สิ่งที่แตกต่างจากวิกฤตครั้งก่อนๆ สวัสดีครับพี่ฉัตรชัย และพี่ๆทุกท่าน   :)     ผมก็คิดเหมือนกันว่าน่าจะเป็นการรวมหัวเก็งกำไรในอีกรูปแบบนึงน่ะครับ     เวลาขึ้น ขึ้นแรง จากแรงเก็งกำไร     เวลาลง ก็ลงแรง จากแรงเก็งกำไรเหมือนกัน     ถ้าผมมีเงินมากๆ มากถึงขนาดที่ดันราคาน้ำมัน ราคาโภคภัณฑ์อื่นๆได้     ก็คงไม่ยอมเสียโอกาส "ทุบ" ทำกำไรช่วงนี้ไปง่ายๆเหมือนกันครับ     ............................     จะดีหรือร้าย มันเปลี่ยนเป็นเงินเข้ากระเป๋าได้หมด ถ้าเราเป็นคนกำหนดเกม     ...........................     ไม่ได้ POST มาเกือบสามปีได้ มาเห็นสภาพการณ์เป็นแบบนี้ ก็อดเห็นใจเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ขาดทุนไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าพวกเราจะผ่านมันไปได้แน่นอน อย่างน้อยที่สุด ห้อง Thaivi ก็เป็นห้องที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกันด้วยเหตุผล ที่ดีที่สุดห้องหนึ่งในเวปการเงินของประเทศไทย ...กล้าพูดแบบนี้จริงๆ  :D ....  ดังนั้น ช่วยกันผ่านไปให้ได้นะครับพี่ๆ ^__^ โดย TURTLE จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:34 pm

-9.99 เท่านั้นครับ มองได้สองมุม มุมหนึ่งเค้าคิดว่ารัฐประหารแล้ว ระยะยาวน่าจะดีขึ้น สองคือ เค้าซื้อไว้เยอะแล้ว ช่วยดันอีกหน่อยจะเป็นไรไป .........มองมุมไหนก็ดีทั้งนั้น..........แต่อย่าดันๆปล่อยๆก็แล้วกัน     :wink: โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ย. 21, 2006 5:37 pm

-9.99 เท่านั้นครับ ผมก็ยังช้าเหมือนเดิม เก็บได้แค่ 15% ของพอร์ตเท่านั้นเอง  :oops: โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ย. 21, 2006 4:48 pm

SCC กับการถือยาว ย้าว ยาว ปูนใหญ่ ในความคิดผมมี ข้อเสีย และข้อได้เปรียบ ดังนี้ครับ ข้อเสีย - ในเรื่องธุรกิจซิเมนต์ ปรับตัวช้ากว่าคู่แข่ง เนื่องจากเป็นการบริหารแบบไทยๆ ไม่เหมือนกับคู่แข่งอย่างโฮลซิม ที่มีการตลาดเชิงรุกมากกว่า พื้นที่ทางใต้ที่ปูนใหญ่เคยเป็นหนึ่งในยอดขายซีเมนต์ ยังโดนปูนกลางตีชิงมาหลายสิบ % เลย ภาคกลางก็มีหลายเจ้า TPI ก็มักชอบทำ Price War เพื่อทุ่มตลาด ภาคอีสานซึ่งเป็นของปูนกลาง ปูนใหญ่ก็ยังตีไม่แตก แถมราคาที่สูงแต่คุณภาพปูนเท่าๆกัน จึงทำให้ลูกค้าเริ่ม Shift brand มาเจ้าอื่นๆที่ราคาถูกมากขึ้น ถ้าการวิจัยใน Product แบบ One-to-One Product ยังไม่ออกมาเรื่อยๆให้ทันกับความต้องการของประชาชน อาจทำโดนตีตลาดมากขึ้นน่ะครับ (เสือพลัส ยังตามอินทรีทองเลย) -ธุรกิจกระดาษ ปิโตร วัสดุก่อสร้าง ในแง่การเติบโต กำไรยังไม่แข็งแกร่งและแน่นอน จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติ ไม่ได้ Overweight มากนักในช่วงปีที่ผ่านๆมา (เลยพาลทำให้ราคาหุ้นไม่เคลื่อนไหวมากเท่าใด คือไม่ขึ้นมาก เพราะกำไรมันก็โตตามเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้ตกลงไป เพราะธุรกิจมัน Diver น่ะครับ -ปูนใหญ่ มีเงินเยอะ มี ASSET มหาศาล แต่ไม่สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ อันเนื่องมาจาก CORE Business ไม่ได้อยู่ในช่วงเติบโตสูงๆอีกแล้ว ส่วน ข้อได้เปรียบ มีดังนี้ครับ - ปูนใหญ่ มีระบบความโปร่งใสที่สูงมาก และมีทรัพยากรบุคคลชั้นเลิศ แม้จะปรับตัวช้า แต่ตรงนี้เป็นจุดแข็งมากของบริษัทที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน - ปูนใหญ่ พยายามจะเกาะกระแสการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค ด้วยการ Diver ธุรกิจไปหลายๆประเภท (เหมือนกับการลงทุนแบบ Passive น่ะครับ เพราะมีความเชื่อมั่นในระยะยาวว่า ไทยและภูมิภาคต้องโตไปเรื่อยๆ ดังนั้น เกาะตามไป ดีกว่าเก็ง ) - อนาคต นักลงทุนจะให้ความสนใจกับองค์ความรู้ ให้ความสนใจกับการวิจัยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ มากพอๆกับราคาที่สมเหตุสมผล ดังนั้นปูนใหญ่จะได้เปรียบตรงนี้มาก (คงเห็นได้จากโฆษณาน่ะครับ) ผมมีความชอบปูนใหญ่เป็นการส่วนตัว อันเนื่องมาจากทั้งบ้านก็ทำงานอยู่ที่นี่ และปูนใหญ่ก็บริหารด้วยคนไทย แต่คิดว่าถ้าจะโตในแบบที่ได้กำไรมากๆ ทุกๆปีคงยากน่ะครับ แต่โตแน่ ดังนั้นถ้าซื้อคงจะต้องเป็นแบบ LONG-TERM BUY (เลียนแบบนักวิเคราะห์  :D  ) โดย TURTLE พุธ ต.ค. 26, 2005 11:47 am

ข่าวดีครับ...นอกเรื่อง...ภรรยาผมเพิ่งคลอดลูกเมื่อสักครู่ :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :Dยินดีด้วยครับพี่ ^_______^ โดย TURTLE อังคาร ก.ค. 12, 2005 10:25 am

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ ขอบคุณมากครับพี่บั๊ก :D อืม.คุณturtleได้สอนผมมองมุมมองใหม่อีกด้านแล้ว ขอบคุณมากครับ แล้วก็ยินดีกับเวปเราเราได้VIจริงๆอีกคนแล้วครับ ผมก็ต้องขอขอบคุณพี่นริศเช่นกันครับ ทำให้ผมต้องติดตามหุ้นกลุ่มที่พี่แนะนำอย่างใกล้ชิดทีเดียวครับ แล้วตอนวิกฤตน้ำมันปี 2516 ละครับ ผมอ่านบอกว่าราคาน้ำมันขึ้นจาก 2 เหรียญต่อบาเรล เป็น 10 เหรียญต่อบาเรล ขึ้น 5 เท่า จริงไหมครับ ผมเองก็เพิ่งสังเกตเห็นใน http://www.eia.doe.gov/emeu/cabs/chron.html จริงๆด้วยครับที่ในปี 2516 (หรือปี 1973) นั้นราคาน้ำมันเพิ่มจากประมาณ 2 $/barrel ในปี 1973 เป็น 10 $/barrel ในปี 1974 และก็ไม่เคยต่ำกว่าราคานั้นอีกเลย:o เห็นว่าเป็นเพราะความไม่ลงรอยกันในกลุ่มอาหรับ แต่ไม่ทราบว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อประเทศไทยบ้างง่ะครับ คงต้องรอพี่ๆมาตอบอีกทีครับ แห่ะ :wink: โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 10:56 pm

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ คุณ TURTLE นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนนะครับ เหวอออ คุณ CK ครับ ผมนี่ธรรมดาแบบของแท้ครับ ยังต้องเรียนรู้อีกมากจริงๆ ถ้าจะให้เป็นลูกศิษย์นี่ ผมขอเป็นลูกศิษย์คุณ CK จะดีกว่าครับ :o โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 6:18 pm

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ คุณเต่าครับ เท่าที่ผมได้คุยกับพี่คัดท้าย ช่วงที่ตกแรกๆนั้นไม่รอดซักตัว แต่พอเริ่มตั้งสติกันได้พวก ส่งออกได้ผลดีกับค่าเงิน กำไรมากขึ้น หุ้นส่งออกจึงชนะตลาด ส่วนหุ้นสินค้าอุปโภค-บริโภคพื้นฐานที่ไม่มีการกู้เงิน จะฟื้นตัวได้เร็วในเวลาต่อมา หลักการของ ดร.นิเวศน์คือ ถือหุ้น100% แต่ตัวไหนที่ให้คุณค่ามากกว่าก็สามารถเปลี่ยนตัวถือได้ พอร์ตของท่านจึงติดลบอยู่4-5ปี(ลบมากที่สุด35%)พอระยะยาวมูลค่าแต่ละตัวของท่านก็มีแต่*10เท่าทั้งนั้นเลยครับ ส่วนของอีกหลายๆท่านเช่นพี่คัดท้ายก็รอจังหวะให้ถูกจริงๆแล้วค่อยซื้อ คุณเต่าชอบวิธีก็เลือกเอานะครับ ส่วนของผมเลือกแบบท่านดร. เพราะยังห้ามใจไม่ให้ซื้อไม่ได้(มีเงินเหลือ ก็ซื้อเข้าทุกเดือน) แต่ผมว่าถ้าตลาดไม่เลวร้ายนัก และมีโชคบ้าง พอร์ตก็ไม่น่าจะลบ เพราะของผมปีที่แล้วก็บวก10% ส่วนปีนี้ก็ยังเขียวอยู่ ขอบคุณมากครับพี่ naris :D ผมเองก็เดาตลาดไม่เก่งจริงๆครับ แถมวิเคราะห์นานอีกต่างหาก(ไม่ได้เป็นคนละเอียดถี่ถ้วนนะครับ แต่ความสามารถไม่ค่อยมีน่ะครับ แห่ะ) :wink: ผมคิดว่าหุ้นกลุ่ม ชิ้นส่วน Electronics ก็ใช้ได้ครับ :o HANA CCET แต่อย่างไรก็ตามต้องดูความสามารถในการแข่งขันระยะยาวนะครับ เพราะก็มีคู่แข่งเยอะเหมือนกัน (บอกแบบระวังตัวไว้ก่อน จิงๆไม่รู้จักธุรกิจนี้เท่าไรหรอกครับ แห่ะ) ส่วนกลุ่มอุปโภคบริโภค ผมคิดว่าในระยะสั้นคงได้รับผลกระทบแน่นอนครับ ตอนนี้มีเพื่อนอยู่ Uniliver เริ่มบ่นๆแล้วว่า Target ครึ่งปีหลังนี่เริ่มไม่ได้แล้ว อันเนื่องมาจากกำลังซื้อลดลงมาก เจ้าของศูนย์บ่นกันอุบ :cry: ผมเลยคิดว่า ถ้าให้เลือกแบบ ดร หรือแบบพี่คัดท้าย คงจะเลือกแบบผสมกันทั้งสองคนน่ะครับ แห่ะๆ คือเนื่องจากผมไม่สามารถเดาตลาดได้ ดังนั้นคง Check จากตัวอุตสาหกรรมเป็นหลัก ว่าเริ่มยืนได้หรือยังในวิกฤติแบบนี้ ถ้ายืนได้แล้วเช่นกำลังซื้อหรือความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มกลับมา น้ำมันลอยตัวแล้วเต็มที่ก็ยังทำกำไรได้ ความวิตกกังวลเริ่มหมดไป ผมคงทยอยซื้อเพิ่มครับ :o แต่เนื่องจากผมเองก็ไม่อยากซื้อที่ราคาสูงเกินไปอันเนื่องมาจากมี Expected Return สูง ดังนั้น ผมจะลด Return ตัวนี้ลงมาครับ ทำให้คำนวณราคาหุ้นที่ควรจะซื้อได้ต่ำลง เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงที่ควรจะมี Margin of Safety ที่สูงขึ้นครับ :) เป็นการบ้านอันหนักอึ้งที่ต้องนั่งทำกันใหม่เลยทีเดียวครับ แห่ะๆ เต่าๆแบบผมคงต้องใช้เวลาคิดนานโขทีเดียว :wink: โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 5:04 pm

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: :shock: สุดยอดเลยพี่บั๊ก นี่เลย นี่แหล่ะที่ต้องการสื่อ :D พี่หามาจากที่ไหนง่ะครับอยากได้บ้างจังอ่ะครับ :o / พี่ naris ครับ ตอนนี้ผมเลยต้องพิจารณาดูครับ ว่าหุ้นตัวไหนที่สามารถผ่านวิกฤติการณ์แบบนี้ไปได้ ในเมืองไทยหุ้นใหญ่ๆช่วงนั้นก็ลงกันถ้วนหน้า พวกสินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง SPI, ICC ยังลงเลย (ผมถืออยู่ครับ เสียวเหมือนกันแต่ก็สู้ แห่ะ :P ) ของตลาด DOWJ ก็ลงเช่นเดียวกับเราครับ แต่หุ้นจำพวกแข็งแกร่งที่เรียกกันว่า "The Stalwarts" จะไม่ลงครับอันได้แก่ :o กลุ่มพลังงาน Houston Indus. Incorp (HOU) - Electric Utility Consolidated Edison (ED) - Electric & gas service กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค Walmart (WMT)- Discount department store P&G (PG) - Soap&cleaning product Bristol Myers (BMY) - Drug&Health product ผมคิดว่าคงมีหุ้นอีกหลายกลุ่มที่สามารถทนทานต่อภาวะ ศก.ถดถอยหรือตกต่ำได้แน่นอน แต่ประสบการณ์ผมยังน้อยครับเลยไม่ทราบว่าตัวไหนบ้าง ถ้าพี่ๆจะกรุณาแนะนำด้วยจักขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยครับผม :o โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 12:18 pm

คิดยังไงกับการถือทองคำในช่วง ไม่เกิน 5 ปีต่อจากนี้ครับ ราคาทองคำตั้งแต่ปี 1975 - 2005 ครับ จะได้พอเห็นแนวโน้มอ่ะครับพี่ Blueblood http://www.kitco.com/scripts/hist_charts/yearly_graphs.cgi ส่วนอันนี้เป็นราคาน้ำมันตั้งแต่ปี 1970-2005 ครับ http://www.eia.doe.gov/emeu/cabs/chron.html เทียบๆกันแล้ว กราฟตามกันตลอดเลยครับ :D โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 11:54 am

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ สวัสดีครับพี่ MO101 และพี่สามัญชน :o ขอบคุณมากครับ พอดีที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเนื่องจากเห็นคุณพ่อกับคุณแม่บอกว่า เหตุการณ์ช่วงนี้มันคล้ายๆกับตอนปี 22 ช่วงนายกเปรม ผมเลยลองๆไปค้นข้อมูลดูปรากฎว่าก็มีส่วนคล้ายหลายประการในเรื่องราคาน้ำมัน การขาดดุล เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น :o จะต่างกับตอนนี้ก็คงเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เรามีค่อนข้างมาก แต่ถ้าขาดดุลไปเรื่อยๆนี่มันก็น่าเสียวไส้เหมือนกันนะครับ แห่ะๆ :wink: โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 11:17 am

วิกฤติน้ำมันกับประเทศไทย เมื่อปี 2521-2527 ครับ สวัสดีครับพี่เจ๋ง ปี 2005 ราคาน้ำมัน 60(ปัจจุบัน) ดัชนี 638 ปี 2004 ราคาน้ำมัน 35 ดัชนี700 ปี 2003 ราคาน้ำมัน 25 ดัชนี470 ปี 2002 ราคาน้ำมัน 22 ดัชนี400 ปี 2001 ราคาน้ำมัน 28 ดัชนี300 ปี 2000 ราคาน้ำมัน 28 ดัชนี450 ปี 1999 ราคาน้ำมัน 17 ดัชนี350 ปี 1998 ราคาน้ำมัน 12 ดัชนี500 ปี 1997 ราคาน้ำมัน 23 ดัชนี600 ปี 1996 ราคาน้ำมัน 20 ดัชนี1200 ช่วงที่ตลาดหุ้นของเราทะยานขึ้นมาจาก 200 จุดในปี 1987 จนไปปิดที่กว่า 1700 จุดในปี 1994 น้ำมันในช่วงนั้นอยู่ที่ 12-20 $/baarrel อ่ะครับพี่เจ๋ง โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 8:48 am

ผมเต่าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ สวัสดีครับพี่ man พี่ naris พี่ buglife และพี่ visanuu ผมเคยอ่านครับพี่ naris และโดยส่วนตัวก็ชอบหุ้นเต่ามากๆเลยครับ (แม้จะไม่ค่อยมีตังค์เก็บเท่าไหร่) แห่ะ :shock: เพิ่งสังเกตเห็นน่ะครับ ว่าผมดันไปใช้เต่าเหมือนพี่ ต หยวนเปียวเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับ อย่างไรก็ตามเต่าของพี่หยวนเปียวดูแล้ว :shock: :shock: :shock: จิงๆครับ โดย TURTLE ศุกร์ ก.ค. 08, 2005 8:21 am

ผมเต่าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ยินดีต้อนรับด้วย หวังว่าไม่ใข่ผู้บาดเจ็บมาจากเว็บอื่นนะ (MON MONEY:พักนี้คนบาดเจ็บจากเวปหุ้นอื่น มาเข้าเป็นสมาชิกเวปเราเพียบเลยพี่) แต่ถึงใช่ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆเป็นไปเดี่ยวก็ได้คืนเนอะ ขยันอ่านขยันฝึกขยันหาจุดแข็ง เพิ่งเคยเป็นสมาชิกครั้งแรกก็ที่เวปนี้เลยน่ะครับ แบบว่าใหม่สดซิง แห่ะ :D เวปอื่นผมก็ชอบครับเพราะว่าให้ข้อมูลกับเราในหลายๆด้านดี แต่บ้าน TVI นี้คงจะเหมาะกับผมมากกว่า เหตุผลที่ชอบก็คือ TVI มีผู้รู้จริงเยอะดีครับ อีกทั้งเสนอข้อมูลเป็นกลางดี ใครจะมาโพสต์เรื่องต่างๆ ก็มักจะกลั่นกรองมีเหตุผลประกอบน่าเชื่อถือ อีกเวปหนึ่งที่ชอบก็คือ Pantip ห้องสินธรครับ ชอบคนเก่าๆหลายๆคนน่ะครับ :D โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2005 9:21 pm

ผมเต่าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ไม่ใช่ขาขึ้น ต้องจ่ายค่าทางด่วน ตอนนี้ขาลงซะแล้ว จริงด้วยครับพี่ :cry: :cry: :cry: :cry: ปล. กลัวจะเหมือนช่วงปี 22 จัง ตอนนั้นน้ำมันแพงหูดับตับไหม้ ดอกเบี้ยขึ้น ขาดดุลบัญชี เงินเฟ้อสูง เงินตึงตัวเกิดคล้ายๆตอนนี้เลย ลำบากจังครับ (คุณแม่ผมบอกว่างั้นน่ะครับ แห่ะ) พี่ๆว่าเราจะกลับไปเหมือนเดิมอีกหรือเปล่าครับ :cry: :cry: :cry: :cry: โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2005 9:11 pm

ผมเต่าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ สวัสดีพี่ ต.หยวนเปียว และพี่ปรัชญาด้วยนะครับ กระเป๋าของผมสงสัยจะเบาหวิวน่ะครับ แบบว่าปอดเล็กจิ๋วเดียว เดี๋ยวพี่หาเศษแบงค์จ่ายค่าทางด่วนมิเจอง่ะครับ แห่ะ :D โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2005 8:53 pm

ผมเต่าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ สวัสดีครับพี่ ba_2l และพี่ CK ผมถือเป็นเต่าของแท้เลยครับเพราะไม่ไวต่อสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจอย่างรุนแรงน่ะครับ :( เวลาจะเล่นตามตลาด เป็นต้องเต่าทุกทีไป ทำให้ซื้อน้องกระบือ(ควาย) และขายหมูอยู่ตลอดน่ะครับ ขาดทุนย่อยยับ :oops: :cry: พักหลังๆเลยต้องนั่งทำใจแล้วหันมาเล่นตามนิสัยที่เป็นจริงของตัวเอง (คือผมเป็นคนเต่าๆ ก็ต้องลงทุนในตราสารเต่า ไม่ว่าจะเป็นหุ้นเต่า หรือตราสารหนี้เต่าน่ะครับ) หุ้นเต่าที่มีอยู่เป็น Utilities น่ะครับ คือโรงไฟฟ้า โรงถ่านหิน โรงกลั่นนิดหน่อย กับ Modern Trade น่ะครับ ส่วนตราสารหนี้เต่าก็เช่นของหุ้นกู้ SCC น่ะครับ ฝากซื้อผ่านคุณแม่ แต่ว่ายังมีตราสารหนี้อีกหลายตัวที่สอดคล้องรับกับสถานการณ์ดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งถ้าพี่ๆจะกรุณาแนะนำจักขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ :o โดย TURTLE พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2005 8:48 pm