Re: ด่วน การรับสมัครสมาชิกของสมาคมอย่างเป็นทางการ เห็นด้วยทุกประการไม่ว่าพี่ทีมงานจะมีข้อสรุปอย่างไรก็ตาม คิดว่าความเห็นที่ขัดแย้งของหลาย ๆ ท่านที่เสนอมาล้วนมีเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบกระเทือนถึงกำลังใจของทีมงานที่เสียสละเวลากำลังกายกำลังใจกำลังทรัพย์ ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้มาตลอด ทราบว่าตลอดมาทีมงานเหนื่อยยากและผ่านอุปสรรคมามากมายกว่าจะมาถึงวันนี้ จากนี้ต่อไปก็ขอให้กำลังใจให้ทีมงานเข้มแข็งไม่ย่อท้อต่อคำครหาต่าง ๆ ขอให้มั่นคงเป็นเสาหลักของนักลงทุน VI ต่อไป ผมมีความกังวลเพียงเล็กน้อยคือทำอย่างไรจะรักษาคนดีมีคุณภาพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด และขอให้มีการเปิดรับสมัครทาง e-mail โดยเร็ววันด้วยครับ โดย izicado ศุกร์ มิ.ย. 29, 2012 10:54 am

Re: เผื่อใครยังไม่ได้ดู ตัวอย่างของการเป็นทั้งคนเก่ง และ คนดี ใจกว้างใจใหญ่แบบนี้ ก็ขอให้รวยต่อ ๆ ไป ทุก ๆ ชาติ ครับ โดย izicado พุธ ต.ค. 12, 2011 3:52 pm

Re: VI สายธรรมะ แนวพุทธปัญญา ... จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ... ระยะนี้ vi สายธรรมะ ไม่ทราบปล่อยวางเรื่องหุ้นตกได้หรือเปล่า น่าจะเครียดน้อยกว่า vi สายอื่นๆ......5555 นอกจากฝึกจิตแล้ว หมั่นออกกำลังกายกันด้วยนะครับ โรคภัยจะได้ไม่มาเบียดเบียน :) --------------------------- ความรู้ คู่คุณธรรม สบายครับ ช่วงตลาดดี ๆ ก็ทะยอยลดพอร์ทแบบเป็นธรรมชาติ ช่วงตลาดแย่ ๆ มี panic ก็เข้ามาเก็บของสบาย ๆ ไม่เร่งรีบทะยอยเก็บเล็กผสมน้อย อยากซื้อรู้ว่าอยากซื้อ อยากขายรู้ว่าอยากขาย สุดท้ายก็ทำไปตามเหตุตามผลตามสมควรครับ ส่วนเรื่องการออกกำลังกายผมอาศัยการเดินจงกรมวันละ 1-2 ชม. พอเหมาะกับสภาพร่างกายและวัย โดย izicado จันทร์ ต.ค. 10, 2011 10:09 pm

Re: บางทีก็เบื่อกับการกด ลบ ใน Thai VI... ผมชอบโพสเรื่องราคา ความถูก แพงของหุ้น ผมชอบบอกว่าผมซื้อหรือขายหุ้นแล้วนะ ผมถูกลบบ่อยมาก555 ของพี่ yoko นี่พิเศษไม่เหมือนใคร ผมคิดว่าพี่ตั้งใจโพสต์เน้นเอา ฮา เป็นพิเศษ ผมอ่านของพี่ทุก ๆ โพสต์ รู้สึกว่าพี่เป็นคนอารมณ์ดีมาก ๆ อ่านแล้วขำ ก็คิดว่า อันนี้ก็โดนลบอีกแน่พอผ่านไปสัก 2-3 ชม. พี่ก็โดนครบ 3 เม็ด ส่วนอันไหนที่โดน hide ไปแล้วผมก็ไปเปิดดูตลอด ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องพูดคำนั้นแน่ ๆ ฮ่า ๆ ตลกดีครับ :D โดย izicado อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 9:12 pm

Re: บางทีก็เบื่อกับการกด ลบ ใน Thai VI... กดลบมันมีหลายสาเหตุ ถ้าหากเราไม่ได้โพสต์ผิดกฏ แล้วโดนกดลบก็คงเพราะโพสต์ไม่ถูกใจอย่างที่พี่ Rocker ว่า เป็นธรรมดาครับผมก็โดนกดลบบ้าง บางทีที่เราเอาความคิดตัวเองมาแชร์ หากเรามีเจตนาดีแม้จะโดนกดลบ ก็ทนไปถือว่าถูกกดลบเพื่อสังคมครับ :D เราก็อาศัยอยู่ในนี้ได้รับประโยชน์มากมาย เรามีไอเดียอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ก็เอามาแชร์คืนกลับ อย่าไปใส่ใจว่าจะถูกกดลบเลยครับ ถ้าพี่ aonzzung ไม่สบายใจ ไม่อยากโพสต์ก็ไม่เป็นไรครับเอาที่สบายใจเข้าว่า แต่มันก็น่าเสียดายที่ความหลากหลายทางความคิดหายไป 1 เสียง โดย izicado อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 12:03 am

Re: เราควรลงทุนด้วยการ Timing Market หรือไม่ ตามตำรา ก็ว่า 5-6 ตัวจะดี แต่ผมคิดว่าสำหรับประเทศไทยในช่วงเวลาที่กำลังจะเร่งเท้าก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้มากขึ้นนี้ การถือหุ้น 15 ตัวถือว่า "ได้มากกว่าเสีย" ผมคิดว่า ผลตอบแทนของการถือหุ้น 15 ตัวในไทยปัจจุบัน มี potential ที่จะได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับ focus หุ้น 5-6 ตัว เพราะ Growth Stock ค่อนข้างมีให้เลือกเยอะมาก มีหุ้นมากมายที่ดูดี เติบโตมาก ๆ เหมือนกัน แล้วทำไมเราต้องเลือกแค่ 5-6 ตัว เนื่องจากเราเน้นการลงทุนในระยะยาว ถ้าเราเลือกหุ้น 5-6 ตัว เราอาจพลาดหุ้น 10 เด้งก็ได้ เพียงแค่หุ้นในโหมด COMM ที่เติบโตมาก ๆ ก็เกิน 4-5 ตัวไปแล้ว หุ้นกลุ่มยานยนต์ที่มีอนาคตก็หลายตัว นอกจากนี้ กลุ่มนิคมดี ๆ หากจะคัดออกมาแค่ตัวเดียวผมว่ามันเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ฯลฯ แล้วยังมีกลุ่มที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกเช่นพวก Developer ก็มีดี ๆ มากกว่า 1 ตัวแน่นอนอ่ะครับ CEO ทุกบริษัทต่างทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ พยายามจะขยายทั้งแนวดิ่งแนวราบ อะไรก็ตามที่สร้างประโยชน์ให้บริษัทมากที่สุด บริษัทบางบริษัทในนาทีนี้ อาจดูเป็นรองอีกบริษัทอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังพัฒนาตัวเองไม่หยุด ไม่แน่เขาอาจเบียดขึ้นมาแล้วโตได้พอ ๆ กันหรือแซงแล้วฉีกตัวนำห่างออกไป ก็ไม่มีใครรู้ ทุกคนกำลังสู้ครับ มีบริษัทจำนวนมากกำลังสู้เพื่อให้ได้ Earning ดีที่สุด และสำคัญกว่านั้นผมคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่ลดความเสี่ยงลงไปได้มาก สมมุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราคงไม่คาดคิดว่านิคมที่อยู่ด้านอยุทธยาจะเสี่ยงถูกน้ำท่วม เพราะปัญหาน้ำท่วมมีมาหลายปีแต่ไม่เคยต้องกังวลเราอาจพลาดก็ได้เช่นปีนี้ ความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมนี่แบบว่าจัดหนัก ในขณะที่นิคมฝั่งภาคตะวันออกก็ยังชิว ๆ กันอยู่ ในบ้านเราสถานการณ์ปัจจุบัน การลงทุนในหุ้น 15 ตัว เราสามารถคาดหวังความมั่นคงระดับสูง แต่ก็ยังสามารถลุ้นผลตอบแทนในระดับดีเยี่ยมได้อยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าจะหมดลุ้นไปเลยเสียทีเดียว โดย izicado เสาร์ ต.ค. 08, 2011 2:40 pm

Re: หุ้นเอเซีย ดีดกลับ-they’ll jump like a fox ถ้าหากว่าเราสามารถคาดการณ์ตลาดได้ ปีเตอร์ ลินช์ หรือ ปรมาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็พูดผิดกันหมด หรือไม่ ตลาดในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปแล้ว จากคาดการณ์ไม่ได้ กลายเป็นคาดการณ์ได้.. ถ้าเราคิดว่าตลาดคาดการณ์ได้ เราก็ต้องลงทุนในรูปแบบหนึ่ง ถ้าเราคิดว่าตลาดคาดการณ์ไม่ได้ เราก็ต้องลงทุนอีกแบบนึงตามสมมุติฐานของเรา โดย izicado ศุกร์ ต.ค. 07, 2011 4:47 pm

Re: ถ้าGDP ของประเทศ มันโตเพิ่มขึ้นทุกปีแสดงว่าประเทศเราโตขึ มีเพียง 2 สิ่งที่จะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาว 1. เลือกหุ้นผิด 2. ซื้อ ๆ ขาย ๆ มากเกินไป โดย izicado พฤหัสฯ. ต.ค. 06, 2011 8:51 pm

Re: ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอก พี่ harikung ที่ว่ารอบ ๆ ตัว พี่เชื่อว่าไม่ดีนั้น ลองเอามาแชร์กันว่าอะไรเป็นอย่างไร ส่วนผม แฟนทำงานในบริษัทนำเข้าเหล็กส่วนมากนำมาผลิตรถยนต์ กำไรครึ่งปีทะลุเป้าของปีแล้ว กำไรเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ตั้งบริษัท ในขณะที่บริษัทในย่านนิคมอมตะคึกคักมาก เฟสใหม่ขึ้น รถติดมาก ๆ ส่วนผม อยู่ในเขตนิคมแหลมฉบัง คนเยอะครับ บรรยากาศดีกว่าตอน subprime มาก ตอนนั้นโล่งเงียบเลยทีเดียว เพื่อนผมในสายวิศวะกรรม ยังไม่มีใครบ่นกังวลในความมั่นคงด้านอาชีพการงาน กระทั่งคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมสายอิเล็คทรอนิค บ้านพ่อแม่ผมที่ ลำปาง การค้าการขายคึกคัก กิจกรรมแน่นมาก จะมีอุปสรรคก็ตรงฝนตกน่ะครับ ผมคิดว่าทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ และ บรรยากาศรอบ ๆ ตัว ยังดีอยู่ ที่หุ้นลงนี้ผมว่ามันเป็นคาดการณ์ในอนาคต 6-12 เดือนข้างหน้า จะเห็นว่าหุ้นบางตัวราคาลงมาเยอะมาก แต่ P/E ก็ยังลงมาได้ไม่มาก เช่นจาก 10 เป็น 8 หรือจาก 14 เป็น 11 ผมไม่กลัวในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่อนาคตข้างหน้ามันคาดการณ์ยาก ลองนึกดูว่า สงกรานต์ปีหน้า บรรยากาศจะคึกคักมั้ย จะมีคนเยอะ คนแน่น นักท่องเที่ยวตรึมมั้ย ดัชนีตลาดหุ้นตอนนี้น่าจะกำลังคาดเดาสถานการณ์ในจุดนั้นมากกว่าครับ โดย izicado ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 8:55 am

Re: ฟ้าหลังฝน มักจะสวยงามเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ VI ทุกๆคนครับ ตลาดหุ้นมีอุปสรรคและกับดักมากมาย คนที่จะผ่านไปได้ต้องช่วยเหลือตัวเองได้ครับ ต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง ขอให้โชคดีทุกท่านครับ โดย izicado พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 12:27 pm

Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ ขอบคุณพี่ NB ครับ ได้อ่านบทความดี ๆ จากพี่บ่อย ๆ ผมชอบบรรยากาศช่วงนี้มากครับ เพราะคนระมัดระวังตัวตั้งใจขยันทำงานกันมาก เริ่มมองเห็นว่างานประจำเป็นสรณะประจำใจ ดีกว่าช่วงก่อนที่มีคนอยากลาออกมาเปิดพอร์ทกันมาก ผมคิดว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนนี้ เป็นผลดีกับประเทศไทยเราในระยะยาว(และแน่นอนว่าส่งผลดีกับตลาดทุนด้วย) ประเทศเรายังพัฒนาไปได้อีกไกล ย่ำฐานตรงนี้ให้ปึ้กอีกสักนิดจะเป็นไร :) ผมความรู้คับแคบไม่เข้าใจว่าคนทั้งโลกคิดยังงัย คนทั้งโลกชอบเก็งกำไรเหมือนบ้านเรามั้ย แต่ผมพอจะรู้จักนิสัยคนไทยในบางส่วนนิดหน่อย เป็นธรรมดาครับสำหรับคนไทยบางกลุ่ม มีพุทธศาสนาให้ศึกษา ก็ไปนับถือ เจ้าที่, ผี หรือ เทวดา ส่วนการลงทุน มีงบการเงินให้ดู มีธุรกิจให้ศึกษามากมายไม่สนใจ แต่ไปดู เจ้ามือ กัน ว่าวันนี้เจ้าเค้าจะเล่นยังงัย ที่จริง vi ช่วงนี้เอาตามจริงคือ ไม่ใช่แค่โดนดูถูกธรรมดาหรอกครับ โดนมองว่าเป็นผู้ร้ายด้วยนะ มองว่าเราพาให้คนอื่นไปติดหุ้นก็มี โดยส่วนตัวไม่คิดอะไร ก็แค่รับรู้ไว้ว่าเค้าคิดยังงัยกับเรา เราก็มีแต่ความจริงใจให้ ถ้าไม่พอใจก็ไปหาคนอื่นก็ได้ โดย izicado พุธ ก.ย. 28, 2011 11:07 pm

Re: ผมว่า...มีการเข้าใจผิด เรื่องขายเพราะอารมณ์และ panic ผมพูดตรงๆเลยไม่กลัวแม้แต่นิดผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนอย่างน้อยมีสติพอ ถึงจุดนึงยังไงก็ต้องมีสติ เพราะอารมณ์มันแค่ชั่ววูบ แต่หากเป็นการบงการ การ manipulation ผมบอกเลยบ้านเราอาการหนัก พวกนี้ ดินปืนเค้ามากมาย ขนาดล้มแบงค์อังกฤษได้ ค่าเงินไทยเราก็โดนมาก่อน เอาอะไรกะแค่นี้ เป็นของเล่นพวกมัน ถูกของพี่ วรันศ์ บัฟเฟต น่ะครับ ผมจึงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง ถ้าเราโดนโจมตีมาก ๆ จนแย่ขนาดนั้นมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะมีโอกาสน้อย ทว่าเราสามารถจะเปลี่ยนวิกฤตนั้นเป็นโอกาสได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงนะครับ โดย izicado อังคาร ก.ย. 27, 2011 9:44 am

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ เหมาะสมมากครับ สมมุติว่าเราทำธุรกิจเอง ธุรกิจง่าย ๆ หลายอย่างยังต้องใช้เวลาคืนทุนเป็น ปี ๆ ตลาดหลักทรัพย์ให้เรามีโอกาสได้ซื้อกิจการดี ๆ ในราคาถูก ทำไมจะไม่ซื้อล่ะ แต่ต้องใจเย็นหน่อยใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ โดย izicado อังคาร ก.ย. 27, 2011 9:38 am

Re: นักวิเคราะห์ทางเทคนิค แนะนำ ยืมหุ้นมาช็อต คิดยังไง ครับ ผมคิดว่า การลงทุนเน้นปัจจัยพื้นฐานนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรถึงขนาดนั้น พวกการยืมหุ้นมาขาย หรือการ S Tfex ถ้าหากเรามองว่าเศรษฐกิจโลกแย่มากจนในที่สุดพื้นฐานหุ้นเราจะต้องเปลี่ยนแน่นอน แค่ขายหุ้นที่เราถืออยู่เพื่อ lock profit หรือ cut loss ก็เพียงพอแล้ว ทีนี้พอเราขายหุ้นตัวเองไปแล้ว แล้วยังจะไปยืมหุ้นคนอื่นมาช็อร์ตอีก มันก็อาจจะดูเหมือนว่าใจคอเรา จะเอา จะเอา อย่างเดียว เรามีเหตุผลสมควรให้ทำแบบนั้นจริง ๆ หรือมันเป็นเพราะความโลภหรือทำเพราะความโกรธแค้นว่าจะต้องเอากำไรคืนก็ไม่ทราบ ถ้าไม่นึกถึงหลักความพอเพียงบ้างเลย จะไปทำเหมือนโฆษณาที่ว่า หุ้นขึ้นก็เฮ หุ้นลงก็เฮ แบบนั้นหรือครับ ทว่าหากการใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น มันช่วยพัฒนาระดับความมั่นคงทางจิตใจหรือความนิ่งของเราไปด้วย ผมว่าเครื่องมือนี้ก็มีประโยชน์ แต่ถ้าหากยิ่งทำยิ่งรวนคือทำแล้วร้อนใจขึ้น แบบนี้ก็เหมือนสุมไฟใส่ตัวเองครับ ต่อให้ได้ผลตอบแทนดีขึ้นก็อาจจะไม่คุ้ม เพราะเราได้เงินมากขึ้นแลกมาด้วยการเบียดเบียนความสุขความสงบของตัวเอง อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าหากใครทำแล้วประสบความสำเร็จผมก็ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วยครับ โดย izicado จันทร์ ก.ย. 26, 2011 8:16 am

Re: VI สายธรรมะ แนวพุทธปัญญา อนุโมทนา พี่ The Kop 71 เผยแพร่ การปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่อเทียน ที่เน้นการรู้สึก กายขยับให้รู้สึก ใจขยับให้รู้สึก สาธุ ในเรื่องการลงทุน VI จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนในธุรกิจที่ผิดศีลอย่างชัดเจน เพราะว่าเราลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นถ้ากิจการเราฆ่าสัตว์เราก็... ไม่รอดครับ ข้อสังเกตอีกอย่างของผม ธุรกิจบางอย่างที่ผูกพันธ์ใกล้ชิดกับธุรกิจที่ส่งเสริมการผิดศีลมาก ๆ เราก็ควรพิจาณาไม่ลงทุนครับ อย่างเช่นธุรกิจบางอันขายขวดเบียร์ ถ้าธุรกิจจะโต เราก็จะต้องมุ่งหวังให้เบียร์ขายดีด้วย แบบนี้ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะกับ VI สายพุทธเช่นกันครับ โดย izicado เสาร์ ก.ย. 24, 2011 9:44 am

Re: หุ้นที่ร่วง มากกว่า 20% ในรอบ 1-3 เดือนที่ผ่านมา หลักการช้อนหุ้นของผม ขออนุญาตนำมาแชร์ครับ ผมใช้หลักการง่าย ๆ ที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผลพอสมควรครับ คือ "ทะยอยรับ" ครับ สมมุติเรามีหุ้นอยู่ 30% มีเงินสดอยู่ 70% เวลาหุ้นลงหนัก ๆ เมื่อมี panic อย่างวันแรกผมก็รับไป 10% วันที่สองก็รับไปอีก 10% คือผมเข้าใจว่าหลักการง่าย ๆ ที่เราอาจทำไม่ได้กันเพราะเราไปมองต้นทุนหุ้นที่เรามีอยู่หรือเปล่าครับ ถ้าเรามองต้นทุนที่เรามี เราจะเกิดความรู้สึกว่าต้องรีบซื้อเยอะ ๆ จะได้เฉลี่ยให้ราคาต้นทุนลงมาต่ำ ๆ พอไปมองต้นทุนเดิมก็ทำให้เราเร่งซื้อเกินไปครับ ทีนี้เพราะว่าไม่มีใครรู้ว่าหุ้นจะลงไปถึงไหน ถ้าหากเงินเราหมดแล้ว หุ้นยังลงต่อ ก็จะเกิดอาการอึดอัดครับ ไม่สบายใจ แล้วก็เริ่มเซ่นซ่าน ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ได้ข่าวนู่นข่าวนี้ใจหายใจคว่ำ สุดท้ายมันจะเสี่ยงมาก ๆ ที่จะได้ไปขาย low แต่ถ้าหากเรายังมีเงินสด เวลาที่หุ้นมันลงต่อไปอีก เราจะมีความรู้สึกมั่นใจ แล้วจะมองเห็นว่ามันเป็นโอกาส เมื่อหุ้นเริ่มตั้งหลักได้ดีแล้วก็ค่อยซื้อเพิ่มอีกทีก็ได้ ทีนี้สมมุติว่าหากมัน panic ระยะสั้นแล้วราคามันเด้งกลับไว พอเรารับมาแค่ 10% จะไม่เป็นการเสียโอกาสเหรอแทนที่จะได้ 70% เต็มพอร์ท ผมคิดว่า เราลงทุนซื้อเพิ่ม 10% ของพอร์ทในราคาที่มีส่วนลดมาก ๆ แบบปัจจุบัน เมื่อราคากลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหุ้น 10% ที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็สามารถสร้าง wealth ให้เราได้มากแล้วนะครับ ถ้าเทียบว่าหุ้นค่อย ๆ ขึ้นตามผลประกอบการแบบไม่มี fluctuation ผมเชื่อว่าการถือเงินสดเอาไว้บ้างนั้นมีประโยชน์ในภาวะที่ตลาดหุ้นค่อนข้างสะท้อน fair value เหมือนในช่วงที่ผ่านมา เพราะว่าหุ้น มันก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างนี้มาตลอดเวลา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วล่ะครับ ดังนั้นเราต้องบริหารความเสี่ยงด้วย เพราะเราไม่ใช่นักวิเคราะห์ครับ นักวิเคราะห์มีเงินเดือน แต่เราไม่มีเงินเดือน แน่นอนว่า เราต้องทำการบ้านมาให้ดีที่สุดในหุ้นที่เราติดตามครับ ซึ่งก็ต้องเป็นหุ้นที่เรามั่นใจว่าจะสามารถผ่านวิกฤตไปได้แน่นอน ผมลงทุนด้วยหลักการง่าย ๆ ครับ ซึ่งบางทีก็มีบ้างเหมือนกันที่ผมเองชอบทำ ของง่ายให้เป็นยาก ก็ต้องฝึกสติควบคู่กันไปด้วยครับ เพื่อให้ได้ performance ที่ดีพอสมควรต่อเนื่องยาวนาน กลับเข้าประเด็นของเจ้าของกระทู้ ผมคิดว่าหุ้นที่ลงเยอะ ๆ ในช่วง 2 วันนี้ก็มี SNC SYNEX STA โดย izicado เสาร์ ก.ย. 24, 2011 9:21 am

Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผมคิดว่าบทความนี้ หลักใหญ่ใจความอยู่ที่ "ท่านดร. เตือน VI ไม่ให้ประมาทน่ะครับ" โดย izicado อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 10:23 pm

Re: JAS [เฉพาะวันที่ 24 - 25 FEB 2011] เชิญคุยกันที่นี่ชั่วค เผอิญมีเก็บไว้ครับ ผู้โพสต์คือคุณ mr-risky ครับ มีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยอย่างไร ต้องรบกวนพี่ๆ ในห้องนี้ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ครับ -------------------------------- ระเบิดลูกนี้เป้นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น จะมีระเบิดลูกใหญ่กว่านี้หลายเท่า เนื่องจาก 1.บริษัท รับรู้รายได้จาก tot ไปแล้ว ตามหลักการบัญชี ที่มีการรับรู้รายได้เข้ามา แต่เงินยังไม่เข้าบริษัท แต่ไปคงอยู่ในบัญชีลูกหนี้ ซึ่งมูลหนี้นี้มีรวมราวๆ 2000 ล้านบาท ที่มีอายุมากกว่า 12 เดือนที่ยังไม่มีการจ่ายเป็นตัวเงินเข้ามาเลย และไม่เคยมีการตั้งสำรองหนี้ศูนย์ว่ามีโอกาสจะไม่ได้เงิน มีวิธีการแก้ปัญหามีหลายแนวทาง จะพูดคุยลดหนี้ ฟ้องร้อง หรืออื่นๆ ไม่ได้เป็นสาเหตุให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรในอนาคตเปลี่ยนแปลงอะไร 2.ยังมีหุ้น tt&t ให้บันทึกขาดทุนอีกก้อนมหึมา โดยคราวก่อนตั้งสำรองที่ราคา 0.43 บาท แต่ตอนนี้หุ้น tt&t มีค่าเพียง 0.30 บาท ถ้าพูดว่ามหึมาก็ดูจะเกินไป ยังงัยก็ไม่มากกว่าที่บันทึกไปใน Q4 3.เรื่อง ฟ้องร้องอีกมากมาย โดยเฉพาะกับ tot และ tt&t ที่คราวก่อน ตั้งบริษัทลูก 3BB แล้วมีการถ่ายโอนทรัพย์สิน และโยกย้ายพนักงานมาบริษัทใหม่ โดยบริษัท tt&t ที่ก่อตั้งไม่ได้อะไร แถมให้ tt&t รับภาระค่าใช้จ่ายแต่เพียงผู้เดียว แต่ 3BB รับรู้แต่รายได้อย่างเดียว และขณะนี้ 3BB ก็ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าวงจรให้กับ tt&t ก็ดำเนินงานมา 2 ปีกว่าแล้วนี่ครับ โอกาสจะเกิดปัญหาต่อการดำเนินงานมีมากเท่าไร จะรุนแรงถึงขนาดถูกระงับการดำเนินกิจการหรือไม่ ถ้าหากแพ้คดีถูกฟ้องร้องมีโอกาสจะต้องชดใช้เงินเท่าไร 10 ล้าน 100 ล้าน หรือ 1000 ล้านหรือมากกว่า แล้วจะเกิดขึ้นเมื่อไร ปีนี้ ปีหน้า อีกสองปี หรืออีก 5 ปี 4.เรื่องสัมปทานจาก กสทช. ว่าในอนาคตต้องมีกฎระเบียบเข้มงวดอีกมาก ความกลัวนี้เหมือนกลัวเพราะอยากจะกลัว 5.เรื่องความโปร่งใส และธรรมภิบาลของบริษัท อย่า พูดถึงแต่เรื่องกำไร หรือว่าจำนวนลูกค้าโตอย่างงั้นอย่างงี้อีกเลย เพราะกำไรอาจจะโตจริง แต่หุ้นขึ้นมารับราคา 400-500% แล้วจากราคา 0.4 บาท คนที่มีต้นทุนต่ำๆยังมีทางหนีทีไล่ได้อีกสบายๆ แต่คนที่เข้ามาใหม่ ตอนนี้ต้องดูความเสี่ยงให้มากๆ อันนี้ไม่น่าจะถูกต้องครับ เอาหุ้นขึ้น 400-500% มาโยงสื่อว่าจะไม่โปร่งใส หรือธรรมภิบาลไม่ดี คืออันนี้ราคาปัจจุบันก็ไม่ได้พึ่งขึ้นมาวันสองวัน ตามมาตรฐานบัญชีขณะนี้เลย p/e ก็คือ 20 เท่า ไม่น่าเกลียด แล้วหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่ขึ้นมามากกว่า 400-500% มีถมไปครับ โปรดใช้วิจารณญาณครับ โดย izicado พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 9:43 pm

Re: JAS [เฉพาะวันที่ 24 - 25 FEB 2011] เชิญคุยกันที่นี่ชั่วค ผมว่าทัศนคติในการลบ post ที่เสนอปัจจัยเสี่ยงของหุ้นทุกตัวนะครับ เป็นอันตรายร้ายแรงต่อคุณภาพของเว็บบอร์ด บางทีอาจจะมีโทษมากกว่าการชี้นำนะครับ เพราะว่าการชี้นำเนี่ย เรายังใช้วิจารณญาณของตัวเองได้ คนทำการบ้านเยอะๆ จะต้องกลัวอะไรครับ แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ผมไม่ได้สนับสนุนการโพสชี้นำนะครับ แค่อธิบายว่ามันอันตรายน้อยกว่า แต่การตามลบโพสต์ที่นำเสนอปัจจัยเสี่ยงนี่เป็นการปิดหูปิดตากันเองแบบตั้งใจนะครับ แทนที่จะได้แชร์ข้อมูลกันได้ครบสมบูรณ์ แล้วอีกหน่อยคนที่มีความหวังดีเค้าก็ท้อแท้หมดกำลังใจ เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วงกว่าหรอครับ โดย izicado พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 6:50 pm

Re: สรุปงานสัมนา 15 มกราคม แนวโน้ม ศกและหุ้นไทยปี 54 ขอบคุณมากๆครับ โดย izicado พุธ ก.พ. 02, 2011 2:32 am

Re: !! บริษัท Thailand ตัวนี้ ควรมี PE ที่เท่าไหร่ !! ด้วยความไม่แน่นอนในหลายๆอย่าง ผมให้ 10-12 ครับ ความแน่นอนคือ ความไม่แน่นอน ส่วนตัวชอบกระทู้นี้ครับ เป็นเรื่องที่ควรจะคิดถึงจริงๆ พอดีท่านแม่ทัพก็เขียนเรื่องที่สอดคล้องกันผมเห็นว่ามีประโยชน์ลองอ่านตาม link นี้ครับ http://dekisugi.net/archives/7745 (ลงทุนในฟองสบู่) โดย izicado เสาร์ ม.ค. 01, 2011 12:29 pm

Re: !! บริษัท Thailand ตัวนี้ ควรมี PE ที่เท่าไหร่ !! ผมให้ 15 ครับ ที่ผ่านมาเราพิสูจน์ตัวเองไปเยอะแล้ว crisis ต่างๆที่ผ่านมาคิดว่าไม่น้อยนะ คร่าวๆ เรื่องน้ำมันแพง hamburger และ หนักสุดก็การเมือง เหมือนเครื่องบินที่เครื่องยนต์ดับแทบสนิทไปเครื่องหนึ่ง เราก็ยังประคับประคองกันมาได้ เศรษฐกิจของเรามีความหลากหลายมานาน ยังมี potential อีกเยอะ ถ้าจะมีวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศอีกครั้งนึงคิดว่าไม่น่าจะเกิดที่ระดับนี้ยังต้องใช้เวลาสะสมฟองสบู่อีกหลายปี หรืออาจจะเป็นสิบๆปี คิดว่าเราก็แข็งแกร่งระดับหนึ่งครับ ผมไม่ทราบว่าจะมอง downside ยังงัย อยากฟังผู้เชี่ยวชาญด้าน downside เหมือนกันครับ คอยฟังอยู่ โดย izicado เสาร์ ม.ค. 01, 2011 9:57 am

Re: StockAnalysis เวอร์ชั่นผมเองครับ ดูง่ายดีครับ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันครับ โดย izicado เสาร์ ม.ค. 01, 2011 9:35 am

Re: แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล รบกวนขอด้วยครับ ขอบคุณอย่างสูงครับ [email protected] โดย izicado อาทิตย์ ธ.ค. 05, 2010 3:02 am

Re: EPS16YEAR อับเดทงบ Q3 2010 เสร็จแล้ว รบกวนขอไฟล์ด้วยครับ [email protected] ขอบคุณอย่างสูงครับ โดย izicado พุธ ธ.ค. 01, 2010 9:35 pm

Re: 1เด้ง 2เด้ง 3เด้ง 5เด้ง 10เด้ง สำหรับการลงทุนเราต้องมองเป็นแบบระยะยาวให้ได้ครับ ต้องมีความอดทน มีความขยัน และ มีสติ เราเพียงแต่มีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และมีวินัยก็พอครับ การคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนสูงๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาสั้นๆ ใครทำได้ผมขอแสดงความยินดีด้วย แต่โดยมากความคิดนี้มักจะเป็นอุปสรรคต่อการได้รับผลตอบแทนที่ดี หรืออาจเรียกว่ามันแปรผกผันกัน :) ในทางธรรม ครูบาอาจารย์ของผมสอนว่า " คนเรามักจะไม่พอใจ และคิดว่าผลที่ได้นั้นไม่สมควรแก่เรา แต่ในความจริง ผลที่ได้จะสมควรกับเหตุเสมอ " โดย izicado อังคาร พ.ย. 30, 2010 6:58 pm

Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน 30% ครับ ความคิดของผมการเมืองสำคัญกับหุ้นกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจ โดยเป็นที่รู้กันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี จำเป็นต้องอาศัยการเมืองที่มีเสถียรภาพ ดังนั้นการเมืองที่ง่อนแง่นจะกระจายความเสียหายไปสู่หุ้นทุกตัวมากบ้างน้อยบ้าง ยกตัวอย่างตรงนี้ผมจะหาดูว่าหุ้นตัวไหนที่สามารถรับมือกับปัญหาการเมืองได้ดีมี Growth ต่อเนื่อง หรือหุ้นตัวไหนที่อั้นมาเต็มที่และพร้อมจะระเบิดกำไรเป็นพลุแตกเมื่อการเมืองลดท่าทีที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญทางเศรษฐกิจ ผมคิดว่าการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งระยะสั้นและต่อเนื่องไปเป็นระยะยาว โดยเฉพาะการเมืองไทย ถ้าสามารถทำความเข้าใจให้กระจ่างได้แล้วน่าจะมีนัยยะกับประสิทธิภาพในการลงทุนครับ โดย izicado ศุกร์ พ.ย. 26, 2010 3:12 pm