Re: ขอเชิญร่วมแสดงมุทิตาจิต แด่ ดร.นิเวศน์ 60 ปี ผ่านช่องทาง ขอร่วมแสดงมุทิตาจิต แด่อาจารย์ ดร.นิเวศน์ ที่ได้อุทิตตนในการให้ความรู้ด้านการลงทุนและการใช้ชีวิตที่ถูกต้องต่อสังคม คอยเตือนสติในการลงทุนตลอดมา ขอให้ อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจ อายุยืนยาวตราบนานเท่านาน โดย Visute ศุกร์ ส.ค. 16, 2013 6:40 am

Re: ฟรี! ระบบข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง อัตราส่วนงบการเงิน และข ขอบคุณมากครับ รบกวนด้วยครับ [email protected] โดย Visute เสาร์ พ.ค. 18, 2013 7:32 pm

Re: แชร์ประสบการณ์พยาบาลคนหนึ่งค่ะ(เล่นหุ้นแบบมนุษย์เงินเดือ เป็นกำลังใจให้พอร์ตโต ไวๆนะครับ ขอขอบคุณบ้าน VI แห่งนี้ด้วยคนครับ โดย Visute พุธ ส.ค. 03, 2011 9:53 pm

Re: อาชีพหลัก/งานประจำ กับ การลงทุน ส่งเสริมหรือขัดแย้ง ขอร่วมแชร์ประสบการณ์นะครับ ผมมีอาชีพหลักคือทำงานประจำเหมือนกันครับ ทำมาได้เกือบสิบปีแล้ว ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน สนใจทำธุรกิจ ได้รับแรงบันดาลใจจาก ท่าน ดร.นิเวศน์ จึงลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงานประจำ การหาข้อมูลและติดตามการลงทุนจะทำหลังเลิกงานเป็นหลัก เวลางานไม่สนใจติดตามยกเว้นเวลาพักเที่ยง เริ่มลงทุนมาได้ประมาณสองปี ยึดแนว VI ตั้งแต่ต้น ผมตอบแทนก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อชีวิต และ มีความสุขกับการลงทุนดีครับ โดย Visute อาทิตย์ เม.ย. 03, 2011 11:34 am

Re: สมุดเยี่ยมชมห้องบทความ ขอบพระคุณผู้รู้ ผู้ให้ทุกท่านนะครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง โดย Visute เสาร์ เม.ย. 02, 2011 3:27 pm

Re: คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ รวยอย่างพอเพียง โดย Visute ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 10:52 pm

Re: ขอคำแนะนำการลงทุน และการคำนวณ ความคาดหวังผลตอบแทน ตามที่ท่านอาจารย์นิเวศน์เคยให้ไว้ก็ประมาณ 10% ต่อปีครับ แบบคอนเซอร์เวทีฟหน่อย แต่ถ้าเก่งมากก็อาจจะคาดหวังที่ 15-20% ครับ แต่ส่วนตัว ขอทำให้ได้ปีละ 10% ก็พอใจแล้วครับ โดย Visute พุธ ก.พ. 16, 2011 5:32 pm

Re: ขอคำแนะนำการลงทุน และการคำนวณ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ก็จะได้ตามที่คำนวนนะครับ แต่ว่า ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อาจจะได้มากกว่าที่ คาดไว้มากๆ หรืออาจจะขาดทุนมากๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับหุ้นที่คุณเลือก และความรู้ของเราเอง พื้นฐานหุ้นเปลี่ยนไปได้เสมอ ลงทุนในความรู้เยอะๆ ก่อนนะครับ แล้วก็ปฏิบัติในการลงทุนอย่างระมัดระวังครับ ผมเองก็เป็นมือใหม่ ระวังแบบสุดๆ เลยครับ โดย Visute อังคาร ก.พ. 15, 2011 5:42 pm

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever) ขอผ่าน ล้านแรกในชีวิตให้ได้ก่อนครับ :D โดย Visute เสาร์ ม.ค. 08, 2011 11:52 am

Re: เหตุผลที่ผมชอบวันจันทร์ ? ผมไม่ค่อยชอบ วันจันทร์เท่าไร เพราะมนุษย์เงินเดือนมักจะไม่ชอบวันจันทร์ แต่ชอบวันศุกร์ ครับ :lol: แต่ผมชอบที่จะได้อ่านบทความ อ.นิเวศน์ เหมือนคุณครับ โดย Visute ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 10:29 pm

Re: ชีวิตคือการเดินทาง ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วซึ้งมากครับ ผมยังคงต้องค้นหาต่อไปครับ โดย Visute อังคาร ม.ค. 04, 2011 5:18 pm

Re: ชีวิตคือการเดินทาง เงียบมากเลยครับ โดย Visute จันทร์ ม.ค. 03, 2011 10:26 pm

Re: พรปีใหม่จาก ดร.ไพบูลย์และรายการ Money Talk ครับ สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้อาจารย์ทุกท่าน มีความสุขตลอดปีใหม่ และ ปีต่อๆ ไปนะครับ ขอให้รายการ Money talk อยู่คู่เมืองไทยให้ความรู้แก่ผู้สนใจอีกนานแสนนานนะครับ โดย Visute อาทิตย์ ม.ค. 02, 2011 4:01 pm

MBA Finance กับการลงทุน ความเห็นของผม การลงทุนแนว VI เป็นแนวการลงทุนที่ต้องวิเคราะห์กิจการ เพื่อร่วมทำธุรกิจ ซึ่งการเรียน MBA ทำให้มีความรู้พื้นฐานในการบริหารกิจการครอบคลุมกลยุทธ์ที่กิจการต้องดำเนินการเช่น การตลาด การเงิน บัญชี บุคคล การผลิต การบริหารต้นทุน กลยุทธ์ จะทำให้ช่วยให้เราลดความเสี่ยงในการลงทุน และประสบความสำเร็จได้ โดย Visute เสาร์ พ.ย. 13, 2010 4:07 pm

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น ผมเคยโพสต์ข้อความข้างใต้นี้ไว้เมื่อตอนกระทิงคึกสุดขีดรอบที่แล้ว "ผมถือว่า ทุกคนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นคือ นักเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนทั้งสิ้น จะต่างกันตรงที่ แนวทางนักลงทุนก็คือ การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงิน ที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัทหรือผลประกอบการ ส่วนแนวทางเก็งกำไรก็คือ การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการซื้อตามข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าววงใน และกราฟแท่ง กราฟเส้น ที่ชี้ให้เห็นแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว ช่วงนี้เกมล่าส่วนเกินทุนคึกสุดขีด เพราะมีเงินก้อนใหม่ๆซึ่งทนดอกเบี้ยเงินฝากถูกๆไม่ได้ ตามเข้ามาเล่นเกมแบบเงินต่อเงิน แรงกรรมแห่งความโลภ จึงสามารถเหวี่ยงราคาหุ้นไปมา แบบไม่สนใจผลประกอบการเท่าไร ตอนนี้ หุ้นไม่มีคำว่าดีหรือเน่า มีแต่ขึ้นหรือลง แล้วแต่ว่าคนจำนวนน้อยที่มีเงินมาก (ต่างชาติ กองทุน เซียนหุ้นรายใหญ่) จะเลือกหยิบไพ่สำรับไหนขึ้นมาเล่น แล้วทำให้คนจำนวนมากที่มีเงินน้อยเล่นตาม ดังนั้นในภาวะกระทิงดุ แนวทางการเล่นหุ้นแบบนักลงทุน จะเสื่อมความนิยมลงไปบ้าง เพราะคำว่าหุ้นดีหรือหุ้นเน่า สำคัญน้อยกว่าคำว่าหุ้นขึ้นหรือหุ้นลงมาก ซึ่งถ้าผมตามเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรว่าขึ้นหรือลง วิธีเดียวที่ผมคิดว่าจะเอาตัวรอดได้ก็คือ ควบคุมปริมาณความโลภด้วยวิธีการทำคลายเครียดเรโช แต่กับการเล่นเกมล่าส่วนเกินทุน ด้วยการดูกระแสเงินที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัท ถ้าเราดูเป็น แล้วเอามาเทียบกับราคาหุ้นในตลาดให้เหมาะสม ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า เราจะเจ๊งหุ้นได้ไง ที่สำคัญเราก็ไม่ต้องคอยจำกัดปริมาณความโลภ เพราะเงินลงทุนของเรา จะเหวี่ยงไปตามแรงกรรมของผลประกอบการ ไม่ใช่แรงกรรมแห่งความโลภของผู้คนในตลาดหุ้น " ขอบคุณมากครับ โดย Visute พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2010 5:16 pm

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร ถ้าเช่นนั้นแล้ว มีโอกาศตั้งเป็น "กองทุน VI " เพื่อรวมทุนและลงทุนไปในแนวทางเดียวกันมั๊ยครับ ผมว่าอาจเป็นไปได้ยากครับ เพราะว่า พวกเราส่วนใหญ่จะชอบเชื่อตัวเราเองมากกว่า ถ้าตั้งเป็นกองทุนจะต้องมีผู้บริหารกองทุน มีคณะกรรมการ และต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ทำงาน สุดท้ายก็จะเหมือนการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งผมว่า ไม่ใช่แนว VI ครับ โดย Visute จันทร์ พ.ย. 01, 2010 9:08 pm

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร โลกในมุมมองของ Value Investor 30 ตุลาคม 53 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในเรื่องของการลงทุนหรือเล่นหุ้นนั้น มีเทคนิคหรือวิธีการหลายอย่างที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น ลงทุนแบบ Value หรือเน้นคุณค่า เล่นหุ้นแบบดูกราฟแนวรับแนวต้าน หรือเล่นหุ้นโดยวิธีการ ปั่นหุ้น เป็นต้น คำถามก็คือ เล่นหุ้นด้วยวิธีไหนดีที่สุด? ก่อนที่จะตอบคำถามนั้น ผมคงต้องเติมข้อความในวงเล็บว่า ดีที่สุด (โดยเฉลี่ย) เพราะในแต่ละเทคนิคหรือวิธีการนั้น คนที่ทำได้ดีอาจจะเก่งมากจนทำได้ดีกว่าคนที่เก่งที่สุดในอีกวิธีหนึ่ง แต่โดยเฉลี่ย ซึ่งรวมถึงคนที่ไม่เก่งทั้งหมดด้วยแล้ว วิธีนั้นอาจจะแพ้การลงทุนอีกวิธีหนึ่งที่คนเก่งมากกับคนที่เก่งน้อยได้ผลตอบแทนไม่ต่างกันมากก็ได้ ประเด็นต่อมาก็คือ ในการที่จะบอกว่าวิธีไหนดีกว่าวิธีอื่นนั้น เราจำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อที่จะพิสูจน์ ดังนั้น วิธีการลงทุนหรือเล่นหุ้นบางอย่างที่หาข้อมูลไม่ได้ เช่น การ ปั่นหุ้น นั้น เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นวิธีที่ดีแค่ไหนในการทำกำไรแม้ว่าเราจะเชื่อว่าเป็นวิธีที่น่าจะได้ผลตอบแทนสูงสุด อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายและผมไม่แนะนำให้ทำ มันก็เหมือนกับถามว่า วิธีทำงานหาเงินที่ได้เงินมากและเร็วที่สุดคืออะไร? ซึ่งคำตอบของเราอาจจะบอกว่า การ คอร์รัปชั่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนสามารถทำได้ เช่นเดียวกับการ ปั่นหุ้น ที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ในการศึกษาเรื่องของเทคนิคหรือวิธีการในการลงทุนหรือเล่นหุ้นนั้น ในเชิงวิชาการเราสามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มหลัก ๆ 4 วิธีด้วยกันคือ วิธีแรก เป็นกลุ่มของนักเล่นหุ้นที่ใช้ข้อมูลเพียง 2 อย่าง นั่นก็คือ ข้อมูลราคาหุ้นกับปริมาณการซื้อขายของหุ้น กลุ่มนี้จะนำข้อมูลทั้งสองอย่างมาเขียนเป็นกราฟหรือทำเป็นจุดอะไรต่าง ๆ จากนั้นก็อาจจะคำนวณหาราคาเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลาหรือลูกเล่นต่าง ๆ แล้วก็กำหนดจุดซื้อขายหุ้น ด้วยวิธีนี้ พวกเขาคิดว่าจะสามารถทำกำไรได้ดีกว่าปกติ เราเรียกพวกเขาว่า นักเล่นหุ้นแบบเท็คนิค การศึกษาจากตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างในสหรัฐพบว่า การเล่นหุ้นแบบเท็คนิคไม่สามารถเอาชนะดัชนีตลาดได้ ปัญหาใหญ่ก็คือ พวกเขาต้องเสียค่าคอมมิชชั่นสูงเนื่องจากวิธีนี้มักทำให้ต้องซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้น ตามสัญญาณ ค่อนข้างมาก ในตลาดหุ้นไทยผมไม่แน่ใจว่ามีคนทำการศึกษาหรือไม่ นอกจากนั้น คนที่เป็นนักเท็คนิคเองผมก็คิดว่ายังมีไม่มากนัก วิธีที่สองก็คือการลงทุนแบบอาศัย ข้อมูลพื้นฐาน ทั้งหลายที่เปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเงิน และข้อมูลผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นด้วย กลุ่มคนที่ใช้วิธีนี้ในการลงทุนนั้นกว้างขวางมาก ซึ่งรวมไปถึงคนที่บริหารกองทุนรวมจำนวนมหาศาล จากการศึกษาในตลาดหุ้นสหรัฐเช่นเดียวกันก็พบว่า นักลงทุนที่ใช้วิธีการนี้ก็แพ้ดัชนีตลาดแบบ ราบคาบ ประเด็นสำคัญก็คือ การทำแบบนี้ต้องค้นคว้าและศึกษาข้อมูลมากมาย ต้องใช้คนที่จบการศึกษาทางด้านการเงินระดับ MIT มาทำงานทำให้มีต้นทุนในการบริหารพอร์ตสูงไม่คุ้มค่า วิธีลงทุนโดยอาศัย ข้อมูลพื้นฐาน นี้ มีวิธีการ ย่อย แตกแขนงออกมานั่นก็คือ วิธีการที่เรียกว่า Value Investment หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า วิธีนี้เน้นที่การลงทุนในหุ้นที่มี ราคาถูกเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับพื้นฐานของกิจการ การศึกษาจากตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นไทยด้วยพบว่า การลงทุนแบบ VI นั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมกว่าดัชนีตลาดมากในระยะยาว ว่าที่จริงในตลาดหุ้นไทยนั้น การลงทุนแบบ VI ให้ผลตอบแทนโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้น ในขณะที่ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ในบางช่วงบางตอน การลงทุนแบบ VI ก็แพ้ตลาดเหมือนกันแม้ว่าในระยะยาวแล้วโดยเฉลี่ยจะเหนือกว่ามาก วิธีที่สามคือการลงทุนหรือเล่นหุ้นโดยใช้ ข้อมูลภายใน ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน วิธีนี้นั้น แน่นอน คนที่จะรู้ก็มักจะเป็น คนใน ที่เป็นผู้บริหารของบริษัท คนกลุ่มนี้มักจะมีจำนวนไม่มาก การศึกษาในสหรัฐเคยพบว่าพวกเขาสามารถทำกำไรได้ดีกว่าดัชนีหุ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ลงทุนตาม คนใน ผมก็เชื่อว่าคงไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากกว่าเขาจะรู้ ราคาหุ้นก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว สุดท้ายคือวิธีการลงทุนแบบ Passive หรือการลงทุนโดยการกระจายการถือครองหุ้นตามดัชนีพูดง่าย ๆ ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนหุ้นตามดัชนี กลุ่มคนที่ใช้วิธีนี้มีความเชื่อว่าตลาดหุ้นนั้น มีประสิทธิภาพ ราคาหุ้นในตลาดสะท้อนคุณค่าของกิจการหมดแล้วจึงมีราคาที่เหมาะสม ดังนั้น จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเลือกหุ้น ไม่ว่าจะใช้วิธีการหรือเท็คนิคอะไร วิธีการที่ดีกว่าก็คือ ซื้อหุ้นกระจายกันไปทุกตัวในตลาดและได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีโดยที่ต้นทุนในการบริหารกองทุนนั้นต่ำมาก ซึ่งผลการศึกษาในตลาดหุ้นสหรัฐพบว่า วิธีนี้ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับวิธีการลงทุนแบบอื่น ๆ ที่กล่าวมา นั่นอาจจะเป็นผลที่เกิดขึ้นในตลาดสหรัฐที่ซึ่งตลาดหุ้นอาจจะ มีประสิทธิภาพสูง อันเป็นผลจากการที่มีนักลงทุนและนักวิเคราะห์ที่มีความสามารถสูงมากมาย ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวได้รวดเร็วตามพื้นฐานของมันและทำให้หาหุ้นที่ราคาผิดไปจากพื้นฐานได้ยาก แต่ในตลาดหุ้นไทยเองนั้น ก็อาจจะมีข้อสงสัยว่าตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน? คนจำนวนมากโดยเฉพาะที่เป็น VI เชื่อว่ายังมีหุ้นถูกและดีที่เป็นหุ้น VI อีกมากและเรายังสามารถใช้หลักการของ VI ทำผลตอบแทนได้โดดเด่นอยู่ ผมเองเชื่อว่า VI นั้น เป็นวิธีการลงทุนที่เหนือกว่าการลงทุนแบบอื่น ๆ มองจากประสบการณ์ส่วนตัวและที่ได้สัมผัสกับนักลงทุนจำนวนมาก เหนือสิ่งอื่นใด การศึกษาก็พบว่ามันเป็นเท็คนิคที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นมากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนที่เก่งมาก ๆ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เท็คนิคนั้นก็จะด้อยประสิทธิภาพลงไปเรื่อย ๆ เพราะหุ้นที่ Undervalue หรือหุ้นที่มีราคาถูกก็จะถูกไล่ซื้ออย่างรวดเร็วจนมีราคาแพงขึ้นและทำให้คนที่เข้าไปลงทุนตามไม่ได้กำไร สุดท้าย ราคาหุ้นส่วนใหญ่หรือเกือบทุกตัวก็จะมีราคาที่เหมาะสมซึ่งทำให้เราไม่สามารถหากำไรได้ง่าย ๆ ก่อนจะจบผมอยากเพิ่มเติมประเด็นที่มักจะมีการถกเถียงกันว่าการใช้วิธีการลงทุนแบบเท็คนิค หรือการลงทุนแบบ VI ใครดีกว่ากัน? หรือ VI ควรนำวิธีการของเท็คนิคมา เสริม ไหม? คำตอบสั้น ๆ ของผมก็คือ ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นนั้น เป็นข้อมูลสาธารณะที่นักลงทุนในกลุ่มสองสามารถใช้ได้อยู่แล้ว ที่จริง VI ดัง ๆ หลายคนก็ใช้ข้อมูลทางเท็คนิค ประเด็นสำคัญที่จะแบ่งว่าคุณอยู่กลุ่มไหนจึงน่าจะอยู่ที่ดีกรีของข้อมูลที่ใช้มากกว่า อย่างตัวผมเองนั้น ผมใช้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาและปริมาณการซื้อขายน้อยมาก ผมพอใจที่จะอยู่กับข้อมูลพื้นฐานเป็นหลัก แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุด คนที่จะพูดแบบนั้นได้ควรจะมีข้อพิสูจน์ โดย Visute อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 7:18 pm

นักลงทุนที่เยี่ยมยอดจะต้องเรียนอะไร?(วิชาลงทุน) ผมคิดว่า จบสาขาไหนก็ได้เพราะว่าคนที่จบสาขาเดียวกันก็มีความคิดแตกต่างกัน แต่ผู้ที่จะประสบความสำเร็จ จะต้องมีหลักคิดที่มีตรรกะ เหตุผล และ สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองให้อยู่ในเหตุผลได้ โดย Visute อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 10:32 am

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันผมคิดว่า การลงทุนแนว VI ได้รับการพิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จได้ ตอบโจทย์ชีวิตได้ เป็นความสำเร็จที่อาศัยความรู้และเหตุผลของเราเองเป็นหลัก ไม่ได้อาศัยโชค และมีตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ รวมถึงความรู้จากแหล่งต่างๆเราทำได้ง่ายขึ้น มีการถ่ายทอดความรู้กัน เผยแพร่กัน ทำให้เรารู้มากขึ้น และมีตัวอย่างมากขึ้น และความสำเร็จของเราค่อยๆเห็นผลเรื่อยๆ  ทำให้นักลงทุนแนวนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ... ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ โดย Visute เสาร์ ต.ค. 30, 2010 9:51 am

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอรบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ [email protected] โดย Visute พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2010 9:43 pm

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร ในเว็บ มีวีไอเหมือนกัน ถือหุ้นเหมือนกัน ยังซื้อขาย ไม่เหมือนกันเลย บางคนบอก ราคานี้ซื้อได้ บางคนบอกว่า ราคาถึง fair แล้วไรเงี้ยนานาจิตตัง อันนี้เห็นด้วยครับ โดย Visute พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm

หุ้น วัสดุก่อสร้าง-อาหาร ต้อนรับหลังอุทกภัยสิ้นสุด ได้เงินจากบริษัทที่ได้ผลประโยชน์ อย่าลืมบริจาคให้พี่น้องผู้ประสบภัยด้วยนะครับ อานิสงค์จะได้มากขึ้นๆ โดย Visute พุธ ต.ค. 27, 2010 7:53 pm

ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าราคาหุ้นแต่ละบริษัทน่าจะไม่มีถูกมาก แต่จะเป็นราคาที่เหมาะสม ราคาจะเพิ่มหรือลดจะเป็นไปตามผลประกอบการของบริษัท โดย Visute อังคาร ต.ค. 26, 2010 10:40 pm

ขออำลาครับ ขอบคุณครับ ที่พี่ได้เสียสละเวลามาทำงานตรงนี้ พอร์ตโตขึ้นเยอะๆ นะครับ โดย Visute อังคาร ต.ค. 26, 2010 10:32 pm

หนังสือประวัติ ของ ดร.นิเวศน์ ครับ มีคนเขียนแล้วครับ อยากได้มานานแล้วครับ ไม่ควรพลาด โดย Visute พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 9:50 pm

1 ล้านบาทแรกในชีวิต ผมว่าคนที่ถือหุ้นคนสุดท้าย แล้วบริษัทเจ้ง คนนั้นแหละครับ จะขาดทุน แต่อาจจะไม่เท่ากับผู้ถือหุ้นคนแรก เพราะเราให้มูลค่าบริษัทตอนเริ่มต้น และตอนสุดท้ายไม่เท่ากัน มันจึงไม่เท่ากับ 0 sum game โดย Visute ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 1:01 pm

MONEY TALK - กูรูภูธร ขอบคุณครับ ชอบมากเลยครับ อยากดูเพิ่มอีก ที่เกี่ยวกับการเสวนา money talk จะหาได้ที่ไหนครับ พยายาม search แล้วแต่หาไม่ได้ครับ โดย Visute ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 12:41 pm

อยากให้พี่ๆจัดคอร์ส valuation (การหามูลค่าหุ้น) ต้องคิดเรื่องการบริหารจัดการด้วยครับ ว่าจะเรียนกันอย่างไร ที่ไหน มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ใครจะเป็นผู้จัด อะไรทำนองเนี้ยครับ โดย Visute ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 12:39 pm

น่าจะมีอย่างนี้มานานแล้ว เห็นด้วยครับ โดย Visute พฤหัสฯ. ก.ย. 09, 2010 9:47 pm

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกหุ้นเข้าพอร์ตทนทานต่อสภาวะตลาดหรือไม่ครับ และสามารถกลับมาได้ไกลกว่าเดิม โดย Visute อังคาร ก.ย. 07, 2010 5:19 pm

ทำไม่โบรกเกอร์ ถึงเกลียดนักลงทุนแนว VI ของผม ได้คุยกับ Mkt. เพียงตอนเปิดพอร์ต และหลังจากนั้นก็ตอนโอนเงินเท่านั้นเหมือนกันครับ ตอนเปิดพอร์ตใหม่ๆก็ทดลองขอคำแนะนำแต่คำตอบที่ได้มาเหมือนกับว่าไม่มีความรู้และไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์มา ตอบเลี่ยงๆไปอย่างนั้นเอง ก็ผลประโยชน์ของเรากับเขาสวนทางกัน การปฏิบัติเลยสวนทางกันด้วย โดย Visute อังคาร ส.ค. 31, 2010 10:55 pm

สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่างไร นอกจากถือเงินเย็นแล้ว  สำหรับ  หุ้นกู้ หรือ ตราสารหนี้ ไม่ทราบมีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ ในความเห็นผม คิดว่า หุ้นกู้ หรือตราสารหนี้จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ถ้าลงทุนในหุ้นยังหาหุ้นปันผลที่ดี สภาพคล่องพอใช้ได้ และราคายังพอลงทุนได้นะครับ โดย Visute อังคาร ส.ค. 31, 2010 10:42 pm

สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่างไร คิดว่าถ้าหาหุ้นดีราคาถูกไม่ได้ คงต้องเปลี่ยนเป็นหาหุ้นดีราคาเหมาะสม ผลตอบแทนลดลงนิดหน่อย ค่าเผื่อความปลอดภัยลดลง แต่ดีกว่าถือเงินสดที่ไม่ได้ผลตอบแทนเลย ไหมครับ โดย Visute อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 10:24 pm

ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงขาดทุนในการลงทุนได้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ โดย Visute อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 9:53 pm

หุ้นถูก เต็มตลาด ราคาที่เหมาะสมของแต่ละคนคงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับมุมมอง ความคาดหวังผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แต่ละคนมองไม่เท่ากัน แต่สภาวะตลาดที่ร้อนแรงเราควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนใช่ใหมครับ อย่างที่บัพเฟตต์เคยแนะนำไว้ว่า ช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่โลภ เราควรกลัว ช่วงที่คนส่วนใหญ่กลัว เราควรโลภ โดย Visute อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 9:47 pm

สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่างไร i will keep it in money market fund. In the meantime, use the time to analyze or find stock to invest, go to the opp. day,etc. เห็นด้วยครับ ควรใช้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาหาหุ้นดีราคาถูก และเข้าร่วมงาน opp. day ครับ แต่ผมไม่ได้ย้ายเงินไปในตลาดเงิน แต่ว่าถือเป็นเงินสดไว้รอโอกาส ถ้ามีเมื่อไรก็เข้าได้ทันทีครับ ปล. คุณ Sufficient อยู่ต่างประเทศหรือครับ โดย Visute เสาร์ ส.ค. 28, 2010 9:46 pm

แชร์ .... ปรากฏการณ์เว็บหุ้นวงแตก ... อันนี้เรียกว่า กระทู้คุณค่า เป็นจริงเสมอ ทนต่อกาลเวลา ช่วยกันใช้ ดูแล รักษา พัฒนา กันนะครับ โดย Visute เสาร์ ส.ค. 28, 2010 9:37 pm

+++ช่วยรักษาเวปไซต์คุณภาพให้ยั่งยืนหน่อยครับ+++ ทุกที่ที่มีคนดีมากกว่าคนไม่ดี ความดีก็จะมีพลังมากกว่า และ ยังรักษาตัวมันเองอยู่ได้ต่อไป คนไม่ดีจะอยู่ไม่ได้และหายไปเอง ขอให้เวปแห่งนี้อยู่คู่ชาว VI ต่อไปนะครับ โดย Visute เสาร์ ส.ค. 28, 2010 9:30 pm

หุ้นถูกๆ อยู่ที่หนายย รอแล้วรออีก ก็ไม่ลงมาให้เราเก็บซะที อย่าร้อนกระเป๋าครับ หุ้นไม่เคยขึ้นอย่างเดียวแล้วไม่มีตก เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ โดย Visute เสาร์ ส.ค. 28, 2010 9:17 pm

อยู่ไม่สุข...จริงๆ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ครับ ผมเป็นน้องใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการเก็งกำไร เข้าตลาดหุ้นก็ใช้แนวทาง VI เลย ดังนั้น บทความนี้ช่วยให้ผมต่อยอดได้ครับ โดย Visute อังคาร ส.ค. 24, 2010 10:27 pm

บริษัทที่ไม่ชอบปันผล แต่ชอบเอาไปลงทุนต่อเหมือน Berkshire ??? MINT ครับ โดย Visute อังคาร ส.ค. 24, 2010 10:17 pm

สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่างไร ตอนนี้ขายตัวที่คิดว่าราคาขึ้นมาเกินพื้นฐานบ้างแล้วครับ รอจังหวะซื้อเพิ่มตัวที่ถืออยู่แต่ราคายังไม่แพงครับ โดย Visute อังคาร ส.ค. 24, 2010 10:12 pm

สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่างไร สภาวะแบบนี้ หาหุ้นถูกไม่ค่อยมีเลยครับ ควรอยู่เฉยๆน่าจะดีกว่าใช่ไหมครับและก็รอจังหวะดีๆ ตอนที่ราคาเหมาะสมค่อยลงทุนต่อ เพื่อนๆ มีความเห็นว่าอย่างไรครับ โดย Visute จันทร์ ส.ค. 23, 2010 9:55 pm

บทวิเคราะห์ของบริษัทใด แม่นที่สุด!!!!! ศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลครับ ตัวเราเองเป็นคนตัดสินใจ โดย Visute ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 10:14 pm

หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI ในความเห็นผม หุ้นทุกตัวมีพื้นฐานของมัน คำว่าพื้นฐานของหุ้น น่าจะหมายถึงมีความสามารถในการทำกำไร อัตราเติบโตของกำไร ความสามารถในการสร้างและรักษาระดับยอดขาย (DCA) และ ความมั่นคงของบริษัท มีหนี้มากหรือน้อย ดังนั้นผมคิดว่า หุ้นมีพื้นฐานของมัน แต่คำว่าหุ้นพื้นฐานที่ใช้กัน ก็คือหุ้นที่มีพื้นฐานดี นั่นก็คือสามารถทำสิ่งที่ได้กล่าวไว้ด้านบนได้ดีนั่นเอง โดย Visute พฤหัสฯ. ส.ค. 19, 2010 11:50 pm

สวัสดีค่ะ เริ่มสนใจการลงทุนแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ การเดินทางต้องมีจุดหมาย และแผนที่ แผนที่ ที่จะไปให้ถึงจุดหมาย ผมคิดว่าอยู่ใน เวบนี้นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ โดย Visute พฤหัสฯ. ก.ค. 01, 2010 12:37 pm

ขอแนะนำตัวครับ เป็นสมาชิกใหม่ ต้องทำไงบ้าง น้องใหม่เหมือนกันครับ แนะนำตัวครับ แนว VI เป็นแนวที่ยึดถืออยู่ครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ โดย Visute ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 10:22 pm