หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Value_chain
แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป... เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง
Joined: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 7:56 pm
92
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Value_chain
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: *อีก 1 วันเท่านั้น* งานสังสรรค์ VI Q4/56 "วิถีวีไอ"
Value_chain / สมาชิกสมาคม / 1ที่นั่ง / 1,170.00 บาท / SCB / 038-445663-0 / 0:46
โดย
Value_chain
เสาร์ มี.ค. 22, 2014 12:50 am
0
0
Re: DVD งาน 10 ปี Thai VI สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ ++วันสุดท้าย
Value_chain / 1 ชุด/ 550.01บาท /KBANK / 807-2-04171-9 /19.45 น. ส่ง นาย สิงหาสน์ ตันติภนา 61 ถ.จุติอนุสรณ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
โดย
Value_chain
อาทิตย์ ก.ย. 22, 2013 10:59 pm
0
0
Re: จอง THANI Company Visit
ขอจอง 1 ที่ครับ
โดย
Value_chain
เสาร์ ก.ค. 27, 2013 4:11 am
0
0
Re: จอง “10ปี Thai Vi 60ปี ปูชนียาจารย์ วงการตลาดทุนไทย” 400
Value_chain/ สมาชิกสมาคม / สุพัฒน์ สุวรรณการ / บุคคลทั่วไป / 2 ที่นั่ง / 3,300 บาท/ BBL / 152-4-35144-0/ 13.01 น.
โดย
Value_chain
อังคาร ก.ค. 23, 2013 1:13 pm
0
0
Re: จอง WORK Company Visit
ขอจอง 1 ที่ครับ
โดย
Value_chain
ศุกร์ ก.ค. 05, 2013 11:59 pm
0
0
Re: ประกาศชื่อผู้ที่จองได้และมีสิทธิ์โอนเงิน สังสรรค์ VI Q4/
Value_chain/ สมาชิกสมาคม /กฤตสัมพันธ์ พัฒนพิโดร /บุคคลทั่วไป/ 2 ที่นั่ง /2,470.99 บาท / KBANK / 18-02-2555/ 21:35
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.พ. 18, 2013 11:39 pm
0
0
Re: งานสังสรรค์ VI Q4/55 "เจาะเคล็ดวิชาฝ่าวงล้อมวิกฤต"
Value_chain/ สมาชิกสมาคม /กฤตสัมพันธ์ พัฒนพิโดร /บุคคลทั่วไป/ 2 ที่นั่ง
โดย
Value_chain
ศุกร์ ก.พ. 15, 2013 9:59 am
0
0
Re: จอง BIGC Company Visit ได้ในกระทู้นี้
จอง 2 ที่ครับ ขอโทษครับ ขอลดเหลือ 1 ที่ เพิ่งเห็นไปได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ขอบคุณครับ
โดย
Value_chain
พุธ ก.พ. 13, 2013 9:33 am
0
0
Re: จอง BIGC Company Visit ได้ในกระทู้นี้
จอง 2 ที่ครับ
โดย
Value_chain
พุธ ก.พ. 13, 2013 9:25 am
0
0
Re: ณัฐชาต คำศิริตระกูล(Mario) เซียนหุ้น'วีไอ'ปันผลหลักล้านต
:cool: :cool: :cool: กานต์เป็นคนที่นิสัยดีมาก จิตใจดี หน้าตาดี ทุ่มเท และเสียสละทำงานให้กับสมาคมฯ สังคม ส่วนรวมอย่างเต็มที่ ได้ยินว่าช่วงตอนตั้งสมาคมใหม่ๆ งานหนักมาก กานต์ ถึงกับกินอยู่ที่สมาคมฯ เพื่อทำให้พวกเราและเพื่อนๆ ใน ThaiVI ได้ใช้ประโยชน์เว็บ ประโยชน์สมาคมฯ ได้อย่างราบรื่น คนๆ นี้เป็นกรรมการคนสำคัญที่ทุ่มเททำงานเบื้องหลังอีกคนหนึ่ง ที่พวกเราควรปรบมือให้ครับ ขอให้กานต์และครอบครัว มีความสุข สงบ พบเจอกับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตตลอดไปครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับพี่ตี่ พี่กานต์เป็นคนขยันและทุ่มเทให้กับสมาคมอย่างมากจริงๆ :D
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2012 5:12 pm
0
1
Re: ประกาศรายชื่องานสังสรรค์ VI Q3/55 "จากดักแด้เป็นผีเสื้อ"
ขออนุญาตถอนชื่อ เนื่องจากติดภารกิจต้องไปต่างจังหวัดกระทันหันครับ ขอโทษด้วยนะครับที่แจ้งช้า
โดย
Value_chain
จันทร์ พ.ย. 19, 2012 12:20 am
0
0
Re: เปิดจอง งานสังสรรค์ VI Q3/55 "จากดักแด้เป็นผีเสื้อ"
ขอจอง 1 ที่ครับ
โดย
Value_chain
เสาร์ พ.ย. 10, 2012 9:38 am
0
0
Re: growth หลอกๆ แต่โตจริงๆ
คือว่า ผมคิดอย่างนี้นะ แย้งได้นะ อย่าไปกดลบ กดบวกเลย ทำแบบนั้น ผมไม่ฉลาดขึ้น คือสรุป ผมคิดว่า ปีนี้ภาษีลด 30 เหลือ 23 ภาพรวมคือจะมีกำไรโตขึ้น 10 % และปีหน้า ภาษีลดจาก 23 เหลือ 20 กำไรก็จะโตขึ้น 3.89 % และบางบริษัทก็มี growth ของตัวเองอยู่แล้ว ผสม growth ของ ภาษีเข้าไป ซึ่ง ซึ่ง เป็นเรื่อง ถาวรแบบชั่วคราว เพราะในปี 2557 ไม่มีการลดภาษีอีก อย่างไรก็ตาม บางบริษัท ก็สามารถขึ้นราคาได้อีก อันนี้ผสม growth จาก การปรับราคาขายไปอีก ผลคือ ปีนี้ growth ของกำไร โดยรวมก็จะโตขึ้นมาก คือเจ้า peg นี่จะโตขึ้นมาก ตลาดบูมอีก ทะลุ 1300 หลายคนก็กลัว หลายคนก็ขายหมู และไม่รู้จาซื้ออะไร โดยส่วนตัว ผมคิดว่า หุ้นก็ไปต่อแหละ เพราะ growth ทั้งสามตัวดังกล่าว และปีหน้า ยังมี growth อีก แต่น่าจะระวังปี 2557 หากฟองจะแตก ก็คงจะแตกปลายๆปี 2556 นั่นแหละ เดาเล่นๆหนุกดี ไม่มีผิดไม่มีถูกอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องอนาคต แต่อยากจะฝากไว้ว่า growth ที่เราเห็นๆนั้น เกิดจาก ภาษี และการปรับราคา เพราะค่าแรงปรับ เป็น 300 บาทด้วย โชคดีกับการลงทุนครับ สำหรับผม ผมคิดว่าโกรทหลอกๆนี้จะไม่เป็นผลบวกในบางบริษัทโดยเฉพาะสายบริการ เพราะจะโดนผลกระทบจากค่าแรงเข้ามาหักล้าง ปีหน้า 20% แต่จะต้องเจอค่าแรงอีก 70 กว่าจังหวัดที่เหลือเข้ามาบีบคั้นอีก ปี 57 ที่บริษัทอื่นที่โดนผลกระทบเยอะ บริษัทเหล่านี้ก็จะโดนน้อยหน่อย แต่ 2 ปีนี้คงเหนื่อยครับ 555+
โดย
Value_chain
ศุกร์ ต.ค. 05, 2012 2:27 pm
0
1
Re: รายชื่อแบ่งกลุ่มอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
หัวข้อการอบรม ๑) วันที่ 6 ตค. 2555 (เช้า) แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า - อ. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ๑) วันที่ 6 ตค. 2555 (บ่าย) การวิเคราะห์อุตสาหกรรม ธุรกิจ และผู้บริหาร – อ. คเชนทร์ เบญจกุล (IH) ๒) วันที่ 7 ตค. 2555 การวิเคราะห์งบการเงิน – อ. ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ (chatchai) ๒) วันที่ 13 ตค. 2555 การประเมินมูลค่าหุ้น – อ. พีรยุทธ เหลืองวารินกุล (picatos) ๓) วันที่ 14 ตค. 2555 (เช้า) การบริหารพอร์ตโฟลิโอและจิตวิทยาการลงทุน – อ. อนุรักษ์ บุญแสวง (ลูกอิสาน) ๓) วันที่ 14 ตค. 2555 (บ่าย) จริยธรรมกับการลงทุน - อ. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ๔) วันที่ 21 ตค. 2555 การนำเสนอการวิเคราะห์หุ้นพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากคณะอาจารย์ ____________________________________________________________________________________________ :idea: เป็นคนหนึ่งที่สมัครภายใน ๐๙.๐๐ น. แต่เป็นบุคคลที่เท่าไรไม่รู้__เป็นบุคคลที่มีลำดับที่นับไม่ถ้วน(infinity) :!: คนที่สมัครได้ส่วนมากจะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เข้าใจระบบอินเตอร์เนตได้ดี มีประสบการณ์และเคยสมัครพลาดจากการฟ้งสัมนา....สำหรับคนที่ไม่ใช่คนดังกล่าว บุคคลที่เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่พึ่งรู้จักสมาคมก็จะพลาดโอกาศ :?: โอกาศหน้าคงมีการอบรมรุ่นที่ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ .....การสมัครก็จะมีผลเหมือนหรือคล้ายกับการสมัครครั้งนี้ เพราะเด็กจบใหม่ๆจะรู้จักเว็ปมากกว่า และจะฝันเฟื่องไม่ยอมทำงาน แล้วจะเอาเงินที่ใดมาลงทุน .......... สังเกตุจากการสมัครฟังสัมานากับทางสมาคมหลายต่อหลายครั้ง ควรจะกำหนดอายุหรือไม่เพื่อดูวุฒิภาวะ ประสบการณ์ชีวิต รวมทั้งด้านคุณธรรมด้วย :!: รายการวันที่ ๔ เป็นรายการที่ต้องการให้เข้าถึงผู้อบรมทุกคน จึงมีการกำหนดจำนวนผู้เข้ารับการอบรม :D คนที่ได้รับการศึกษาก่อนก็มีโอกาศหยิบปลามันก่อน :roll: เพื่อไม่ให้เกิดความลำเอียงทางด้านการเวลาในการใฝ่หาความรู้ของทุกท่าน อยากให้ทางสมาคมพิจารณาดังนี้ค่ะ :arrow: ๑. จัดให้มีคนอบรมเพิ่ม :arrow: ๒. เฉพาะรายการที่ ๑ ถึง ๓ ในวันเวลาเดียวกัน :arrow: ๓. โดยดูทางทีวี เหมือน มหาวิทยาลัยรามคำแหง(น่าจะไปเช่าที่ ม.รามฯ นโยบายของทางมหาวิทยาลัยก็เพื่อให้ทุกท่านมีโอกาศในการหาความรู้) :arrow: ๔. ถ้าข้อ ๓ ไม่สะดวก ก็ให้ password ดูเองที่บ้าน :arrow: ๕. ถ้าข้อ ๓ ผ่าน ผู้อบรมจะจัดกลุ่มกันเองก็ได้หรือทางสมาคมจัดให้ หรืออย่างไร :arrow: ๖. ค่าอบรมนั้นจะเท่าเดิม ทุกคนก็มีความยินดี หรือจะลดราคาตามแต่จะเห็นสมควร ขอให้ทางสมาคมพิจารณาด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับหลายๆข้อที่คุณ tanoppan เสนอมา แต่ก็มีความเห็นต่างบางข้อ ขออนุญาตนำเสนอความคิดเห็นนะครับ 1. การจัดอบรมที่มีประสิทธิภาพที่ทางสมาคมคิดจะจัดคงต้องเป็นการโต้ตอบสองทางไม่ใช่การบรรยายแบบทางเดียวเหมือนที่รามฯ ซึ่งผู้ชมอาจไม่ได้รับผลเท่าผุ้เข้าร่วมอบรม และการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านไม่ได้ฟรีเหมือนรายทางโทรโทรทัศน์ คุณ tanoppan คงพอยอมรับได้ใช่ไม๊ครับ 2. สมาคมเราเกิดจาก Webboard และมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ คงจะรับสมัครในรูปแบบอื่นได้ยาก แต่ก็เห็นด้วยถ้าหากจะใช้การรับสมัครและจับฉลาก แต่สมาคมก็คงไม่พ้นข้อครหาอยู่ดี เหมือนรายการจับฉลากหลายๆรายการ 3.ผมไม่เห็นด้วย กับการจำกัดโอกาสเด็ก เพราะ Warren Buffet ก็รู้จักเรื่องการลงทุนตั้งแต่แต่เด็ก แต่ยังขวนขวายเรียนรู้และทำงานมาตลอด อาจารย์ด้านการลงทุนของผมท่านนึง ท่านก็รู้จักการลงทุนตั้งแต่ ม.3 เริ่มลงทุนตั้งแต่ ป.ตรี แต่ท่านก็ยังไม่เคยหยุดทำงาน ท่านสอนผมเสมอว่าไม่มีใครสำเร็จได้หากไม่ขวนขวายหาความรู้และทำงานหนัก จนปัจจุบันแม้ท่านก็เป้นอิสระทางการเงินแล้วท่านก็ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาให้แก่ลูกหลานของเราโดยที่ท่านไม่ได้จบด้านการศึกษามาด้วยซ้ำและเท่าที่ทราบมาท่านไม่ได้ค่าตอบแทนจากงานนี้เลย อยากให้มองเรื่องการลงทุนให้เหมือนการทำงานอิสระประเภทนึง ประสบการณ์จะสอนทุกคนเอง เด็กถ้าเค้าฉลาดพอจะลงทุนเค้าก็จะทราบเองว่าเงินที่เค้ามีจะไม่พอถ้าหากไม่ทำงานเก็บเงิน และหากครอบครัวเค้ายอมไว้ใจเอาเงินก้อนใหญ่มาให้บริหารก็เท่ากับว่าเค้ามีภาระหน้าที่สำคัญในการสร้างและรักษาความมั่งคั่งของครอบครัวอย่างหลีกเลีี่่ยงไม่ได้ ซึ่งครอบครัวซึ่งเป็น stake holder หลักก็คงจะคอยติดตามตรวจสอบเค้าเอง ซึ่งหากเค้าทำได้ ก็ไม่ต่างกับการที่เขาไปขยายธุรกิจใหม่ให้ครอบครัวได้สำเร็จ ไม่ใช่ว่างงานครับ 4. คอร์สอบรบรมในครั้งนี้เป็นการสอนให้ผู้เข้าร่วมอบรมรู้จักวิธีศึกษาและลงทุนตามแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า โดยศึกษาบนพื้นฐานข้อมูลของหุ้นของบริษัทที่เราทุกคนรู้จักกันดี ไม่ใช่รายการใบ้หุ้น ไม่มีใครหยิบชิ้นปลามันอะไรไปจากงานนี้ นอกจากความรู้ แนวทาง มุมองท่านผุ้รู้หลายท่านใช้ในการศึกษาหุ้น ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมก็สามารถไปถ่ายทอดให้แก่เพื่อนหรือคนรู้จักได้ต่ออย่างเต็มที่ครับ เพราะความรู้ก็เหมือนการจุดเทียน เราทุกคนอาจไม่ได้อยู่ใกล้เหล่งกำเนิดไฟทั้งหมด แต่สามารถต่อไฟกันได้ สุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่หรือแค่ไหน ก็ขึ้นกับความพยายามของทุกคนที่จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ทำการบ้านหลังอบรมได้ดีแค่ไหนเท่านั้นครับ 5. ค่าอบรมถือว่าไม่แพง ใกล้เคียงกับการอบรมของตลาดฯ และสมาคมนักวิเคราะห์ ยิ่งถ้าเทียบกับค่าตัว ค่าเสียเวลาของอาจารย์แต่ละท่าน (ซึ่งท่านคงคิดไม่เต็มอย่างแน่นอน) แล้วถือว่าถูกมากครับ ดูจากความไม่สมดุลย์ระหว่างอุปสงค์ และอุปทาน (อุปสงค์สูงกว่าอุปทานเป็นอย่างมาก) ก็จะเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นการเช่า รร. ระดับ 4 ดาวติดรถไฟฟ้า เพื่ออบรมยาวถึง 5 วัน ค่าใช่จ่ายก็คงไม่น้อย ราคาคงจะปรับลดได้ยากครับ ป.ล. ผมไม่ใช่กรรมการหรือคณะทำงานของสมาคมฯ แต่เห็นใจในความเหนื่อยยากและความลำบากใจของคณะทำงานทุกท่าน และเป็นห่วงว่าถ้าหากเราทุกคนกดดันทางสมาคมฯ เกิดปัญหาระหว่างกันมากเกินไป การอบรมจะไม่มีรุ่นหน้า เพราะท่านอาจารย์และกรรมการสมาคมทุกท่านก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราและเพื่อนๆเราอีกหลายจะพลอยได้รับผลกระทบ ดังนั้นผมจึงขออนุญาติเสนอความคิดเห็นอันเป็นส่วนตัว จะถูกบ้างผิดบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ
โดย
Value_chain
อังคาร ก.ย. 18, 2012 11:52 am
0
10
Re: รายชื่อแบ่งกลุ่มอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
และให้อ่านบทสรุปย่อของหนังสือ ยุทธวิธีการแข่งขัน (Competitive Strategy) ของ อาจารย์ Michael E. Porter ด้วยครับ : http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&frm=1&source=web&cd=46&cad=rja&ved=0CD0QFjAFOCg&url=http%3A%2F%2Fwww.bb.go.th%2Fbb%2Finformation%2Fspeech%2Fnew_book%2Fcompetitive%2520strategy.doc&ei=O8ZVUOS0JormrAfXv4G4Cw&usg=AFQjCNE_Mo8fgfrqnNl5H8BVJh3aGkl9-w&sig2=SQNWD-rRrkm2M5ZEmOSf0A ขอบคุณสำหรับเอกสารดีๆ และความอุตสาหะของทีมงานทุกคนที่ทุ่มเทให้กับโครงการนี้นะครับ
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 17, 2012 12:11 am
0
1
Re: QE3 QE3 QE3
ปัญหาคือ นี่คือ กระสุน นัดสุดท้ายของ US หรือเปล่า??? ถ้าไม่สำเร็จ ก็จบกันทั้งโลก long long depression... หวังว่าครั้งนี้จะสำเร็จ และเศรษฐกิจของ US จะฟื้นตัวขึ้น อย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งโลกดีขึ้น QE3 ==> lower yield แต่ inflation increase !!! เศรษฐกิจจะไม่ถูกกระตุ้น และทุกอย่างก็จะเข้าสู่ภาวะเดิม เว้นเสียแต่ว่า US จะสามารถออกมตรการอะไรก็ตาม ที่สามารถทำให้เม็ดเงินที่ออกมาไหลเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ก่อนเข้าสู่ตลาดการลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนทุกชนิดทั่วโลกครับ
โดย
Value_chain
ศุกร์ ก.ย. 14, 2012 9:58 am
0
1
Re: รับสมัครหลักสูตรอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1
สมัครเรียน
โดย
Value_chain
อังคาร ก.ย. 11, 2012 9:00 am
0
0
Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ
Try
โดย
Value_chain
อังคาร ก.ย. 11, 2012 7:24 am
0
0
Re: มีการโจมตีWEB TVI ที่ Pantip ครับ- ขำๆหุ้นจากเว็ปTVIทมิฬ
ผมมีเรื่องแบบนี้นี่ก็ดีนะครับ หุ้นดีราคาจะไม่ได้เฟ้อเกินไป แล้วสุดท้ายเวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเองครับ ถึงตอนนั้นพวกเขาก็อาจจะเพิ่งมารู้สึกตัวว่า หุ้นดีๆแบบนี้ทำไมเราไม่เล่นหว่า ไปนั่งแบ่งแยกหุ้นเขาหุ้นเราเพราะไอคนลงทุนโดยไม่ใช้ความคิดไม่กี่คนแล้วพลาด แล้วมาทำให้เราเสียโอกาส มันไม่คุ้มเอาซะเลย ไม่น่าพลาดเลยเราตกรถไฟจนได้...... เพราะสเวลาคือเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุดเสมอครับ
โดย
Value_chain
อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:07 am
0
0
Re: ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอก
ตอนนี้เศรษฐกิจ ไทยแข็งแกร่งมาก โอกาสที่ตลาดจะลงมาก มีโอกาศน้อย แล้วที่ลงมาเหลือ 380 จุดตอนปลายปี 2008 นี่ประเทศไทยหรือเปล่าครับ ........... แล้วก่อนจะดิ่งเศรษฐกิจไทยอ่อนแอหรือเน่าหรือครับ ......... เห็นด้วยทุกประการครับ สภาวะสภาพล่องตึงตัวอย่างหนักทำให้เกิดการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของสินทรัพย์ทุกอย่างทั่วโลก โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยง การลงทุนมีความเสี่ยงในปัจจัยรอบด้าน นอกจากความเสี่ยงโดยตรงทางธุรกิจแล้ว แล้วความเสี่ยงด้านสภาวะการเงินก็ต้องระมัดระวังเหมือนกันครับ เพราะปัจจัยเหล่านี้สุดท้ายก็จะกลับมากระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อธุรกิจอยู่ดีครับ..
โดย
Value_chain
เสาร์ ต.ค. 01, 2011 4:45 am
0
0
Re: สมาชิก THAIVI ทำอะไรกันอยู่ขณะที่ SET โดดหน้าผา 22/09/11
เริ่มทยอยช็อปปิ้งของที่เคยขายไปก่อนหน้านี้ครับ ^^
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 4:19 pm
0
0
Re: จดหมายเก่า ถึงลุงขวด
แม้ผมจะอยู่ในเว็บบอร์ดและเคยคุยกับลุงขวดตัวเป็นเป็นๆมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้อ่านกระทู้นี้ ผมรู้สึกทึ่งและขอบคุณพี่ครรชิต และลุงขวดมากๆนะครับ เปิดเผยประสบการณ์และแนวคิดีๆที่ผมเชื่อว่าคนหลายๆคนไม่กล้าเปิดเผย ให้พวกผมและคนรุ่นหลังได้เรียนรู้และระมัดระวังถึงความเสี่ยงไว้เสมอครับ ขอบคุณมากๆครับ :)
โดย
Value_chain
พุธ ก.ย. 07, 2011 4:59 pm
0
0
Re: ตอนนี้ซื้อหุ้นได้หรือยังครับ
ตลาดเปิดทุกวัน ซื้อได้แน่ๆต้องรอสิบโมงเช้าก่อนครับ ส่วนหุ้นรายตัว ต้องทำ valuation ก่อน ว่าซื้อถูกหรือแพง ถ้าซื้อได้ถูกแล้ว ก็ซื้อได้ครับ เป็นความคิดเห็นที่ชัดเจน และตรงประเด็นมากเลยครับ ผมเองก็มีความเห็นเช่นนี้เหมือนกัน :)
โดย
Value_chain
พุธ ก.ย. 07, 2011 12:37 pm
0
0
Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: วินัยทางการเงิน
สำหรับผู้ที่คิดจะเป็นนักลงทุนแล้ว การมีวินัยทางการเงินเป็นสิ่งเริ่มต้นที่ควรยึดถือปฏิบัติเลยนะคะ เพราะก่อนจะลงทุนได้ ต้องมี "ทุน" ซึ่ง"ทุน" สำหรับคนธรรมดาที่ไม่ได้มีมรดกเก่าจากต้นตระกูลมา ก็ต้องได้มาจากการออม ก่อนจะเริ่มลงทุนในหุ้น ดิฉันไม่ค่อยมีวินัยทางการเงินมากนัก อยากได้อะไรก็มักจะซื้อตามกิเลสไปแบบไม่คิดอะไร เชื่อว่าคนวัยทำงานระยะเริ่มต้นก็คงคล้ายๆ กัน จากที่เมื่อก่อนตอนเรียนต้องขอเงินค่าขนมจากพ่อแม่ จะใช้จ่ายอะไรก็ค่อนข้างเกรงใจท่าน แต่พอเริ่มทำงานมีรายได้จากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง เราก็มักจะใช้สอยแบบเต็มที่กับชีวิต แต่เมื่อทำงานมาได้สักพัก เพื่อนๆ บางคนที่มีวินัยทางการเงินตั้งแต่แรก ก็เริ่มมีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำ แล้วก็เริ่มกลับมาย้อนดูตัวเองว่าที่ผ่านมาเราเอาเงินไปซื้อของไร้สาระซะเยอะ เช่น เสื้อผ้าซื้อมาก็ไม่ค่อยได้ใส่ มือถือใหม่ๆ ใช้ไปไม่นานก็ตกรุ่น เครื่องเกมส์เจ๋งๆ ก็ล้าหลังไปอย่างรวดเร็ว แม้จะเริ่มคิดได้แล้ว อยากเริ่มออม แต่ก็ยังไม่มีจุดมุ่งหมายในการเก็บเงินอยู่ดี จุดพลิกผันมาอยู่ตรงที่การเข้ามาเริ่มต้นลงทุนในหุ้น แล้วเก็บเงินเข้าพอร์ตทุกเดือนๆ ดูการเจริญเติบโต(แบบติดลบ)ของพอร์ต แล้วก็ทำให้มีเป้าหมายในการเก็บเงินที่ชัดเจนมากขึ้น ...จึงอยากแนะนำเพื่อนๆว่า หากท่านใดรู้สึกว่าตัวเองเก็บเงินไม่อยู่ ก็ลองเก็บในรูปของหุ้นดูนะคะ ^^ เหมือนน้องเม่าตอนนี้ เธอก็ขยันเก็บเงินน่าดูเลยค่ะ mao_finance2_1.gif mao_finance2_2.gif mao_finance2_3.gif ชอบจริงๆครับ ขอบคุณผลงานดีๆที่มีออกมากันเสมอมา และขอให้มีผลงานออกมาอย่างนี้ต่อเนื่องตลอดไปนะครับ ^^
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 4:04 pm
0
0
Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี
สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี 1. คนเข้ามาเล่นหุ้นส่วนมากคิดว่าหาเงินได้ง่ายๆ มีเพื่อนจำนวนมากเห็นผมลงทุนมานานและได้ผลตอบแทนพอสมควร ก็มาถามว่าอยากลงทุนบ้างทำยังไงดี ผมก็ซื้อหนังสือให้ 2-3 เล่ม บอกว่าไปอ่านให้จบก่อน แล้วมีอะไรมาถาม หนังสือเหล่านั้นผมอ่านวันเดียวจบ และรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก .... 90% ของเพื่อนๆอ่านหนังสือไม่จบ แต่ก็ไปเปิดพอร์ตแล้วก็ซื้อตามคนอื่นบอก ช่วงตลาดดีก็กำไร ... ช่วงตลาดแย่ก็ ... "เฮ้ย ทำไงดีวะกรูซื้อปูมา 700 บาทต่อกิโล" ถ้าเล่นหุ้นมันง่าย ป่านนี้ไม่มีใครทำงานแล๊วววว .... อย่าลืมนะคนตายเขาไม่ได้พูด 2. คนไทยยังคงมีความรู้ทางด้านการลงทุนน้อยมาก ผมว่าไทยเราก็เหมือนอเมริกาครับ เมื่อก่อนอเมริกามีแต่นักลงทุนรายย่อย แต่เล่นไปเล่นมา รายย่อย ย่อยยับกันหมด ทำให้ตอนนี้ อเมริกาเต็มไปด้วยกองทุน รายย่อยแทบไม่เหลือเลย แล้วเราจะเล่นอย่างไรละในตลาดอย่างนี้ ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติผมไปอธิบายให้คนคนนึงฟังว่า - มีหุ้นตัวนึง pe 10 เท่า แต่คิด dcf ออกมาจากราคานี้ยังมี upside 200% - กับอีกตัวผมบอกว่า ตัวนี้ pe 5 เท่า โตปีละ 20% ถือไป ปีนึงกำไร 100% คุณว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นก่อนกันครับ 3. วลีเด็ดจากเซียน "อย่าโลภเกินความรู้" ใช้ได้เสมอ 4. บางทีเราก็รักหุ้นตัวนึงซะจนลืมมองข้อด้อยของมัน ความรักทำให้คนตาบอด ... ซื้อหุ้นก็ทำให้เราตาบอดได้เหมือนกัน ตอน Subprime ผมก็โดนไปกับหุ้นตัวนึง ... ไม่ต้องกลัว หุ้นเรา ไม่ลงหลอก เก่งขนาดนี้ ราคาตอนนี้ PE 5 เอง .... ผลลัพธ์.... ภายใน 1 อาทิตย์หุ้นผมลงไป 30% สุดท้ายใครจะไปรู้ว่า xxxx จะมีหุ้น PE 2 ให้ซื้อเต็มไปหมดเลย 5. ราคาหุ้นเป็นโฆษณาที่ดีที่สุด ... พอราคาขึ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคนก็จะมาสนใจกันเต็มไปหมดเอง ... ไม่ต้องไปโฆษณากับใครที่ไหน 6. ข่าวมักจะมาหลังจากราคาตอบสนองแล้ว ถ้าวันนี้ set ลง ... ตลาดไทยทรุดตามตลาดต่างประเทศ, ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าวันนี้ set ขึ้น ... ต่างชาติเข้าลงทุนในไทยเพิ่ม เนื่องจากลดพอร์ตในต่างประเทศ ลองสังเกตุดูครับ 7. นักวิเคราะห์ในทีวี บางทีก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย หลายท่านก็เก่งนะครับ นั่งฟังแล้วก็รู้สึกว่าได้อะไร แต่บางท่านต้องเก๊กครับ ตอบๆไปก่อน ผิดถูกไม่รู้ จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้เดี๋ยวเสียหน้า ถ้าตอบถูก ... เดี๋ยวอีกอาทิตย์ถัดมาจะบอกว่า เนี่ยผมบอกไปแล้วอาทิตย์ที่แล้ว ถ้าตอบผิด ..... หายไปกับกลีบเมฆ 8. ความรู้ไม่มีสิ้นสุด ทุกครั้งที่มองกลับไปข้างหลังก็จะรู้สึกว่าเมื่อก่อนเราโง่นะเนี่ย ฉะนั้นยังไงก็ห้ามหยุดศึกษาครับ 9. เพื่อนเป็นสิ่งที่ดีมากในโลกการลงทุน ศึกษาหุ้นคนเดียวสู้ศึกษากันหลายๆหัวไม่ได้หรอกครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่กล้า comment แรงๆ นี่ใช่เลย 10. คนเราชอบเสพย์ข่าวดี ลองไปดูหลายๆอันครับ ผมจำได้ว่า กระทู้ PTL มีคนไปบอกว่า ระวัง PTL ราคาแพงนะ ... มีคนมาหาว่า เสี่ย VI ส่งคนมาปล่อย ข่าวจะได้เก็บหุ้นถูกๆ ... อ้าวชิปหาย เตือนแม่งก็โดนหาว่าทุบหุ้น พอไม่เตือนก็เจอหาว่าปั่นหุ้น 11. เล่นหุ้นให้คนอื่นยากกว่าตัวเอง รับบริหารเงินให้คนอื่นนี่ปวดหัวมากครับ ถึงแม้คนเอาเงินให้เราเขาจะบอกว่าเขาไม่คิดอะไร แต่เราเองนั่นแหละ จะรู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ได้ เงินเขาขาดทุนไม่ได้นะ เครียดเปล่าๆ 12. เหนือฟ้ายังมีฟ้า พื้นฐานธุรกิจหรือจะเท่าเจ้าของลิขิต ผมได้เรียนรู้ว่า เล่นหุ้นที่เจ้าของอยากให้หุ้นขึ้นครับ ให้พยายามอยู่ข้างเดียวกับเขา (อาจจะดูไม่วีไอเท่าไหร่นะครับ) 13. ไทยแลนด์แดนอินไซด์ คนบางคนอยู่ในตลาดมาหนึ่งเดือนสองเดือน บอกว่า เฮ้ยๆ ได้อินไซด์มาเต็มเลย .. คุณมี connection แค่นั้น ... อยู่ในตลาดมาแค่นี้ คุยได้ข่าวมาไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะได้ข่าวมาเหมือนกันหรอ ... เวลาได้ข่าวมา ต้องเช็คครับว่าข่าวจริงแค่ไหน แล้วก็เราได้ข่าวเป็นไม้ที่ เท่าไหร่ ถ้าได้เป็นไม้ท้ายก็อย่าไปเล่นเลยครับ เขาว่าข่าวไม้แรกมักจะมาจากเมียน้อยผู้บริหาร 14. ซื้อหุ้นตามเพื่อนแล้วซวยทุกที เพื่อนๆมาเล่าให้ฟัง ... ตัวนี้ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ... เอาวะ ซื้อๆไปก่อนเดี๋ยวเพื่อนล้อ ... หุ้นมันลงมา 5% ก็เพราะเรามันไม่รู้พื้นฐาน เลยต้อง cut loss ทิ้ง ... เพื่อนทุกคนอยู่ครบ .. แล้วหุ้นก็ดีดกลับไป +30% ในหนึ่งอาทิตย์ T_T เศร้าไม๊ ? .... ตอบได้ว่าเศร้า แต่ ทำไงได้ละ ขี้เกียจเอง 15. โอกาสมักจะมาตอนเราขี้เกียจ ด้วยความขี้เกียจทำให้ปีที่ผ่านมาๆพลาดไปหลายมหกรรมเลยทีเดียว 16. จงลืมต้นทุน ต้นทุนไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ... จงคิดแต่ว่าราคาหุ้นปัจจุบันเนี่ย ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม 17. ข่าวในหนังสือพิมพ์ ... ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ 18. ตลาดหุ้นเป็นสถานที่แปลก .. คนรวยนั่งรถเบนซ์ เดินไปขอคำแนะนำการลงทุนจากคนที่นั่งรถเมล์มาทำงาน 19. ราคาหุ้นในตลาดมันก็หลักการเศรษฐศาสตร์ขั้นต้น หุ้นมันก็มีอยู่จำนวนเท่าเดิม .. อยู่ดีดีคนอยากมาซื้อหุ้นตัวนี้ มันก็ขึ้น ... อยู่ดีดีคนได้ข่าวร้าย แล้วเชื่อตามๆกัน มันก็ลง 20 มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เรามักจะคล้อยตามสิ่งรอบข้างได้ง่ายมาก ถ้าเราเชื่อว่าหุ้นตัวนึงไม่ดี ถ้าคนรอบข้างคอยบอกว่าหุ้นตัวนี้ดี ... คนเดียวอาจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า 20 คนยืนยันเหมือนกัน เรามีโอกาสจะคล้อยตามได้ง่ายมาก 21. เขาว่าถ้าเราเจอแมลงสาบตัวนึง ให้คิดได้เลยมันมีอีกเป็นฝูง คล้ายกับหุ้นเลย .. ถ้ามีข่าวดีอันนึง เดี๋ยวจะมีมาอีกเพียบ ... แต่ถ้ามีข่าวร้ายเมื่อไหร่ ... โหย ... ร้ายแล้วเดี๋ยวมีร้ายกว่า 22. กับดัก VI หยิ่งในศาสตร์ของตน หลายๆทีเราทะนงตัวว่าตัวเองเป็น VI VI เป็นผู้ฉลาด รอบรู้ ศาสตร์อื่นๆล้วนด้อยกว่า ระวังครับ มันจะทิ่มแทงเราเอง ลองดูสถานการณ์เหล่านี้ "ศึกษาตามหลัก VI มาดีแล้ว ราคาลงมา 30% ไม่เห็นต้องกลัวเลย .... สุดท้ายราคาลงไป 50% เฮ้ย รู้งี้ฟังคนอื่นพูดบ้างก็ดี" "หุ้นลง 10% ... ไม่เป็นไรศึกษามาดี ลง 50% ก็ได้ ... พอเกิดจริง มันลงมา 30% เฮ้ย !! เดี๋ยวเหมือนครั้งก่อน กรูไปก่อนดีกว่า กลัวแล้ว สรุป ขายได้โลว์เลย" หลายๆครั้งผมมักจะเห็นว่า VI ขายโลว์ ... ทำไมหรอครับ เพราะ VI ความอดทนสูงกว่าคนอื่นไงครับ ทนไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทนไม่ได้ 23. ซื้อหุ้นอย่าดูแค่มันถูก คิดมูลค่าหุ้นออกมาโหย ถูกมาก upside 50% ดูแค่นี้ระวังนะครับ หุ้นมันจะขึ้นได้ต้องมีคนมาสนใจ มาซื้อเพิ่ม 1. คนที่ถืออยู่แล้วมาซื้อเพิ่ม 2. ถ้าหุ้นตัวเล็ก นักลงทุนคนอื่นมาซื้อเพิ่ม 3. ถ้าหุ้นตัวกลางๆ นักลงทุนซื้อกันหมดแล้ว ต้องรอกองทุนมาสนใจ 4. ถ้าหุ้นเต็มไปด้วยกองทุนและนักลงทุนแล้ว ... ให้กลับไปดูข้อ 1 บางทีคนรอบตัวเราซื้อหุ้นกันไปหมดแล้วแต่หุ้นไม่ขึ้น อันนี้เริ่มน่ากลัวแล้วครับ แสดงว่ามีคนขายอยู่จำนวนมาก เขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้ก็ได้ เห็นด้วยอย่างมากครับทุกข้อเลย โดยเฉพาะข้อแรกคนคิดอย่างนี้มากจริงๆ ยังไงก็ขอยืนยันนะครับว่าก็ลงทุนไม่เคยง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากเริ่มเรียนรู้ เพราะโลกการลงทุน ไม่เคยมีข้อยกเว้นสำหรับมือใหม่ครับ
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 3:42 pm
0
0
Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี
สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี 1. คนเข้ามาเล่นหุ้นส่วนมากคิดว่าหาเงินได้ง่ายๆ มีเพื่อนจำนวนมากเห็นผมลงทุนมานานและได้ผลตอบแทนพอสมควร ก็มาถามว่าอยากลงทุนบ้างทำยังไงดี ผมก็ซื้อหนังสือให้ 2-3 เล่ม บอกว่าไปอ่านให้จบก่อน แล้วมีอะไรมาถาม หนังสือเหล่านั้นผมอ่านวันเดียวจบ และรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก .... 90% ของเพื่อนๆอ่านหนังสือไม่จบ แต่ก็ไปเปิดพอร์ตแล้วก็ซื้อตามคนอื่นบอก ช่วงตลาดดีก็กำไร ... ช่วงตลาดแย่ก็ ... "เฮ้ย ทำไงดีวะกรูซื้อปูมา 700 บาทต่อกิโล" ถ้าเล่นหุ้นมันง่าย ป่านนี้ไม่มีใครทำงานแล๊วววว .... อย่าลืมนะคนตายเขาไม่ได้พูด 2. คนไทยยังคงมีความรู้ทางด้านการลงทุนน้อยมาก ผมว่าไทยเราก็เหมือนอเมริกาครับ เมื่อก่อนอเมริกามีแต่นักลงทุนรายย่อย แต่เล่นไปเล่นมา รายย่อย ย่อยยับกันหมด ทำให้ตอนนี้ อเมริกาเต็มไปด้วยกองทุน รายย่อยแทบไม่เหลือเลย แล้วเราจะเล่นอย่างไรละในตลาดอย่างนี้ ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติผมไปอธิบายให้คนคนนึงฟังว่า - มีหุ้นตัวนึง pe 10 เท่า แต่คิด dcf ออกมาจากราคานี้ยังมี upside 200% - กับอีกตัวผมบอกว่า ตัวนี้ pe 5 เท่า โตปีละ 20% ถือไป ปีนึงกำไร 100% คุณว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นก่อนกันครับ 3. วลีเด็ดจากเซียน "อย่าโลภเกินความรู้" ใช้ได้เสมอ 4. บางทีเราก็รักหุ้นตัวนึงซะจนลืมมองข้อด้อยของมัน ความรักทำให้คนตาบอด ... ซื้อหุ้นก็ทำให้เราตาบอดได้เหมือนกัน ตอน Subprime ผมก็โดนไปกับหุ้นตัวนึง ... ไม่ต้องกลัว หุ้นเรา ไม่ลงหลอก เก่งขนาดนี้ ราคาตอนนี้ PE 5 เอง .... ผลลัพธ์.... ภายใน 1 อาทิตย์หุ้นผมลงไป 30% สุดท้ายใครจะไปรู้ว่า xxxx จะมีหุ้น PE 2 ให้ซื้อเต็มไปหมดเลย 5. ราคาหุ้นเป็นโฆษณาที่ดีที่สุด ... พอราคาขึ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคนก็จะมาสนใจกันเต็มไปหมดเอง ... ไม่ต้องไปโฆษณากับใครที่ไหน 6. ข่าวมักจะมาหลังจากราคาตอบสนองแล้ว ถ้าวันนี้ set ลง ... ตลาดไทยทรุดตามตลาดต่างประเทศ, ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าวันนี้ set ขึ้น ... ต่างชาติเข้าลงทุนในไทยเพิ่ม เนื่องจากลดพอร์ตในต่างประเทศ ลองสังเกตุดูครับ 7. นักวิเคราะห์ในทีวี บางทีก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย หลายท่านก็เก่งนะครับ นั่งฟังแล้วก็รู้สึกว่าได้อะไร แต่บางท่านต้องเก๊กครับ ตอบๆไปก่อน ผิดถูกไม่รู้ จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้เดี๋ยวเสียหน้า ถ้าตอบถูก ... เดี๋ยวอีกอาทิตย์ถัดมาจะบอกว่า เนี่ยผมบอกไปแล้วอาทิตย์ที่แล้ว ถ้าตอบผิด ..... หายไปกับกลีบเมฆ 8. ความรู้ไม่มีสิ้นสุด ทุกครั้งที่มองกลับไปข้างหลังก็จะรู้สึกว่าเมื่อก่อนเราโง่นะเนี่ย ฉะนั้นยังไงก็ห้ามหยุดศึกษาครับ 9. เพื่อนเป็นสิ่งที่ดีมากในโลกการลงทุน ศึกษาหุ้นคนเดียวสู้ศึกษากันหลายๆหัวไม่ได้หรอกครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่กล้า comment แรงๆ นี่ใช่เลย 10. คนเราชอบเสพย์ข่าวดี ลองไปดูหลายๆอันครับ ผมจำได้ว่า กระทู้ PTL มีคนไปบอกว่า ระวัง PTL ราคาแพงนะ ... มีคนมาหาว่า เสี่ย VI ส่งคนมาปล่อย ข่าวจะได้เก็บหุ้นถูกๆ ... อ้าวชิปหาย เตือนแม่งก็โดนหาว่าทุบหุ้น พอไม่เตือนก็เจอหาว่าปั่นหุ้น 11. เล่นหุ้นให้คนอื่นยากกว่าตัวเอง รับบริหารเงินให้คนอื่นนี่ปวดหัวมากครับ ถึงแม้คนเอาเงินให้เราเขาจะบอกว่าเขาไม่คิดอะไร แต่เราเองนั่นแหละ จะรู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ได้ เงินเขาขาดทุนไม่ได้นะ เครียดเปล่าๆ 12. เหนือฟ้ายังมีฟ้า พื้นฐานธุรกิจหรือจะเท่าเจ้าของลิขิต ผมได้เรียนรู้ว่า เล่นหุ้นที่เจ้าของอยากให้หุ้นขึ้นครับ ให้พยายามอยู่ข้างเดียวกับเขา (อาจจะดูไม่วีไอเท่าไหร่นะครับ) 13. ไทยแลนด์แดนอินไซด์ คนบางคนอยู่ในตลาดมาหนึ่งเดือนสองเดือน บอกว่า เฮ้ยๆ ได้อินไซด์มาเต็มเลย .. คุณมี connection แค่นั้น ... อยู่ในตลาดมาแค่นี้ คุยได้ข่าวมาไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะได้ข่าวมาเหมือนกันหรอ ... เวลาได้ข่าวมา ต้องเช็คครับว่าข่าวจริงแค่ไหน แล้วก็เราได้ข่าวเป็นไม้ที่ เท่าไหร่ ถ้าได้เป็นไม้ท้ายก็อย่าไปเล่นเลยครับ เขาว่าข่าวไม้แรกมักจะมาจากเมียน้อยผู้บริหาร 14. ซื้อหุ้นตามเพื่อนแล้วซวยทุกที เพื่อนๆมาเล่าให้ฟัง ... ตัวนี้ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ... เอาวะ ซื้อๆไปก่อนเดี๋ยวเพื่อนล้อ ... หุ้นมันลงมา 5% ก็เพราะเรามันไม่รู้พื้นฐาน เลยต้อง cut loss ทิ้ง ... เพื่อนทุกคนอยู่ครบ .. แล้วหุ้นก็ดีดกลับไป +30% ในหนึ่งอาทิตย์ T_T เศร้าไม๊ ? .... ตอบได้ว่าเศร้า แต่ ทำไงได้ละ ขี้เกียจเอง 15. โอกาสมักจะมาตอนเราขี้เกียจ ด้วยความขี้เกียจทำให้ปีที่ผ่านมาๆพลาดไปหลายมหกรรมเลยทีเดียว 16. จงลืมต้นทุน ต้นทุนไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ... จงคิดแต่ว่าราคาหุ้นปัจจุบันเนี่ย ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม 17. ข่าวในหนังสือพิมพ์ ... ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ 18. ตลาดหุ้นเป็นสถานที่แปลก .. คนรวยนั่งรถเบนซ์ เดินไปขอคำแนะนำการลงทุนจากคนที่นั่งรถเมล์มาทำงาน 19. ราคาหุ้นในตลาดมันก็หลักการเศรษฐศาสตร์ขั้นต้น หุ้นมันก็มีอยู่จำนวนเท่าเดิม .. อยู่ดีดีคนอยากมาซื้อหุ้นตัวนี้ มันก็ขึ้น ... อยู่ดีดีคนได้ข่าวร้าย แล้วเชื่อตามๆกัน มันก็ลง 20 มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เรามักจะคล้อยตามสิ่งรอบข้างได้ง่ายมาก ถ้าเราเชื่อว่าหุ้นตัวนึงไม่ดี ถ้าคนรอบข้างคอยบอกว่าหุ้นตัวนี้ดี ... คนเดียวอาจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า 20 คนยืนยันเหมือนกัน เรามีโอกาสจะคล้อยตามได้ง่ายมาก 21. เขาว่าถ้าเราเจอแมลงสาบตัวนึง ให้คิดได้เลยมันมีอีกเป็นฝูง คล้ายกับหุ้นเลย .. ถ้ามีข่าวดีอันนึง เดี๋ยวจะมีมาอีกเพียบ ... แต่ถ้ามีข่าวร้ายเมื่อไหร่ ... โหย ... ร้ายแล้วเดี๋ยวมีร้ายกว่า 22. กับดัก VI หยิ่งในศาสตร์ของตน หลายๆทีเราทะนงตัวว่าตัวเองเป็น VI VI เป็นผู้ฉลาด รอบรู้ ศาสตร์อื่นๆล้วนด้อยกว่า ระวังครับ มันจะทิ่มแทงเราเอง ลองดูสถานการณ์เหล่านี้ "ศึกษาตามหลัก VI มาดีแล้ว ราคาลงมา 30% ไม่เห็นต้องกลัวเลย .... สุดท้ายราคาลงไป 50% เฮ้ย รู้งี้ฟังคนอื่นพูดบ้างก็ดี" "หุ้นลง 10% ... ไม่เป็นไรศึกษามาดี ลง 50% ก็ได้ ... พอเกิดจริง มันลงมา 30% เฮ้ย !! เดี๋ยวเหมือนครั้งก่อน กรูไปก่อนดีกว่า กลัวแล้ว สรุป ขายได้โลว์เลย" หลายๆครั้งผมมักจะเห็นว่า VI ขายโลว์ ... ทำไมหรอครับ เพราะ VI ความอดทนสูงกว่าคนอื่นไงครับ ทนไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทนไม่ได้ 23. ซื้อหุ้นอย่าดูแค่มันถูก คิดมูลค่าหุ้นออกมาโหย ถูกมาก upside 50% ดูแค่นี้ระวังนะครับ หุ้นมันจะขึ้นได้ต้องมีคนมาสนใจ มาซื้อเพิ่ม 1. คนที่ถืออยู่แล้วมาซื้อเพิ่ม 2. ถ้าหุ้นตัวเล็ก นักลงทุนคนอื่นมาซื้อเพิ่ม 3. ถ้าหุ้นตัวกลางๆ นักลงทุนซื้อกันหมดแล้ว ต้องรอกองทุนมาสนใจ 4. ถ้าหุ้นเต็มไปด้วยกองทุนและนักลงทุนแล้ว ... ให้กลับไปดูข้อ 1 บางทีคนรอบตัวเราซื้อหุ้นกันไปหมดแล้วแต่หุ้นไม่ขึ้น อันนี้เริ่มน่ากลัวแล้วครับ แสดงว่ามีคนขายอยู่จำนวนมาก เขาอาจจะรู้อะไรที่เราไม่รู้ก็ได้ เห็นด้วยอย่างมากครับทุกข้อเลย โดยเฉพาะข้อแรกคนคิดอย่างนี้มากจริงๆ ยังไงก็ขอยืนยันนะครับว่าก็ลงทุนไม่เคยง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากเริ่มเรียนรู้ เพราะโลกการลงทุน ไม่เคยมีข้อยกเว้นสำหรับมือใหม่ครับ
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 3:42 pm
0
0
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ทศวรรษแห่ง VI จะยืนยาวแค่ไหนไม่อาจมีใครรู้ได้ แต่หากเรารู้และเข้าใจการลงทุนอย่างที่เป็นการลงทุนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางไหนก็ตาม เราก็จะได้อยู่ในทศวรรษแห่งการลงทุนต่อไปอีกนานเท่านานครับ ^^
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 3:38 pm
0
0
Re: "เหยี่ยว กวาง และ เสือ "...ควันหลงจากประเด็นสุด Hot ของ
บทความคุณสุมาอี้ หาไม่เจอ ผมว่าเป็นCaseเรื่องซื้อตามของเม่าViได้ดี 1.ถ้ารู้ว่าหุ้นนั้นแย่แต่แรก คนที่รู้แล้วยังไปเล่น ผมไม่ห่วง 2.แต่ถ้าคนๆนั้นคิดว่าดี ทั้งๆที่มันอาจไม่ดีอย่างที่คิด คนนั้นจะทุ่มหมดตัว คนนั้นจะเสียหายหนักมาก บทความผมหาไม่เจอ น่าจะหมายถึงบทความ "หุ้นพื้นฐาน?" ที่เขียนวันที่ 22 ก.ค. 2553 ของพี่โจ๊ก(พี่สุมาอี้) นะครับ http://dekisugi.net/archives/7638
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 05, 2011 3:17 pm
0
1
Re: เลขา ก.ล.ต.เสนอเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้น
ขอ อนุญาตขุดขึ้นมาครับ ไม่ทราบว่าเมื่อท่านเป็นรมต.คลังแล้ว จะมีผลต่อข่าวนี้หรือเปล่า ผมเองก็จับตาอยู่เหมือนกัน อยากรู้ว่าเมื่อเป็นคนชงเองรับผิดชอบเองแล้วยังจะกล้าตัดสินใจเหมือนเดิมอยู่รึไม่ คนเราเมื่อคิดก็คิดไปร้อยแปดพันเก้า แต่พอต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นก็เงียบกันทุกที...
โดย
Value_chain
พุธ ส.ค. 10, 2011 9:28 am
0
0
Re: ผู้รู้ครับ !!!!! ถามเรื่อง ปันผลเป็นหุ้น (stock dividend
พี่มิครับ หุ้นปันผลน่าจะสามารถเครดิตภาษีได้ตามปกติ เหมือนเงินสดปันผลนะครับ ยกเว้นเป็นกรณีจ่ายจากกำไรที่ได้ BOI ซึ่งก็เหมือนปันผลเงินสดอีกนั่นแหละครับ ขอเสริมนิดนึงนะครับ :wink: บางครั้งการปันผลเป็นการเพิ่มเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทางอ้อมก็ได้นะครับหากเป็นบริษัทที่มีนโยบายปันผลจำนวนเงินต่อหุ้นคงที่ ยกตัวอย่างเช่นหุ้น BKI ซึ่งในแง่ของบริษัทก็จะได้รักษาระดับราคาหุ้นและเพิ่มสภาพคล่องอีกด้วย โดยที่นักลงทุนสามารถนำไปเครดิตภาษีได้ถ้าหากรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งนับว่าเป็น win-win situation ครับ แต่หากไม่ได้เป็นกรณีนี้ก็ขอให้ระวังให้มากครับ โดยปกติแล้วหลังปันผลหุ้นราคาหุ้นจะลดลงทันทีตามสัดส่วนการ dilute ครับ
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 5:52 am
0
0
จิบเบียร์คิวหนึ่ง 4 มิย.53 แกรนด์บอลรูม3 รร.Emerald รัชดา
ขอจอง 2 ที่ครับ
โดย
Value_chain
พุธ พ.ค. 19, 2010 11:18 am
0
0
Re: ครับ
BOL
โดย
Value_chain
พุธ ม.ค. 02, 2008 11:42 pm
0
0
บริษัทที่มี "ความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน"
BOL เป็นรายเดียวในประเทศ CPALL รายใหญ่สุด PB รายใหญ่สุด และ Strong Distribution Network BOL ยังต้องพึ่งสัญญาจากระทรวงพาณิชย์ ถ้าเขาก็เปลี่ยนแปลงอะไร บ.ก็ลำบาก CPALL ไม่ได้มีตราสินค้าของตัวเองอันนี้เสียว (ไม่เชื่อลองถาม MINT ดูสิครับ) PB อันนี้ผมไม่ได้รู้จักมากนักครับ แต่ก็คิดว่า Barier to entry ก็ไม่สูงนัก ไม่เชื่อลองถาม CP ดูสิครับ
โดย
Value_chain
พุธ ม.ค. 02, 2008 11:39 am
0
0
@@...กูรูหุ้นพันล้าน...มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์&quo
จอร์จ โซรอส ไงครับ Hedge Fund เทคนิคล้วนๆ รวยอื้อ (แต่คงยังไม่ระดับโลกจริงๆน่ะแหละครับ) แน่ใจเหรอครับ ว่าวิธีที่เขาใช้แค่กราฟหรือเทคนิคอย่างเดียว.... คำว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นก็อย่างนึง ค่าเงินก็อย่างนึงนะครับ .... :roll:
โดย
Value_chain
จันทร์ ต.ค. 01, 2007 2:45 am
0
0
สัมมนาดีๆจาก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
เมื่อวานฟังแล้วก้อท้อใจอยู่เรื่องนึงนะคับ ที่เขาบอกว่ายังไง เราก้อเสียเปรียบเจ้าของกิจการกับ audit วันยังค่ำ เพราะว่า สุดท้าย แล้ว ถ้าเราไล่ดูงบการเงิน การตัดสินใจยังไงก้อจะช้ากว่า เจ้าของ กับ audit อยู่ดี สงสัย company visit กับ thaivi จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย!!! :twisted: ผมว่างบไตรมาสเดียวหรือปีเดียว ไม่ได้ตัดสินความเป็นความตายของหุ้นคุณค่าขนาดนั้นหรอกครับ แนวโน้มและแผนธุรกิจระยะยาวสำคัญที่สุด และเจ้าของกิจการถึงแม้จะรู้แนวโน้มงบการเงิน แต่เขาก็ไม่รู้ราคาที่แท้จริงอนาคตหรอกครับอีกอย่างการซื้อขายหุ้นของเขาและครอบครัว+คนสนิทจะถูกจับตามากด้วยวันที่ซื้อไม่เท่าไหร่หรอกครับแต่วันที่ขายนี่สิขายได้ไม่เท่าไหร่มีคนขายตามเพียบ :wall: ผมมีพื่อนสนิทเป็น Audit ที่เล่นหุ้นเขายังไม่เห็นได้กำไรเท่าไหร่จากหุ้นบริษัทที่เขา Audit เลยครับ รู้งบไม่ได้หมายความว่าจะรู้ Value ครับ :cool: อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปเลย ลองดูสิครับว่า ดร.นิเวศน์ เขาเป็น Audit หรือ Owner หรือเปล่า ท่านมี Thaivi.com หรือ Company visit ให้พึ่งหรืเปล่าตอนที่เขาสร้างตัว??? แม้จะมี connection แต่สิ่งเหล่านี้คงไม่ช่วยอะไรถ้าท่านไม่สามารถตีมุลค่าที่เหมาะสมได้เอง :shock: คนเราสำคัญที่สุดคือต้องพึ่งตัวเองครับ เราต้องค่อยๆสั่งสมความรู้และข้อมุลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ บริษัท และowner ไปเรื่อยๆครับ แล้วจึงค่อยไปแลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่นๆเพื่อขยายความรู้และประสบการณ์เราออกไปอีก แล้ววันนึงก็จะเป็นวันของเราครับ เราคงไม่สามารถยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจไปตลอดใช่ไหมครับ... :cheers:
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.ย. 03, 2007 11:27 am
0
0
แก้บาทแข็งก็ต้องพิมพ์เงินเพิ่ม ง่ายนิดเดียว ทำไมไม่ทำ
[quote="fantasia"]การแทรกแซงค่าเงินบาทโดยการซื้อ usd จะเป็นการเพิ่มปริมาณเงินบาทในระบบ หรือพูดตามภาษาของเจ้าของกระทู้ก็คือการพิมพ์เงินเพิ่มนั้นเอง ซึ่งการที่เรามีเงินบาทในระบบเพิ่มขึ้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่จะทำให้เราซื้อของเพิ่มขึ้นได้เลย (อันนี้คิดว่า จขกท. เข้าใจผิดครับ) เพราะของที่ผลิตในประเทศไทยก็ยังมีเท่าเดิม (ไม่พูดถึงของจากเมืองนอกซึ่งต้องใช้เงิน usd ในการซื้อ ซึ่งก็เท่ากับว่าต้องเอาบาทที่พิมพ์เพิ่มมาไปกลับแลก usd ทำให้เงินบาทแข็งอยู่ดี) สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มปริมาณเงินบาทในระบบเศรษฐกิจก็คือเงินเฝ้อต่างหากครับ สืบเนื่องจากที่ผลผลิตในประเทศยังมีปริมาณเท่าเดิม แต่ปริมาณเงินในระบบมีมากขึ้น นั่นต้องทำให้สินค้าแพงขึ้นแน่นอน ซึ่งการที่จะทำให้ไม่เกิดภาวะเงินเฝ้อนั้น แบงค์ชาติจะต้องออกพันธบัตรมาเพื่อดูดซับเงินบาทในระบบเศรษฐกิจไม่ให้มีมากเกินไป นั่นหมายถึงภาระดอกเบี้ยของชาติ หรือภาษีของทุก ๆ คนนั้นเอง ที่เขียนมานี้ก็จำ ๆ มาจากที่เรียนมา บวกกับอ่านบทความตามหนังสือพิมพ์ครับ หลายคนอาจไม่เห็นด้วย เรื่องเศรษฐกิจนี่เถียงกันยังไงก็ไม่จบ ขนาดนักเศรษฐศาสตร์ระดับ ดร. ด้วยกันเองยังเถียงกันเองได้ แล้วภาษาอะไรจะไปอธิบายให้คนไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์เชื่อได้ (คิดอย่างนี้ได้แล้วจะมาอธิบายอีกทำไมเนี่ย
โดย
Value_chain
ศุกร์ ก.ค. 27, 2007 11:35 am
0
0
compny visit BROCK ครับ
สนใจไปด้วยคนครับ แต่ไม่รู้จะว่างวันที่นัดรึเปล่า อยากขอวันเวลาที่แน่นอนครับ ขอบคุณมากครับที่จัดกิจกรรมดีๆอย่างนี้ขึ้นอีก :cheers:
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 3:17 pm
0
0
visit company SE-ED ครับ
ขอไปด้วยคนครับ ติดตามหุ้นตัวนี้มานานแล้ว ไม่รู้จะช้าไปรึเปล่า :lol:
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 3:13 pm
0
0
โบรกไหน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ได้ดีบ้างครับ
อย่าเชื่อใคร ให้เชื่อตัวเราเอง เคยซื้อหุ้นตัวหนึ่งสมัยยังไม่ประสีประสา (ที่จริงตอนนี้ก็ยังอ่อนหัดอยู่ดี) อ่านบทวิเคราะห์ใน settrade.com มีวิเคราะห์ตัวนี้ประมาณ 5-7 สำนัก ทุกสำนักฟันธงให้ "ซื้อ" มี upside 25-40% ตาลุกวาว น้ำลายหก:ep: อ่านบทวิเคราะห์ก็เห็นว่าพูดได้ดี คิดว่าสิ้นปีได้เงินฉลองปีใหม่แน่เลย ซื้อไปมากพอสมควร ถือจนสิ้นปีก็ยังไม่ขึ้น คิดว่าเอาน่ามันอาจขึ้นช้านิดหน่อย ผ่านไปอีก 3 เดือน อยู่ดีๆ ทุกสำนักพร้อมใจออกมาปรับประมาณการ จากที่เคยให้ 3.6-4 บาท หันลงมาเหลือ 2.2-2.6 บาท ลงทีเดียวเกือบ 40% จากที่เคยให้ไว้ ตอนนี้ก็ยัง :doi: อยู่เลยเพราะทำใจขายไม่ลง โกรธ broke มากที่อยู่ๆมาปรับแบบนี้ได้ไง แต่พอเวลาผ่านไปก็เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า "อย่าเชื่อเพราะว่าเป็น broke ของเรา(หรือของคนอื่นก็ตาม)" อย่าคิดมากเลยครับ การลงทุนมีความเสี่ยงที่เราต้องยอมรับครับ แต่หากเราศึกษาก่อนด้วยตัวเองเราจะรู้ว่าความเสี่ยงอะไรจริงๆที่เราต้องระวัง และอาจจะสามารถถอนตัวออกไปก่อนที่ราคาจะลงหนักเมื่อทุกอย่างสะท้อนสู่สาธารณชนได้ครับ ผมคิดว่าอาการอย่างนี้น่าจะเกิดจากการให้ข่าวที่บิดเบือนแก่นักวิเคราะห์เพื่อปั่นราคาหุ้น และความไม่รู้จริงของนักวิเคราะห์นั่นแหละครับ(คนนึงๆ ดูหุ้นตั้งหลายสิบตัวจะเอาเวลาที่ไหนมาศึกษาให้รู้จริง) ก็ย่างที่ผมพูดเสมอล่ะครับ ว่านักวิเคราะห์ก็คนเดินดินเหมือนพวกเรานี่แหละครับ เพียงแต่อาจมีโอกาสฟังคำโอ้ลมของผู้บริหารมากกว่าหน่อยเท่านั้นเอง....
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. มิ.ย. 07, 2007 1:01 pm
0
0
โบรกไหน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ได้ดีบ้างครับ
ผมว่าเชื่อตัวเองก่อนดีที่สุดคับส่วนที่เหลือเป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ :cheers: เห็นด้วยครับ เพราะต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า นักวิเคราะห์เขาก็คนธรรมดาเหมือนพวกเรานี่แหละครับ ดูหุ้นคนนึงๆก็หลายสิบตัว แค่ตามข่าว ทำโมเดล เขียนบทวิเคราะห์ให้ทันก็แย่แล้ว ไม่มีเวลาพอที่จะเจาะลึกเหมือนพวกเราหรอกครับ แถมบางทียังถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้บริหารในการสร้างข่าวปั่นหุ้นอีกด้วยครับ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือใช้ข้อมูลจากเขามาตัดสินใจลงทุนเอง และอย่าเชื่อะไรมากกับราคาเป้าหมาย
โดย
Value_chain
พุธ มิ.ย. 06, 2007 11:23 am
0
0
คุยหนักๆนะ ชีวิตลูกจ้างสำคัญกะชีวิตการลงทุนอย่างไร
ผมว่าเราสามารถมองการลงทุน เป็นงานอย่างหนึ่งได้นะครับ :cheers: แต่มันสำคัญที่ว่า คุณสามารถ เซ็ตตารางเวลาวางแผนการลงทุนให้เป็นระบบ และใช้เวลาที่เสียโอกาสไปคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนรึปล่าว? ไม่ใช่ว่าเอาแต่ซื้อหุ้นแล้วนั่งลุ้นอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่เอาที่เสียโอกาสไปทำการบ้าน :lol: แต่อย่างไรก็ตามพอร์ตการลงทุนก็ควรต้องใหญ๋เพียงพอคุ้มค่าที่จะเสียโอกาสได้รับรายได้นะครับ เหมือนนักลงทุนรายใหญ่หลายท่านที่เขายอมออกจากงานประจำมาสนใจการลงทุนอย่างเดียว เพราะการตัดสินใจลงทุนมีผลต่อผลตอบแทนมากกว่างานใดๆ และเขาต้องทำการบ้านเยอะ เพราะหุ้นที่น่าสนใจมักจะมีสภาพคล่องต่ำเขาต้องทำการบ้านให้ดีที่สุดก่อนเข้าลงทุน :roll: แต่ในอีกมุมหนึ่งผมเห็นว่าการทำงานประจำและการเข้าสังคมก็ยังมีความสำคัญไม่น้อยต่อการลงทุนแบบ Value นะครับ เพราะต้องเราใช้ข้อมูลไม่น้อยจากหลายๆแหล่ง(ไม่ใช่ Inside นะครับ) ในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่าอิสระภาพแห่งการเงินที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อคุณมีเงินมากจนถึงจุดที่ว่า คุณสามารถนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยง แล้วได้ผลตอบแทนหลังหักอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวของชีวิตตนและครอบครัวทั้งในปัจจุบันและอนาคต ถ้ายังต้องมานั่งลุ้น และใช้เวลากับอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งแบบนี้ยังไม่ถอเป็นอิสระภาพที่แท้จริงหรอกครับ แค่ย้ายมากรงใหม่เท่านั้นเอง :lol: ผมว่าถ้าหากเหนื่อยกายเหนื่อยใจกับงานประจำจนถึงขีดสุดก็ออกมาพักก่อนก็ไม่เสียหายนะครับ ลองใช้ชีวิตในฐานะนักลงทุนดูสักพัก ช่วงที่จิตใจว่างๆ ปราศจากเงื่อนไขใดๆและมีสมาธิ สมองจะปลอดโปร่งและไม่สับสน แล้วผมว่าคำตอบของชีวิตจะปรากฏออกมาเองแหละครับ อย่าคิดมากเลยครับ :cool:
โดย
Value_chain
พุธ มิ.ย. 06, 2007 11:13 am
0
0
ตลาดหุ้นตอนนี้
ผมเองก็คิดแบบนี้เหมือนกันครับ พี่มน :D ตอนนี้เลยขอถอยไปเตรียมกระสุน รอพายุเข้าดีกว่า :lol: ขอบคุณครับที่ช่วยออกโรงมาด้วยตัวเอง :bow:
โดย
Value_chain
ศุกร์ พ.ค. 18, 2007 6:12 pm
0
0
cp7-11 ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้น ใน SLS แล้วครับ
คิดเหมือนกันครับ insider เพราะอยู่ดี ๆ ก็พุ่ง แต่ว่าใครอ่านแล้วเข้าใจช่วยอธิบายหน่อยครับ ผมอ่านแล้วโครตงง สรุปแล้วมีผลยังไงบ้างเนี่ย แล้ว 7-11 ยังเหลือสัดส่วนใน SLS อยู่เท่าไหร่เนี่ย ไม่แน่ใจนะครับ รู้สึกว่าจะขายทั้งหมดเลย รวมทั้งหนี้ด้วย แลกกับหุ้นกู้แปลงสภาพ ดบ. 1% อายุ 3 ปี ของ CTEI ยอดรวมไม่แน่ใจว่าเป็นประมาณ 4000 ลบ.รึปล่าวนะครับ โดยมีข้อกำหนดว่าจะบังคับแปลงสภาพเมื่อราคา CTEI ที่ฮ่องกงสูงเกิน 0.43 ดอลล่าห์ฮ่องกง ที่ราคาแปลงที่ 0.39 ดอลล่าห์ฮ่องกง ถ้าไม่ถึงก็รอรับเงินคืนอีก 3 ปีครับ CTEI เขาเป็นบริษัทที่ดูแล Lotus ส่วนเหนือ-ใต้ในจีนอยู่แล้ว ขายส่วนตะวันออกและภาคกลางไปให้เขาถือทั้งหมดเพื่อจะบริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น ผมว่างานนี้มี inside แน่นอนครับ เพราะราคาปรับขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุมาหลายวันแล้ว แต่ส่วนใหญ่คนไม่คิดว่าจะเป็นการขายได้หุ้นกู้แปลงสภาพ จะคาดว่าจะเป็นการขายแบบแลกหุ้นกันมากกว่าครับ เลยทำให้พอข่าวออกมาจริงก็เลยพุ่งขึ้นแรงมาก เพราะบริษัทไม่ต้องไปรับความเสี่ยงของราคาหุ้นของ CTEI อีกทั้งยังได้เสมือนได้ warrant มาอีกด้วย และจากที่ทราบมาข่าวนี้ถูกเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศตั้งแต่เช้าเมื่อวานแล้วครับ :wink:
โดย
Value_chain
ศุกร์ พ.ค. 18, 2007 6:07 pm
0
0
หุ้น ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร
โอนข้ามโลกมาขายในตลาดผิดกฏหมายมาตราไหนคะ รบกวนช่วยชี้ให้ดูที จะเป็นพระคุณ เพราะเปิดประมวลมาสิบกว่าปีไม่เจอข้อห้ามนี้ กรมสรรพากรมีอำนาจประเมินรายได้บุคคลธรรมดาเพื่อการเสียภาษีตั้งแต่เมื่อไหร่ พลิกหาทั่วประมวลรัษฎากรแล้วก็ไม่เจอ แล้วถ้าบริษัทเสียภาษีไม่ครบนี่ ให้กรรมการรับผิด ก้เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน การโอนหุ้นข้ามโลกไม่ผิดหรอกครับ... แต่สิ่งอื่นๆที่ตามมาจากการโอนต่างหากครับที่ผิด และอยากจะบอกว่า มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ว่าคนอื่นทำชั่วได้ แล้วเราทำชั่วบ้างก็ไม่ผิด อย่ายกความผิดของคนอื่นมาปกป้องคนที่ตนรักตนบูชาเลยครับ เรื่องการเมืองเถียงไปเท่าไหร่ก็ไม่จบไม่สิ้น เพราะคนเรามักมองผ่านแว่นแห่งอคติ ทั้งแว่นแห่งความรักและความเกลียด ไม่ต้องไปแฉหรือบูชาใครหรอกครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จะดีจะชั่วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง... ผมว่านี่คือบอร์ดคุยเรื่องหุ้น กรุณาอย่าหลงประเด็น ผมว่าเราทุกคนควรสงบสติอารมณ์กันแล้วไป PM คุยกันเองดีกว่านะครับ ขอบคุณครับ
โดย
Value_chain
พุธ พ.ค. 16, 2007 2:29 pm
0
0
ชาว VI คิดว่า หุ้นไทยกลุ่มไหน มั่นคงที่สุดครับ
แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หัวสี คุณก็อาจเข้ามาล้ม SE-ED
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.พ. 05, 2007 12:09 pm
0
0
ชาว VI คิดว่า หุ้นไทยกลุ่มไหน มั่นคงที่สุดครับ
ถ้าเอามั่นคงนี่ คงต้องเป็นธุรกิจที่ผูกขาดในตลาดของตัวเอง หรือได้เปรียบคู่แข่งมากๆ อย่างเช่น มาม่า ฟาร์มเฮ้าส์ เซเว่น บิ๊กซี เป๊ปซี่ และโค้ก อะไรประมาณนี้นะครับ อย่างไรก็ตาม มันอาจมีปัจจัยที่มาคุกคามได้ เช่น ซีเอ็ดนี่ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดร้านหนังสือ ถ้าคุณมีเงิน 2400 ล้านบาท แล้วต้องการเอาชนะซีเอ็ดนี่ ผมว่าคุณเอาเงินไปฝากธนาคารหรือไปซื้อหุ้นซีเอ็ดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ใครเล่าจะนึกว่า วันดีคืนดี ซีเอ็ดจะถูกไทยรัฐอัด ซึ่งจนถึงตอนนี้ ปัญหาก็ยังไม่จบครับ ซึ่งถ้าเราลงทุนในซีเอ็ดตัวเดียว เราอาจเครียดมาก แต่ถ้าการลงทุนของเรามีการกระจายไปยังธุรกิจที่ยอดเยี่ยมหลายๆธุรกิจแล้ว เราย่อมจะสบายใจมากกว่า ถ้าหุ้นสักตัวของเราราคาลดลงไปมากๆ ในขณะที่เราคิดว่าในระยะยาวแล้วมันจะดีขึ้น เราก็ยังสามารถหาเงินมาซื้อตัวที่ราคาลดลงมากๆได้ ซึ่งเป็นข้อดีข้อหนึ่งของการถือหุ้นหลายตัวครับ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หัวสี คุณก็อาจเข้ามาล้ม SE-ED :rofl: (หรืออย่างน้อยๆ ก็อาจเข้ามาลดรายได้ และกำไร :lovl: ) การมองว่าอะไรมั่นคงที่สุดนั้น... คงต้องพิจารณาจากพลังทั้ง 5 (5 Forces) ให้ครบทุกด้านครับ ซึ่งในสายตาผมนั้น ผมคิดว่าธุรกิจที่มั่นคงที่สุดนั้นคงต้องเป็นธุรกิจที่อิ่มตัวที่สุดและไม่น่าจะมีการเปลี่ยนสมดุลย์ของพลังทั้ง 5 ในเร็ววัน ซึ่งจะหาการเติบโตได้ค่อนข้างยาก นอกเสียจากได้รับความคุ้มครองจากทางภาครัฐหรืออำนาจรัฐ(เช่น ผ่านทางสัมปทาน)ครับ แต่อย่างไรก็ดีธุรกิจพวกนี้ฏ็เสี่ยงที่จะถูกรัฐไถ หากมีกำไรสูงๆโดยผู้มีอำนาจตัดสินใจไม่มีเอี่ยว.. ดังนั้น ผมจึงไม่ขอส่งธุรกิจไหน เข้าประกวดเลยแล้วกันนะครับ...
โดย
Value_chain
จันทร์ ก.พ. 05, 2007 12:05 pm
0
0
ทำไมกลุ่มโรงพยาบาล PE, PB สูงจังครับ
ธุรกิจในกลุ่มนี้จะเป็นธุรกิจที่มี Free cash Flow รับในแต่ละปีค่อนข้างสูง เพราะลงทุนส่วนใหญ่ไปหมดแล้วในครั้งแรก หากไม่มีหนี้สินเหลืออยู่มากนัก ก็จะทำให้การประเมินมูลไค้หุ้นออกมาได้ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ Earning ครับ
โดย
Value_chain
ศุกร์ ก.พ. 02, 2007 1:08 pm
0
0
อันตรายจากสมาชิกแดดเดียว
ผมว่าพวกเรานี่เวลาอ่านอะไรกรุณาอ่านจับใจความให้มันชัดเจนกันนิดจะดีขึ้นมากนะครับ เช่นเวลาอ่าน56-1นี่จะได้ข้อมูลสำคัญๆ อย่างในกรณีนี้ เขาว่า พวกที่ชอบเปลี่ยน log in ด้วยเจตนาที่ไม่ดี ส่วนพวกที่เจตนาดีอยู่แล้วก็ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนอะไร ส่วนท่านที่ชอบอ่านอย่างเดียวก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ไม่ได้ปิดกั้น ส่วนท่านที่ไม่กล้าเขียนอะไร ก็ไม่เป็นไร กล้าเมื่อไรก็เขียนคุยกัน ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เราไม่รู้จึงถาม จะได้หายไม่รู้ ขอบคุณครับ พี่มน ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แอบอ่านมาหลายปีแล้ว :) แต่ไม่ค่อยได้โพส เพราะมีเหล่าพยัคย์มังกรประจำบอร์ดแย่งซีนไปหมดแล้ว เลยไม่อย่างแสดง ความความเข้าใจที่อาจจะไม่แน่นพอของตนเองออกไป และขอบคุณพี่มนที่คอยค้ำจุนบอร์ดมานาน :bow: จนพวกเราสามารถรวมตัวกันจนเป็นชมรมได้อย่างเต็มภาคภูมิ... :cool:
โดย
Value_chain
จันทร์ ม.ค. 29, 2007 6:15 pm
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
ขอรบกวนด้วยคนครับพี่ครรชิต :D
[email protected]
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 4:10 pm
0
0
กิจการพวกซื้อมาขายไปโดยนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
ถ้ามีหนี้ต่างประเทศ อยู่ก่อน บาทแข็งขึ้น เงิน บาทที่จะเอาไปจ่ายหนี้ก็ลดลง แต่อย่าลืมนะครับว่าหนี้ทั้งหมดไม่ได้ต้องจ่ายในปีที่จะถึงนี้ ดังนั้นผลประโยชน์ส่วนใหญ่อาจเป็นเพียงผลประโยชน์ทางบัญชีเท่านั้นครับ ผมว่ายังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ทั่วไปๆ ที่นำเข้าวัตถุดิบสำคัญจากต่างประเทศ อีกหลายอย่างครับ เช่นกระดาษ ที่ต้องนำเข้าเยื่อกระดาษ จากต่างประเทศ แต่ผมว่าสิ่งที่สำคัญคือ เราต้องดูขณะนี้บริษัทนำเข้าสินค้าจากประเทศไหน และประเทศนั้นเป็นประเทศที่เราได้ประโยชน์จากค่าเงินโดยเปรียบเทียบหรือไม่ เพราะถ้านำเข้าสินค้าจากทางเอเชียเหมือนกัน ก็อาจไม่ได้ผลประโยชน์อะไรมากนักก็ได้ครับ :D
โดย
Value_chain
พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 3:58 pm
0
0
66 โพสต์
of 2
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
Value_chain
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 7:56 pm
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ม.ค. 31, 2018 11:59 pm
โพสต์ทั้งหมด:
92 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป... เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว