Re: หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์ จากภัยแล้งครับ wiik แบบ ฝันลอยๆ ทำท่อน้ำ ถ้าทำรัฐ จะแก้เรื่อง น้ำแล้ง ถ้ารัฐ จะเลือก wiik จะเห็นได้ว่า มันหลายถ้า ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจนะคับ ลองเข้าไปดูสินค้าและบริการของ Wiik ก่อนซิครับก่อนตัดสินใจ ผมว่าเขาอยู่ใน Field เรื่องน้ำเป็นหลักเลยนะครับ http://www.wiik-hoeglund.com/products-services/ ปีที่ผ่านมาเพิ่งเปลี่ยน ผบห. จากฝรั่งฟินแลนด์ทำขาดทุนมาตลอดหลายๆปี พอเปลี่ยน ผบห. เป็นคนไทยปีที่แล้วก็ทำกำไรเป็น กอบเป็นกำ แถมปันผลครั้งแรกในรอบ 7 ปีเลย......สินค้าของเขาก็เป็น Brand ดังในวงการ คุณภาพสูง ราคาค่อนข้างจะแพง แต่ทนทานมีคุณภาพ......ลูกค้าส่วนใหญ่ภาครัฐเขาก็พวกกรมชล การประปา การไฟฟ้า โรงไฟฟ้า..... ถ้า รัฐทุ่มงบด้าน บริหารจัดการน้ำและภัยแล้ง ยังไงก็น่าจะมีเอี่ยวไม่มากก็น้อยนะครับ ผมว่า....เป็นความเห็นส่วนตัวครับ :B โดย Joi เสาร์ มี.ค. 26, 2016 4:24 pm

Re: หมดยุค"โรงไฟฟ้าชีวมวล" เจ้าของแห่ขายทิ้ง คุณVunny. นี่ ผมยอมรับว่ารู้เรื่องอ้อยและโรงงานน้ำตาลดีมากเลยครับเท่าที่เคยอ่านที่ Post ผมเดาว่าน่าจะทำงานเกี่ยวข้องกับโรงงานน้ำตาลแน่เลยครับ ส่วนผมอาศัยสอบถามคนใน ธุรกิจน้ำตาลที่สนืทๆกันมาอีกทีครับ :mrgreen: โดย Joi พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2015 6:55 pm

Re: หมดยุค"โรงไฟฟ้าชีวมวล" เจ้าของแห่ขายทิ้ง รฟฟชีวมวลในไทย มีประโยชน์มากนะครับ เพราะเป็นการช่วยภาคเกษตรทางอ้อม และช่วยแก้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย รฟฟชีวมวลที่มีปัญหา คือพวกที่ไม่ได้มีวัตถุดิบของตัวเอง และไม่สามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่งได้ ทำไปก็อยู่ไม่ได้ เช่นพวก รฟฟที่ใช้แกลบ เป็นต้น นี่แทบจะเจ๊งหมด........แต่คนที่ เขาพร้อมเรื่องวัตถุดิบ. และสามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่งได้ดีจะได้ประโยชน์ครับ และเป็นโอกาสที่ดีจาก room ที่ว่างขึ้น อย่าเหมารวมครับ นี่เป็นโอกาสที่เปิดมากสำหรับผู้ที่พร้อมจริงๆเท่านั้น โดยเฉพาะพวกโรงน้ำตาลครับ :mrgreen: โดย Joi อังคาร ก.ย. 08, 2015 11:42 pm

Re: +จะโพสรูปต้องทำอย่างไรครับ+ [img]<a%20href="http://picture.in.th/id/26e6e4603d07aa097abb23e62309889c"%20%20target="_blank"><img%20border="0"%20src="http://image.free.in.th/v/2013/tt/150727103837.JPG"%20alt="images%20by%20free.in.th"%20/></a>[/img] โดย Joi จันทร์ ก.ค. 27, 2015 10:38 am

Re: +จะโพสรูปต้องทำอย่างไรครับ+ http://picture.in.th/id/26e6e4603d07aa097abb23e62309889c โดย Joi จันทร์ ก.ค. 27, 2015 10:37 am

Re: +จะโพสรูปต้องทำอย่างไรครับ+ [img]<a%20href="http://picture.in.th/id/26e6e4603d07aa097abb23e62309889c"%20%20target="_blank"><img%20border="0"%20src="http://image.free.in.th/v/2013/it/150727103837.JPG"%20alt="images%20by%20free.in.th"%20/></a>[/img] โดย Joi จันทร์ ก.ค. 27, 2015 10:37 am

Re: +จะโพสรูปต้องทำอย่างไรครับ+ [img] [img]http://image.free.in.th/v/2013/it/150727103837.JPG[/img] [/img] โดย Joi จันทร์ ก.ค. 27, 2015 10:35 am

Re: +จะโพสรูปต้องทำอย่างไรครับ+ [img] [img]http://image.free.in.th/v/2013/tt/150727103837.JPG[/img] [/img] โดย Joi จันทร์ ก.ค. 27, 2015 10:34 am

Re: น้ำตาล เอทานอน ไฟฟ้า The future figures can be very different from what's seen in the past 2 years because the by-product is no longer a by-product. ผมชอบประโยคนี้ของคุณ offshore-engineer ครับ :mrgreen: โดย Joi อังคาร พ.ค. 19, 2015 9:36 pm

Re: น้ำตาล เอทานอน ไฟฟ้า ระบบแบ่งปันผลประโยชน์อ้อยน้ำตาลระหว่างชาวไร่อ้อย:โรงงานน้ำตาล=70%:30% อันนี้เป็นเฉพาะส่วนของน้ำตาลอย่างเดียวหรือรวมรายได้จากการขายโมลาสและไฟฟ้าด้วยครับ? (โมลาสและกากชานอ้อยเป็นทรัพยากรของชาวไร่อ้อยหรือของโรงงานน้ำตาลครับ) เท่าที่ทราบ ทุกอย่างที่ชาวไร่ได้ถูกรวมไว้ใน 70% นั้นแล้วครับ :B โดย Joi อังคาร พ.ค. 19, 2015 4:54 pm

Re: น้ำตาล เอทานอน ไฟฟ้า บังเอิญผมตามในส่วนข้อมูลของ BRR อยู่ เลยขอ Update ข้อมูลในตาราง BRR ของคุณ kaiyai99 บางส่วนซึ่งอาจไม่ Update นะครับ..... -Capacity ในการหีบอ้อยปัจจุบัน 20,000 ตัน/วัน -ไฟฟ้าปัจจุบันเซ็นสัญญาและ COD ขายได้แล้วทั้งหมด 2 โรง 16 MW และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 32 MW ภายใน 2 ปีข้างหน้า (ปี 59 1 โรง 8 MW และปี 60 อีก 1 โรง 8 MW ตามแผนของ BRR) -BRR รอการจัด Zoning ใหม่อยู่ อาจจะลุ้นได้สายส่งเพิ่มอีกเล็กน้อย ซึ่งถ้าบังเอิญได้มา ก็อาจใช้ Gas ที่เป็นผลพลอยได้จากการทำเอทานอล มาผลิตไฟฟ้าได้อีก 1 โรง ซึ่งจากการสอบถาม น่าจะทำได้อีกประมาณ 5-6 MW ครับ ข้อมูลของ BRR สามารถไปหาอ่านได้ในห้อง BRR ได้เลยครับ.......ส่วนของโรงงานน้ำตาลอื่นๆ ผมว่าก็สามารถดูได้ในห้องของโรงงานน้ำตาลนั้นๆครับ...... ประเด็นการเปรียบเทียบกันว่าโรงน้ำตาลไหนดีกว่ากัน อะไรทำนองนี้ผมว่าควรหลีกเลี่ยง ดังนั้นควรหาอ่านข้อมูลของโรงงานน้ำตาลแต่ละที่ และท่านนำขัอมูลเหล่านั้นมา รวบรวม แล้วทำการเปรียบเทียบด้วยตัวท่านเองน่าจะเป็นการดีที่สุดครับ...... :B :B :B โดย Joi จันทร์ พ.ค. 18, 2015 7:21 pm

Re: น้ำตาล เอทานอน ไฟฟ้า ราคาเอทานอลเดือนเม.ย.ดิ่งลง1บ. ผู้ผลิตลุ้นน้ำมันขาขึ้นใช้โซฮอล์เพิ่ม updated: 22 เม.ย 2558 เวลา 22:35:10 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ราคาเอทานอลเดือน เม.ย.หล่นอีก 1 บาท/ลิตร ตามราคาน้ำมันโลก ผู้ผลิตยังรับได้ที่ราคา 23 บาท/ลิตร เชื่อเร็ว ๆ นี้ ราคาน้ำมันจ่อปรับตัวขึ้น จี้ ก.พลังงานส่งเสริมพลังงานทดแทนต่อเนื่อง แนะรักษาส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 กับเบนซิน 95 ไว้ที่ 10 บาทดีที่สุด หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงต่อเนื่องมาแตะที่ระดับไม่เกิน 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำมันหันมาใช้น้ำมันเบนซิน 95 แทน เนื่องจากส่วนต่างราคาเมื่อเทียบกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์น้อยลง กระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลที่ล่าสุดการใช้ยังคงที่ระดับ 3.4 ล้านลิตร/วัน มาตั้งแต่ต้นปี จากกำลังผลิตทั้งระบบที่มีอยู่ 4 ล้านลิตร/วัน มีแนวโน้มว่าราคาเอทานอลจะลดต่ำลงรวมถึงอาจมีการกดราคารับซื้อรับซื้อวัตถุ ดิบทั้งกากน้ำตาลและมันสำปะหลังด้วย นายสิริวุฒิ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตเอทานอลไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" สำหรับการประมูลซื้อเอทานอลล่าสุดเดือนเมษายน 2558 ราคาเอทานอลจากทั้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาล (โมลาส) ลดลงประมาณ 1 บาท/ลิตร มาอยู่ที่ราคา 23-24 บาท/ลิตร ซึ่งมองว่าเป็นผลกระทบจากสถานการณ์น้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ผู้ผลิตเอทานอลจะต้องบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ระดับราคาดังกล่าวผู้ผลิตเอทานอลยังพอรับได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง (มันหัว) ที่ช่วงนี้มีผลผลิตออกมาค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง ทั้งนี้ มองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามที่มีการคาดการณ์ก่อน หน้านี้ที่ราคา 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และผู้ใช้น้ำมันจะหันมาเติมน้ำมันในกลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มมากขึ้นทั้ง E10, E20 และ E85 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานมีนโยบายที่จะยกเลิกน้ำมันเชื้อเพลิงบางประเภท เพื่อลดภาระให้กับบริษัทน้ำมันที่ต้องลงทุนเพิ่มถังน้ำมันใต้ดิน และเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 มากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้รอบด้าน หากว่ายกเลิกน้ำมันบางประเภทได้จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมเอทานอล "ราคาเอทานอลที่ลดลงตามซีซั่นปกติ จะมีการประมูลซื้อเอทานอลทุก 3 เดือนและรอบเดือนเมษายนนี้มันลดลงตามราคาน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกันต้นทุนการผลิตเอทานอลลดลงด้วย ภาวะแบบนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงสั้น ๆ" หากกระทรวงพลังงานมีนโยบายส่ง เสริมพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง นอกเหนือจากยกเลิกน้ำมันบางประเภทแล้วควรใช้การบริหารส่วนต่างราคาน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E85 กับน้ำมันเบนซิน 95 ให้อยู่ในระดับ 10 บาท/ลิตร ด้วยการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาชดเชยต่อไป รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับราคาเอทานอลอ้างอิงของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ล่าสุดอยู่ที่ 25.56 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาเอทานอลที่ซื้อขายจริงอยู่ที่ 23 บาท/ลิตร คาดว่าในปีนี้จะมีโรงงานเอทานอลขยายกำลังผลิตเพิ่มเติม เช่น บริษัท อุบลไบโอ เอทานอล จำกัด,บริษัท สีมาอินเตอร์โปรดักส์ จำกัด และ บริษัท อี 85 จำกัด โดย Joi จันทร์ พ.ค. 18, 2015 3:29 pm

Re: น้ำตาล เอทานอน ไฟฟ้า ผมก็เพิ่งจะศึกษาเรื่องโรงน้ำตาล และพลังงานชีวมวลได้ไม่นานมานี้เองครับ เลยขอ Share ผิดบ้างถูกบ้างก็ขออภัยนะครับ...... สำหรับผมพลังงานชีวมวล ผมว่าเป็นพลังงานทางเลือกที่เหมาะสมทั้งตอบโจทย์เรื่องพลังงานไฟฟ้าสำรอง และในขณะเดียวกัน ก็ได้แก้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสินค้าเกษตรตกต่ำ ตลอดจนกำจัดสิ่งเหลือใช้จากภาคเกษตรที่อาจทำให้เกิดมลภาวะกับสิ่งแวดล้อม ไปในคราวเดียวกัน..... โรงไฟฟ้าชีวมวลที่เกิดขึ้นในตอนนี้โดยปกติจะขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าอยู่ในราวๆ 300 วันต่อปี โดยในแต่ละวันสามารผลิตกระ แสไฟฟ้าได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก ไม่มีลม ลมแรง อากาศหนาว หรือร้อน.....ทำให้สามารถประมาณการ ไฟฟ้าที่จะได้ค่อนข้างแน่นอน จึงเหมาะและตอบโจทย์กับการสำรองไฟฟ้าของการไฟฟ้าค่อนข้างดี แต่ปัจจุบัน การไฟฟ้ามี ปัญหาเรื่องการขยายสายส่งในบางภาค บางบริเวณ ซึ่งอาจจะต้องรอแผนการขยายสายส่งในอีกหลายปี แต่ในบางเขตก็ยังพอมี สายส่งเหลืออยู่พอให้ทำได้บ้างครับ...... ผมว่าหัวใจของการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวล อยู่ที่วัตถุดิบ ค่าขนส่ง สายส่งของการไฟฟ้า และนโยบายภาครัฐเป็นหลัก ครับ.... -เรื่องวัตถุดิบ เป็นต้นน้ำของขบวนการผลิตที่สำคัญที่สุด ดังนั้นคงต้องมาดูเรื่องตัววัตถุดิบที่ใช้ว่าเป็นอะไร ...... มีปริมาณเพียง พอต่อการผลิตในระยะยาวหรือไม่ ...... ต้นทุนของวัตถุดิบที่ได้มาสูงหรือต่ำ ...... มีแหล่งวัตถุดิบของตัวเองหรือไม่ เพราะคนที่ มีวัตถุดิบของตัวเองย่อมได้เปรียบกว่า คนที่ต้องไปจัดหาวัตถุดิบมาจากที่อื่นแน่นอน เพราะนอกจากต้องรับความเสี่ยงมากขึ้นจาก ต้นทุนที่สูงแล้ว ยังต้องรับความเสี่ยงเรื่องความแน่นอนของปริมาณวัตถุดิบที่จะได้อีก ยิ่งกรณีมีรายอื่นให้ราคาที่สูงกว่า เป็นต้น -ค่าขนส่ง เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ...... ยิ่งตัวโรงไฟฟ้ากับแหล่งวัตถุดิบอยู่ห่างไกลกันเท่าไหร่ก็ยิ่งมีต้นทุนค่าขนส่งมากขึ้น เท่านั้น นอกจากนี้ถ้าจะดูให้ละเอียดก็ต้องดูในระยะยาวด้วย เช่นช่วงแรกแหล่งวัตถุดิบที่ใช้อยู่ใกล้ แต่ใช้ไปนานๆ แหล่งที่อยู่ใกล้ หมด หรือทดแทนไม่ทัน ก็ต้องเอาแหล่งวัตถุดิบที่ไกลออกไปเรื่อยๆ เป็นต้น -เรื่องสายส่ง เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขายไฟฟ้า ...... โรงไฟฟ้าชีวมวลหลายแห่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่เป็นอยู่ใน ตอนนี้ เพราะมีวัตถุดิบมากมาย แต่ไม่สามารถจะทำเพิ่มได้ เพราะทำแล้วไม่มีที่ส่งขายนั่นเอง......ดังนั้นต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย เรื่องสายส่งก็ต้องมาดูอีกว่าระยะห่างจากโรงไฟฟ้าไปถึงสายของการไฟฟ้าไกลมากน้อยแค่ไหน ถ้าใกล้ๆก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้า ไกลมากอาจจะต้องลงทุนสายส่งเองเพิ่ม เพื่อไปเชื่อมสายส่งของการไฟฟ้าด้วย..... -นโยบายภาครัฐ อย่างที่ทราบๆกันอยู่ ประเทศไทยถือว่ามีความไม่แน่นอนสูง เราจะพบเห็นบ่อยๆ คือตามกระแสสังคม และเรื่อง รับผลประโยชน์ต่างๆ เป็นต้น.....แต่สำหรับผมพลังงานจากชีวมวลก็ยังคงตอบโจทย์เรื่องไฟฟ้าสำรองของประเทศ และได้ช่วยแก้ ปัญหาสินค้าเกษตร และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นโอกาสที่จะยกเลิกคงยากครับ..... ต่อจากนี้ไปเงื่อนไขการขายไฟฟ้าจะเปลี่ยนจากเดิมนิดหน่อย เพราะจะมีการจัด Zoning การขายไฟใหม่ ซึ่งยังไม่เสร็จครับ และ การขายไฟต่อไปนี้ต้องมีการ Biding แข่งกันใน Zone นั้นๆ โดยอัตราใหม่ที่จะได้คือ Base ไว้ที่อัตรา FiT ใคร Bid ขายให้ถูก ที่สุดก็ได้ไปครับ......ดังนั้นสิ่งที่ต้องดูอีกคือ ใน Zone นั้นๆมีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหนด้วย และที่สำคัญคือ ใครมีต้นทุนในการทำ ถูกกว่าย่อมได้เปรียบ ถ้าหากต้องแข่งขันกัน แต่ถ้า Zone นั้นไม่มีคู่แข่งก็รับเต็มๆไปครับ..... ผมคงไม่เขียนเปรียบเทียบ และพยายามหลีกเลี่ยงว่า โรงไฟฟ้าแบบไหนดีกว่าแบบไหน โรงน้ำตาลโรงไหนดีกว่าโรงไหน ผมว่า ทุกท่านน่าจะมีความสามารถเพียงพอที่จะหาข้อมูล และวิเคราะห์ออกมาเองได้นะครับ.......ผมหวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะครับ ที่คุณดำเป็นห่วง ผมว่าสัญญาที่เซ็นไปแล้วยากที่จะเปลี่ยน หรือยกเลิกนะครับ....... โดย Joi จันทร์ พ.ค. 18, 2015 2:53 pm

Re: เปิดจองการเข้าร่วมงานเปิดโรงไฟฟ้าของ BRR 10-11 กพ 58 ผมกำลังดูๆว่าจะไปได้รึเปล่า อยากไปมาก แต่ถ้า Clear งานได้อาจจะไปด้วย แต่คงไม่ใช้โควต้าของสมาคมครับ.... ยังไงสำหรับท่านที่ไป กรุณาช่วยบันทึกภาพเยอะๆ มาฝากห้อง BRR ด้วยนะครับ.... :B โดย Joi จันทร์ ก.พ. 02, 2015 4:02 pm

Re: ชมรมสาวๆVI ผมหลงเข้ามาอ่าน นึกว่าจะมีสาวๆใน Thaivi เยอะ แต่สุดท้ายมีแต่สาวทั้งแท่งทั้งนั้น อ่านแล้วขำ 5555 โดย Joi เสาร์ ต.ค. 25, 2014 12:16 am

Re: แฟน " ปีศาจแดง " " Man U " เชิญทางนี้.. เพิ่งเห็นมี Man.U FC ใน Thaivi ด้วย ..... อ้าวคุณ Pipatc ก็เด็กผีแดงเหมือนกันเหรอคับ 555..... :B โดย Joi เสาร์ ต.ค. 25, 2014 12:12 am

Re: อยากให้ทางรายการ Money talk weakly เชิญ อ. ครับผมอยากให้เชิญ ผบห TKS ครับถ้าเป็นไปได้ครับ ขอบคุณครับ โดย Joi เสาร์ ก.ค. 19, 2014 4:47 am

Re: Esan investors Meeting ครั้งที่ 4 รู้สึกจะเพิ่งจัดกันไปไม่ใช่เหรอคุณเบี้ยว อบอุ่นดีครับ อยากไปเหมือนกันอยากไปชนแก้วกับหลายๆคนที่ขอนแก่น 555 :mrgreen: โดย Joi ศุกร์ ม.ค. 24, 2014 2:50 am

Re: โฆษณาของทรูมูฟ ผมดูแล้วซึ้งใจจัง....น้องคนที่แสดงเป็นเด็ก สีหน้าแววตา อินกับบทมากๆ ยิ่งทำให้ผมเผลอน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว :'O โดย Joi จันทร์ ก.ย. 30, 2013 9:28 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ ผมหยุดเช่ามาเกือบ 2 ปีแล้วครับ คิดว่ามีพอสมควรแล้ว..... ขอบคุณคุณ mongkol ที่เตือนครับ ของผมที่เก็บ เก็บมาตอนนั้นยังปลอมไม่เยอะเท่าตอนนี้ครับ พอพระแพงมากขึ้นพวกโจรมันก็เห็น โอกาส แต่เราจะเล่นเราต้องศึกษาพอสมควรก่อนก็พอเป็นเกาะป้องกันได้ระดับนึงครับ..... ชอบใจข้อความคุณ mongkol "ข้อดีพระเครื่องคือ ราคาไม่ค่อยลงครับ ถ้าเล่นพระหลัก หรือเลือกถูกสายละก็ ราคาจะเป็นแบบ sideway up ไปเรื่อยๆ แต่หุ้นลงได้เยอะเลยถ้างบไม่ดี ตลาดไม่อำนวย ข้อเสียคือ พระไม่มีปันผลนะครับ มีแต่พุทธคุณ" .... เยี่ยมครับ เห็นภาพเลย 555 โดย Joi จันทร์ ก.ย. 23, 2013 10:26 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ เห็นพี่มงคลกับพี่คิมปลงได้ผมก็ดีใจ 55 ว่าง ๆ ปลงและปล่อยมาให้น้องที่ยังปลงไม่ได้บ้างครับในราคา MOS หน่อย :D เปิดอ่านคุณ oatty ผมสำลักกาแฟเลย 555 .... เอาเป็นว่าถ้าผมปลงได้อีก Level นึงผมจะนึกถึงคุณ Oatty ครับ 555 โดย Joi จันทร์ ก.ย. 23, 2013 5:14 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ ดีแล้วครับ ทำบุญตามที่เราสามารถทำได้ ไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น อนุโมทนาบุญด้วยครับ โดย Joi เสาร์ ก.ย. 21, 2013 4:30 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ ขอบคุณมากครับคุณ mongkol......ผมเห็นราคาเดี๋ยวนี้แพงมาก โชคดีที่เรามีบุญได้พระ ลป. มาบ้างตอนที่ราคายังไม่แพงมาก..... จริงๆผมคิดว่าอยากจะไปวัดบ้านจานสักครั้ง มันค่อนข้างไกลเลยยังหาโอกาสเหมาะๆไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ว่าจะไปกราบ ลป.ดู่ที่วัดสะแก นี่ก็เลื่อนจะไปมาหลายที ตอนแรกกะว่าวันนี้จะไปพอเห็นฝนตั้งเค้ามาดำปี๋ เลยเลื่อนไปพรุ่งนี้แทน และจะพาครอบครัวไปกราบด้วย และก็หากุ้งแม่น้ำเผากินด้วย 555 มีน้องมาตื้อขอเช่า ลพ.คูณ เจริญพรล่างหลังแบบผม ผมก็บอกไปว่ายังไม่คิดจะขาย เขาก็บอกถ้าจะขายบอกผม ผมรับหมด น้องคนนี้ นิสัยดีใช้ได้ น่าจะเป็นวิศวะกรโรงงาน เคยขายให้เขาไปองค์นึง เงินตรงไม่เรื่องมากดี....เอาไว้จำเป็นเดือดร้อนจริงๆแล้วจะบอกเขา 555 คุณ mongkol น้องเขาบอกให้ดูพระ ลพ.คูณไว้นะครับ ราคามันนิ่งมานานเป็นปีแล้ว ผมเช็คๆดูแล้วเพิ่งเริ่มขยับรอบนี้จริงๆ....ควรเล่น พระปี 36 พวกเจริญพรบน ล่าง และรูปหล่อรุ่นแรก เทพประทานพร ครับ.....ผมมีหมดแล้ว และคงไม่เช่าพระแล้ว คิดว่ามีพอแล้วครับ... :B :B :B โดย Joi เสาร์ ก.ย. 14, 2013 11:03 am

Re: ชมรมทหารปวดๆ เคยเรียน รด.ปี 3 ได้ไม๊ครับ 555 โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 6:35 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ เดี๋ยวนี้การเช่าพระมีการประมูล หรือเช่าทาง Website หลายที่ บางที่ก็เป็นที่น่าเชื่อถือพอประมาณ มีการส่งพระตรวจสอบก่อน จากเจ้าของเว็บและออกใบรับรองก่อนชำระเงิน ผมก็เช่าผ่านเว็บเป็นส่วนใหญ่ เวลาขายผมก็ขายผ่านเว็บเป็นส่วนใหญ่ครับ ราคา ก็ขึ้นกับ Demand Supply ในการประมูล ถามว่ามีการปั่นหรือ Demand เทียมไม๊ ผมตอบได้ว่ามี แต่เราพอดูออก และทางเจ้า ของเว็บก็ช่วยดูแลมีกฎเกณฑ์ให้ถูกต้องเป็นธรรมพร้อมลงโทษคนทำผิด ก็พอจะสบายใจในการเช่าได้ส่วนนึง ... นี่เป็นช่องทาง การซื้อขายพระทางนึงที่กำลังนิยมมากขึ้น นอกเหนือจากการเดินไปซื้อขายที่ตามศูนย์พระต่างๆครับ :B :B :B โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 4:18 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ ถูกต้องเลยครับพี่ปรัชญา มันไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ เพราะมันเป็นสินค้าคนละแบบ ตลาดก็ไม่เหมือนกัน แต่ผมย้ำว่าจะลง ทุนในอะไรต้องศึกษาและค้นคว้าให้ดี ให้เข้าใจก่อนว่าเป็นอย่างไรครับ ..... วงการพระสกปรกเยอะ ผมก็เคยได้ยินมา เซียนใหญ่ดังๆยังขายพระปลอม เพราะคนเชื่อถือ พวกนี้คือมารสังคมในธุรกิจพระ เครื่อง ผมไม่เคยคิดสุงสิงกับพวกนี้เลย ... นักสะสมพระจะมี 2 แบบคือ พวกพุทธพาณิชย์ กับพวกสะสมจริงๆเพราะชอบครับ ผมกับเพื่อนๆเป็นกลุ่มหลังกันส่วนใหญ่ครับ เพราะชอบจริงๆ เลือกเอง เช่าเอง ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ไปซื้อๆขายๆ จะขายก็มีเหตุ ผลที่ต้องใช้เงิน หรือเพื่อเปลี่ยนองค์ที่สวยกว่า ส่วนใหญ่ก็เก็บให้ลูกๆ มูลค่าเป็นเพียงผลพลอยได้ ขึ้นมากก็ดีครับ..... ที่พี่ปรัชญาเตือนถูกต้องแล้วครับ ไม่มีใครหมั่นไส้อะไรหรอกครับ ขอบคุณครับ :B :B :B โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 4:03 pm

Re: รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ บวกบางครั้งแน่นหน้าอก ตรวจหัวใจ พิมพ์ตกครับ โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 3:46 pm

Re: รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ บวกบางครั้งแน่นหน้าอก ไปตรวจหัวเลยครับอย่าเสียดายตังเลย ... ผมก็กลัวเรื่องเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ เห็นคนเป็นกันเยอะ อาทิตย์ก่อนเลยลงทุน ตรวจ MRI สมองและหลอดเลือดบริเวณคอ พร้อมตรวจเลือด ตรวจอุลตราซาวน์หัวใจ เป็น Package แพงหน่อยแต่ก็ให้รู้ไปเลย ผลหลอดเลือดสมองกับคอโล่งเป็นปกติ แต่ผมโดนเรื่องความดันสูง ก็จะเริ่มรักษาจริงจังแล้วครับ..... ไม่มั่นใจตรวจดีกว่าครับ สบายใจดี :B โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 3:45 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ อ้อ! อีกอย่างครับวงการพระมีการปั่นราคาครับ ผมว่าก็คล้ายๆหุ้นนะ แต่เราคงต้องเลือกพระที่มีพื้นฐานดีนะครับ.... จตุคามจริงๆจะไม่เปนแบบนี้ ถ้าคนเราไม่โลภ สร้างไม่รู้กี่รุ่นจนมั่วไปหมดหวังรวย จนทำให้ศรัทธาเสื่อมลงไป....แต่พระเครื่องมันไม่ เหมือนกันนะครับ เพราะพระท่านเหล่านั้นมีตัวตน ปฎิบัติธรรมน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพของคนในพื้นที่ อย่างพระ ลป.ทวด ลป.ทิม ลพ. คูณ ลพ.พรหม ลป.หมุน ลพ.ปาน เป็นต้น ราคามันสูงขึ้นมาก เพราะ Supply มันมีจำกัด แต่ Demand มันมีเข้ามาเรื่อยๆครับ :B โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 11:04 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ ขอบคุณคุณ oatty ครับ...ผมสงสัยอยากรู้เท่านั้นเองครับ องค์นี้จริงๆผมตั้งใจจะเลี่ยมทองและขึ้นคอครับอยู่แล้วครับ :B รู้สึกดีใจที่พี่ปรัชญามาตอบและให้ข้อคิดครับ...เอาจริงๆเลยนะครับส่วนตัวผมผมไม่ใช่เซียนพระ พอดูเป็นเฉพาะพระที่เรามีอยู่บ้างเท่านั้น ก็ต้องศึกษาหาความรู้ครับ...สำหรับผมผมจะสะสมสิ่งแรกต้องชอบหรือศรัทธาท่านก่อนโดยศึกษาประว้ติ จากนั้นก็เป็นความสวยด้าน ศิลปะ ส่วนราคาผมถือเป็นผลพลอยได้ครับ เพราะผมไม่ได้ค้าขายพระเป็นธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเก็บสะสม อาจมีแจกให้เพื่อน พี่น้อง หรือ ขายออกไปบ้างเพราะร้อนเงิน หรือมีหลายองค์ และขายองค์ที่คิดว่าไม่สวยมาเช่าองค์ที่สวยกว่าเท่านั้นครับ.... จริงๆวงการพระมันมีทั้งคนดีและไม่ดี อย่างที่คุณปรัชญาเล่ามาผมก็เคยได้ยินอยู่บ่อยๆ พวกนี้ผมว่าเลวเอาเปรียบคน แต่คนที่สะสมพระ หรือรับซื้อ-ขายพระที่ผมรู้จักส่วนใหญจะดี ถ้านิสัยไม่ดีเราก็ไม่คบ บางครั้งผมก็ขอความรู้จากพวกเขาเหมือนกัน....ผมว่าวงการนี้เขา มักจะเอาเปรียบกันจากความไม่รู้เรื่องพระเครื่องนั้นๆของคนเป็นส่วนใหญ่ครับ ดังนั้นการหาความรู้จึงจำเป็นครับ พระเครื่องนี่มันก็อยู่กับคนไทยส่วนใหญ่มานาน ตลาดพระเครื่องก็โตขึ้นทุกปี มีหน้าใหม่ๆเข้ามาตลอด และระยะหลังๆมีชาวต่างชาตินิยม สะสมพระเครื่องไทยมากขึ้นโดยเฉพาะพวกฮ่องกง ไต้หวัน มาเล สิงคโปร์....ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่เรานับถือ ชอบสะสม และถือเป็น ทรัพย์สินอย่างนึง บางคนชอบสะสมหุ้น บางคนชอบสะสมรถ ปืน แสตมป์ กันแล้วแต่คนชอบครับ.... จริงๆสิ่งที่สำคัญที่การลงทุนในพระเครื่องมีส่วนคล้ายกับการลงทุนในหุ้นก็คือ ต้องศึกษาค้นคว้าหาความรู้ก่อนจะลงทุนครับ โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 10:51 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ เห็นราคาแล้วตกใจจริงๆนะครับ เมื่อ 5-6 ปีก่อนผมเริ่มเก็บมา 4 องค์แรก มี เหรียญเลข 1 เช่ามา 3,000 บ. เหรียญมนต์พระกาฬเนื้อเงิน ผมเช่ามา 5,800 บ. เหรียญมังกรคู่เนื้อเงิน 2,200 บ. และเหรียญมังกรคู่กระไหล่ทองกรรมการน่าจะ 1,500 บ..... ส่วนรายการอื่นๆม่เช่าเพิ่มเมื่อ 2-3 ปีก่อนบางรายการเช่ามาก่อนช่วงน้ำท่วม ผมยังจำได้เหรียญสุดท้ายที่เช่าคิอ หมุนเงินหมุนทองเนื้อ เงินผมเช่ามา 28,000 บ. คนขายอยู่แถวตลิ่งชันส่งพระมาให้ผมก่อนบ้านเขาน้ำท่วม 1-2 วันเองนึกว่าจะติดน้ำท่วมใหญ่ซะแล้ว 555 ไม่ผิดหวังจริงๆพระ ลป.หมุน จริงๆนะเหมือนมีอะไรมาดลใจให้ผมเช่าเก็บเพิ่มทั้งๆที่หลังๆมาผมว่าแพงแล้วนะ แต่ตอนนี้แพงขึ้นไปอีก เกือบ 4 เท่า.....ผมคงไม่เช่าเพิ่มแล้ว เท่าที่มีก็พอใจแล้วครับ ผมยังขึ้นคอพระปิดตารวยทันใจ ลป.หมุนอยู่จนทุกวันนี้ครับ รบกวนถามราคาคุณ mongkol เพิ่มอีกนิดครับ.... -เหรียญมังกรคู่เนื้อนวะผมมี 2 องค์ -เหรียญมหาสมปรารถณา เนื้อทองแดง 3 โค๊ด (แวววาวสวยกริ๊บ 2 องค์) (บล็อคแตกเป็นยังไงครับ) -เหรียญนารายทรงครุฑ โค๊ดมะ 1 องค์, และมี ปัดสี 3 กษัตริย์ โค๊ดวัดสุท้ศน์ 1 องค์ (เช่านี้เช่ามา 6-7 ปีแล้ว) -พระปิดตารวยทันใจเนื้อดำทรายลังกาวีฝังพลอย 3 เม็ด -พระปิดตารวยทันใจเนื้อผงพระประธาน+ผงเหล็กน้ำพี้ องค์ออกม่วงๆเทาๆครับ -พระปิดตารวยทันใจทาทองเคลือบแล็คเกอร์ -พระปิดตารวยทันใจผงกสิณโรยชนวนพระแก้ว -พระปิดตารวยทันใจผงกสิณไฟ+ผงเหล็กน้ำพี้+โรยชนวนพระแก้ว -พระปิดตารวยทันใจผงกสิณไฟ+ผงเหล็กน้ำพี้+ฝังชิ้นพระแก้ว 3 จุด 1 องค์, และอีกองค์ฝัง 4 จุด และที่สำคัญอยากถามผมมี พระรูปหล่อรวยทันใจเนื้อเงิน เลขที่ก้นพระ ๑๙ แต่ผมไม่มีคราบดินติดที่องค์พระเลย มีโอกาสไม่ดีใช่ไม๊ครับ แต่องค์นี้ผมได้มาจาก จ่าไตรภพ ที่สระแก้ว ... ผมก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีเลยต้องรบกวนถามคุณ mongkol ครับ ขอบคุณครับ :B โดย Joi พุธ ก.ย. 11, 2013 12:58 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ อย่าอิจฉาผมเลย Port ไม่โตอะไรมากมายหรอกครับคุณ oatty .... แค่พอมีพอกินไปวันๆครับ 555 :B โดย Joi อังคาร ก.ย. 10, 2013 10:21 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ เห็นคนในเว็บพระเอาไปประกวดกันหลายคน.... สงสัยคืนนี้ต้องเปิด Safe มาส่องพระ ลป.ดูหน่อยแล้ว 555 ผมหาราคาตลาดไม่ได้อยู่บางองค์ รบกวนคุณ Mongkol พอจะทราบราคาไม๊ครับ -เหรียญรุ่นแรก เลข 1 เนื้อทองแดง -เหรียญหล่อ รส เนื้อธรรมดาที่ไม่ใช่เหล็กน้ำพี้ -เหรียญเตารีดเนื้อนวะ -พระปิดตารวยทันใจเนื้อเหล็กน้ำพี้ -เหรียญหมุนเงินหมุนทองเนื้อเงิน -เหรียญมนต์พระกาฬ เนื้อนวะ เนื้อเงิน หลายรายการหน่อยนะครับ เอาคร่าวๆก็ได้ จะไป update Port พระ ครับ 555.....ขอบคุณครับ โดย Joi จันทร์ ก.ย. 09, 2013 11:46 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ พี่ Joi เป็นไงบ้างสบายดีไหมครับ ได้ไรมาเพิ่มไหมบ้าง หุ้นเรายังนิ่งๆ แต่พระปู่หมุนกะลังเป็นกระทิงเลยครับ :shock: :shock: รู้งี้ :twisted: :twisted: คุณ mongkol เมื่ออาทิตย์ก่อนเจอรุ่นพี่ที่ผมเคยแบ่ง ลป หมุนให้แกไปบูชา แกบอกว่าราคาพระ ลป.หมุนขึ้นแรงมาก....ผมไม่รู้เรื่องเลย เมื่อวานเลยถือโอกาสเข้า Web เช็คราคา ตกใจเหมือนกันมีขึ้นตั้งแต่เท่าตัวจนถึง 4-5 เท่า ... Port ลป.หมุนผมเลยโตเฉลี่ยเกือบ 150% เลย 555.....นี่ขนาดบางองค์ผมเช่ามาราคาว่าสูงแล้วยังไปต่อได้อีก......แต่จริงๆไม่ได้จะขาย แต่ชอบสะสมมาเรื่อย เพิ่งหยุดเช่าไป 2-3 ปีนี้เอง :B :B :B โดย Joi จันทร์ ก.ย. 09, 2013 10:57 pm

Re: Meeting Thai VI ภาคอีสาน ครั้งที่ 3 ขอนแก่น พี่อยากไปด้วยได้ไม๊คุณเบี้ยว 555 โดย Joi อังคาร ก.ย. 03, 2013 2:17 pm

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง เพื่อนๆสมาชิกท่านใดยังไม่ได้ตอบ Poll ขอรบกวนด้วยนะครับ.....ขอบคุณครับ :mrgreen: โดย Joi อังคาร ส.ค. 06, 2013 1:27 pm

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง โทษทีครับ เน้นลงทุนในหุ้นครับ :B โดย Joi พฤหัสฯ. ส.ค. 01, 2013 8:48 am

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง คงต้องระวังเรื่องความถูกต้องของการกรอกข้อมูลละครับ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าถูกต้องตามจริง คุณ chatchai ครับ ผมค่อนข้างเชื่อมั่นในสมาชิก ThaiVI ว่ามีความคิดความอ่าน ผมว่าส่วนใหญ่คงไม่ให้ข้อมูลเท็จ อาจจะมีบ้างแต่ผมว่า ไม่น่าจะมากนะครับ ผมว่าสมาชิกใน ThaiVI เป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีคุณภาพเลยครับ ดูจากความรู้ ความสามารถ .... :B โดย Joi พฤหัสฯ. ส.ค. 01, 2013 12:31 am

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง พอร์ตผมอยู่ระหว่างช่วงพอดีครับ คือวันนี้มันอาจเป็นช่วงนึง พรุ่งนี้มันอาจเป็นอีกช่วงนึงอะครับ ผมตอบของวันนี้ละกันนะครับ ขอให้เป็นปรับช่วงพอร์ทสูงขึ้นนะครับ อย่าปรับช่วงพอร์ทลดลงแล้วกันครับ 555 โดย Joi พุธ ก.ค. 31, 2013 1:57 pm

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง โพลแบบนี้มีข้อดี ข้อเสีย ข้อที่น่าสนใจอย่างไรบ้างครับอยากรู้555 ติ๊กให้แล้วครับ ผมรบกวนน้องเค้าให้ช่วยทำให้เองครับ ตอนแรกจะทำดันทำไม่เป็น บังเอิญเห็นน้อง thaloengsak เขาทำ Poll บ่อยๆเลยรบกวนน้องเขา ครับ....จริงๆมันเป็นสิ่งที่ผมอยากรู้คร่าวๆว่า แนวการลงทุน VI ของคนที่อยู่ใน THAIVI จะทำให้ Port การลงทุนในระยะยาวๆของนักลง ทุนในแต่ละระดับจะเป็นอย่างไร เมื่อการลงทุนผ่านไป 6 เดือนหรือ 1 ปี ผมคงต้องรบกวนน้อง thaloengsak ช่วยทำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปีก็ได้แล้วแต่สะดวกครับ......ขออภัยนะครับถ้าไม้เป็นการรบกวนเพื่อนๆ :B โดย Joi อังคาร ก.ค. 30, 2013 11:28 pm

Re: นักลงทุนใน ThaiVI มี Port การลงทุนเป็นเท่าไหร่กันบ้าง ขอบตุณมากน้องthaloengsak รวดเร็วทันใจดี :mrgreen: โดย Joi อังคาร ก.ค. 30, 2013 10:46 pm

Re: แฟน " ปีศาจแดง " " Man U " เชิญทางนี้.. ผมก็แฟน Man U ... ขอสมัครเป็นน้องใหม่ด้วยนะครับ :B โดย Joi จันทร์ ก.ค. 29, 2013 11:04 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ สบายดีครับ...ช่วงนี้ไม่ได้เช่าอะไรมาเพิ่ม ไม่ได้เช่ามานานแล้วครับ ราคาก็ไม่ได้ตามเลย 555 ลป.หมุนช่วงนี้ราคาขึ้นอีกเหรอครับ ผมมีพอประมาณไม่มากหรอกครับ แต่ได้ยิน ลป.ทิมราคาพุ่งไปมากเลย เสียดายสะสม ลป.ทิมน้อย ไปหน่อนสมัยก่อน เลยมีแค่ 5-6 องค์ มี เจริญพรล่าง, เหรียญกรมหลวงกรรมการกะไหล่ทอง, เสมาโค๊ดอุ, ผูกพัธ, วัดยายร้า, และก็ ปรกไตรมาส เนื้อนวะ จริงๆอยากได้เสมาโค๊ดนะ อีกสักองค์แต่เห็นราคาตอนนี้เป็นแสน สมัยก่อนตอน 7-8 พันดันไม่เช่า เสียดายเจริญพร บนก็ 3 หมื่นกว่าบาทเอง ตอนนี้หลายแสนแล้ว นึกกี่ครั้งก็เสียดาย 555 :B เหรียญลพ.คูณ ผมมีมากที่สุดใน Port ครับ :B โดย Joi จันทร์ ก.ค. 29, 2013 11:00 pm

Re: บทเรียนจากหุ้นตก+ล้านบาทแรกในชีวิต-skyforever อังคาร-พุธ เท่าที่คุยกัน น้อง sky เขามุ่งมั่นมาก เดี๋ยวก็ 8 หลักอีกไม่นานแน่นอน พี่ฃเอาใจช่วย :mrgreen: อาจารย์เลือกไม่ผิดคนครับ จะคอยดู โดย Joi อังคาร ก.ค. 02, 2013 10:32 pm

Re: อยากถามพี่ๆ ถึงเหตุการณ์ช่วงปี 40 ครับ ผมว่าถ้าเทียบตอนนี้กับปี 40 ผมว่ายังห่างกันพอสมควรเลยนะครับ.... ปี 40 Bank ปล่อยกู้อย่างสุดเหวี่ยงแทบไม่ดูหลักทรัพย์ค้ำประกันเลยด้วยซ้ำ คนก็เลยมันกันซิครับกู้เล่นกันเลย เก็งกำไรที่ดิน บ้าน รถ ของฟุ่มเฟือย ตอนนั้นพวก Bank กับสถาบันการเงินแทบไม่ได้มีการกันสำรองเหมือนปัจจุบัน ที่พ่อผมกู้มาลงทุนตอนนั้นดอก 25% ก่อนปี 37 มั๊ง พอได้เงินมาก็โป๊ะคืน Bank หมดปี 39 เพราะเสียดายดอกเบี้ยที่เสียไป แล้วก็หยุดลงทุนเลย โชคดีที่ไม่โลภลงทุนต่อไม่ งั้นก็หนักพอสมควร..... ช่วงนั้นที่ดิน Boom มาก โฉนดชื้อขายเปลี่ยนมือกันเร็วมาก ผมยังจำได้ตอนนั้นพ่อผมจะซื้อที่ดินแปลงนึงที่แปดริ้ว นัดเจอกันที่ที่ดิน คนเยอะมากมั่วกันไปหมด คุณเชื่อไม๊คนที่ขายพ่อผมเขาเพิ่งซื้อมาจากอีกคนยังไม่ได้โอนเลย เลยนัดพ่อผมโอนจากคนที่เขาซื้อมามา เป็นของพ่อผมเลย และที่มันกว่านั้นตอนที่กำลังจะทำเรื่องโอน ก็มีคนมาขอซื้อต่อจากพ่ออีก 2-3 คน โดยบวกให้อีกไร่ละแสน แต่พ่อ ผมขอเพิ่มราคาเขาไม่ยอม งั้นพ่อผมเลยทำเรื่องรับโอนเลย เพราะพ่อคิดว่าที่มันจะขึ้นอีก แล้วมันก็ขึ้นจริงๆแต่ก็ไม่ได้ขายจนถึงปัจจุบัน ผมสรุปให้เลยนะปี 40 เหตุผลหลักมาจากพวกสถาบันการเงินที่กู้เงินจากเมืองนอกมาปล่อยกู้แบบอีลุ่ยฉุยแฉกโดยที่ไมีมีการป้องกัน ความเสี่ยงอะไรเลย และอีกเหตุผลก็คือความโลภที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเราเองครับ.... วิกฤติปี 40 ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป ผมเพิ่งเล่นหุ้นก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ผมใช้เงินเก็บของผมที่มีไม่มากนักเล่น ช่วงนั้นจิ้มตัวไหนก็ขึ้น จนความโลภเข้าสิงเต็มตัวเลยขอ Margin โดยใช้หุ้นที่อยู่มีค้ำไว้ พอฟองเริ่มแตกหุ้นตกทุกวันเปิดมา Floor แล้ว Floor อีกจนระดับ MM ติดลบ แต่เพราะเราสนิทกับโบรกก็เลยขอไม่ให้ Force Sell ปล่อยตกมาจนสถาบันเจ๊ง ตอนนั้นผมถืออยู่ 2 ตัวที่ราคา 30 บ.กับ 8 บ. สุดท้ายยอมจำนนขายที่ 2 บ. กับ 0.70 บ.เป็นหนี้ท่วมตัว ดอกเบี้ยจ่ายตอนนั้น 28% เครียดไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไง หยิ่งอีกขอให้พ่อช่วย 55 ... ตอนนั้นเงินเดือนออกเอามาจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยยังแทบจะไม่พอเลย พอดีโบรกใกล้เจ๊งเต็มที่เลยเสนอ Hair Cut ให้ผม 40%ของ หนี้ แต่ขอเงินสดทั้งหมด ผมยังโชคดีหน่อยที่ตอนนั้นเปิด OD ไว้นิดหน่อยเอาบ้านเข้าไว้แต่ไม่ได้ใช้ ก็เลยได้ใช้อีกอย่าง ดอก OD ตอน นั้น 15% น้อยกว่าดอกที่ผมจ่าย 28% แต่ก็ขาดอีกมากมาย เลยต้องคุยกับแฟนเอาเงินเก็บของเขากับของลูก พร้อมทรัพย์สินที่เปลี่ยน เป็นเงินได้เร็วเช่นทองคำ Rolex ฝากเพื่อนไปขาย สุดท้ายก็หมดตัวอย่างสิ้นเชิงและมีหนี้ OD กับหนี้แม่ยายอีกนิดหน่อย..... ใครไม่ผ่านเหตุการณ์อย่างนี้ไม่รู้หรอกว่ามันเครียดขนาดไหน เอาปืนจ่อปากก็เคยมาแล้วจนแฟนผมต้องเอาปืนไปเก็บซ่อน ตอนนั้นก็ยัง อายุไม่มากนักคิดแต่ว่าชีวิตหมดสิ้น หันหลังให้หุ้นไปหลายปี(จริงๆไม่มีเงินเล่นแค่จ่ายดอกกับค่าใช้จ่ายในบ้านก็หมดแล้ว) จนพอมีเงิน จาก OD ที่เหลือบ้างแสนบาท ก็กลับมาลงทุนใหม่ปี 43 ก็ลุ่มๆดอนๆ จนมาถึงปัจจุบันก็ไม่คิดว่าจะกลับมาได้แต่ก็กลับมามากกว่าตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้มากมาย ย้อนหลังไปนั่งคิดดูถ้าตอนนั้นเกิดบ้าทำไรโง่ไป ครอบครัวจะอยู่กันยังไง.....จนปัจจุบันผมก็ไม่คิดจะเล่น Margin อีก เลย.....ตอนนี้แค่นี้ถึงพอร์ทผมจะไม่มากนักแต่ก็พออยู่พอกินไปได้ไม่ลำบากครับ.......ยาวไปหน่อย จริงๆพยายามให้สั้นแล้วนะครับ 555 ขอแก้ไขนิดนึงนะครับ คือดอก OD ตอนนั้น 18% กับ หยื่งไม่บอกให้พ่อช่วย.... ที่ผมมาเล่านี่ก็อยาก Share ให้เพื่อนๆรุ่นหลังๆอ่านเตือนใจนะครับ สรุปนะครับไม่ว่าจะฟองสบู่หรือไม่ฟองสบู่มันก็ขึ้นกับตัวเรา เองทั้งนั้น ปัจจัยแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรืออะไร มันเป็นเพียงตัวเร่งและส่วนประกอบเท่านั้น ดังนั้นควร Focus ไปที่ตัวเราเองจะดีที่สุด ควรเตือนตัวเองว่า -อย่าโลภเกินไป รู้จักพอ ทุกอย่างมันมีความไม่แน่นอน -รู้จักประหยัด ใช้เงินอย่างฉลาด และอย่าประมาท -ถ้าคุณไม่มีเงินมากพอ ไม่ควรลาออกมาเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียว ใน Case ของผมแม้เงินเดือนจะไม่มากนัก แต่ถ้าตอนนั้นผม ไม่ได้ทำงาน ความเครียดจะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ -กู้เงินมาเล่นโดยเฉพาะ Margin ไม่แนะนำ ถ้าจะเล่นต้องมีวินัยและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะเล่น Margin และเมื่อไหร่ควรจะหยุด -ล้มแล้วอย่าท้อ สู้ต่ออย่างมีสติ ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราจะกลับมาได้ โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ :B โดย Joi จันทร์ ก.ค. 01, 2013 3:36 pm

Re: อยากถามพี่ๆ ถึงเหตุการณ์ช่วงปี 40 ครับ ผมว่าถ้าเทียบตอนนี้กับปี 40 ผมว่ายังห่างกันพอสมควรเลยนะครับ.... ปี 40 Bank ปล่อยกู้อย่างสุดเหวี่ยงแทบไม่ดูหลักทรัพย์ค้ำประกันเลยด้วยซ้ำ คนก็เลยมันกันซิครับกู้เล่นกันเลย เก็งกำไรที่ดิน บ้าน รถ ของฟุ่มเฟือย ตอนนั้นพวก Bank กับสถาบันการเงินแทบไม่ได้มีการกันสำรองเหมือนปัจจุบัน ที่พ่อผมกู้มาลงทุนตอนนั้นดอก 25% ก่อนปี 37 มั๊ง พอได้เงินมาก็โป๊ะคืน Bank หมดปี 39 เพราะเสียดายดอกเบี้ยที่เสียไป แล้วก็หยุดลงทุนเลย โชคดีที่ไม่โลภลงทุนต่อไม่ งั้นก็หนักพอสมควร..... ช่วงนั้นที่ดิน Boom มาก โฉนดชื้อขายเปลี่ยนมือกันเร็วมาก ผมยังจำได้ตอนนั้นพ่อผมจะซื้อที่ดินแปลงนึงที่แปดริ้ว นัดเจอกันที่ที่ดิน คนเยอะมากมั่วกันไปหมด คุณเชื่อไม๊คนที่ขายพ่อผมเขาเพิ่งซื้อมาจากอีกคนยังไม่ได้โอนเลย เลยนัดพ่อผมโอนจากคนที่เขาซื้อมามา เป็นของพ่อผมเลย และที่มันกว่านั้นตอนที่กำลังจะทำเรื่องโอน ก็มีคนมาขอซื้อต่อจากพ่ออีก 2-3 คน โดยบวกให้อีกไร่ละแสน แต่พ่อ ผมขอเพิ่มราคาเขาไม่ยอม งั้นพ่อผมเลยทำเรื่องรับโอนเลย เพราะพ่อคิดว่าที่มันจะขึ้นอีก แล้วมันก็ขึ้นจริงๆแต่ก็ไม่ได้ขายจนถึงปัจจุบัน ผมสรุปให้เลยนะปี 40 เหตุผลหลักมาจากพวกสถาบันการเงินที่กู้เงินจากเมืองนอกมาปล่อยกู้แบบอีลุ่ยฉุยแฉกโดยที่ไมีมีการป้องกัน ความเสี่ยงอะไรเลย และอีกเหตุผลก็คือความโลภที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเราเองครับ.... วิกฤติปี 40 ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป ผมเพิ่งเล่นหุ้นก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ผมใช้เงินเก็บของผมที่มีไม่มากนักเล่น ช่วงนั้นจิ้มตัวไหนก็ขึ้น จนความโลภเข้าสิงเต็มตัวเลยขอ Margin โดยใช้หุ้นที่อยู่มีค้ำไว้ พอฟองเริ่มแตกหุ้นตกทุกวันเปิดมา Floor แล้ว Floor อีกจนระดับ MM ติดลบ แต่เพราะเราสนิทกับโบรกก็เลยขอไม่ให้ Force Sell ปล่อยตกมาจนสถาบันเจ๊ง ตอนนั้นผมถืออยู่ 2 ตัวที่ราคา 30 บ.กับ 8 บ. สุดท้ายยอมจำนนขายที่ 2 บ. กับ 0.70 บ.เป็นหนี้ท่วมตัว ดอกเบี้ยจ่ายตอนนั้น 28% เครียดไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไง หยิ่งอีกขอให้พ่อช่วย 55 ... ตอนนั้นเงินเดือนออกเอามาจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยยังแทบจะไม่พอเลย พอดีโบรกใกล้เจ๊งเต็มที่เลยเสนอ Hair Cut ให้ผม 40%ของ หนี้ แต่ขอเงินสดทั้งหมด ผมยังโชคดีหน่อยที่ตอนนั้นเปิด OD ไว้นิดหน่อยเอาบ้านเข้าไว้แต่ไม่ได้ใช้ ก็เลยได้ใช้อีกอย่าง ดอก OD ตอน นั้น 15% น้อยกว่าดอกที่ผมจ่าย 28% แต่ก็ขาดอีกมากมาย เลยต้องคุยกับแฟนเอาเงินเก็บของเขากับของลูก พร้อมทรัพย์สินที่เปลี่ยน เป็นเงินได้เร็วเช่นทองคำ Rolex ฝากเพื่อนไปขาย สุดท้ายก็หมดตัวอย่างสิ้นเชิงและมีหนี้ OD กับหนี้แม่ยายอีกนิดหน่อย..... ใครไม่ผ่านเหตุการณ์อย่างนี้ไม่รู้หรอกว่ามันเครียดขนาดไหน เอาปืนจ่อปากก็เคยมาแล้วจนแฟนผมต้องเอาปืนไปเก็บซ่อน ตอนนั้นก็ยัง อายุไม่มากนักคิดแต่ว่าชีวิตหมดสิ้น หันหลังให้หุ้นไปหลายปี(จริงๆไม่มีเงินเล่นแค่จ่ายดอกกับค่าใช้จ่ายในบ้านก็หมดแล้ว) จนพอมีเงิน จาก OD ที่เหลือบ้างแสนบาท ก็กลับมาลงทุนใหม่ปี 43 ก็ลุ่มๆดอนๆ จนมาถึงปัจจุบันก็ไม่คิดว่าจะกลับมาได้แต่ก็กลับมามากกว่าตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้มากมาย ย้อนหลังไปนั่งคิดดูถ้าตอนนั้นเกิดบ้าทำไรโง่ไป ครอบครัวจะอยู่กันยังไง.....จนปัจจุบันผมก็ไม่คิดจะเล่น Margin อีก เลย.....ตอนนี้แค่นี้ถึงพอร์ทผมจะไม่มากนักแต่ก็พออยู่พอกินไปได้ไม่ลำบากครับ.......ยาวไปหน่อย จริงๆพยายามให้สั้นแล้วนะครับ 555 โดย Joi เสาร์ มิ.ย. 29, 2013 4:33 pm

Re: VI สายธรรมะ แนวพุทธปัญญา ผมสงสัยอยู่ 2 อย่างยังคาใจครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ - เราไม่อยากฆ่าสัตว์ แต่ถ้าปลวกขึ้นบ้าน เราไม่กำจัดมันบ้านเราก็พัง ผมถามเพื่อนมันบอกว่าก็ปล่อยให้มันกินไป อย่าไปฆ่ามัน แต่สุดท้ายผมก็จำใจกำจัดมันครับ จริงๆควรทำไงไม่บาปครับ - บ้านเราๆเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ แต่คนศาสนาอื่นๆก็เชื่อของเขา ผมสงสัยว่านรก สวรรค์ มีแบ่งแยกตามศาสนา หรือแบ่งตามประเทศ บ้างไม๊ เพราะต่างความเชื่อกัน ขอบคุณครับ :B โดย Joi ศุกร์ มิ.ย. 21, 2013 12:24 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ งั้นคุณ SG BOY ต้องลองศึกษาประวัติ ลป. สรวง กับ ลป.หมุน เลยครับ .... โดย Joi พุธ มิ.ย. 19, 2013 12:48 pm

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ พระ ใส่พระเพราะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ผิดครับ ที่ถูกคือ ผม ใส่พระ .... โทษทีครับ :B โดย Joi เสาร์ มิ.ย. 08, 2013 1:41 am

Re: สะสมพระเครื่องเก่าๆบ้างไหมครับ นึกถึงตัวเองเมื่อก่อนแล้วก็ขำ ออกไปกินเหล้าพอเมาแล้วก็จะกลับบ้านก็นึกถึงพระ เจ้าประคู้นขอให้ลูกปลอดภัยด้วยเถอะสารพัดจะขอ บางทีก็คุยในวงเหล้าหลวงพ่อองค์โน้นเก่งด้านนี้ หลวงพ่อองค์นี้เก่งด้านโน้น คุยมันทั้งเมาๆนี่แหละ :D เดี๋ยวนี้ตั้งแต่ปฏิบัติภาวนามาไม่เคยห้อยพระเลยครับไปไหนก็นึกถึงครูบาอาจารย์ตลอด(คงเริ่มฉลาดขึ้น:D) รักษาศีล5เท่าชีวิตไม่ทำทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่น(เหล้าหยดเดียวก็ไม่กิน) นึกถึงความตายตลอดเราอาจจะตายตอนนี้เลยหรืออีก1นาทีข้างหน้านี้ก็ได้เพราะชีวิตไม่เป็นของแน่นอน(ปู่ย่าตายายที่เราเคยเห็นว่ามีตัวตนอยู่บัดนี้เค้าก็หายไปจากโลกนี้แล้วลูกหลานเราที่ตัวเล็กๆอีกหน่อยเค้าก็ต้องหายไปจากโลกนี้เหมือนกันรวมทั้งเราเองด้วย ร่างกายนี้ก็บอบบางมากโดนอะไรชนนิดเดียวก็เจ็บแทบตายอากาศเปลี่ยนนิดเดียวก็ไม่สบายแล้ว ) ความชั่วที่เราเคยทำไปแล้วอย่าได้ทำอีก พยายามเจริญสติโดยแนบคำบริกรรมพุทโธเข้าออกพร้อมลมหายใจ อนุโมทนาครับ... :mrgreen: พระใส่พระเพราะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ และผมก็ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เอาเปรียบใคร ทำบุญทำทานเท่าที่มีโอกาส หลักคิดที่แม่ผมชอบ พูดสอนเสมอตั้งแต่เด็กจนโต คือ "อย่าโกงหรือเอาเปรียบใคร" "คิดว่าเราไม่มีไว้เสมอ เมื่อเรามีเราก็จะสุขใจ ถ้าเราคิดว่ามี เมื่อเราไม่มี เราก็ทุกข์ใจ" และที่แม่ชอบพูดเวลากินข้าว "กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน" มันยังก้องอยู่ในหูจนทุกวันนี้เลยครับ 555 :mrgreen: โดย Joi เสาร์ มิ.ย. 08, 2013 1:37 am