หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
สุเกียง
Joined: พุธ พ.ค. 04, 2005 11:33 am
891
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - สุเกียง
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
สวัสดีคุณ อ่องอ๋า ค่ะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านกระทู้ค่ะ คุณแม่ปลอดภัยก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ ท่านคงตกใจและเสียขวัญนะคะ ต้องพยายามปลอบใจในช่วงต้นๆ ให้ท่านคลายกังวล ทำใจให้สบาย เรื่องนี้เป้นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ต่อไปจะต้องระมัดระวังมากขึ้น อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน ปลอดภัยไว้ก่อน ขอให้มีสติทุกครั้งขณะเดินทางนะคะ ขอบคุณค่ะ พอดีร้านเขาจะปิดร้านแล้ว
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:15 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
อ่ะ ลิ้งค์นี้หรือค่ะคุณฉัตร Mora รถพับจากสเปนครับ พับได้เจ๋งดีครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=187147
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:09 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
หญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก นั่งร้องไห้โห่อยู่ที่ตักของชายหนุ่ม ชายหนุ่มจึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเราหายเมื่อไหร่ เราจะไปส่งเธอที่บ้านอีกนะ"
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:05 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ชายหนุ่มยิ้มขึ้นแล้วบอกกับหญิงสาวด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า "เราบอกแล้วไง ถ้าเรารักใครซักคน เราก็ต้องรักเขาให้มากๆ ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรักเราหรือไม่หน่ะ มันสำคัญแค่เพียงว่าเรายังรักเธออยู่หรือเปล่า แค่เราสามารถช่วยเธอได้ นั่นก็เป็นความสุขของเราแล้ว"
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:05 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ต่อมาแฟนหญิงสาวได้แต่งงานกับหญิงสาว เนื่องด้วยเห็นถึงความรักที่หญิงสาวมีให้มากมาย หญิงสาวได้ชวนเพื่อนของตนมางานแต่งของเธอ "เราไม่ว่างจริงๆ เราติดธุระหน่ะขอโทษนะ"เพื่อนชายตอบเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หญิงสาวโกรธและเสียใจที่ชายหนุ่มไม่มางานแต่งจึงวางหูใส่ แต่หญิงสาวก็ต้องประหลาดใจเมื่อวันที่เธอแต่งงาน ชายหนุ่มได้มาก่อนที่งานแต่งจะจบ "ยินดีด้วยนะ เรามาแล้วนะ" หญิงสาวดีใจมากที่เพื่อนของเธอมา ถึงจะเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ต่อมาหญิงสาวก็มีความสุขกับชีวิตแต่งงานจนไม่ได้ติดต่อกับชายหน ุ่ม จนวันหนึ่งหญิงสาวได้ทะเลาะกับสามีของตน หญิงสาวไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงนึกถึงชายหนุ่มขึ้นมา แต่แม้ว่าหญิงสาวจะโทรไปเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถติดต่อกับชายหนุ่มคนนั้นได้เลย เขาจึงโทรหาเพื่อนของชายหนุ่มคนนั้น เพื่อนของชายหนุ่มเล่าว่า ชายหนุ่มเป็นโรคร้าย เขาไม่สามารถไปไหนได้ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาร่วมหลายเดือน หญิงสาวตกใจมากถามว่าเป็นอะไร เพื่อนชายหนุ่มบอกว่า อาการกำเริ่มเพราะวันที่ชายหนุ่มต้องมาผ่าตัด ชายหนุ่มดันหายตัวไป และเพื่อนชายยังบอกอีกว่า "เป็นนิสัยเสียของมันหน่ะ มันชอบหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ในช่วงเวลาสำคัญๆ คราวที่แล้วสอบไล่ ก็หายตัวไปจากห้องสอบ" หญิงสาวตกใจมาก เลยขอที่อยู่ของโรงพยาบาลที่ชายหนุ่มรักษาตัว หญิงสาวไปเยี่ยมชายหนุ่มที่โรงพยาบาล เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็ต้องตกใจ ชายหนุ่มที่เคยดูแข็งแรง กับผอมซูบ ไม่มีแรง เมื่อชายหนุ่มเห็นเธอก็ดีใจทักทายเธอเป็นการใหญ่ "เป็นอย่างไรมั้ง ไม่เจอกันตั้งนาน" หญิงสาวนิ่งเงียบซักพักน้ำตาหญิงสาวก็ออกมา "อ้าวร้องไห้ทำไมหล่ะ เธอหน่ะ ไปทะเลาะกับแฟนมาอีกแล้วหรอ จะให้เราช่วยอะไรไหม แต่เราก็คงจะแนะนำเหมือนเดิมหน่ะ" หญิงสาวเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วบอกกับชายหนุ่มว่า "วันที่เธอมารับเราเป็นวันสอบไล่ใช่ไหม" ชายหนุ่มทำหน้าตกใจและไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้นกลับนิ่งเงียบไป หญิงสาวจึงพูดต่อ "และวันที่เธอต้องผ่าตัดใหญ่ เธอกลับมางานแต่งงานของฉันใช่ไหม" ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว กลับนิ่งเงียบกว่าเดิม หญิงสาวเข้าไปกอดชายหนุ่มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่น "ตลอดเวลา เรารักแต่คนอื่น มองแต่คนอื่น เรากลับไม่รู้เลยว่าเธอรักเรามากแค่ไหน เรารู้สึกเสียใจจริงๆที่ไม่ได้รักเธอมากกว่านี้"
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:01 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ข้างๆของความรัก Sunday, April 18, 2010 9:23 AM ข้างๆของความรัก มีเพื่อนต่างเพศอยู่คู่หนึ่ง เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ที่โรงเรียน ฝ่ายชายจะเดินไปส่งฝ่ายหญิงที่บ้านเสมอทุกวัน เวลาผ่านไป จนทั้งสองอยู่ มหาวิทยาลัย ฝ่ายหญิงเริ่มไปแอบชอบผู้ชายคนนึง และถามฝ่ายชายว่า "นี่ เธอว่า เค้าเหมาะกับเราไหม" "เค้าก้อหล่อดีนะ นิสัยดีด้วย " "หรอ อืม อยากให้เค้ามาอยู่ข้างๆเราจังเลยเนอะ" ต่อมาหญิงสาวก็ได้เป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นจิงๆ วันนึงหญิงสาวบอกกับเพื่อนสนิทของตนว่า "นี่ เธอไม่ต้องมาส่งเราทุกวันแล้วแหละ ตอนนี้เค้าจะมาส่งเราแล้ว เราไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิด" "อืม" ฝ่ายชายตอบรับ และไม่ไปส่งหญิงสาวอีก ต่อมาหญิงสาวทะเลาะกับแฟนของตน จึงมาปรึกษาเพื่อนชายว่า "เธอ เด๋วนี้เขาไม่ค่อยสนใจเราเลยแหละ เธอว่า เราจะทำอย่างไรดีหล่ะ" "ก้อ เธอยังรักเค้าอยู่หรือป่าวหล่ะ" ฝ่ายชายตอบ "รักสิ รักมากด้วย" "ถ้าอย่างนั้น ก็มอบความรักให้เขาต่อไปสิ ก้อเธอรักเค้านี่น่า" "อืมม" หญิงสาวทำตามคำแนะนำของฝ่ายชาย หลังจากนั้น วันหนึ่ง ระหว่างที่เพื่อนชายหนุ่มเดินกลับบ้าน เค้าเห็นหญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่ข้างทาง "เธอ เป็นอะไรหน่ะ ให้เราช่วยไหม" "เค้าไม่รักเราเลยหล่ะ เขาเปลี่ยนไป เด๋วนี้เขาไม่เคยมาส่งเราที่บ้านเลย" "แล้วเราจะช่วยอะไรเธอได้บ้างหล่ะ" "ช่วยอยู่กับเราซักพักได้ไหม"หญิงสาวร้องขอ ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดอะไรเลย ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยขึ้น "เราควรจะทำอย่างไรดี เธอจะช่วยเราได้ไหม ว่าเราควรจะทำอย่างไรดี" "เธอยังรักเขาอยู่หรือป่าวหล่ะ" "รักสิ เรารักเค้ามากเลย" "ถ้าอย่างนั้นก้อรักเค้าต่อไปสิ" "แต่เค้าไม่รักเราเลยนี่น่า" หญิงสาวร้องไห้โฮ "แต่เธอก็รักเขาไม่ใช่หรอ" และชายหนุ่มก็ส่งหญิงสาวที่บ้านอย่างที่เคยทำมาแต่ก่อน "ถ้าเมื่อไหร่ที่เธออยากให้เรามาส่งเธอที่บ้าน อย่าลืมเรียกเรานะ" "อืม" และหญิงสาวก็เดินขึ้นบ้านไป ต่อมาวันหนึ่งชายหนุ่มได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาว "เราไม่ไหวแล้ว ช่วยมารับเราที" เสียงของหญิงสาวดูช่างอ่อนล้า และหมดกำลัง เธอกำลังร้องไห้อย่างฟูมฟายอยู่ ชายหนุ่มไปหาเธอและไปรับเธอมาส่งบ้าน เธอยังคงถามชายหนุ่มนั้นเมื่อที่เคยถามมา "เราจะทำอย่างไรต่อไปดี" "เธอเลิกรักเค้าแล้วหรอ" "ป่าว เรายังรักเค้ามาก เรายังรักเขาอยู่" "งั้นก็เหมือนที่เราเคยพูดไว้ รักเขาต่อไป เพราะมันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรักเธอไหม แต่ถ้าเธอยังรักเขา เธอก็คงทำได้แค่รักเขาให้มากขึ้น ให้เขารู้ว่าเธอรักเขา" วันที่เธอเรียนจบ เพื่อนชายหนุ่มของเธอมาแสดงความยินดีกับเธอ เธอแปลกใจมากที่เพื่อนชายหนุ่มของเธอยังเรียนไม่จบ เธอถามเขาว่าทำไม ชายหนุ่มตอบว่า เขาขี้เกียจไปหน่อย ทำให้เขาต้องเรียนซ้ำวิชาหนึ่งจึงยังเรียนไม่จบ หญิงสาวแปลกใจ เพราะตลอดมา ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนขยัน
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:52 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ขอถุงห้าง ต้องจ่ายใบละ 1 บาท เริ่ม 6 มิ.ย.53 ทุกห้าง กทม. Wednesday, April 28, 2010 12:21 AM มิ.ย.53 ทุกห้าง กทม. ซื้อของห้างสรรพสินค้าทั่ว กทม. 25 บริษัท อาทิ โลตัส คาร์ฟูร์ บิ๊กซี เซเว่น อีเลฟเว่น ฯลฯ ถ้าใส่ถุง คิดถุงละ 1 บาท เริ่ม 6 มิ.ย.53 ขอความร่วมมือห้างร้านเข้าร่วมโครงการ เมื่อไปซื้อของ ต้องเตรียมถุงผ้าไปเอง เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่ กทม. ประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน ข่าวจาก นสพ.เดลิพิวส์ 19 เม.ย.53
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:48 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ตำรวจจึงสั่งเธอว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทางไปบ้านเธอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามเปิดประตูเด็ดขาดไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ตำรวจย้ำถึงสามรอบ ตำรวจเล่าให้เธอฟังต่อว่าพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นฆาตรกรที่ใช้วิธีเปิดเทปเสียงเด็กร้องไห้เพื่อจะหลอกหล่อให้ผู้หญิงออกจากบ้านมาดู โดยที่ฆาตรกรหวังใช้จุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความขี้เห็นใจ ขี้สงสาร นั่นเอง แต่ทางตำรวจก็ยังจับตัวฆาตรกรกลุ่มนี้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีการโทรมาแจ้งและได้เล่าเรื่องเดียวกัน คือได้ยินเสียงเด็กมาจากนอกบ้าน หน้าต่าง หน้าประตู เวลากลางคืน และทุกสายที่โทรมาแจ้งล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียวทั้งสิ้น 10. ถ้าคุณตื่นขึ้นมากลางดึกและได้ยินเสียงเหมือนว่าก๊อกน้ำถูกเปิดอยู่หรือท่อน้ำของคุณแตกนอกบ้าน ห้ามออกไปเดินสำรวจเด็ดขาด! เพราะมีคนกลุ่มนึงจะเข้าไปเปิดก๊อกน้ำบ้านคุณให้สุดเพื่อให้คุณได้ยินและออกมานอกบ้าน นั่นคือเวลาที่พวกเขาจะโจมตีคุณ จงมีสติอยู่ตลอดเวลา, อยู่อย่างระมัดระวัง, ตรวจสอบความปลอดภัย, และอย่าลืมดูแลกันเองระหว่างคุณกับเพื่อนบ้านด้วย! กรุณาส่งอีเมลฉบับนี้..เพื่อเผยแพร่มัน เพราะ ในอีเมลนี้ เรื่องเทปเสียงเด็กร้องไห้ ได้ถูกกล่าวว่ากลุ่มฆาตรกรหกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการอันดับหนึ่งของตำรวจในสหรัฐอเมริกา ฉันอยากให้คุณส่งมันให้กับคนอื่นๆ ด้วย เพราะมันอาจช่วยชีวิตคนได้อย่างแน่นอน. แสงไฟจากเทียนไขเล่มหนึ่งจะไม่มีวันมืดลงหากมีเทียนเล่มอื่นๆ มาสานแสงไฟจากเทียนเล่มนั้นต่อ ฉันคิดว่าจะส่งอีเมลนี้ให้กับผู้หญิงเพียงอย่างเดียว, แต่จริงๆ แล้ว.. ผู้ชายทั้งหลาย... ถ้าคุณรักแม่ของคุณ ภรรยา พี่สาวน้องสาว ลูกสาว ฯลฯ คุณอาจจะอยากส่งมันเหมือนกัน
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:45 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
ในลาน/โรงจอดรถ ก.) จงระวัง: มองไปรอบๆ ตัวของคุณ มองเข้าไปในรถของคุณ มองลอดไปบนพื้นฝั่งที่นั่งข้างคนขับ และเบาะหลัง ข.) ถ้ารถของคุณมีรถตู้จอดอยู่ข้างๆ ให้ขึ้นรถทางฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ คนร้ายจะจู่โจมเหยื่อของมันโดยการฉุด ขึ้นรถตู้ในขณะที่เหยื่อกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ เพราะฉะนั้นรถตู้น่าสงสัยเหล่านี้จึงมักที่จะจอดอยู่ฝั่งคนขับ ค.) ให้มองไปที่รถที่จอดอยู่ข้างๆ คุณทั้งสองข้างของรถ ถ้าเจอผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวในฝั่งที่อยู่ใกล้รถของคุณมากที่สุด สิ่งที่คุณควรทำคือเดินกลับเข้าไปในห้าง หรือออฟฟิตเพื่อขอให้ยาม รปภ. หรือตำรวจเดินมากับคุณ เพื่อส่งคุณขึ้นรถ ไม่ต้องไปคิดมากกว่าคนอื่นหรือตำรวจจะมองคุณโรคจิตหรือเปล่า เพราะการระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์อันน่าสงสัยนั้น จงตระหนักอยู่เสมอว่า ปลอดภัยไว้ก่อน... 6. จง ใช้ลิฟต์ตลอดแทนที่จะใช้บันใด เพราะบันใดเป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดที่ผู้หญิงจะอยู่คนเดียว มันเป็นที่ๆ เพอร์เฟคสำหรับคนร้าย และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งในยามวิกาล 7. ถ้าคนร้ายมีปืน... แต่คุณไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา จงวิ่ง!! เพราะโอกาสที่คนร้ายจะยิงถูกคุณมีเพียง 4 ครั้งใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าวิ่ง) และเป็นไปได้สูง ว่าจะไม่โดนอวัยวะสำคัญ วิ่งงงงงงง!! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...การวิ่งซิกแซก 8. จุดอ่อนของผู้หญิงส่วนใหญ่คือ ขี้สงสาร ขี้เห็นใจ จงหยุดซะ เท็ด บันดี้ เป็นฆาตรกรหน้าตาดี และการศึกษาสูง เขาใช้จุดอ่อนข้อนี้ของผู้หญิงเพื่อลวงมาฆ่าเสมอ เพราะฉะนั้นจงมีเหตุมีผล ดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง จงช่างสังเกต หากพบข้อสงสัยแม้เพียงข้อเดียว ก็ควรจะลีกเลี่ยงบุคคลนั้นๆ ให้เร็วที่สุด 9. เรื่องที่ควรตระหนักอีกข้อ: เพิ่งจะมีคนมาเล่าให้ฉันฟังว่า เพื่อนสาวของได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กตอนกลางคืน และเธอก็คาดว่าเสียงนั่นดังมาจากระเบียงบ้านของเธอ เธอเลือกที่จะโทรแจ้งตำรวจแทนที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีลางสังหรณ์ว่านั่นอาจจะเป็นกลลวง และตำรวจก็สั่งกับเธอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด เธอจึงเล่าให้ตำรวจฟังอีกว่าเสียงนั่นฟังดูเหมือนว่าเด็กนี่ได้คลานมาใกล้หน้าต่างของและเธอก็เป็นกังวลว่าถ้าหากเด็กคนนี้คลานออกไปถึงถนนก็จะถูกรถชน
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:45 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
FW: ส่งต่อ: กรุณาเปิดดูเพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก >< Tuesday, April 27, 2010 2:23 AM ตำรวจชาวออสเตรเลียได้เขียนสิ่งนี้ขึ้นเพื่อผู้หญิงทุกคน นั่นเป็นเพราะว่าการลักพาตัวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นกลางวันแสกๆ ตั้งสติให้ดีก่อนจะทำการอะไรหากคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อความนี้สำหรับตัวของคุณเองและเพื่อให้คุณได้แบ่งปันให้กับภรรยา ลูก หรือทุกๆ คนที่คุณรู้จัก หลังจากที่คุณได้อ่านคำแนะนำที่สำคัญเหล่านี้ .. คุณอาจต้องการที่จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ โปรดส่งต่อให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วง การระมัดระวังล่วงหน้าไม่ต้องแลกกับความสูญเสีย เพราะฉะนั้นปลอดภัยไว้ดีที่สุด 1. เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้ ข้อศอกเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายของมนุษย์ หากคุณอยู่ใกล้คนร้ายในระยะที่จะใช้มันได้....จงใช้มันซะ! 2. เคล็ดลับจากสมุดแนะนำนักท่องเที่ยว ถ้าคนร้ายต้องการกระเป๋าเงินหรือของมีค่าของคุณ อย่ายื่นให้กับเขา จงโยนกระเป๋าเงินของคุณไปให้ไกลจากตัวเอง.. โอกาสที่คนร้ายจะสนใจกระเป๋าเงินของคุณนั้นมีมากกว่าที่จะสนใจคุณ และนั่นจะทำให้เขาต้องไปหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ห่างจากตัวคุณ ตอนนี้แหละ จงวิ่งไปอีกทิศทางหนึ่งให้เร็วที่สุด >< 3. ถ้าคุณเกิดถูกลากหรือโยนเข้าไปในท้ายรถของคนร้าย สิ่งที่คุณควรทำคือให้ถีบไฟท้ายจนหลุดออกมา ยื่นแขนของคุณออกมาจากช่อง แล้วเริ่มโบกมืออย่างบ้าคลั่ง คนขับไม่เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คนอื่นจะเห็น วิธีนี้ได้ช่วยหลายต่อหลายชีวิตมาแล้ว.. 4. คุณผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะนั่งอยู่บนรถเฉยๆ หลังจากช้อปปิ้ง เที่ยว กิน หรือ ทำงานเพื่อจะแต่งหน้า เปิดผ่านหนังสือ เช็คโทรศัพท์ ฯลฯ ห้ามทำเป็นอันขาด! คนร้ายจะคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของคุณ และสิ่งที่คุณทำเป็น การเปิดโอกาสอันเหมาะสมเพื่อให้เขาเข้ามาทางที่นั่งข้างคนขับ และเอาปืนจ่อหัวคุณเพื่อจะให้คุณขับไปตามทางที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้น....ทันทีที่คุณขึ้นรถ จงล็อคประตู และรีบออกรถซะ........ แต่ถ้าเกิด.... คนร้ายอยู่บนรถกับคุณ และเอาปืนจ่อขมับคุณไว้ อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก ย้ำ: อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก สิ่งที่คุณควรทำคือ เหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุด ขับพุ่งใส่กำแพงหรือสิ่งกีดขวางในละแวกนั้น ถุงลมนิรภัยฝั่งคุณจะช่วยชีวิตคุณไว้ (เช่นเดียวกับฝั่งคนร้ายหากคนร้ายนั่งเบาะหน้า) (หากคนร้ายนั่งอยู่เบาะหลัง เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส) แต่ทันใดที่รถของคุณชน ให้รีบถอนตัวออกมา(จากถุงลมนิรภัย) แล้ววิ่งออกจากรถสุดแรงเกิด วิธีนี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตรงที่คุณสามารถวิ่ง เข้าหากลุ่มคนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ หากคุณออกรถไปที่ไกลๆ ตามเส้นทาง/สถานที่ที่คนร้ายบอก จะทำให้คนร้ายตามตัวคุณได้ง่าย เพราะคุณไม่รู้จักสถานที่นั้นดีเท่าเขา 5. ข้อแนะนำสำหรับการเดินไปที่รถของคุณ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:42 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
Warning>>" ไม่อยากให้ไฟไหม้บ้าน..ต้องอ่าน" Thursday, April 29, 2010 7:35 AM อ่านเมล์นี้แล้ว ก็อยากเล่าเรื่องที่เคยเห็นมากับตาก็คือ ไม้ตียุง ครับ ญาติ ๆ ไปซื้อมา เมื่อสักเกือบสองปีทีแล้ว สมัยนั้น ห้างขายแบบ ซื้อ 1 แถม 1 ด้วย พอซื้อกลับมาใช้สักพักก็เอามาชาร์ทกับไฟบ้าน ชาร์ทไปได้ประมาณสัก 10-15 นาที ก็มีเสียงปัง ดังขึ้น แล้วก็มีประกายไฟออกมาด้วย ญาติเล่าให้ฟังว่า อันแรกก็อาการอย่างเดียวกันนี้ นี่เป็นอันที่สองแล้ว ก็ฝากเตือน ๆ ทุก ๆ ท่านด้วยครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ ไม่ควรเสียบทิ้งไว้เด็ดขาด จริง ๆ ไม่ควรซื้อมาใช้เลยดีที่สุด ไม่อยากไฟไหม้บ้านต้องอ่าน!!!!! ผมเป็นคนชอบไฟฉายมากๆ และตามท้องตลาดเดี๋ยวนี้ก็มีไฟฉายที่ผลิตมาจากจีนมากมาย โดยเฉพาะชนิดที่ชาร์ทแบตเตอรี่กับไฟบ้านได้นั่นแหละผมชอบซื้อมาใช้จริงๆ ราคาก็ประมาณกระบอกละ 100-150 บาท เช้าวันนั้นประมาณกลางเดือนตุลาคม 2552 นี้ที่ผ่านมา ผมตื่นขึ้นมาก็เอาไฟฉายไปเสียบชาร์ทแบตกับปลั๊กแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวแล้วก็กินกาแฟ สักพักก็ได้กลิ่นไหม้โชยมาพร้อมกับเขม่าสีดำ ในใจก็นึกไปว่า...คงเป็นการเผาขยะจากข้างบ้านเพราะเค้ามักจะเผาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยิ่งแปลกใจเพราะว่าทำไม่มันกลิ่นแรงและมีเขม่าเข้ามามากอย่างนี้ และดูเหมือนเขม่าจะออกมาจากจุดที่ผมชาร์ไฟฉายเอาไว้ ผมเลยรีบเดินมาดูตรงจุดที่ชาร์ทไฟฉายเอาไว้ ...ปรากฏว่าเปลวไปกำลุกติดปลั๊ก ลามมาติดชั้นลิ้นชักพลาสติกอย่างน่ากลัว ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากแต่ก็พยายามคุมสติ แล้วก็รีบวิ่งไปเอาหม้อที่แขวนไว้ตักน้ำจากถังมาดับได้ทันที หากผมเห็นช้ากว่านี้แค่ไม่กี่นาที ป่านนี้ผมคงไม่มีบ้านอยู่แล้ว เพราะจุดที่ผมชาร์ทไฟฉายมีทั้งลิ้นชักพลาสติก หนังสือ กระดาษต่างๆและเสื้อผ้าที่ล้วนแต่เป็นเชื้อไฟอย่างดี ผมจึงอยากขอเตือนเพื่อนๆทุกคนที่ซื้อสินค้าจากจีน ชนิดที่ชาร์ทแบตเตอี่กับไฟบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟฉาย.ไม้ตียุง.โคมไฟหรือแม้กระทั่งแบตฯมือถือ ของพวกนี้มีอันตรายอย่างคาดไม่ถึง อาจทำให้ไฟไหม้บ้านง่ายๆ ทางที่ดีอย่าไปซื้อมาใช้เลย หรือถ้าใครซื้อมาใช้แล้วถ้าจะชาร์ทไฟก็ขอให้นำมาชาร์ทตรงที่โล่ง ไม่มีสิ่งใดติดไปได้ และที่พลาดไม่ได้คือ......ต้องนั่งเฝ้า อย่าให้คลาดสายตาในขณะที่เสียบชาร์ทไฟ แบตฯพวกนี้ชาร์ทประมาณ30นาทีก็เต็มแล้วเพราะเป็นแบตฯคุณภาพต่ำมากๆ ช่วยfowordเมล์นี้ไปบอกเตือนเพื่อนๆให้ได้มากที่สุดนะครับ อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้านเพื่อนๆและยังได้บุญกุศลด้วยครับ ขอบคุณครับ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:39 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
FW: เกียร์ออโตหลุด ดับเครื่องทันที!! Saturday, May 1, 2010 6:27 AM ประสบการณ์จริง จากรถเกียร์ออโต้ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ! คงเคยอ่านข่าว รถจอดอยู่แล้วไหลชนเจ้าของบ้าน หรือตกคลองกันบ้าง เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา นี้เอง หลังจากที่ได้นำรถออกจากอู่ตอนบ่าย กับรถ BENZ 300 E เอารถไปเข้าอู่เพื่อดูแลตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง. น้ำมันเกียร์เข็คโน่นเช็คนี่ตามเลขที่กิโลตามกำหนด ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่วันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้ เคยได้ยินไหม ' เกียร์หลุด ' ไม่ใช่หลุดออกมา ไม่ใช่เข้าเกียร์ไม่ได้ แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R อาการเป็นอย่างไร ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไรก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2 ทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด ยิ่งคุณพยามยามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น อย่าหวังพึ่งเบรคมือ จะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้ไหลเท่านั้น เย็นวันนั้นหลังเลิกงาน แวะ Shopping ที่ห้างเดอะมอล์ ผ่านจากจุดรับบัตรตรงทางเข้า ไปเล็กน้อยก็เห็นที่มีที่จอดรถว่างอยู่ เป็นทางลาดเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ) ก็เลยเปิดไฟกระพริบ เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อถอยหลังเข้าที่จอด ถอยไปได้ครึ่งคัน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนเป็น D เพื่อให้รถเดินหน้าจะได้ตั้งลำถอยใหม่ ตอนนี้เองรถไม่ยอมเดินหน้า ถอยหลังซะงั้น ก็เริ่มแปลกใจ หันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้น รีบเหยียบเบรค เข้าเกียร์ D ใหม่เหยียบคันเร่งเบา ๆ รถกลับถอยหลังแรงขึ้นไปอีก ก็เหยียบเบรคอีก แต่กำลังของรถมันคอยจะถอยอย่างเดียว เครื่อง ดังหึ่ง ๆ จะถอยลูกเดียว ทีนี้คิดว่าจะทำอย่างไรดีไม่เคยเจอ ก็เลยให้อีกคนเปิดประตูลงมามองหาว่ามันมีที่กั้นล้อด้านหลังไหม จะได้กั้นรถไว้ได้ เพราะด้านหลังเป็นท่อแก๊ส และท่อน้ำขนาดใหญ่ของห้าง ถ้าถอยไปชน จะเกิดอะไรขึ้น ? พอลงไปดูเห็นมีที่กั้นค่อยโล่งใจหน่อย ก็เลยตะโกนบอกมีที่กั้น จอดเลยไม่ต้องถอยแล้ว คนขับก็เหยีบเบรค และเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N ห่างจากจุดที่กั้นเป็นปูนประมาณ 2 คืบได้ แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ รถกระโดดข้ามไปอยู่บนที่ กั้นด้วยความเร็วและแรงมากในชั่วนาทีเดียว วินาทีเดียวจริง ๆ ซึ่งคนที่ยืนดูท้ายอยู่ อยู่ห่างจากตัวรถทางด้านข้างไม่ถึงฝ่ามือ ยืนตะลึง แรงของรถ กระแทกท่อแก๊สกับท่อน้ำอย่างแรง กันชนแตกเละ โครมเบ้อเริ่ม สิ่งที่ทำตอนนั้นคือ ตะโกน ดับเครื่อง ดับเครื่อง ดับเครื่อง หลายคนคงสงสัยแล้วแล้วจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ ก็ค่อยๆ มองซ้ายมองขวาช่วยกันเข็นรถที่มันคาอยู่บนขอบปูน และกำลัง เบียดท่อแก๊สกับท่อน้ำ ออกหนะสิ โชคดีมาก ๆ ท่อเป็นเหล็กหนามาก ไม่อย่างนั้น คนที่ดูหลังอยู่ด้านท้าย คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง คงจะแบนไปกับท่อแก๊สไปแล้ว สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คือ 1. เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที ( คำแนะนำของช่าง) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง 2. เวลาจะถอยหลัง หรือออกรถ ระวังอย่าให้มีคนยืนอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ เวลาถอยรถ เรามักมีคนไปด้วยช่วยลงไปดู เพราะไม่แน่ใจหรือคอยระวังรถคันอื่น 3. รถที่เพิ่งออกจากอู่ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีข้อผิดพลาด 4. สติของคนขับ สำคัญมาก แม้ประสบการณ์หลายสิบปี ก็อาจควบคุมไม่ได้ ด้วยความปรารถนาดี เพื่อเป็นประสบการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:32 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
FW: ดูให้ได้ครับ....ผู้หญิงคนนี้สุดยอดมากๆ.. Tuesday, May 11, 2010 9:51 PM ดูแล้วขอบอกว่าสุดยอดจริงๆครับ...เก่งจริงๆ ไม่เปิดดูอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นแบบนี้ก็ได้คับ คลิกดูที่นี่เลย....สุดยอดจริง http://www.youtube.com/watch_popup?v=vOhf3OvRXKg (..ปล.ดูจบ ก็สามารถกดดูภาพอื่นๆได้นะคะ สุดยอดจริงๆขอบอก..อิอิ)
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:30 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
เทคนิคการเติมน้ำมัน...ดีมากๆ แต่ ปตท. ไม่ชอบ Sunday, May 16, 2010 6:33 AM น้ำมันแพง ..............ต้องฉลาดเติม ( ภาคพิสดาร) ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไง แต่ที่ California ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี เล่าว่า เขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose , CA ซึ่งมีคลังเก็บ 34 คลัง ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ ที่นั่นแต่ละวันจะจ่ายน้ำมัน ประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม. โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์เกรดต่างๆ สลับกันเขาบอกว่า 1. จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่ อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็น น้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันก็จะขยายตัวตาม ดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ธุรกิจค้าน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบิน เอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะ มีบทบาทสำคัญ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา หมายถึง.........เงินมหาศาลในธุรกิจนี้ แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า 2. ขณะเติมน้ำมัน อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว ( ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง) หากคุณสังเกต จะเห็นว่ากลไกเหนี่ยวมี 3 ระดับ คือ low, middle, และ high เมื่อตั้งในระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด หากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใ้ต้ดิน นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร 3.เคล็ดลับอีกอย่างคือ ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง ( แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอ จะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้และทั้งนั้น ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน ― หมายเหตุผู้แปล) เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิด ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดาน ลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ 4. ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊มถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น เพราะตอน "ลงของ" สิ่งแปลกปลอม ซึ่งปกติตกตะกอนอยู่ใต้ถัง จะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากคุณเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้ โปรดแบ่งปันเคล็ดลับเหล่านี้ให้ทั่วถึงเพื่อทำให้เกิดอิทธิพลขึ้น เราจำต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ให้เข้าถึงผู้ใช้น้ำมันจำนวนนับล้าน ซึ่งก็ไม่ยาก ผู้เป็นต้นคิดส่งให้เพื่อนฝูง 30 ราย หากแต่ละรายส่งต่ออีก 10 คน ( 30 x 10 = 300)...300 คนส่งต่ออีก 10 คน ( 300 x 10 = 3,000) .. ทำเช่นนี้เป็นลูกโซ่ต่อเนื่อง พอถึงลูกโซ่ข้อที่ 6 ข้อมูลก็จะถึงมือผู้ใช้น้ำมัน 3 ล้านคน หาก 3 ล้านคนนั้นตื่นตัวพร้อมกัน ต่างส่งต่ออีก 10 คน ก็จะมี 30 ล้านคนรับรู้ข้อมูลนี้ จากจุดนี้ก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ลองทายดูว่าจะเป็นเท่าไร 300 ล้านแน่ะ ฉะนั้น โปรดเริ่มลงมือส่งให้ญาติมิตร 10 คน คงเสียเวลาไม่มากใช่ไหม ? (**ปล. เขาส่งมา เราส่งต่อ เป็นฟอร์เวิร์คเมล์ จริงแท้เป็นอย่างไร ไม่ทราบค่ะเพราะไม่มีรถจะให้เติม ไม่มีเงินซื้อรถ เพราะเงินละลายอยู่ในตลาดลักทรัพย์หมดแล้วอิอิ..**)
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:26 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
อยากให้อ่านทุกคน ...anus Sunday, May 16, 2010 6:56 AM เงิน 20 บาท มีค่ามากสำหรับคนบางคน ในขณะที่ใครหลายๆ คนกินอิ่ม นอนหลับอยู่ในบ้านที่แสนสบาย ใช้เงินฟุ่มเฟือยเต็มสูบไม่มีจำกัด อยากได้อะไรซื้อ อยากกินอะไรกิน ทิ้งๆ ขว้างๆ บ้างตามประสาคนเหลือกินเหลือใช้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง...กลับมีคนที่ยอมเดินด้วยเท้า จากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยังจังหวัดอยุธยา ด้วยระยะทางไกลมากว่า 600 กิโลเมตร เพียงเพื่อเงินวันละ 20 บาท เรื่องที่ทางทีมงานจะขอนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเว็บไซต์ พันธ์ทิพย์ดอทคอม ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง และอยากนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ซึ่งเขาก็เล่าว่า ... ผมและครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดอยุธยา ระหว่างทางก่อนที่จะถึงจุดหมาย ผมได้มองไปข้างทางและเห็นชายแก่คนหนึ่งใส่เสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน กำลังเดินอยู่ข้างทางแบกถุงปุ๋ย พร้อมห่อผ้าขาวม้า 1 ห่อ เดินกลางแดดกลางวันร้อนๆ ยามบ่าย ผมจึงให้แฟนจอดรถและลงไปถามชายชราคนนั้นว่า ผม : ตาจะไปไหน ทำไมมาเดินตากแดดแบบนี้เล่า ตา : (ยิ้ม) จะไปอยุธยา ผม : ตาจะไปทำไมที่อยุธยา ไปหาใครเหรอ ตา : ไปรับจ้างเลี้ยงวัว มีคนเขาบอกว่าที่อยุธยา มีคนเขาหาคนเลี้ยงวัว ผม : เขาจ้างวันละเท่าไหร่ ตารู้จักเขาเหรอ ตา : เขาจ้างวันละ 20 บาท มีที่พักให้ด้วย (ตาหมายถึงนอนกับวัวเลย) ตาไม่รู้จักเขาหรอก ที่ไปนี้ก็ต้องไปถามเขาอีกทีว่าใครจะ จ้างตาเลี้ยงวัวบ้าง ผม : แล้วใครบอกตาว่าที่อยุธยาเขาหาคนเลี้ยงวัว ตา : คนแถวบ้านตาบอก เขาพูดกันว่าที่อยุธยามีคนเขาหาคนเลี้ยงวัวเยอะ ผม : ตามาจากไหนละ มาคนเดียวเหรอ แล้วยายไปไหนล่ะ ตา : ตามาจากอุบลฯ ตามาคนเดียว เพราะยายตายแล้ว ผม : ลูกๆ ไม่มีเหรอตา ตา : มีลูก 2 คน ชายคน หญิงคน มีครอบครัวกันหมดแล้ว ไม่เคยเห็นหน้ามาหลายปีแล้ว ยายตายนี่พวกมันยังไม่รู้เลย ผม : แล้วทำไมตาไม่อยู่บ้าน หางานแถวบ้านทำล่ะ ตา : ตาไม่มีบ้าน พอยายตาย พี่น้องยายเขาก็ไม่ให้อยู่ในที่ของเขา งานแถวบ้านมี แต่เขาไม่จ้างตาทำ เขาบอกว่าตาแก่แล้ว ทำ อะไรช้าไม่ทัน เขาก็ไม่จ้างตา ผม : แล้วตามาถึงที่นี่ได้อย่างไง ตา : ตาเดินมาเรื่อยๆ ผม : เดินมาจากอุบลฯ นะเหรอตา ทำไมไม่นั่งรถเมล์มาล่ะ ตา : (ยิ้ม) ตาไม่มีตังค์ (ควักเงินออกมาให้ดู ซึ่งในมือตามีเงิน 15 บาท เหรียญ 5 บาท 1 เหรียญ ที่เหลือเป็นเหรียญบาทเก่าๆ สีเขียว) ผม : แล้วตาออกจากอุบลฯ มาวันไหน ตา : หลังสงกรานต์ 2 วัน (ยิ้ม) ผม : แล้วตาเอาอะไรมาด้วย นี่ห่ออะไรที่ตาถือมา ตา : อ๋อ ห่อกระดูกยาย กับถุงเสื้อผ้าตา ผม : แล้วตากินอะไรอยู่ ตา : เดินผ่านร้านที่เขาขายมันต้ม แม่ค้าเขาเลยให้ตามากินฟรีๆ ไม่เอาตังค์ตาด้วย ผม : (สายตาของผมมองไปที่เท้าของตา เห็นรองเท้าของตามีกระดาษติดที่ส้น) กระดาษติดที่เท้าตานะ ระวังหกล้ม ตา : (ยิ้ม) อ๋อ ตาเอามันมารองที่เท้าตาเอง เพราะส้นรองเท้ามันขาดแล้ว เวลาเดินมันร้อนส้นเท้า ผม : แล้วนั่นน้ำอะไรจ๊ะตา (เห็นน้ำสีน้ำตาลในขวดสีขาวขุ่นมากๆ วางอยู่ข้างๆ ตา) ตา : น้ำกินตาเอง หลังจากนั่งคุยกับตาแกไปเรื่อยๆ ก็ได้รู้ว่า ตา อายุ 76 ปีแล้ว แต่ผมดันลืมถามชื่อแกมา รู้แต่ว่าสิ่งที่ได้สังเกตเห็นตลอดเวลาคือ เนื้อตัวค่อนข้างเลอะ มีรอยยุงกัดตามตัวเยอะมาก เพราะแกบอกว่าอาศัยนอนข้างถนน นอนศาลา และดวงตาของแกฝ้ามัวมาก เหมือนมีเส้นใยบางๆ ในดวงตา และอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นก็คือ "รอยยิ้ม" ที่เห็นฟัน 1 ซี่ ของแกมีมาให้ตลอดเวลาระหว่างที่สนทนากัน ทำให้ผมรู้สึกว่าตาเป็นคนอารมณ์ดี จากนั้นผมจึงได้ส่งร่มในมือที่ถือก่อนลงจากรถให้แกไว้ใช้ พร้อมเงินอีก 190 บาท (เพราะมีอยู่แค่นั้น) ซึ่งตอนที่แกได้ร่ม ตาแกดีใจมาก ยิ้มตลอดเวลา ในใจแกคงคิดว่าต่อไปนี้แกคงไม่ต้องเดินร้อนแล้วล่ะ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมตาแกไม่ไปบวช หรือขอข้าววัดกิน เรื่องนี้พวกเราคุยกันว่า ตาแกยังคงอยากทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ไม่อยากจะขออาศัยวัดกิน มีมือมีเท้าก็อยากทำให้เกิดประโยชน์บ้าง ...และนี่คือตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากต้องปาดกัดตีนถีบเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง รู้แบบนี้แล้วทำไมไม่ลองมองย้อนมาดูตัวเอง ว่าวันนี้คุณ "พอเพียง" แค่ไหนกัน ? ทั้งนี้ผู้เล่าประสบการณ์ คิดได้ว่า เขาโชคดีเหลือเกินที่มีกินมีใช้ เกิดมาไม่ลำบาก มีพ่อแม่ มีเงินให้ใช้ แต่หลังจากเจอตาแล้วทำให้เขาคิดได้ว่า ต่อไปนี้เขาต้องรู้จักใช้เงิน รู้คุณค่าของเงินมากขึ้น เผื่อวันหน้าจะได้ไม่ลำบาก
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:23 pm
0
0
..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..
Half Man - Half Price Store Sunday, May 16, 2010 7:15 AM ชีวิตต้องสู้ ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ ชีวิตที่เห็นค่าของตัวเอง แล้วคุณหล่ะคิดอย่างไรกับชีวิตของคุณ? Half Man - Half Price Store....ร้านครึ่งคนครึ่งราคา ใครที่รู้สึกตำต้อย ท้อแท้ สิ้นหวัง If ou feel desperate, open this mail. ถ้าฉันบอกคุณคุณจะ เชื่อหรือไม่ว่าคุณเป็นคนโชคดี WOULD YOU BELIEVE ME ,IF I TELL YOU THAT YOU ARE SO LUCKY "Half Man - Half Price Store" ร้านครึ่งคนครึ่งราคา The Story of Peng Shuilin เรื่องราวของ เป็ง ชุ่ยหลิน In life we keep complaining about what is or why we don't have. ตลอดชีวิตคนเรามักจะพร่ำบ่น "อะไรนี่?" หรือ "ทำไมเราไม่ได้?" Half the time we seem dissatisfied, though full-bodied and free to choose. Fat people say,"I want to be slim." Skinny people say,"I want to be fatter." ครึ่งชีวิตเรามักพบความไม่พอใจ ถึงแม้ว่าเราจะมีร่างกายที่สมบูรณ์และอิสสระ ในการเลือก คนอ้วน "ฉันอยากผอม" คนผอม "ฉันอยาอ้วนกว่านี้" เป็ง ชุ่ยหลิน สูงแค่ 78 ซม. เขาเกิดที่จังหวัดหูหนาน ประเทศจีน In 1995, in Shenzhen, a freight truck sliced his body in half. ปี 1995 ที่ เซินเจิ้น รถบรรทุกได้หั่นร่างของเขาไปครึ่งหนึ่ง His lower body and legs were beyond repair. ร่างกายส่วนล่างและท่อนขาทั้งสองเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ Surgeons sewed up his torso. ศัลยแพทย์เย็บลำตัวที่เหลือของเขาเข้าด้วยกัน Peng Shuilin, 37, spent nearly two years in hospital in Shenzhen, southern China, เป็ง ชุ่ยหลิน อายุ 37 ใช้เวลาเกือบสองปี นอนในโรงพยาบาลที่เซินเจิ้น ประเทศจีน undergoing a series of operations to re-route nearly every major organ or system inside his body. ผ่านการผ่าตัดใหญ่หลายรอบ เพื่อทำการจัดอวัยวะที่สำคัญ และระบบภายในของร่างกาย Peng kept exercising his arms, building up strength, washing his face and brushing his teeth. เป็ง พยายามออกกำลังกายแขนทั้งสอง เพื่อสร้างพลัง ล้างหน้าแปรงฟัน He survived against all odds. เขาผ่านพ้นความท้าทายทุกอย่าง Now Peng Shulin has astounded doctors by learning to walk again after a decade. ตอนนี้ เป็ง ได้สร้างความตลึงแก่บรรดาแพทย์โดยเขาเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นเดินหลังจาก 10 ปี Considering Peng's plight, doctors at the China Rehabilitation Research Centre in Beijing ความเห็นใจในโชคชตาของ เป็ง คณะแพทย์แห่งศูนย์วิจัยการฟื้นฟูสมรถภาพ แห่งกรุงปักกิ่ง devised an ingenious way to allow him to walk on his own, ได้ประดิษฐ์วิธีการอันมหัศจรรย์เพื่อให้เขาได้เดินได้ด้วยตนเอง creating a sophisticated egg cup-like casing to hold his body, with two bionic legs attached. ได้สร้างแม่พิมพ์ห่อหุ้มร่างของเขาเหมือนเปลือกไข่ และติดตั้งขาเทียมสองข้าง It took careful consideration, skilled meaasurement and technical expertize. พวกเขาได้ใช้ความพยายาม, ความชำนาญ และเทคนิคอย่างมาก Peng has been walking the corridors of Beijing Rehabilitation Centre เป็งได้เริ่มหัดเดินรอบๆระเบียงของศุูนย์ฯที่ปักกิ่ง with the aid of his specially adapted legs and a resized walking frame. ด้วยช่วยของขาเทียมที่ปรับปรุงและปรับขนาดหลายครั้ง RGO is a recipicating gait orthosis, attached to a prosthetic socket bucket. There is a cable attached to both legs so when one goes forward, the other goes backwards. Rock to the side, add a bit of a twist and the leg without the weight on it advances, while the other one stays still, giving a highly inefficent way of ambulation. Oh so satisfying to 'walk' again after ten years with half a body! ด้วยอุปกรณ์ที่คณะแพทย์ได้วิจัยและสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการเดินของเขา เป็ง ก็สามารถเริ่มเดินได้อีกครั้งหลัง 10 ปีที่มีร่างกายเพียงครึ่งท่อน Hospital vice-president Lin Liu said: "We've just given him a checkup; he is fitter than most men his age." รองประธาน รพ. หลินหลิว "เราเพิ่งตรวจสภาพร่างกาย เขามีความแข็งแรงสูงกว่าชายในวัยเดียวกับเขา" Peng Shuilin has opened his own bargain supermarket, เป็ง ชุ่ยหลิน ได้เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตราคาถูกของเขาเอง called the Half Man-Half Price Store. เขาตั้งชื่อร้านว่า "ครึ่งคน ครึ่งราคา" The inspirational 37-year-old has become a businessman ชายวัย 37ผู้เต็มไปด้วยความบันดาลใจได้กลายเป็นนักธุรกิจ and is used as a role model for other amputees. และได้เป็นแบบอย่างแก่คนทุพพลภาพอื่นๆ At just 2ft 7ins tall, he moves around in a wheelchair giving lectures on recovery from disability. ด้วยความสูงเพียง 2 ฟุต 7 นิ้ว เขาเดินทางไปด้วยรถเข็นไปเพื่อบรรยายให้กับผู้ทุพพลภาพที่กำลังพักฟื้น His attitude is amazing, he doesn't complain. ทัศนคติที่น่าทึ่ง เขาไม่บ่น "He had good care, but his secret is cheerfulness. Nothing ever gets him down." "เขาได้รับการดูแลที่ดี แต่เคล็ดลับของเขาคือความสุขความหวัง ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาสิ้นหวังได้" You have a whole body. You have feet. คุณมีร่างกายที่สมบูรณ์ มีขาทั้งสองข้าง Now you have met a man who has no feet. ตอนนี้คุณได้พบกับชายไร้ขาทั้งสอง His life is a feat of endurance, a triumph of the human spirit in overcoming extreme adversity. ชีวิตของเขาคือความทุกข์ทรมาน แต่ความมุ่งมั่นแห่งจิตวิญญาณมนุษย์ทำให้เขาก้าวข้ามทุกสิ่ง Next time you want to complain about something trivial, don't. คราวหน้า หากคุณจะบ่นไม่ว่าเรื่องใหญ่โตหรือเล็กน้อย โปรดหยุดก่อน Remember Peng Shulin instead. นึกถึง เป็ง แทน
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 8:40 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
ฮาๆๆ ขอบคุณท่านช่างแปล Machu Pichu ที่แปลและเรียบเรียงให้อ่าน เก่งมากค่ะ เยี่ยมไปเลย คิดซะว่าเหมือนอ่านกำลังภายในก็แล้วกันนะคะ ได้อ่านอย่างนี้ตื่นเต้นดี เพราะอยากรู้ว่าเขาจะแต่งดีมั๊ย ก็ถือว่าเริ่มต้นใช้ได้ น่าสนใจเหมือนกัน จะติดตามอ่านเรื่อยๆค่ะ แรกๆว่าจะรอให้จบแล้วอ่านแค่วันเดียวก็จบไปเลย เหมือนคราวที่แล้วที่ช่างแปล วอนวอน นำมาลงในบล๊อคอ่านวันเดียวจบ แต่ช่างแปล วอนวอน แปลตอนท้ายเรื่องไม่เสร็จเป็นอาทิตย์เลย รอๆๆๆ และเข้ามาคอมเม้นท์ให้กำลังใจระหว่างแปลตอนท้าย ท่านผอ.ถนัดการวางยา เลยถูกวางยาแต่นั้นมา แลคราวนี้ก็คงต้องถูก ทีมงานช่างแปลทุกท่านวางยาต่อ..ไป ขอให้มีกำลังใจแปลให้สำเร็จนะคะ ขอบคุณ ที่สละเวลามาแปลให้อ่านกัน **งานนี้ท่านช่างแปล วอนวอน เลยมีเวลามาเผยตัว ท่าทางจะซุกซนไม่ใช่เล่น ขอให้ลูกบล๊อคช่วยกันจับให้อยู่ เพราะที่แล้วมาทำลูกบล๊อคสาหัสนัก ที่ทำให้รอ..เมื่อไหร่จะได้กินยา* โดย: สุเกียง IP: 125.24.123.231 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:18:01:17 น. เอาไปแปะให้เพื่อนๆที่ชมรมฯอ่านกันค่ะ viewtopic.php?f=7&t=3427&st=0&sk=t&sd=a&start=40 คิดว่าเรื่องนี้เพื่อนๆก็คงชอบใจกัน เพราะเดินเรื่องโดยซินยุนบกและจองฮยาง แฟนคลับของ 2 มูน ก็คงไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ ขอให้มีบทและเนื้อหาที่แปลกและแหวกแนวกว่าเดิม ก็ถือว่าน่าสนใจติดตาม และคนอ่านก็จะจินตนาการไปเองว่า มีคู่นี้แสดงไปในตัว บางครั้งการอ่านนวนิยาย อยู่ที่ตัวคนอ่านด้วยว่าจะถูกโยงใยไปตามเนื้อเรื่องหรือไม่ หากอินก็จะอ่านไปได้เรื่อยๆ มีกี่เล่มก็อ่านไม่หยุด ทานข้าวก็อ่าน เรียกว่าหนังสือต้องไม่ห่างจากตัว ยิ่งเรื่องไหนสนุกก็จะอ่านเหมือนสิ่งเสพติด คนแต่งเขาเก่งนะ อย่างเพชรพระอุมา พนมเทียน ประพันธ์ได้ดี มากๆ สนุก และตื่นเต้นดีอ่านจบก็เสียดายไม่มีต่ออีกแล้ว อ่านในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จะน่าสนใจและอยากรู้ ซินยุนบกภาคแรก ภาค 2 แต่งโดยแฟนคลับจบไปแล้ว มาเจอภาค 3 ก็ตลกดี สนุกไปอีกแบบ เคยแวะอ่านลิ้งค์เว็บที่เพื่อนๆนำมาแปะ ซินยุนบก จะเจ้าชู้ อันนี้คงเป็นชายจริงไปซะแล้ว จะแตกต่างกันไปเลย ป่านนี้คงแต่งจบไปแล้วล่ะ อันนี้เป็นจินตนาการของคนชอบแต่งเรื่องราวให้สนุกๆไปอีกรูปแบบหนึ่ง ก็สนุกไปตามแบบเวอร์ชั่นของคนสนุกสนานเฮฮาอ่ะนะ แต่..รูปแบบภาคแรกจะนุ่มนวล มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง แทบจะไม่ต้องแต่งเติมอะไรเลยเพราะดาราเขาเล่นได้ดีสมกับเนื้อเรื่องที่พาไป มาเจอ การแต่งภาค 2 ยิ่งทำให้ประทับใจ เพราะเรื่องราวต่อเนื่องและสำนวนที่สื่อเข้ากับเรื่องราวดีมาก ภาค 2 ทำให้คนอ่านพลอยมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆที่อย่างประทับใจแบบไม่ค้างคาใจจนจบ ภาค 3 ก็คิดว่า เหมือนเราอ่านกำลังภายในก็แล้วกัน ขอให้มีซินยุนบก และจองฮยางคนเดิม เรื่องราวจะพาไปไหน ก็ต้องไปไหนไปกัน.. เพราะยุนบก ยังคงความเป็นหญิงที่น่าสนใจ และแถมยังเข้มแข็งไม่อ่อนแอ คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจและน่าติดตามอ่านนะคะ โดย: สุเกียง IP: 125.24.123.231 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:18:43:01 น.
โดย
สุเกียง
พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 11:02 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
ฮาๆๆ ขอบคุณท่านช่างแปล Machu Pichu ที่แปลและเรียบเรียงให้อ่าน เก่งมากค่ะ เยี่ยมไปเลย คิดซะว่าเหมือนอ่านกำลังภายในก็แล้วกันนะคะ ได้อ่านอย่างนี้ตื่นเต้นดี เพราะอยากรู้ว่าเขาจะแต่งดีมั๊ย ก็ถือว่าเริ่มต้นใช้ได้ น่าสนใจเหมือนกัน จะติดตามอ่านเรื่อยๆค่ะ แรกๆว่าจะรอให้จบแล้วอ่านแค่วันเดียวก็จบไปเลย เหมือนคราวที่แล้วที่ช่างแปล วอนวอน นำมาลงในบล๊อคอ่านวันเดียวจบ แต่ช่างแปล วอนวอน แปลตอนท้ายเรื่องไม่เสร็จเป็นอาทิตย์เลย รอๆๆๆ และเข้ามาคอมเม้นท์ให้กำลังใจระหว่างแปลตอนท้าย ท่านผอ.ถนัดการวางยา เลยถูกวางยาแต่นั้นมา แลคราวนี้ก็คงต้องถูก ทีมงานช่างแปลทุกท่านวางยาต่อ..ไป ขอให้มีกำลังใจแปลให้สำเร็จนะคะ ขอบคุณ ที่สละเวลามาแปลให้อ่านกัน **งานนี้ท่านช่างแปล วอนวอน เลยมีเวลามาเผยตัว ท่าทางจะซุกซนไม่ใช่เล่น ขอให้ลูกบล๊อคช่วยกันจับให้อยู่ เพราะที่แล้วมาทำลูกบล๊อคสาหัสนัก ที่ทำให้รอ..เมื่อไหร่จะได้กินยา* โดย: สุเกียง IP: 125.24.123.231 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:18:01:17 น. เอาไปแปะให้เพื่อนๆที่ชมรมฯอ่านกันค่ะ viewtopic.php?f=7&t=3427&st=0&sk=t&sd=a&start=40 คิดว่าเรื่องนี้เพื่อนๆก็คงชอบใจกัน เพราะเดินเรื่องโดยซินยุนบกและจองฮยาง แฟนคลับของ 2 มูน ก็คงไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ ขอให้มีบทและเนื้อหาที่แปลกและแหวกแนวกว่าเดิม ก็ถือว่าน่าสนใจติดตาม และคนอ่านก็จะจินตนาการไปเองว่า มีคู่นี้แสดงไปในตัว บางครั้งการอ่านนวนิยาย อยู่ที่ตัวคนอ่านด้วยว่าจะถูกโยงใยไปตามเนื้อเรื่องหรือไม่ หากอินก็จะอ่านไปได้เรื่อยๆ มีกี่เล่มก็อ่านไม่หยุด ทานข้าวก็อ่าน เรียกว่าหนังสือต้องไม่ห่างจากตัว ยิ่งเรื่องไหนสนุกก็จะอ่านเหมือนสิ่งเสพติด คนแต่งเขาเก่งนะ อย่างเพชรพระอุมา พนมเทียน ประพันธ์ได้ดี มากๆ สนุก และตื่นเต้นดีอ่านจบก็เสียดายไม่มีต่ออีกแล้ว อ่านในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จะน่าสนใจและอยากรู้ ซินยุนบกภาคแรก ภาค 2 แต่งโดยแฟนคลับจบไปแล้ว มาเจอภาค 3 ก็ตลกดี สนุกไปอีกแบบ เคยแวะอ่านลิ้งค์เว็บที่เพื่อนๆนำมาแปะ ซินยุนบก จะเจ้าชู้ อันนี้คงเป็นชายจริงไปซะแล้ว จะแตกต่างกันไปเลย ป่านนี้คงแต่งจบไปแล้วล่ะ อันนี้เป็นจินตนาการของคนชอบแต่งเรื่องราวให้สนุกๆไปอีกรูปแบบหนึ่ง ก็สนุกไปตามแบบเวอร์ชั่นของคนสนุกสนานเฮฮาอ่ะนะ แต่..รูปแบบภาคแรกจะนุ่มนวล มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง แทบจะไม่ต้องแต่งเติมอะไรเลยเพราะดาราเขาเล่นได้ดีสมกับเนื้อเรื่องที่พาไป มาเจอ การแต่งภาค 2 ยิ่งทำให้ประทับใจ เพราะเรื่องราวต่อเนื่องและสำนวนที่สื่อเข้ากับเรื่องราวดีมาก ภาค 2 ทำให้คนอ่านพลอยมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆที่อย่างประทับใจแบบไม่ค้างคาใจจนจบ ภาค 3 ก็คิดว่า เหมือนเราอ่านกำลังภายในก็แล้วกัน ขอให้มีซินยุนบก และจองฮยางคนเดิม เรื่องราวจะพาไปไหน ก็ต้องไปไหนไปกัน.. เพราะยุนบก ยังคงความเป็นหญิงที่น่าสนใจ และแถมยังเข้มแข็งไม่อ่อนแอ คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจและน่าติดตามอ่านนะคะ โดย: สุเกียง IP: 125.24.123.231 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:18:43:01 น.
โดย
สุเกียง
พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 11:01 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
ยุนบกขยับห่อของบนหลังตนเองให้เข้าที่ แอบบ่นถึงอาจารย์ของเขาในใจ เรื่องน้ำหนักที่ให้เขาแบกเพิ่มในงวดนี้ หนำซ้ำเชือกที่รัดไว้ยังบาดตัวเขาทำให้เจ็บในระหว่างการต่อสู้ ถ้าเป็นไปได้ เขาควรจะโยนมันทิ้งก่อนที่จะต่อสู้ ฮ่าฮ่า ถ้าอาจารย์ซุกควอนรู้ จะต้องลงโทษเขาโดยการให้วิ่งบนทางไม้ตลอดเดือนหน้านี้แน่ๆ เขาส่ายศีรษะไปมาอย่างขำๆขณะที่กำลังช่วยเก็บข้าวของอยู่ สาวใช้มองเขาอย่างขลาดๆ ขณะที่เขาส่งของให้ ทำท่าเหมือนกลัวเขาจะกัดหรือทำอะไรนาง ช่างเป็นหญิงสาวที่ใจเสาะอะไรเช่นนี้ ขณะที่ข้าวของกำลังทยอยเก็บขึ้นมา พวกโจรอีกสองคนก็เริ่มได้สติฟื้นขึ้นมาและสามารถลุกยืนได้ ยองจุนจุดคบไฟอีกครั้ง และตรวจดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าคยองมีที่อยู่ในเกี้ยวปลอดภัยดีแล้วจึงเริ่มออกเดินทางต่อไป คนหามเกี้ยวคนหนึ่งเดินเซโอนเอนไปมาทำให้เกี๊ยวโคลงเคลง ยุนบกคิดว่าเขาคงบาดเจ็บจากการต่อสู้ ยองจุนตัดสินใจไปหามเกี้ยว และให้คนรับใช้คนนั้นไปถือคบไฟนำทางแทน ส่วนยุนบกก็คอยเป็นกองหลังพร้อมกับโจรหน้าตาอมทุกข์สามคน หลังจากเดินไปได้สักพักใหญ่ พวกเขาก็เห็นแสงไฟเป็นจุดเล็กๆ อยู่ไกลๆ แล้วจึงค่อยๆ ชัดขึ้น สว่างขึ้น ยองจุนเหน็ดเหนื่อยมากแล้วตอนนี้ และคยองมีเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขายังไม่ละความพยายามที่จะไปให้ถึงจุดหมาย "พี่ยองจุน ขอให้ข้าเดินเองเถอะนะคะ ท่านไม่คุ้นเคยกับงานหนักเช่นนี้" คยองมีพูดขึ้น. "ไม่ ข้าไม่เป็นไรหรอก" "ดูสิคะท่านพี่ เราก็ใกล้จะถึงวัดกันอยู่แล้ว เดินอีกสักพักก็คงถึง กรุณาให้ข้าลงไปเดินเถิดค่ะ" คยองมีพูดอย่างมีเหตุผล "นางพูดถูก ท่านฮาน" ยุนบกกล่าว เขาเห็นด้วยที่ว่ายองจุนเหนื่อยล้าจนไม่สามารถจะเดินต่อไปได้อีกแล้ว "ข้าคิดว่าพวกเราน่าจะเอาของทั้งหมดที่แบกอยู่ใส่ไว้ในเกี๊ยว แล้วทุกคนก็จะเดินสบายขึ้น " "จริงของท่าน" ยองจุนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้เขาปวดไหล่มาก ดีใจอย่างที่สุดที่จะได้วางเกี๊ยวลงซะที ฮยอนซุกดีใจยิ่งกว่าที่สามารถเอาของที่แบกไว้ใส่เข้าไปในเกี้ยว หลังจากที่คยองมีออกมาจากเกี๊ยวแล้ว ส่วนยองจุนก็เปลี่ยนหน้าที่ไปถือคบไฟนำทางแทน เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทางต่อไป ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงทางเข้าวัดซึ่งเป็นขั้นบันไดยาวคดเคี้ยวทอดไปสู่ลานใหญ่หน้าวัด ในความมืด คยองมีก็เดินไปสะดุดขั้นบันได นางส่งเสียงร้องอย่างตกใจออกมาขณะที่กำลังจะหงายหลัง ฮยอนซุกหันกลับมาจะจับนางไว้แต่ไม่ทันการเสียแล้ว คยองมีรู้สึกว่านางล้มไปกระแทกใครบางคน มือของเขาจับอยู่ที่ต้นแขนของนางอย่างแข็งแรงมั่นคง เมื่อคยองมีเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป็นยุนบกที่กำลังช่วยประคองนางให้ลุกขึ้น "โปรดระวังตัวด้วย" ยุนบกพูด "จับมือคุณหนูเจ้าไว้ให้ดี ไม่ปลอดภัยนักที่จะเดินบนบันไดสูงชันเช่นนี้ท่ามกลางความมืด " เขาพูดกับฮยอนซุกผู้ซึ่งรู้สึกละอายใจต่อความบกพร่องในหน้าที่ตัวเอง ที่มัวแต่อยากให้ถึงวัดเร็วๆ เพื่อที่จะได้พักผ่อนเท่านั้น "ข้าขอโทษเจ้าค่ะ คุณหนู " ฮยอนซุกกล่าวขออภัยคยองมี ขณะที่รีบเข้าไปประคองนางข้างๆ "ข้าไม่เป็นไร " คยองมีกล่าวอย่างเลื่อนลอย นางคล้ายโดนไฟช๊อตเสียวซาบซ่านไปทั่วร่างจากสัมผัสของยุนบก พวกเขาปีนขึ้นบันไดกันต่อไป จนในที่สุดก็ถึงลานวัด พร้อมกับขาที่สั่นไปด้วยความเหนื่อยอ่อน To be continue ผอ ขอปิดห้องรับสมัครช่างแปลของท่านมาชูนะคะ แล้วเปิดห้องใหม่สำหรับทีมแปลปรึกษากัน (อยู่ในห้องเปิดอกพูดคุย)และ เอาประโยคที่ติดขัดแปลไม่ได้มาลงให้ช่วยเหลือกันนะคะ ส่วนห้องวิเคราะห์ทางวิชาการ เปิดไว้เหมือนเดิมค่ะ สำหรับลงเนื้อเรื่องที่แปลพร้อมภาษาอังกฤษ คุณติดหนึบยังไม่ได้ที่อยู่เลยนะคะ ด่วนค่ะ ด่วน Create Date : 14 มกราคม 2553 Last Update : 14 มกราคม 2553 16:44:49 น. 44 comments Add to Counter : 214 Pageviews.
โดย
สุเกียง
พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 10:59 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=toetae&month=01-2010&group=6&date=14&gblog=1 ตอนที่ 1/1 เผชิญศึกยามค่ำคืน (Night Maneuvers) ผู้แปล Machu Pichu Painter Of The Wind : Of Ink And Song (Fanfiction) Conception date 11211.09K Finalized date 10812.09K Author : Obsidian Gryphon [HL Lee] ลิงค์ต้นฉบับนะคะ http://obsidiangryphongold.homestead.com/Painter-Of-The-Wind-Fanfiction-Unwritten-.html "ภาพวาดและเสียงพิณ" *** นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นโดยใช้พื้นฐานจากละครดังอิงประวัติศาสตร์เกาหลีปี 2008 ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายชื่อดังที่แต่งโดยลีจองมยอง หมายเหตุ นิยายแฟนฟิคฉบับนี้ แต่งขึ้นสำหรับแฟนคลับซินยุนบกและจองฮยางโดยเฉพาะ ดังนั้นเนื้อหาบางส่วนจึงอาจไม่สมเหตุผลอยู่บ้างหากยึดหลักความเป็นจริง ในนิยายเรื่องนี้ ยุนบกจะถูกเรียกสรรพนามว่า เขา เป็นหลัก PS: เนื่องจากเป็นการแปลครั้งแรกในชีวิต หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอคอมเม้นท์ให้กำลังใจทีมงานแปลทุกคนด้วยนะคะ Machu Pichu ตอนไหนใครแปลก็จะลงชื่อคนนั้นไว้นะคะ Won won เผชิญศึกยามค่ำคืน (Night Maneuvers) ขณะที่ความมืดค่อยๆ ครอบคลุมท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังเร่งรีบฝีเท้าเดินตามเส้นทางลาดขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เขาหยุดเดินและยืนพิงไม้พลองพลางชะเง้อตัวมองไปข้างหน้า พยายามคาดคะเนว่ายังเหลือหนทางอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงจุดหมาย เฮ้อ! ช่างดูอีกยาวไกลนัก เขาถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขามีทางเลือกเพียงสองทาง คือ เดินต่อไปท่ามกลางความมืด หรือ นอนร่วมกับสัตว์หากินกลางคืนอยู่แถวนี้ แต่การเดินต่อไปดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะอย่างไรเขาก็ยังมีแสงจันทร์อยู่เป็นเพื่อน เฮ้อ! เขาถอนหายใจอีกครั้ง ขยับเท้าที่ปวดเดินต่อไป แล้วเขาก็ได้ยินเสียงร้องแสบแก้วหูแว่วมา เสียงนกฮูกรึ เขาคิดในใจ นี่เป็นลางดีหรือลางร้ายกันแน่นะ เขาเม้มปากจนบูดเบี้ยว แล้วเขาได้ยินเสียงหอนแหลมมาอีกครั้ง คราวนี้เขาหยุดกึกนิ่งอยู่กับที่ เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ถ้ามีสัตว์ป่าอยู่แถวนี้จริง ทางที่ดีเขาควรจะระวังตัวไว้ก่อน ทันใดนั้น เขาก็เริ่มออกวิ่งพาตัวเองอันตรธานห่างหายจากเส้นทางเดิน " วิ่งหนีไปเร็วเข้า! พวกเจ้ารีบหนีไป!" ยองจุนตะโกนบอกหญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังเขา พลางพยายามต่อสู้สกัดกั้นโจรสองคนที่จะเข้ามาทำร้ายอย่างเต็มกำลัง เขาเหวี่ยงคบเพลิงไปมาไม่ให้โจรเข้ามาประชิดตัวได้ กระทั่งพวกโจรต้องถอยกลับไปตั้งหลัก แต่ก็ยังจ้องมองมาทางเขาอย่างระแวดระวัง แล้วยังมีโจรอีกคนหนึ่งรวมเป็นสามคนล้อมอยู่รอบตัวเขา เขาก็ไม่กล้าแม้จะหันไปมองด้านหลัง รู้ดีว่า โจรทั้งสามคนสามารถเอาชนะเขาได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย เขามองปราดไปที่คนรับใช้ที่ล้มระเนระนาดอยู่ที่พื้นอย่างสิ้นหวัง ปรารถนาให้พวกเขาได้สตินัก จะได้มาร่วมกันต่อสู้ต่อต้านโจรร้าย คยองมีดึงแขนสาวใช้อยากให้นางเลิกร้องไห้คร่ำครวญเสียที หากมีโอกาสจะได้เข้าไปช่วยเหลือยองจุนได้อย่างทันท่วงที นางสงสัยว่าคนของนางจะไปไกลสักแค่ไหน หากมีโจรไล่ตามหลัง แต่นางก็เดาว่า พวกเขาจะต้องสับสนและวิตกกังวลกับหญิงสาว 2 คน ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แน่ๆ คยองมีจับตาดูโจรคนที่สามที่อยู่เยื้องมาทางด้านหลังยองจุน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะทำร้ายเขาจากทางด้านหลังได้โดยง่าย นางกำลังโกรธจนหน้ามืด จึงไม่สามารถยืนนิ่งเฉย ดูญาติของนางต่อสู้กับโจรอย่างจนตรอกคนเดียวได้ นางรู้ดีว่าเป็นการโง่เขลาที่จะทำเช่นนี้ แต่แล้วนางก็อดใจไว้ไม่ไหวเอื้อมมือไปหยิบข้าวของที่หล่นเกลื่อนอยู่ข้างตัว แล้วปาไปยังโจรคนที่สาม ของปลิวไปกระแทกไหล่โจรเข้าอย่างจัง จนทำให้เขาเบี่ยงเบนความสนใจมาที่คยองมี โจรส่งเสียงด่าออกมาอย่างเกรี้ยวกราด โกรธที่นางเข้ามาขัดขวาง เขากระโจนพุ่งตัวโถมเข้ามาหานาง พร้อมกับเงื้อไม้ในมือขึ้น นางจ้องมองเขากลับอย่างท้าทาย สาวใช้กรีดร้องเสียงหลงออกมาด้วยความหวาดกลัวเมื่อไม้ในมือโจรกำลังจะฟาดลงมาที่คุณหนูของนาง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงตะโกน และเห็นเงาดำแวบ พุ่งตรงเข้ามาขวางระหว่างคยองมีและโจร นางได้ยินเสียงเหมือนไม้คู่หนึ่งทุบลงมาดัง พลั่ก พร้อมๆ กับโจรที่กำลังจะทำร้ายนาง ลงไปกองสลบแน่นิ่งอยู่ที่พื้น นางถลึงตามองเหตุการณ์ด้วยความประหลาดใจแล้วจึงเงยหน้าขึ้น ตอนนี้สิ่งที่เห็นไม่ใช่เงาดำมืดอีกแล้ว หากเป็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ถือไม้พลองในท่าเตรียมพร้อม ยองจุนได้ยินเสียงร้องของสาวใช้ เขา จึงเผลอตัวหันหลังกลับไปมอง ทันใดนั้นเองโจรคนหนึ่งก็ฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปชกที่หน้าท้องเขาอย่างจัง สร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างมาก เขารู้สึกโกรธตัวเองที่พลาดไป จึงเหวี่ยงคบเพลิงไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อป้องกันไม่ให้พวกโจรเข้ามาใกล้ได้อีก ชายหนุ่มที่ไม่ทราบว่ามาจากที่ใดที่เพิ่งจัดการโจรคนที่สามได้อย่างรวดเร็วนั้น ตอนนี้ขยับย้ายตัวมาอยู่เคียงข้างเขาแล้ว ยองจุนรู้สึกขอบคุณและดีใจมากสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้ ตอนนี้เขาและชายหนุ่มเสมือนเป็นพวกเดียวกันแล้ว พวกโจรจับตาดูพวกเขาอย่างไม่แน่ใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ยองจุนและชายนิรนามส่งสัญญาณให้กัน แล้วก็พุ่งตัวไปจัดการโจรสองคนที่ยังเหลือพร้อมกัน โจรที่อยู่ตรงข้ามยองจุนกรีดร้องออกมา หลังจากโดนคบไฟฟาดเข้าที่แขนอย่างแรง เขาทิ้งกระบองลงและรีบเอามือไปกุมแขนที่หักไว้ ยองจุนหันกลับไปเพื่อช่วยเหลือหนุ่มนิรนาม แต่ก็พบว่าไม่จำเป็น เสียแล้ว เพราะโจรคนสุดท้ายลงไปสิ้นสติอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ชายแปลกหน้ากำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ โจร เพื่อตรวจจังหวะการเต้นของชีพจร เมื่อพอใจแล้วเขาจึงลุกขึ้นยืน ยองจุนแปลกใจมากเมื่อพบว่าชายนิรนามผู้มีรูปร่างผอมบางผู้นี้สามารถจัดการโจรสองคนได้อย่างง่ายดาย "ขอบพระคุณท่านมากสำหรับความช่วยเหลือ" ทันใดยองจุนก็นึกถึงมารยาททางสังคมที่ดีขึ้นมาได้ เพิ่งตระหนักว่าตนเองกำลังทำตัวเปิ่นไร้มารยาท จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า ไม่ทราบท่านมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร "ท่านไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าก็แค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น" ชายหนุ่มพูด "ข้าชื่อ ซอยุน พวกท่านกำลังจะไปวัดใช่หรือไม่ " "คุณชายซอ ให้ข้าขอบคุณท่านสักพันครั้งก็ไม่สามารถทดแทนบุญคุณในครั้งนี้ได้เลย" ยองจุนโค้งคำนับ "ข้าชื่อ ฮาน ยองจุน ข้ามาพร้อมกับญาติของข้า " เขาหันไปทางคยองมีที่ยังคงนั่งเหม่อลอยอยู่กับพื้น พวกเรากำลังจะไปบริจาคของให้วัดตามที่ได้ทำมาทุกปี ก่อนที่จะถูกโจรพวกนี้ดักปล้น" ยุนบกมองไปยังเกี้ยวที่ล้มคว่ำบนพื้น พร้อมด้วยข้าวของที่ตกหล่นกระจายเกลื่อนกลาดตามทางเดิน และพยักหน้าอย่างเข้าใจเหตุการณ์ "สองคนนั้นเป็นคนแบกเกี้ยวของพวกท่านหรือ" ยุนบกชี้ไปที่ร่างชายสองคนที่อยู่ข้างๆเกี้ยว "ใช่ พวกเขาคือคนแบกเกี้ยวของข้าเอง พวกโจรเข้ามาลอบทำร้ายโดยไม่ทันตั้งตัว พวกเขาจึงถูกโจรทำร้ายจนหมดสติไป ทิ้งให้ข้าต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวกับโจรทั้งสาม " "งั้นข้าขอตัวไปจะดูพวกเขาสักหน่อย ส่วนท่านควรไปดูอาการญาติของท่านน่าจะเป็นการดีกว่า " ยองจุนเดินไปหาญาติของเขา ขณะเดียวกับที่ยุนบกไปตรวจดูคนแบกเกี้ยวที่ยังหมดสติอยู่ ส่วนสาวใช้ยังคงไม่หยุดร้องไห้ฟูมฟาย "เจ้ารู้ตัวว่าทำอะไรลงไปไม๊ คยองมี " ยองจุนต่อว่า "เจ้าควรจะหนีไป ตอนที่ข้าบอกให้เจ้าหนี " "อะไรนะ จะให้ข้าหนีไป แล้วทิ้งให้ท่านสนุกอยู่คนเดียวเช่นนั้นรึ" คยองมีโต้ตอบยองจุนกลับไป "ฮยอนซุก เจ้าเลิกร้องไห้ได้แล้ว ตอนนี้เจ้าปลอดภัยแล้ว " คยองมีพยายามปลอบคนรับใช้เธออย่างอ่อนโยน โดยหวังจะให้นางหายจากอาการหวาดกลัว ยองจุนเงยหน้าขึ้นมองยุนบกที่กลับมาพร้อมคนแบกเกี้ยวสองคนของเขา ความจริงพวกเขาได้สติมาพักใหญ่แล้วแต่แกล้งทำเป็นสลบอยู่กับพื้นเพราะความขี้ขลาด และเพิ่งจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อยุนบกเดินเข้าไปหา จึงยอมลุกขึ้นยืน "ญาติของท่านปลอดภัยดีไหม" ยุนบกถามอย่างห่วงใย เพราะเห็นว่าเธอยังคงนั่งอยู่บนพื้น คยองมีหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเขาถามแต่เขามองหน้านางไม่เห็นในความมืด "ข้าสบายดีค่ะ เพียงต้องการพักสักเล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ" "คนรับใช้ทั้งสองคนของท่านโดนตีเข้าที่ศีรษะอย่างจัง แต่ข้าคิดว่าพวกเขายังพอจะเดินทางไปต่อได้ แต่พรุ่งนี้ควรให้พวกเขาพักผ่อนให้เต็มที่สักวันหนึ่งเถอะ " ยุนบกหันไปสนใจโจรแขนหักที่นอนตัวงอเป็นกุ้ง อยู่ที่พื้น ท่าทางเขาจะเจ็บแขนไม่น้อยแต่ไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมาสักแอะ ยุนบกรู้สึกเห็นใจเมื่อพิจารณาบาดแผลอย่างเอาใจใส่ แขนโจรหักอย่างไม่ต้องสงสัย เขามองไปรอบๆ แล้วผลุนผลันออกไปยังทางเดินก่อนที่จะกลับมาพร้อมกิ่งไม้สั้นเกลี้ยงเกลา สำหรับทำเฝือก เขามัดกิ่งไม้เข้ากับแขนที่หักของโจรอย่างรวดเร็วโดยใช้เศษผ้าที่ฉีกมาจากเสื้อผ้าของพวกโจรนั่นเอง พอเขาทำเสร็จ เขาจึงเงยหน้ามาเจอสายตาของทุกคนที่ต่างจ้องมองมาที่เขาด้วยความชื่นชมพึงพอใจ "พวกท่านยังต้องการจะไปวัดหรือไม่" ยุนบกถามอย่างจริงจัง "พวกเราควรพาโจรสามคนนี้ไปกับพวกเราด้วย " "ห๊า ว่าไงนะ!! ทำไมต้องเอาพวกมันไปด้วยล่ะ" คยองมีถามด้วยความโกรธ ขณะที่ลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากกระโปรง "เขาพูดถูกแล้ว เราควรจะเอาพวกโจรไปด้วย" ยองจุนเข้าใจว่ายุนบกหมายถึงอะไร แม้ว่าโจรสามคนนี้ตั้งใจจะทำร้ายเขา แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีบาดแผลที่ควรจะได้รับการรักษา "เจ้าและเจ้าไปมัดโจรอีกสองคนซะ แล้วก็ไปเอาเกี้ยวมาที่นี่ และเก็บข้าวของทั้งหมดให้เรียบร้อย " "ลุกขึ้นไหวหรือไม่" ยุนบกถามโจรที่แขนหัก. "ดะ ได้ ขอรับ ข..ขอบคุณ...ท่าน," โจรตอบกลับด้วยความซาบซึ้งถึงความช่วยเหลือของยุนบก เขาก้มหน้าลงไปมองที่เท้า ละอายใจเกินกว่าจะมองหน้ายุนบกคนที่ช่วยเหลือเขาแทนที่จะลงโทษเขา.
โดย
สุเกียง
พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 10:58 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
..ปีชง 2553 และวิธีแก้ชง เสริมดวงชะตา.. http://www.turtlebiz.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538964492&Ntype=1
โดย
สุเกียง
จันทร์ ม.ค. 04, 2010 8:14 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
ต้องขออภัยข้อความข้างบนที่กดเซฟลิ้งค์มาแล้วกลายเป็นข้อความขายของไป งงเหมือนกัน ที่นี่ไม่มีรายการแก้ไขข้อความ เลยกดผิดกดถูกตัวอักษรฝรั่ง เลยออกมา3ข้อความไปเลย ขออภัยด้วยค่ะ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 10:51 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 10:44 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ปีใหม่นี้ขอให้เพื่อนๆทุกท่าน จงมีสุขภาพแข็งแรงๆ มั่งมีศรีสุข คิดสิ่งใดขอให้สมดังปรารถนา ร่ำรวยยิ่งๆขึ้น ตลอดปี2553ค่ะ **..ปีชง ปี2553 และวิธีแก้ชง เสริมดวงชะตา..** credit by http://www.turtlebiz.com/index.php?lay= ... 92&Ntype=1 http://www.turtlebiz.com/index.php?lay= ... 16&Ntype=1
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 10:42 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ปีใหม่นี้ขอให้เพื่อนๆสมาชิกสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย TCHA ทุกท่าน จงมีสุขภาพแข็งแรงๆ มั่งมีศรีสุข คิดสิ่งใดขอให้สมดังปรารถนา ร่ำรวยยิ่งๆขึ้น ตลอดปี2553ค่ะ **..ปีชง ปี2553 และวิธีแก้ชง เสริมดวงชะตา..** credit by http://www.turtlebiz.com/index.php?lay= ... 92&Ntype=1 http://www.turtlebiz.com/index.php?lay= ... 16&Ntype=1
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2010 10:40 pm
0
0
.**..ซินยุนบกภาค 2 ผู้เขียน FengMiYiGe ผู้แปล Won won..**
.ยิ่งอ่านยิ่งประทับใจในฝีไม้ลายมือของท่านช่างแปล วอนวอน จริงๆ อดไม่ได้ที่จะไปแชร์เรื่องซินยุนบก ภาค 2 ที่แต่งโดยแฟนคลับชาวจีน แถมได้คนแปลที่สุดยอดที่สุดมาแปล กลายเป็นได้เนื้อหาที่ชวนอ่าน เป็นการแปลที่สมบูรณ์สนุกสนาน ชวนติดตามมากๆ และที่ตลกมากที่สุด คือ แฟนคลับแต่ละคน น่ารักและเป็นกันเอง คุยสนุกสนาน อ่านแล้วเพลินดี ไม่คิดว่า จะเรียกร้องความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนอ่านได้มากมายเช่นนี้ ขอยกนิ้วให้เลย ว่า ช่างแปล วอนวอน นั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ โดย: สุเกียง IP: 125.24.124.139 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:21:44:37 น. .ตอนที่ 16 ชองฮยางฉลาด จริงๆ มีจิตวิทยาในการโน้มน้าวสูงมากๆ คนแต่งเรื่องนี้ เก็บความละเอียดอ่อนในการสื่อตัวละครได้สมจริง แถมเข้าใจและป้อนความรู้สึกในวัยเด็ก จะต้องเป็นอย่างนี้ อ่านแล้วติดและคล้อยตามไปด้วย ตอนที่ 16 คนแต่งบทชองฮยาง เฉลียวฉลาด ทำให้คนอ่านมองตัวละครโดดเด่น มีไหวพริบดีเลิศสง่างามไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว ไม่แปลกใจเลยว่า แค่บทที่คนแต่งๆเติมเดินเรื่อง จะสอดแทรกสิ่งเล็กๆน้อยๆทุกๆบทมานั้น ให้มุมมองแง่คิดหลายๆอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด คนแต่งเรื่องนี้เขาเก่งนะ บวกคำแปลที่เรียบเรียงสละสลวยนุ่มนวลของช่างแปล วอนวอน นำมาประกอบเป็นถ้อยความนั้น อ่านแล้วไม่ติดขัด ออกจะลึกซึ้งและมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลไปกับการเดินเรื่อง ขอชื่นชมจากใจจริงนะคะ โดย: สุเกียง IP: 125.24.124.139 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:22:03:23 น.
โดย
สุเกียง
จันทร์ ธ.ค. 28, 2009 10:09 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
ขอบคุณ คุณ naris คุณ earthcu เช่นกันค่ะ ดีใจมากๆที่เพื่อนๆแวะมาอ่านกระทู้ค่ะ ขอบคุณ คุณ Demigod ค่ะ เป็นฟอร์เวิอร์คเมล์ที่เขาส่งมาให้อ่านอีกต่อหนึ่ง ส่งมาเยอะมากๆ อ่านแล้วไม่เห็นด้วยก็คัททิ้งไปไม่ได้นำมาลงให้เพื่อนๆอ่านก็เยอะเหมือนกัน บางเรื่องราวก็เว่อร์ๆ อ่านไปขำไปก็มี แลที่พอใช้ได้จะลบทิ้งก็เสียดาย เลยเอามาให้อ่านอีกต่อหนึ่ง ทุกๆเรื่องราวอ่านแล้วต้องพิจารณา อย่าเชื่อตัวอักษรที่สื่อสาร ไม่มีที่มาที่ไป เอาแค่ผ่านตาเรา แล้ววิเคราะห์กลั่นกรองจากความรู้สึกของเราอีกต่อหนึ่ง อ่านคลายเครียด อ่านเพลินๆกับสิ่งที่เขาป้อนมาทางสายตา ลับสมองไปในตัว นานๆเข้าไปอ่านเมล์ที ก็มาแชร์สิ่งที่อ่านให้เพื่อนๆอ่านกัน ขยันนั้นไม่ใช่ แต่เป็นเพราะเครียด จึงหาทางคลายเครียดด้วยการโพสต์กระทู้ ให้ลืมเวลา ซึ่งก็นั่งแช่จนลืมเวลาได้จริงๆ เพราะทุกวันนี้การลงทุนทำให้ใจไม่ได้พักผ่อน เหนื่อย ท้อแท้ จึงต้องหาหลายๆสิ่งมาคลายเครียดกัน ดิฉันออกกำลังกายอย่างอื่นไม่ถูกกะนิสัยตัวเอง มีแต่ปั่นจักรยานที่ถูกใจที่สุด ก็ดีใจที่ค้นพบสิ่งที่ตัวเองทำได้ แบบฉันก็มีความฝันกะเขาด้วย.. แม้จะ..ผิดพลาดกับการลงทุน แต่..ก็ไม่ได้สิ้นหวังจนไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพ ต้องมีสุขภาพที่ดีจึงจะเอาชนะทุกสิ่งที่ทุกข์ยากให้ผ่านไปได้.. ซึ่งนักปั่นแต่ละคนก็มีความฝันของตัว เขาทำสำเร็จ แลเป็นความภาคภูมิใจ ที่สานฝันให้เป็นจริงได้ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเหล่านั้นจริงๆ http://www.thaibikeworld.com/thaiversion/gallery.htm# http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=53042 ใครอ่าน ปั่นข้ามฝัน..2,000 วันรอบโลก จบครบ4เล่มแล้วบ้างครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=59&t=44531 >>>เชียงของ-หลวงน้ำทา-ซาปา-ปักกิ่ง/Thank you Chinese<<< http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=27&t=3836
โดย
สุเกียง
พฤหัสฯ. เม.ย. 09, 2009 4:36 am
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จ ะรู้ได้ มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมใน ลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ 2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ 3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง 4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง 5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ 8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย 9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน 10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที 11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร 12. มะเร็งทรวงอก - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่ 13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้ 14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย 15. มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด ทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน วิธีรักษา ***ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข **อ่ะ ส่งต่อแล้วน้า..** ปล..ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาดูภาพและข้อความของ FW:เมล์ซึ่งไม่ได้อ่านมานาน เลยนำมาลงให้เพื่อนๆอ่าน
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:08 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
FW: มีประโยชน์นะเนี่ย *^_^* Monday, March 16, 2009 1:04 AM ช่วยส่งต่อก็ได้บุญแล้ว มีญาติที่เป็นเองแล้วคุณจะเข้าใจ! สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อ ' ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ' เช่น 1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง 2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว 3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด 4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี 5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง 6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง 7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป 8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้ 9.. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้ 10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้ 11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี 12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย 13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญ ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป. 14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี 15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน 16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้ 17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก 18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี 'โมโรอันแซตเทอเรต' 19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี 20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:07 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
มันกุ้ง มันปู คือ ตับ ทำหน้าที่เหมือนตับของสัตว์อื่นๆ คือ กรองสารพิษและเชื้อโรคออกจากกระแสเลือด สร้างน้ำย่อย จึงเป็นที่รวมของสารพิษต่างๆ (หน้าตาไม่เห็นจะเหมือนตับมนุษย์หรือตับไก่ตรงไหน) เวลาตรวจหาสารโลหะหนักหรือสารพิษต่างๆ จึงใช้ส่วนหัวที่มีมันไปตรวจ และโดยส่วนตัวมันกุ้งแล้ว ยังอุดมไปด้วยคลอเรสเตอรอล. ดังนั้นอาจพูดได้ว่าเป็นแหล่งรวมโรคและสารพิษของกุ้งก็ว่าได้ครับ ^ ^ การผ่านความร้อนในกระบวนการทำอาหาร ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ก็จริง แต่ว่าพวกสารพิษอย่างโลหะหนักล่ะ ? สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำจืด สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง ในวันและเวลาราชการ หรือโทรศัพท์ 0-2579-4122, 0-2579-6803 โทรสาร 0-2561-3993 E-mail :
[email protected]
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:06 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
FW: ระวังกินกุ้งกับวิตามิน CFriday, March 20, 2009 7:37 AM เสียเวลาอ่านนิดนึ่งนะ...อันตรายทีไม่มีใครรู้...มาก่อน ไต้หวัน-- -- หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน " ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า" ศาสตราจารย์ฟันธง ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ "มันฆ่า " แล้วสารหนูมาจากไหน ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตายกินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเอง พิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี ต้องงดกินอาหารประเภทกุ้ง เพื่อความไม่ประมาท
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:05 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
FW: เคยเห็นหมานอนละเมอมั้ย Tuesday, March 24, 2009 3:40 AM The Sleep Walking Dog.wmv (2048KB) ลิ้งค์นี้ดเข้าเวปหนังดีไปดูคลิปขำๆมีเยอะเลยไม่ต้องรอโหลดนานตลกดีคลาดเครียด ดูเวลาว่างๆนะ ระวะงจะตกงาน 555 สุดยอดเลย http://www.nangdee.com/joke/
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:04 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
เขามีวิธีคิด ' เท่ๆ ' แบบผมคิดไม่ได้มากมาย เป็นต้นว่า สุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์ และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลา เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้ 6 เดือนสุดท้ายของชีวิต ต้องนอนโรงพยาบาล 3 วัน นอนบ้าน 4 วัน สลับกันไป เวลาลูกหลาน หรือเพื่อนของลูก รวมทั้งผมด้วย ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาทีที่พูด มีแต่เรื่องสนุกสนาน เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคนพูดตรงกันว่า ' คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม ' พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่า ทำไมคุยแต่เรื่องตลก เขาตอบว่า ' ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก ' เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คน ไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้ หรืออยู่บนรถแท็กซี่ บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้าน เพราะยังคุยไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์ ! 4 เดือนสุดท้ายของชีวิต แพทย์ที่รักษาโรคไต มาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์น จนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนก แนะนำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรงแล้วค่อยกลับบ้าน แต่อยู่ได้ 4 วันเขาวิงวอนหมอว่า ขอกลับบ้าน หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า ' ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง คุณหมอไม่รู้หรอกว่า คนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน ' หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง 1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือกะพริบตา แต่แพทย์บอกว่า สมองของเขายังดีมาก เวลาลูก-เมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า ' ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที ' เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง ! เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง 10 วันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า ' พ่อสู้นะ ' เขาไม่กะพริบตาซะแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ 2 เดือน เคยตอบว่า ' สู้ ' เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า ' คุณลุงแกสู้จริงๆ ' ตอนที่วางดอกไม้จันทน์ ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อ 4 เดือนก่อนว่า ' โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย ' ' แง่คิดดีๆ จากชายชราที่จากไป ' สอนให้เรารู้ว่า... เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์ และมันสมองมหัศจรรย์ที่จะสามารถเรียนรู้ แยกแยะเรื่องดีๆ และสิ่งร้ายๆในชีวิต จงใช้โอกาสดีๆที่ร่างกายและจิตใจของเรา ยังทำอะไรๆได้อย่างที่สมองสั่ง จงเรียนรู้ และสร้างประโยชน์สุขให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างพอเพียง และดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางเศรษฐกิจ หากทุกๆครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม เราพลาด...อาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที ..... แต่ข้อให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ถ้าเราเรียนรู้...ก็จะทำให้เราพบว่า การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป : พิษณุ นิลกลัด สุเกียง โพสต์: 386 ลงทะเบียนเมื่อ: พ. ก.ค. 16, 2008 2:18 pm ข้อความส่วนตัว
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:04 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป (ดีมั่กๆถ้ามีเวลาอยากให้อ่านกัน) Wednesday, March 25, 2009 11:52 AM สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548 ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปี ที่ผมรู้จักเขามายาวนาน 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วัน เขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า สวด 3 วันแล้วเผา ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้ เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวด 3 วันเผา งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คนคือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน 3 คนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น ทั้ง 3 คนบอกว่า เกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกว่า เสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน หลังฌาปนกิจ พระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่า เจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระอภิธรรมแล้วหรือยัง พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตางค์ ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทย จนเกษียณอายุที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่ด้วยความที่รักและศรัทธาอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อนแม้กระทั่งวันตาย ผมสนิทกับเขา เพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบไม้ เมืองเดิม ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอ และวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้ เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้ พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าว ก็เลยถูกชะตา และให้ความเมตตา การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขา ตามวาระโอกาสตลอด 30 ปี ทำให้ได้แง่คิดดีๆ มาใช้ในการดำรงชีวิต วันหนึ่ง เขารู้ว่า ขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท เขาปลอบใจผมว่า ' ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา แต่มันอาจเป็นของจำเป็น สำหรับลูกเมียครอบครัวเขา คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์ '
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:03 pm
0
0
**..FW: ให้กำลังใจดีนะ..FW: (Cyclamen)..ดอกไม้สวย..**
**....FW: ให้กำลังใจดีนะ....** FW: ให้กำลังใจดีนะ Friday, March 27, 2009 5:30 AM http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7696399/I7696399.html ....***...FW: (Cyclamen)....ดอกไม้สวย ...*** http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7696928/I7696928.html http://www.thaicycling.com/board/viewtopic.php?f=7&t=1131&st=0&sk=t&sd=a
โดย
สุเกียง
จันทร์ เม.ย. 06, 2009 4:02 pm
0
0
***....FW: ๏~* ทำดี ดีกว่าขอพร *~๏....***
ขอขอบคุณ คุณ san และเพื่อนๆที่แวะมาอ่านกระทู้ค่ะ ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านมีจิตใจเข้มแข็งจริงๆค่ะ คำสอนของท่านมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่ภายใน หากอ่านแล้วนำมาคิด ถูกต้องทุกประการค่ะ..
โดย
สุเกียง
พุธ ก.พ. 25, 2009 5:32 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
เด็กถูกลักพาตัว น้องไอซ์ อายุ 4-5 เดือน Wednesday, February 18, 2009 8:09 PM น้องไอซ์อายุประมารณ4-5เดือน ผิวขาว น่ารัก ได้ถูกลักพาตัวหายไปคะ > > เหตุเกิดเมื่อวันที่22ม.ค.52ที่ชายหาดพัทยาคะ > > ระหว่างที่ครอบครัวน้องไอซ์ไปพักผ่อนริมทะเล ปรากฏว่าเด็กได้หายตัวไปคะ > > ตอนนี้พ่อ แม่และญาติๆน้องไอซ์ กำลังรอความหวังอยู่นะคะ น่าสงสารมาก > > หากใครพบเด็กเหมือนในรูปที่แนบมา โปรดแจ้งเบาะตำรวจ191 > > หรือ สภ.เมืองพัทยา 038-420802-5 > > รบกวนช่วยบอกต่อหรือส่งต่อด้วยนะคะ คิดเสียว่าเป็นช่วยเหลือน้องไอซ์คะ >
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:04 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
เค้าสอนกันอย่างนี้ จริงเหรอ? Friday, September 5, 2008 9:21 AM > > > > ดช.ปัญญาเป็นเด็กที่เกิดในเมืองแต่ย้ายไปอยู่ในชนบท > > วันหนึ่งไปซื้อแพะจากชาวนาในราคา 1000 บาท > > ซึ่งชาวนายินดีที่จะส่งมอบแพะในวันรุ่งขึ้น > > พอวันรุ่งขึ้น ชาวนาก็ไปหาดช.ปัญญาแล้วบอกว่า > > 'ข่าวร้ายหนูเพราะแพะเพิ่งตายไปเมื่อคืนที่แล้วเอง' > > ดช.ปัญญา ก็บอกว่า 'ไม่เป็นไร ถ้าเช่นนั้นคืนเงินให้ผมก็แล้วกัน' > > 'โอ เสียใจด้วยจริงๆ แต่ฉันใช้เงินนั่นหมดไปแล้ว' ชาวนาพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ > > 'ไม่เป็นไร ถ้างั้นเอาแพะตัวนั้นมาให้ฉัน' > > 'หนูจะเอาแพะตายไปทำอะไร' ชาวนาถามด้วยความฉงน > > 'ฉันจะเอาไปจับฉลากขาย' > > 'จะไปจับฉลากแพะที่ตายได้อย่างไร ใครจะไปซื้อ' > > 'ได้ซิ คอยดูละกัน' > > จากนั้นชาวนาก็มอบแพะที่ตายให้ดช.ปัญญาไป > > หนึ่งเดือนผ่านไป......ชาวนาพบกับดช.ปัญญาจึงถามว่าตกล งเอาแพะที่ตายไปทำอะไร > > 'ฉันก็ทำฉลาก 500 ใบ ขายใบละ 10 บาท > > แล้วบอกว่าใครดวงดีจับฉลากได้ก็ได้แพะไปเลย 1 ตัว' > > 'ฉันได้เงินมา 5000 บาท ได้กำไรหลังจากหักที่จ่ายให้ลุงชาวนาไปแล้ว 3990 บาท' > > 'แล้วไม่มีคนโวยวายหรือ(เพราะแพะตายแล้ว)' ชาวนาถามด้วยความสงสัย > > 'ก็มี มีคนเดียวคือคนที่จับฉลากได้ และฉันก็แค่คืนเงินค่าฉลากจำนวน 10 บาทให้คนๆนั้นไป' > > ในเรื่องบอกว่า > > ดช.ปัญญาต่อมาเติบโตและเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก...... > > เรื่องราวแบบนี้เป็นสิ่งที่คนอินเดียสอนกัน........ที่สำคัญก็คือการแก้ไขปัญหาและแก้ไขสถานการณ์ที่ > > เผชิญหน้าหรือคิดคำตอบโจทย์ที่ยากๆ ซึ่งคนอินเดียจะเก่งในเรื่องแบบนี้มาก
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:03 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
ความสุขที่มองข้าม Monday, September 8, 2008 8:28 PM ความสุขที่ถูกมองข้าม....พระไพศาล วิสาโล ความสุขที่ถูกมองข้าม (พระไพศาล วิสาโล) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7460125/Y7460125.html
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:02 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
วุ้นในลูกตาเสื่อม คนใช้คอมพิวเตอร์ต้องอ่าน Friday, October 3, 2008 11:43 AM วุ้นในลูกตาเสื่อม คนใช้คอมพิวเตอร์ต้องอ่าน? โรควุ้นในลูกตาเสื่อม คนที่เล่นคอมพ์เกือบทุกคน เป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ตอนนี้ในประเทศไทย มีคนเป็นโรคนี้ถึง 14 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ (นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้ คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นจะมากขนาดไหน?) อาการก็คือ ! คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนหยากใย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก็คือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่?) สาเหตุของโรคนี้คือ ! 'การใช้สายตามากเกินไป' (เล่นคอม) แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ที่สายตามากๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย ! ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ เล่นคอม (คุณฟังไม่ผิดหรอก เดี๋ยวนี้คนเป็นโรค นี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ) ทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก? ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต, เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ, อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอนเพราะขอบของตัว หนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอนกว่า กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่ แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่คมชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส ( เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป ) (จอ LCD เราก็ต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือน อยู่บนแผ่นกระดาษ) การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน บวกกับ ลักษณะการอ่านหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง เพื่อที่จะอ่านบรรทัดด้านล่างได้หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้ ไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ ที่แขนกับคอเราจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู ) มันจึง ทำให้ปวดตามากๆ เพราะจะต้องลากลูกตาเลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว ว่ากดตำแหน่งบนแป้นพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ คุณจะปวดตามากๆ ตัวอย่างเช่นกรณีเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน ! สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดใช้โปรแกรม word ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีขาวสว่าง (ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือสีดำบนพื้นสีขาว) สีพื้นที่สว่างจ้านี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็คนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อย ๆ มักจะมีการปรับแสงสว่าง เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ ภาพแสดงของจอประสาทตาที่หลุดลอกออกมาแยกชั้นออกจากส่วนหลังของลูกตา สรุปก็คือ 1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย' 2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ทำให้สายตาเสีย 3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา 'ทำให้สายตาเสีย ' 4. การปรับจอภาพที่! มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว 'ทำให้สายตาเสีย' (คล้ายๆ กับการเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน) 5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !! (จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!) เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว) ฃแต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกิน ระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง (ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา) ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร ที่ใช้ในการอ่านการเขียนทั่วไปจึงมีขนาด A4 ? คำตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดีกับการกวาดสายตามอง และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่าทำไมขนาดของจอคอมคุณที่ใช้ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง ส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวันนั้น จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดอาการรุนแรงเพราะกว่าจะรู้ตัวแล้วไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่า คุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:01 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนปีมะแม (แพะ) ส่วนใหญ่แล้วแพะเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะหงุดหงิดในเรื่องอดีต และ ไม่ค่อยจะกังวลในเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตสักเท่าไรนัก เป็นคนที่เกิดมาสบาย ๆ มักมีความสุขกับการพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ เดินทางสายกลางได้ดีไม่มีปัญหา มากกว่าที่จะแกร่งแย่งชิงดี หรือตะเกียกตะกายบ้าบอ คอแตกเพื่อให้ได้สิ่งที่เกินตัว มักชอบที่จะอยู่อย่างสบาย ๆ และสงบชอบใกล้ชิด ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นคนที่อ่อนไหว ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง เคารพกฎเกณฑ์ ซื่อตรง หัวโบราณ มีความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นมิตร มากกว่าที่จะคอยสร้างศัตรู เสียสละไม่ค่อยมีเล่ห์เหลี่ยมกับใคร และมักจะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะหนักหรือเบาแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน บางทีก็ต้องมานั่งแบกรับภาระหรือปัญหาของคนอื่นให้วิตกกังวลและคิดมากได้เหมือนกัน เนื่องจากเป็นคนที่มีจิตใจดีและห่วงใยเพื่อนหรือคนที่ตนรักมาก ๆ แต่ในบางคนก็อาจเป็นแพะที่ดุร้าย มองโลกในแง่ร้าย วิตกจริต เปราะบางรักอิสระ ชอบความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นจนนำความยุ่งยากมาสู่ชีวิตได้ (พวกแพะรับบาป) คนเกิดปีวอก (ลิง) ใครเกิดปีวอกมักมีอารมณ์จัน ชอบที่จะกระเซ้าเย้าแหย่ยีญวน กวนโทสะได้ตลอดเวลา มีจิตใจที่ดีงาม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม แต่ในบางทีก็หน้าชื่นอกตรม เป็นคนที่กระฉับกระเฉง ฉลาดหลักแหลม คิดเร็วทำเร็ว มีความสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างที่คนทั่วไปคาดไม่ถึง เจ้าเล่ห์แสนกลก็เท่านั้น แถมยังเจ้าคามคิดจอมวางแผนอีกต่างหาก อยากเรียนรู้ไปเสียทุกเรื่อง (สอดรู้ สอดเห็น) มีความรู้รอบตัว สามารถปรับตัว ควบคุมสถานการณ์ ยืดหยุ่นพลิกแพลงเอาตัวรอดและรู้จักฉกฉวยโอกาสให้เป็นผลประโยชน์ โดยไม่ใส่ใจใครก็ได้ด้วยเป็นคนที่มีชีวิตชีวาร่าเริง สดใส มองโลกในแง่ดี ชอบเสี่ยงชอบการแข่งขัน ชอบความท้าทายเพราะคามกล้าไม่กลัวใคร ลื่นไหลดั่งปรอท กล้าพูด กล้าคิด กล้าวิจารณ์คนอื่น และกล้าที่จะชมตัวเองอีกด้วย ชอบที่จะหาประสบการณ์ใหม่ตลอดเวลา แต่เอาแน่ไม่ค่อยได้ อารมณ์จะแปรปรวนได้ตลอดเวลา โดยธรรมชาติแล้วลิงจะค่อนข้างขี้เกียจและไม่ชอบทำงานหนักเกินไป และมักเปลี่ยนงานบ่อยและเร็ว เพราะไม่ค่อยชอบทำอะไรประจำซ้ำซาก คนปีระกา (ไก่) ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งอยู่แล้ว จึงเป็นคนที่พิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว หยุมหยิมจุกจิกละเอียดลออ เจ้าระเบียบไม่ว่าหญิงหรือชาย เป็นคนที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยหยุดนิ่งหรือเงียบ เหมือนมีไฟในตัว เป็นนักสื่อสารที่ดี ชอบแสดงความคิดเห็นและมีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าเมื่อใดมีความไม่มั่นใจขึ้นมาจะ กลายเป็นคนบ้า ร้อนรนทันที เป็นร่าเริงมีสีสันเป็นมิตรชอบอิสระ ชอบสะสมความรู้ ชอบเรียกร้องความสนใจ ชอบให้คนมารักและถูกห้อมล้อมด้วยผู้คน เป็นนักรักที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นจริงจังและคาดหวังมากในเรื่องความรัก ไก่สามารถทำงานหนักได้ไม่ย่อท้อมีไหวพริบเฉลียวฉลาดในการทำงาน ทำงานเก่ง กล้าตัดสินใจ กล้าพูด แต่ก็ชอบที่จะจิกกัด ประชดประชันเหน็บแหนม จนกลายเป็นพูดไม่เข้าหูคนไปซะอย่างนั้น แต่ก็นับว่าเป็นคนที่ปากกับใจมักตรงกันเสมอ มีความมานะอดทนเด็ดเดี่ยวแข็งแกร่งและแข็งกร้าวในบางครั้ง ชอบพึ่งลำแข้งตัวเองและชอบที่ไปแบกรับอุปการะ ปกป้อง ช่วยเหลือลูกน้องบริวาร คนที่ตนรักไว้ในปีกเสมอ คนปีจอ (สุนัข) คนปีนักษัตรนี้เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อคนที่ตัวรักกล้าเสียสละ และจะไม่ยอมทรยศใครก่อน แต่ถ้าโดนกระทำเมื่อไรล่ะก็ กัดไม่ปล่อยเหมือนกันนะจ๊ะ เป็นคนที่สามารถพูดได้ตลอดเวลา บริการได้ตลอดหรือมากไปจนคนรอบข้างรำคาญ แต่เกรงใจเพราะความน่ารักของพวกคนปีนี้นั่นเอง เลยต้องยอม ๆ ปีจอชอบเข้าสังคมแต่จะเป็นคนระมัดระมังตัวมาก ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ เป็นคนดีมีน้ำใจรักพวกพ้อง เป็นมิตรที่ดีที่สุด มีความสามารถในการเลือกคบคนโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็นพวกพ้องแล้วล่ะก็ จะยอมทุ่มเททำให้ทุกอย่าง พร้อมที่จะปกป้องคุ้มครองพวกเดียวกัน สามารถสู้ถวายชีวิตได้ (คนปีนักษัตรนี้ชีวิตดีไม่ดี อยู่ที่คนเลี้ยง พ่อแม่หรือคู่ครองสำคัญมาก) ความรักมักชอบแบบเป็นเพื่อนมากกว่าจะคบนาน เป็นคนเปิดเผยจริงใจตรงไปตรงมา ขยันขันแข็งมีความรับผิดชอบต่องานของตนและมีคุณธรรม เป็นคนใจกว้างไม่ค่อยเห็นแก่ตัว มักถูกเอาเปรียบได้ง่ายในบางครั้งก็เป็นคนปากไม่ดีขวานผ่าซาก ขี้หงุดหงิดง่าย มีความอิจฉา ริษยา หรือ กลายเป็นคนที่ดุร้ายได้เหมือนกัน ยกเว้นคนเลี้ยง คนที่มีบุญคุณ คนรักจะยอมละซื่อสัตย์อย่างยิ่ง คนปีกุน (หมู) หมูเป็นคนที่ใจดีใจอ่อน มองโลกในแงดี ห่วงใยคนอื่นมาก ชอบให้อภัยเพราะชอบความสงบและสันติ มีสามัญสำนึกและคุณธรรม ชอบเป็นคนกลางเป็นพวกนักการทูต มีมนุษยสัมพันธุ์ที่ดี ไว้ใจคนง่าย มีความฉลาดแต่ในบางครั้งก็ขาดความเฉลียว จึงมักถูกเอาเปรียบได้ง่าย ๆ เป็นคนที่รักบ้านรักครอบครัว เฮฮา สนุกสนานร่าเริงสามารถทำงานได้ทุกประเภท ขยันจนดูเหมือนงก เพื่อแสวงหาทุกข์อย่างมาปรนเปรอความสุขให้กับตนเอง ทำได้หมด แต่ในบางครั้งก็ทำอย่างมีอารมณ์ พูดจาโผงผางตรงตรงไปตรงมา พูดไม่ค่อยเพราะและมักมี ความสุขกับการกิน มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ชอบความเป็นธรรมชาติ แต่ต้องสุขสบาย และสะดวกสบาย หมูไม่ชอบเสี่ยง หมูจะมีความสุขเมื่อมีความรักและต้องการคู่ที่ดีด้วย (อยู่ที่คนเลี้ยง พ่อแม่ และ คู่ครอง) คือมักหวังอะไร ๆ จากคนอื่นมาก จนบางทีมากเกินไป หมูมีพรสวรรค์หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าเป็นเรื่องการตกแต่งบ้าน เพราะชอบอยู่บ้านมากกว่าตะลอน ๆ ออกไปข้างนอก หรือ การปรุงอาหาร เป็นชีวิตจิตใจเพราะเป็นคนมีความสุขกับการกินนั่นเองค่ะ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:59 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนปีเถาะ (กระต่าย) มักเป็นคนที่มีลักษณะเหมือนเป็นพวกผู้ดีรักสวยรักงามมีรสนิยมสูง ไม่ว่าผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย มีจิตใจที่อ่อนโยนใจดี อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนเงียบและจิตบริสุทธิ์ มีจิตใจอ่อนไหวขี้สงสารคน บางคนก็เจ้าน้ำตาไม่ชอบต่อสู้หรือขัดแย้งกับใคร เป็นคนมีคุณธรรมมากและขี้เกรงใจ ตามธรรมชาติกระต่ายก็อ่อนแออยู่แล้ว ตกใจตายเลยก็มี เพราะฉะนั้นพรสวรรค์ของพวกเขาก็คือ ความเฉลียวฉลาดในการเจรจาต่อรอง มีวาจาไพเราะนุ่มนวล สามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ สนุกสนานร่าเริง มีลางสังหรณ์ดี มีประสาทสัมผัสไวกว่าคนรอบข้าง รู้จักเอาตัวรอด หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเยี่ยม แต่ก็ฉลาดพอที่จะไม่เอาตัวเองเข้าไปเป็นภาระหรือผูกมัดกับใครมากจนเกินไป เพราะเป็นคนที่มักจะเจ็บปวดง่ายเลยทำให้ในบางคนดูเป็นคนหยิ่งยโสไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่ก็มีเพื่อนมาก และ ชอบที่จะห่วงใยคนอื่นอยู่เสมอ นิสัยไม่ดีก็มี คือเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว ชอบตั้งความหวังไว้สูงแล้วก็ผิดหวังอยู่บ่อย ๆ จนตัวเองต้องกลับมานั่งเงียบอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่เข็ดหรอกนะ คนนักษัตรนี้ตัวเล็กแต่ใจสู้ได้ดีทีเดียวเลยล่ะ คนปีมะโรง (งูใหญ่) เป็นปีเดียวที่ไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงของเขาเลย จีน...มังกร ไทย...พญานาค เป็นสัตว์ในเทพนิยาย ถือเป็นจ้าวของสัตว์น้ำในห้วงมหาสมุทร จึงมักมีอำนาจปาฏิหาริย์ ดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ หรือโชคร้ายก็ได้ พวกมะโรงเวลาดี มักดีใจหาย แต่เวลาร้ายจะร้ายน่าดู ยามที่โมโหหรือโกรธจะไม่มีเกรงกลัวใครทั้งสิ้น จะโต้กลับด้วยความรุนแรง และ เกรียวกราด มักเป็นผู้นำคน มีตำแหน่งการงานที่ดีและเข้มแข็ง มีพรสวรรค์และทักษะความสามารถอะไรสักอย่างเป็นเลิศ ฉลาดชอบแสดงออก มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก กล้าได้กล้าลุย กล้าหาญ ทันสมัยทันเหตุการณ์ ร่าเริงสนุกสนานได้แต่จะขี้เบื่อ ขี้รำคาญง่าย มีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูง มีเสน่ห์มาก ชอบที่จะให้คนอื่น ๆ ชื่นชมตัวเอง ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ ต้องการให้คนมารักมาก ๆ ชอบช่วยเหลือสังคม หรือ แบกภาระของคนอื่น มังกรมักเป็นสัญลักษณ์ของความดีมโชคลาภ ชาวมะโรงจึงมักโชคดี หาเงินได้ง่าย ๆ ทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ จึงมักมีใจที่กล้าและฮึกเหิม จะใช้จะจ่ายอะไรไม่ต้องคิดก็ได้ใช้ใจสู้ซะอย่างกล้าได้กล้าเสียเชียวล่ะ คนปีมะเส็ง (งูเล็ก) งูเล็กมักจะปราดเปรียว จะเคลื่อนไหวยังไงก็ต้องดูหรูหรา สง่างาม อาจจะดูขี้เกียจและเอาแต่ใจตัวสักหน่อย แต่มีหัวที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา มีปัญญาฉลาดเฉลียวอยู่ในตัวเอง มีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาหา เป็นนักคิดที่ลึกซึ้ง ในบางคนอาจจะดูลึกลับ สันโดษ และ ห่างเหิน เร้นลับแต่น่าค้นหา มีอารมณ์รักที่เร่าร้อน ที่ซุกซ่อนอยู่ในความสงบนิ่ง อาจดูดุร้าย แต่เป็นเพราะความสุขุมรอบคอบไม่อวดตัว รอจังหวะ ที่จะรุกใส่หรือถอยเพื่อวางแผนแล้วค่อย ๆ จู่โจมศัตรูแบบไม่ทันตั้งตัวเชียวแหล่ะ พวกงูเนี่ยมักเป็นคนขี้หึง ขี้หวง และชอบแสดงความเป็นเจ้าของ (จงอางหวงไข่) รักแรงและเกลียดแรง เป็นคนที่ขี้ระแวง ขี้สงสัย มีปัญหาในใจ มีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด ลื่นไหลได้ตลอดเวลาสามารถมองเห็นการแก้ปัญหาและจัดการทำให้เสร็จได้อย่างเหลือเชื่อ ในขณะที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น เป็นผู้ที่มีสัมผัสที่ 6 หรือลางสังหรณ์ เป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นเป็นจอมวางแผน เป็นนักวิเคราะห์ที่เก่งพอตัว (งูเลื้อยซอกแซกไปเรื่อย) เลยสามารถรู้ในบางสิ่งที่คนอื่นทั่วไปไม่รู้ได้ คนปีมะเมีย (ม้า) ม้าเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ อยู่นิ่งไม่เป็นมีพละกำลังที่ไม่รู้จักจบสิ้น บางทีการใช้กำลังข่ม และ สามารถที่จะเรียนรู้อะไรได้ดี สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ มีปฏิภาณไหวพริบเยี่ยม มีจิตใจดี ใจกว้างเมตตากับคนที่ด้อยกว่า ชอบให้กำลังใจ ซื่อสัตย์เปิดเผย ในบางครั้งพูดมากและร่าเริงมากไปหน่อยจนอาจทำให้คนรำคาญได้ มักเป็นคนสนุกสนาน โวยวาย กระโดก กระเดก ไม่ค่อยเรียบร้อย แต่ก็มีในบางคนที่เป็นม้าขรึมที่น่าเบื่อได้ เหมือนกัน เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ค่อยอยู่ในกรอบหรือกฎเกณฑ์ ชอบแหกกฎ ในบางครั้งก็ชอบทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป ใครขวางไม่ได้เตะเลย ใจร้อนขาดความอดทน ดื้อและอัตตาทิฐิมาก ชอบชีวิตที่เรียบง่ายอิสระ ปราดเปรียวพร้อมที่จะตะลุยไปข้างหน้า มองโลกในแง่ดีสดใส มีมนุษยสัมพันธุ์ที่ดี เข้ากับคนอื่นได้ดี มีความจริงใจกับทุกคน มีเพื่อนฝูงมากมายแต่ก็อยู่ไม่ติดที่ และบางครั้ง ก็มีโลกส่วนตัวสูง (ม้าไม่อยู่ในคอกเดียวกัน หลายตัว) ม้าจะมีความสุขเมื่อมีความรัก ม้ามีความเร่าร้อน สง่างามที่มีเสน่ห์ สามารถดึงดูดใจต่อเพศตรงข้ามได้ดี
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:59 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
แบไต๋...รู้ใจ เห็นนิสัย คน 12 นักษัตร คนปีชวด (หนู) หนูมีความสนุกสนาน คล่องแคล่วว่องไว ปราดเปรียวทำอะไรรวดเร็ดไปหมด มีความรู้สึกร้อนแรงและไวต่อความรู้สึก มีลางสังหรณ์ดี แต่เป็นคนที่มีความอดทน กระตือรือร้นสูง และ มีความอุตสาหะ สามารถจัดการกับงานที่ว่ายาก ๆ ได้โดยง่าย แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แม้พวกเจาจะมีชีวิตที่ไม่ดีหรือตกต่ำ ก็ยังสามารถยิ้มได้อยู่ คนปีนี้มักเอาตัวรอด ฉลาดหลักแหลม มีเล่ห์กล ไม่ค่อยนึกถึงคนอื่นมากนัก หรอก มักนึกถึงตัวเองก่อน เป็นอันดับแรก และมักจะฉกฉวยผลประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ที่พบเห็น จนคนอื่นมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่แท้จริงแล้วพวกหนูฉลาดเอาตัวรอดต่างหากล่ะ แต่ถ้าลองเป็นครอบครัวหรือคนที่ตัวเองรักแล้วล่ะก็จะซื่อสัตย์และหาเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี เป็นพ่อแม่ที่ดีได้ แต่เก็บเงินไม่ค่อยอยู่เอาเสียเลย เนื่องจากชอบมีเพื่อนมาก เป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวเอง ชอบกินชอบเที่ยว ชอบเดินทางผจญภัย แต่ถึงยังไงก็ต้องกลับไปตายรังอยู่ดี เพราะเป็นคนที่รักบ้านรักครอบครัว รักความสะดวกสบาย เพียงแต่ไม่รักความเป็นระเบียบ และ เบื่อความซ้ำซากจำเจบ้างในบางครั้งเท่านั้นเอง คนปีฉลู (วัว) กตัญญูรู้คุณคน (เป็นอาหาร) มีความเป็นอัตตาทิฐิ เชื่อมั่นในตัวเองสูง รักสงบ สุขุมนุ่มลึกนิ่ง ๆ ไม่ค่อยแสดงออก สุภาพ อดทน อดกลั้น ไม่ค่อยโกรธใครง่าย ๆ นักหรอก ไอ้นิสัยแข็งกร้าว ฉุนเฉียวก็ทำเป็น แค่ลองมีใครมาแหย่ให้โกรธเข้าก็จะระเบิดอารมณ์ กลายเป็นวัวกระทิงได้เหมือนกันนะ ค่อนข้างจะหัวเก่าโบราณ ไม่ค่อย ยืดหยุ่นดื้อมาก ๆ ใครบอกอะไรไม่คอยฟัง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และ ไม่เชื่อใครง่าย ๆ จนกว่าตัวเองจะเป็นคนเปลี่ยนความคิดซะเอง เป็นคนเสมอต้น เสมอปลาย ไม่ชอบเปลี่ยนแปลง ชอบแบกภาระชาวบ้าน เจ้าทุกข์ ขี้กังวลแบบไม่มีเหตุผล เกิดมามีชีวิตเพื่อผู้อื่น มีความรับผิดชอบ อย่างเคร่งครัดสามารถจัดการงานได้อย่างเรียบร้อย เพราะเป็นคนที่ระมัดระวังและเจ้าระเบียบ เป็นคนที่เชื่อใจได้อย่างยิ่ง จริงจังกับชีวิตมาโดยเฉพาะเรื่องความรัก แต่จะหาความโรแมนติก จากคนเกิดนักษัตรนี้คงยาก เพราะนิ่ง ๆ อยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน วัวเป็นผู้ที่พวกเราสามารถพึ่งพาอาศัย หรือให้เป็นที่ปรึกษาได้ดีทีเดียว เพราะจะเป็นนักฟังที่ดีและให้คำแนะนำที่มั่นคงได้ คนปีขาล (เสือ) ใจร้อนหุนหันพลันแล่น อยู่นิ่ง ๆ ไม่เป็น ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา เสือมักจะมีเสน่ห์ มีรสนิยมดี และ มีอำตาจอยู่เสมอ เสือโรแมนติกมาก มักจะมีความรักง่าย ๆ และบ่อยครั้ง เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ และมีนิสัยดื้อที่สุด ดื้อหัวชนฝาเลยล่ะ รู้จักป้องกันตัวเองได้ดีจนอาจจะดูแล้วดุ หรือ โหดร้าย แต่เพราะพวกเขาจริงจังกับชีวิตมาก เกินไปจนกลายเป็นพวกบ้าอำนาจ หรือ จอมเผด็จการ เอาแต่ใจตัวเอง เด็ดเดี่ยวกล้าสู้กล้าเสี่ยง มีไฟแรง เป็นเสี่ยงดวงที่ชาญฉลาด ชอบบุกเบิก ชอบเป็นผู้นำมากกว่าคล้อยตาม ชอบทำอะไรที่ท้าทายและตัวเองตายได้โดยไม่กลัว เพราะเป็นคนที่รักเกียรติรักหน้ามาก ๆ เสียอะไรไม่ว่าเสียหน้าข้าไม่ยอม มาดเยอะฟอร์มจัด หน้าก็ใหญ่ใจก็ใหญ่ถึงไหนถึงกัน แต่คนปีเสือก็เป็นผู้ที่มีหัวใจที่อบอุ่นนะ จะเป็นคนที่รักครอบครัวมาก และ สามารถเป็นแมวเชื่อง ๆ ได้แต่เฉพาะกับคนที่เขารักเท่านั้นนะ เพราะเสือก็ต้องการกำลังใจแรงสนับสนุน ความสงบเหมือนกัน แถมยังเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยอีกด้วย
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:58 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนเดือนตุลาคม คนเดือนนี้เป็นคนสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล สะอาดน่ารัก เป็นนักการทูต มีพรสวรรค์ในการเจรจา (กะล่อน) แต่ประนีประนอม หรือ โน้มน้าวจิตใจคนได้ดี เป็นคนค่อนข้างตรงและเอาจริงเอาจัง คิดยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น สามารที่จะโอนอ่อนผ่อนตาม คล้อยตามมากกว่าขัดใจ ใครว่าอะไรก็ว่าด้วย เป็นคนที่มีเสน่ห์ อยู่ในตัวเอง ถ้าไม่หน้าตาดี บุคลิกก็ต้องดูดีมีราศี สามารถดึงดูดคนให้เข้ามาหาได้อย่างง่ายดาย ในบางคนก็รักสวยรักงานศิลปะ ชอบเข้าสังคมทำอะไรเพื่อสังคม ชอบความสนุกสนานร่าเริง ฟุ้งเฟ้อ ชอบความหรูหรา เป็นคนที่ถ้ารู้จักใคร ถูกชะตาจะรักมาก รักเร็วและทุ่มเทซะเกินเหตุ แต่ถ้านึกอยากจะเลิกก็เลิกเลยแบบไม่มีเหตุผลเช่นกัน เรียกได้ว่ารักง่าย หน่ายเร็ว เป็นคนที่รักพวกพ้องเพื่อนฝูงเอามาก ๆ ใครไม่เป็นพวกข้า ไม่ดีด้วย จนในบางครั้งดูเหมือนดื้อและก้าวร้าวมาก อารมณ์บางครั้งก็ขึ้น ๆ ลง ๆ จะตัดสินใจทำอะไรได้แต่ละอย่างคิดอยู่นั้นแหล่ะ (ลังเล) ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเอง มักต้องรอจังหวะ เหมือนตาชั่ง (สัญลักษณ์) กว่าตาชั่งที่เอียงไปเอียงมาจะตรงหรือสมดุลกันได้ก็เล่นเอานานเหมือนกัน ขยันทำงานฉลาดในการทำธุรกิจ มีความสุขุมรอบคอบและเยือกเย็นได้แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือมักเชื่อคนง่าย จึงมักมีสิทธิ์โดนหลอกใช้ได้เหมือนกัน คนเดือนพฤศจิกายน คนเดือนนี้เป็นคนที่ดูแล้วค่อนข้างจะลึกลับ ถ้าไม่สนิทกันจริงไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง ค่อนข้างไม่ค่อยไว้ใจใครง่าย ๆ มีความระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง เก็บความลับเก่ง ชอบทำตัวลึกลับ มีความในใจซ่อนเร้น มีความสงสัยอยู่ตลอดเวลา มีความทิฐิมานะ วางท่า ไว้ตัว ทำตัวเหมือนหยิ่ง อดทน อดกลั้น แต่ถ้ามีอารมณ์โกรธฉุนเฉียวขึ้นมาล่ะก็ กล้าเผชิญกับทุกสิ่ง จะหนาไหนหรือใหญ่แค่ไหนก็ไม่ค่อยกลัว ช่างประชดประชัน เหน็บแนมเก่งมาก คำพูดคำจาบางทีชอบพูดแรง ๆ ตรงเกินกว่าที่คนรอบข้างจะรับได้ แต่ก็พูดออกมาจากใจจริงของตัวเองนะ เป็นคนขี้งอนใจน้อย อารมณ์แปรปรวน เอาแต่ใจเจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยสนใจใส่ใจใคร ดูเหมือนดุร้าย ไม่น่าเข้าใกล้ จนบางครั้งคนรอบข้างจะคิดว่าเป็นบ้า แต่แท้ที่จริงแล้ว ทำไปเพื่อจะป้องกันหรือปิดบังอะไรบางอย่าง ที่เป็นปมด้อยในตัวเองที่ไม่อยากให้ใครรู้ เป็นคนฉลาดเจ้าความคิดจะตายไป ชอบพลิกแพลงเอาชนะด้วยมันสมอง ไม่ค่อยชอบใช้กำลังสักเท่าไร มักมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงในการทำธุรกิจ ด้านความรักก็มักแต่งงานช้า หรือหาคนถูกใจยากสักหน่อย เพราะมัวแต่ขี้ระแวงอยู่นั่นแหล่ะ และไม่ค่อยชอบให้ใครมาจู้จี้มากนัก มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็เข้าได้กับทุกคนนะ เพียงแต่คนอื่นอ่านไม่ค่อยออก ก็เท่านั้นเอง คนเดือนธันวาคม ด้วยความชอบผจญภัยให้อยากอยู่บ้านแทบตาย ยังไงก็ต้องมีเหตุอันให้ต้องออกจากบ้านจนได้ ในชีวิตมักต้องไปได้ดีเอาไกลบ้าน ไกลเมือง ไกลถิ่นฐานที่เกิด หรือได้คนรักในแดนไกลแล้วชีวิตจะดีกว่า เป็นคนที่มักโชคดีเรื่องการเงิน เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่นชอบพูด ชอบเล่าอะไรสนุกสนาน จนในบางครั้งเกินความเป็นจริงไปซะไกลเลยเชียว ชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากที่ตัวเองรู้ ชอบพัฒนาชอบสำรวจ สามารถให้คำปรึกษากับคนรอบข้างได้ดี เพราะเป็นผู้รอบรู้และเป็นนักวางแผนที่ดีได้ เป็นคนที่ฉลาดและรอบคอบ คิดสร้างสรรค์อะไรมักจะไปเจริญหรือเป็นจริงได้ในอนาคต คือมีความคิดที่ก้าวไกลกว่าคนอื่น ๆ เหมือนหยั่งรู้อนาคตได้ยังงั้นแหล่ะ สามารถแก้ไขปัญหาได้ดี มีรสนิยมดีตรงไปตรงมาและ จริงใจ ชอบการเดินทาง เปิดหูเปิดตา ชอบกีฬา เรียกว่าอยู่นิ่ง ๆ ไม่ค่อยเป็น และชอบที่จะเป็นอิสระมากว่ามีเจ้านายคอยควบคุม อยากจะแสดงความสามารถที่มีอยู่ให้ใคร ๆ เห็นมากกว่า ชอบแหกกฎ อาจเป็นได้ว่าความถือดีว่าตัวเองมีปัญญาฉลาดกว่าคนอื่น เป็นคนที่โกรธง่ายหายเร็ว แต่อย่าย้ำซ้ำเติมความผิด ของเก่านะ จะไม่ค่อยยอมรับผิดหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ด้วยเลยล่ะ ทำให้เราเสียอารมณ์เปล่า ๆ ด้านความรักเป็นคนที่ไม่ชอบแฟนขี้หง ถ้าให้อิสระ คนเดือนนี้จะรักตายเลยล่ะ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:57 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนเดือนกรกฎาคม นับได้ว่าเป็นคนอ่อนไหวไวต่อความรู้สึก ระมัดระวังตัวหวาดระแวงตกใจง่ายไม่ค่อยไว้ใจใครง่าย ๆ รักษาผลประโยชน์รู้จักเก็บออมเงินเก่ง (ปูมักจะลากทุกอย่างเข้ารู) ถ้าเจอปัญหาเศร้าทุกข์อะไร จะขอหลบไปก่อน ไม่รับโทรศัพท์ ไม่รับแขก ไม่ยอมเจอใคร แต่พอตั้งสติได้จะค่อย ๆ กลับมาแก้ไขและกลับมาเป็นคนเดิมเอง เป็นคนรักบ้าน รักครอบครัวมาก ชอบอยู่กับบ้านและทำกิจกรรมที่บ้านมากกว่าให้ออกนอกบ้าน เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวกรกฎรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น มีความสุขที่สุด ดูจากภายนอกออกจะแข็งกร้าว ปากแข็งแต่จริง ๆ ภายในอ่อนปวกเปียกมาก ลองดูจากสัญลักษณ์ที่คนโบราณเปรียบเทียบไว้เป็นปูไง มีกระดอง แต่ข้างในนิ่มเชียว มีความอดทนต่อความยากลำบาก ชอบใส่ใจความรู้สึกคนอื่น ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชายมักมีความเป็นแม่อยู่ในตัว มีสัญชาตญาณในการให้ ห่วงใยเอื้ออาทร ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน เอาอกเอาใจ (เฉพาะ) คนที่ตัวรัก เก็บรายละเอียดได้ดีไม่ว่าจะเรื่องอะไร โดยเฉพาะเรื่องเก่า ๆ หรือพวกรักฝังใจ ไม่ยอมลืม แต่เจ้าอารมณ์ชะมัดเลยล่ะ จู้จี้จขี้บ่น เจ้าระเบียบ ต้องปล่อยให้บ่นไป เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดไปเองแหละ ต้องระวังเรื่องเครียด เพราะเป็นคนวิตกจริตคิดมาก รักใครแล้วไม่ค่อยปล่อยง่าย ๆ แถมขี้หึงถึงตายเลยล่ะ (ปูหนีบ) คนเดือนสิงหาคม คนที่เกิดในเดือนนี้เหมือนจ้าวป่าจึงมักจะเริ่ดเชิดหยิ่งไว้ก่อนเดินยังเอาหน้าไปก่อนเลย ไม่ค่อยยอมก้มหัวให้ใครง่าย ๆ ไม่ง้อใครถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ชอบที่จะเป็นหัวหน้า เป็นผู้นำมากกว่าคล้อยตาม ชอบความเป็นอิสระทั้งด้านงานและการใช้ชีวิต ไม่ชอบขึ้นอยู่กับใคร เชื่อมั่นในตัวเองมาก ใจใหญ่ถึงไหนถึงกัน เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ทำ รักเกียรติยศชื่อเสียง เสียอะไรไม่ว่า เสียหน้าข้าไม่ยอม ใจร้อนหงุดหงิด ขี้โมโห จริงจังกับชีวิตมากจนกลายเป็นพวกบ้าอำนาจ หรือจอมเผด็จการ ฉลาดหลักแหลม เจ้าปัญญา เจ้าความคิด คิดโน่นนี่ได้ตลอดเวลา แต่บางทีก็ไม่ยอมทำเอง ชอบใช้คนอื่นทำแทน จึงควรเป็นที่ปรึกษานั่นแหล่ะดี เพราะเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อใจหรือไว้ใจใครเลย และไม่ค่อยชอบพึ่งใครด้วย รักเฉพาะพวกพ้องพี่น้องและครอบครัวของตัวเอง สามารถเสียสละให้ได้ทุกอย่าง เป็นคนที่อยากให้ทุกคนมารัก อยากให้ทุกคนยอมหรือยกย่องตัวเอง อย่าไปขัดใจหรือโต้แย้ง ปกติใครอยู่ด้วยจะน่ารักมาก เพราะจริง ๆ เป็นคนที่ขี้สงสารและชอบให้อภัย หรือให้โดยไม่ค่อยหวังผลตอบแทน เพียงแต่ไม่ชอบที่จะแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเท่านั้นเอง เป็นคนที่หาเงินเก่งและก็ใช้จ่ายเก่งด้วย ถ้าพอใจอยากได้อะไรต้องได้จะจ่ายไม่อั้น ยังไงก็ต้องรักษาหน้าไว้ก่อน จะหาคู่ครองต้องเป็นคนใจเย็นเป็นผู้ใหญ่กว่า มีปัญญาที่เหนือกว่าจึงจะอยู่กันได้ หรือไม่ก็อยู่ใต้เท้าคุณสิงหาคมแกไปเลยหมดเรื่อง คนเดือนกันยายน นับว่าเป็นคนที่เฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มีเสน่ห์ ไม่ว่าเป็นชาย หรือ หญิงมักมีแต่เรื่องหยุมหยิม มีข้อสงสัย หรือ วิเคราะห์ ทุกอย่างจนเกินเหตุ เป็นคนที่เข้าใจยากอยู่สักหน่อย เพราะชอบเอาแต่ใจทำอะไรตามอารมณ์เหมือนผีเข้า ผีออก ไม่แน่นอน คนอื่นอาจจะงง ๆ เหมือนจะประสาทหลอน แต่จริง ๆ แล้วเพราะเป็นคนที่ละเอียดลออ เอามาก ๆ ชอบสังเกต พิถีพิถันออกแนวหัวโบราณ วิตกจริตคิดมากเท่านั้นเอง ช่างคิดช่างฝันช่างจินตนาการ มินิสัยชอบเปลี่ยนแปลงหรือพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่นเขาทำทิ้งไว้ ค้างไว้ ให้เสร็จสมบูรณ์ตามแบบฉบับของตัวเอง พูดง่าย ๆ ก็คือชอบ จู้จี้จุกจิก เจ้าระเบียบ ชอบจับผิดคนเก่งมาก แต่ก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีนะ ถึงจะชอบจับผิดก็เถอะ แล้วชอบที่จะช่วยเหลือชาวบ้านหรือดันไปแบกรับภาระคนอื่นมา จะดูเหมือนเรื่องมาก และเลือกมากไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวต้องดูดีก่อนออกจากบ้านหรืออาหารการกินต้องสะอาด โดยเฉพาะเรื่องความรักมักจะใช้เวลาเลือกค่อนข้างนาน แต่ถ้าได้รักแล้วมักจะรักนานเลยเช่นกัน เป็นคนที่ขยันทำมาหากินมาก บางครั้งประหยัดจนดูเหมือนขี้เหนียว ช่างพูดช่างเจรจา พูดเก่งและแก้ตัวเก่งอย่างมีเหตุผลเสียด้วยซิ ผิดกับการบอกรักกลับเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ปากแข็งมาก ถ้าคิดจะเอ่ยปากบอกรักใครสักคน เวลารักใครชอบรักจนหมดหัวใจ จึงมักโดนคนที่ตนรักหลอกหรือเอาเปรียบอยู่เสมอ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:55 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนเดือนเมษายน เป็นคนที่มีนิสัยเหมือนเด็ก ๆ อยากรู้ อยากเห็น อยากได้อยากเป็นไปเสียหมด พอรู้พอเห็นแล้วก็เบื่อ ไม่เอาแล้ว อยากได้ของใหม่อีกแล้ว คือ เป็นคนขี้เบื่อเหมือนเด็ก ๆ ไม่ค่อยยอมฟังใครง่าย ๆ กล้าได้กล้าเสียไม่ค่อยกลัวอะไร ลุยลูกเดียว แล้วก็เจ็บ แถมเจ็บไม่รู้จักจำอีกด้วย ชอบกลับไปทำซ้ำใหม่แล้วก็เจ็บอีก บางทีก็ชอบทำเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นเรื่องยากได้ จู้จิ้จุกจิกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ได้ แต่เป็นคนที่น่าคบนะเพราะเป็นคนที่จริงใจตรงไปตรงมา ไม่ชอบเอาใจใครหรือเยินยอใคร ชอบไม่ชอบบอกกันตรง ๆ เลย แบบว่าถือของให้ใครก็ไม่เป็น ไม่ชอบผูกมัดชอบอิสระ ชอบที่จะให้คนมาเอาใจมากกว่า และมักจะหึงและหวงคนรักนะ เพราะถ้ามีรักเมื่อไร จะเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว รักแบบบริสุทธิ์ใจซะด้วยซิ และมักเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงอยู่เหมือนกันนะจ๊ะ ทะเยอทะยานใจร้อน ทำอะไรก็รวดเร็วทันใจ เดินยังดูรีบ ๆ เลย มีอารมณ์รุนแรงขี้โมโหหงุดหงิดง่าย แต่ก็หายเร็ว ทำอะไรหุนหันพลันแล่น อยู่นิ่ง ๆ ไม่เป็นจะอึดอัดหงุดหงิด เครียด ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น ชอบออกกำลังกาย หรือทำอะไรที่มันดูเป็นภาคสนามสักหน่อย จะสบายใจกว่าให้นั่งเฉย ๆ ใครอยากเป็นแฟนต้องเข้าใจและเอาใจ อย่าปล่อยให้เหงาเชียวแหล่ะ คนเดือนพฤษภาคม เราจะเห็นว่าเดือนนี้มีสัญลักษณ์เป็นรูปวัวเพราะฉะนั้นต้องเข้าใจก่อนเลยว่า คนที่เกิดในเดือนนี้มักต้องทำเพื่อคนอื่นและต้องอดทนอย่างมาก เหมือนวัวนั่นแหล่ะ ดื้อรั้นเงียบแบบสงบเสียด้วยซิ มักเป็นคนที่ดูจะนิ่ง ๆ ไม่ค่อยแสดงออกสักเท่าไหร่ เป็นคนที่โกรธใครยาก แต่ถ้าโกรธนานเชียว แล้วถ้ามีใครมาแหย่ ให้โกรธเข้าล่ะก็ คุณแกจะกลายเป็นวัวกระทิงทันทีเลยล่ะ เป็นคนที่รักสวยรักงาม สะอาด รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำอะไรถูกกาลเทศะ ความคิด ความอ่านมักค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย เป็นบุคคลที่เปลี่ยนแปลงอะไรยากมาก ๆ เช่น การกิน หรือความเชื่อ ใครบอกก็ไม่เปลี่ยน นอกจากตัวเองจะเปลี่ยนแปลงความคิดหรือการกระทำเอง ไม่ค่อยยืดหยุ่นกับชีวิต ชอบคิดว่าฉันเป็นฉันเอง เป็นคนที่ชอบอยู่นิ่ง ๆ สงบ ๆ อยู่คนเดียวก็ได้ อยู่กับเพื่อน ๆ ก็ได้ โคตรอดทนและบึกบึนมาก งานทำได้ทุกอย่างหนักเอาเบาสู้ได้หมด แถมเป็นคนมัธยัสถ์ ประหยัด ชอบเก็บสะสมทรัพย์สินอีกด้วย เรียกว่าเศรษฐีได้เลย แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้เองหรอกชอบให้คนอื่น ยิ่งถ้าเป็นคนที่ตัวเองรักแล้วล่ะก็...เต็มที่ไปเลย เป็นคนที่อ่อนไหวต่อความรักมาก รักแล้วทุ่มเทเกินเหตุ มักถือดีเรื่องความรักเสมอ หรือจะชื่นชม ให้กำลังใจหน่อยก็จะดี คนเดือนนี้ชอบให้ชมบ่อย ๆ พวกบ้ายอไง คนเดือนมิถุนายน เป็นคนที่ฉลาดมาก มักคิดอะไรได้รวดเร็วกว่าชาวบ้าน คือ มีความถนัดในการใช้สมองมากกว่ากำลัง ชอบคิดชอบพูด ชอบเขียน อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง ต้องการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพื่อความอยู่รอด จึงมักเป็นคนที่ดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และในชีวิตมักมีอะไรเข้ามาทีละสองอย่างเสมอ ทำให้ต้องลำบากใจที่จะต้องเลือก ไม่ว่าจะเป็นความรัก หรือ การงาน ความคิดก็มักลังเล รักพี่เสียดายน้องอยู่นั่นแหล่ะ เป็นคนที่มีความสามารถหลายอย่าง สามารถทำอะไรหรือคิดอะไรได้ หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน บางทีกลายเป็นคนสองบุคลิก หรือ คนสองหน้าได้เหมือนกัน สามารถแก้ปัญหาให้ใครต่อใครได้ในพริบตาเชียวล่ะ เป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจที่ดีเลยคนเดือนนี้น่ะ ชอบท่องเที่ยวไม่ชอบอยู่กับที่นาน ๆ ชอบเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดูเหมือนเป็นคนที่ขาดความอดทน เป็นคนที่ค่อนข้างตรงและเอาแต่ใจตนเอง ไม่ค่อยเก็บความสงสัยเอาไว้ จะถามให้รู้เรื่องไปเลย จะทำอะไรก็เหมือนกันจะต้องทำให้มันสำเร็จ ชนิดไม่เสร็จไม่เลิก มีความว่องไวใจร้อนมากโดยเฉพาะเรื่องงาน ไม่ชอบให้ใครมาจู้จี้ขี้บ่น หรือซักถามยิ่งเวลาไปไหนมาไหน ไม่ต้องถาม ถ้าอยากบอกจะบอกจะเล่าเอง ด้วยความทันสมัยและชอบเที่ยวจึงเป็นผู้ที่ใช้เงินเปลืองมาก
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:55 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
แบไต๋...รู้ใจ เห็นนิสัย คนใกล้ตัว 12 คนในโลก คนเกิดเดือนมกราคม เป็นคนค่อนข้างรอบคอบ ระมัดระวังวิตกจริต คิดมากตลอดเวลา ในบางคนก็ชอบเก็บสะสมของเก่า ของโบราณ รู้จักเก็บ มัธยัสถ์ งก ขี้เหนียว เสียดายของ ประหยัด ชอบที่จะแชร์ค่าใช้จ่าย มองกำไรขาดทุนไว้ก่อนเสมอ ดูเหมือนเห็นแก่ตัว แต่จริง ๆ แล้วฉลาดจึงสามารถเป็นนักธุรกิจที่ดีได้ ทะเยอทะยาน ชอบเอาชนะ บางทีก็คิดเล็กคิดน้อยอะไรไม่รู้ เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ทรหดอดทนเป็นยอดเลยล่ะ โดยเฉพาะในเรื่องงานแล้วล่ะก็บ้างานมาก บ้านจนทำให้บางทีความรักที่มีอยู่จืดไปเลย จะแต่งงานช้าก็เพราะมัวแต่เลือกมากคิดมากอยู่ นั้นแหละ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความรักสักเท่าไหร่ ถ้างานที่ต้อรับผิดชอบนั้น ยังไม่เสร็จสิ้น เพราะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เป็นนักปฏิบัติ แต่ในด้านความรัก ก็ใช่ย่อยมีเสน่ห์ล้ำลึกนัก มีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน บางครั้งก็ขี้หงุดหงิดเอาแต่ใจตัวเอง แต่ทำเป็นขรึมเย็นชาซะอย่างนั้นแหล่ะ บางทีก็ชอบเก็บตัวชอบสร้ากำแพง ทำเป็นหยิ่งแต่จริง ๆ กลับเป็นคนง่าย ๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีพิษไม่มีภัยกับใคร สงบนิ่ง เจ้าระเบียบซะอีกแน่ะ รักเกียรติยศชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ ทำอะไรไม่ค่อยพึ่งใครชอบทำเอง แต่ก็เป็นคนมีบุญ มักได้คู่ดี คนเดือนกุมภาพันธ์ มักเป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริง เพื่อนฝูงมากมาย เพราะเป็นคนที่ตองการมิตรที่แท้จริง แต่ก็มักไม่ค่อยมีเพื่อน และที่สำคัญมีเพื่อนแท้น้อยมาก ชอบอยู่ในแวดวงสังคมที่ดี เพราะเป็นคนที่สามารถยิ้มแย้มแจ่มใสได้กับทุกสถานการณ์ ถึงแม้ว่าตนเองจะทุกข์อยู่ก็ตาม ชอบที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข เป็นคนที่ช่างพูดช่างคุย ตีหน้าได้เก่ง มีนิสัยช่างคิดช่างจำแถมยังมีแผนการมากอีกด้วย เชื่อมั่นและมีความเห็นเป็นของตัวเอง ซื่อตรงดี ชอบอิสระไม่ชอบขึ้นกับใคร หรือให้ใครบังคับขู่เข็ญให้ทำ หรืออยู่ใต้การควบคุมของใคร อยากทำอะไรทำเองไม่ต้องมาสั่ง ชอบชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่าถึงแม้ว่าตัวจะต้องอยู่ในสังคมก็ตาม เป็นคนที่มีหัวคิดริเริ่มมีไอเดียอะไรดี ๆ และแปลกใหม่อยู่เสมอ เพราะเป็นคนที่ใส่ใจเรียนรู้และสร้างสรรค์ ตามยุคตามสมัยทันเหตุการณ์ของโลกอยู่เสมอ ชอบเปลี่ยนแปลงจนคนรอบข้างตามไม่ทันหรือคิดไม่ถึงก็มี จริงใจเปิดเผยตรงไป ตรงมา นิสัยไม่ดีคือมักเอาแต่ใจและดื้อรั้นมาก ในบางครั้งก็ดูก้าวร้าวขวานผ่าซากและขี้งอนขี้น้อยอกน้อยใจ เป็นคนที่ชอบสนุกสนาน ชอบช่วยเหลือเพื่อน ทั้งที่ทำคุณกับใครไม่ค่อยขึ้นหรอก คบกับใครก็ได้ ช่างเลือกด้วย แถมไม่ชอบผูกมัดหรือมีพันธะติดกับใคร จึงหาคู่ที่ถูกใจยากออกสักหน่อย คนเดือนมีนาคม เป็นคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือคนอื่นแล้วก็ไปรับแบกภาระซะอย่างนั้นแหล่ะ เข้ากับคนง่าย ปรับตัวได้ดีมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีจิตใจที่เมตตาโอบอ้อมอารี มีคุณธรรมสูง ชอบสร้างบุญสร้างกุศล แต่มักเป็นคนที่ขี้เหงา ว้าเหว่ หรือไม่ชอบอยู่ในที่แคบ ๆ มักชอบที่จะอยู่ในที่โล่งแจ้งมากกว่า แต่อารมณ์มักอ่อนไหวง่ายมาก ๆ ในบางครั้งก็ขี้หงุดหงิด จิตใจไม่แน่นอน อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนน้ำ ที่วันนี้ไม่รู้จะอยู่ในโอ่งหรือว่าขวดกันแน่ บางครั้งก็ดูแข็ง บางทีก็อ่อนไหวง่ายเหลือเกิน ด้วยความใจอ่อนนี่แหล่ะมักทำให้สูญเสียโอกาสดี ๆ ไปเสมอ ดูอ่อนโยนสุภาพแต่ก็มีอารมณ์ที่ก้าวร้าว และปากร้ายได้เหมือนกัน เพราะเป็นคนที่เย็นก็ได้ ร้อนก็ได้ เสียใจง่าย ดีใจง่าย คล้อยตามคนอื่นได้ ไม่ค่อยแข่งขันอะไรกับใคร มักพอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นคนที่เชื่อเรื่องโชคลางสิ่งลี้ลับ และชอบที่จะจดจำเรื่องเก่า ๆ หลงรักใครได้ง่าย ๆ และมักจะจมอยู่กับรักเก่า ๆ นั้น แบบพวกมีรักฝังใจไม่ยอมลืม แต่กับบางเรื่องกลายเป็นคนที่ขี้ลืมบ่อย ๆ เหมือนคนแก่ และก็เป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจใฝ่หาอะไรที่มันใหม่ ๆ ซะด้วยซิ ยกเว้นชอบที่จะซื้อรองเท้าใหม่ ๆ อยู่เรื่อยเลย ว่ากันว่าใครที่เกิดในเดือนนี้เท้าสวยแล้วจิตใจจะดีแถมเป็นคนชอบชิมชอบกินเสียด้วยซิ
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:53 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนวันพฤหัสบดี ดาวพฤหัสเป็นดาวที่มีขนาดใหญ่อย่างที่เรารู้ ๆ กัน โบราณท่านว่าคนที่เกิดวันพฤหัสบดีเป็นคนที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดอะไร คนที่ได้ยินได้ฟังก็จะเคารพนับถือ เชื่อฟัง เลยยกให้เป็นวันครูไง ทางโหราศาสตร์ ดาวพฤหัสยกให้เป็นประธานของความดีงาม มีคุณธรรมสูง มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง เป็นที่น่าชื่นชมและน่ายกย่อง คุณสมบัติของคนที่เกิดวันพฤหัสบดี จึงมักหมายถึงผู้ที่มีปัญญาดีเฉลียวฉลาด เป็นนักปราชญ์ผู้รอบรู้ เป็นคนที่มักไม่ค่อยตกอับ เพราะเป็นคนดี แม้ในบางพฤหัสก็มีที่ผิดแผกแตกต่างจากพี่น้องไปบ้าง เช่นอาจดูเป็นพวกมีเล่ห์เหลี่ยม หรือทำอะไรไม่ค่อยเหมือนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาคิด เขาทำกันไปบ้างแต่ยังไงก็จะเป็นคนที่มีเหตุมีผล พอจะมีสติยั้งคิดได้และมีคุณธรรมประจำใจอยู่ดีนั่นแหล่ะ คนวันพฤหัสมักเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การศึกษา มีความเพียร มีความมุ่งมั่นที่ดี สงบสันโดษ มีคุณธรรม มองโลกในแง่ดี ใจอ่อน ขี้เกรงใจ รักบ้านรักครอบครัว แต่กลับเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิด ขี้เบื่อ ขี้เหงา ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ถ้าดื้อจะดื้อหัวชนฝาเลยล่ะ ชอบเป็นที่ปรึกษาให้ชาวบ้านชาวช่อง ชอบพูดชอบสอนแนะนำ มองการณ์ไกล แต่ก็มีนะที่อะไรใกล้ ๆ หรื่อเรื่องของตัวเองกลับนึกไม่ค่อยออกเลยแก้ปัญหาของตัวเองไม่ค่อยได้ หน้าที่การงาน ครูบาอาจารย์ ทนายความเพราะเป็นคนที่รอบรู้ อาชีพอะไรก็ได้ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ศาสนา การใช้ความคิด ความดีงามช่วยเหลือชาวบ้าน ความเลื่อมใส หรือ เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม สังคม สีที่เกี่ยวข้อง สีแสด สีส้ม สีน้ำตาล น้ำตาลแดง สีเหลืองแก่ สุขภาพ ตับ ม้าม ปอด สมอง และเท้า การทรงตัวไม่ค่อยดี คนวันศุกร์ ดาวศุกร์เป็นดวงดาวที่เราจะรู้จักในนามดาววีนัส ดาวแห่งความรักเป็นดาวที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า และมักจะส่องแสงสุกสกาวบนท้องฟ้าให้เราเห็นเสมอ ๆ เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้า แต่ถ้าเป็นบนทางโหราศาสตร์ถือว่าดาวศุกร์เป็นดาวแห่งกิเลสตัณหา ราคะจริต สมบัติ หมายถึ ทรัพย์สมบัติ ความสวยสดงดงาม ความสนุกสนาน ศิลปะบันเทิง ความฟุ้งเฟ้อ มีเสน่ห์มาก มีความรักได้บ่อย ๆ มีคนอยากเข้ามาให้รัก และก็อยากให้คนอื่น ๆ มารักตน เลยกลายเป็นคนเจ้าชู้มากรักหลายใจ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าแท้จริงแล้วมีรักหลายครั้งก็จริง แต่ก็อกหักหลายหนเหมือนกัน ถ้ารักใครรักจริง รักเกิน ๆ จนกลายเป็นขี้หึง เรื่องมากและเลือกมากในความรัก ค่อนข้างเป็นคนที่รักสวยรักงามมีระเบียบ สะอาด มารยาทงาม อ่อนหวานได้ มีความรู้รอบตัวฉลาด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง พลิกแพลงทุกอย่างด้วยมันสมอง ไม่ค่อยชอบใช้กำลั บางทีก็คิดอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน แต่ก็อนุรักษ์นิยมนำ ชอบเดินทางท่องเที่ยวรักธรรมชาติ ศิลปะ ดนตรี ในเรื่องการเงินก็ไม่ค่อยขัดสน จึงทำให้เป็นคนใช้เงินไม่ค่อยคิดสักเท่าไร หน้าที่การงาน พ่อค้าแม่ค้า นักดนตรี นักร้อง ดาราหนัง นักบัญชี ธนาคาร อาชีพอะไร ก็ได้ที่เกี่ยวข้อง กับ งานฝีมือ ศิลปะ งานที่ใช้สมองความคิดสร้างสรรค์ มีรสนิยม งานที่ให้ความบันเทิงใจแก่ประชาชน งานที่เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ สีที่เกี่ยวข้อง สีฟ้า สีขาว สีน้ำเงิน สีคราม สีเขียวน้ำทะเล สุขภาพ โรคที่เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ มดลูก กระเพาะปัสสาวะ บั้นเอว ริดสีดวง และ ลำไส้ คนวันเสาร์ ดาวเสาร์เป็นดาวที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มาก และก็เดินช้ามากด้วย ทางโหราศาสตร์ดาวเสาร์จะหมายถึดาวที่มีความเป็นโทษและทุกข์ การพลัดพราก ตายจาก รกร้าง ยากจน เหงาเปล่าเปลี่ยว จนใคร ๆ ก็ไม่อยากยุ่งกับดาวเสาร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว ดาวเสาร์ก็มีความน่ารักและความดีของดวงดาวอยู่นะจ๊ะ เพราะในความหมายที่ดี ก็คือ ดาวเสาร์เป็นดาวที่โคตรอดทนเลยมีความสุขุมรอบคอบและสงบ ถึงแม้จะเชื่องช้าและเนินนานก็ตาม แต่มั่นคงนะจะบอกให้ คนที่เกิดวันเสาร์มัเป็นคนที่ตระหนี่ มัธยัสถ์ ขี้เหนียว งก จริง ๆ แล้วดีออกมักรวยมีทรัพย์สินและก็หมายความไปถึงขี้หึงและหวงของเป็นที่สุด จู้จี้ขี้บ่นก็เท่านั้น เพราะความที่เป็นคนที่ขี้ระแวงและวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรก็ชอบย้ำคิดย้ำทำไม่ค่อยจบง่าย ๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ฉลาดมาก เพราะเป็นคนที่ชอบคิดอะไรลึกซึ้งและช่างสังเกตเสมอ คิดแล้วก็มักจะทำเอง เพราะไม่ค่อยยอมไว้ใจใคร ใครทำก็ไม่ได้ดั่งใจเลยต้องมาเหนื่อยซะเอง งานหนักเอางานเบาสู้ ดุจกรรมกรยังไงยังงั้นแหล่ะ เป็นคนที่จริงจังกับชีวิตจนดูหน้าดุ หรือยิ้มยาก หรือหน้าแก่ไปเลยก็มี ทำอะไรคิดอะไรดูเหมือนจะช้า เพราะมัวแต่ประณีตอยู่นั่นแหล่ะ กลัวการผิดพลาดคิดมากตลอดเวลา จึงไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอะไรได้ทันทีทันการณ์ หน้าที่การงาน งานที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบสูง งานที่ใช้กำลัง งานที่ต้องจัดระเบียบ งานที่เกี่ยวกับที่ดิน เกษตร หรื่อ งานเร้นลับความตาย อย่างสัปเหร่อ กรรมการแบกปัญหาชาวบ้าน งานที่ต้องรอและใช้ความอดทน หาเช้ากินค่ำ สีที่เกี่ยวข้อง สีดำ สีเทา สีเงิน สีม่วง สีคราม สุขภาพ โรคกระดูก ปวดตามข้อ โรคผิวหนัง โรคเครียด และระบบประสาท
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:53 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
คนวันอังคาร ดาวอังคารแต่โบราณถือว่าเป็นดาวแห่งสงคราม เพราะถ้าเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเราจะเห็นว่าดาวอังคารมีสีแดง เรียกว่าสู้รบกันจนเลือดสาด คนที่เกิดวันอังคารก็เช่นกันจึงมักเป็นคนที่ขี้หงุดหงิดมีโทสจริตง่าย ชอบทะเลาะวิวาท สีหน้าแสดงออกเลยถึงความรู้สึก เลือดร้อน อารมณ์ร้อน บุ่มบ่ามมุทะลุ ชอบเสี่ยงภัย ชอบใช้กำลัง บ้าขยันทำงาน กล้าหาญและอดทนมาก ชอบอาหารยังมีรสชาติที่ร้อนแรงเลย มีความคิดสร้างสรรค์เป็นนักกีฬา อยู่นิ่งไม่เป็น เป็นคนคล่องมาก...มาก ถ้าเป็นผู้หญิงสวยแค่ไหนก็มักจะซุ่มซ่าม ทำอะไรเสียงดังไม่ว่าจะเปิดปิดประตู หรือเดินเสียงดัง ไม่ค่อยเป็นผู้หญิง นิสัยโผงผาง กล้าหาญไม่กลัวใคร ในบางครั้งกลายเป็นคนก้าวร้าวก็มี แถมยังหยิ่งผยอง อยู่ตลอด เป็นคนจริงจังเปิดเผยไม่ค่อยท้อแท้ ปากกล้าวิชาดีฉลาด แก้ปัญหาได้ดี แต่ในบางครั้งก็ยอมหักไม่ยอมงอ ในบางครั้งคนเกิดวันอังคารก็น่ารัก ปรับตัวได้เก่ง อดทนสูง ควบคุมตัวเองได้ดี รักสงบ มีจิตใจดี พวกแข็งนอกอ่อนใน สามารถพึ่งลำแข้งของตัวเองได้ ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ หน้าที่การงาน เนื่องจากดาวอังคารเปรียบเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม อาชีพหนีไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นั่นเอง หรืออาชีพที่มักจะใช้กำลังมากกว่าสมอง หรืองานที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ งานกลางแจ้งแต่ไม่ถึงกับ เป็นกรรมกรแบกหาม พ่อค้า นักกีฬา วิศวกรรม หรืองานที่ทันสมัยทันเหตุการณ์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ พวกงานคอมพิวเตอร์ สีที่เกี่ยวข้อง สีชมพูเกือบแดง สีชมพูอ่อน ๆ สุขภาพ ต้องระวังโดนของมีคม ฟืนไฟ ซุ่มซ่ามโดนโน่นโดนนี่ โรคที่เกี่ยวกับสมอง คนวันพุธ ดาวพุธเป็นดาวที่อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากที่สุดโบราณว่าไว้ว่าคนที่เกิดวันพุธมักหมายถึงปัญญา ความเฉลียวฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณดี คล่องแคล่วว่องไวมาก เอาตัวรอดได้ตลอดเวลา ช่างพูด ช่างเจรจา จนในบางพุธกลายเป็นคนกะล่อน ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์ มีเล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิง เป็นนักธุรกิจได้ดี ดาวพุธเป็นดาวที่ค่อนข้างเกเรเอาแน่ไม่ค่อยได้ เป็นดาวที่เดินเร็วและยังไม่ค่อยแน่ว่าเมื่อไรจะหยุด เดินหน้าหรือถอยหลัง คนที่เกิดวันพุธเป็นคนที่ในบางครั้งเราจับทางไม่ถูกรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะตัดสินใจเร็ว พูดเร็ว ทำอะไรเร็ว และปรับตัวได้เก่งมากไม่ว่าจะอยู่สภาวะใดก็ตาม ไม่ค่อยขัดแย้งใคร มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำมาหากินเก่งแต่มักจะมีความโลเลไม่แน่นอน อยู่ในตัวตลอดเวลา ยิ่งถ้าเกิดกลางคืนแล้วล่ะก็ จะเข้มแข็งห้าวหาญไม่ค่อยเกรงกลัวอะไร บางครั้งก้าวร้าว พูดจาไม่ค่อยคิดมักขัดหูคนฟัง เจ้าอารมณ์ คนวันพุธมัก เรียนรู้อะไรได้เร็ว เชื่อคนง่าย รักใครรักจริงและขี้หึงด้วย เป็นคนสนุกสนานร่าเริง เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มีเมตตาไม่ชอบความรุนแรง หน้าที่การงาน ด้วยความที่คนเกิดวันพุธมักพูดเก่ง งานที่ถนัดก็เป็นพวก พี อาร์ ประชาสัมพันธ์ นักพูด นักคิดนักเขียน นักการทูต ครู นายหน้า แม่ค้าพ่อค้า เลขา ทนายความ นักการเมือง งานที่ใช้สมองและปากในการหากิน สีที่เกี่ยวข้อง สีเขียวมรกต สีธรรมชาติ สุขภาพ ระบบประสาท ระบบหายใจ โรคที่เกี่ยวกับลำคอ หวัด หอบหืด ระบบเสีย และระบบการฟัง
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:52 pm
0
0
**..หากคุณซึ้งกับโฆษณาไทยประกัน แม่ต้อยตัวจริง(กำลังจะตาย)!!
Fw: ดูดวงแบบปู โลกเบี้ยว...รวมทุกอย่าง Thursday, October 9, 2008 6:56 AM แบไต๋....จนรู้ใจ เห็นนิสัย ตามวันเกิด : คนวันอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ คือ สิ่งที่มักจะเริ่มต้นหรือก่อเกิด เช่น เริ่มต้นวันใหม่ คนเกิดวันอาทิตย์ จึงเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ เสมอ พระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้ามืด คนเกิดวันอาทิตย์ก็มักจะเป็นคนที่ชอบตื่นเช้าเป็นส่วนใหญ่ ดวงอาทิตย์เป็นลูกไฟ ลูกมหึมา ร้อนแรงมาก ให้พลังงานมาก คนเกิดวันอาทิตย์ก็มักจะเป็นคนใจร้อนเป็นหลักเลย ถึงแม้ข้างนอกจะดูสุขุมนุ่มลึก แต่เชื่อเถอะภายในจิตใจร้อนระอุเชียวล่ะ และก็มีพลังในการทำอะไรต่อมิอะไรมากด้วย จริงจัง บ้าอำนาจ เผด็จการ ค่อนข้างเป็นคนดุ โกรธง่ายแต่ก็หายเร็วนะ โออ่าหรูหรา สง่างามสงบนิ่งน่าเกรงขาม เพื่อนฝูงเยอะ เพราะเป็นผู้ให้ ใจคอกว้างขวาง หาเงินเก่งและก็ใช้เงินเก่งด้วย รักชื่อเสียงเกียรติยศเป็นอย่างยิ่ง เสียอะไรไม่ว่าเสียหน้าข้าไม่ยอม จะทำอะไรต้องมีมาดมีฟอร์ม และไม่ชอบที่จะอยู่นิ่ง ๆ มันร้อน ฉลาดเจ้าความคิด จัดระบบเก่ง ไม่ค่อยยอมคน ชอบเป็นผู้นำมากกว่าคล้อยตาม แต่จะชอบความเป็นอิสระไม่ขึ้นอยู่กับใครหรือไม่ชอบให้ใครมาบังคับ หยิ่งทะนงหรือมักจะเดินเชิด ๆ หน่อย หน้าที่การงาน ก็มักต้องทำงานที่มีเกียรติ หรืองานที่ได้เป็นใหญ่ เป็นเจ้าของ เป็นผู้นำ หรือ งานที่ทำแล้วดูน่าภาคภูมิใจ หรือทำงานในสถานที่ที่หรูหรา ใหญ่โตเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป สีที่เกี่ยวข้อง ก็พวกสีแดง สีขาว สีเงิน สีที่ร้อนแรง ก็ดวงอาทิตย์เป็นไฟขนาดนั้นน่ะ สุขภาพ มักเป็นโรคเครียด ระบบประสาท ความดัน หัวใจ ระบบหายใจ สายตา ตระคริว ลมชัก และ ปวดสันหลัง คนวันจันทร์ บอกแล้วว่าดวงจันทร์ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ไง มืดกับสว่างแต่ไม่ใช่ว่าคนเกิดวันจันทร์จะมีนิสัยไม่ดีด้านมืดนะจ๊ะ แต่กลับตรงกันข้ามในบางด้านโดดเด่น คนที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนที่ไม่ใจร้อนเหมือนคนวันอาทิตย์แต่ออกแนวโลเลไปมากว่า จะตัดสินใจอะไรได้สักอย่าง ตัดสินใจไม่ค่อยเก่งเดี๋ยวเอาเดี๋ยวไม่เอา ไม่คอยเชื่อมั่นในตัวเอง มองโลกในแง่ดี มักถูกหลอกได้ง่าย ๆ และบ่อย ๆ ก็บอกแล้วไงว่าดวงจันทร์มักเกี่ยวข้องกับน้ำขึ้นน้ำลงและอารมณ์ของมนุษย์ คนเกิดวันจันทร์จึงเอาแน่ไม่ค่อยได้เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เจ้าอารมณ์ขี้เกรงใจ น้อยใจเอาแต่ใจ แสนงอน ขี้อิจฉา ใจอ่อน บอบบางไม่แข็งแรงเหมือนคนวันอาทิตย์ แต่การพูดจามักไพเราะเป็นที่น่าฟัง ไม่ชอบความรุนแรง มีความอ่อนโยนมากกว่า มีเสน่ห์น่ารักในตัว อย่างเห็นได้ชัด มีจิตใจไวต่อความรัก เจ้าชู้ มินิสัยคล้ายเด็กอยู่ในตัว คือ อยากรู้อยากเห็นอยากได้โน่นได้นี่ พอได้รู้ได้เห็นแล้วก็เบื่ออยากเล่นอย่างอื่น ๆ หรือมองหาของใหม่ แล้วก็เป็นคนสนุกสนานแจ่มใสร่าเริง อารมณ์ดี รักสนุก รักธรรมชาติ รักสวยรักงาม ร้องเพลงเก่ง โรแมนติก หน้าที่การงาน มักจะทำงานอะไรที่นุ่มนวล เช่น พยาบาล หรืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำ หรือธาตุเหลวต่าง ๆ หรือทำงานใกล้หรือในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับน้ำเป็นส่วนใหญ่ หรือ เกี่ยวข้องกับสาธารณะชน เพราะมีเสน่ห์ดึงดูด สีที่เกี่ยวข้อง สีขาว นวล สีครีม สีเหลือง สีไข่มุก สุขภาพ โรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง โรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าอก เต้านม และหลัง
โดย
สุเกียง
อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:50 pm
0
0
832 โพสต์
of 17
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
สุเกียง
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
Yahoo Messenger:
Send YIM message
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ พ.ค. 04, 2005 11:33 am
ใช้งานล่าสุด:
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 10:10 pm
โพสต์ทั้งหมด:
891 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.05% จากโพสทั้งหมด / 0.12 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว