Re: คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเป็น VI ครับ (โดยคุณ Invisible han อยากเปน ไวไว ด้วยย โดย sittha เสาร์ พ.ย. 01, 2014 9:03 pm

Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..." การลงทุนเปนการทำธุรกิจ ทำไมคนธรรมดาจะไม่สามารถทำธุรกิจได้ ธุรกิจโดยการถือหุ้น หรือ ลงมือทำเอง มันก้อคือ การทำธุรกิจ หรือ ถ้าการลงทุนเปนการซื้อมาขายไปของหุ้น ความต้องการอยู่ที่ demand/supply หุ้นดี demand ก้อดี แล้วทำไม คนธรรมดาจะทำไม่ได้ นอกจากแยกหุ้นดีไม่ออก โดย sittha อาทิตย์ ส.ค. 31, 2014 5:36 pm

Re: ทำอย่างไรกันครับ เมือหุ้นที่เล็งไว้ มีราคาแพงเกินไป ถ้าหุ้นมันแพงเพราะพื้นฐานมันดี เราก้อคงต้องซื้อแพงครับแต่อย่าซื้อตอนมันแพงสุดๆ เช่นในตอนที่ตลาดมันบูมสุดๆ และ มันจะแพงอยู่อย่างนั้นได้ พฐ ระยะยาว ต้องมีการเติบโตเปนไปแบบเดิมพอๆกับที่มันเคยเปนมาในเรื่อง ยอดขาย กำไรต่อหุ้น เงินสดต่อหุ้น ความเสี่ยงของผลการดำเนินงาน โดย sittha อาทิตย์ ส.ค. 31, 2014 5:31 pm

Re: Financial ratios from morningstar.com ตอนนี้เก็บเงินไว้2ล้านเพื่อที่จะเข้าไปซื้อหุ้น แต่ยั่งไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นตอนไหนดีช่วยตอบหน่อย ซื้อเมื่อเจอ บริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาสม ครับ โดย sittha อาทิตย์ ส.ค. 31, 2014 5:20 pm

Re: Financial ratios from morningstar.com ticon กับ beauty ช่วยวิเคราะห์ให้หน่อยครับ ตัวไหนหน้าสนใจ ซื้อทั้งสองตัวเลยครับ โดย sittha อาทิตย์ ส.ค. 31, 2014 5:18 pm

Re: วานผู้รู้ตอบเรื่องงบดุล และ งบกระแสเงินสด ครับ ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ ^^ ส่วนที่อาจกระทบ CF ทำให้ไม่สามารถลบกันได้เลย เพราะอาจมีรายการอื่นต้องเอามารวมด้วยตามนี้ - สินค้าคงเหลือ Provision for obsolete stock, write off - สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น เช่น ดอกเบี้ยรับ/ค้างรับ ที่ต้องกระทบว่า ค้างต้นงวด+ตั้งเพิ่ม-ค้างปลายงวด=รับเงินสดจิง - สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น - เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น ต้องกระทบว่า ต้นงวด+ซื้อหรือตั้งเพิ่ม-ปลายงวด=เงินที่จ่ายเจ้าหนี้จิง - หนี้สินหมุนเวียนอื่น เช่น ดอกเบี้ยจ่าย/ค้างจ่าย ที่ต้องกระทบว่า ค้างต้นงวด+ตั้งเพิ่ม-ค้างปลายงวด=จ่ายเงินสดจิง http://www.jarataccountingandlaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=524171&Ntype=3 โดย sittha ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 2:00 pm

Re: vi มี cut loss มั้ยครับ การลงทุนเน้นที่พฐของกิจการมากๆ และ บางแบบที่ไม่ต้องเน้นพฐของกิจการมากเกินไป แนวคิดในการซื้อ และ การขายจะไม่เหมือนกันครับ โดย sittha จันทร์ ธ.ค. 05, 2011 10:30 pm

Re: ลอกคราบ วอเรน บัฟเฟต (Warren Buffet) คนเขียนบทความดูมีความรู้ดีครับ แต่คิดไม่ถูก โดย sittha จันทร์ ธ.ค. 05, 2011 10:14 pm

Re: คิดอย่างไร กับเซียร์รังสิตที่กำลังจะเข้าตลาด "เพื่อระดมทุนนำไปขยายกิจการพื้นที่เช่า, สร้างโรงแรมที่ชะอำ, ลงทุนศูนย์การค้าที่สหรัฐ และนำเงินอีกส่วนไปใช้หนี้นะครับ (หนี้เยอะพอสมควร) " เรื่องของหาเงินลงทุน ทำพท.เช่า ถ้าเทียบกับ CPN , ซึ่ง CPN บริหารได้ค่อนข้างดีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ก้อยังไม่ถือว่าดี ใส่เงินไป 100 ได้กลับมาประมาณ 10 [ROBINS ทำได้ดีกว่า]จึงน่าสงสัยว่า ZEER เอาเงินไปทำ พท. เช่าแล้วจะคุ้มต่อการลงทุนหรือไม่ ทำธุรกิจโรงแรม : ธุรกิจโรงแรมในตลาดหลักทรัพย์ กำไรไม่ค่อยจะดี และไม่ได้ทนต่อปัญหาต่างได้ดี ที่ผ่านมาก้อติดลบซะเป็นส่วนใหญ่ จนมีบางบริษัทหาธุรกิจอื่นใส่เข้ามาเพิ่มเพื่อลดผลกระทบจากกิจการของโรงแรม เช่น mint , centel เมื่อ ZEER ต้องการเงินไปลงทุน น่าคิดว่าราคาที่เสนอขาย ตามสัดส่วนที่เราซื้อ เมื่อไหร่บริษัทจะทำกำไรคืนต่อหุ้นได้เท่ากับเงินที่เราจ่าย , เขาก้อต้องการเงินเยอะแต่เราก้อต้องการซื้อต่ำ โดย sittha อังคาร พ.ย. 01, 2011 9:53 pm

Re: Understanding the economic cycle ขอบคุณ พี่ๆ torpongpak,imerlot,Ii'8N มากๆครับ โดย sittha พฤหัสฯ. ต.ค. 13, 2011 3:47 pm

Re: บทสรุป กรีซ กับตลาดหุ้น เก็บเงินสดไว้รอตลาดตกสุดๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ขอถามวิธีการตัดสินใจเข้าซื้อของพี่jengเเละพี่ท่านอื่นๆหน่อยครับ ว่าจะตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น"จังหวะ"ไหน? ผมขอยกตัวอย่างสมมุตินะครับเช่น ผมสนใจหุ้นZ เมื่อคำนวณราคาที่คิดว่าถูกเเละมีMargin of safety(ไม่ว่าจะคิดเเบบ Forward PE, P/BV, PEG หรือ ดูDividend) เราได้ตัวเลขมาที่ราคา 190-210 บาท เเต่ในขณะนี้หุ้นZ ราคา 300 บาทที่ Set 1,000 จุด...เเน่นอนครับเราก็ต้องรอ ปรากฏว่าผ่านไปไม่ถึงสี่เดือนต่อจากนี้ สมมุติว่าวิกฤติหนี้ยุโรปเเย่ลงกรีซอาจล้มละลาย Setหลุดมาที่700จุด ราคาหุ้นZลงมาที่200บาท เเละไม่รู้ว่าเเนวโน้มSetจะไปทางไหน ตลาดโลกดูอึมครึม เเต่รัฐบาลไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงอาจออกมาตรการบางอย่างกระตุ้นเศรฐกิจ ซึ่งหุ้นZอาจได้ประโยชน์ทางออ้อม ถามว่าพี่ๆจะซื้อหุ้นZเลยไหมจะมีวิธีการซื้ออย่างไร ทยอยซื้อไปทีละนิด หรือทุ่มซื้อตามที่ตั้งงบไว้ว่าอยากมีหุ้นzเป็นจำนวนกี่หุ้น(เเล้วปิดจอไปเลย) หรือยังไม่ซื้ออาจใช้กราฟเทคนิคดูภาพรวมของSetให้กลับเป็นขาขึ้นก่อนเเล้วค่อยซื้อหุ้นz หรือรอให้เเนวโน้มตลาดรวมเป็นขาขึ้นก่อน ยอมซื้อหุ้นZที่ราคาเเพงกว่า200บาทเเต่รอให้วิกฤติจบเเน่ๆก่อน ปล.ผมยังไม่เคยเจอวิกฤติเเบบปี2008ครับ ตอบได้ก็รวยซิ สำหรับพี่เหรอ ถ้าเป็นพอร์ท VI ซื้อแล้วก็ถือ รับปันผล ถือไปปีหน้าเลย ส่วนพอร์ทเก็งกำไร ก็รอของดี ราคาลงมาจัดๆ ยิ่งลงยิ่งชอบ (ส่วนสำนักอื่น เขาไม่ให้ซื้อวิธีนี้ เขาบอกว่า ของถูก จะมีถูกกว่า ) ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเป็นพอร์ทเก็งกำไร ก็อยากได้หุ้นที่พื้นฐานดี ราคาคนเขาบ่นกันว่า ลงมาขนาดนี้ได้ไง แล้วถือไปขายตอนคนบ่นกันว่า ขึ้นไปแบบนี้ได้ไง (ความอยากนะครับ ทำได้ หรือไม่ได้อีกเรื่อง) 555 จริงๆครับพี่ใครตอบได้ก็รวยซิ เเต่ผมก็ได้คำตอบนะครับ :D ผมรู้สึกว่าเราอ่านทฤษฎีมาเยอะเเล้ว คิดๆตามก็เเล้วได้Conceptของตนเองบางอย่างเเล้ว เเต่จังหวะตัดสินใจซื้อมันต้องอาศัยความ"กล้า"มากๆเลยนะครับ ต้องกล้าที่จะเชื่อสิ่งที่เราคิด สมมุติว่าถ้าผมตัดสินใจซื้อหุ้นZ ตอน200บาทเเละถ้ามันตกมาอีกเหลือ150 ตกมาอีกเหลือ 130 เเล้วผมกลับ"ตื่นเต้น" "อยากซื้อเพิ่ม" เเละรีบรีดเงินสดออกมาจากช่องทางต่างๆเพื่อเป็นกระสุนไปซื้อเพิ่ม...ตอนนั้นเเหละผมจะถือว่าผมผ่านจากVIฝึกหัด เป็นVIพันธ์เเท้ ผมคิดว่า หุ้นตัวหนึ่งเล่นได้หลายแบบ หุ้นตัวเดียวกันคนซื้อต่างกัน ได้กำไรไม่เท่ากัน ถ้าราคาที่ประเมินเป็น ราคาในอนาคตหลายปี แสดงว่าหุ้นถือยาวๆพอสมควร ราคามาอยู่ในช่วงที่เราจะซื้อ เศรษฐกิจไม่ดี ดัชนี้ตลาดหุ้นไม่ดีต้นปีตกมาไม่เยอะ แบ่งซื้อซัก 3 ครั้ง จะซื้อนิดหน่อยก่อน ถ้าราคาที่ประเมินเป็น ราคาในอนาคตอันใกล้ แสดงว่าเป็รหุ้นถือระยะสั้น ราคาหุ้นจะไม่เหวี่ยงตามกำไรมากนัก และ เศรษฐกิจไม่ดี ดัชนี้ตลาดหุ้นไม่ดี แบ่งซื้อซัก 3 ครั้ง จะยังไม่ซื้อรอจังหวะไปก่อน มันอาจจะตกลงไปต่กกว่าโซนซื้อ แล้ววิ่งกลับเข้าโซนซื้อใหม่ และ ราคาเพ่ิมไปเเรื่อยๆ รอรับขามันวกกลับครับ เพาะเราจะยังถือเงินสดไว้ก่อนเผื่อเจอหุ้นดีๆตัวอื่นอีก โดย sittha พุธ ต.ค. 12, 2011 11:26 am

Re: ข้อเสียของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ผมคิดว่า หัวใจของ VI ประมาณว่า ซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาะสม ข้อเสียที่เห็นๆคือ เราตีความประโยคข้างบนผิดและใช้มันผิด ผมชอบคำพูดของเสี่ยยักษ์ที่ว่า "ต้องฝึกคิดให้เก่ง" ผมชอบที่ ดร.พูดประมาณว่า การลงทุนชนะที่ความคิด โดย sittha อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 2:08 pm

Re: บางทีก็เบื่อกับการกด ลบ ใน Thai VI... โพสแล้ว อย่างน้อยคือ สมองได้เรียบเรียงเรื่องราว เกิดการเชื่อโยงของเหตุผล แต่โพสแล้วโดนลบอาจจะ - เสียความรู้สึก อารมณ์เสีย หงุดหงิด แต่ในขอเสียนั้นก้อมีข้อดีอยู่ ถ้าคิดให้มันมีเหตุผลไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยว อาจจะฝึกคิดเช่น -ข้อมูลเราไม่มีเหตุผล ไม่มีสาระหราาา -เราควบคุมอาไรไม่ได้หมด -เด๋วมันก้อผ่านไป -นี่มันแค่อารมณ์นะ เราปรุงแต่งอารมณ์ตามความคิดของตัวเอง เราเลือกได้ที่จะพอใจไม่พอใจ คือทำให้เกิดการพัตนาตัวเองทางอารมณ์และความคิดครับ โพสไปเหอะครับๆ อย่าน้อยเราคิดให้ถูกต้อง เราก้อได้มากกว่าเสีย อย่างน้อยอยู่ในตลาดหุ้นเราก้อ ต้องเอาชนะอารมณ์ และมีเหตุผลในการลงทุนอยู่แล้ว ถือว่าการโพสช่วยพัตนาตัวเรา เมื่อปีก่อน ผมก้อโพสอาไรตลกๆไปเยอะ บางทีตัวเองยังอายเลย โดนลบอีกตั้งหาก เพราะเรามานมือใหม่ ความคิดก้อไม่ค่อยจะถูก เด๋วนี้ก้อยังใหม่ สู้ๆครับ โดย sittha อาทิตย์ ต.ค. 09, 2011 12:04 pm

Re: [quote="chumber"][quote="chumber"]ขอe-book ด้วยคนครับ [email protected] อยากจะขอคำแนะนำในการอ่านจากหน้าจอคอมด้วยอะครับ อิอิ อ่านได้ไม่นานก็ปวดตาทุกทีเลย มีอะไรแนะนำบ้างไหมครับ ขอบคุณครับ[/quote] พึ่งเห็นว่ามีให้โหลดแล้ว ขอโทษด้วยครับ เอาเป้นว่าขอแค่ คำแนะนำในการอ่านจากหน้าจอคอม แทนละกันครับ อิอิ ขอบคุณครับ[/quote] ใส่ Rayban ที่เป็นแว่นกันแดดครับ กัน UV ได้ 100% แต่อย่าเลือกอันที่มืดมากนัก พยายามเลือกความเข้มให้พอดีกับ แสงจากจอคอมที่เราเปิด ช่วยได้เยอะครับ ดีกว่า พวกแว่นที่เป็นเลนส์ multicoat หรือ แว่นกันแดดที่ไม่ได้กัน UV 100% โดย sittha เสาร์ ต.ค. 08, 2011 11:08 am

Re: ภาวะทางจิตใจของตนเองกับสภาพสภาวะของตลาดหุ้น ควรมีเหตุผลในการลงทุน มากกว่า อารมณ์ที่เอามาตัดสินใจการลงทุน ต้องคอยฟังให้ดีว่า เราตัดสินใจ ด้วยอารมณ์อยู่ หรือ ด้วยเหตุผล และต้องคอยระวัง ว่าตัดสินใจนั้นเพราะอารมณ์เป็นปัจจัย เลยทำให้เราสร้างการตัด สินใจที่คิดว่าเป็นตามเหตุผล ขึ้นมา วิธีที่น่าจะดีอย่างหนึ่งคือ เรามีเป้าหมาย เช่น พอร์ตเงินลงทุนโตละ 15% แล้วการตัดสินใจลงทุนซื้อขายของเรา ที่ทำอยู่นั้นทำให้เราเข้า ใกล้เป้าหมายนี้หรือไม่ เป้าหมายของเราอาจจะประกอบด้วยหุ้นหลายตัว อาจมองว่าเป็นโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการไม่จำเป็นต้องประสบผลสำเร็จเหมือนการทำธุรกิจมันไม่ได้จะดีเสมอไป เรามีความเสี่ยงแค่ไหนในแต่ละโครงการ , ถ้าเสี่ยงมากอาจจะหยุดไว้ก่อน ผมเชื่อว่าเราจะทำอาไรได้ดีประสบความสำเร็จแล้ว นอกจากความคลั่งไคล้ก้อคือการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ยังไม่รวมถึงการมีขั้นตอนที่ดีในการลงทุน เพราะเมื่อเราผิดพลาดเนื่องจากเหตุผล เราจะได้กลับไปแก้ไขมันได้ ตรงไหนต้องปรับปรุง โดย sittha เสาร์ ต.ค. 08, 2011 10:00 am

Re: หุ้นเอเซีย ดีดกลับ-they’ll jump like a fox จะซื้อก้อราคาไม่ถูกเด๋วดอย จะขายก้อไม่ได้ราคา จะถือยาวมาก ก้อได้เมื่อสองสามวันก่อนอาจได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 15% up แล้วหลายๆตัว จะถือระยะสั้น ก้อต้องสั้นจิงๆ ถือระยะ1-2ปี ราคาในปีนี้ยังไม่ถูกเลย ราคากับปัญหาเศรษฐกิจ ไม่สดใสเหมือน 2009->2010 ตัดสินใจยากมากกก..... หุ้นดีใน 1-2 ปีข้างหน้าราคามันไม่ดี :wall: โดย sittha ศุกร์ ต.ค. 07, 2011 10:48 am

Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 16. จงลืมต้นทุน ต้นทุนไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ... จงคิดแต่ว่าราคาหุ้นปัจจุบันเนี่ย ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตย Case1 ถ้าปัจจุบันมีหุ้น ซึ่งซื้อมาที่ราคา 10 บาท ผ่านไป 1 ปีขายในราคา 20 บาท เจอเงินเฟ้อ 5% ทำให้เหลือมูลค่า 19.05 บาท ได้กำไร = 90.48% โตเฉลี่ยปีละ 90.48% (เพราะ 1 ปี) Case2 ถ้าปัจจุบันมีหุ้น ซึ่งซื้อมาที่ราคา 10 บาท ผ่านไป 1 ปีราคาเป็น 20 บาท ถ้าถือต่อไปอีก 4 ปีหุ้นมีมลค่า 25บาท เจอเงินเฟ้อ ปีละ 5% ทำให้เหลือมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 19.59 บาท , ดังนั้น เติบโตเฉลี่ย 5 ปีที่ปีละ 20.11% และขายในปีที่ 5 ได้กำไร = 95.88% ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม แต่ ถ้าเราไม่มีก้อไม่ซื้อเพราะการเติบโตจะน้อยแล้ว แต่ถ้าเรามีแล้วเราจะถือไว้หรือป่าว ครับ โดย sittha ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 4:03 pm

Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 16. จงลืมต้นทุน ต้นทุนไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ... จงคิดแต่ว่าราคาหุ้นปัจจุบันเนี่ย ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตย Case1 ถ้าปัจจุบันมีหุ้น ซึ่งซื้อมาที่ราคา 10 บาท ผ่านไป 1 ปีขายในราคา 20 บาท เจอเงินเฟ้อ 5% ทำให้เหลือมูลค่า 19.05 บาท ได้กำไร = 90.48% โตเฉลี่ยปีละ 90.48% (เพราะ 1 ปี) Case2 ถ้าปัจจุบันมีหุ้น ซึ่งซื้อมาที่ราคา 10 บาท ผ่านไป 1 ปีราคาเป็น 20 บาท ถ้าถือต่อไปอีก 4 ปีหุ้นมีมลค่า 25บาท เจอเงินเฟ้อ ปีละ 5% ทำให้เหลือมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 19.59 บาท , ดังนั้น เติบโตเฉลี่ย 5 ปีที่ปีละ 20.11% และขายในปีที่ 5 ได้กำไร = 95.88% ถ้าเรายังไม่มีหุ้นตัวนี้ เราจะซื้อหรือเปล่า ถ้าเราไม่คิดจะซื้อ ... แล้วเราจะถือมันไว้ทำไม แต่ ถ้าเราไม่มีก้อไม่ซื้อเพราะการเติบโตจะน้อยแล้ว แต่ถ้าเรามีแล้วเราจะถือไว้หรือป่าว ครับ โดย sittha ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 4:03 pm

Re: EPS16YEAR อับเดทงบดุล ปี 31/12/10 เสร็จแล้ว ขอ file ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ [email protected] โดย sittha ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 6:41 pm