หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
guitarz
Joined: จันทร์ มี.ค. 26, 2012 5:15 pm
5
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - guitarz
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: ค่าความนิยมและกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ
ขอตอบเพิ่มเติมนะครับ รายการส่วนเกินระหว่างราคาทุนที่สูงกว่าราคาตามบัญชีของบริษัทย่อยที่ได้มา ตามที่ผมเข้าใจคือ ราคาทุน = เงินที่จ่ายไปในการซื้อกิจการ อันนี้ทำให้เกิด Goodwill นะครับ (จ่ายไปมากกว่าสิ่งที่ได้มา) ส่วน รายการผลต่างที่เกิดจากรายการภายใต้ควบคุมเดียวกัน (ในงบของ ivl) หรือที่ตาม note ในหัวข้อ Differences arising from common control transactions The differences arising from common control transactions represent the excess of the book values of certain subsidiaries over their cost as of the date of their acquisition and have been recorded as a reserve. It is non-distributable and will be retained until the respective subsidiaries are sold or otherwise disposed of. ภายใต้ควบคุมเดียวกัน/common control ในที่นี้หมายถึงการที่บริษัทลูก มีบริษัทแม่เป็นบริษัทเดียวกันก็จะเรียกว่าบริษัทลูกเหล่านั้นอยู่ภายใต้ควบคุมเดียวกันครับ คือตามปกติแล้วในการซื้อขายกิจการ ถ้า จ่ายไปน้อยกว่าสิ่งที่ได้รับมา (gain on bargain purchase) จะลงเป็นกำไรในรอบปีนั้นๆเลยครับ แต่ว่าหากเป็นการซื้อขายกิจการระหว่างบริษัทย่อย (เช่น บริษัท A มีลูก 2 ตัว บริษัท B C ) แล้วมีการซื้อขายกันในระหว่าง B C นั้นแล้วเกิดกำไร (bargain purchase) อาจนำไปสู่การตบแต่งบัญชีได้ครับ ดังนั้นจึงไม่ลงเป็นกำไรในทันที และจะลงก็ต่อเมื่อขายออกไปสู่ภายนอกครับ
โดย
guitarz
พุธ พ.ค. 09, 2012 11:44 pm
0
1
Re: ค่าความนิยมและกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ
ส่วน bargain purchase ลงในงบกระแสเงินสดยังไงคับ ทำไมต้องบังคับลงงบกำไรขาดทุนเพราะ การซื้อมาในราคาต่ำกว่าราคายุติธรรม ยังไม่เกิดกิจกรรมขายต่อจริง กำไรจริงก็ยังไม่เกิด ขอบคุณคับ งงมานานละ ตัวอย่างหุ้น ivl ตัว bargain purchase ลงเป็นเหมือนรายได้เลยครับ เป็นแบบนี้นะครับ (จาก IVL) http://www.uppic.org/image-3A9E_4F7476B6.gif และก็จะมี Note มาขยายความต่อว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างครับ อย่างในที่นี้บริษัทมีการบันทึกค่า bargain purchase จากการซื้อกิจการหลายรายการครับ http://upic.me/i/5n/notenew.gif ส่วนทำไมต้องลงในงบกำไรขาดทุนนั้น มันเป็นกฏตามมาตราฐานบัญชีครับผม ทางบัญชีแล้วนั้นมองว่ากำไรนั้นเกิดขึ้นแล้วครับ เพราะได้รับสินทรัพย์สุทธิสูงกว่าเงินที่จ่ายไปในการซื้อกิจการครับ ถ้าสมมุติว่ามาตราฐานบัญชีไม่บังคับให้เป็นแบบนี้ และอนุญาตให้ทำในรูปแบบอื่นนั้นก็อาจจะมีปัญหาตามมาได้ครับ เช่นให้ตั้งเป็นหนี้สินไว้และเมื่อมีขายออกถึงค่อยรับรู้ ในกรณีนี้ก็ไม่ตรงกับคำนิยามของหนี้สินเพราะว่าไม่ได้มีภาระผูกผันซึ่งบริษัทต้องจ่ายในอนาคตครับ หรือจะให้บันทึกเข้าเป็นรายการกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (other comprehensive income) สุดท้ายก็ต้องแปลงกับมาเป็นกำไรอยู่ดีครับ ซึ่งถ้าให้เป็น OCI อยู่ก็อาจจะทำให้เกิดการแทรกแซงหรือตบแต่งบัญชีอีกว่าจะรับเป็นกำไรในงวดไหน อย่างไรครับ หรือบางทีบริษัทซื้อกิจการโดยไม่ได้คิดว่าจะขายต่อออกไป ก็ไม่รู้จะไปบันทึกกำไรในปีไหน เพราะฉะนั้นแล้วบันทึกเป็นกำไรไปเลยน่าจะเหมาะสมที่สุดครับ คงพอเห็นภาพและนะครับ :B
โดย
guitarz
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 10:09 pm
0
5
Re: ค่าความนิยมและกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ
ขอตอบเป็นข้อๆนะครับ ค่าความนิยมในปัจจุบันมีการตัดค่าเสื่อมแล้วใช่ไหมครับ แล้วค่าสุดท้ายที่บันทึกในรายการของงบดุลเป็นเท่าไรละครับ 1 บาทหรือเปล่าครับ ที่ต้องคงไว้ในงบการเงิน ระยะเวลาการตัดสูงที่สุดที่ทางบัญชีสามารถให้ตัดค่าเสื่อมได้กี่ปีละครับ สำหรับสินทรัพย์เหล่านี้จะเรียกว่าค่าตัดจำหน่าย (amortization) ครับ (คล้ายๆค่าเสื่อมสภาพซึ่งใช้กับพวกอาคารและอุปกรณ์มากกว่าครับ) ค่าความนิยมนั้นมาตราฐานบัญชีปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้ลงค่าตัดจำหน่ายแล้วครับ แต่ในอดีตเคยมีการลงบันทึกในจุดนี้ครับ ส่วน 1 บาทที่คุณ miracle พูดถึงนั้นมาจากที่กฏของกระทรวงพาณิชย์สำหรับอาคารและอุปกรณ์โดยให้เก็บไว้ในบัญชีที่ 1 บาท เมื่อตัดค่าเสื่อมหมดแล้วยังมีการใช้งานอยู่ แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับค่าความนิยมครับผม ทางบัญชีประเมินค่าความนิยมโดยใช้สิ่งใดประกอบละครับ เพราะตัวที่ซื้อบริษัทนั้นซื้อเกิดมูลค่าของสินทรัพย์อยู่แล้ว ทำให้เกิดค่าความนิยมมาปรับ เพื่อให้ราคาที่ซื้อและมูลค่าของสินทรัพย์ที่ซื้อมาเท่ากัน ค่าความนิยมนั้นเกิดจากราคาที่บริษัทจ่ายซื้อ สูงกว่ามูลค่ายุติธรรม (fair value) ของสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทย่อย ลบ หนี้สินทั้งหมด ดังนั้น ค่าความนิยมเกิดจากการที่บริษัทใหญ่ยินดีจ่ายเงินให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยเกินกว่าราคาสินทรัพย์สุทธิ (net asset) เนื่องจากเกิดความแตกต่างในสินทรัพย์ที่ได้กับเงินที่จ่ายไป ดังนั้นก็จะเกิดส่วนต่างตรงนี้ซึ่งจะนำมาบันทึกเป็น goodwill ครับ สุดท้ายคือ ถ้าหากซื้อบริษัทในราคาที่ต่ำกว่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ในบริษัท แล้ว ทางบัญชีบันทึกอย่างไงละครับ ในกรณีนี้จะทำให้เกิดกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ (Bargain Purchase) หรือที่แต่ก่อนเรียกว่าค่าความนิยมติดลบครับ ซึ่งต้องทำการบันทึกลงในงบกำไรขาดทุน (income statement) ทันทีครับ :D
โดย
guitarz
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 12:57 pm
0
1
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
guitarz
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ มี.ค. 26, 2012 5:15 pm
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ ธ.ค. 21, 2015 10:00 pm
โพสต์ทั้งหมด:
5 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.00 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว