Re: จะทำงบการเงินส่วนบุคคล แต่สงสัยเรื่องค่าเสื่อมราคา เข้ามาช่วยตอบเท่าที่มีความรู้นะครับ 1. เมื่อซื้อสินทรัพย์ถาวรระหว่างปี ปีที่หนึ่งการคิดค่าเสื่อมราคาจะเป็นตามระยะเวลาใช้งาน ซื้อวันที่ 13 มิ.ย. ก็คิด 6 เดือนกับอีก 27 วัน ดังนั้นปีแรกมีค่าเสื่อมครับ และจะครบจำนวนปี ในวันที่ 13 มิ.ย. ของอีก 3 ปี (ถ้าตัด 3 ปี) 2. ปกติระยะเวลาในการตัดค่าเสื่อมราคาขึ้นอยู่กับการที่เราคาดว่าสินทรัพย์ถาวรดังกล่าวมี อายุการใช้งานกี่ปี แต่ส่วนใหญ่บริษัทในประเทศไทยมักจะใช้ฐานเดียวกับกรมสรรพากร เนื่องจากไม่อยากให้เกิดผลแตกต่างระหว่างทางบัญชีกับทางภาษี ซึ่งถ้าเป็น Notebook ปัจจุบันอนุญาตให้ตัด 3 ปี (ทั้งที่ความจริงเราอาจใช้แค่ 2 ปีหรือมากกว่านั้น) ส่วนในกรณีรถยนต์ก็เช่นเดียวกันครับทางสรรพากรให้ใช้ 5 ปี อันนี้ขึ้นอยู่กับจะทำบัญชีไปใช้งาน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ถ้าใช้เพื่อดูเอง แนะนำให้เอาตามที่เราคาดว่าจะใช้งานเลย ส่วนถ้าต้อง ทำส่งภาษีด้วยแนะนำให้ใช้ตามสรรพากร เพื่อลดความสับสน 3. คำถามสุดท้ายเลยมูลค่าซาก ตามปกติมักจะใช้กับสินทรัพย์ที่เมื่อครบอายุการใช้งานแล้วมีมูลค่า ซากเหลือเยอะ ถ้าเป็นพวกอุปกรณ์เล็กน้อยปกติใช้บาทเดียวไปเลยครับ ไม่ต้องเสียเวลาหา แต่ถ้าอยากกำหนด แนะนำให้ใช้ข้อมูลอดีตที่ผ่านมาเช่น Notebook เมื่อใช้งานครบ 3 ปี เราจะซื้อเครื่องใหม่ แล้วเครื่องเก่าเราเอา ไปขายต่อคิดว่าได้กี่บาท ก็ใช้ตามนั้น แต่ยังคงแนะนำว่าถ้าไม่เยอะ บาทเดียวเถอะครับ โดย aody พุธ มิ.ย. 13, 2012 3:07 pm

Re: CEO ไทย ท่านไหนเก่งกว่าหรือพอๆ กับ Steve Jobs บ้างครับ? เก่งพอๆ หรือเก่งกว่า ส่วนตัวผมว่าไม่มีนะครับ Standard สูงไปหน่อย โดย aody พฤหัสฯ. ส.ค. 25, 2011 5:27 pm

Re: บริษัทจดทะเบียน กับบริษัทจำกัดต่างกันอย่างไรครับ เข้าใจว่าจะถามว่าบริษัทจำกัด กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใช่มั้ยครับ บริษัทจำกัดจัดตั้งขึ้นตามกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งมีข้อกำหนดหลายๆประการที่แตกต่าง จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งถ้าจะจดทะเบียนต้องจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชน ตามพรบ. บริษัทมหาชน และเมื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed) ต้องปฏิบัติตาม พรบ. หลักทรัพย์อีก ข้อแตกต่างเยอะมากๆ เหมือนมีหนังสือสรุปนะ ต้องไปหาก่อน โดย aody พุธ มิ.ย. 29, 2011 12:00 pm

Re: LIFO-FIFO กับประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อ !? จากมาตรฐานบัญชีที่ประกาศใหม่ตาม IFRS ยกเลิกแบบ LIFO แล้วนะครับ ดังนั้นไม่ควรมีบริษัทใช้วิธีต้นทุนแบบ LIFO แล้ว โดย aody พุธ มิ.ย. 29, 2011 11:52 am

Re: มือใหม่ครับ ถามว่าหุ้นจะขึ้นได้ไงครับถ้าไม่มีคนสนใจ ผมเชื่อในทฤษฎีของ Econ ว่าในภาระการแข่งขันสมบูรณ์ จุดดุลยภาพจะเป็นจุดที่ Demand กับ Supply มาเจอกัน หาก ณ ขณะใดขณะหนึ่งมันไม่ได้อยู่ที่ดุลยภาพ มันจะเข้าสู่ดุลยภาพเอง ดังนั้นหากเจอหุ้นตัวใดไม่อยู่ในดุลยภาพ ก็จงเชื่อว่ามันจะเคลื่อนตัวเข้าหาดุลยภาพเอง (ถ้าเจอแล้วมั่นใจ ผมเชื่อว่ามันจะขึ้นครับ) โดย aody พุธ มิ.ย. 29, 2011 11:32 am

Re: งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ คืออะไร เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมาตราฐานในการนำเสนองบการเงินแบบใหม่ ให้เป็นไปตาม IFRS มาตราฐานสากล ให้ง่ายให้ดูกำไรสุทธิจะเท่ากับ PL เดิม ส่วนกำไรเบ็ดเสร็จจะเป็นผลกระทบที่เกิดใน Equity เช่น กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นใน เงินลงทุนเผื่อขาย ขึ้นอยู่กับการคำนวณ PE จะคำนึงถึงส่วนดังกล่าวด้วยรึเปล่า ไม่รู้ช่วยรึเปล่า หรือว่างงกว่าเดิม โดย aody ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 11:46 am

Re: หุ้นพื้นฐานดีแต่ราคาลงอย่างต่อเนื่อง? พื้นฐานทางการเงิน = ส่วนของเจ้าของ (NBV) ราคาหุ้น = ราคาที่คาดว่าจะได้รับคืนจากหุ้นนั้น = NBV + Future Cashflow in ดังนั้นหุ้นพื้นฐานดี หมายถึง NBV + Future Cashflow in รึเปล่า เพราะที่บอกว่าหุ้นพื้นฐานดี เช่น EGCO ราคาอาจจะขึ้นลงด้วยส่วนของ Future Casflow in ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่ตลาดหุ้นก็แปลก บางบริษัทราคาหุ้นต่ำกว่า NBV อีก ดังนั้นว่ากันด้วยทฤษฏี เราก็ไปซื้อมาให้หมดให้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แล้วก็ปิดบริษัท เราก็จะได้เงินคืนมากกว่าเงินลงทุน โดย aody พุธ มี.ค. 23, 2011 4:18 pm

Re: ถามเรื่องรายงานผู้ตรวจสอบบัญชี เข้ามาช่วยอธิบาย ในฐานะที่อดีตเคยอยู่ในวงการสอบบัญชี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ รายงานสอบทานกับรายงานตรวจสอบ การสอบทาน (Review) หลักๆ จะใช้วิธีการสอบถามดูผลแตกต่างที่เป็นสาระสำคัญ หรือที่เรียกกัน ว่าการทำการวิเคราะห์ (Analytical Review) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำการตรวจสอบอะไรเลย ปกติผู้สอบบัญชีจะทำการสอบทานในส่วนที่เป็นสาระสำคัญด้วย ไม่ว่าจะเป็น การตั้งสำรองต่างๆ การรับรู้รายได้ รวมไปถึงประมาณการค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนั้นสำหรับงบไตรมาสที่เป็นสอบทาน ในความเห็นผมว่ามันเชื่อถือได้ ในระดับหนึ่ง ซึ่งเพียงพอต่อการตัดสินใจ (ในความคิดผม) ส่วนการตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีถูกกำหนดตามมาตรฐานสอบบัญชีอยู่แล้วในการตรวจสอบซึ่งย่อมน่าเชื่อถือได้ มากกว่าสอบทานอยู่แล้ว แต่ที่อยากจะบอกคือ ผู้สอบบัญชีมิได้ทำการตรวจสอบทุกรายการ หรือดูเอกสารทุกฉบับ โดยวิธีการปกติที่ทำกันจะใช้ที่เรียกว่า Risk Base คือตรงไหน Risk สูงก็ตรวจเยอะ (รวมถึงความสาระสำคัญด้วย) นอกจากนี้ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการดูงบการเงินคือ การทุจริตจากฝ่ายบริหาร (รวมถึงการแต่งตัวเลข) ซึ่งใน ความเห็นผม ผมว่าตรงจุดนี้ผู้สอบบัญชีก็ยากที่จะ Cover ได้ โดย aody อังคาร มี.ค. 22, 2011 2:57 pm