการให้สิทธิลดหย่อนภาษี เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนเริ่มรู้จักกองทุนประหยักภาษีมากขึ้น ประกอบกับเงินลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟเอง ถือเป็นแรงซื้อสำคัญในประเทศ ที่มีส่วนทำให้ตลาดไม่ผันผวนอีกด้วย ผู้บริหารกองทุนยังบอกด้วยว่า ในขณะที่นักลงทุนเริ่มรู้จักมากขึ้น แต่ภาครัฐกลับจะมายกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจนักลงทุน ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหากเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในมาเลเซีย รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการออมระยะยาวเพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้หลังเกษียณ โดยสามารถใช้สิทธิลดหย่อยภาษีจากการออมได้สูงสุดถึง 90% ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่สามารถลดหย่อนได้สูงสุดเพียง 30% เท่านั้น หลังจากนี้ คงเป็นหน้าที่ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือสมาคมบลจ. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องผลักดันให้ภาครัฐเห็นถึงข้อดีเหล่านี้ เพื่อเปิดโอกาศให้นักลงทุน มีช่องทางในการออมเงินนอกเหลือจากการฝากเงินเพียงอย่างเดียว
โดย
meadow
พุธ ต.ค. 30, 2013 12:49 pm
0
0
Re: เดินหน้าสู่ปักกิ่งในมุมมองของผม สู่ความเจริญรุ่งเรืองใน
สงสัยเราต้องพิมพ์เงินออกมาใช้อัดฉีดแบบ เมกา จะไม่ต้องเป็นกังวลการหาเงินมาใช้หนี้ในอนาคต
โดย
meadow
จันทร์ ก.ย. 30, 2013 8:18 pm
0
0
Re: พลังงานไฟฟ้า
แล้วถ้ามันรั่วขึ้นมาพืชผลทางการเกษรจะขายได้รึเปล่าครับ ทำไมไม่ไปตั้งประเทศเพื่อบ้านละ คิดว่าตั้งที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วจะรอดเหรอครับ ตอนที่ญี่ปุ่นโดน จีนยังได้รับผลกระทบบางส่วนเลย ผักโดนปนเปื้อนบางมลฑล แล้วขอโทษจริงๆครับ ความคิดที่โยน"ขี้"ไปให้เพื่อนบ้าน แล้วผลประโยชน์เรากินเองนี่ผมรับไม่ได้จริงๆครับ เป็นบ้านพี่เมืองน้องต้องจริงใจกันกว่านี้ครับ เพื่อนบ้านเค้าไม่โง่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไปตั้งในเพื่อนบ้านเค้าก็กำหนดเซฟตี้ ความสะอาดระดับโลกเหมือนไทยแหละครับ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการไปสร้างเขื่อนที่ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าจะอ้างการอนุรักษ์ป่าจริง ก็ควรจะมาประท้วงที่ไปสร้างเขื่อนใหม่ที่เพื่อนบ้านมาขายให้ไทยด้วย
โดย
meadow
ศุกร์ ก.ย. 27, 2013 9:47 pm
0
1
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
เห็นเริ่มมีการเคลื่อนไหวตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ยังไม่เห็นความคืบหน้า ถ้าปีหน้ายังไม่ต่ออายุ ผมก็คงเริ่มงดซื้อ LTF
โดย
meadow
ศุกร์ ก.ย. 27, 2013 9:24 pm
0
0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
หากไม่มีการยกเว้นภาษีให้กับนักลงทุนในกองทุน LTF นักลงทุนไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ก็จะไม่ซื้อกองทุนต่อ โดยมูลค่าการลงทุนในกองทุน LTF อยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
โดย
meadow
พฤหัสฯ. ก.ย. 26, 2013 9:12 pm
0
0
Re: ข้าวของแพง...เป็นแค่ความรู้สึกจริงหรือ?
เงินในกระเป๋าไม่ได้น้อยลง แต่ค่าของเงินน่าน้อยลงในจำนวนเงินเท่าเดิม ทำให้อดออม เพราะคำตอบ ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย คำว่า ของแพง ข้าวของมันก็จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เราต้องคิดเองและประหยัดเอง 3-5ปีข้างหน้า ก๋วยเตี๋ยวข้างถนน อาจจะเจอราคาชามละ100บาทได้ เราเห็นสิ้นค้าพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวันราคาสูงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อกลับส่วนทางลดลงทุกๆเดือน ซื่งดูเหมือน พละกำลังในการจ่ายจะเป็นฝ่ายล่าถอย ได้แต่หวังว่าคงจะไม่ลดลงไปต่ำกว่าศูนย์
โดย
meadow
อาทิตย์ ก.ย. 15, 2013 10:38 am
0
1
Re: Meeting ภาคเหนือตอนล่าง #6 ที่พิษณุโลก
อยากเข้าร่วมครับ แต่ว่าอาทิตย์จะหน้าย้ายสถานที่ทำงานใหม่ ตารางเวลาวันทำงานยังไม่แน่นอน ไม่แน่ใจจะว่างไหม
โดย
meadow
อาทิตย์ ก.ย. 15, 2013 10:24 am
0
1
Re: สถานการณ์รถยนต์
เป็นไปตามคาดยอดรถจดทะเบียนเดือนสิงหาคมลงต่อ
โดย
meadow
พฤหัสฯ. ก.ย. 05, 2013 11:57 pm
0
0
Re: อุตสาหกรรมอะไรที่ไม่โต
ครึ่งปีหลังมาลุ้นดาวร่วงประจำปี OEM ยานยนต์
โดย
meadow
จันทร์ ก.ย. 02, 2013 10:43 pm
0
1
Re: สถานการณ์รถยนต์
เชิญรับชมกันตามอัธยาศัยครับ https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p206x206/17494_569338826445079_725287320_n.jpg https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/q71/s720x720/1175725_569338833111745_947132787_n.jpg https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/564344_569328903112738_1904950284_n.jpg :) ถ้าดูจากประวัติย้อนหลังแล้ว กำลังซื้อที่แท้จริงจะอยู่ประมาณหกหมื่นคันต่อเดือน :( :(
โดย
meadow
จันทร์ ก.ย. 02, 2013 10:15 am
0
1
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
ตอนต้นปีกำลังมันเลยขออยู่ต่ออีกหน่อยเพื่ออยู่ร่วมพิชิตยอดเดิม อุกาบาตหล่นมาตูม แล้วตามด้วยหิมะถล่มซ้ำ คงต้องสะสมกำลังพลพอสมควรถึงจะรุกต่อได้
โดย
meadow
พุธ ส.ค. 28, 2013 7:21 pm
0
3
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
อันลูกธนูเหล่าของผู้กล้า ทั้งพลทหารรายย่อย จนถึงแม่ทัพใหญ่กองทุน ต่างยิงออกไปจนหมดสิ้น การที่จะมีลูกธนูมายิงต่อในยามนี้ จำเป็นต้องฝ่าไปถอนเอามาจากซากศพที่ล้มตาย ตอนนี้ต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ว่า วิกฤติการ โรตี ว่าจะกระทบเรามากแค่ไหน มองลงไป ด้วยกำลังพลของข้าศึก sun raising in US + โรตีเน่าที่แตกกระจ่าย ดูเหมือนว่าในยามนี้ยอดเนินปูซาน 1250 ดูเล็กไปถนัดตาทีจะซ่องสุมกำลังพล เห็นทีที่จะต้องมองไปที่หุบเขาด่านลึกเบื้องล่าง 1000 เป็นสำคัญ
โดย
meadow
พุธ ส.ค. 28, 2013 12:29 pm
0
5
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
วานนี้ บาททะลุ 32 ไปเรียบร้อย ท่านนายกองทั้งที่มีกำลังพล เป็นหุ้นส่งออก หรือมีกองหนุนเป็น US จงมีสติ ลมพัดหลวงทีทวีแรงขึ้น จักได้ส่งใบเรือท่านต้องลม ให้ทะยานมากกว่าหลายเพลาที่ผ่านมา ยิ่งฝรั่งขนเงินตราออกมากเท่าไร สิ่งที่ทันได้มาจากการค้าจะมีค่ามากกว่าเดิมในเมืองนี้ การแตกตื่นของชาวบ้านจักให้ท่านเลือกของเพชรที่ถูกทิ้ง ไม่แน่ในวันหน้าเมื่อฝุ่นจาง PE 2 ในตำนาน อาจอยู่ในมือทาน
โดย
meadow
พฤหัสฯ. ส.ค. 22, 2013 12:58 pm
0
6
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
นอกจากกิจการรายเล็ก รวมถึง OTOP ที่ปิดตัวแบบเงียบๆ ไป รายใหญ่อย่าง สหฟาร์ม ล่าสุดก็ แพน ต่างทนกับปัจจัยที่เกิดขึ้นไม่ไหว ซึ่งดูเสมียนเป็นตัวอย่างทิศของ กิจการที่ใช้แรงงานมากๆ ในบ้านเรา Q3 ผ่านมาครึ่งทางแล้วยังไม่ที่ท่าว่าลมจะเปลี่ยนทิศ…… ลมเปลี่ยนทิศ!!!!!! รึว่ากระแสลมได้เปลี่ยนทิศ จากที่เคยพัดมา 2-3 ปีแล้ว
โดย
meadow
พุธ ส.ค. 21, 2013 9:37 am
0
2
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
เหล่า ผู้กล้าทั้งหลาย เมกา เสพติด QE แค่บอกว่าปี 57 จะหยุดปล่อยยาโดป ทำเอาหุ้นบ้านเราลงแดง แล้วบ้านเรา ที่เสพติดยาโดป LTF ถ้าเกิดไม่ต่อ ในปี 59 จะเป็นฉันใดหนอ
โดย
meadow
อังคาร ก.ค. 23, 2013 2:53 am
0
1
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
การศึกครั้งนี้ผิดจากครั้งที่ผ่านมา เนื่องด้วย ศัทตราวุธ QE จากภายนอก บวกกับภายใน อัฐที่มีก็ร่อยหรอ จนจำนำได้แค่ 1200 แรงหนุนจากรากหญ้าคงหาย อีกทั้งลมก็เปลี่ยนทิศพัดค่าเงินอ่อนไปอ่อนมา เหล่าขุนพลทั้งหลาย จะทำการสิ่งใดจงไตร่ตรอง อันตัวข้า จักขันอาสาออกรบ สกัดข้าศึกตามหุบเขา และรอจนกว่าทัพใหญ่จะยกมา เมื่อเพลานั้นมาถึงคงได้ร่วมรบกัน จนพิชิตยอด 1700 ให้จนได้
โดย
meadow
ศุกร์ มิ.ย. 21, 2013 7:28 pm
0
3
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
เรายังมีแม่ทัพผู้หาญกล้า ดอยมิกลัว ขันอาสาที่จะออกรบ แม้จะถูกทัดทานอย่างหนักจากผู้หยั่งรู้ ดอยนะมึง ก็มิเกรง
โดย
meadow
พุธ มิ.ย. 19, 2013 9:55 am
0
2
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
แล้วส่งทหารปลายแถวออกไปในสมรภูมิ เผื่อจะได้มีที่ว่างให้ท่านนายพลเข้ามาเพิ่มในหลุมหลบภัย
โดย
meadow
พฤหัสฯ. มิ.ย. 13, 2013 12:45 pm
0
2
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
ท่านแม่ทัพธันวา ส่งข่าวให้อยู่ในห้องหลบภัย ------------------------------- พายุทอร์นาโดคือภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งในโลก แม้มีพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2556 มี ‘ทอร์นาโดมรณะ’ รัศมีกว้างที่สุดในประวัติศาสตร์ 4.2 กิโลเมตรพร้อมกระแสลมระดับรุนแรงสุด EF-5 (Enhanced Fujita Scale) 475 กม./ชม. เข้าพัดถล่มใกล้เมืองโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา คร่าชีวิตผู้คนพร้อมสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนอย่างมาก ‘พายุข่าวร้าย’ กระหน่ำตลาดหุ้นไทยตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ ข่าวการลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา QE) ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ข่าวลือการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ข่าวตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด ข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดต่ำลง ข่าวเงินบาทอ่อนค่าและการขายหุ้นของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงรุนแรงต่อเนื่องร่วม 10% กระทบต่อความมั่งคั่งของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นอย่างมากเช่นกัน ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงและควบคุมไม่ได้ฉันใด ความผันผวนของตลาดหุ้นและราคาหุ้นก็เป็นเรื่องปกติฉันนั้น เมื่อเผชิญพายุทอร์นาโดนั้น ‘หลุมหลบภัย’ หรือห้องใต้ดิน คือเครื่องมือช่วยป้องกัน รักษาชีวิตและทรัพย์สินสำคัญแม้มีบางส่วนได้รับความเสียหาย ในภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา ย่อมต้องเผชิญการปรับตัวลงอย่างรุนแรงเช่นกัน การเลือกลงทุนหุ้นที่เข้าข่ายเป็น ‘หลุมหลบภัย’ จะทำให้มีผลกระทบในวงจำกัดและไม่เกิดความเสียหายมากเกินไป มาดูกันว่า หุ้น ‘หลุมหลบภัย’ ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ข้อแรก เป็นกิจการที่มีสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขาดไม่ได้ ต้องซื้อซ้ำ ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจหรือมีผลกระทบน้อยหากเศรษฐกิจถดถอย รายได้และกำไรของกิจการไม่ควรลดลงถ้ามีควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี หากราคาหุ้นที่ซื้อขายไม่อยู่ในระดับที่แพงเนื่องจากปรับตัวลงมากแล้ว ก็จะมี downside risk ต่ำ อย่างไรก็ตาม การซื้อและหวังว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นทันทีในภาวะตลาดเช่นนี้นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ยกเว้นแต่มีปัจจัยบวกรองรับและส่งผลให้ผลประกอบการโดดเด่นอย่างมาก ข้อสอง นอกจากคุณสมบัติข้อแรกแล้ว หากกิจการยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขา เพิ่มกำลังการผลิต จากความสำเร็จทางกลยุทธ์และส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายและกำไรอย่างโดดเด่นด้วยการประหยัดจากขนาด economies of scale) นี่คือกิจการที่เป็น ‘หลุมหลบภัย’ ที่ปลอดภัยเช่นกัน ราคาหุ้นที่ปรับลงนั้นน่าจะเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว ข้อสาม กิจการที่จ่ายเงินปันผลในอัตราสูงและมีประวัติการจ่ายอย่างต่อเนื่อง มักเป็นกิจการดีและมั่นคง กระแสเงินสดและกำไรสม่ำเสมอ จึงสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ดีและสูงขึ้นทุกปี แม้ราคาหุ้นจะผันผวนตามภาวะตลาดแต่เมื่อผลตอบแทนเงินปันผลใกล้เคียงกับผลตอบแทนพันธบัตรหรือหุ้นกู้แล้ว ราคามักจะไม่ปรับลงมากนักเพราะจะมีนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงต่ำและปันผลดีเลือกเข้าลงทุน ทางเลือกลงทุน ‘หลุมหลบภัย’ ที่มีลักษณะคล้ายกันได้แก่ Property Fund และ Infrastructure Fund ข้อสุดท้าย กิจการที่มีการซื้อหุ้นคืน Treasury Stock) เนื่องจากผู้บริหารเล็งเห็นศักยภาพและแนวโน้มที่ดีของบริษัทในระยะยาว สวนทางกับราคาหุ้นที่ซื้อขายถูกเกินไป จึงนำสภาพคล่องส่วนเกินมาซื้อหุ้นคืนโดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนอื่น ปริมาณเงินพร้อมซื้อหุ้นคืนถึง 5-10% ของมูลค่ากิจการทั้งหมด คือปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยลดแรงขายและพยุงราคาไม่ให้ตกลงมากเกินไป นอกจากนี้ หากผู้บริหารใช้เงินส่วนตัวซื้อหุ้นของตน ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมั่นใจในแนวโน้มกิจการและช่วยสนับสนุนทางจิตวิทยาอีกด้วย ท่ามกลางความผันผวนเช่นนี้ กลยุทธ์หนึ่งที่อาจพิจารณานำมาใช้คือการปรับพอร์ตลงทุน วิธีที่ผมมักใช้ก็คือการเรียงลำดับหุ้นในพอร์ตจากหุ้นที่ชอบมากไปน้อยที่สุด หุ้นที่ชอบน้อยที่สุดมักจะมีราคาเป้าหมายในการขาย นอกจากนี้ยังมีรายชื่อหุ้นยอดเยี่ยมแต่ยังไม่มีอยู่ในพอร์ตเพราะเกี่ยงเรื่องราคา ความผันผวนจึงเป็นโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้พอร์ตลงทุนมีแต่กิจการยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตรงกับโปรไฟล์และเป้าหมายการลงทุนมากขึ้นนั่นเอง ในฐานะ Value Investor ซึ่งเน้นการลงทุนระยะยาวนั้น ต้องมีเป้าหมายที่ ‘สมเหตุสมผล’ เช่นผลตอบแทนทบต้น 12-15 % ต่อปีในระยะ 10 ปีลงทุน แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 63.3%, 40.5%, -0.7% และ 35.8% ในช่วงปี 2552-2555 ทำให้นักลงทุนมีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนทางข้างหน้าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ดังนั้นเมื่อเลือกเส้นทางนี้ ต้องนึกถึงคำพูดที่ว่า ‘Expect The Unexpected’ ไว้เสมอ เพื่อความไม่ประมาทและความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ Posted by thanwa at 10:30 AM http://portal.settrade.com/blog/thanwa/2013/06/13/1300
โดย
meadow
พฤหัสฯ. มิ.ย. 13, 2013 12:34 pm
0
8
Re: หุ้นกลุ่มพลังงานนี่สามารถลงทุนระยะยาวแบบVIได้ไหมครับ
คงต้องลอง ตอบตัวเองว่า ราคาวันนี้ ระหว่างหุ้นพลังงานแบบเก่า PE เท่าที่เห็น กับพลังงานแบบไหม่ PE30 จะเลือกซื้อแบบไหนที่มี MOS
โดย
meadow
เสาร์ เม.ย. 06, 2013 3:17 am
0
1
Re: สิ่งที่ควรทำเวลาหุ้นตก
ได้เวลาทบทวนการลงทุนของตัวเอง เราให้ MOS ที่เท่าไร growth rate & forward PE แล้วเราจะไม่หวั่นไหวกับอารมณ์นายตลาด :D :twisted:
โดย
meadow
อาทิตย์ มี.ค. 24, 2013 10:53 am
0
0
Re: หุ้นที่ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับต้นๆของแต่ละหมวดมีอะไรบ้
วิริยะประกันภัย เบอร์ 1, TIP เบอร์ 2 ยอดประกันภัยรวม
โดย
meadow
จันทร์ มี.ค. 18, 2013 11:10 am
0
0
Re: เชิญลงชื่อสัมมนากับคุณโจลูกอิสานที่ ม.นเรศวร พิษณุโลก
ขอจอง 2 ที่ครับ
โดย
meadow
ศุกร์ มี.ค. 15, 2013 8:59 pm
0
1
Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย
When we saw PE 30 today, we have to indentify its became look forward to be very good in next 2 or 3 year. Or market gave the price to be return to normal for some company met a bad situation in last year.
โดย
meadow
พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 1:46 am
0
1
Re: รวมข่าว "การลงทุนในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี"
ไทยออยล์โหมลงทุน4.65หมื่นล้าน5ปี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีที่ต่อเนื่องครบรงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นหัวหอกสำคัญของกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)ในการกลั่นน้ำมัน เพื่อป้อนความต้องการให้กับประเทศ ในภาวะที่เศรษฐกิจของโลกและราคาน้ำมันที่มีความผันผวน ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของไทยออยล์ตามมาด้วย โดยเฉพาะการที่นายบารัก โอบามา เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่ 2 ทุกฝ่ายต่างจับตาว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สานต่อ จะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างไร นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์กับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงทิศทางการดำเนินงานหลังจากนี้ไว้อย่างน่าสนใจ +++ความต้องการใช้น้ำมันยังเติบโต จากนี้ไปการใช้พลังงานในสหรัฐฯจะเติบโตขึ้น หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประสบความสำเร็จ และเชื่อว่าจะส่งผลดีมายังประเทศไทยด้วย โดยสหรัฐฯมีความได้เปรียบด้านราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากพบแหล่งก๊าซในชั้นหิน(เชลล์แก๊ส) ส่งผลให้มีปริมาณก๊าซใช้ในประเทศมากขึ้น จากที่เคยเป็นประเทศนำเข้าพลังงานจำนวนมาก ก็จะลดการนำเข้าลง ทั้งนี้ ประมาณการความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้จะเติบโต 8 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนที่ใช้อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งในส่วนของน้ำมันที่เติบโตขึ้น จะมาจากสหรัฐฯ 50% และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากประเทศต่างๆ ขณะที่การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกจะยังคงปริมาณที่ 30-31 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่จำเป็นต้องผลิตน้ำมันเพื่อป้อนให้กับตลาดทั่วโลกเพิ่ม เพราะมีกำลังการผลิตจากสหรัฐฯเข้ามาทดแทนส่วนหนึ่งแล้ว ดังนั้นราคาน้ำมันจะไม่ผันผวนมากนัก คาดว่าในปี 2556 จะทรงตัวอยู่ที่ 100-110 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล "ผมเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯจะต่อเนื่องหลังจากที่โอบามา เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ซึ่งย่อมส่งผลดีจ่อเศรษฐกิจของไทยด้วย เพราะหากเศรษฐกิจโลกก้าวไปในทิศทางที่ดี ก็เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจของไทยด้วย ขณะที่ภาพรวมการผลิตน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี ก็รับผลดีตามไปด้วย" ++++ไทยออยล์ทุ่ม4.65หมื่นล้านบาท ส่วนการเตรียมตัวรับมือกับทิศทางเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องสำคัญ ที่ไทยออยล์ต้องวางแผนระยะยาวเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆได้ โดยในช่วง 5 ปีนี้ (2555-2559) ไทยออยล์จะใช้เงินลงทุนประมาณ 4.65 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 9.3 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ทำให้กำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ในปลายปีนี้โครงการเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนอีก 1 แสนตันจะแล้วเสร็จ ใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะส่งผลให้ปี 2556 ไทยออยล์จะมีกำลังการผลิตพาราไซลีนเพิ่มเป็นกว่า 5 แสนตันต่อปี ขณะที่โครงการผลิตแอลเอบี (Linear Alkyl Benzene) กำลังการผลิต 1 แสนตันต่อปี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผงซักฟอกและสารซักล้าง จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งนับว่าเป็นโครงการแห่งแรกของไทย เพื่อทดแทนการนำเข้าสารดังกล่าว ที่จะป้อนความต้องการใช้ในประเทศ 6 หมื่นตันต่อปี ส่วนกำลังการผลิตที่เหลือจะส่งออกไปต่างประเทศ "ภายหลังจากที่โครงการขยายกำลังการผลิตพาราไซลีนเสร็จ ไทยออยล์เตรียมแผนขยายคอขวดเพื่อปรับปรุงกระบวนการกลั่น ซึ่งจะดึงน้ำมันดีเซลออกจากน้ำมันเตาได้มากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ จะใช้เงินลงทุน 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแผนจะซื้อเรือ VLCC เพิ่มอีก 1 ลำ เพื่อขยายกองเรือรองรับความต้องการใช้เรือขนส่งน้ำมันของกลุ่มปตท.ได้เพิ่มเป็น 30%" +++มั่นใจรายได้ปี 2559โตเท่าตัว โครงการส่วนใหญ่จะเสร็จในช่วงปี 2557-2559 แต่ปีหน้าจะมีเพียงโครงการเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนเท่านั้นที่แล้วเสร็จ จึงไม่ได้ส่งผลต่อรายได้ให้เติบโตมากนัก แต่เชื่อว่าในปี 2559 ไทยออยล์จะมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ภายใต้ราคาน้ำมันดิบที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะรับรู้รายได้เต็มจากโครงการใหม่ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรกว่า 1 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 2554 บริษัทมีกำไรกว่า 8 พันล้านบาท ซึ่งประมาณการค่าการกลั่นเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาสก่อนที่ 7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ไทยออยล์จะยังไม่มีแผนเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันในขณะนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เพราะยังกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ไม่เติบโตขึ้นมากนัก ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานได้ประกาศยกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2556 ดังนั้นโรงกลั่นน้ำมันทุกแห่งจะต้องประสบปัญหาน้ำมันเบนซินส่วนเกิน โดยไทยออยล์ผลิตน้ำมันเพื่อขายในประเทศกว่า 80% ส่วนอีกกว่า 15% จะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นหลังจากเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 แล้ว ไทยออยล์ก็ต้องเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น +++ดันรัฐหนุนแก๊สโซฮอล์อี20 สำหรับการยกเลิกเบนซิน 91 อาจทำให้น้ำมันเบนซินพื้นฐาน(จีเบส) ตึงตัว ซึ่งยอมรับว่าโรงกลั่นไทยออยล์ไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อรองรับการผลิตแก๊สโซฮอล์มากนัก จึงต้องไปปรับขบวนการผลิตใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการกลุ่มโรงกลั่นได้หารือร่วมกับภาครัฐ พบว่าทางออกในการเพิ่มสัดส่วนการใช้เอทานอล และเป็นประโยชน์กับโรงกลั่น คือการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์อี20 ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านลิตรต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มเป็น 2.5 ล้านลิตรต่อวัน และแม้ว่าความต้องการเอทานอลจะเติบโตขึ้นอีก เชื่อว่าเอทานอลจะไม่ขาดแคลน เนื่องจากขณะนี้มีกำลังการผลิตรวม 4 ล้านลิตรต่อวัน +++อ้อนรัฐลอยตัวแอลพีจีหน้าโรงกลั่น ส่วนกรณีสถานการณ์การผลิตก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีนั้น ต้องยอมรับว่ามีค่อนข้างจำกัด ซึ่งภาครัฐต้องการให้โรงกลั่นน้ำมันผลิตแอลพีจีเพื่อป้อนเข้าระบบมากขึ้น เพื่อลดปริมาณการนำเข้า เป็นภาระให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมาก โดยในส่วนของไทยออยล์ยอมรับว่าคงผลิตแอลพีจีเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้มากจากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 1 หมื่นตันต่อเดือน หรือคิดเป็นประมาณ 5% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพราะต้องยอมรับว่าวัตถุดิบที่ใช้ผลิตแอลพีจีคือน้ำมันดิบ และไทยออยล์ต้องซื้อน้ำมันราคาตลาดโลก แต่เมื่อผลิตเป็นแอลพีจีกลับต้องขายราคาควบคุม ดังนั้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงไม่เลือกที่จะผลิตแอลพีจีออกมามากนัก ดังนั้นหากภาครัฐต้องการจูงใจให้โรงกลั่นน้ำมันผลิตแอลพีจีออกมามากขึ้น เพื่อลดการนำเข้า ควรพิจารณาลอยตัวราคาแอลพีจีให้เป็นราคาตลาดโลก เพราะคงไม่มีโรงกลั่นรายใดอยากผลิตสินค้าออกมาขายแล้วขาดทุน ปัจจุบันโรงกลั่นน้ำมันซื้อน้ำมันดิบ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ขายเป็นแอลพีจีอยู่ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการนำเข้าจะยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อไปมากยิ่งขึ้น จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,793 วันที่ 18-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
โดย
meadow
จันทร์ พ.ย. 19, 2012 11:04 am
0
0
Re: รวม "พม่า"
สินค้าเกษตรไทยโดยเฉพาะยาง ทำใจไว้ได้เลยว่าราคาตกแน่ๆ แล้วยางตอนนี้ปลูกกันเยอะมากทั่วประเทศ อีสานก็เยอะ ถ้ามีการจำนำยางขึ้นมาเพื่อเอาใจฐานเสียงอีกล่ะก็ รัฐบาลคงกระเป๋าฉีก ข้าวอย่างเดียวก็เอาตัวไม่รอดแล้ว น่าเป็นห่วงนโยบายทำนองนี้จริงๆ ผมว่านอกจาก สองอย่างนี้แล้ว โรงงานที่ต้องการพื้นที่ปลูกพืชขนาดใหญ่ ป้อนให้โรงานอย่าง อ้อย ปาลม์ กระดาษ ก็น่าจะมี่ความได้เปรียบ
โดย
meadow
ศุกร์ พ.ย. 16, 2012 3:50 pm
0
0
Re: รวม "พม่า"
เท่าที่เห็น สภาพบ้านเมื่อง และผู้คน ที่ย่างกุ้ง เนปิดอว์ และตามหัวเมื่องที่ไป พื้นที่ว่างเปล่าเยอะมาก ระหว่างทางจากย่างกุ้งไปเนปิดอว์ เริ่มมีการปลูกยางพาราบ้าง ต่อไปคงมีการปลูกอีกมาก ด้วยปริมาณพื้นที่ที่ยังว่าง อีกมาก บวกกับแรงงานที่มี ถ้าพม่าหลุดจากการกีดกันท่างการค้า แก้กฏทางการค้าหน่อย ขายของกันออกต่างประเทศได้สะดวก ภาคเกตรน่าจะเกิดได้ก่อน โรงงานที่อาศัยที่แรงงานจำนวนมากน่าจะได้เปรียบ ส่วนการปริโภคภายในประเทศคงต้องใช้เวลาสักพัก หลังจากคนมีงานทำ ขายสินค้าเกษตรได้ มีการต่อไฟฟ้าไปตามหมู่บ้าน
โดย
meadow
พุธ พ.ย. 14, 2012 1:14 pm
0
1
Re: รวม "พม่า"
เก็บภาพ เมืองต่างจังหวัดในพม่า แวะจอดพักระหว่างทาง กลับเนปิดอร์ http://img15.picoodle.com/i5bd/crn/grqd_f63_ud1kp.jpg ใจกลางเมืองถนนกว่างหน่อย ถัดออกไปสักสามร้อยเมตร ถนนจะเหลือสามเลน ตรงกลางลงหิน ให้รถ&ลาเทียมเกวียนวิ่ง ซ้ายขวาเป็นทางเกวียน http://img15.picoodle.com/i5bd/crn/grqd_a05_ud1kp.jpg ร้านน้ำชาแบบพม่า http://img15.picoodle.com/i5bd/crn/grqd_0f6_ud1kp.jpg ดูลีลาการทำ สั่งโรตี่มากินคู่ กับน้ำชา ดีกว่า http://img15.picoodle.com/i5bd/crn/grqd_cce_ud1kp.jpg ปล. ควรกินก่อน เดินไปเข้าห้องน้ำ เดียวจะทานไม่ลง
โดย
meadow
พุธ พ.ย. 14, 2012 12:04 am
0
3
Re: รวม "พม่า"
http://i.picoodle.com/969jgkq3
โดย
meadow
อังคาร พ.ย. 13, 2012 11:22 pm
0
1
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
meadow
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ต.ค. 30, 2012 11:44 am
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร มี.ค. 15, 2022 11:55 am
โพสต์ทั้งหมด:
210 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.05 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว