หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Thaworn
Joined: จันทร์ ม.ค. 30, 2006 2:44 pm
56
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Thaworn
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
List รายชื่อหนังสือแนวvi ครับ
One up on กับ Beating the Street มีขายที่ SE-ED ครับ ลองหาดู ที่อุบลฯ ผมยังเห็นมีขายที่ SE-ED สาขา BIGC อีก 3 สาขาที่อุบลฯไม่มีครับ สั่งซื้อกับ SE-ED สาขาไหนก็น่าจะได้ครับ จ่ายเงินมัดจำก่อน แล้วเค้าจะให้เรามารับหนังสือทีหลัง ผมเคยสั่งซื้อหนังสือแล้ว 2 ครั้ง ก็รอประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์
โดย
Thaworn
พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 12:31 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ค. 19, 2008 4:35 pm
0
0
หนังสือแปลเล่มใหม่ Value Investing: From Graham to Buffett
เห็นคุณหมอ PP พูดถึง Mohnish Pabrai ผมเข้าไปอ่านใน blog ของหมอ PP ละสนใจดีครับ ไม่ทราบพี่เว็บจะรับไว้พิจารณาซักเล่มมั้ยครับ อ๋อ เล่มล่าสุดของพี่ "การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หลักสูตรมหาลัยโคลัมเบีย" ช่วยต่อยอดจากเล่ม "กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า" พอดีเลยครับ ขอบคุณพี่เว็บที่อุตสาหะแปลงานให้อ่านเรื่อยๆครับ ปล. ถึงผมไม่ได้ซื้อกับพี่โดยตรง แต่ก็ซื้อจาก se-ed ทุกเล่ม ไว้เผื่อให้ลูกให้หลานในอนาคตได้อ่านกัน
โดย
Thaworn
อาทิตย์ พ.ค. 18, 2008 11:05 pm
0
0
คำถามเกียวกับเรื่องหุ้นนะ
ผมอ่านโจทย์ละไม่ได้อ่านของท่านอื่นต่อ แต่ก็ขอตอบเลยนะครับ ถ้าคิดต้นทุนของนาฬิกาคือ 500 บาท ละตอนสุดท้ายนาฬิกายังอยู่กะนาย ก แสดงว่านาย ก ขาดทุน 200 บาท เพราะได้นาฬิกาคืนในราคาแพงขึ้น 400 บาท ถึงจะได้กำไรระหว่างการซื้อๆขายๆถึง 200 บาทก็ตาม สรุปว่า นาย ก มีผลขาดทุนถึง 200 บาทครับ ไม่ทราบพี่เจ๋ง จะโยงไปถึงเรื่องการเล่นซื้อๆขายๆในตลาดหุ้น พวกหุ้นปั่นหรือเปล่าครับ ญาติผมที่เล่นหยั่งงี้ก็มี ซื้อแล้วขาย แล้วก็ต้องตามไปซื้อคืนที่แพงขึ้นจนต้องขาดทุน เราเตือนละไม่ฟังกันมั่งเล้ย แค่นี้ละครับ
โดย
Thaworn
เสาร์ ม.ค. 12, 2008 10:45 am
0
0
ถามความเห็น....super growth stocks ประจำปี2551
IRP เคยมี ขายไปแล้ว : ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม แต่ต้นทุนวัตถุดิบตอนนี้ก็ สูงเอาการ ถ้าปีหน้าราคาวัตถุดิบลดลง กำไรน่าจะดีขึ้นและจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะเพิ่มขึ้นอีกจากโรงงานที่จะสร้างเพิ่มอีกปี 2552 ที่ USA (อันนี้ต้องเดา ดีหรือเปล่ามันเรื่องอนาคต) ราคาลงเยอะๆถึงน่าสนใจ IT : จะขยายสาขาเพิ่มในปีหน้าและปีต่อๆไป(ถ้าเป็นตามที่บริษัทคุยไว้ก็จะดี:อันนี้ผมมีติดมือนิดหน่อย) คนยังใช้คอมน้อยและการเติบโตของการใช้เน็ต ADSL ยังไงคนชนบทยังไม่มีคอมใช้บ้านละเครื่องเหมือนตอนนี้คนชนบทมีมือถือใช้กันคนละเครื่อง ILINK : การวางระบบต่างๆในงานราชการยังมีอีกเยอะ ซึ่งต้องใช้สายสัญญาณแม้กระทั่งในบริษัทเอกชน เดี๋ยวนี้ร้านไม่ใหญ่ในจังหวัดต่างๆก็เริ่มวางระบบเล็กๆกันแล้ว มีการใช้คอมช่วยในการทำงานมากขึ้น ลองดูได้จากร้านอะไหล่ ร้านโชว์ห่วยขนาดกลาง(ใหญ่กว่า7-11)ตามตัวเมืองต่างๆผมไปดูมาแล้ว(บางแห่งอาศัยญาติพาไปดู)
โดย
Thaworn
ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 9:05 pm
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
[email protected]
Thank You verymuch.
โดย
Thaworn
อังคาร ต.ค. 30, 2007 9:41 am
0
0
The Little Book That Beats the Market
หนังสือเล่มนี้มีแปลเป็นไทยด้วยครับ ชื่อ "คัมภีร์สุดยอดนักลงทุน" พิมพ์โดยเนชั่นบุ๊ค แปลโดย ชานันท์ อารีย์วัฒนานนท์ ราคา 195 บาท หาซื้อได้ที่ ร้าน se-ed และ b2s ครับ ไม่ว่างพิมพ์ละ แค่นี้ก่อนครับ
โดย
Thaworn
ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 2:08 pm
0
0
The Snowball
ONE VOTE " The SnowBall " to Thai Version :cool: :cool: :cool:
โดย
Thaworn
ศุกร์ ต.ค. 19, 2007 9:29 am
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
อังคาร ต.ค. 02, 2007 11:22 am
0
0
$$$ รวมหุ้นโบรก "ดีเหลือเกิน" $$$
ตอนที่ผมหัดลงทุนใหม่ๆ ก็สนใจเทคนิคคอลมาก เลยหาโอกาสไปอบรมการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่กรุงเทพฯ จัดโดยนักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของโบรกแห่งหนึ่งขอไม่ออกนามนะครับ หลังจากนั้นในวันรุ่งขึ้น ผมก็ไปหาถึงที่ทำงาน แกก็ใจดีให้เข้าไปคุยในห้องทำงานส่วนตัวและคุยเรื่องข้อสงสัยของผมในเรื่องกราฟต่างๆ และยังพาไปรู้จักกับนักวิเคราะห์คนอื่นๆในทีมอีก 4-5 คน(ก็คงระดับมือซ้าย-มือขาว)ปกติคงไม่มีคนใจกล้าลุยเข้าถ้ำเสือ ผมแบบว่าอยากได้ความรู้มันก็ต้องลุย ใจกล้าหน้าด้านหน่อย แล้วพอช่วงตลาดปิด แกก็บอกผมว่าเดี๋ยวต้องเขียนบทความแนะนำหุ้น น้องคิดว่าเอาตัวไหนดี ผมก็พูดส่งๆเลยว่าก็เอาพวก PTT TOP SCC ITD PSL TTA SCB BBL KBANK แกก็บอกว่าเอาบางตัวละกัน คนเล่นกันเยอะ ละก็เขียนราคาแนวรับ-แนวต้านแบบดูกราฟแปปๆ มองผ่านๆ ผมละคิดในใจว่า ถ้าคนเชื่อจริงๆก็ตายสิครับ ทำไมไม่ดูให้ละเอียดกว่านี้หน่อย อีกอย่างนึง อ.แกจะบริหารพอร์ตให้กับคนรูจักและลูกค้าที่ทุนหนาในวงเงินเป็นสิบๆล้านบาทขึ้นไปด้วย อันนี้แกจะนั่งดูให้เลย ใช้คอม 3 ตัว นั่งดูตาเป็นแพนด้าจริงๆ ส่วนรายย่อยก็จะให้ลูกน้องในทีมดูให้ ถ้าพอร์ตเล็กก็สนใจน้อยหน่อย ถ้าคนไหนชอบเก็งกำไรก็โทรไปคุยกับลูกค้าบ่อยหน่อย อ.คนนี้จะไม่ดูพื้นฐานหุ้นเลย จะดูแต่กราฟเพียวๆ เท่าที่ผมเคยดูบทวิเคราะห์ แกก็วิเคราะห์ผิดพลาดเยอะอยู่เหมือนกัน อันนี้ผมว่ายังไงพื้นฐานสำคัญสุด สำหรับผมกราฟแค่ไว้ดูประกอบว่าน่าเข้าหรือเปล่าราคานี้ เมื่อเทียบกับมูลค่าของหุ้นที่เราประเมินไว้ โดยสรุป มันก็ทำให้ผมมองเห็นและเข้าใจการทำงานของโบรคเกอร์ได้ดีขึ้น ผมก็เชื่อถือข้อมูลโบรคน้อยลงนับแต่นั้นมา เพราะข้อมูลที่เราได้จากโบรคนั้น แทบจะเรียกว่า เกือบร้อย % ทำส่งๆ เหมือนตอนเราเรียนหนังสือชั้นมัธยมแค่นั้นเอง
โดย
Thaworn
พุธ ก.ย. 26, 2007 3:02 pm
0
0
หนังสือแปลเล่มใหม่ Value Investing: From Graham to Buffett
สวัสดีครับพี่เว๊บ ผมน้องที่อยู่อุบลฯนะครับ ไม่ทราบว่าพี่ยังจำได้ไหม ที่เคยสั่งจองและไปรับหนังสือ The Intelligence Investor ที่งานตลาดนัดผู้ลงทุนไทยจากพี่เว็บเมื่อปลายปีที่แล้ว แบงค์พันล้านดอลล์ที่พี่ให้ ผมยังเก็บไว้อย่างดี เข้าเรื่องเลยดีกว่า ไม่ทราบพี่มีโครงการแปลหนังสือ Security Analysis ของปรมาจารย์มั้ยครับ แบบว่าอยากอ่านมากครับ ภาษอังกฤษผมอ่อนแอมากครับ ยังไงก็จะตั้งหน้าตั้งตารอคอยนะครับ เดี๋ยวนี้นานทีผมถึงจะโพสในนี้ซักทีนึง หนังสือที่พี่แปล บางเล่มผมอ่านแล้วจับประเด็นเอามาย่อยใส่สมองไม่ถูก อ่านละงง แบบว่าจะเอาไปใช้ยังไงกับบริษัทในเมืองไทยว่ะเนี่ย แต่พอได้อ่าน The Intelligence Investor ก็เริ่มจับทางได้บ้าง ก็ต้องอาศัยเวลาล่ะครับ ผมคิดว่าแนวทางแบบเน้นคุณค่ามันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์มากกว่าการมานั่งอ่านงบการเงินเสียอีก แม้ตัวบัฟเฟตเองเค้ายังมองหาธุรกิจและCEO ของบริษัทที่สุดก่อนยอดก่อนอย่างอื่นเลยครับ(ไม่รู้ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ) ผมขอแนะนำหนังสือเล่มนึงนะครับ คิดว่าจะช่วยตอบโจทย์ของหลายๆคนในเรื่อง Business Model ว่าบริษัทนั้นๆมันสามารถทำกำไรและปั๊มเงินสดเข้าบริษัทได้มากๆได้อย่างไร และมันช่วยจุดประกายความคิดในสมองเราได้อย่างดีด้วย ขอให้อ่านให้จบก่อนนะครับละค่อยวิจารณ์ว่าผมแนะนำไม่ได้เรื่อง "The Art of Profitability by Adrian Slywotzky" ชื่อไทยว่า " ศิลปการทำกำไร แปลและเรียบเรียงโดย วินัยชาญ สรรพโรจน์พัฒนา " สุดท้ายขอให้พี่มีกำลังใจแปลหนังสือให้น้องๆอย่างผมและชาว VI ทั้งหลายได้เสพกันตลอดไปนะครับ ขอให้พี่มีความสุขในการลงทุนมากๆครับ
โดย
Thaworn
ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 5:27 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 4:44 pm
0
0
อิจฉาจัง ตอนนี้ ดร.นิเวศน์ กำลังเที่ยว เชียงใหม่ อยู่คับ
ดีต้อง เราเอกนะ เป็นไงมั่งเห็นนายโพสกระทู้ ได้ช้อนมั่งมั้ย เราตุนไว้เพียบตอนบ่ายๆ EIEI นายคงสบายดีนะ บ้านเราอากาศหนาว โคตร ตั้งแต่ตอน Thai Investor Day ที่เจอนายครั้งแรกหลังจากเรียนจบ เราก็พึ่งเข้าเว็บมาดูวันนี้ว่า ชาว VI ทั้งพันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสมแบบเราเป็นไงกันมั่งดูละวีนแตกกันน่าดู ส่วนเรานั่งดูจอคอมด้วยความกระหาย รอซื้อตอนหลุด 600 จุด นี่แสดงว่าคนที่ลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบเดิมๆแทบไม่เปลี่ยนเลย แต่หุ้นตัวเก่าเราก็ยังไม่ได้ขายนา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการขายหุ้นตอนได้ราคาดีๆ และซื้อกลับตอนราคาถูกๆเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่ซึ่งใช้ได้ดีในยุครัฐบาลปัจจุบันเป็นอันมาก คิดได้ไงคนไม่จบสูงแต่อ่านวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจเป็นประจำยังรู้เลย กรรมของประเทศไทยว่ะ :wall:
โดย
Thaworn
พฤหัสฯ. ธ.ค. 21, 2006 9:40 am
0
0
รับจอง The Intelligent Investor ฉบับแปลเพื่อบำรุงเวบ
อ๋า ลืมไป พี่เอาหนังสือไปวางขายในงานด้วยเปล่า เผื่อผมจะซื้อไปฝากน้อง มันจะแต่งงานเสาร์หน้าพอดี กำลังอยู่ในวัยสร้างเนื้อสร้างตัว ผมก็แนะนำให้เลือกและซื้อหุ้นลงทุนดีกว่า เก็งกำไรแล้วมักขาดทุนซะมากกว่า เพราะลืมส่วนเผื่อเพื่อความขาดทุนกันครับ(Margin of Loser) :rofl: มวลชนจึงมักเทรดดิ้งกันเพลิน
โดย
Thaworn
ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 12:01 pm
0
0
รับจอง The Intelligent Investor ฉบับแปลเพื่อบำรุงเวบ
ขอบคุณครับพี่ แฟนพันธุ์แท้ไปแน่นอนจองตั๋วรถไฟไว้แล้ว ฝากถึงแฟนๆพี่เว็บ กำไรหุ้นกันแล้วเวลาไปทำบุญก็อย่าลืมเผื่อแพร่บุญกุศลให้พี่แกด้วยนะครับ ชาติหน้าเกิดมาจะได้เจอกันอีก EIEI :B คนไทยไม่ลืมกันอยู่แล้ว บุญคุณต้องทดแทน มีแค้นเก็บไว้ก่อน
โดย
Thaworn
ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 11:46 am
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 11:39 am
0
0
หลักการพนัน:มองการพนันผ่านความน่าจะเป็น
หนังสือของอาจาร์ยพุทธทาสภิกขุแรกๆที่ออกมา สังคมส่วนหนึ่งก็ไม่ยอมรับ เพราะยึดติดกับความรู้เดิมๆ ทั้งไม่คุ้นและไม่เคยรับรู้เรื่องราวพุทธศาสนาในแบบที่ท่านอาจารย์เขียนมาก่อน กว่าคนจะเริ่มยอมรับอย่างกว้างขวางเวลาก็ผ่านมาพอสมควร ยังไงก็ขอให้คุณสุมาอี้คิดว่า สิ่งที่เราทำถ้ามั่นใจว่ามันถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ทำต่อไป ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกใจคนทุกคน ของทุกอย่างบนโลกล้วนมีหลายคม แล้วแต่คนมอง
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 27, 2006 11:30 am
0
0
รับจอง The Intelligent Investor ฉบับแปลเพื่อบำรุงเวบ
อ้อลืมไป ผมโอนไปวันที่ 22 พ.ย. 2549 ยอดโอน 594.50 บาท ชื่อผู้โอน ถาวร เติมสมบัติบวร
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 27, 2006 11:06 am
0
0
รับจอง The Intelligent Investor ฉบับแปลเพื่อบำรุงเวบ
สวัสดีครับพี่ ของผมเองคร๊าบ ไปเที่ยวพืชสวนโลกมาหลายวัน พึ่งกลับมาบ้านที่อุบลฯ ยอดโอน 594.50 บาท สั่งซื้อเล่มเดียว ขอลายเซ็นต์ด้วยครับ ผมเป็นสมาชิกชมรมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จะไปเข้าร่วมสัมนาในงาน Thai Investor Day ถ้าไงพี่พกไปงานให้ด้วยได้มั้ยครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าจัดส่ง ถ้าไม่ว่างพกไปก็ส่งมาทางไปรษณีย์ได้ครับ ถาวร เติมสมบัติบวร บ้านเลขที่ 34 ถ.สินธุประสิทธิ์ ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 34190 เบอร์โทร 045-321566 e-mail:
[email protected]
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 27, 2006 11:02 am
0
0
หลักการพนัน:มองการพนันผ่านความน่าจะเป็น
สวัสดีครับ ผมโอนตังไปให้แล้วนะครับ จำนวน 432.50 บาท สั่งหนังสือ หลักการพนัน 3 เล่ม และหนังสือเอาตัวรอดด้วยทฤษฎีเกมอีก 1 เล่ม นะคร๊าบที่อุบลฯไม่มีวางขายเลย ผมจะเอาไปฝากญาติพี่น้องที่ชอบเล่นหุ้น อ้อ ผมโอนไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2549 เผอิญไปงานพืชสวนโลกหลายวัน พึ่งกลับมาบ้าน วานช่วยพกมาให้ในวันงาน Thai Investor Day ได้มั้ยครับ เดี๋ยวผมจะพกสำเนาใบโอนไปด้วย ถ้าไม่สะดวกก็ค่อยส่งทางไปรษณีย์ก็ได้ ขอลายเซ็นต์ด้วยครับ ^_^ ถาวร เติมสมบัติบวร บ้านเลขที่ 34 ถ.สินธุประสิทธิ์ ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 34190 เบอร์โทร 045-321566,01-6699077 e-mail:
[email protected]
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 27, 2006 10:51 am
0
0
รับจอง The Intelligent Investor ฉบับแปลเพื่อบำรุงเวบ
ผมขอเสนอพี่เว็บไว้พิจารณา คืออยากให้พี่ช่วยเซ็นต์ชื่อใน หนังสือที่สั่งจองกันได้มั้ยคร๊าบบบบบบ(สแกนรูปติดด้วยก็ดีeiei) ผมอยู่ไกลถึงอุบลฯ แต่ก็เหมาทุกเล่มที่ออก ซื้อแต่ที่ SE_ED ต่อไปนี้คิดว่าจะมาอุดหนุนทางนี้ดีกว่า จะได้บำรุงเว็บ THAIVI.COM ให้คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน พึ่งเห็นออกเล่มใหม่ ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านในนี้เท่าไหร่ อยากกระตุ้นให้นักลงทุนต่างจังหวัดด้วยกัน อ่านหนังสือการ ลงทุนให้มากๆดีกว่าเก็งกำไร(ขาดทุน)ไปวันๆ และอยากตั้งเว็บ ท้องถิ่นหรือสมาคมนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจังหวัดอุบลฯ อะไร เทือกนี้ พี่ๆน้องๆมีไอเดียอะไรดีๆก็กรุณาช่วยแนะนำด้วยละกัน ครับ จะเอาไปโพสอีกกระทู้ก็ได้ครับ
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 4:56 pm
0
0
เอาบ้างครับ มีใครอยู่อุบลบ้างครับ
ผมอยู่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ร้านอยู่ในอ้อมกอดของร้านขายสังฆภัณฑ์ ใกล้ตัวตลาด ชื่อร้านขออุ๊บไว้ก่อน เท่าที่สังเกตดูคนต่างจังหวัดชอบเล่น(ไม่ลงทุน)หุ้น ไม่ศึกษาหาความรู้ หนังสือก็มีขายตั้งเยอะ แต่ไม่ลงทุนซื้อหามาอ่านกันเลย ของพี่เว็บ ของดร.นิเวศน์ ของคุณสุมาอี้ผมมีครบ ก็อ่านไปเรื่อยๆ บางเล่ม 2 รอบละได้อะไรเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่อ่าน คนรู้จัก แม้กระทั่งญาติที่เล่นหุ้นผมก็แนะนำทั้งนั้นว่าให้ลงทุนซื้อหนังสือมาอ่านกันหน่อย สุดท้ายไม่มีใครสน คอยแต่จะถามผมว่าเข้าตัวไหนดี :B พอบอกไปซื้อไปแล้วมันไม่ขึ้นทันใจก็อดทนกันไม่ค่อยได้ แต่พอผ่านไปซักระยะ(แค่ไม่กี่เดือน)ก็มักจะบ่นว่าเสียดายจังขึ้นไปตั้งเยอะ น่าเขกหัวตัวคนถามจริงๆ :wall: วันอาทิตย์เย็นผมไปสอนไท้เก๊ก :lol: ทำให้ตัวเราได้แบ่งปันผู้อื่นและจิตใจเราได้พักผ่อนด้วย ผมสไตล์พื้นฐาน+กราฟ แต่พื้นฐานมาก่อนกราฟ แค่นี้ละครับ
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 12:15 pm
0
0
....... ถ้าหุ้นลง 70 จุด (10%) รับตัวไหนดีครับ .....????????
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานแล้วขอแจมด้วยคนครับ ผมประเภทพื้นฐาน+เทคนิคคอลครับ(ดูพื้นฐานหุ้นที่ลงทุนก่อน แล้วอาศัยจิตวิทยามวลชนเข้าซื้ออีกที) รายใหญ่(หุ้นปั่นไร้พื้นฐาน+พวกInsider) กองทุนต่างประเทศ(ฝรั่งหัวทอง/หัวดำ/nominee) กองทุนในประเทศ สมมุตินะครับว่าถ้าหุ้นเกิด Panic จริง จะขาดทุน(ทางบัญชี)กันซักขนาดไหน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีหุ้นอยู่ในมือในตลาดมากถึงมากที่สุดนะครับ ไม่ใช่รายย่อยหรือ VI ,VS :lol: ข้อสังเกตการดูจิตวิทยามวลชน กรณีที่ 1 ถ้ามีผลกระทบต่อความคิดกลุ่มทุนนอกจริงๆ แรงขายจะเทมาแบบไม่ยั้งมือ คือจะเทขายมันทุกราคาจนฟลอร์ และเป็นแรงขายไม้ใหญ่ระดับหุ้นพลังงาน หุ้นแบงค์ ไม้ละเป็นแสนหุ้นหรือล้านหุ้นขึ้นไป จะเป็นลักษณะหนังละม้วนกับตอนปีใหม่ซึ่งช่วงนั้นฝรั่งไล่ซื้อหุ้นแหลก รายย่อยขายหุ้นแหลกเละ โดยจะกลายเป็นฝรั่งขายแหลกแทน ซึ่งผมมองว่าโอกาสเกิดน้อย กรณีที่ 2 แต่ถ้าไม่ใช่เป็นรายย่อยกับกองทุนในประเทศกลายเป็นผู้ขายหมูซึ่งหุ้นจะลงแบบตกใจชั่วครู่แล้วค่อยๆชะลอการลง คือความชันในการลงของราคาจะลดลงแบบเห็นได้ชัด(อันนี้ให้ดูรายชั่วโมง) แล้วแกว่างตัวด้านข้างซํกพักแล้วขึ้นไปคืน หุ้นจะลงและขึ้นแบบ V-Shape ไม่ก็ตัว U ขึ้นกับว่ามีจำนวนรายย่อย รายใหญ่ และกองทุนที่ตื่นตระหนกและคิดไปทางเดียวกันมากน้อยขนาดไหน แต่ในที่สุดแล้วพอหมดแรงขายหุ้นก็ขึ้นอยู่ดี จังหวะที่น่าซื้อก็คือ ช่วงที่หุ้นแกว่งตัวด้านข้างเป็นระยะเวลานานกว่าช่วงที่เกิดการตกใจมากๆ คติของผม หุ้นหยุดลงก็ต่อเมื่อผู้ขายหยุดขาย หุ้นหยุดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ซื้อหยุดซื้อเท่านั้น :idea: แนวโน้มขาขึ้น ซื้อหุ้นราคาไหนก็ไม่ถือว่าแพงเพราะมีราคาแพงกว่าให้ขาย แต่ถ้าในช่วงแนวโน้มขาลง ไม่ว่าซื้อหุ้นราคาไหนก็ถือว่าแพงเพราะยังมีราคาถูกกว่าให้ซื้อร่ำไป :D สรุป ผมมีเงินสดในมือพอช้อนแค่ 20% เอง เฮ้อกรรม
โดย
Thaworn
พุธ ก.ย. 20, 2006 3:11 pm
0
0
Peter Lynch 10 Baggers
1. ผมขอส่งหุ้นไฮเทคโนโลยี ตอนนี้อาจจะยังไม่มี แต่ในอนาคตคิดว่าจะมีต่างชาติ+ทุนไทย ตั้งขึ้นมาเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ในไทยซึ่งจะมีไม่กี่แห่งในโลก และต้องเป็นสินค้าหรือชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่ใครๆก็ใช้กันใช้บ่อย มี Know how เป็นของตัวเอง เลียนแบบไม่ได้ถึงได้ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะตามทัน ต้องใช้ R&D เป็นทีม ทุนหนา(ผมอาจจะคิดแปลกกว่าคนอื่นหน่ย มองไปข้างหน้าคร๊าบ...) :B ลุงบัฟบอกให้ลงทุนโลวเทค แต่ไม่จำเป็นนี่ครับว่าไฮเทคมันจะไม่ดี ถ้าเราเข้าใจธุรกิจที่จะลงทุนดีพอ :rofl: 2. ผมขอเปลี่ยนจากตอนนี้เป็นภายในอีก 10 ปี+-ข้างหน้าถ้าหุ้นราคาตกอย่างรุนแรงแล้วผมจะลงทุนหุ้นตัวไหนดีเพื่อให้ได้ผลกำไร 10 เท่าในอีก 20 ปีจากปัจจุบันนี้ดีกว่า แน่นอนน้ำมัน ปิโตร ค่าระวางเรือ ตอนนั้นราคาน่าจะร่วงเยอะ รวมทั้งอสังหาทั้งหลาย รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนกว่านี้ แต่ผมขอส่ง PTL IRP GMMM SvOA เข้าประกวดแทน ตัวอื่นยังไม่ได้ดู :cheers:
โดย
Thaworn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 29, 2006 6:07 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 29, 2006 5:32 pm
0
0
มีใครเข้าใจ...
ขอแก้ไขครับ ผมหมายถึงอุปกรณ์แต่ละเซทที่มีจำกัด(ไม่ใช่ทั้งฟิตเนสมี 100 ชิ้นครับ) ถ้ามีคนอยากใช้พร้อมๆกันหลายคนเป็นประจำ เช่น ลู่วิ่งมี 10 ชุด แต่มีคนอยากมาใช้ช่วงเดียวกันตอนเลิกงาน 20-30 คนเป็นประจำ ผมเคยไปลองๆเล่นเวทสมัยเรียนมหาลัยหลายปีมาแล้ว คนเยอะมากต้องรอเบื่อมากๆ มีอะไรผิดพลาดหรือจะแย้งจะเสริมก็เอาเลยครับ ผมพึ่งไปอบรมการเขียนแผนและวางแผนทำธุรกิจ SME เพื่อขอร่วมทุนกับ สสว. เค้ามีบรรยายเรื่องต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปรและอื่นๆ มีพูดเรื่องการเงิน การวางแผนการตลาดการลงทุนซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์บริษัทในตลาดลักทรัพย์ได้ดีทีเดียว ทำให้เข้าใจและมีมุมมองอะไรเพิ่มขึ้นเยอะ วิทยากรจะถามให้เราคิดด้วย ไม่ได้อบรมแบบพูดตามชีทจะยกเคสตัวอย่างให้ฟังตลอด ถ้าใครสนใจลองเข้าไปดูที่เว็บของ สสว. ในกทม.อบรมไปแล้วสอนยาว 6 วัน วันที่อบรมในเว็บบางอันไม่ตรงนะครับเค้าไม่ได้แก้ให้ถูกต้อง ถ้าจะให้แน่ใจควรโทรไปถามเอาดีที่สุด
โดย
Thaworn
อังคาร มิ.ย. 27, 2006 10:23 am
0
0
มีใครเข้าใจ...
ขอแย้งที่คุณสุมาอี้บอกว่า ฟิตเนสยิ่งหาลูกค้าได้มากยิ่งดี คุณลืมคิดเรื่องจำนวนอุปกรณ์ฟิตเนสต่อจำนวนลูกค้าสูงสุดที่รับได้หรือเปล่าครับ มันมีข้อจำกัดตรงนี้ด้วย ถ้าอยากได้ลูกค้าเพิ่มเกินกว่านั้นคุณต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม ต่อให้คำนวณว่าคนใช้อุปกรณ์ทุกอย่างไม่พร้อมกันก็ตาม สมมุติอุปกรณ์มี 100 ชิ้น ลูกค้าเฉลี่ยวันละ 50 คนก็สมดุลดี แต่ถ้าลูกค้าเริ่มเพิ่มมาเป็นเฉลี่ย 100 จนเป็น 150 คนต่อวัน ยังไงซะฟิตเนสแห่งนั้นก็ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม และยังต้องเพิ่มคนดูแลและผู้ฝึกสอนให้คำแนะนำเป็นเงาตามตัวอยู่ดี
โดย
Thaworn
อังคาร มิ.ย. 27, 2006 10:10 am
0
0
มีใครเข้าใจ...
ขอแย้งที่คุณสุมาอี้บอกว่า ฟิตเนสยิ่งหาลูกค้าได้มากยิ่งดี คุณลืมคิดเรื่องจำนวนอุปกรณ์ฟิตเนสต่อจำนวนลูกค้าสูงสุดที่รับได้หรือเปล่าครับ มันมีข้อจำกัดตรงนี้ด้วย ถ้าอยากได้ลูกค้าเพิ่มเกินกว่านั้นคุณต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม ต่อให้คำนวณว่าคนใช้อุปกรณ์ทุกอย่างไม่พร้อมกันก็ตาม สมมุติอุปกรณ์มี 100 ชิ้น ลูกค้าเฉลี่ยวันละ 50 คนก็สมดุลดี แต่ถ้าลูกค้าเริ่มเพิ่มมาเป็นเฉลี่ย 100 จนเป็น 150 คนต่อวัน ยังไงซะฟิตเนสแห่งนั้นก็ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม และยังต้องเพิ่มคนดูแลและผู้ฝึกสอนให้คำแนะนำเป็นเงาตามตัวอยู่ดี
โดย
Thaworn
อังคาร มิ.ย. 27, 2006 10:10 am
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
ศุกร์ มิ.ย. 16, 2006 5:39 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
ศุกร์ มิ.ย. 16, 2006 5:18 pm
0
0
เทคนิคการเล่นหุ้นให้ปลอดภัย เรียนรู้ได้ใน 1 นาที
ผมไม่ได้เข้าบอร์ดทุกวันครับ บางทีวีคละครั้ง สำหรับผมก็ประมาณราคาเชิงพื้นฐานก่อนเหมือนกันครับ แล้ว +-ราคาจากส่วนนี้ไปด้วย แต่ผมไม่ชอบรับราคาตอนลงเพราะว่าต่ำแล้วมีต่ำอีก รอไม่มีคนมา bid-offer(ที่ราคาเราหมายไว้เอาใกล้เคียงไม่ต้องเป๊ะก็ได้) ค่อยเข้ามาดอดเก็บทีละน้อยดีกว่า ซื้อแบบปิรามิดสิครับเซฟดี สมมตินะครับสมมุติ ถ้าผมตั้งว่าจะซื้อพี่เทพจำนวน 10,000 หุ้น เล็งไว้แนวรับที่ 100 สุดท้ายที่ 90 บาท เอาเทคนิคมาจับแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะลงมาถึงหรือเปล่า ก็ตั้งรับที่ 100 บาทจำนวน 500-1000 หุ้น 90 กว่าอีก 2000 หุ้น ราคาใกล้ๆ 90 ซื้อเพิ่มอีกสเต็บละ 1000 หุ้นจนครบจำนวน คือแนวรับสุดท้ายคือสุดท้ายจริงๆซึ่งแทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะเล็งไว้ต่ำสุดๆจากทุกเคสของการวิเคราะห์เทคนิค เกือบลืมลองประเมินด้วยว่าถ้ากำไรหดลง 5% 10% 15% ราคามันน่าจะหดลงเหลือเท่าไหร่ เมื่อเราซื้อแล้วถึงจะเซฟด้วย เพราะระยะสั้นคนมักตื่นตกใจขายหุ้นออกมาอยู่แล้วเวลาผลประกอบการออกมาไม่ดีดังหวังหรือเกิดเคสที่ไม่คาดฝันขึ้นแต่บริษัทหมกเม็ดไว้
โดย
Thaworn
พุธ มิ.ย. 07, 2006 12:57 pm
0
0
ไม่มีหัวข้อ
โดย
Thaworn
พุธ มิ.ย. 07, 2006 12:37 pm
0
0
ถึงเวลาจะมีห้อง เทคนิก หรือยัง
ผมคนนึงล่ะ หาจังหวะซื้อโดยใช้เทคนิคจับ แต่ดูพื้นฐานของหุ้นเป็นอันดับแรก คือว่าไม่อยากให้ชาว VI ตัวจริง(ผมว่ามีไม่กี่คนในนี้นะ)แอนตี้นะครับ สำหรับตลาดทุนไทยในยามนี้(2548 เป็นต้นมา) คุณคิดว่าจะหาหุ้น VI ในราคาที่ลุงวอเรนแนะนำได้ง่ายเหรอครับ แต่ผมก็รอหุ้นที่ผมเล็งไว้ ไม่ได้รีบเข้ารีบออก ผมอยากให้แยกนักลงทุนตั้งแต่ว่าเค้าคนนั้นเล่นเก็งกำไรหรือลงทุนกันแน่ ไม่ใช่ว่าคนไหนใช้เทคนิคแล้วจะเป็นนักเก็งกำไรกันนะครับ(อยากให้ชาว VI เข้าใจตรงนี้เป็นอันดับแรก) ดูอย่างหุ้น VI เช่น TMD SSC S&P หุ้นประกัน หรือตัวอื่นๆอีกหลายตัว ถ้าคุณรู้เทคนิคคุณจะไม่เผลอเข้าตอนปี 2547-2548 คิดดูสิครับ ราคาตอนนี้มันยังไปไม่ถึงไหนเลย 2 ปีแล้วนะครับ ถึงจะได้ปันผลมาก็ตาม ถึงคุณเผลอเข้าไปตอนพีคปี 2547 คุณก็ยังคัทลอสได้ถ้าคุณเข้าใจเรื่องเทคนิคที่เป็นเบสิคจริงๆ หุ้นกลุ่มเรือหรือ ATC กราฟมันบอกก่อนผลประกอบการจะโชว์เป็นไตรมาสขอย้ำนะครับต้องเข้าใจเบสิคเทคนิคจริงๆแบบเป็นองค์รวม สามารถประยุกต์ดูเส้นค่าเฉลี่ย เส้นแนวโน้ม MACD และมันไม่ได้ซับซ้อนมากอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน และต้องไม่พิจารณา Indicator ทั้ง 3 ตัวแยกกันนะครับ ถ้าดูแยกเลยมันจะเหมือนคุณดูงบการเงินแค่งบกำไร-ขาดทุน แต่งบกระแสเงินสดกับงบดุลยังไม่ได้ดู หวังว่าคงเห็นภาพนะครับ ส่วนเรื่องวินัยในการลงทุน การใช้พื้นฐานเพียวๆก็ยังต้องมีวินัยในการรอราคาที่เหมาะสมเหมือนกัน ไม่ใช่เห็นเค้าเล่นข่าวขึ้นราคาน้ำอัดลมก็บ้าจี้เข้าไปไล่ซื้อหุ้น SSC กัน คุณอย่าลืมนะครับว่าหุ้น VI หลายตัวจะให้เติบโตในแบบช่วงที่ IMF เข้า ต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถ้าเป็นผมจะรอหุ้น VI จริงๆราคามันลงมาต่ำกว่านี้อีก หรือถ้ามีบางอย่างที่สามารถทำให้กิจการสามารถพลิกฟื้นได้ในเวลาไม่นานก็พิจารณาสะสมหุ้นและรอดูทิศทางอีกที สุดท้ายก็ขอให้คุณจงใช้ในสิ่งที่คุณรู้และเข้าใจมันให้มากที่สุด(ขอบข่ายของความรู้ตามแบบลุงบัฟ) แต่ก็อย่าลืมว่าทุกคนเริ่มต้นจากการไม่รู้อะไรเลยซักอย่างในการลงทุน แล้วขอบข่ายของความรู้ของเราจริงๆมันคืออะไรกัน(ส่วนใหญ่ก็คือการเรียนรู้จากคนอื่นแล้วหลอมรวมมาเป็นในแบบของเรา หรือไม่ก็ Copy มาเลย) มือใหม่ลงทุนได้ 2 ปีครับ เริ่มต้นจากไม่รู้เลย ตอนนี้ยังหางูหาปลาอยู่
โดย
Thaworn
พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 12:36 pm
0
0
เทคนิคการเล่นหุ้นให้ปลอดภัย เรียนรู้ได้ใน 1 นาที
พวกบิ๊กแคปอย่าง pttep ต้องรู้เรื่องเทคนิคคอลบ้างครับ เมื่อวันพฤหัสผมตั้งรับ 110 หลุด 108 คัทครับ ถ้าไม่หลุด 108 ก็ถือและสะสมเพิ่ม สไตล์ผมนะครับตอนหุ้นขึ้นแรงๆแล้ว 1.ดูว่าหุ้นจบคลื่น 5 แล้วจะต้องลงปรับฐาน A B C 2.ดูในงบการเงินเอาส่วนของผู้ถือหุ้น/จำนวนหุ้นทั้งหมด ถ้าได้ราคาออกมาว่ามากกว่าบนกระดาน ผมก็คร่าวๆให้มันเท่ากับหรือต่ำกว่าซํก 10-15% ก็ได้ 3.ลากเส้นแนวโน้มหาราคาเป้าหมายที่ใกล้กับข้อ 2. โดยเทียบค่า P/E ของหุ้นด้วย 4.ราคาต้องต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยยิ่งเยอะยิ่งดี(คุณได้ราคาต่ำกว่าชาวบ้านมากๆ) 5.หาค่าการถดถอยโดยเอาค่าฟิโบนาชิมาจับ 6.เอา ข้อ 1-5 มาพิจารณารวมกัน แล้วรอ...............รอ ราคาลงมาอย่างใจเย็นเย็น........ ไม่รีบเข้า เงินสด is Power ข้อสังเกตที่คนไม่ค่อยสังเกตนะครับ *** หุ้นขึ้นมาแรงแทบจะทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง พลังงาน แบงค์ finance โรงแรม โรงพยาบาล พวกโรงหนัง กลุ่มนิคม ค้าปลีก กลุ่มให้เช่าทั้งหลาย มันขึ้นมาที่จุดสูงสุดพร้อมๆกัน แล้วคุณคิดว่ามันจะลงไม่กี่วันเหมือนทุกครั้งแล้วดีดตัวขึ้น จึงรีบไปรับซื้อกันกลัวไม่ได้ของ อย่างที่เห็นครับ Panic ทุกกลุ่ม ผมว่าจะเตือนชาว VI ก่อนหน้านี้(สำหรับคนที่ซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่วก่อนหน้ามันตกอย่างรุนแรง) กลัวโดนด่าครับ เพราะมาอ่านกระทู้เห็นพูดเรื่อง Mint minor โรงบาล โรงแรม และหุ้น VI ตัวอื่นทั้งที่ราคาขึ้นมาเยอะมาก แล้วจะถือยาวกัน แล้วจะขายก็ต่อเมื่อพื้นฐานมันเปลี่ยนเท่านั้น สำหรับผมก็ถือครับแต่ถ้ามันขึ้นบ้าเลือดแบบที่เห็นผมก็จะขายล่ะครับ(Short against port) แล้วลงมารับอีกทีตอนตกอกตกใจกันอย่างที่เห็น หุ้นทุกตัวต้องมีเจ้าสิง ไม่งั้นมันไม่ขึ้นคร๊าบ ยกเว้นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องจริงๆ ถ้าเห็นว่าผมโพสไม่ได้เรื่องก็ลบได้ครับ (ผมดูพื้นฐานกับเทคนิคประกอบตอนซื้อหุ้นครับ) คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องเทคนิคกราฟ(อันนี้อย่าเคืองกันนะครับ สำหรับคนที่แอนตี้ เปิดใจให้กว้างครับ) ช่วงนี้ถ้าจะใช้แต่ดูงบการเงินสำหรับผมก็เหมือนอาวุธไม่ครบ ราคาหุ้นช่วงปีนี้ไม่เหมือนตอนปี 2544-45 ซื้อพื้นฐานดียังไงก็กำไรเยอะ อยากมีคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเยอะๆในนี้ครับ เรื่องการหาคัดเลือกหุ้นในช่วงเศรษฐกิจอย่างปีนี้ซึ่งหาลำบากมาก ถ้าจะเอาแบบมี Margin of Safety ราคาสุดคุ้มแบบลุงวอเร็นจริงๆ ตอนนี้ผมยังหาไม่เจอเลย สมมุตินะครับ ถ้าคุณคาดได้ว่า HMPRO 10กว่าบาทแล้วมันจะลงมาต่ำ 9 คุณจะ Short หุ้นกันหรือเปล่า?ทุกคนที่ลงทุนในหุ้นย่อมต้องการมาล่าเอาส่วนเกินทุนกันอยู่แล้ว หรือมีใครชอบซื้อหุ้นราคาแพงแล้วเอามาขายถูกแบบว่าทำบุญบริจาคทานกันครับ
โดย
Thaworn
ศุกร์ พ.ค. 26, 2006 5:57 pm
0
0
ถ้าคุณรู้ว่า ดัชนีจะไป 600 สิ่งแรกที่คุณคิดคืออะไร
ดูทางเทคนิคนะครับ 722 และต่อมา 690+-5จุด หลุดจากนี้ก็ ... ตอนนี้ก็อ่านหนังสือหาความรู้ เก็บตังไว้ช้อนหุ้นดี ได้แต่ รอ รอ รอ ... เทคนิค + พื้นฐาน หนีไวกว่าการมารอลุ้นผลประกอบการ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าผลงานมันจะดีขึ้นหรือเลวลง ยกเว้นก็แต่พวก Insider ที่รู้ข่าววงในจาก ... เค้าจะซื้อดักและขายออกของก่อนที่พวกเราๆทั้งหลายจะรู้ตัว เราน่าจะสังเกตว่าทำไมราคามันไหลลงทั้งๆที่ใกล้ผลประกอบการจะออกแล้ว หรือราคามันทรงๆตัวแบบ Sideway up แล้วพอผลประกอบการออกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ราคาหุ้นก็วิ่ง ผมคิดว่าการที่เรามีอาวุธครบเครื่อง+สติและปัญญา สำหรับการรบจะดีมากกว่านะครับ เคยคุยกับ ดร.นิเวศน์ ผมถามท่านเรื่องอนาคตของหุ้น Stanly เมื่อตอนกุมภา 2548 แล้วมีตอนนึงท่านว่า ถ้ารู้ว่ามันพีคที่ 200 กว่า รู้งี้ขายออกไปแล้ว และเอาไปซื้อหุ้นตัวใหม่(ประโยคนี้ไม่ได้มั่วเอาเองนะครับ) หลักการข้อนึงของ VI เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานมากๆหรือเป็นราคาในอนาคต หรือเจอหุ้นที่ดีกว่า ก็จะขายหุ้นนั้นๆออกไป แต่ในความเป็นจริงมีกี่คนที่ทำได้ ดูอย่างหุ้น VI ที่เคยขึ้นไปพีคหลายตัวในช่วงปี 2546-2547 ผมยังไม่เห็นมันขึ้นมาถึงราคาเดิมเลย แต่อีกหลายปีข้างหน้าก็อาจจะขึ้นไปถึงก็ได้ครับ นี่ความเห็นส่วนตัวนะครับ ส่วนนึงของผมจะคิดคล้ายเฮียคลายเครียดครับคือ Gu(Not)ru ยิ่งการค้าขายแบบทุกวันนี้การคาดการผลประกอบการในอนาคตถ้าไม่ใช่คนในบริษัทจริงๆรู้ยากครับ นอกจากผลออกมาแล้ว ตอนน้องผมเป็นวิศวะอยู่ CPF ก็เคยถามครับ แค่นี้ก่อนครับมีงานพอดี
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ค. 22, 2006 6:15 pm
0
0
งบ KH ออกแล้วว ...
ฝากประชาสัมพันธ์นิด ถ้าผิดกฎก็ลบข้อความทิ้งเลยครับ น้องผมเป็นหมอเคยรับจ๊อบที่ รพ.ลาดพร้าว โดนฝ่ายบัญชีโกงค่าแรงไป 4000 น้องผมไม่อยากว่าไรมากก็เลิกไปอีกเลยโรงพยาบาลนี้ เรื่อง double standard ของ รพ.นี่ หมอรู้กันดีครับ น้องเล่าให้ฟังประจำ
โดย
Thaworn
ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 11:51 am
0
0
เอาไงดีครับ กับ หุ้นไทยรักไทย TRT
ผมเคยฝึกงานบริษัทหม้อแปลงแห่งหนึ่งมาก่อน อยู่ฝ่าย QC ผมว่ากำไรก็ค่อนข้างใช้ได้ เพราะได้คุยกับผู้บริหาร หม้อแปลงก่อนส่งจะมีการทดสอบหลายอย่าง ผมเคยเทสหม้อแปลงจนขดลวดทองแดงช๊อตก็ไม่กี่ตัว ก็ต้องให้ฝ่ายซ่อมบำรุงรื้อลวดทองแดงออกทิ้งแล้วพันใหม่ คิดเป็น cost ถือว่าน้อยมากๆ ปัญหานี้มักเกิดจากความมักง่ายของฝ่ายพันขดลวดซึ่งเกิดไม่บ่อย ปัญหาอย่างอื่นผมก็ไม่ค่อยเจอ ชุดทดสอบหม้อแปลงทั้งหมดถ้าบริษัททำขึ้นเองนี่ประหยัดเงินได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ธุรกิจหม้อแปลงจะผลิตตามออเดอร์ลูกค้าสั่งอย่างเดียว โดยตกลงทำสัญญากันล่วงหน้าครับ (พอดีผมซี้กับผู้บริหาร 2 ท่าน เลยได้ช่วยงานเอกสาร ทั้งเอกสารการออกแบบ สัญญาต่างๆ ) การลดต้นทุนวัตถุดิบจะออกแบบโดยคำนวณแล้วให้เวลาทดสอบมีค่าใกล้ๆจุดที่ยอมรับได้ เช่น 5% ทั้งๆที่บริษัทสามารถทำให้ได้ดีถึง 1 % เช่น ทดสอบการทนต่อกระแสฟ้าผ่า ทดสอบการลัดวงจร อ้อ ชิ้นส่วนบางอย่าง เช่น ลูกถ้วนฉนวนไฟฟ้า น้ำมัน จะสั่งจาก supplier ทำสัญญากันล่วงหน้าเหมือนกัน ข้อมูลส่วนใหญ่ก็แบบที่พี่ลูกอีสานว่าแหละครับ ปริมาณทองแดงที่ใช้ต่อลูกนี่มันอยู่ที่การออกแบบและลักษณะเฉพาะของหม้อแปลงที่ลูกค้าต้องการครับไม่ได้ตายตัวทุกแบบ
โดย
Thaworn
ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 11:24 am
0
0
รวมหุ้นที่ควรระวัง..ขอแรงสมาชิก ThaiVI ช่วยกันหน่อยครับ
ขอส่ง GBX กับ KMC เข้าประกวด GBX ผู้บริหารขายหุ้นทิ้งตลอด และอ่านจาก Bizweek เจ้าของเอาเงินไปตุนทองขาขึ้นไว้เก็งกำไร เข้าไปอ่านรายละเอียดในรายงานประจำปี เคยปล่อยกู้ให้กับบริษัทในเครือญาติตัวเองเกือบ 200 ล้านบาทในอัตราดอกเบี้ยแค่ 1.8% (ไม่รู้เอาไปปล่อยกินดอกเบี้ยต่อหรือเปล่า กำไรปลิ้นพุง) ถ้ามีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดก็ขออภัยผู้รู้แก้ด้วยครับ KMC ด้วยประวัติอันโชก... อันนี้แม่ผมบอกมาสมัยตลาดบูม ไม่มีใครไม่รู้จัก ปั่นกันสุดๆ ดูราคาตอนนี้ ตามแรงกรรมของผลประกอบการ
โดย
Thaworn
จันทร์ พ.ค. 01, 2006 5:27 pm
0
0
พี่ขา IRP ทำไมลงจัง ราคานี้น่าสนมั๊ยคะ
ตอบตามที่มีคนตั้งกระทู้นะครับ คนซื้อช่วงราคา 5 บาทก่อนหน้านี้เค้าตัดขายเอากำไรก็แค่นั้นครับ ช่วงราคาตกลงมาจาก 6.9 เจ้ามือปล่อยให้คนอื่นขายหรือตัวเองขายผสมโรงส่วนหนึ่งสังเกตว่าไม่มีการตั้งบิตรับเลยแค่หลักหมื่นหรือแสนหุ้นตั้งแต่ตอนราคาร่วงลงมา คนเลยแย่งกันขาย ตอนราคาลงมาแถว 5.8 เริ่มมีการตั้งบิดซื้อช่องละเป็นล้านหุ้นแสดงว่าเจ้ามือเริ่มคุมไม่ให้หุ้นลงกว่านี้แล้ว ถ้าราคาวิ่งขึ้นแรงอีกรอบจนมีการตั้ง Bid-offer เป็นล้านๆหุ้นต่อช่อง แถมมีการเคาะซื้อขึ้นยกไม้ทีละเป็นล้านหุ้นให้ระวังการจบรอบต่อไปได้เลยครับ ไม่แนะนำให้ตามแห่ครับ ยังไม่รู้ผลงาน Q1 Q2 จะดีตามที่โม้ไว้หรือเปล่า ข้อสังเกตนะครับ หมวดเคมีตัวนี้ P/E น่าจะสูงกว่าเพื่อน เพราะการเติบโตในอนาคตที่ผู้บริหารโม้ไว้ อยากรู้ข้อมูล IRP ให้ไปดูใน www.kimgeng.co.th ที่หน้าหลักตรงใต้คำว่า KeliveTV ไปคลิกที่ตัว O ให้ไปดูที่หัวข้อ กิจกรรม/สัมมนานอกสถานที่ แล้วเลื่อนไปล่างๆจะเจอหัวข้อ IRP เข้าตลาด-ลัก-ทรัพย์ ของ MCS ก็มีครับ
โดย
Thaworn
อาทิตย์ เม.ย. 30, 2006 1:46 am
0
0
พี่ขา IRP ทำไมลงจัง ราคานี้น่าสนมั๊ยคะ
ซื้อ IRP ตอนก่อนไปฮันนีมูนราคา 5.1 เดือนมีนาคม ราคาร่วงลงมา ซื้อเพิ่มที่ราคา 5.9 ผมใช้ทั้งกราฟทางเทคนิค (ขอย้ำว่าต้องอ่านสัญญาณ MACD ลากเส้นแนวโน้มเป็น เข้าใจเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เรื่องคลื่นอีเลียตเวฟด้วย คนส่วนใหญ่ซื้อหนังสือวิเคราะห็หุ้นทางเทคนิคมาอ่านแล้วเข้าใจงูๆปลาๆ เลยมองว่ามันใช้ไม่ได้ ใครสนใจก็ลองไปอ่าน Technical Analysis of the financial markets by John J. Murphy มีที่ห้องสมุดคณะบัญชีที่ธรรมศาสตร์ครับ ที่ห้องสมุดมารวยมีแต่ชื่อโผล่ ส่วนตัวหนังสือล่องหน) และปัจจัยพื้นฐานเสริมกันครับ พื้นฐานพลิกหรือผลงานในอนาคตไม่เป็นแบบที่ผู้บริหารคุยก็เลิกคบ ใช้เทคนิคกราฟซื้อเฉพาะหุ้นที่เป็น Up Trend หรือ Turnaround หุ้นปั่นแปะผมไม่เล่นที่บ้านขายส่งขายปลีกไม่ว่างมานั่งลุ้น เล็งๆ PTL อยู่เหมือนกัน ซื้อ lot นึงตอนราคาต่ำกว่า 5 บาท น่าจะเห็น new low อีกทีจะครบคลื่นปรับ C ใหญ่ ใครมีเงินเยอะช่วยทุบทีครับ ^_^ จะรอซื้อราคาต่ำๆ ชอบอ่านกระทู้ของเฮียคลายเครียด ปล.สมาชิกใหม่ครับอยู่ จ.อุบลฯ อ่านกระทู้เป็นหลัก ไม่นิยมโพสครับ ( อย่าซื้อหุ้นตามชาวบ้านเพียงเพราะมีคนมาโพสว่ามันดี จนกว่าคุณจะลงมือวิเคราะห็มันด้วยตนเองจนเข้าใจและแน่ใจแล้ว)
โดย
Thaworn
อาทิตย์ เม.ย. 30, 2006 1:04 am
0
0
ขอข้อมูลงบดุลย้อนหลัง12ปีด้วยนะครับ
สวัสดีครับพี่ครรชิต ผมพึ่งเริ่มสนใจและศึกษาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ก็อ่านหนังสือของ อ.นิเวศน์ไปหลายเล่มแล้ว ของคุณ WEB ก็พึ่งซื้อมาอ่านทั้งชุดเลย ก็กะว่าจะศึกษาอดีตเพื่อเป็นความรู้จะได้นำมาปรับใช้กับหุ้นในปัจจุบันอีกทีนึงครับ Mailผมนะครับ
[email protected]
เมลล์นี้ว่างครับไว้รับข้อมูลเซฟแล้วก็ลบเมลล์ทิ้ง
โดย
Thaworn
เสาร์ ก.พ. 11, 2006 6:57 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
Thaworn
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
Investor,Meditation
ความถนัด:
Investor & Mechant
ที่อยู่:
Ubon
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ ม.ค. 30, 2006 2:44 pm
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ เม.ย. 07, 2013 6:32 pm
โพสต์ทั้งหมด:
56 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว