หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Thai VI Article
Joined: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm
1596
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
2
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Thai VI Article
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: Amazon: Review งบ Q2 2020
ร่วมติดตามและแชร์ข้อมูลได้ที่กระทู้ AMZN ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศตาม Link ด้านล่างนะครับ https://board.thaivi.org/viewtopic.php?p=1581908#p1581908
โดย
Thai VI Article
อาทิตย์ ส.ค. 16, 2020 7:36 pm
0
0
ฟิน!.../ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่แล้วดูสดใสมากจนทำให้นักลงทุนจำนวนมากคิดว่าเราน่าจะกำลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเริ่มขึ้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 1,500 จุด พอถึงกลางเดือนมีนาคม ดัชนีก็ตกลงมาเหลือเพียงประมาณ 1,000 จุดเศษ ๆ หรือเป็นการลดลงประมาณ 33% ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว ซึ่งเข้าข่ายเป็น “วิกฤติตลาดหุ้น” ซึ่งมีสาเหตุจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าที่กระจายไปทั่วโลกและทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้อง “ปิดเมือง” ส่งผลให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ความเสียหายทางเศรษฐกิจนั้น “รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่ง” ในเกือบทุกประเทศ แต่แล้ว ภายในเวลาเพียงแค่ 2-3 เดือนจนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ดัชนีตลาดหุ้นจำนวนมากในโลกก็ปรับตัวขึ้นอย่างแรง เฉพาะอย่างยิ่งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวขึ้นเป็น 1,436 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 40% จากจุดต่ำสุดในช่วงวิกฤติ การปรับตัวขึ้นของหุ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่คึกคักมาก เฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4 วันทำการในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นทุกวัน รวมแล้วประมาณ 7% แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ปริมาณการซื้อขายหุ้นในวันที่ 4 และ 5 มิถุนายน 2563 นั้นสูงถึงกว่าแสนสองหมื่นล้านบาทต่อวันซึ่งแทบไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ดังนั้น นี่น่าจะเป็นการ “ฟื้นตัว” จากวิกฤติที่ “สุดยอด” ที่สุดเท่าที่ผมจำความได้ คนที่พอร์ตว่าง ไม่มีหุ้นหรือถือหุ้นน้อยมากที่กล้าเข้าไป “ช้อนซื้อหุ้น” ในช่วงที่เลวร้ายที่สุดกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและถือจนถึงวันนี้น่าจะทำกำไรได้มหาศาล นักลงทุนจำนวนไม่น้อยในช่วงนี้น่าจะมีความสุขมากขนาดที่เรียกตามภาษาวัยรุ่นว่า “ฟิน” กันไปเลย อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ในตลาดหุ้นมานานและมักจะอยู่แทบจะตลอดเวลานั้น ถึงวันนี้ก็อาจจะยังขาดทุนอยู่ เพราะดัชนีตลาดหุ้นจนถึงวันนี้ก็ยังต่ำกว่าเมื่อสิ้นปี 2562 ที่ 1,580 จุด หรือต่ำกว่าประมาณ 9% ผมไม่รู้ว่าอารมณ์พวกเขาจะเป็นอย่างไร แต่ความรู้สึกของผมเองนั้นก็คือรู้สึกดีขึ้นมากแม้ว่าจะยังไม่ได้ช้อนซื้อหุ้นที่ตกลงมามากในช่วงวิกฤติ เงินสดที่ถืออยู่ประมาณเกือบ 10% ของพอร์ตตั้งแต่ก่อนวิกฤติถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ซื้อหุ้นทั้ง ๆ ที่ “จดจ้อง” มานานแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ที่คิดว่าปีนี้จะเป็นปีที่แย่มากนั้น ถึงวันนี้ก็แทบจะไม่ขาดทุนแล้ว ความรู้สึกดี ๆ ที่เห็นหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเกือบทุกวันและนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนส่วนบุคคลแห่กลับเข้ามาซื้อหุ้นราวกับว่าเราอยู่ในช่วง “กระทิงดุ” นั้น มันเป็นเหมือนการ “สะกดจิต” ให้เรามีความมั่นใจว่าหุ้นจะต้องขึ้นต่อไปอีกอย่างแน่นอน ใครไม่รีบก็จะต้อง “ตกรถ” อาการของตลาดหุ้นบูมนั้นเกิดขึ้นในทุกมิติ การเก็งกำไรของรายย่อย การปั่นหุ้นของขาใหญ่ บทวิเคราะห์หุ้นที่ไม่คำนึงถึงพื้นฐานแต่เน้นสตอรี่ต่าง ๆ กลับคืนมา เวลาพูดถึงหุ้น ทุกคนต่างพูดกันถึงการ Turnaround พูดถึงการเติบโตของกำไรที่จะกลับมาหลังไตรมาส 2 หรือปีหน้า นักวิเคราะห์จำนวนมากพูดถึงเม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเพราะภาวะเงินที่ล้นอยู่ในระบบอานิสงค์จากดอกเบี้ยที่ต่ำลงและการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังไม่เท่ากับความหวังและความเชื่อมั่นว่าภาวะเรื่องของโควิด-19 กำลังจะจบลงในไม่ช้าและทุกประเทศต่างก็ทยอยเปิดเศรษฐกิจแม้ว่าโควิดก็ยังไม่หมดไป ถ้าจะพูดว่าเวลานี้ประเทศส่วนใหญ่กำลัง “มองผ่านโรคโควิด-19 ไปแล้ว” ก็น่าจะได้ สงครามกับเชื้อโรคนั้นกำลังจบลงแล้วด้วย “ชัยชนะ” ของมนุษยชาติ สงครามต่อไปก็คือ “สงครามทางเศรษฐกิจ” ที่ทุกประเทศต่างก็พยายามต่อสู้เพื่อไปสู่ชัยชนะเช่นเดียวกันในที่สุด สัปดาห์ก่อนผมเองไปเที่ยวพักผ่อนที่หัวหิน สิ่งที่พบก็คือ ชายหาดหน้าโรงแรมหรูที่ผมพักอยู่นั้นค่อนข้างคึกคักแม้เป็นวันธรรมดา อัตราการเข้าพักของโรงแรมนั้นต้องถือว่า “เต็ม” อย่างไม่น่าเชื่อ ผมคิดว่าหัวหินนั้นได้เปรียบที่คนกรุงเทพสามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการติดโควิดไม่มี การพักผ่อนริมชายหาดที่เป็นสถานที่เปิดนั้นความเสี่ยงในการติดเชื้อก็น่าจะน้อย ดังนั้น นี่เป็นทางเลือกแรกของการท่องเที่ยว ผมคิดว่าหากสถานการณ์การติดเชื้อของไทยยังดีแบบนี้อยู่ การท่องเที่ยวในประเทศแม้แต่การเดินทางด้วยเครื่องบินก็น่าจะดีขึ้น เช่นเดียวกับการท่องเที่ยว ผมเองก็เริ่ม “เดินห้าง” เพราะมันเป็นกิจวัตรในยามปกติของผม จำนวนคนในห้างที่ผมเห็นก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นพอสมควรแล้ว เช่นเดียวกับภัตตาคารในห้างที่คนเริ่มเข้าไปนั่งกินที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลจากคนในวงการบอกว่าขณะนี้อัตราการใช้บริการประมาณ 50-60% ของอัตราก่อนโควิดไปแล้ว นี่คือสถานการณ์ของภาคธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้เปิดซึ่งผมคิดว่าน่าจะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด สนามรบต่อไปที่น่าจะตามมาในไม่ช้าก็คือการเปิด “เต็มที่” ในทุกธุรกิจซึ่งรวมถึงการชุมนุมคนจำนวนมากเช่น การแข่งขันกีฬา งานสัมมนา มหกรรมการแสดงและขายสินค้า การจัดคอนเสิร์ต และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การเปิด “ชีวิตกลางคืน” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ใหญ่มากในสังคมไทย ทั้งหมดนี้ ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นภายในไม่เกิน 2 เดือน เพราะดูแล้วเหตุผลที่จะไม่เปิดนั้นมีน้อย ว่าที่จริง เป็นเวลากว่า 10 วันติดต่อกันแล้วที่เราไม่มีคนในประเทศติดเชื้อกันเองเลย กิจกรรมสุดท้ายที่สำคัญไม่น้อยกว่ากิจกรรมอื่น ๆ ที่กล่าวถึงทั้งหมดก็คือ การ “เปิดประเทศ” ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพราะนี่อาจจะมีผลกับคนไทยหลายล้านคนหรือคิดเป็นประมาณ 10% ของ GDP แต่ผมยังไม่เห็นแผนการที่ชัดเจนเนื่องจากการระบาดของเชื้อโรคในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ยังไม่สงบเพียงพอ การเปิดประเทศอาจจะทำให้เรามีความเสี่ยงที่โรคจะระบาดซ้ำ ผมเองคิดว่าประเด็นนี้อาจจะลากยาวไปอีกหลายเดือนและถ้าจะให้เปิดได้เสรีกับนักท่องเที่ยวเกือบทุกประเทศก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้น ดังนั้น การท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็จะเป็นภาคเศรษฐกิจที่จะเป็น “ลมต้าน” สำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยไม่สามารถจะโตกลับมาเท่าเดิมภายในเวลาก่อน 2 ปี คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนที่เน้นดู “พื้นฐานที่แท้จริง” ของหุ้นในระยะยาวก็คือ ราคาหรือดัชนีหุ้นในช่วงนี้สูงเกินไปหรือยัง การพุ่งขึ้นของหุ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้มีพื้นฐานที่รองรับหรือไม่? ถ้ามองว่าราคาหุ้นไทยก่อนโควิด-19 นั้นมีความเหมาะสมอยู่แล้ว เพราะดัชนีตลาดหุ้นอยู่ที่ประมาณ 1,500 จุด ซึ่งมีค่า PE ที่ประมาณ 18 เท่า ซึ่งทำให้ค่า EP เท่ากับ 5.5% ต่อปีเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ประมาณ 1-2% ก็คือมีส่วนต่างประมาณ 3.5-4.5% สำหรับการรับความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นนั้น มองจากประวัติศาสตร์ก็ดูเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป แต่การเกิดของโควิด-19 นั้น ถ้าเราสมมุติว่าจะทำให้เศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนถอยหลังไป 2 ปี คือต้องใช้เวลาอีก 2 ปี เศรษฐกิจและกำไรถึงจะกลับมาที่เดิม นั่นก็แปลว่าดัชนีหุ้นตอนนี้ควรที่จะต่ำกว่า 1,500 จุด ซัก 12% เพื่อที่ว่าตลาดหุ้นจะโตขึ้นปีละ 6% ต่อปีซึ่งเป็นอัตราที่ผมคิดว่าตลาดหุ้นจะทำได้ในระยะยาวนับจากวันนี้ นั่นก็หมายความว่าดัชนีที่เหมาะสมในวันนี้ก็ควรจะเป็นประมาณ 1,320 จุด ซึ่งต่ำกว่า 1,436 จุด และถ้าเราเชื่อตามนี้ก็หมายความว่าดัชนีหุ้นที่เราเห็นในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ก็ถือว่า “เต็มมูลค่า” แล้ว แน่นอนว่าการคาดการณ์แบบหยาบที่สุดข้างต้นนั้น มีโอกาสผิดพลาดสูงมากทั้งทางบวกและทางลบ แต่การที่หุ้นปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับปริมาณการซื้อขายสูงลิ่วและเกิดขึ้นในยามที่คนจำนวนมากกำลังมีความหวังสูงสุดและสถานการณ์เต็มไปด้วยความสดใสหลังจากความเศร้าหมองหดหู่ซึ่งมักจะก่อให้เกิด “Euphoria” หรือความ “ฟิน” ในตลาดหุ้นนั้น เราในฐานะ VI ก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะตลาดหุ้นจะมีเหตุผลซึ่งทำให้ดัชนีหุ้นมีเหตุผลก็ต่อเมื่อคนไม่อยู่ในภาวะที่ฟินหรือหดหู่เกินไป
โดย
Thai VI Article
จันทร์ มิ.ย. 08, 2020 1:24 pm
0
9
Re: จิ๊กซอว์หุ้น/วีระพงษ์ ธัม
ไม่ง้อก็ได้ หาข้อมูลเองดีกว่าเยอะ ถามก็ไม่ยอมตอบ 555 ขอบคุณมากครับ คุณ Seattle :D
โดย
Thai VI Article
พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2017 3:11 pm
0
2
หุ้นเครื่องแต่งตัว/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
sorawut: โพสผิดครับ :oops:
โดย
Thai VI Article
จันทร์ มี.ค. 17, 2014 10:55 am
0
0
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
sorawut: Reply ผิดครับ :oops:
โดย
Thai VI Article
จันทร์ ม.ค. 13, 2014 10:41 am
0
0
Re: ประกาศ! บทความจะย้ายไปโพสในห้องบทความแล้ว
ล่าสุดคุณวรวรรณ ธาราภูมิ ตอบรับที่จะส่งบทความมาลงที่ไทยวีไอแล้วครับ :D
โดย
Thai VI Article
ศุกร์ ก.ค. 13, 2012 11:46 pm
0
8
Re: ประกาศ! บทความจะย้ายไปโพสในห้องบทความแล้ว
ขอเพิ่มเติมนิดนะครับ ขอบทความของต่างประเทศแต่แปลเป็นภาษาไทยอย่างบัฟเฟต โซรอส หรือคนอื่นๆด้วยได้มั้ยครับ ภาษาผมไม่แข็งแรง แต่อยากได้มุมมองฝรั่งบ้าง :oops: และก็บทความทางเศรษฐศาสตร์. อย่าง อ.กอบศักดิ์ อ.ศุภวุฒิ เป็นต้นครับ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหุ้นอย่างเดียว จะได้คลอบคลุม ทุกด้าน เกี่ยวกับการลงทุน :mrgreen: ทีมงานจะรับไว้พิจารณาครับ
โดย
Thai VI Article
ศุกร์ ก.ค. 13, 2012 11:44 am
0
0
Re: ประกาศ! บทความจะย้ายไปโพสในห้องบทความแล้ว
ทำ Link เพิ่ม เป็น Group บทความ แยกผู้เขียนแต่ละท่านได้ไหมครับ เหมือนใน Web Settrade หรือ Blog ต่างๆ :P :P ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ทีมงานจะรับไว้พิจารณา สมาชิกท่านอื่นมีข้อแนะนำเพิ่มเติมเสนอมาได้เลยนะครับ
โดย
Thai VI Article
พฤหัสฯ. ก.ค. 12, 2012 5:01 pm
0
1
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
Thai VI Article
ระดับ:
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2021 11:24 pm
โพสต์ทั้งหมด:
1593 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.08% จากโพสทั้งหมด / 0.35 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว