Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา การอ่านเป็นสิ่งที่ดีครับ ยิ่งอ่านมากยิ่งได้กับตัวเองมากขึ้นด้วย ถือเป็นการเรียนรู้ การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป การเรียนรู้ทั้งสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ถูกจะทำให้เราเห็นเหรียญทั้งสองด้าน จะว่าไปแล้วมันไม่มีสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก ทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์ในตัวของมันเอง สิ่งที่เราคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเราอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นก็ได้ เพราะประโยชน์และจุดประสงค์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอย่าเพิ่งไปดูถูกหรือปรามาสเขา ถ้าให้ไก่มันเลือกระหว่างตัวหนอนกับทองคำหนึ่งก้อน คุณคิดว่าไก่มันจะเลือกอะไร แน่นอนว่าไก่มันคงไม่รู้จักทองคำแน่นอน ถ้าให้มันเลือกมันก็คงต้องเลือกตัวหนอนเพราะมันจะได้จิกกินอย่างอร่อย ไก่มันคงไม่สนใจทองคำและมันก็ไม่เห็นว่าทองคำมีประโยชน์อะไร และเราจะไปว่าไก่มันโง่ก็ไม่ได้เพราะประโยชน์ของไก่คือตัวหนอน ถ้าคนคิดว่าไก่มันโง่ที่ไม่เอาทอง ไก่มันก็คงคิดว่าคนคงโง่เช่นกันที่ไม่เอาหนอน โดย SGOLD พุธ มี.ค. 07, 2012 2:12 am

Re: หนังสือรวยหุ้นล้นฟ้าด้วยระบบคิดใหม่ โดยพิชัย จาวลา ผมก็เชื่อว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น วอร์เร็น บัพเฟ็ต จอร์จ โซรอส หรือแม้แต่ดร.นิเวศน์ ต่างก็นำเอาหลักการจิตทยามาเพื่อใช้ประกอบการลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน แต่พวกเค้าอยู่ในระดับที่ชำนาญแล้ว รู้ว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่คิดยังไง และสามารถเข้าใจพฤติกรรมของตลาดเป็นอย่างดี และไม่แน่ บางทีจตวิทยานี่แหละอาจจะเป็นความลับที่ทำให้บุคลคนนั้นประสบความสำเร็จเหนือคนหมู่มากก็ได้ ลองคิดง่ายๆครับ ในบทความของ วอร์เร็น บัพเฟ็ต หรือ ดร.นิเวศน์ ต่างก็สอนให้เราเลือกหุ้นที่มีกิจการที่ยอดเยี่ยม กำไรเติบโตสม่ำเสมอ มีผู้บริหารที่มีธรรมภิบาล และเราต้องเข้าใจในตัวกิจการหรือธุรกิจนั้นด้วย ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือหลักการที่ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะชนได้อ่านได้ศึกษา แต่คำถามของผมคือ ทำไมทุกคนในโลกถึงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกันหมดเพียงแค่ใช้หลักการข้างบนนี้ ทำไมในโลกยังมี คนรวยมากๆ คนรวย คนระดับกลาง คนจน และคนจนมากๆ ทำไมถึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง เงินในตลาดทุนมีอยู่มากมายมหาศาลแต่มันไปอยู่ตรงไหนล่ะทำไมมันไหลไปอยู่กับคนเพียงไม่กี่คน/กลุ่ม สุดท้ายอะไรคือความลับที่แท้จริงที่ทำให้นักลงทุนอย่าง วอร์เร็น บัพเฟ็ต จอร์จ โซรอส หรือแม้แต่ ดร.นิเวศน์ ประสบความสำเร็จ โดย SGOLD จันทร์ มี.ค. 05, 2012 1:38 am

Re: CEO ไทย ท่านไหนเก่งกว่าหรือพอๆ กับ Steve Jobs บ้างครับ? เรืิ่องใครเก่งกว่าใครโดยเทียบขนาดธุรกิจนั้น บางทีก็เหมือนกับที่นายห้างเก่งเทียม โชควัฒนาบอกว่าต้องเก่งบวกเฮง อย่างปู่บัฟเฟต์ก็บอกว่า ตัวเองที่รวยติดอันดับได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเกิดถูกจังหวะถูกที่ถูกเวลา อุปมาแบบชาวบ้าน สมมติไปเกิดกลางป่าเผ่าแอฟริกา จะให้มาเป็นผู้นำโลกนักลงทุนคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็อาจจะเด่นในหมู่เผ่าแอฟริกาที่อยู่นั้น เป็นนักสะสมวัวใหญ่เต็มท้องทุ่ง (วัวใช้เป็นเครื่องแสดงฐานะ ของทุนนิยมแบบเผ่าแอฟริกาหลายเผ่า) เหมืิอนกับที่ไทยเราเปรียบเพชรที่อยู่ในตม ต้องบังเอิญเป็นเพชรมีคนขุดถึงจะส่องแสงมีมูลค่าได้ ผมว่ามันคือจังหวะชีวิตบวกความสามารถต้องไปพร้อมๆ กันด้วย บางทีผู้นำองค์กรเล็กๆ ที่เราเห็น ถ้าบังเอิญจังหวะทำให้ไปได้โอกาสทำอะไรในองค์กรใหญ่ๆ หรือโอกาสได้สร้างอะไรใหญ่ๆ ก็อาจโดดเด่นได้... น้า Jobs นี่ แกคิดอะไรเองอยู่เรื่อยๆ เกิดในโลกเสรี ทุนนิยม เหมืิอนกับ Larry Page+Sergey Brin, Mark Zuckerberg, Bill Gates(+Paul Allen) อเมริกาโลกใหม่ที่มีคนพร้อมจะถ่ายโอนเงินลงทุนให้สร้างตัว แล้ว boost หรือเร่งขยายทุนให้ใหญ่โตได้ น้า Jobs+ Steve Vozniak ประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ได้ ถ้ามาเกิดเมืองไทยในเวลาเดียวกันนั้น คงได้แค่ขึ้นหน้าหนังสือ "ชัียพฤกษ์วิทยาศาสตร์" แล้วก็เงียบๆ ไป ชัียพฤกษ์วิทยาศาสตร์...คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักแล้ว เพราะปิดตัวไปแล้ว ยิ่งใหญ่เปรียบเสมือนไทยรัฐในวงการวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์ไทยสมัยนั้นนะครับ เห็นด้วยครับ เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเฮงด้วย ถึงจะประสบความสำเร็จ โดย SGOLD อาทิตย์ ส.ค. 28, 2011 9:39 pm

Re: มาดูดัชนี Nikkei ตลอดช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา ช่วงนั้นเป็นช่วง bubble ของญี่ปุ่นน่ะครับ ถามว่าญี่ปุ่นจะมีโอกาสกลับไปที่ 40000 จุดได้อีกมั้ย ผมว่ายากนะครับ แต่ถ้าจะกลับไปได้จริงคงใช้เวลานานทีเดียว ญี่ปุ่นตอนนี้เจอปัญหาต่างๆรุมล้อมที่แก้ได้ยากจริงๆ โดยเฉพาะค่าเยนที่แข็งขึ้นเรื่อยๆ การย้ายฐานการผลิตที่กำลังเกิดขึ้นเป็นกระแสอย่างรุนแรงทำให้การจ้างงานในญี่ปุ่นลดน้อยลงเรื่อยๆ กระทบกับการใช้จ่ายในประเทศมากๆ แต่ถ้าดูเป็นรายตัว ผมว่ามีหลายๆบริษัทที่น่าสนใจครับ ถ้าสนใจลงทุนในตลาด Nikkei จริงๆ ตอนนี้ก็อาจจะเป็นโอกาสก็ได้ครับ ลองมาคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ได้ที่ ห้องนั่งเล่น "Update ชาว VI ในญี่ปุ่น" ครับ :D ขอบคุณครับ โดย SGOLD ศุกร์ ส.ค. 12, 2011 10:32 pm

Re: เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง "ทำไมคนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเขาจะสามารถเข้ามาทำกำไรจากตลาดหุ้นได้ง่ายๆ มากว่าที่จะไปทำกำไรจากการประกอบธุรกิจหรือลงทุนในอสังหาฯ" ชอบประโยคนี้เพราะมันโดนตัวผมเอง แล้วหันมองย้อนกลับไปที่ผลงานที่ผ่านมาจึงพบว่าการทำกำไรจากตลาดหุ้นนี้มันยากจริงๆ โดย SGOLD เสาร์ ก.ค. 09, 2011 3:02 pm

Re: หนังสือเเกะรอยหยักสมอง รวยหุ้นหม่ืนล้าน ภาค2 ผมว่าความเห็นแตกต่างเกี่ยวกับหนังสือว่าดีหรือไม่ดีอันนี้ถือว่าไม่ผิด แต่การลามปามวิจารณ์ถึงพฤติกรรมหรืออุปนิสัยหรือชีวิตส่วนตัวของตัวบุคคล หรือคนที่เกียวข้องกับบุคคลนั้นหรือเว็ปไซต์อื่นผมว่าเป็นการไม่เหมาะมนะ ปล.ผมไม่ได้เกียวข้องกับ คนเขียนนะ ไม่เคยรู้จักกันด้วย แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อหาในการวิพากษ์วิจารณ์มันเลยเถิดไปถึงตัวบุคลลหรือเรื่องส่วนตัวเขาหรือเว็ปไซต์อื่น และอาจจะทำให้ thaivi โดนเพ่งเล็งก็ได้ โดย SGOLD เสาร์ ก.ค. 09, 2011 1:25 pm

Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว หลวงปู่ชา บอกว่า ผิดผู้อื่นเท่าภูเขา ผิดของเราเท่ารูเข็ม ไม่มีใครทำอะไรเราได้ ถ้าเรามีสติ รู้รำลึก คนที่เชื่อเค้าคนนั้น เพราะส่วนลึกก็เลือกเชื่อข้อมูลที่เค้าบอกโดยเห็นว่าเหมือน หรือเป็นอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น ถ้ามีคนท้วงก็แอบหมั่นไส้ หรือโกรธ ลองทำใจเป็นกลาง หรืออ่านร้อยคนร้อยหุ้นที่เราไม่ได้ถือ (ตัดอคติ) แล้วก็จะวิเคราะห์ได้ว่า ข้อความโพสต์ไหนคือ FACT ข้อความไหนเป็น OPINION อันไหนเป็น FACT ก็ควรหาข้อมูลสนับสนุนด้วยตัวเองก่อนเชื่อ แล้วก็จะลงทุนอย่างมีความสุข ขอพระคุ้มครอง :cool: :cool: :cool: อัตตา... มานะทิฎฐิ นี่ช่างน่ากลัวจริงๆ... อย่างพวกนี้ ทำไมไม่ไปอยู่ในห้องธรรมะ ผมอย่างรู้ว่าmodใช้สมองอันน้อยนิดตัดสินใจอย่างไร คนเราเมื่อโกรธแล้วไม่เห็นอะไรทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งธรรมมะยังไม่เว้น โดย SGOLD พุธ มี.ค. 02, 2011 9:50 am

Re: รวมหุ้น..ที่ทำให้VIต้องช้ำใจ tta เป็นหุ้นอนาคตไกลครับ อยู่โน้นนนนเลย มองเห็นกันยังครับ 55555 โดนมากๆ โดย SGOLD ศุกร์ ก.พ. 18, 2011 5:46 pm

Re: แปลกใจ ทำไมคนยอมซื้อหุ้นกันที่ 1000 กว่าจุด ต้องมองที่ภาพรวมครับ set 1000 แต่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นและทำกำไรดีกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร กำไร เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วและปีก่อนๆอย่างชัดเจน คนส่วนใหญ่ กลัว เพราะมีภาพอันโหดหร้ายติดตามาตั้งแต่อดีตซึ่งถ้าคุณย้อนกลับไปดูสมัยนั้นบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ผลประกอบการและกำไรแย่แต่ราคาหุ้นก็ขึ้นเอาๆจนไปที่ 1700 จุดอย่างไม่มีเหตุผล สำหรับผมเองชอบคำว่า กลัว จังครับ เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่ายังมีสิ่งๆนี้อยู่ในตลาด ตราบใดที่ตลาดยังมีความกลัวอยู่ ผมว่าเกมส์ก็ยังดำเนินไปเรื่อยมันยังไม่จบครับ เมื่อใดที่ตลาดหมดความกลัวเมื่อนั้นแหละครับหายนะ ใครจะเชื่อว่าดัชนีดาวน์โจน จะขึ้นมา 10000 กว่าจุดได้ ใครจะเชื่อว่า set จะ ขึ้นจาก 200 มาเป็น 1000(เพราะถ้ามีคนเชื่อแล้วทำไมในระหว่างนี้ถึงยังมีคนส่วนใหญ่ขาดและทุนหมดตัวบางคนถึงกับสังเวยชีวิตฆ่าตัวตายล่ะ) และถ้าหาก set จะขึ้น จาก 1000 ถึง 1700 ,2000 ,2500 ,3000 .........ก็คงจะมีคนส่วนใหญ่บอกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้ออยู่ดี แต่สิ่งที่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกย่อมมีการวิวัฒนาการตัวของมันเองไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้น โดย SGOLD อาทิตย์ ก.พ. 06, 2011 6:38 pm

Re: ไอสไตน์ นี้เขาเล่นหุ้นรึเปล่าครับ แล้วเขาชนะตลาดได้เปล่า ผมคิดว่าถึงไอสไตน์จะเล่นหุ้นแล้วแพ้ตลาดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะล้มเหลวอะไร เพราะในชีวิตของไอสไตน์ และอัจฉริยะหลายๆ คนที่ว่านี้ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติซึ่งมีคุณค่าเหนือกว่าการเล่นหุ้นได้กำไรและร่ำรวยอย่างมากมหาศาลแล้ว ดังนั้นเราไม่ควรไปมองว่าคน IQ สูงๆ ทุกคนจะต้องใช้ความฉลาดและเก่งเพื่อการหาเงินทั้งในตลาดหุ้นหรือด้วยวิธีต่างๆ ครับ เพราะแต่ละคนก็อาจจะมีเป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำในชีวิตที่แตกต่างกันครับ อย่างกรณีของโมสาร์ท ซึ่งเป็นอัจฉริยะทางดนตรี ในช่วงแรกของชีวิตก็ได้รับจ้างให้เขียนเพลงและบรรเลงเพลงจากราชสำนักและบรรดาเศรษฐีทั้งหลายซึ่งทำให้โมสาร์ทร่ำรวย แต่ในช่วงกลางถึงปลาย โมสาร์ทเห็นว่าการรับจ้างทำเพลงจากราชสำนักและเศรษฐีนั้นทำให้ตนเองไม่สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ โมสาร์ทจึงปฎิเสธรับงานจากราชสำนักและเศรษฐีทั้งหลายและหันมาทำงานเพลงเพื่อคนหมู่มากแทน เช่น ละครเร่ หรือโอเปร่า ซึ่งได้เงินน้อยกว่ามาก ทำให้โมสาร์ทต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ยากจนและต้องเสียชีึวิตด้วยความแร้นแค้น แต่ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลง classic ซึ่งเป็นอมตะ และสามารถนำมาเป็นดนตรีเพื่อบำบัดจิตใจและพัฒนาสมองสร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลังจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ซึ่งถ้าโมสาร์ทเลือกที่จะทำงานเพลงให้ราชสำนักและเศรษฐีต่อไป วันนี้เราคงจะรู้จักเพลงของโมสาร์ทน้อยกว่านี้หรือาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ครับ +A โดย SGOLD พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2011 9:29 am

Re: ใครว่างรบกวนช่วยผมวิเคราะห์และ Valuation หุ้นตัวนี้หน่อย ใครที่รู้และเต็มใจหรือมีจิตเมตตาจะช่วยแชร์หรือเสนอแนะหรือแนะนำวิธีการคร่าวๆให้น้อง(หรือพี่ก็ไม่รู้นะ)เค้าก็ได้มันก็ไม่เห็นเสียหายอะไรหนิครับ แต่ทำไมบางคนถึงได้โพสตำหนิหรือใส่อารมณ์ขนาดนั้นเดี๋ยวน้องเค้าเสียขวัญหมดหรอก คุยในบอร์ดเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่าไม่ต้องซีเรียสก็ได้มั้งครับ รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ ส่วนคนที่รู้แล้วท่านจะเต็มใจนำความรู้นั้นมาแชร์ในเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในบอร์ดก็แล้วแต่ท่าน ด้วยความหวังดีเช่นกัน โดย SGOLD พุธ พ.ย. 24, 2010 1:14 am