หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
longterminvest
Joined: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 1:01 pm
39
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - longterminvest
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$
กำไร (ขาดทุน) สะสม 317.38 กำไรสะสม - จัดสรรแล้ว 61.68 สำรองตามกฎหมาย 61.68 กำไร (ขาดทุน) สะสม - ยังไม่ได้จัดสรร 255.70 http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=JTS&language=th&country=TH JTS
โดย
longterminvest
จันทร์ ม.ค. 16, 2012 11:06 am
0
0
Re: "หุ้นดี ที่ถูกลืม" "หุ้นดีที่ถูกมองข้าม"
JTS http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=JTS&language=th&country=TH กำไร (ขาดทุน) สะสม 317.38 กำไรสะสม - จัดสรรแล้ว 61.68 สำรองตามกฎหมาย 61.68 กำไร (ขาดทุน) สะสม - ยังไม่ได้จัดสรร 255.70
โดย
longterminvest
จันทร์ ม.ค. 16, 2012 11:00 am
0
2
Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$
KAMART และบ.ย่อย ไตรมาส 3/54 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 60 ลบ. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 พฤศจิกายน 2554 17:20:49 น. บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการ(รวมบริษัทย่อย) งวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 สรุปได้ดังนี้ สอบทาน/ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท) ไตรมาส 3 งวด 9 เดือน ปี 2554 2553 2554 2553 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 60,004 3,201 81,696 (24,458) กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.10 0.01 0.14 (0.04) คุณ falling ก็แนะนำได้แม่นเหมือนมีตาทิพย์์จริงๆครับ ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย แต่ก็หายไปอีกคน คนที่เก่งและแม่นจริงๆ หายไปแล้วสองท่าน :'O :'O :'O แต่ผมก็ได้หลังไมค์จากคุณ falling มาว่าหุ้นที่จะ turn around มากๆ ในปีนี้คือ TSF, SLC อีกเช่นกัน ขอบคุณที่แนะนำครับ
โดย
longterminvest
อาทิตย์ ม.ค. 08, 2012 2:47 pm
0
0
Re: SLC จะ Turn around ได้หรือไม่?????????
ขุนศึกSLCคาดปี57"สปริงนิวส์" คืนทุน ปัจจุบัน มีรายได้ 8ลบ./เดือนมั่นใจเเนวโน้มธุรกิจโตดี -------------------------------------------------------------------------------- ขุนศึกSLCคาดปี57"สปริงนิวส์" คืนทุน ปัจจุบัน มีรายได้ 8ลบ./เดือนมั่นใจเเนวโน้มธุรกิจโตดี นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยกับ Hooninside.com ว่า บริษัท ฯ คาดว่า สปริงนิวส์ จะสามารถถึงจุดคืนทุนได้ในปี 2557 โดยปัจจุบันสปริงนิวส์มีรายได้ประมาณ 8 ล้านบาทต่อเดือน และที่ผ่านมาสปริงนิวส์ มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ มั่นใจว่าเเนวโน้มธุรกิจการผลิตสื่อโฆษณายังเติบโตดี
โดย
longterminvest
เสาร์ ม.ค. 07, 2012 5:09 pm
0
0
Re: SLC จะ Turn around ได้หรือไม่?????????
SLC โชว์รายได้ไตรมาส 3 โตทะลุ 300% รับรู้รายได้จากBacklogสปริงนิวส์โฆษณาโตช่วยหนุนแต่ยอมรับยังขาดทุน -------------------------------------------------------------------------------- SLC โชว์รายได้ไตรมาส 3 โตทะลุ 300% รับรู้รายได้จาก Backlog สปริงนิวส์โฆษณาโตช่วยหนุน แต่ยอมรับยังขาดทุนจากต้นทุนการดำเนินงานสูง มั่นใจปีหน้าพลิกทำกำไร นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 62.736 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 346.33%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 14.056 ล้านบาท แต่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 54.905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 41.783 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 54 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 123.858 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 88.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 65.813 ล้านบาท แต่มีขาดทุนสุทธิจำนวน 161.837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้ของงานคงค้าง และงานใหม่ที่สามารถส่งมอบได้มากขึ้น รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากโฆษณาของบริษัทย่อยสปริงนิวส์มากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีผลการดำเนินงานเป็นขาดทุนสุทธิ เนื่องจากมีต้นทุนการบริการในส่วนของงานคงค้างเพิ่มสูงขึ้น และมีต้นทุนการผลิตรายการรวมทั้งบุคลากรของบริษัทย่อย สปริงนิวส์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานของ SLC ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 55 มูลค่ารวม 90 ล้านบาท และมีแผนที่จะประมูลงานเพิ่มทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ขณะที่บริษัทย่อยสปริงนิวส์ แนวโน้มรายได้จากการขายโฆษณาปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 8-9 ล้านบาทต่อเดือน จากในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน ผลประกอบการของบริษัทน่าจะพลิกกลับทำเป็นกำไรได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 55 เนื่องจากทั้ง SLC และ สปริงส์นิวส์ มีแนวโน้มการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี มีโอกาสรับรู้รายได้จากงานโครงการใหม่ๆของภาครัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก ส่วนสปริงส์นิวส์เองก็จะมีรายได้จากการโฆษณา และการทำกิจกรรมเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการผลิตรายการ และต้นทุนในการบริหารโครงการต่างๆของ SLC มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง นายอารักษ์ กล่าว hooninside.com
โดย
longterminvest
เสาร์ ม.ค. 07, 2012 5:08 pm
0
0
Re: SLC จะ Turn around ได้หรือไม่?????????
กรุ่งเทพธุรกิจ สองคีย์แมน ‘อารักษ์-ธนพันธ์’ ‘SLC’ ดงเสือนักเก็งกำไร ปริศนา! เพิ่มทุนจาก 50 ล้านบาท เป็น 325 ล้านบาท ตั้งเป้าธุรกิจเติบโตในชั่วข้ามคืน แผนโตทางลัด ‘โซลูชั่น คอนเนอร์’ ไม่ธรรมดา อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) วัย 46 ปี อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) การรถไฟแห่งประเทศไทย แทคทีมกับเด็กหนุ่มวัย 26 ปี ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี กรรมการอำนวย การ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) ผู้เป็น “ถุงเงินปริศนา” ทายาทเจ้าของบริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด “ดิเรก วงศ์ชินศรี” มีข้อสงสัยเกิดขึ้นนับตั้งแต่การเพิ่มทุนแบบก้าวกระโดดจาก 50 ล้านบาท เป็น 325 ล้านบาท ด้วยวิธีการอันซับซ้อนโดยออกใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิ ได้ (SLC-T1) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมได้ SLC-T1 จำนวน 5 หน่วย โดย 1 หน่วยสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคา 0.40 บาท อายุของ SLC-T1 สั้นเพียง 60 วัน (ใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2553) นอกจากนี้ มีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (SLC-W1) 250 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมได้วอร์แรนท์ 1 หน่วยสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคา 0.40 บาท อายุ 5 ปี (หมดอายุวันที่ 16 พฤษภาคม 2558)การเพิ่มทุนดังกล่าวของ SLC เพื่อรองรับ SLC-T1 และ SLC-W1 มีจำนวนสูงถึง 5.5 เท่าของทุนชำระแล้วก่อนเพิ่มทุน ทั้งวิธีการและเงื่อนไขการเข้ามาของกลุ่มวงศ์ชินศรี ตลาดหลักทรัพย์ต้องสั่งให้ชี้แจงถี่ยิบ การเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมกลุ่ม นิทัศน์ มณีศิลาสันต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ SLC ได้ขายหุ้น 65.30% ให้กลุ่มธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท หลังจากนั้นก็มีการเข้ามาของกลุ่มนักเก็งกำไรยาวเป็นหางว่าว พร้อมกับข่าวลือว่า ฉาย บุนนาค เซียนหุ้นชื่อดังมีฐานะเป็น “ญาติ” กับตระกูลวงศ์ชินศรี และเกี่ยวข้องกับดีลนี้ ไม่เพียงการเพิ่มทุนจะมโหฬารเท่านั้น ผู้ถือหุ้นกลุ่มวงศ์ชินศรี ยังต้องการมูฟตัวเองจากธุรกิจ “ซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ธุรกิจใหม่ เป้าหมายต้องการระดมทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท นำไปลงทุนในธุรกิจใหม่หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือธุรกิจ New Medias ทั้งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และซื้อหนังสือพิมพ์ “ฐานเศรษฐกิจ” จาก “มด” จะแปลงร่างเป็น “ช้าง” ภาพปริศนาต่างๆ หลายคนจึงไม่มั่นใจว่าจะเป็น “ของจริง” ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มทดลองออกอากาศสถานี สปริง นิวส์ (Spring News) ผ่านระบบเคยู-แบนด์ มาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2553 บางกระแสระบุว่าเป็นการจับมือกันระหว่างทีมของ “ไอเอ็นซี” (ฉัตรชัย ตะวันธรงค์) กับ โฆสิต สุวินิจจิต อดีตผู้ก่อตั้งมีเดีย ออฟ มีเดียส์ สำหรับข้อสงสัยมีความเกี่ยวดองเป็นญาติกับ ฉาย บุนนาค เซียนหุ้นคนดัง ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ชี้แจงว่า ที่จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องที่ห่างกันมากๆ เคยเจอกันเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ขอรับรองว่าไม่ได้เป็นนอมินีของฉายแน่นอน อดีตพนักงานขายฝ่ายเทคนิค บริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด หนุ่มน้อยวัย 26 ปี เหตุไฉนมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ SLC ได้ ธนพันธ์ เล่าว่า บริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด เป็นธุรกิจของครอบครัว ดำเนินกิจการจำหน่ายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทั้งหมด 13 ประเภท มีมูลค่าธุรกิจประมาณ 700-800 ล้านบาท แรกเริ่มบริษัทถูกชักชวนจากตลาดหลักทรัพย์ให้เข้าตลาดหุ้น (mai) ตั้งนานแล้ว แต่สุดท้ายเลือกเข้ามาถือหุ้น SLC แทนเพราะน่าจะช่วยเสริมเรื่องระบบซอฟต์แวร์เข้ากับฮาร์ดแวร์ได้ “ผมมองว่าสองบริษัทน่าจะ Synergy กันได้ ตอนแรกก็คิดที่จะ Backdoor เหมือนกันแต่เรามีผู้ถือหุ้นหลายคนทำให้ความเห็นไม่ลงตัว ถึงตอนนี้คิดว่าคงไม่นำบริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส เข้าตลาดหุ้นแล้ว” สำหรับ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) แผนงานในส่วนของธุรกิจซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ จะขยายไปหากลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่และรายเล็กจากเดิมเน้นจับลูกค้าขนาดกลาง คาดว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าได้อีกมากและมีมาร์จินมากขึ้น ปกติบริษัทจะรับงานประมูลจากราชการ 70% และเอกชน 30% ตอนนี้มีงานรอรับรู้รายได้ 60-70 ล้านบาทแล้ว คาดว่าจะมีงานประมูลใหม่มูลค่า 800-900 ล้านบาท บริษัทคาดหวังว่าจะประมูลได้ 80-90% และจะเน้นงานด้านพัฒนาบุคคล (HRM) ที่ถนัด ส่วนงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ 200 ล้านบาท จะนำไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมส่วนใหญ่มาจากเงินเพิ่มทุน “เราคาดหวังว่าปีนี้ บริษัทจะไม่ขาดทุน ส่วนเรื่องกำไรคงทำได้แค่ถึงจุดคุ้มทุน แต่ในแง่รายได้น่าจะโตได้ 20% (ปี 2552 มีรายได้รวม 46 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 28 ล้านบาท)” ธนพันธ์ ยังบอกด้วยว่า การซื้อหุ้นเพิ่มทุนของกลุ่มวงศ์ชินศรี (ถือหุ้นอยู่ 16%) ถึงตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกเท่าไรขอรอดูสถานการณ์ก่อน ส่วนแผนการขยายธุรกิจนิวมีเดียด้วยการจัดตั้งบริษัท สปริงก์ คอร์ปอเรชั่น เพื่อทำสถานีข่าวในชื่อ Spring News ที่มีข่าวลือว่ามีอดีตนักการเมืองใหญ่หนุนหลัง อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง…ชีวิตนี้ผมไม่คิดคบนักการเมืองอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าพี่ซัน (ฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการผู้จัดการ) เขาอาจจะรู้จัก แต่ผมไม่รู้จัก สำหรับธุรกิจใหม่นี้ตั้งเป้าขอมีสปอนเซอร์ 10-20 ราย รายได้โฆษณาเข้าเดือนละ 5-6 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกับธุรกิจนิวมีเดีย 300 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 50-60 ล้านบาท ธุรกิจทีวีดาวเทียม 2 ปีแรกไม่หวังเรื่องกำไร น่าจะคุ้มทุนในปีที่ 3 คาดหวังผลตอบแทนการลงทุนไว้ที่ 15% สำหรับแผนการซื้อหัวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ อารักษ์ บอกว่า ดีลน่าจะจบได้ในไตรมาสสามปีนี้ มีข้อตกลงว่าจะไม่รับซื้อส่วนที่เป็นหนี้สิน เรื่องของเงินที่ต้องใช้ยังไม่สามารถระบุได้ แม้จะยอมรับว่าเป็นการลงทุนที่ “เกินขนาด” แต่น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับธุรกิจทีวีดาวเทียมได้ลงตัว เขาบอกว่าหลังการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น บริษัทได้กวาดบ้านครั้งใหญ่ทั้งผู้บริหารและบอร์ดบริหารมีผู้เชี่ยวชาญหลาก หลายเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ถามว่าอนาคตของ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จะเป็นอย่างไร ซีอีโอรายนี้ตอบว่า ทิศทางรายได้ในปีนี้น่าจะ “ดีขึ้น” กว่าปีที่แล้วที่ขาดทุน 28 ล้านบาท ตรงนี้แน่นอน ส่วนเม็ดเงินจากการออก SLC-T1 จะเรียกชำระเงินในสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนมิถุนายน และหุ้นจะเข้าเทรดในไม่เกินเดือนกรกฎาคม ส่วนเรื่องที่มีการแก้ไขราคาพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท โดยไม่แจ้งวาระล่วงหน้า อารักษ์ ชี้แจงว่ามีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งถือหุ้นในระดับที่มีสิทธิเสนอวาระเพิ่มเติม ได้ เสนอให้แตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องซึ่งผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่อนุมัติ บริษัทมองว่าไม่มีผลต่อผลประกอบการ ส่วนรูปร่างหน้าตาของบริษัทหลังจากนี้ สัดส่วนรายได้ปี 2553 น่าจะมาจากธุรกิจซอฟต์แวร์ 70% และธุรกิจดาวเทียม 30% ส่วนรายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์จะตามมาทีหลังในปี 2554 เป้าระยะสั้นในภาวะแบบนี้ขอไม่ขาดทุนก็ดีใจแล้ว ส่วนแนวโน้มในอนาคตมั่นใจว่าเป็น “ขาขึ้น” แน่นอน “ผมยืนยันได้ว่กลุ่มวงศ์ชินศรี เขาเข้ามาลงทุนหุ้น SLC ระยะยาว” อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) ให้ความเชื่อมั่น โดยมี ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ผู้ถือหุ้นใหญ่วัย 26 ปี นั่งอยู่เคียงข้าง ท่ามกลาง “เสือ-สิงห์” ที่เข้ามาจับจองหุ้น SLC เอาไว้แล้วก่อนหน้านี้
โดย
longterminvest
เสาร์ ม.ค. 07, 2012 5:05 pm
0
0
Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$
TSF, SLC, EPCO ปีนี้จะ SUPER TURN AROUND มากๆ อันนี้ผมหลังไมค์ได้มาจากคุณ ultra เทพของ TFD น่ะครับ
โดย
longterminvest
เสาร์ ม.ค. 07, 2012 4:58 pm
0
0
Re: $$ รวมหุ้น Turnaround $$
TFD อสังหาริมทรัพย์รอการขาย 1,098.78 http://www.set.or.th/set/companyfinance ... country=TH คอนโดสามแห่่งลุ้นโอนให้ได้สักครึ่งเดียวก็กำไรโตระเบิดแล้วครับ สำหรับไตรมาสสี่ สุดยอดครับ คนที่เก่งและแม่นแบบนี้ มักจะมาไม่นานแล้วก็หายไปเลย ก็คงคิดว่าเล่นเงียบๆรวยเองคนเดียวดีกว่า ขอบคุณมากครับ ผมซื้อตัวนี้ตอน 1 bht นิดๆ เพราะคุณแท้ๆเลย
โดย
longterminvest
เสาร์ ม.ค. 07, 2012 4:57 pm
0
0
Re: ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่ม
อสังหาริมทรัพย์ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 07:25แสนสิริชี้พัทยา-หัวหินบูม'หนีน้ำท่วม' โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ แสนสิริ"ระบุน้ำท่วมหนุนตลาดคอนโดพรีเมียมบูมต่อเนื่อง พัทยา-หัวหิน-กรุงเทพฯ ดีมานด์พุ่งพรวด ลูกค้าเล็งซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุทกภัยร้ายแรงในครั้งนี้จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลท่องเที่ยวอย่างพัทยา หัวหิน มีความต้องการซื้อสูง สะท้อนได้จากช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีความต้องการซื้อเกิดขึ้นมากอย่างผิดปกติในย่านดังกล่าว ซึ่งทั้งพัทยา หัวหิน รวมไปถึงเขาใหญ่ ถือเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ยังสามารถพัฒนาและขยายตัวได้อีก คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคาที่ดินสูงขึ้น แต่มากน้อยต้องพิจารณาอีกครั้ง ขณะที่ เขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยจะหลีกเลี่ยงโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ในทำเลน้ำท่วมอย่างแน่นอน โดยจำนวนผู้เข้าชมโครงการในทำเลที่น้ำไม่ท่วม เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 30 ราย เป็น 40-50 ราย "พัทยา หัวหิน แต่เดิมเป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อสูงอยู่แล้ว แต่ในช่วงน้ำท่วม ดีมานด์ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น มีลูกค้าติดต่อซื้อโครงการที่ขายหมดแล้วของบริษัทในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก มองว่าในอนาคตน่าจะมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นไปอีก" นายอุทัยกล่าว ในทางเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการมีแนวโน้มไม่เข้าไปลงทุนหรือพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลน้ำท่วม ยกเว้นโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า แม้จะเผชิญปัญหาน้ำท่วมแต่ยังถือเป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก นายอุทัย กล่าวต่อไปว่า แนวทางตลาดคอนโดมิเนียมในอนาคต ผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการระดับพรีเมียม รองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนที่เชื่อว่าจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังที่ 2 มากขึ้น รองรับภาวะฉุกเฉินที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นอกจากนี้รูปแบบการอยู่อาศัย ของครอบครัวคนรุ่นใหม่ จะนิยมคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้น มี 2-3 ห้องนอน รองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายในด้านพื้นที่ ล่าสุด แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่ "ควอทโทร บาย แสนสิริ ทองหล่อ ซอย 4" ขนาด 49.5-295.5 ตร.ม. มี 1-3 ห้องนอน พร้อมให้บริการแอพพลิเคชั่น ควอทโทร เอ็กคลูซีฟ เซอร์วิส เว็บไซต์ และระบบปฏิบัติของสมาร์ทโฟนทุกระบบ อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งด้านระบบการจองรถรับ-ส่งสถานที่ใกล้เคียง การเรียกพนักงานทำความสะอาด การเรียกพ่อบ้าน การแจ้งเตือนจดหมาย เป็นต้น http:///s7QrfY
โดย
longterminvest
พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 7:51 am
0
0
Re: ไม่แปลกใจที่ SPALI/RAIMON วิ่งแซง เมื่อเทียบกับทั้งกลุ่ม
อสังหาเจอศึกหนัก ปัญหาการเมืองร้อน ลูกค้าต่างชาติกระเจิง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2555 ผจญความเสี่ยงสูง ทั้งปัญหาการเมือง น้ำท่วม ดอกเบี้ยสูง ราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้างแพง บ้านเดี่ยวตกที่นั่งลำบาก ผู้บริโภคขยาดน้ำท่วมเบนเข็มซื้อคอนโดมิเนียม นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ว่ามีปัจจัยเสี่ยงสูงในการลงทุนโดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนด้านการเมือง และอัตราดอกเบี้ยรวมถึงการขยับขึ้นของราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปัญหาการเมืองเป็นตัวลดความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศของกลุ่มต่างชาติ ลงไปมากสิ่งที่ต้องระวัง คือ ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองอย่างไร ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมก็ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนลงไปมากเช่นกัน สังเกตได้จาก ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หลายบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดขายหายไปกว่า 50% รวมถึงยอดโอนด้วย ส่วนของบริษัทเองช่วงเวลาดังกล่าวยอดขายหายไป 20-50% จากเดิมที่แต่ละเดือนบริษัทจะมียอดขาย 500 ล้านบาท/เดือน เหลือเพียง 200 ล้านบาท/เดือน จากสภาพปัจจัยแปรปรวนที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าตนมองว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวเพราะผู้บริโภคหันไปสนใจกลุ่มคอนโดมิเนียมเนื่องจากความไม่มั่นใจจากน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ขณะที่สุขุมวิท ยังคงครองแชมป์ทำเลที่ผู้ประกอบการมีความต้องการสูงสุด โดยเฉพาะย่านเพลินจิต เอกมัย ทำให้มีการปรับราคาขึ้น10-15% http://naewna.com/news.asp?ID=293076
โดย
longterminvest
พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 7:49 am
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
longterminvest
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 1:01 pm
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ ม.ค. 16, 2012 2:17 pm
โพสต์ทั้งหมด:
39 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว