หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
magicbank
Joined: พุธ ก.ย. 21, 2011 11:18 pm
26
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - magicbank
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: เฮ้อ มัวแต่ต่อราคา
หุ้นดีๆทั้งนั้น ของดีมักไม่ค่อยยอมลดราคา :mrgreen:
โดย
magicbank
พุธ มิ.ย. 25, 2014 9:39 am
0
0
Re: แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
[email protected]
ขอบคุณมากครับ
โดย
magicbank
พฤหัสฯ. ก.ย. 27, 2012 9:37 am
0
0
Re: เรื่องของ MOS ของผม
เอาง่ายๆสำหรับคนที่ไม่ถนัดหาราคาในอนาคต ก็ยังมีวิธีได้ Mos มาอีกวิธี คือเข้าลงทุนเมื่อกิจการประสบปัญหาชั่วคราว เชื่อว่าทุกคนคงมีหุ้นที่วิเคราะไว้แล้วว่าพื้นฐานดีน่าลงทุนแต่แพงเกินไปอยู่จำนวนนึงในใจ เพียงแต่ต้องรอจังหวะในการลงทุนที่ดีเท่านั้น ผมว่าไม่เป็นปัญหานักเพราะนักลงทุนในนี้ส่วนมากถือหุ้นตัวนึงยาวเป็นปีๆอยู่แล้ว และเชื่อว่าเกือบทุกปีย่อมมีจังหวะที่ดีเกิดกับหุ้นคุณภาพสูงๆอยู่บ้าง ปีที่แล้วผมก็ได้มาตัวนึง มองที่คุณภาพอาจจะถือได้ 6-7 ปีด้วยซ้ำ เชื่อเถอะว่าคุ้มแก่การรอคอย แต่สำคัญคือ ต้องเป็นกิจการที่ประสบปัญหา"ชั่วคราว"จริงๆเท่านั้น
โดย
magicbank
จันทร์ มี.ค. 26, 2012 10:37 am
0
1
Re: การ post เพื่อแลกปลี่ยนข้อมูล ความเห็น
เห็นด้วยครับ บางทีผมก็เกิดความคิดแย้งบ้าง แต่เห็นคนส่วนใหญ่เขามองว่าดีกัน เลยไม่ค่อยมั่นใจที่จะโพส (แต่ส่วนมากผมชอบเข้ามาอ่านมากกว่า) จริงๆถ้าเราถือหุ้นตัวไหนอยู่ควรรับฟังข้อมูลทางลบมากกว่าทางบวกนะครับ ถ้าไม่เปิดใจซะบ้าง บางทีพื้นฐานเปลี่ยนไปเราก็อาจจะมองข้ามมันไปก็ได้ ส่วนคนที่โพสเชิงลบเองก็ต้องมีเหตุมีผล มีข้อมูลที่เชื่อได้ครับ ไม่งั้นก็เหมือนกับมากล่าวหากันลอยๆ...ไม่ถูกต้อง
โดย
magicbank
พุธ มี.ค. 21, 2012 6:33 pm
0
4
Re: อยากทราบความรู้สึกสมัย 200 จุดครับ
กระทู้เช็คอายุ :D ดีนะครับที่ตอนนั้นผมยังไม่เกิด :mrgreen:
โดย
magicbank
เสาร์ มี.ค. 17, 2012 9:23 pm
0
0
Re: คิดว่าการลงทุนแนว VI ในอนาคตจะเป็นอย่างไร
เหมือนสมัยปี 1934 ที่ ben graham เขียนหนังสือ security analysis :mrgreen: ผมว่า จขกท ควรเริ่มจากการเป็น VI ที่มี"ความคิดที่เป็นอิสระ" ก่อนครับ ห่วงนู่นนั่นนี่ คนโน้นคนนี้ มันจะเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจที่หลุดจาก framework ของการเป็น VI น่ะครับ IMHO ขอบคุณครับ พอดีแค่ลองคิดเล่นๆดูว่า ถ้าวันนึงคนส่วนใหญ่ในตลาดใช้แนวคิดที่คล้ายๆกันในการลงทุน(ถ้าเป็นไปได้) จะทำให้ตลาดปรับตัวในลักษณะไหน คนอื่นคิดว่ายังไงกันบ้างครับ
โดย
magicbank
เสาร์ มี.ค. 17, 2012 6:56 pm
0
1
Re: สองร้านอาหารราคาพอกันเลย เลือกอะไรดีครับ วิเคราะห์กันหน่
ผมมองว่าถ้าให้เลือกลงทุนผมคงเลือก S&P (แต่จริงๆผมไม่มีหุ้นนะ) ผมให้คะแนนที่ความ "คลาสสิค"ครับ งงใช่มั้ยครับ อะไรคือความคลาสสิค ในแง่ธุรกิจผมมองว่า S&P เขาขายอาหารที่เน้นอาหารเป็นจริงๆ ไม่ได้ขายความแปลกใหม่ คิดถึงเรื่องวัตถุดิบ/รสชาติ ในราคาที่เหมาะสม สำคัญกว่าความทันสมัยในการเลือกของกระแสบริโภค ซึ่งผมว่าเป็นจุดแข็งที่ดี OISHI มักจะต้องออกผลิตภัณใหม่ๆมาเสมอเพื่อให้ดู"ทันสมัย" ซึ่งนั่นเป็นจุดที่เข้าพยายามแสดงออกมาผ่านผลิตภัณใหม่ๆทำให้ต้องลงทุนใหม่ๆเสมอทั้งด้านคิดค้นจนถึงการโฆษณา เช่นชาใหม่ๆ ทั้งหมดนี้ต้องจ่ายเพื่อการแข่งขัน เทียบกับ S&P ขายอาหารจาน ไส้กรอก แฮม เป็นอาหารคลาสสิคไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องโฆษณาอะไรมาก ในแง่การเงิน บริษัท S&P ถือว่าดีเยี่ยม รายได้โต กำไรต่อเนื่อง หนี้น้อย เงินสดมาก และกำไรยังถือว่าโตเร็ว ถ้ามองย้อนหลังห้าปียังโตปีละ 26% ทีเดียว อย่างไรก็ตามผมไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ ปัจจุบันดีใช่ว่าอนาคตจะดี หรือถ้าดีก็อาจจะแพงเกินไป คุณต้องตัดสินใจเองครับ :)
โดย
magicbank
เสาร์ มี.ค. 17, 2012 12:58 pm
0
3
Re: คิดไงถ้าจะบรรจุ การลงทุน ให้นักเรียนตั้งแต่ประถมแบบจริงจ
น่าจะเสนอวิธีสอนกันนะครับ แล้วมาโหวต ว่าแบบไหนน่าจะได้ผลดีที่สุด ไม่แน่อนาคตอาจถูกเอาไปใช้ในหลักสูตรการสอนก็ได้ :D
โดย
magicbank
เสาร์ มี.ค. 17, 2012 11:23 am
0
0
Re: เงินต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่อง หุ้นถูกๆ น้อยลง
เราเดาตลาดไม่ได้หรอกครับ ตลาดอาจจะดีต่อเนื่องไปอีกเป็นปีๆก็ได้ หรือเปิดวันใหม่ตลาดอาจจะร่วงเลยก็ได้ ที่เราทำได้ก็แค่มองหาความคุ้มค่าในการลงทุนของเราเอง ถ้าหุ้นพื้นฐานดี ปัจจัยที่กระทบธุรกิจมีน้อย มองเห็นกำไรในอนาคตระยะยาว และจ่ายปันผลมากกว่าเงินฝาก ก็ยังคุ้มที่จะลงทุน ดีกว่าถือเงินไว้เฉยๆ กิจการที่กำไรโตทุกปีจ่ายปันผลเหมาะสมถึงตลาดจะติดลบไประยะยาวก็ฟื้นตัวได้เสมอ ช่วงเลวร้ายที่สุดคุณก็ได้ปันผลที่มากกว่าเงินฝากทุกปี ถ้ารอตลาดตกต่ำ หุ้นที่พื้นฐานดีราคาก็อาจจะไม่ลดก็ได้ ใครๆเขาก็รอซื้อกัน บางทีบริษัทก็ซื้อหุ้นคืนเอง ความถูกแพงน่าจะวัดที่ประสิทธิภาพหุ้นมากกว่าวัดที่ดัชนีตลาด ความเห็นส่วนตัวนะครับ
โดย
magicbank
เสาร์ มี.ค. 17, 2012 11:07 am
0
13
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
เรื่องทั้งหมดคือ ดร นิเวศน์ ซื้อ hmpro ตั้งแต่ปี 48 cpall ตั้งแต่ปี 51 คิดว่าที่เห็นตอนนี้สัดส่วนที่เป็นเงินต้นเท่าไหร่หรอคับ ท่านบอกเสมอให้ถือให้ยาวๆ ขายเมื่อมันไม่ดีแล้ว หรือเจอตัวที่ดีกว่า ซึ่งท่านทำตามที่พูดทั้งหมด ถ้าจะให้ขายเพราะกำไรมันดันเกินสัดส่วน 30% นี่มันดูไร้เหตุผลน่ะครับ สัดส่วนแค่ละคนไม่ตายตัวหรอครับท่านถือบอกว่า ถือตัวนึงไม่"ควร"เกิน 30% เพียงเพราะไม่อยากให้นักลงทุนที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอเสียหายจากตรงนี้ ท่านเองก็เคยเขียนไว้ว่านักลงทุนบางคนก็ทำตรงข้ามกับที่ตัวเองบอก อย่างกรณี วอเรน บัฟเฟต (ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) ว่านั่นขึ้นกับเค้ามีประสบการณ์ และรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนไม่มีอะไรตายตัว ต่างคนต่างมีกฏของตัวเอง คุณเชื่อตัวคุณเองได้เท่านั้น
โดย
magicbank
อาทิตย์ ก.พ. 26, 2012 3:37 pm
0
2
Re: ถามเรื่อง Market Cap. หน่อยครับ
คุณ rafael คงหมายถึงเรื่องการมอง ความเหมาะสมของหุ้นโดยพิจารณาจาก Market Cap ที่ ดร นิเวศ พูดไว้ในหนังสือตีแตก(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ประมาณว่าถ้าเราจะซื้อทั้งบริษัท จ่ายเงินเท่านี้แล้วเหมาะสมหรือไม่ เช่น จ่ายแสนล้านแล้วได้บริษัทผลิตไม้จิ้มฟัน มันก็ดูไม่เหมาะสม จึงควรพิจารณา ขณะที่มูลค่าหุ้นอยู่ในภาวะปรกติ คือไม่มีวอร์แลนท์มากระทบกับราคาขณะนั้น วิธีดูคงใช้ประสบการณ์ล้วนๆครับ คงประมาณว่าถ้าซื้อทั้งบริษัทแล้วเราจะได้สินทรัพย์ทั้งหมดเท่าไหร่ บริษัทมีค่าความนิยมแค่ไหน หักหนี้สินทั้งหมดแล้วคุ้มหรือไม่ อันนี้ความเห็นส่วนตัว ยังไงก็รอผู้รู้มาตอบอีกทีนะครับ
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 9:23 pm
0
0
Re: เปิดสอนวิชา "รวยง่ายๆจากหุ้น" (โดย pak ThaiVI)
เวลานั้นผมคงไปสถานปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิอยู่ที่ไหนซักแห่ง จิตใจจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน :wall:
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 8:38 pm
0
0
Re: ผมขอคำแนะนำในการตัดสินใจครับ
รถคันแรกจากเงินเดือนของผม คือจักรยานครับ แฮ่... ใช้ขี่ไปกลับ ระหว่างที่ทำงาน กับบ้านเช่า วันนึงๆ ก็ 14 กม. ครับ ช่วงนั้นออมเงินเดือนละ 500 บาท เงินเดือนเข้าเมื่อไหร่ รีบโยกเงินออกมาก่อนเลย 500 บาท ไม่งั้นไม่มีเงินเก็บ พอเงินเดือนขึ้น ก็ใช้จ่ายเท่าเดิมครับ แต่เพิ่มเงินเก็บเอา จากเดือนละ 500 เป็น 1,000 เป็น 2,000 , ... ขี่จนจักรยานพังครับ เปลี่ยนไป 2 คัน ผมก็เลิกขี่ เลิกเช่าบ้าน แล้วย้ายไปนอนที่ออฟฟิศแทน ประหยัดไปได้เยอะเลย ปล. ไม่ได้แนะนำอะไรครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ เหตุการณ์ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วครับ สุดยอดครับ ขอคารวะหนึ่งจอก :D
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 7:58 pm
0
0
Re: ลงทุนอย่างสบายใจ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณครับ :D ตัวผมเองอย่างน้อยต้องเช็คหุ้นวันละครั้ง มันทำใจไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่ได้รู้ว่าวันนี้เรากำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ทั้งๆที่นานๆจะซื้อจะขายที แสดงว่ายังห่างไกลนัก :wink:
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 7:33 pm
0
1
Re: (ยังไม่มีใครตั้ง) ผลตอบแทน 2554 เป็นอย่างไงกันบ้าง
ผลตอบแทนไม่บอก :oops: แต่ได้เป็นความรู้เยอะมากครับ โดยเฉพาะจากเวป ThaiVI :wink: ขอบคุณเวป ThaiVI และทุกๆคนที่เข้ามาแชร์ความรู้/ประสบการณ์นะครับ
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 6:34 pm
0
0
Re: ในชีวิตการเล่นหุ้น คุณเคยได้มาแล้วกี่เด้งครับ
เพิ่งได้เด้งแรกจาก SST ครับ SST ผมก็เพิ่งขึ้นเด้งที่สองไม่นานนี้เอง :)
โดย
magicbank
เสาร์ ก.พ. 25, 2012 2:56 pm
0
0
Re: เผย เทคนิคการหาหุ้น 10 เด้ง!!!
ขอบคุณมากครับ PS : ผมว่าบุคลิคเค้าก็คล้ายปู่บัฟเฟตนะ หรือถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนบุคลิคบ้างแล้ว :D
โดย
magicbank
อาทิตย์ ก.พ. 19, 2012 1:41 pm
0
0
Re: ผมขอสรุปเนื้อหาใน The New buffetology ฝากคุณธันวา
ผมมือใหม่นะครับขอถามว่า อัตราดอกเบี้ยน 18.35 % หาได้อย่างไรครับ ขอบคุณครับ หาได้จาก I = สแควลูท N ของ (FV/PV) N = 10 PV = 15.00 FV = 80.90 I = ? สแควลูท 10 ของ (80.90/15) = 1.1835 แปลงเป็นร้อยละได้ 18.35% เพิ่มเติมนิดหน่อยครับสำหรับให้มือใหม่เข้าใจง่าย (ผมก็มือใหม่ครับ) ข้างต้นเป็นการหาค่าที่คาดหวังในอนาคต (FV) นั่นก็คือใช้สูตร PV x (I^N) = FV โดยที่ N = จำนวนปี , I = อัตราเติบโตเป็น% (เวลาใช้ต้องแปลงให้เป็นทศนิยม) , PV = ค่าปัจจุบัน , FV = ค่าในอนาคต *หมายเหตุ PV/FV สามารถแทนราคาหุ้นหรือ EPS ก็ได้ตามที่เราอยากจะประมานการเติบโต แต่ถ้าเราหา EPS แล้วจะคิดเป็นราคาหุ้นให้ใช้ EPS คูณ PE ณ เวลานั้นๆ การคำนวณนี้จะใช้ได้ดีสำหรับธุรกิจที่เติบโตเรื่อยๆ การเติบโตเป็น % ค่อนข้างคงที่ และไม่เป็นธุรกิจที่เป็นวัฐจักร หรือต้องมองออกว่าไม่ใช่วัฐจักรขาลง แต่อย่างไรก็ตามการประมาณราคาหุ้น ก็มักคลาดเคลื่อนได้ง่าย เพราะค่า PE เป็นค่าที่ประมาณได้ยาก อิงกับปัจจัยหลายตัว การเพิ่มขึ้นของ PE ในอนาคตควรมองเปรียบกับค่าเฉลี่ยในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันด้วยว่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกแค่ไหน เนื่องจาก PE ส่วนนึงมาจากการให้น้ำหนักของนักลงทุนต่อกลุ่มธุรกิจนั้นๆ ที่สำคัญคำนึงไว้เสมอว่าอนาคตย่อมไม่มีอะไรแน่นอน
โดย
magicbank
อาทิตย์ ก.พ. 19, 2012 1:27 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
magicbank
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ ก.ย. 21, 2011 11:18 pm
ใช้งานล่าสุด:
เสาร์ พ.ค. 18, 2019 8:28 am
โพสต์ทั้งหมด:
26 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว