Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ทำไมถึงนึกถึงกระทู้นี้ตลอดเวลามีข่าวว่าหุ้นร่วง โดย KittipongS อังคาร ก.พ. 06, 2018 12:45 pm

Re: หุ้นลงมารอบนี้ เป็นร้อยจุด ผมนึกถึงกระทู้นี้เลย ในวันที่ SET - 70 จุด http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55869 โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 12, 2016 10:13 pm

Re: สถานการณ์ ตอนนึ้ คุณ กล้า หรือ กลัว ครับ หลายปีมานี้ เลิกดูพอร์ตมานานแล้วล่ะครับ นาน ๆ จะเข้าไปเช็คที แล้วคิดว่าคงเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน ... จนกว่า "ความสุขที่แท้จริง" จะถูกคืนมาให้เรา ตอนนี้หันไปทำธุรกิจจริงมากกว่า เหมือนผมเลยครับ ตอนนี้เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว และทำงานตามปรกติไปด้วยครับ ส่วนพอร์ตนั้น3-4 เดือนดูทีครับ โดย KittipongS เสาร์ ธ.ค. 05, 2015 4:53 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด เรียนท่านกุนซือและท่านแม่ทัพ ตอนนี้ข้าศึกฝ่าด่าน 1500 มาได้แล้วขอรับ โดย KittipongS ศุกร์ มี.ค. 27, 2015 12:29 pm

Re: Meeting VI เชียงใหม่ ครั้งที่ 19 แจ้งข่าวด่วนครับ ทางชมรม ขอแจ้งเลื่อนกำหนดการเดิมจาก วันที่ 19 ต.ค.57 เป็น 2 พ.ย.57 ครับเนื่องจากวิทยากร ติดธุระด่วน ครับ จริง เรียนมาเพื่อโปรดทราบครับ :oops: ขอบคุณครับ ผมบินกลับไปทำงานพอดี มีโอกาศคงได้ร่วมมิทติ้งครับ โดย KittipongS อังคาร ก.ย. 23, 2014 12:31 pm

Re: Meeting VI เชียงใหม่ ครั้งที่ 19 จอง 1 ที่ครับ ขอบคุณครับ โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 22, 2014 1:47 pm

Re: ปู่บัฟฟ์ ซื้อ Exxon Mobil !! Berkshire Said to Reduce Its Energy Future Bond Stake Warren Buffett’s Berkshire Hathaway Inc. reduced its holdings of Energy Future Holdings Corp. debt by a third after the Texas power provider made an interest payment and staved off a bankruptcy filing, according to a person with knowledge of the transaction. Berkshire sold about $615 million of its $1.8 billion in face value of Texas Competitive Electric Holdings Co.’s senior unsecured notes this month, said the person, who asked not to be identified because the transaction was private. The Omaha, Nebraska-based company had taken more than $1.9 billion in writedowns from 2010 through the third quarter of this year, “substantially all” of which was related to Texas Competitive bonds, according to regulatory filings on its website. Texas Competitive’s $1.83 billion of 10.25 percent bonds due November 2015, which paid a coupon on Nov. 1, traded at 9.125 cents on the dollar on Nov. 8, the highest level since July, from 1.87 cents on Sept. 25, according to Trace, the bond-price reporting system of the Financial Industry Regulatory Authority. The debt traded at 7.125 cents on Nov. 22. Buffett, chairman and chief executive officer, didn’t immediately return a message left with an assistant seeking comment. Adam McGill, a spokesman for the Dallas-based electricity generator, declined to comment. Energy Future’s most senior lenders, who lost their claim to $270 million that the company paid out in interest Nov. 1, are poised to cede more cash as it prepares to make about $390 million in additional payments to other debtors through March, according to data compiled by Bloomberg. Auditors may then raise doubts about its ability to remain a going concern, which would trigger a default, according to debt researcher CreditSights Inc. ‘Good Trade’ “If you told me somebody’s getting 7, 9 cents on the dollar for senior unsecureds, to me that’s a good trade,” Peter Thornton, an analyst at Montpelier, Vermont-based research firm KDP Investment Advisors Inc., said in a telephone interview. KKR & Co., Goldman Sachs Capital Partners and TPG Capital took the former TXU Corp. private in 2007 in a record $48 billion leveraged buyout, an investment predicated on rising natural gas prices. Instead, prices fell as the development of hydraulic fracturing created a surge in U.S. gas supplies, triggering 10 straight quarterly losses at the company since 2011. Buffett described his $2 billion investment in Energy Future bonds as “a big mistake” in his annual letter to shareholders in February 2012. Berkshire wrote down its investment in Energy Future by $390 million in 2011, following a $1 billion impairment in 2010, Buffett said in the letter. Source: http://www.bloomberg.com/news/2013-11-25/berkshire-said-to-cut-berkshire-s-energy-future-bond-bet.html โดย KittipongS อังคาร พ.ย. 26, 2013 1:22 pm

Re: สอบถามเกี่ยวกับหุ้นช่วงนี้ครับ รู้สึกถึงนักล่ากำลังเฝ้ามองเหยื่อด้วยความอดทน เมื่อไหร่ที่เหยื่อเหนื่อยล้า อ่อนแรง หรือแม้กระทั่งงีบหลับ คงโดนจู่โจมทันที โดย KittipongS อังคาร พ.ย. 26, 2013 12:27 pm

Re: ทำงานไปลงทุนไป/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ขอบคุณ ดร. นิเวศน์มากครับ ที่ทำให้ผมมีความเข้าใจมากขึ้นทั้งในเรื่องการทำงานประจำและการลงทุน ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ โดย KittipongS อาทิตย์ พ.ย. 24, 2013 5:01 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ครึ่งเช้าวันนี้ลากกันลงมาถึง 32 จุดแล้ว เกือบครึ่งของ 70 จุดแล้วครับ :B :B :B โดย KittipongS จันทร์ พ.ย. 04, 2013 1:01 pm

Re: อายุ 35 ปี ฉันจะมีเงิน'หกพันล้าน'ฝันสูง 'วีไอรุ่นเด็ก' น การมีเป้าหมายหรือการมีความฝันนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ผมว่าความฝันหรือเป้าหมายนั้นควรจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่สามารถทำขึ้นได้จริง เพราะการตั้งเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกับความพื้นฐานความเป็นจริงจะเป็นการเพิ่มความกดดันให้กับเจ้าความฝันนั้นเสีย ถึงแม้จะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก้ออาจสูญเสียหลายสิ่งที่ต้องแลกเพื่อให้ถึงเป้าหมาย เพราะมัวแต่เพ็งให้ถึงเป้าหมายจนลืมสิ่งต่างๆรอบตัว ผมว่าแบบนี้ไม่คุ้มค่าแน่นอนครับ ผิดถูกยังไง ก้อต้องขอโทษด้วยครับ กับการแสดงความคิดเห็นกับความคิดเห็นที่เห็นต่างกัน โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 16, 2013 7:48 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด The Hunger game ครับ สงครามใกล้จบแล้ว จะออกหน้าไหนแค่นั้นเองครับ เราต้องเจอกับ สงครามแห่งความโลภ และ สงครามแห่งความกลัวสลับกันไป เหมือนการตีลูก ต่อไปจะเป็นทดสอบ โฟรแฮนด์ หลังจากทดสอบแบ๊คแฮนด์ ต่อไปนี้ วัดกันที่ความโลภล้วนๆครับ คนที่จะนั่งเก้าอี้ ประหาร คือ คนที่โลภที่สุด ในยามที่คนต้องควรกลัว สิ้นเดือนนี้ คงมีอะไรดีๆให้ดูครับ :mrgreen: :mrgreen: ข้าน้อยขอขอบคุณท่านกุนซือที่ชี้แนะ :B :B :B โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 09, 2013 8:34 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ อาจมีกระทู้ใหม่เป็น "ในวันที่ SET +70 จุด" หรือไม่ก็ "ในวันที่ SET -170 จุด" ก็ได้ครับ :B เห็นด้วยค่ะ แต่ขอเป็นในวันที่ SET + 170 จุดแล้วกันนะคะ :B อันการศึกครานี้จะไปในทิศทางใดนั้น ตัวข้าน้อยซึ่งมีความรู้ความสามารถอันน้อนนิด มิอาจคาดการสถาณการณ์ของศึกครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะ -170 จุด หรือ +70 จุด จึงอยากให้ท่านกุนซือแลท่านแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ช่วยออกมาไขข้อสงสัยของเหล่าข้าน้อยผู้อยู่ชายแดนด้วย จักเป็นพระคุณนักแล พลทหารเม่าจังกู โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 09, 2013 1:32 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ โดย KittipongS จันทร์ ก.ย. 09, 2013 12:45 pm

Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ ผมว่าการเอาชนะตลาด มันไม่ยากเท่ากับการเอาชนะจิตใจและอารมณ์(ความกลัว ความกังวล ความโลภ)ของตัวเองหรอกครับ ถ้าเหนื่อยนัก กลับไปฟังเพลงนี้ครับ “ความเชื่อ” ของ บอดี้สแลม :juju: :juju: :juju: โดย KittipongS พฤหัสฯ. ส.ค. 29, 2013 2:11 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด หลักการเดินช๊อบก้ ตามนี้ ครับ ถ้าลด20-30% ก้ซื้อน้อยหน่อย 40-50%ก้หยิบพอประมาณ ลดสัก80-90% ก้ซื้อเยอะหน่อย เหมือนเราได้ไปเทคโอเวอร์กิจการดีๆ ซึ่งถ้าเราไปลงทุนทำเองกว่าจะสร้างแบรนด์ได้ กว่าจะเอาเข้าตลาด กว่าจะติดตลาด สู้เราซื้อหุ้นแทน ก้เหมือนเป็นเจ้าของกิจการเหมือนกัน เราเป็นเจ้าของกิจการดีๆ เวลาไปไหนใครถามผมทำอะไร ผมก้บอกได้ว่า ผมเป็นเจ้าของกิจการนี้ๆ ถึงจะถือหุ้นน้อยกว่าเจ้าของแต่ผมก้เป็นเจ้าของคนนึงนะอย่าลืม หุ้นก้คือ หุ้นส่วน นั่นหมายถึง เราเป็นเจ้าของบริษัทที่เราถือหุ้น เราไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องมีลูกจ้าง นอนอยู่บ้านกระดิกตีน ออกไปเดินดูกิจการบ้าง เวลานี้โอกาศดีๆ ก้ลอยเข้ามา สำหรับคนที่มีเงิน ในมือ สามารถเลือกได้เลยว่า อยากจะ เป็นเจ้าของกิจการอะไรหล่ะ เยอะแยะ ในตลาดมี500-600ตัวเลือกๆเข้าไปเอาที่มัน ยอดขายเพิ่มทุกปี กำไรเพิ่มทุกปี เด๋วก้มีเงินปันผลมาให้เราเพิ่มทุกปี บริษัทมีชื่อเสียง พูดไปใครๆก้อ๋อ รู้จักๆ ขนาดใหญ่อันดับ1หรือ2ในอุตสาหกรรม พวกนี้ ลดราคามา มากๆ คนที่ขายออกมาก้ไม่ต่างจากการเทหมู เพราะคนที่เค้ามีเงิน เค้ารอซื้อ ลดมากก้ซื้อเยอะหน่อย ลดน้อยก้ต่อราคากันไป ถ้าอุกกาบาต ไม่ชนโลก ยังไงเสีย เด๋วราคามันก้กลับไปหาพื้นฐานของมัน stay clam stay invest ขอบคุณท่านกุนซือที่ชี้แนะ ข้าน้อยจะปฏิบัติตามคำชี้แนะของท่านกุนซืออย่างเคร่งคัด โดย KittipongS พุธ ส.ค. 21, 2013 1:07 pm

Re: ขอเชิญร่วมแสดงมุทิตาจิต แด่ ดร.นิเวศน์ 60 ปี ผ่านช่องทาง ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆครับ ถึงแม้จะไม่เคยเจออาจารย์เลยและไม่ได้คุยกันเป็นการส่วนตัว แต่อาจารย์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้ทั้งด้านการลงทุนและการใช้ชีวิตครับ ผมมีทัศนคติที่เกี่ยวกับการลงทุนเปลี่ยนไปและสามารถมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นมาได้ก็เพราะได้ติดตามอ่านหนังสือของอาจารย์นิเวศน์ครับ โดย KittipongS เสาร์ ส.ค. 17, 2013 1:53 pm

Re: ขอเงินภรรยามาลงทุนได้อย่างไร โดยธรรมชาติผู้หญิงจะมีความกล้าเสี่ยงในตัวน้อยกว่าผู้ชายอยู่แล้วค่ะ ถ้าคุณ ddoo7 " เล่นหุ้น" แนวเก็งกำไรน่าจะขอมาได้ยาก แต่นี่คุณ ddoo7 เดินทางการ "ลงทุน" ตามแนว VI เดี๋ยว port จะเห็น % การเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกหน่อยภรรยาคงจะค่อยๆ แบ่งเงินให้มาลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ เผลอๆ มายึด port ไปบริหารต่อให้เอง (555) เพราะจากที่เล่ามา เธอใส่ใจกับการบริหารเงินในรูปแบบอื่นอยู่แล้ว สู้ๆ นะคะ cheer cheer :D ขอบคุณคุณนุชและเพื่อนๆที่ให้กำลังใจ และแนะนำ ผมคงต้องแต่งหล่อ เหมือนจัดหุ้น IPO เข้าตลาดด้วยการนำเสนอให้ภรรยาเข้าใจเรื่องการลงทุน พอเข้าใจหลักการ ก็ค่อยบอกเล่า วิธีการ พร้อมกับผลงานให้ที่ผ่านมา เสริมกับชื่อเสียง กิจการ ภาพลักษณ์ของบริษัทที่ลงทุน ผมเชื่อว่า น่าจะม่น้ำหนักโน้มน้าวให้เธอเชื่อใจให้เงินมาลงทุนเพิ่มบ้าง :mrgreen: แต่ผมคงต้องตระเตรียมงานนำเสนอให้เข้มข้น ชัดเจน มีมุข กลวิธีสุดๆเหมือนตอนจีบเธอ555 แต่บริษัทที่ลงทุน ผมต้องปรับเปลี่ยนอย่างที่สุด ขอสารภาพว่าอดีตที่ผ่านมา ผมมุ่งเน้นแต่หุ้นตัวเล็ก ตลาดใหม่ เพราะเชื่อสถิติว่าหุ้นราคาน้อยต่ำสิบ จะได้ 2-3 เด้งมากกว่าหุ้นราคาสูง ซื้อขายเก็งกำไรเป็นรอบได้กำไรทีละ10-20%ก็ขาย หุ้นบางตัวปีนึงซื้อขายเป็น 14-15ครั้ง ที่ทำให้เสียนิสัยเหมือนจับปลาซิว ปลาสร้อย ถึงจะได้กำไรก็ไม่ยั่งยืน แทนที่จะเกาะกินกับปลาวาฬ หรือเป็นปูเสฉวนอยู่จนเปลือกจะคับตัว แล้วก็ไม่มีเลาไปไส่ใจกับบริษัทดีๆ :wall: ผมเพิ่งซึ้งใจ เหมือนอาจารย์ ดร นิเวศราดน้ำเย็น เมื่อฟังเทปเก่าๆงานมิตติ่งปี 2008 ว่าเราต้องมองให้เป็น "การลงทุนที่ยั่งยืน...ตลอดไป" เพราะผมเก็งผลกำไรรายไตรมาส กำไรจะแย่ขายก่อน กำไรดีก็ขายแล้วค่อยกลับมาซื้อคืน ซึ่งบางที่หุ้นบริษัทดีๆ ก็ขึ้นไปและไม่ลงมาอีกเลย ไม่จะเป็นห้างใหญ่ ร้านสดวกซื้อ บ. ขายจักร บ. อ่านบาร์โค้ด รถแจ้ส เพราะมัวแต่คิดว่า เด๋วก็ย่อ ขอกำไรก่อน เลยไม่เคยได้เด้งกับเค้าซะที พอขึ้นไปก็จำแต่ราคาเดิมว่าแพงไปแล้ว สรุปผมมองผลกำไรมากไป ไม่ได้ลงทุนในกิจการ ผมไม่ได้ซื้อบริษัท อย่างซื้อบ. ประกันเห็นผบห.ไปมอบเงินค่าชดเชยประกัน ผมก็รีบขายหุ้น พอโดนน้ำท่วมผมก็รีบขายหุ้นทุกตัวที่จะโดนผลกระทบ :wall: เพราะคิดว่า เด๋วหุ้นตกแน่ ผลประกอบการออกมาจะไม่ดี ต้องเอาตัวรอด จะได้ไม่ขาดทุน.... ผมคิดว่า ผมต้องค้นหาและซื้อบริษัทที่จะต้องเป็นของผมจริงๆนะครับ และไปบอกภรรยาว่านี่จะเป็นบริษัทของเราตลอดไป มุขที่ผมใช้ประจำเวลาหาหุ้นตัวต่อไปคือ ถามแฟนผมว่า อยากเป็นเจ้าของธุรกิจอะไร เพราะแฟนผมจำเป็นต้องออกไปทำธุระประจำ ทำให้ได้เห้นหรือมองเห็นสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงรอบตัวเสมอ อีกอย่างเป็นการสร้างความสนใจในเรื่องการลงทุนไปด้วย เพราะหลังจากนั้นเราก้อจะมาคุยกันว่า ธุรกิจที่ว่านั้นเป็นยังไง ถ้าดีจริงๆ ในเงื่อนไขที่เราทั้งสองรับได้ ผมก้อได้เงินมาลงทุนเพิ่ม :B :B :B :B โดย KittipongS พุธ ส.ค. 14, 2013 12:50 pm

Re: ขอเงินภรรยามาลงทุนได้อย่างไร ผมของเล่าเรื่องของผมมั่งนะครับ อาจไม่กรณีเหมือนคุณdd007 เท่าไหร่ เริ่มแรกภรรยาผมสนใจเรื่องการลงทุนเหมือนกันเพราะน้องชายมาชวนให้เล่นหุ้น แฟนผมมาบอกว่าสนใจอยากลองเล่นหุ้นดู ผมก้อบอกไปเลยว่าได้เลย แต่ต้องอ่านหนังสือหาความรู้ก่อนนะ (จริงๆแล้วผมก้อสนใจเหมือนกัน :ep: :ep: :ep: ) ผมไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาก่อนเริ่มต้นด้วย พ่อรวยสอนลูก ตามมาติดๆด้วย ตีแตก พออ่านสองเล่มนี้จบ ผมบอกกับแฟนผมเลยว่า การลงทุนมีความเสี่ยงสูง เรามาตั้งกติกากัน ผมไปศึกษาหุ้นที่สนใจแล้วมาลงความเห็นกันว่าจะซื้อหุ้นตัวไหน (เหมือนกับมาขออนุมัติในการซื้อหุ้นมากว่าครับ5555 :B :B :B )หรือแม้จะขายหุ้นตัวไหนในพอร์ต โดยที่ผมจะเปิดบัญชีเป็นชื่อแฟนของผม เพราะมันค่อนข้างที่จะสะดวก (จริงๆแล้วผมเหมือนคุณdd007ให้แฟนดูแลเงินทั้งหมดในบ้าน) แรกๆ ก้อใช้เงินจำนวนตามที่แฟนเห็นว่าพอรับได้ก่อน หลังๆผลจากการลงทุนเป็นที่น่าพอใจขึ้น ทำให้ผมได้รับเงินเพิ่มมากขึ้น (แต่ในจำนวนที่จำกัดเหมือนเดิม 5555 :'O :'O :'O ) แต่ที่ผมยังทำอย่างสม่ำเสมอคือการซื้อหนังสืออ่านทั้งที่เกี่ยวกับการลงทุนและไม่เกี่ยวกับการลงทุนเท่าไหร่ ทำให้แฟนของผมมองว่า ผมมีความตั้งใจจริงๆเรื่องการเล่นหุ้น ผมค่อนข้างที่จะโชคดีตรงที่ผมไม่ภาระเรื่องหนี้สิน เช่น การผ่อนบ้านหรือ ผ่อนรถ เพราะผมใช้หนี้ส่วนนี้หมดแล้ว ทำให้แฟนผมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหนี้สิน ตอนนี้คือได้เงินมาลงทุนทุกเดือนครับ และสิ้นปีก้ออาจได้โบนัสจากแฟนเพิ่มอีก 5555 รู้สึกเหมือนรับจ้างบริหารพอร์ตให้แฟนเลยครับ โดย KittipongS จันทร์ ส.ค. 12, 2013 2:05 pm

Re: สำรวจ อาชีพ ของเพื่อนๆพี่ๆนักลงทุนในสมาคมนี้น่ะครับ นักธรณีวิทยา มีใครเหมือนผมไหมครับ :B :B :B โดย KittipongS ศุกร์ ส.ค. 02, 2013 9:39 pm

Re: เอาเงิน (สามี) มาลงทุนให้งอกเงย เข้ามาชื่นชมครับความสามารถครับ แต่ทางผมนี้ภรรยาใช้สามีลงทุน ไม่ใช่ใช้เงินสามีลงทุนครับ :B :B :B อันนี้แซวกันเล่นๆครับ โดย KittipongS พุธ ก.ค. 24, 2013 1:50 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด เรียน ท่านผู้นำ ท่านกุนซือ และท่านนายพลทุกท่าน ตัวข้าน้อยเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บมาได้ไม่กี่เพลา บาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้นั้นยังไม่สมานตัวดีหนัก ได้แต่อาศัยระยะเวลาช่วยในการรักษาบาดแผลให้ดีขึ้น พลทหาร เม่า จัง กู โดย KittipongS อาทิตย์ ก.ค. 21, 2013 2:45 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด เรียนท่านกุนซือและท่านแม่ทัพทั้งหลาย ช่วงบ่ายนี้สมรภูมิการรบได้เกิดเหตุมิคาดคิดเกิดขึ้น ข้าพเจ้ามองเห็นแสงไฟสีเขียวอยู่เป็นระยะๆ ด้วยความที่ข้าน้อยโง่เขลาเบาปัญญา มิอาจเข้าใจว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากเล่ห์กลของฝ่ายข้าศึก หรือเกิดจากกองกำลังของฝ่ายเราได้ตีโต้ทัพของข้าศึกให้ถอยร่นออกไป วานท่านกุนซือและท่านแม่ทัพช่วยแจงข้อสงสัยของข้าผู้น้อยด้วย นับถือ พลทหาร เม่า จัง กู โดย KittipongS อังคาร มิ.ย. 25, 2013 3:05 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ถึงท่านกุนซือและท่านจอมพล ข้าน้อยผู้อยู่แนวหน้า เริ่มมีขวัญและกำลังใจมากขึ้น เมื่อได้รับสาร์นจากท่านทั้งหลาย หวังว่าสถานะการรบช่วงบ่ายนี้จะดีขึ้น นับถือ พลทหาร เม่า จัง กู โดย KittipongS ศุกร์ มิ.ย. 21, 2013 2:41 pm

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด ระวังศึกรอบบ่ายด้วยครับพลพรรคจากยุโรปท่าทางจะจัดหนัก หน่วยข่าวช่วยรายงานสถานการณ์รอบบ้านหน่อย ตอนนี้เปียงยางหนาวมากจริง ๆ พี่ NB อยู่ที่เปียงยางหรือครับ ผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนครับ รู้แต่ว่าฝุ่นตลบไปหมด เห็นแต่ผู้คนวิ่งหนีอะไรก้อไม่รู้ สัปสนอลม่านไปหมด บ้างคนร้องขอความช่วยเหลือ บ้างคนนั่งร้องไห้เหมือนกับคนเสียสติ หลายๆคนนอนหายใจอย่างรวยรินรอความตาย ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนจริงๆครับ โดย KittipongS พฤหัสฯ. มิ.ย. 13, 2013 1:02 pm

Re: หุ้นกลุ่มพลังงานนี่สามารถลงทุนระยะยาวแบบVIได้ไหมครับ [quote="naphas12"]หุ้นวัฏจักรเล่นยาก คาดเดากำไรไม่ได้ ห่าง ๆ ไว้จะดีกว่า[/quot เห็นด้วยครับ ถ้ายังไม่มีความรู้มากพอและความเข้าใจมากพอเกี่ยวธุรกิจพลังงาน หรือไม่ได้ทำงานที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้แล้ว ขอให้ใช้เวลาศึกษาไปก่อนดีกว่าครับ โดย KittipongS เสาร์ เม.ย. 06, 2013 2:28 pm

Re: หุ้นกลุ่มพลังงานนี่สามารถลงทุนระยะยาวแบบVIได้ไหมครับ ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่ายังน่าลงทุนอยู่ครับ แต่สิ่งที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำความเข้าใจให้มากขึ้น คือ 1. วัฏจักรของพลังงานตัวนั้น เช่น พลังงานถ่านหินมีวัฏจักรกี่ปี น้ำมันและก๊าชธรรมชาติมีวัฏจักรกี่ปี เป็นต้น 2. พลังงานอื่นที่สามารถทดแทนพลังงานตัวนั้นมีไหม และถ้ามีในอนาคตอันใกล้และระยะใกล้นี้กี่ปี 3. ยังมีความต้องการพลังงานนั้นอยู่หรือไม่ในโลกนี้ 4. มีการพัฒนาเทคนิคหรือขั้นตอนการผลิตเพื่อลดตุ้นทุนของพลังงานนั้นหรือไม่ โดย KittipongS ศุกร์ เม.ย. 05, 2013 4:17 pm

Re: คนตายมาเร็วๆ ฟลุ๊คครับ ยังเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดย KittipongS ศุกร์ มี.ค. 22, 2013 1:22 pm

Re: สิ่งที่เรียนรู้จากช่วงตลาดกระทิงดุ ได้เรียนรู้เรื่องอารมณ์ของตัวเองครับ มีทั้งตื่นเต้น ดีใจ กังวล กลัว โลภ โมโห ผสมปนเปกันไป ทำให้รู้ว่าตัวเองยังขาดประสบการณ์ในการควบคุมอารมณ์ โดย KittipongS ศุกร์ มี.ค. 08, 2013 12:35 am

Re: รู้ทันเรื่องไฟดับ จากการหยุดส่งท่อก๊าซ New Coal Technology Harnesses Energy Without Burning, Nears Pilot-Scale Development COLUMBUS, Ohio—A new form of clean coal technology reached an important milestone recently, with the successful operation of a research-scale combustion system at Ohio State University. The technology is now ready for testing at a larger scale. For 203 continuous hours, the Ohio State combustion unit produced heat from coal while capturing 99 percent of the carbon dioxide produced in the reaction. Liang-Shih Fan Liang-Shih Fan, professor of chemical and biomolecular engineering and director of Ohio State’s Clean Coal Research Laboratory, pioneered the technology called Coal-Direct Chemical Looping (CDCL), which chemically harnesses coal’s energy and efficiently contains the carbon dioxide produced before it can be released into the atmosphere. “In the simplest sense, combustion is a chemical reaction that consumes oxygen and produces heat,” Fan said. “Unfortunately, it also produces carbon dioxide, which is difficult to capture and bad for the environment. So we found a way to release the heat without burning. We carefully control the chemical reaction so that the coal never burns—it is consumed chemically, and the carbon dioxide is entirely contained inside the reactor.” Dawei Wang, a research associate and one of the group's team leaders, described the technology’s potential benefits. "The commercial-scale CDCL plant could really promote our energy independence. Not only can we use America's natural resources such as Ohio coal, but we can keep our air clean and spur the economy with jobs," he said. Email this to a friend -------------------------------------------------------------------------------- “We carefully control the chemical reaction so that the coal never burns—it is consumed chemically, and the carbon dioxide is entirely contained inside the reactor.” -------------------------------------------------------------------------------- Though other laboratories around the world are trying to develop similar technology to directly convert coal to electricity, Fan’s lab is unique in the way it processes fossil fuels. The Ohio State group typically studies coal in the two forms that are already commonly available to the power industry: crushed coal “feedstock,” and coal-derived syngas. The latter fuel has been successfully studied in a second sub-pilot research-scale unit, through a similar process called Syngas Chemical Looping (SCL). Both units are located in a building on Ohio State’s Columbus campus, and each is contained in a 25-foot-high insulated metal cylinder that resembles a very tall home water heater tank. No other lab has continuously operated a coal-direct chemical looping unit as long as the Ohio State lab did last September. But as doctoral student Elena Chung explained, the experiment could have continued. “We voluntarily chose to stop the unit. We actually could have run longer, but honestly, it was a mutual decision by Dr. Fan and the students. It was a long and tiring week where we all shared shifts,” she said. Fan agreed that the nine-day experiment was a success. “In the two years we’ve been running the sub-pilot plants, our CDCL and SCL units have achieved a combined 830 operating hours, which clearly demonstrates the reliability and operability of our design,” he said. At any one time, the units each produce about 25 thermal kilowatts—that is, thermal energy, which in a full-scale power plant would be used to heat water and turn the steam-powered turbines that create electricity. The researchers are about to take their technology to the next level: a larger-scale pilot plant is under construction at the U.S. Department of Energy’s National Carbon Capture Center in Wilsonville, AL. Set to begin operations in late 2013, that plant will produce 250 thermal kilowatts using syngas. The key to the technology is the use of tiny metal beads to carry oxygen to the fuel to spur the chemical reaction. For CDCL, the fuel is coal that’s been ground into a powder, and the metal beads are made of iron oxide composites. The coal particles are about 100 micrometers across—about the diameter of a human hair—and the iron beads are larger, about 1.5-2 millimeters across. Chung likened the two different sizes to talcum powder and ice cream sprinkles, though the mix is not nearly so colorful. The coal and iron oxide are heated to high temperatures, where the materials react with each other. Carbon from the coal binds with the oxygen from the iron oxide and creates carbon dioxide, which rises into a chamber where it is captured. Hot iron and coal ash are left behind. Because the iron beads are so much bigger than the coal ash, they are easily separated out of the ash, and delivered to a chamber where the heat energy would normally be harnessed for electricity. The coal ash is removed from the system. The carbon dioxide is separated and can be recycled or sequestered for storage. The iron beads are exposed to air inside the reactor, so that they become re-oxidized be used again. The beads can be re-used almost indefinitely, or recycled. Since the process captures nearly all the carbon dioxide, it exceeds the goals that DOE has set for developing clean energy. New technologies that use fossil fuels should not raise the cost of electricity more than 35 percent, while still capturing more than 90 percent of the resulting carbon dioxide. Based on the current tests with the research-scale plants, Fan and his team believe that they can meet or exceed that requirement. The DOE funded this research, and collaborating companies include Babcock & Wilcox Power Generation Group, Inc.; CONSOL Energy, Inc.; and Clear Skies Consulting, LLC. จาก http://researchnews.osu.edu/archive/looping203.htm โดย KittipongS พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2013 12:25 am

Re: รู้ทันเรื่องไฟดับ จากการหยุดส่งท่อก๊าซ เอามาแปะอีกรอบครับ จาก http://www.mining.com/new-clean-tech-harnesses-coal-energy-without-burning-18346/ โอ้ น่าสนใจมากเลยครับ อยากถามคุณ KittipongS ว่าเรื่องอุณหภูมิในการใช้ Technology แบบนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ จะต้มน้ำปั่นไฟ ก็ต้องทำให้มีอุณหภูมิสูงๆ ก่อนนะครับ แต่ตอนนี้ต้นทุนการผลิตคงยังสูงมากๆ เทียบกับเอามาจุดไฟดื้อๆ นะครับ ผมของเวลาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนะครับคุณ Kongkiti เรื่องต้นทุนนี้ต้องยอมว่ายังคงสูงกว่าการเผาแบบธรรมดาแน่นอนครับ แต่มันก้อคงเป็นผลดีสำหรับในอนาคต ขออนุญาตถาม คุณ Kongkiti ครับ คุณ Kongkiti ทำงานเป็นวิศวกรใช่ไหมครับ เพราะมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องพลังงานและระบบของโรงไฟฟ้าถ่านหินมากจัง โดย KittipongS พุธ ก.พ. 27, 2013 10:27 pm

Re: รู้ทันเรื่องไฟดับ จากการหยุดส่งท่อก๊าซ ขอเห็นแย้งกับคุณ Miracle เล็กน้อย ตรงเฉพาะ โรงไฟฟ้าถ่านหินครับ ประเทศเราจะสร้างนู่นสร้างนี่กันเยอะแยะ ทั้ง รถไฟฟ้าความเร็วสูง, ทั้งจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์, และอื่นๆ ที่ประเทศต่างๆ แห่มาลงทุน คำถามคือ จะเอาพลังงานมาจากไหนครับ ค่าไฟฟ้าทุกวันนี้ขึ้นเยอะมาก ผลักภาระมาให้โรงงาน และประชาชน ด้วยการรวมเอาค่า ft เข้าในฐานค่าไฟ เพื่อจะได้ปรับขึ้น ft ใหม่ได้อย่างสบายใจ ตามหลักจิตวิทยา ดูแล้วเพิ่ม ft ไม่เยอะ จริงๆ ถูกรวมไปในค่าไฟฟ้าหลักแล้ว :wall: จะหวังพึ่งก๊าซธรรมชาติ หรือจะขน LNG เข้ามาแทนก็ แพงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน (แต่อนาคตก็คงต้องใช้เยอะขึ้น) จริงๆ แล้วพลังงานถ่านหินทุกวันนี้มี Technology การผลิต ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก, เถ้าถ่านหินผลิตปูนซีเมนต์ได้, Sulfur ที่ระเหยออกมาก็มีเทคโนโลยีดักจับได้ยิปซั่มสังเคราะห์ กลับมาซะอีก, และหากเทียบเรื่องความปลอดภัย ก็ดีกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แน่นอนครับ มีอีกอย่างที่น่าทำก็คือ โรงไฟฟ้าจากเตาเผาขยะ ซึ่งทุกวันนี้ขยะจะล้นเมืองอยู่แล้วครับ (ญี่ปุ่น เตาเผาขยะเยอะมาก เคยเจ็บปวดกับปัญหาสารปนเปื้อนจาก Landfill) ส่วนเรื่องโกง นี้ :juju: :juju: :juju: เอามาแปะอีกรอบครับ New clean tech harnesses coal energy without burning Researchers at Ohio State University have developed a method to convert coal to heat while capturing 99% of the carbon dioxide emissions. Chemical and biomolecular engineering professor Liang-Shih Fan calls the new technology "coal-direct chemical looping." His team recently tested the new conversion process in a scaled-down version of a combustion power plant. "We found a way to release the heat without burning. We carefully control the chemical reaction so that the coal never burns — it is consumed chemically, and the carbon dioxide is entirely contained inside the reactor,” says Fan, who has led the initiative for more than a decade. According to the US Environmental Protection Agency, coal-burning power plants produced about one-third of the country's carbon dioxide total in 2010, or about 2.3 billion metric tons. Ohio State researchers believe the technology will promote cleaner air, American energy independence, capitalize on the state's natural resources and spur the economy through job creation. For the next stage, a pilot plant is under construction at the US Department of Energy's National Carbon Capture Center in Alabama and is set to begin operations late this year, which will produce 250 thermal kilowatts. จาก http://www.mining.com/new-clean-tech-harnesses-coal-energy-without-burning-18346/ โดย KittipongS พุธ ก.พ. 27, 2013 9:47 pm

Re: เป็น FULLTIMETRADER มันผิดตรงไหนชีวิตฉันใครกํากับ ผมกลับไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถทำงานไปด้วยเล่นหุ้นไปด้วยล่ะครับ ถ้าไม่ได้เป็นพวกday traderนะ ผมว่าความเครียดมันต่างกันมากเลยนะครับ ทุกวันนี้เวลาหุ้นเน่า ผมยังรู้สึกดีทุกครั้งว่าเรายังมีงานประจำทำอยู่ เวลาหุ้นดีเราก็ไม่เครียดกับงานมากนักเพราะมีรายได้เสริมทางอื่น ไม่ต้องไปหวังว่าจะต้องได้เงินเดือนโบนัสมากมายนัก การทำงานทำให้เราได้ท้าทาย ทำให้เรามีเพื่อน ทำให้เราได้แบ่งบันความรู้แก่ผู้อื่นหรือได้เรียนรู้จากผู้อื่น อยู่บ้านทั้งวันกับครอบครัวก็ไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไปนะครับ ทุกวันนี้ผมอาจกลับดึกบ้างเป็นบางช่วง แต่เสาร์อาทิตย์ผมก็เต็มที่กับครอบครัว มีพักร้อนยาวบางช่วงไปเที่ยวต่างประเทศกัน ใช้ชีวีตและใช้จ่ายได้เต็มที่ตามฐานะและlifestyle ผมไม่เคยคิดดูถูกคนที่ชิวๆอยู่บ้านเล่นหุ้นหากินทุกวันแม้แต่พวกday trader แต่ผมก็ไม่ได้ยกย่องเค้าแน่นอน ยังไงตัวผมถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องหาอย่างอื่นทำครับ ไปสอนหนังสือก็ยังดี หรือไปเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น หรือไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ไม่มีทางอยู่บ้านเทรดหุ้นทั้งวันแน่นอน มันง่ายเกินไปครับ ผมคิดว่ากระทู้นี้น่าจะพอช่วยอธิบายได้นะครับว่า ทำไมบ้างคนชอบถึงลาออกจากงานมาเป็นนักลงทุ้นเต็มเวลา หรือทำไมบ้างคนชอบทำงานไปด้วยลงทุนไปด้วยนะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=54590 โดย KittipongS อังคาร ก.พ. 19, 2013 10:20 pm

Re: ขอนำเสนอดัชนีวัดตลาด ผมขอเสนอจำนวนสมาชิกที่เข้ามาในห้องร้อยคนร้อยหุ้นครับ โดย KittipongS พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2013 12:20 pm

Re: ณ เวลานี้ ยังพอจะหาหุ้นคุณค่าได้อีกมั้ย อาทิตย์ก่อนยังมีนักลงทุนวีไอชื่อดังบางท่านซื้อหุ้นเพิ่มอยู่เลย อาจหายากหน่อยแต่ผมคิดว่ายังมีบ้างนะครับ ขอแสดงความนับถือจากใจจริงๆครับ สำหรับท่านที่สามารถมองหาหุ้นคุณค่าได้ :bow: :bow: :bow: :bow: ผมความรู้ความสามารถยังไม่ไปไหนของนั่งดูเฉยๆครับ โดย KittipongS ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 7:18 pm

Re: ถึงพี่ๆที่ได้เป็นพ่อ/แม่ หรือกำลังจะเป็น เกี่ยวกับการมีล ลองตอบบ้างนะครับ ผมมีลูกชาย 1 คนอายุ 2 ปี กับ 4 เดือนครับ คนที่สองกำลังอยู่ในท้องแม่ สำหรับการมีลูกไม่เพื่อนมีหลักประกันยามแก่ ผมอยากมีลูกเพราะผมคิดว่าลูกช่วยเพิ่มความอบอุ่นในครอบครัวผมให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเราไม่มีความสุขตอนไม่มีลูกนะครับ ผมหมายความว่าลูกทำให้ความสุขที่เรามีอยู่แล้วเพิ่มมากขึ้น โดยพื้นฐานครอบครัวผมเป็นคนที่รักเด็กอยู่แล้ว ยิ่งเวลามีลูก ทำให้ครอบครัวเรามีกิจกรรมทำร่วมกันมากขึ้น อบอุ่นกันมากขึ้น สำหรับผมแล้วการเลี้ยงลูก ผมสามารถเลี้ยงให้เติบโตขึ้นในทางกายภาพ และพยายามส่งเสริมเรื่องการศึกษาในสิ่งที่เขารักที่เรียนและรักที่จะทำครับ ผมไม่เคยคาดหวังให้ลูกต้องมาดูแลผมตอนแก่ตัว ผมอยากให้ลูกรู้ว่า เขามาเกิดมาจากความรักของพ่อแม่และคนในครอบครัว สิ่งที่ผมอยากเห็นจากตัวลูกๆคือ ลูกจะเป็นคนดี ลูกสามารถมองหาและแสวงความสุขได้จากสิ่งต่างๆรอบๆตัวเค้า ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นของมีค่าราคแพงเช่น ได้มีโอกาสนั่งอ่านหนังสือ ก็สามารถมีความสุขได้ เป็นต้น ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างมีความสุข เค้าต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อวันไหน เค้าล้มลง เค้ามีความทุกข์ เค้าพ่ายแพ้ เค้าสามารถท้อแท้ ร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเค้าได้ แต่เค้าไม่สามารถจมกับสิ่งเหล่านั้นได้ เค้าต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นให้ได้ สิ่งต่างๆเหล่าคือสิ่งที่ผมอยากเห็นในตัวลูกของผมครับ สุดท้ายถึงเค้าจะเป็นยังไง เค้าก็ยังเป็นลูกที่ผมรักครับเสมอครับ ผมคงจะพูดเหมือนที่พ่อผมพูดกับผม ถ้าไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ก็กลับมาบ้านของเรา โดย KittipongS พุธ ม.ค. 23, 2013 5:25 pm

Re: VI อาชีพใหม่ที่มาแรง สิ่งที่ผมคิดได้จากบทความนี้คือว่าคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบมาไม่นาน คงอายุประมาณ 23-31 ปีซึ่งก็คือคน Gen Y ซึ่งผมอ้างอิงจากบทความ VI Gen-X ของ ดร.นิเวศ ที่ว่า “ คนรุ่นต่อมาคือ Gen Y นี่คือ “เด็กรุ่นใหม่” ที่เกิดจากคนรุ่นเบบี้บูมหลังจากปี 1981 จนถึงปี 1997 ซึ่งก็คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี นี่คือคนที่เกิดมาก็มีระบบอินเตอร์เน็ตใช้กันอย่างกว้างขวางแล้ว ดังนั้น พวกเขาไม่คุ้นเคยกับแนวทางชีวิตของคนรุ่นเก่าเลย เพื่อนของเขาส่วนใหญ่ติดต่อกันผ่านทางการส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ พวกเขาไม่ดูทีวีหรือดู “หนังแผ่น” แต่ใช้วิธีดาวน์โหลดภาพยนต์จากอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก คน Gen-Y นั้น มีความเป็น “สากล” มาก การมีเพื่อนที่เป็นคนต่างชาติและต่างวัฒนธรรมเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับการมีแฟนเป็นคนต่างชาติ การนิยมชมชอบวัฒนธรรมหรือศิลปินจากต่างชาติก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน พวกเขา “ไม่ต่อต้านสถาบัน” แต่ใช้วิธี “หลีกเลี่ยง” มากกว่า คน Gen-Y นั้น เป็นพวกที่มีจินตนาการสูง พวกเขาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในด้านของงานอาชีพ พวกเขาชอบทำงานในด้านของ IT และธุรกิจทางด้านความบันเทิงมากกว่างาน “ใช้มือ” อย่างอื่น ที่สำคัญ พวกเขาอยากทำงานที่ทำให้ รวยเร็วหรือดังเร็ว การเงินก็เป็นหนึ่งในนั้น “ มีความสนใจการลงทุนมากขึ้นและเร็วกว่าคนรุ่นก่อนๆ สาเหตุคงเป็นเพราะความร้อนแรงของตลาดหุ้นไทยนี้เองที่ทำให้มีคนสนใจเข้าลงทุนมากขึ้น ขนาดที่ว่ามีคนเขียนบทความว่าเป็นห่วงเรื่องการขาดทรัพยากรบุคคลเพราะมีคนออกจากงานประจำมาลงทุนหรือเรียนจบใหม่ออกมาลงทุนโดยที่ไม่หางานประจำเหมือนแต่ก่อน นี้อาจเป็นข้อสังเกตอีกข้อที่กำลังบอกให้เราระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ถ้าเปรียบกับในสนามรบก็คงประมาณให้ตรวจสอบว่ามีจำนวนทหารอยู่เท่าไหร่ที่พร้อมรบ มีเสบียงอยู่ได้นานกี่เดือน กี่ปี ผ่านฝนนี้จะรอดไหม ชัยภูมิที่ตั้งค่ายเหมาะสมหรือไม่ อะไรประมาณนี้แหละครับ ที่เขียนมามันเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเองเออเองของผมนะครับ ถ้าสิ่งที่ผมเขียนไม่ตรงกับความคิดเห็นท่านใด ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ พี่เป็น Gen Y ป่าวครับ เข้าใจลึกซึ้ง กด Like ในฐานะ Gen Y คนนึง :B .. ภาพรวมนี่ใช่ครับ แต่ทุกคนมีความแตกต่าง .. ก็คงเหมือนๆกับทุกๆรุ่น หลายคนส่วใหญ่ก็อยากรวยเร็ว อยากออกไปตั้งกิจการเองบ้าง ทำอะไรสักอย่างเองบ้างที่บางคนก็ยังไม่รู้จะทำอะไร (ฮิตมาก และน้อยคนมากจะบอกว่าจะเป็นลูกจ้่างจนเกษียณ) .. แต่สมบัติทั้ง 3 สถานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 1) รูปสมบัติ .. อันนี้พ่อแม่ให้มา (และก็ คิดว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้) 2) ทรัพย์สมบัติ .. บางคนเกิดมาสบาย บ้านรวย ก็อาจเข้าข่ายบทความนี้ได้ครับ (แต่ผมไม่ :'O ) 3) คุณสมบัติ .. ใครขวนขวาย ใครได้ครับ ที่กล่าวมาจึงทำให้ผลของการตัดสินใจของ Gen Y แต่ละคนไม่เท่ากัน แรงกดดันให้พัฒนาตัวที่ 3 ก็ไม่เท่ากัน ความรอบคอบของแค่ละคนก็ไม่เท่ากัน ความรับในความเสี่ยงแต่ละคนไม่เท่ากัน MOS ในใจแค่ละคนไม่เท่ากัร .. จึงไม่รู้จะสรุปอย่างไรครับ ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันยังไง แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถออกมาเริ่มอาชีพนักลงทุนเต็มตัวกันได้อย่างใจคิดก็เนื่องจากภาระของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ :B :B ผมเป็น X ตอนปลาย Y ตอนต้นครับ โดย KittipongS จันทร์ ม.ค. 21, 2013 12:34 pm

Re: VI อาชีพใหม่ที่มาแรง สิ่งที่ผมคิดได้จากบทความนี้คือว่าคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบมาไม่นาน คงอายุประมาณ 23-31 ปีซึ่งก็คือคน Gen Y ซึ่งผมอ้างอิงจากบทความ VI Gen-X ของ ดร.นิเวศ ที่ว่า “ คนรุ่นต่อมาคือ Gen Y นี่คือ “เด็กรุ่นใหม่” ที่เกิดจากคนรุ่นเบบี้บูมหลังจากปี 1981 จนถึงปี 1997 ซึ่งก็คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี นี่คือคนที่เกิดมาก็มีระบบอินเตอร์เน็ตใช้กันอย่างกว้างขวางแล้ว ดังนั้น พวกเขาไม่คุ้นเคยกับแนวทางชีวิตของคนรุ่นเก่าเลย เพื่อนของเขาส่วนใหญ่ติดต่อกันผ่านทางการส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ พวกเขาไม่ดูทีวีหรือดู “หนังแผ่น” แต่ใช้วิธีดาวน์โหลดภาพยนต์จากอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก คน Gen-Y นั้น มีความเป็น “สากล” มาก การมีเพื่อนที่เป็นคนต่างชาติและต่างวัฒนธรรมเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับการมีแฟนเป็นคนต่างชาติ การนิยมชมชอบวัฒนธรรมหรือศิลปินจากต่างชาติก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน พวกเขา “ไม่ต่อต้านสถาบัน” แต่ใช้วิธี “หลีกเลี่ยง” มากกว่า คน Gen-Y นั้น เป็นพวกที่มีจินตนาการสูง พวกเขาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในด้านของงานอาชีพ พวกเขาชอบทำงานในด้านของ IT และธุรกิจทางด้านความบันเทิงมากกว่างาน “ใช้มือ” อย่างอื่น ที่สำคัญ พวกเขาอยากทำงานที่ทำให้ รวยเร็วหรือดังเร็ว การเงินก็เป็นหนึ่งในนั้น “ มีความสนใจการลงทุนมากขึ้นและเร็วกว่าคนรุ่นก่อนๆ สาเหตุคงเป็นเพราะความร้อนแรงของตลาดหุ้นไทยนี้เองที่ทำให้มีคนสนใจเข้าลงทุนมากขึ้น ขนาดที่ว่ามีคนเขียนบทความว่าเป็นห่วงเรื่องการขาดทรัพยากรบุคคลเพราะมีคนออกจากงานประจำมาลงทุนหรือเรียนจบใหม่ออกมาลงทุนโดยที่ไม่หางานประจำเหมือนแต่ก่อน นี้อาจเป็นข้อสังเกตอีกข้อที่กำลังบอกให้เราระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ถ้าเปรียบกับในสนามรบก็คงประมาณให้ตรวจสอบว่ามีจำนวนทหารอยู่เท่าไหร่ที่พร้อมรบ มีเสบียงอยู่ได้นานกี่เดือน กี่ปี ผ่านฝนนี้จะรอดไหม ชัยภูมิที่ตั้งค่ายเหมาะสมหรือไม่ อะไรประมาณนี้แหละครับ ที่เขียนมามันเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเองเออเองของผมนะครับ ถ้าสิ่งที่ผมเขียนไม่ตรงกับความคิดเห็นท่านใด ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ โดย KittipongS เสาร์ ม.ค. 19, 2013 9:17 pm

Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส ขอให้หายไวๆครับ โดย KittipongS อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2012 8:17 am

Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน ผมคิดว่าคนที่เป็น In หลายๆ คนอาจจะเป็นเพราะสิ่งแวดล้อม หรือ ปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถมีได้หลายปัจจัย การจะตีความว่าเราเป็นคนลักษณะไหนคงไม่ง่าย ต้องค่อยๆ ใช้เวลาประเมิน ผมยกตัวอย่างตัวเอง ที่ถ้าให้ตอบในทันทีคงต้องบอกว่าเป็น In แต่เมื่อลองคิดเพิ่มเติม ผมคิดว่าเหตุผลมาจากการที่เราไม่เจอคนที่เข้ากันกับจริตของเรา ทำให้เราไม่ได้แสดงออกหรือคบหากับคนอื่นๆ มากนัก แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน เช่น ถ้าเราเป็นคนที่ชอบลงทุน และสิ่งแวดล้อมหรือที่ทำงานเราเต็มไปด้วยนักลงทุนวีไอที่มีความคิดดีมีเหตุผล คุยกันถูกเรื่อง สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เรื่อยๆ ผมเองอาจเปลี่ยนเป็น EX เลยก็ว่าได้ หรืออย่าง facebook ก็เป็นอีกตัวอย่างที่คนที่ไม่ค่อยพูดเลย แต่กลับโพสต์ข้อความที่แสดงความเป็นตัวตนในสังคมใหม่ที่เค้าไม่ต้องแสดงตัวแบบเห็นหน้า ซึ่งก็ตอบได้ยากคนลักษณะนี้จะเรียกได้ว่าอยู่ในประเภทไหน เพราะฉะนั้นในเบื้องต้น เราควรใช้เวลาทำความเข้าใจตัวเองให้มากขี้นกว่านี้ ผมเองก็เลือกที่จะไม่เข้าสังคมมากนัก แต่ก็ชอบที่จะแชร์ความเห็นในเรื่องที่ตัวเองสนใจ ก็อาจจัดได้ว่าอยู่ในประเภท Am ส่วนการลงทุนถือว่าได้มามากกว่าที่ตั้งใจไว้มาก แต่ก็พยายามหาความรู้เพิ่มเติม เรียนรู้จากบทเรียนและประสบการณ์ที่ได้ลงทุนมา ค่อยๆ ปรับแก้ไขไปเรื่อยๆ ที่เหลือสุดท้าย อยากมีความสุขให้ได้มากเท่ากับผลตอบแทนที่ได้มาจากการลงทุน ซึ่งทุกวันนี้ดูจะยังมีทุกข์กับมันมากไปหน่อย (ชอบที่ ดร.ไพบูลย์พูดไว้ว่า การลงทุนที่ไม่ทำให้จิตใจสงบ ก็ถือเป็นกรรมหรือบาปอย่างนึง) ลืมบอกจุดสำคัญไปจุดหนึ่ง Introvert เนี่ยถึงจะดูไม่ค่อยชอบพูดคุยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เค้าสนใจจะสามารถคุยได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ถ้าจะให้ชัดขึ้นมาอีกหน่อยก็น่าจะบอกว่า Introvert ไม่ชอบคุยอะไรที่ไม่ลึก ไม่ชอบ chit chat แบบว่าเป็นไงบ้าง ไปเที่ยวไหนมา อากาศดีเนอะ ทำงานที่ไหน เรียนจบที่ไหนเหรอครับ แต่จะชอบคุยแนวที่ตัวเองสนใจ คุยอะไรที่ลึกต้องใช้ความคิดทำนองนี้ อย่างผมนี่ไม่ชอบคุยกะใครเท่าไหร่ แต่ถ้าคุยกันแนว VI ผมก็จ้อได้ไม่หยุดเหมือนกัน Buffett ที่ oat บอกว่าคุยโทรศัพท์ได้ทุกวันก็อาจจะเข้าข่ายนี้ คือคุยกับคนที่ตัวเองสนใจ สนิท และคุยในเรื่องที่ตัวเองสนใจ ข้อนี้เห็นด้วยครับ ผมเป็นเหมือนกัน ชอบพูดแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ อาจเป็นเพราะมีความมั่นใจในเรื่องที่สนใจมั่งครับถึงกล้าที่จะคุยกับคนอื่น :B โดย KittipongS เสาร์ ธ.ค. 01, 2012 12:41 pm

Re: Meeting Thai VI เชียงใหม่ อาทิตย์ 25 พย. ทางสมาคมมีแผนที่จะทำ meeting สัญจรบ้างไหมครับ คล้ายๆกับ ครม.สัญจร นะครับ โดย KittipongS พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 10:04 pm

Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน จริงๆ คนที่ชอบการแสดงออกด้วยการเขียน ก็เป็นหนึ่งในลักษณะของ introvert ครับ อันนี้อ่านจากหนังสือครับ จริงๆแล้วคนเราไม่สามารถเป็น introvert หรือ extrovert ได้เต็มรูปแบบหรอกครับ ผมว่าคนทุกคนมีทั้งลักษณะของ introvert และ extrovert ปนกันแหละครับ แต่คนๆนั้นมีลักษณะของ introvert มากกว่า extrovert เลยอาจจัดเป็น introvert เท่านั้นเองครับ ผมคิดว่าการที่จะประสบผลสำเร็จในเรื่องที่ตั้งใจไว้นั้นจำเป็นต้องมีลักษณะทั้งสองอย่างครับ แต่เมื่อเรารู้ลักษณะโดยรวมของตัวเองว่าเป็นแบบไหน เราก็สามารถแก้ไขจุดด้อยและพัฒนาจุดเด่นของตัวเองขึ้นได้ครับ เพื่อที่เราจะสามารถประสบผลสำเร็จในเรื่องที่ตั้งใจไว้ครับ โดย KittipongS พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 9:55 pm

Re: Introvert Extrovert กับการลงทุน ผมเป็นคนแบบ introvert ครับ หลังจากที่ผมอ่านและทำแบบทดสอบหน้าที่ 39-41ครับ จากคำถาม 20 ข้อ ผมเพิ่งเริ่มอ่านฉบับภาษาไทยครับ ผมลงทุนมาได้เกือบ 2 ปีแล้วครับ ผลตอบแทนนั้นเรียกว่าน่าพอใจครับ คือ ไม่หวือหวา แต่ที่สำคัญยังไม่ขาดทุน อาจเพราะผมยังไม่เจอของจริงมั้งครับ ลักษณะนิสัยของ introvert เช่น การไม่กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ ไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นให้คนอื่นฟัง เป็นต้น ผมคิดว่าการที่มีนิสัยแบบ introvert ที่มีผลต่อการลงทุนคือ การเป็นคนที่กลัวและไม่กล้าเสี่ยงในเรื่องที่ตัวเองคิดว่าเป็นอันตรายต่อตัวเอง ลักษณะนิสัยแบบนี้ทำให้ introvert ใช้เวลานานในการตัดสินใจเพราะต้องพิจารณาในข้อมูลต่างที่มีอยู่ให้ถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจเพราะกลัวที่จะผิดพลาด หรือการเป็นคนที่ชอบให้เวลากับตัวเองมากว่าการออกไปสังสรรค์ข้างนอกบ้าน บางคนอาจจะเรียกว่า เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง หรืออาร์ตตัวพ่อมั้งล่ะ ทำให้เป็นที่มีเวลามากพอที่จะอ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับการลงทุน รวมทั้งมีเวลากลับมาวิเคราะห์ตัวเองว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนในเรื่องการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง วินัยในการลงทุน การแกะงบการเงิน วิศัยทัศน์ในการมองธุรกิจหรือเทรน์ต่างๆที่กำลังจะมา อื่นๆมากมายครับ การเป็นคนพูดน้อยหรือไม่กล้าพูดกล้าคุยกับใครสาเหตุหลักๆอาจมาจากกลัวพูดผิดเลยต้องคิดก่อนที่จะพูดทำให้คนอื่นมองว่าเป็นนักฟังที่ดีนั้น ทำให้เราเมื่อเราอยู่ในวงสนทนานั้น เราได้รับฟังข้อมูลอย่างถ้วนถี่จากการฟัง และก่อนที่เราจะพูดหรือแสดงความคิดเห็นในวงสนทนานั้นเราคิดไว้แล้วว่าเราจะพูดอะไรออกไป ซึ่งผมมองว่าทำให้เกิดกระบวนการวิเคราห์ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งสามารถนำไปทำต่อเป็นการบ้านได้ครับ นี้คือข้อดีเท่าที่ผมคิดได้ครับ ส่วนข้อเสียก็คงแปรผันมาจากข้อดีล่ะครับ บางครั้งการที่กลัวเกินไป ทำให้ใช้เวลาในการตัดสินใจนานเกินไป ก็ทำให้เสียโอกาสในการลงทุน หรือการที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองเกินไป จนไม่สนใจใคร ทำให้ไม่มีเพื่อน รวมถึงการไม่กล้าที่จะพูดเกินไป ทำให้เสียโอกาสในการแสดงออกหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการลงทุนหรือมุมมองต่างๆครับ ซึ่งทำให้เกิดอาการ”สายตาสั้นทางธุรกิจ” (ขออนุญาตใช้หัวข้อบทความของพี่วิบูลย์ครับ) หมดแล้วครับ เท่าที่คิดได้ครับ ถ้าอ่านจบเมื่อไหร่จะมารบกวนคุณ Yoyo อีกรอบครับ โดย KittipongS พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2012 12:47 am

Re: จุดเริ่มต้นของพอรต์ร้อยล้าน เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณ deepwaterครับ ผมว่าคนโชคดีแล้วล่ะครับที่มีโอกาสทำงาน ลงทุน และดูแลพ่อแม่ ลูก ภรรยาของคุณในเวลาเดียวกัน (ผมอิจฉาครับ) ผมคิดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนหรือการมีอิสรภาพทางการเงินมันเป็นสิ่งที่ขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ล่ะคนมากกว่าครับ สำหรับผมแล้วการมีโอกาสดูแลครอบครัวเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอด ตั้งแต่เรียนจบมา 10 ปี ผมมีโอกาสอยู่บ้านดูแลครอบครัวเพียง 3 เดือนต่อปี เท่านั้น ที่ผมเริ่มลงทุนเพราะผมอยากมีเวลาดูแลครอบครัวให้มากขึ้น เป็นกำลังใจให้ครับสำหรับเป้าหมายที่คุณวางไว้ครับ ปล. ผมเพิ่งเริ่มลงทุนครับยังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ ผมยึดหลัก ถ้ารู้จักพอเพียง ทุกอย่างมันเพียงพอครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ ได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นนะครับ ขอบคุณคุณ Deepwater สำหรับกำลังใจและคำอวยพรครับ ผมหวังว่าผมจะมีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้นครับ อาชีพของผม มันคล้ายกับพวกแร่ร่อนครับ อยู่ไม่เป็นที่ครับ เปลี่ยนที่ทำงานตลอดครับ นอกจากนี้ผมหวังว่าจะมีโอกาสพบคุณ Deepwater และท่านอื่นๆเพื่อขอคำแนะนำในการลงทุนบ้างครับ โดย KittipongS พุธ พ.ย. 28, 2012 12:59 pm

Re: จุดเริ่มต้นของพอรต์ร้อยล้าน เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณ deepwaterครับ ผมว่าคนโชคดีแล้วล่ะครับที่มีโอกาสทำงาน ลงทุน และดูแลพ่อแม่ ลูก ภรรยาของคุณในเวลาเดียวกัน (ผมอิจฉาครับ) ผมคิดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนหรือการมีอิสรภาพทางการเงินมันเป็นสิ่งที่ขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ล่ะคนมากกว่าครับ สำหรับผมแล้วการมีโอกาสดูแลครอบครัวเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอด ตั้งแต่เรียนจบมา 10 ปี ผมมีโอกาสอยู่บ้านดูแลครอบครัวเพียง 3 เดือนต่อปี เท่านั้น ที่ผมเริ่มลงทุนเพราะผมอยากมีเวลาดูแลครอบครัวให้มากขึ้น เป็นกำลังใจให้ครับสำหรับเป้าหมายที่คุณวางไว้ครับ ปล. ผมเพิ่งเริ่มลงทุนครับยังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ ผมยึดหลัก ถ้ารู้จักพอเพียง ทุกอย่างมันเพียงพอครับ โดย KittipongS อังคาร พ.ย. 27, 2012 8:16 pm

Re: Meeting Thai VI เชียงใหม่ อาทิตย์ 25 พย. เสียดายเหมือนกันครับ ผมกลับเชียงใหม่ กลางเดือนธันวาครับ โดย KittipongS จันทร์ พ.ย. 19, 2012 12:31 pm

Re: นักลงทุน VI เตรียมพร้อมสำหรับความตายที่จะมาถึงในอนาคตอย่ ฟังเพลง ปล่อย ของ คุณ อ้น ธวัชชัย ชูเหมือน ครับ ลองหามาฟังดูครับ เพลง : ปล่อย ศิลปิน : อ้น ธวัชชัย ชูเหมือน ใครจะชิงใครจะชังมันก็ช่างหัวเขา แค่ตัวเรารู้เราช่างเค้าประไร ใครจะชักใครจะแช่งใครจะแกล้งใครจะหยัน ก็ให้ช่างหัวมันก็ให้ปล่อยเค้าไป ใครจะชมใครจะเชิดว่าประเสริฐเลิศหรู ตัวเรารู้เราอยู่ปล่อยเค้าชมไป ใครจะรักใครจะเกลียดใครจะเสียดใครจะสีก็เรารู้ตัวดีปล่อยเค้าทำไป.. เกิดเป็นมนุษย์สิ้นสุดแค่ตาย จะเอาอะไรมากมายในความอนัตตา โลภไปทำไมช่วงชิงแข่งขัน สุดท้ายเหมือนกันต้องไปป่าช้า จะเอาอะไรแค่รักโลภโกรธหลง ไม่มีความมั่นคงบนกิเลสตัณหา เกิดแก่เจ็บตายใยจะไปยึดมั่น สรรพสังขารล้วนอนิจจา ปล่อยวางมันเสีย ทุกโขติณณา. ใครจะเมินใครจะมองใยจะต้องไหวหวั่น ใครจะใส่ร้ายกันใยจะต้องสนใจ ใครจะดีใครจะเลวมันก็เรื่องของเขา ใครจะนินทาเราใยจะต้องทุกข์ใจ ใครจะล้อใครจะด่าใยจะต้องว่าตอบ ใครไม่สนใครไม่ชอบใยจะต้องใส่ใจ ใครจะคิดใส่ความใยจะต้องวุ่นจิต หากตัวเราไม่ผิดจะไปคิดทำไม เกิดเป็นมนุษย์สิ้นสุดแค่ตาย ประดุจดังต้นไม้ล้มทับโลกาหมดลมเมื่อไรหาประโยชน์ใดเล่า ล้วนต้องถูกเผาหามไปป่าช้าชีวิตยังมีสร้างความดีไว้เถิด ได้ไม่เสียชาติเกิด ได้ไม่ต้องอายฟ้าอันว่าความตายคือสัจธรรมของเที่ยง สิ้นสรรพสำเนียงเน่าเหม็นขึ้นมาจะเอาอะไร...จะเอาอะไรกันนักหนา... โดย KittipongS อังคาร ต.ค. 30, 2012 10:28 pm

Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ Test โดย KittipongS พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2012 8:16 am

Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ Test โดย KittipongS พุธ ก.ย. 12, 2012 9:24 pm

Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ Test โดย KittipongS อังคาร ก.ย. 11, 2012 9:36 pm