หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
chali119
Joined: จันทร์ ต.ค. 08, 2012 4:55 pm
58
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - chali119
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: หากบริษัทประกันภัยเจ้ง ผู้ทำประกันจะทำยังไงครับ
ไม่ต้องถึงขนาดเจ๊งก็ได้นะคะ ถ้าดูแล้วบริษัทประกันไม่น่าไว้ใจก็ไม่ควรใช้แล้วค่ะ เคยเจอตัวอย่างเรื่องประกันภัยขนส่งสินค้าค่ะ บริษัทเพื่อนนำเข้าสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ ผู้ขายเป็นคนซื้อประกันมาจากต้นทาง ปรากฏว่าเกิดความเสียหายขึ้นระหว่างการขนส่ง ของทั้งล๊อตเสียหายหมดมูลค่าก็ประมาณร่วมสิบล้าน บริษัทประกันก็ตุกติกไม่ยอมจ่าย อ้างโน่นอ้างนี่ว่าผิดเงื่อนไขบ้างอะไรบ้าง ทั้งๆที่ขั้นตอนการเซอร์เวย์ทำถูกต้องทุกอย่างและแจ้งบริษัทประกันทุกครั้ง ถึงขั้นตอนเอากรมธรรมมานั่งอ่านทุกบรรทัด แล้วให้นักกฏหมายตีความ ค่า premium ถูกมากๆก็จริง แต่พอเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาแล้วประกันไม่ยอมจ่ายหรือจ่ายยากเย็น อันนี้ก็ปวดหัวมากแล้วค่ะ
โดย
chali119
จันทร์ เม.ย. 11, 2016 5:59 pm
0
2
Re: มี บ.ใดเสียหรือได้ประโยชน์ จากที่ EU จะตัด GSP ไทยบ้างคร
ข่าวอันนี้น่าจะเป็นข้อมูลที่ดีกว่า -------------------------------------------------------------- หายวับแสนล.1ม.ค.ตัด GSP ส่งออกไป 'อียู' (Dec 22,2014) นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มคู่ค้าในแถบสหภาพยุโรป(อียู) จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี)สินค้าไทยทุกรายการที่ส่งออกไปอียู จาก 2 เหตุผลคือ 1.สินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดเกิน 17.5% ของมูลค่าการนำเข้ารวมจากประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพีจะถูกตัดสิทธิ์ และ 2. จากการที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับจากธนาคารโลกให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูง(Upper-Middle Income Countries) เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ทำให้ไทยต้องเสียภาษีในอัตราปกติ(อัตรา MFN) ตามข้อตกลงขององค์การการค้าโลก ด้วยเหตุนี้"ฐานเศรษฐกิจ"จึงทำการสำรวจผู้ส่งออกในหลายกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกไปอียู(28 ประเทศ)ในโค้งสุดท้ายของปีนี้ ก่อนถูกตัดสิทธิจีเอสพีในปีหน้า ส่วนใหญ่ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่าได้รับผลกระทบแน่แต่มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ก็ยืนยันตรงกันว่าได้เตรียม/ปรับแผนกลยุทธ์ เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแล้ว โดยในประเด็นข้างต้นนี้นายประชัย กองวารี นายกสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ยางที่ไทยส่งออกไปอียูสัดส่วนกว่า 80% เป็นถุงมือยาง การถูกตัดจีเอสพีครั้งนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน โดยทำให้การส่งออกถุงมือยางไทยเสียเปรียบคู่แข่งขันสำคัญอย่างมาเลเซียมากขึ้น จากเดิมมาเลเซียไม่ได้จีเอสพีจากอียู แต่ไทยได้จีเอสพียังแข่งขันลำบาก เพราะมาเลเซียมีต้นทุนที่ถูกกว่า มีเครื่องจักรในการผลิตที่ทันสมัยกว่าสามารถผลิตได้ถึง 20 ล้านชิ้นต่อเครื่องต่อเดือน ขณะที่เครื่องจักรไทยล้าสมัยผลิตได้ประมาณ 6 ล้านชิ้นต่อเครื่องต่อเดือน แม้ขณะนี้รัฐบาลไทยได้อนุมัติสินเชื่อให้กับโรงงานแปรรูปยางเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หรือขยายกำลังการผลิต 1.5 หมื่นล้านบาทแล้วแต่ยังมีความล่าช้าในทางปฏิบัติ "อียูถือเป็นตลาดใหญ่สุดของถุงมือยางไทย รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา การถูกตัดสิทธิจีเอสพีได้รับผลกระทบแน่นอน ทางออกคือทุกรายคงต้องเร่งหาตลาดใหม่ๆ ชดเชย เพราะนอกจากคู่แข่งมาเลเซียแล้ว เวลานี้ในเวียดนามก็มีการตั้งโรงงานผลิตถุงมือยางเพื่อส่งออกแล้วหลายโรง และเวียดนามก็ยังได้จีเอสพีจากอียูจะทำให้เราได้รับกระทบมากขึ้น" เช่นเดียวกับคำตอกย้ำของนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า จากการถูกอียูตัดจีเอสพี ที่จะทำให้การนำเข้ารถยนต์ของอียูจากไทยต้องเสียภาษีในอัตราปกติที่ 10% จากที่เคยได้จีเอสพีเสียที่ 6.5% จะทำให้ราคาสินค้ารถยนต์จากไทยสูงขึ้นกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเพื่อรองรับผลกระทบ ทางผู้ประกอบการเร่งขยายตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง อเมริกากลาง อเมริกาใต้ ส่วนในปีนี้มูลค่าการส่งออกรถยนต์ของไทยไปอียูช่วง 11 เดือนแรกมีมูลค่า 3.71 หมื่นล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 48% มองว่าเป็นผลจากอียูเร่งนำเข้าก่อนที่ไทยจะถูกตัดจีเอสพี คาดถึงสิ้นปีนี้จะส่งออกรถยนต์ไปตลาดอียูได้ราว 1 แสนคัน ส่วนในปีหน้าคาดจะลดลงเหลือประมาณ 9 หมื่นคัน อย่างไรก็ตามแรงกดดันนี้นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการ และอดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่าในสินค้าเครื่องนุ่งห่ม หรือการ์เมนต์ส่งออกไปอียูคงได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะจากเดิมได้สิทธิจีเอสพีเสียภาษีนำเข้าที่ 9.6% ต้องกลับไปเสียภาษีในอัตราปกติที่ 12% ขณะที่เวียดนามคู่แข่งสำคัญยังได้สิทธิจีเอสพี คงเสียภาษีที่ 9.6% มองว่าไม่กระทบมาก เพราะภาษีต่างกันไม่มาก ทางออกผู้ประกอบการการ์เมนต์เวลานี้ หลายกลุ่มได้ขยายฐานการผลิตไปยัง CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม)ที่ยังได้จีเอสพีจากอียูเพื่อใช้เป็นฐานผลิตและส่งออก "ผู้ประกอบการต้องไปลงทุนในประเทศที่ได้รับจีเอสพี หรือลงทุนในประเทศที่จะได้เอฟทีเอกับอียู และหลังจากที่ไทยมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่แล้วต้องเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอกับอียูให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ภาษี 0% ชดเชยจีเอสพีที่ถูกตัดไป" ไม่แตกต่างไปจากกลุ่มสินค้ากุ้ง โดยที่นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรอแยลฟรอเซนฟู๊ด จำกัด กล่าวว่าในปี 2557 การส่งออกกุ้งได้รับผลกระทบจากผลผลิตที่ยังไม่เพิ่มขึ้นจากความกังวลของผู้เลี้ยงในเรื่องโรคตายด่วน(EMS) และคาดหวังในปีหน้าผลผลิตจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ 20% แต่การถูกอียูตัดจีเอสพีส่งผลกระทบแน่นอน ทางออกเวลานี้โรงงานแปรรูปอาหารทะเล(ห้องเย็น) หลายรายได้พยายามขยายตลาดไปยังจีนและรัสเซีย ที่เป็นตลาดการบริโภคขนาดใหญ่ ขณะที่นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ ประธานคณะกรรมการความยั่งยืนทางธุรกิจ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้ความเห็นว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกไปอียู 6.7 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ใช้สิทธิส่งออกภายใต้จีเอสพีประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งการถูกตัดจีเอสพีสินค้าทุกรายการในปี 2558 คาดจะมีผลทำให้การส่งออกของไทยไปอียูลดลงไปมากกว่า 1 แสนล้านบาท จากเสียตลาดไปให้คู่แข่งขัน ต่อเรื่องนี้ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค่าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ข้อเสนอแนะว่าเพื่อลดผลกระทบจากการถูกอียูตัดจีเอสพี และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งใน 4 แนวทางคือ 1.กลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพควรย้ายฐานไป CLMV ที่ยังคงได้สิทธิจีเอสพีจากอียู เพื่อใช้เป็นฐานผลิตส่งออก 2.เร่งหาตลาดอื่นที่มีศักยภาพเพื่อชดเชย เช่นตลาดเอเชีย แอฟริกา และกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) 3.การเร่งใช้สิทธิภาษี 0% ในเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)หลายกรอบที่ไทยได้ลงนามและมีผลบังคับใช้แล้วให้เต็มที่ เช่นในกรอบอาเซียนที่จากผลสำรวจผู้ประกอบการไทยยังใช้สิทธิส่งออกเพียง 37% ของรายการสินค้าที่อาเซียนได้ลดภาษีเท่านั้น และ 4.การบริหารจัดการต้นทุนเพื่อให้แข่งขันได้ดีขึ้น ด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกวิเคราะห์ว่า จากที่ไทยจะถูกอียูตัดสิทธิจีเอสพี คาดในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2558 การส่งออกไทยไปอียูน่าจะติดลบ และจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 ส่วนไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ที่อียูได้เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยมากก่อนที่ไทยจะถูกตัดจีเอสพีทำให้ตัวเลขเป็นบวกมาก คาดไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 คงขยายตัวไม่เท่าช่วงเดียวกันของปีนี้ และจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปี ของไทยไปอียูในปี 2558 ติดลบ นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าการถูกอียูตัดจีเอสพีในปีหน้านั้น เป็นเรื่องที่ทั้งภาคเอกชนและกระทรวงพาณิชย์ตั้งหลักรับมือมานานแล้ว สินค้าหลายรายการก็เริ่มเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติแล้ว แต่สิ่งที่กรมจะช่วยเอกชน คือสร้างมูลค่าให้กับสินค้าโดยใช้นวัตกรรมมากขึ้น การรักษาตลาดเก่าและหาตลาดใหม่ ทั้งนี้กรมได้เตรียมแนวทางในการรับมือโดยจะผลักดันให้ผู้ประกอบการหันไปส่งออกตลาดอื่นทดแทน เช่น จีน เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอาเซียนให้มากขึ้นผ่านกิจกรรมส่งเสริมการทำตลาดต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังคงได้รับสิทธิจีเอสพีเพื่อใช้ประโยชน์ในการส่งออก อนึ่ง จากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยถึงการใช้สิทธิจีเอสพีส่งออกสินค้าไทยไปอียูในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 (ม.ค.-ก.ย.)มีมูลค่า 6,724 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2556 ที่มีมูลค่า 6,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปอียูภายใต้สิทธิจีเอสพีปี 2556 มีมูลค่า 9,052 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสำหรับสินค้าที่มีการใช้สิทธิจีเอสพีส่งออกไปอียูอันดับต้นๆ ในปีนี้ได้แก่ ยานยนต์ขนส่ง เครื่องปรับอากาศชนิดติดผนังและหน้าต่าง เลนส์แว่นตา ยางนอกรถยนต์ ถุงมือยาง เครื่องปรับอากาศแบบไม่มีหน่วยทำความเย็น วาล์ว เป็นต้น Source : ฐานเศรษฐกิจ
โดย
chali119
พุธ ธ.ค. 24, 2014 10:55 am
0
4
Re: มี บ.ใดเสียหรือได้ประโยชน์ จากที่ EU จะตัด GSP ไทยบ้างคร
ก็ยังงงๆอยู่ดีค่ะว่าทำไมมีแต่คนพูดถึงอาหารทะเลแช่แข็ง หรือว่าเพราะสมาคมเข้มแข็งถึงออกมาร้องเสียงดังกว่าคนอื่น ถ้าดูจากข้อมูลกรมเจรจาการค้า สินค้าไทยที่ส่งออกไปยุโรป 2012 ตามมูลค่า 1. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2. อัญมณีและเครื่องประดับ 3. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 4. เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ 5. ผลิตภัณฑ์ยาง 6. ไก่แปรรูป 7. เครื่องนุ่งห่ม 8. เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 9. ยางพารา 10. แผงวงจรไฟฟ้า ที่มา http://www.thaifta.com/thaifta/Home/tabid/36/ctl/Details/mid/733/ItemID/7625/Default.aspx เมื่อสามสี่ปีก่อนสมัยทำงานเรือ พวก flat screen tv, ยางรถยนต์, auto part สามกลุ่มนี้เป็นลูกค้าสุดรักของเรือเลยค่ะ โวลุ่มเยอะและของเบา เวลาทำ global bidding ทีคนที่เป็น key account ต้องบินมาไทยก่อน ส่วนตัวแล้วคิดว่าประเทศเราตอนนี้แบ่งรายได้จากเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ ค่อนข้างเฉลี่ยๆกันไป กำลังรอดูอยู่ว่า ดิจิตอลอีโคโนมี ซึ่งเป็นก้าวต่อไปในระดับนโยบายจะเข้ามามีบทบาทยังไง
โดย
chali119
อังคาร ธ.ค. 23, 2014 10:18 pm
0
5
Re: ปกติเรามีนำเข้าอะไรจากรัสเซียบ้างครับ?
ที่เห็นเยอะจริงๆมาทางตู้คอนเทนเนอร์คือปุ๋ยค่ะ ส่วนที่ไม่ใช่สินค้า นอกจากแถวซอยนานาแล้วพัทยาก็เยอะนะคะ สร้างคอนโดกันเต็มเป็น Russian town ไปแล้ว :8)
โดย
chali119
พุธ ธ.ค. 17, 2014 12:03 pm
0
3
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
chali119
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ ต.ค. 08, 2012 4:55 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
58 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว