หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
MisterK
Joined: จันทร์ เม.ย. 04, 2005 12:11 pm
857
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - MisterK
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/103/1.PDF กำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/102/12.PDF
โดย
MisterK
จันทร์ ส.ค. 27, 2007 10:05 am
0
0
หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริกา
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/102/5.PDF อ่านแล้วกฏหมายนี้มีผลกระทบกว้างกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เอิ้ก คลุมไปถึงบริษัทโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ดาวเทียม อินเตอร์เน็ต รวมทั้ง email, webboard และ blog ต้องจัดเก็บข้อมูลหมด ไม่รู้ครอบคลุมถึงบริการต่างประเทศด้วยหรือเปล่า ต่อไปจะใช้ gmail, yahoomail ได้หรือเปล่านี่ สงสัยเราคิดไม่สร้างสรรอีกแล้ว :oops:
โดย
MisterK
จันทร์ ส.ค. 27, 2007 10:03 am
0
0
นิยายแปลเรื่องใหม่ของหวงอี้และน.นพรัตน์
ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกใช้ได้เรื่องหนึ่งทีเดียวนะครับ ถึงผมจะมีข้อติหลายอย่างก็เถอะ ถ้าให้คะแนนผมคงให้ 7.5-8 เต็ม 10 มาตรฐานของหวงอี้จัดว่าอยู่ในกลุ่มอ่านสนุกแน่ ๆ อยู่แล้ว ถ้าไม่สนุกคงไม่อ่านจนจบ 23 เล่มในรวดเดียวแหง :oops:
โดย
MisterK
ศุกร์ ส.ค. 10, 2007 4:17 pm
0
0
นิยายแปลเรื่องใหม่ของหวงอี้และน.นพรัตน์
อ่านรวดเดียวจบ 23 เล่มแล้วครับ สรุป คร่าว ๆ ตามความเห็นส่วนตัว 1. เฮียหวงอี้แกมาแปลก ชุดนี้ไม่มี erotic โผล่มาเลย ไม่รู้กลับตัวกลับใจ หรือโดนท่าน น. ตัด 2. เนื้อเรื่องอ่านได้เรื่อย ๆ หักเหลี่ยมเฉือนคม แต่ในแนวทางกำลังภายในค่อนข้างจืดชืด ขาดไคลแม๊กซ์ที่ทำให้อารมณ์ถึงจุดเดือด มีบ้างแต่ไม่แรงและค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับความยาวเรื่อง (อดเทียบกับกิมย้งไม่ได้ที่มีไคลแมกซ์ทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านตลอดเรื่อง) 3. เล่มสุดท้ายน่าผิดหวังมาก ไคลแมกซ์สำคัญที่สุดอย่างฉาก จี้เชียนเชียน กลับมาเล่นดนตรีกลับถูกละเลยไปอย่างไม่น่าให้อภัย เล่นจบแบบดื้อ ๆ (อีกแล้ว) รวมไปถึงขาดฉากการแยกย้ายจากกันของตัวละครต่าง ๆ ไปจนถึงอันอี้ฉิงนี่ไม่รู้มีไว้ทำไม 4. ในแง่การเขียน พัฒนาการของเฮียหวงอี้ผมว่าดีขึ้นไม่วกวนซ้ำซากฉากเดิมๆ อาศัยแค่เปลี่ยนตัวละครไปเรื่อย ๆ (เหมือนมังกรคู่ที่มีแต่ฉากสองมังกรสู้กับศัตรูสุดร้ายกาจ แล้วศัตรูสุดร้ายก็กลายมาเป็นมิตรสุดรักที่เชื่อฟังทุกอย่าง) 5. เป็นเรื่องที่อ่านจนจบแล้วไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครไหนเลย แบบว่าจบก็จบ หาเรื่องใหม่มาอ่านต่อก็ได้ เทียบกับหลาย ๆ เรื่องที่พออ่านจบแล้วยังคิดถึงตัวละครหลาย ๆ ตัวและไม่อยากให้จบ
โดย
MisterK
ศุกร์ ส.ค. 10, 2007 9:22 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
คงมีแต่เมืองไทยที่บุกเข้ายึด server กันดื้อ ๆ โดยไม่สนใจว่าใน server จะมีเวปที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่กี่พันเวป ถือว่าโชคร้ายเองที่โฮสดันไปอยู่กับ server นั้น :twisted: และที่สำคัญสิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือยึด server แล้วก็สามารถใส่ข้อมูลสารพัดผิดเข้าไปง่าย ๆ เพราะเป็นข้อมูลดิจิตัล ใส่ความผิดกันได้ง่ายกว่ายัดยาบ้าหลายล้านเท่า :oops: http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9162&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai ข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่ง ที่อาจไม่เด่นดัง แต่ก็สะเทือนคนวงการออนไลน์ไม่น้อย เกิดขึ้นเมื่อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการของเว็บไซต์ตลาดดอทคอม ถูกตำรวจบุกเข้าไปยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ คนทั้งวงการตื่นตระหนก หรือนี่คือผู้เคราะห์ร้ายรายแรกของพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550! แต่เปล่าเลย แม้วิธีการยึดเซิร์ฟเวอร์จะเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการตำรวจบ้านเรา เหมือนที่กฎหมายคอมพิวเตอร์ก็เป็นเรื่องใหม่ซิงๆ ที่เพิ่งแกะกล่องออกใช้เมื่อ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่การกระทำครั้งนี้ เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และเหตุที่ต้องยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปนี้ เพราะเป็นเครื่องแม่ข่ายให้กับเว็บไซต์มากมาย โดยเว็บไซต์ตลาดดอทคอมก็เป็นหนึ่งในนั้น เครื่องเซิร์ฟเวอร์จึงไม่ต่างจากหลักฐานชิ้นหนึ่ง เป็นหลักฐาน ชนิดใหม่ ที่ตำรวจอยากนำไปสืบสวน แต่ไม่ว่าการยึดเซิร์ฟเวอร์นี้จะอ้างตามกฎหมายใดก็ตาม สิ่งที่ต้องหาคำตอบ และทำความเข้าใจร่วมกัน คือ การยึดเครื่องแม่ข่ายนั้น ทำไปเพื่อประโยชน์อะไร (หรือทำอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์ต่อคดี) ควรมีกระบวนการอย่างไร ทำไปภายใต้วิธีคิดแบบใด รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ศึกษากรณีตลาดดอทคอม ยึดเซิร์ฟเวอร์ไปทำไม ข้อสังเกตหนึ่งที่เกิดขึ้นกับกรณีการยึดเครื่องแม่ข่ายของตลาดดอทคอม คือ มีเหตุผลอะไรที่ภาครัฐต้องการยึดเครื่องไป? นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการบริษัทตลาด คอท คอม จำกัด และอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (E-Commerce) เล่าว่า ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐมาขอข้อมูลจากบริษัทของเขาหลายครั้ง เจตนารมณ์ของบริษัทคือให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ์ และเมื่อมีสินค้าผิดกฎหมายก็ปิดบริการทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอข้อมูล โดยมีเอกสารมาอย่างเป็นทางการ ก็จะรวบรวมข้อมูลให้เท่าที่ต้องการ เขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดดอทคอมว่า เรื่องเริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 50 ที่เจ้าหน้าที่กองปราบปรามการค้าเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ติดต่อมายังบริษัท แจ้งว่ามีเว็บไซต์ 8 แห่งที่มีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งนายภาวุธก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องการให้ และคิดว่าเรื่องทุกอย่างน่าจะจบแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน ในวันที่ 25 ก.ค. เจ้าหน้าที่กลับเข้ามายึดเครื่อง โดยมีหมายค้นมาจากศาลทรัพย์สินทางปัญญา และอิงความผิดตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปเป็นหลักทางในกรณีความผิดของทั้ง 10 เว็บไซต์ (จากเดิมที่ขอข้อมูลครั้งแรกไป 8 เว็บไซต์) ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นคือ ทำไมต้องยึดเซิร์ฟเวอร์ เพราะที่ผ่านมา การขอข้อมูลก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเป็นอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่า ขอมูลที่มีนั้น มันไม่พอ และเมื่อคิดต่อไปว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรหลังจากยึดเครื่องไปแล้ว วิธีการก็คือ การcopy image (สำเนา ภาพเหมือน ข้อมูล) ข้อมูลที่ต้องการไป ซึ่งหากขอข้อมูลไปจากเจ้าของเครื่อง ก็จะได้ข้อมูลไปแบบเดียวกัน แต่เหตุผลที่จะไม่ทำแบบนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า ข้อมูลต่างๆ จะถูกแก้ไขเสียก่อน จึงชิงยึดเซิร์ฟเวอร์ไป แล้วดึงข้อมูลด้วยตนเอง ถ้าเป็นเช่นนั้น คำถามคือ แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องไปแล้ว จะเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่แก้ไขข้อมูลของประชาชน คำถามนี้ ใครจะตอบ? จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา สมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมกันแถลงการณ์ต่อกรณีการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว วรวุฒิ อุ่นใจ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า การยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ก็เปรียบเหมือนมีห้างสรรพสินค้า ในห้างนั้นมีร้านค้ามากมาย แต่เมื่อร้านหนึ่งขายของผิดกฎหมาย ก็แก้ไขด้วยการปิดห้างสรรพสินค้าทั้งห้างเลย เขากล่าว่า กรณีการยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หมายถึงการปิดธุรกรรมของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการอิเล็คทรอนิกส์ทั้งหมด ทุกวันนี้ อีคอมเมิร์ซมีปัญหาอยู่แล้ว แล้วเจ้าหน้าที่กลับมาเพิ่มแรงกดดันเสียเอง อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์กล่าว สมาคมอีคอมเมิร์ซไม่เห็นด้วยกับการยึดเครื่องแม่ข่ายของผู้ให้บริการ ซึ่งส่งผลกระเทือน ทำให้ลดทอนความมั่นใจของผู้ค้าออนไลน์ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม อีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย เกิดมาไม่ถึง 10 ปี ดังนั้นเป็นไปได้ที่จะต้องเจออะไรใหม่ๆ กรณีใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกัน แต่อย่างหนึ่งคือ เมื่อเกิดปัญหา มันควรต้องมีการแก้ปัญหาร่วม เจ้าหน้าที่อาจจะมีมุมมองที่คนละทิศคนละทาง อยากให้มีการปรับร่วมกัน เพราะอย่างน้อยอีคอมเมร์ซก็จะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเราดีขึ้น วรวุฒิกล่าว วิธีการประสานงานและการดำเนินการระหว่างผู้ให้บริการกับรัฐ มันควรวางร่วมกัน กฎกระทรวง ว่าด้วยการยึดและอายัดระบบคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ดี แม้สังคมไทยยังคลางแคลงใจกับวิธีการ ยึดและอายัด เครื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่เร็วๆ นี้กำลังจะมีกฎกระทรวงฉบับใหม่ออกมาประกาศใช้ คือกฎกระทรวงว่าด้วยการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.... ซึ่งเป็นกฎหมายลูกของพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ คือรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จากนั้นจึงจะนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีลงนามอีกครั้ง ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว ยังมีกฎหมายลูกอื่นๆ ที่จะออกมาภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.... ซึ่งกระทรวงไอซีทีเตรียมจะออกประกาศอีก 4 ฉบับ คือ หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ, หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายฉบับนี้, ประกาศเรื่องรูปแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ และประกาศเกี่ยวกับโปรแกรมชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ (มัลแวร์) สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีเนื้อหาถึงขั้นตอนและวิธีการที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์จากเจ้าของหรือผู้ครอบครองเพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐาน แต่ทันทีที่ได้เห็นเนื้อหาของร่าง ก็เห็นชัดทันทีว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มอง "ระบบคอมพิวเตอร์" เป็นเหมือนครุภัณฑ์ทั่วไป เช่น แท่นพิมพ์ เครื่องส่งสัญญาณ ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ นั่นคือ ไม่ได้คำนึงถึงว่า บางส่วนของอุปกรณ์ในระบบคอมพิวเตอร์นั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล และตัว "ข้อมูลคอมพิวเตอร์" ข้างในนั้นต่างหาก ที่มีความสำคัญกว่าตัวอุปกรณ์จัดเก็บเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับการนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสอบสวนดำเนินคดี ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ละเลยสาระสำคัญเรื่อง "ข้อมูลคอมพิวเตอร์" ไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งรวมถึงสาระที่ว่า จะป้องกันการแก้ไขทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ในระหว่างถูกอายัดอย่างไร? และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หากข้อมูลคอมพิวเตอร์นี้เสียหายในระหว่างถูกอายัด? ทั้งนี้ การป้องกันการแก้ไขทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์นี้ มีความสำคัญ เพราะ 1) มันก็คือการป้องกันการแก้ไขทำลายหลักฐานนั่นเอง 2) ในหลายกรณี ข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญมากต่อการดำเนินธุรกิจ หากข้อมูลเสียหาย ก็หมายถึงธุรกิจเสียหายด้วย แต่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ไม่ได้ระบุกลไกใดๆ ที่จะทำให้รับประกันได้ว่า 1) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในอุปกรณ์ที่ถูกอายัดนั้น จะไม่ถูกแก้ไขหรือทำลายระหว่างถูกอายัด 2) หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว เราจะทราบได้ทันที หากมาดูเนื้อหาในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว เรามาลองดูในบางมาตรา เริ่มที่ในข้อ 4 และ ข้อ 5 ข้อ ๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำบัญชีแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดหรืออายัด เช่น ประเภทอุปกรณ์ ชนิด รุ่น หมายเลขเครื่อง(S/N) จำนวน โดยกรอกข้อมูลลงในแบบ ทก.ยค. ที่แนบท้ายกฎกระทรวงนี้ และให้ถ่ายสำเนาแบบนั้น ติดที่บรรจุภัณฑ์ ตามลำดับหมายเลขไว้และให้แสดงเครื่องหมายไว้ที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่าได้มีการยึดหรืออายัดแล้ว ตามวิธีที่เห็นสมควร จะเห็นว่า วิธีที่ปฏิบัติต่อระบบคอมพิวเตอร์นั้น เน้นที่จะบันทึกแต่เพียงรายละเอียดตัวอุปกรณ์ แต่ไม่ได้แสดงถึงสถานะและรายละเอียดของข้อมูลภายในเลย เช่นนี้แล้ว ย่อมเปิดช่องให้มีการกลั่นแกล้งจากเจ้าพนักงานหรือผู้ไม่หวังดีได้ และไม่ว่าท้ายทีสุด จะพบเบาะแสใดๆ ความผิด หรือถึงจะพ้นข้อกล่าวหา แต่หากข้อมูลเสียหาย ก็ส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจอย่างแน่นอน โดยที่เจ้าของระบบคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะมายืนยันเรียกร้องได้เลย ไม่เพียงเท่านั้น ในข้อ 5 ของร่างกฎกระทรวง ที่แม้จะบอกว่า ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองลงลายมือชื่อรับรองในบัญชียึดและอายัติ แต่ในร่างก็ระบุด้วยว่า ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ยอมเซ็น ก็ให้เจ้าพนักงานในท้องที่นั้นลงชื่อรับรองแทนเสีย ข้อ ๕ เมื่อยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดการให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นลงลายมือชื่อรับรองในแบบ ทก.ยค. แนบท้ายกฎกระทรวงนี้ หากผู้นั้นไม่ยินยอมลงลายมือชื่อ หรือในกรณีที่ไม่มีบุคคลดังกล่าวให้จดแจ้งลงในแบบนั้น และให้เจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองแห่งท้องที่นั้นลงลายมือชื่อรับรองแทน ข้อ ๖ เมื่อยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บระบบคอมพิวเตอร์นั้นเพื่อป้องกันความเสียหายและการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น แล้วทำการปิดผนึก (Seal) ด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันการเปิดบรรจุภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ แม้ตัวข้อ 6 นั้น จะพูดถึง "บรรจุภัณฑ์" และ "การปิดผนึก" ในลักษณะที่ว่า จะเป็นการป้องกันการแก้ไขทำลายได้ แต่การปิดผนึกดังกล่าว ก็ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์จะไม่ถูกแก้ไขหรือทำลาย เช่น กรณีของฮาร์ดดิสก์ และเทปสำรองข้อมูล ซึ่งเป็นอุปกรณ์/วัสดุจัดเก็บข้อมูลที่ใช้แพร่หลายที่สุด อุปกรณ์/วัสดุดังกล่าวจัดเก็บข้อมูลด้วยหลักการแม่เหล็ก เราสามารถทำให้ข้อมูลข้างในอุปกรณ์/วัสดุจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้เสียหายได้ โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ เพียงเอาแม่เหล็กตัวใหญ่ ๆ แรงๆ มาวางใกล้วัสดุหรืออุปกรณ์ดังกล่าวเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงเข้าไปอีกก็คือ ตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ อาจจะไม่ถือว่าความเสียหายของข้อมูล เป็นความเสียหายด้วยซ้ำ ในข้อ 7 กล่าวถึงสถานที่เก็บรักษา ระบุว่า ข้อ ๗ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ใดแล้วไม่สามารถขนย้ายมาเก็บรักษาไว้ ณ สำนักงาน หรือสถานที่เก็บรักษาได้ หรือระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีสภาพไม่เหมาะสมที่จะนำมาเก็บรักษา ให้รายงานพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าพร้อมเสนอความเห็นเพื่อพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้ายังไม่สั่งการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการยึดหรืออายัดนั้นจัดการเก็บรักษาทรัพย์สินไว้ตามที่เห็นสมควรไปพลางก่อน นั่นคือ ถ้าหลังจากพนักงานเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดเครื่องไปแล้ว ไม่สามารถเอามาเก็บที่สำนักงานของเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายอาญาทั่วไป จะระบุว่าให้เก็บ ณ ที่ตรวจค้น แต่ปรากฏว่าในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เขียนไว้ว่า ให้อยู่ในดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ นั่นคือ จะนำไปเก็บที่ใดก็ได้ ในข้อ 9 มีกล่าวถึง "มูลค่า" ที่เสื่อมเสีย แต่อะไรคือมูลค่าของระบบคอมพิวเตอร์ ? หากตัววัสดุอุปกรณ์ไม่บุบสลาย ยังคงสภาพเดิมทุกประการ แต่ข้อมูลข้างในหายหมด จะถือว่ามูลค่ายังคงเดิมหรือไม่ ? ข้อ ๙ ถ้ามูลค่าแห่งระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้ยึดหรืออายัดไว้นั้น ต้องเสื่อมเสียไปเพราะความผิดของบุคคลภายนอกเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งยึดหรืออายัดไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เรียกให้บุคคลภายนอกนั้นรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายใดๆ อันเกิดขึ้นแต่การนั้น เรื่องที่น่าหนักใจก็คือ ในร่างไม่ได้พูดถึงเลยว่า หากเจ้าพนักงานทำเสียหาย จะด้วยจงใจหรือไม่ก็ตาม จะต้องรับผิดชอบอย่างไร เพราะข้อ 9 ระบุถึงเฉพาะกรณีบุคคลภายนอกเท่านั้น แบบนี้เท่ากับเจ้าพนักงานมีอำนาจ แต่ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ? ข้อ 9 นี้จะต้องระบุให้ชัดเจนว่า การเสื่อมสลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็หมายถึงการเสื่อมสลายของระบบความพิวเตอร์ด้วย ซึ่งมีผลให้มูลค่าเสื่อมเสียเช่นเดียวกัน และสำคัญที่สุดคือ จะต้องระบุความรับผิดชอบให้รวมถึงเจ้าพนักงานด้วย ไม่เฉพาะบุคคลภายนอกเท่านั้น ตามหลักทั่วไปที่ว่า อำนาจ ต้องมาพร้อมกับ ความรับผิดชอบ ข้อเสนอหนึ่ง เกี่ยวกับการป้องกัน ตรวจสอบการแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในเรื่องของการป้องกัน/ตรวจสอบการแก้ไขข้อมูลนั้น หากเป็นไปได้ ควรจะเปิดให้ทำสำเนาแยกเป็นสองชุดหรือมากกว่า โดยเจ้าพนักงานยึดอุปกรณ์ (พร้อมข้อมูล) ไป และเจ้าของเครื่องเก็บสำเนาข้อมูลอีกชุดไว้ และถ้าจะให้ดี ก็ควรจะให้มีคนกลางอีกคน เก็บสำเนาข้อมูลอีกชุดไว้ด้วย เพื่อยันกัน แต่ในกรณีที่วิธีดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ (ข้อมูลเยอะเกินไป ใช้เวลามากเกินไป ฯลฯ) ขอเสนอให้เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด เพื่อเก็บ "เลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์" ของข้อมูลชุดนั้นเอาไว้ โดยเลขยืนยันนี้ จะเปลี่ยนไปเมื่อข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้เราสามารถทราบได้ทันทีว่า ข้อมูลได้ถูกแก้ไขไปจากเดิม ณ เวลาที่ทำการอายัด ขยายความก็คือ ในทางคอมพิวเตอร์นั้น เราสามารถเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้ได้ตัวเลขชุดหนึ่ง เรียกว่า เลขยืนยัน (checksum) ซึ่งตัวเลขชุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่นำมาเข้ารหัส เช่น ถ้าเรามีข้อมูลชุดหนึ่ง "AAABBBCCC" แล้วนำไปเข้ารหัส เราอาจได้เลขยืนยันมาว่า "XY" สมมติว่ามีการแก้ไขข้อมูล เปลี่ยนไปเป็น "AAABBBCDD" (ข้อมูลสองตัวสุดท้ายเปลี่ยนจาก CC เป็น DD) เมื่อนำไปเข้ารหัส ก็จะได้ตัวเลขยืนยันชุดอื่นที่ไม่เหมือนเดิม เช่นเป็น "QJ" เมื่อนำเลขยืนยันมาเทียบกัน เราก็จะรู้ได้ทันที ว่ามีการแก้ไขเกิดขึ้น (การเข้ารหัสเลขยืนยันบางวิธี นอกจากจะรู้ว่ามีการแก้ไขเกิดขึ้นแล้ว ยังสามารถบอกได้ว่า เกิดการแก้ไขขึ้นที่จุดไหน และบางวิธียังสามารถบอกได้ด้วยว่า ข้อมูลก่อนถูกแก้คือะไร อย่างไรก็ตาม วิธีการเข้ารหัสเลขยืนยันดังกล่าว จะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และต้องใช้เนื้อที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น ตามความสามารถ) ในทางปฏิบัติ ก่อนที่จะยึดอายัด ควรจะให้ เจ้าของ เจ้าพนักงาน และพยานคนกลางอื่น มาร่วมเป็นพยานในการหาเลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์ที่ว่านี้ เมื่อได้มาแล้ว ก็ให้ทุกฝ่ายจดเลขยืนยันอิเลกทรอนิกส์ชุดนี้เอาไว้ แล้วลงลายมือชื่อรับรองให้ครบทุกฝ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐาน จากนั้นค่อยให้ยึดอายัดอุปกรณ์ไปได้
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ส.ค. 09, 2007 9:28 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ผู้ค้าอีคอมเมิร์ชแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย กรณีรัฐเชือดตลาดดอทคอมให้ลิงดู โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2550 10:40 น. สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการเข้ายึดเซิร์ฟเวอร์ตลาดดอทคอม ระบุว่าก่อนหน้านี้ ทางตลาดดอทคอมมีการมอบข้อมูลและประสานงานอย่างเต็มที่แล้ว ย้ำว่าการเข้ายึดเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของธุรกิจ ลามไปถึงความมั่นใจของผู้ค้าขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ แถลงการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีได้เข้าตรวจค้นและยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด ณ Inet Data Center ชั้น 10 เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฏาคม พศ. 2550 ที่ผ่านมา ให้เหตุผลว่ายืดไปเพื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นการประเดิมพิธีกรรมเชือดไก่ให้ลิงดู แถลงการณ์ของสมาคมอีคอมเมิร์ชไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยเพียงอย่างเดียว แต่กล่าวถึงแนวทางการให้ความร่วมมือของภาคเอกชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ด้วย แบ่งออกเป็นสองส่วนได้แก่ แนวทางความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูล และแนวทางป้องกันและการให้ความรู้ผู้ประกอบการ เกี่ยวกับเรื่องการค้าขายสินค้าที่อาจจะละเมิดลิขสิทธิ์หรือผิดกฏหมาย โดยระบุว่าหากผู้ประกอบการละเลยหรือไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตามแนวทางทั้งสองนี้ ทางสมาคมฯ ก็เห็นควรที่จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายกับทางผู้ให้บริการ นัยของแถลงการณ์นี้จึงอาจสรุปได้ว่า กลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชกำลังรวมพลังเพื่อสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติและความเข้าใจระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐให้ชัดเจน ซึ่งเป็นรูรั่วที่พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 เปิดช่องไว้ ขีดเส้นสามวันทำการ ในแถลงการณ์ระบุแนวทางการปฏิบัติของ"เจ้าหน้าที่"ในการขอข้อมูลจากผู้ให้บริการไว้ว่า หากเจ้าหน้าที่พบเห็นหรือได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าละเมิดลิขสิทธ์หรือสินค้าผิดกฏหมายในเว็บไซต์ที่ให้บริการ เจ้าหน้าที่ควรออกหนังสือขอข้อมูลและระบุข้อมูลที่ต้องการอย่างชัดเจนไปยังผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง หากทางเจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือหรือติดต่อกับผู้ให้บริการไปแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือดำเนินการใดๆ ภายใน 3 วันทำการ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายได้ทันที สำหรับแนวทางการปฏิบัติของ"ผู้ให้บริการ" หากมีการเอกสารหรือมีการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ทางผู้ให้บริการต้องติดตามและหาข้อมูลตามที่เจ้าหน้าที่ได้ร้องขอมา อย่างถูกต้องและจะต้องไม่มีการแก้ไข หรือบิดเบือนข้อมูล และจะต้องส่งให้กับเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วันทำการ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ผู้ให้บริการดำเนินการตามหนังสือที่ได้รับแจ้งมา ภายใน 3 วันทำการ หลังได้รับเอกสารจากทางเจ้าหน้าที่แล้ว "สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หวังว่าแถลงการณ์ฉบับนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติและความเข้าใจระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม" นอกจากนี้ สมาคมยังเสนอแนวทางป้องกันและการให้ความรู้ผู้ประกอบการว่า จะร่วมมือกับทางภาครัฐให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการในการการค้าขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ และสินค้าผิดกฏหมายโดยรูปแบบในการให้ความรู้ผ่านทางเว็บไซต์ของทางสมาคมฯและการจัดงานเสวนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั่วไป Company Related Links : แถลงการณ์สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ [/url]
โดย
MisterK
ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 10:39 am
0
0
เซ็นเตอร์พอยต์ มีใครเคยเดินบ้าง
ไปจอดที่ตึกศูนย์หนังสือจุฬาได้ครับ ข้าง ๆ ทันตแพทย์ ไม่งั้นก็คงต้องข้ามไปสยามเซ็นเตอร์หรือ Discovery แล้วเดินข้ามมาเอา
โดย
MisterK
อังคาร ก.ค. 24, 2007 10:55 pm
0
0
โอ เพิ่งดูกราฟ TUCC 10 วันทำการ เกือบ 100% PE เกือบ 100
ช่วงนี้หาหุ้นไม่ขึ้นยากกว่าหุ้นขึ้น สงสัยเป็นช่วงตลาดปล่อยผีอยู่มั้งครับ ช่วงเวลาทองของ Tecnical Hunter อีกสองอาทิตย์ก็คงรู้เลขที่ออก
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 11:15 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ICT เตรียมออกกฎกระทรวงว่าด้วยการยึดหรืออายัดคอมพิวเตอร์ http://www.blognone.com/node/5264 คงมีรายละเอียดปลีกย่อยตามมาอีกเยอะ ผลกระทบก็คงมีทั้งด้านดีและด้านร้าย คนทำเวปหรือเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหน่อย
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 10:16 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
วิเคราะห์เชิงลึกว่ากระทบหุ้นตัวไหนบ้าง นี่คงต้องรอผู้รู้ที่อยู่ในวงการเน็ตมาช่วยครับ ระบบ Blog หรืออะไรกระทบบ้างต้องตีความกันอีกเยอะ ผมคงทำได้แค่ให้ข้อมูลว่าตอนนี้พรบ. บังคับใช้แล้ว
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 9:51 am
0
0
พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
กระทบหลายฝ่ายครับ เช่น เรื่องเก็บ log และอำนาจในการตรวจค้นก็กระเทือนถึง ISP และ web hosting ทุกเจ้า รวมไปถึงเวปไซต์ทั้งหมด ถ้าไม่เก็บ log อย่างน้อย 3 เดือนมีความผิดทันที ไม่แน่ใจว่า Blog จะเกี่ยวด้วยหรือเปล่า หรืออย่างเช่นการส่ง spam ต่างๆ อาจทำให้การทำ marketing ผ่านเน็ตต้องระมัดระวังมากขึ้น เป็นต้น
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 18, 2007 9:45 am
0
0
นิยายแปลเรื่องใหม่ของหวงอี้และน.นพรัตน์
เพิ่งจะมาเริ่มอ่านครับ คงทันเล่มสุดท้ายออกพอดี :oops:
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.ค. 13, 2007 3:32 pm
0
0
พอหุ้นขึ้น ข่าวดีก็มาเพรียบเลยแฮะ
ปกติผู้บริหารให้ข่าวดีนี่ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ถ้าให้ข่าวร้ายนี่ค่อนข้างเชื่อนะครับ เพราะถ้ามันไม่ร้ายจริง ๆ ไม่ค่อยมีใครยอมรับให้เสียฟอร์มและเสียเครดิตบริษัท ทั้งทำให้ตัวเองดูไม่มีฝีมือและทำให้บริษัทอาจเสียเครดิตกับซัพพลายเออร์และแบงค์ได้
โดย
MisterK
พุธ ก.ค. 04, 2007 12:23 pm
0
0
วันนี้ผู้โดยสารเต็มรถ คนขับเหยียบเต็มที่ รอจอดป้ายก่อนดีกว่า
VI แท้คงต้องทนอีกซักสองสามวันครับ อย่าตะบะแตกช่วง 2-3 วันนี้แล้วกัน :twisted:
โดย
MisterK
อังคาร ก.ค. 03, 2007 12:15 pm
0
0
ศรราม vs หมอลักษณ์ ฟันธง
ผมเชื่อแต่ว่า กรรม = กระ + ทำ บุคคลย่อมเป็นไปตามการกระทำ ซึ่งส่วนใหญ่ย่อมเกิดจากตัวเอง ทั้งมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม อดีตและปัจจุบันทำอะไรคิดอะไรพูดอะไร สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมก่อให้เกิดผลที่ตามมากระทบกับตัวเราทั้งด้านดีและร้าย แต่ชาติก่อนหรือชาติหน้านี่ ถ้าผมเชื่อก็เพราะ หากมันไม่มีจริง การยอมรับเรื่องชีวิตและตัวตนของเราคงยากน่าดู ของที่พิสูจน์ไม่ได้ก็แค่เลือกว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อเท่านั้น :roll:
โดย
MisterK
ศุกร์ มิ.ย. 22, 2007 11:54 pm
0
0
สหพัฒน์ กุมขมับ คาดรายได้ทั้งเครือหาย6.5พันล้าน
ปี 40 เม็ดเงินเสียหายเยอะ แต่กระทบคนน้อยกว่า (แต่เสียงดัง) ปี 49 เม็ดเงินเสียหายน้อย แต่กระทบคนเยอะกว่า (แต่ไม่มีปากเสียง) ธุรกิจอื่นไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนเก้ามาลดฮวบ ๆ ลงทุกเดือน ทั้งเกษตรทั้งท่องเที่ยวรวม ๆ กันมันรายได้กี่เปอร์เซนต์ของประเทศไปแล้วหว่า หวังว่ายุบ ๆ ไปแล้วจะกลับมาดีซะทีน้า หรือจะให้ดีรีบ ๆ เลือกตั้งก็ดีจะได้หมดปัญหาคาใจซะที :oops:
โดย
MisterK
พุธ มิ.ย. 06, 2007 2:44 pm
0
0
กระทิงมาแย้ว...
ขึ้นไปได้ไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ บทเรียนที่ผ่านมาหลายครั้งสอนว่า อย่าดูถูกความโลภของมนุษย์ พอมันเข้ามาบังตาเท่าไหร่ก็ลุย ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้ระบบนี้ (ระบบไหนหว่า) ยังไงคงไม่ไปไกลแบบสุดไขว่คว้าหรอก ไกลแค่ไหนไม่รู้แต่เดี๋ยวก็กลับมาย่ำรอเลือกตั้งก่อน แต่พรุ่งนี้สารพัดสำนักคงออกมาฟันธงแถว ๆ 780 มั้ง :lol:
โดย
MisterK
ศุกร์ มิ.ย. 01, 2007 3:08 pm
0
0
กระทิงมาแย้ว...
สิ่งที่ตลาดกลัวที่สุดคือความไม่ชัดเจน ไม่ได้กลัวหรอกว่าใครจะชนะหรือแพ้ ถ้าไม่มีเรื่องรุนแรงตามมา ก็นับว่าตัดเรื่องหนักอกไปหนึ่ง
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. พ.ค. 31, 2007 8:49 am
0
0
จบไม่จบ
ผมเห็นด้วยว่าทีมมดทุกท่านเป็นผู้เสียสละมาช่วยเวปที่น่ายกย่อง แต่ขอสะกิดนิดเดียวเท่านั้นคือ ทีมมดเองก็เป็นคนธรรมดาซึ่งสามารถทำผิดพลาดได้ อาจโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยอคติในใจ (ซึ่งแฝงอยู่โดยไม่ได้คิดเอามาใช้แต่มันมีผลต่อการตัดสินใจ) จึงอยากให้มีการทบทวนประกาศนโยบายให้ชัดเจน และบางอันที่ก้ำกึ่งก็น่าจะมีการคุยกันในทีม ตลอดจนอาจมีการ review ปรับความเข้าใจในทีมมดเองว่าอันไหนอาจตัดสินเบี่ยงเบนจากกฏไปบ้างหรือเปล่า ต่อไปจะได้เข้าใจตรงกัน กล่าวคือถ้าจะยอมรับข้อตัดสิน ขอให้ยอมรับเนื่องจากมันผิดจากข้อตกลงจริง ๆ ไม่ใช่ยอมรับเพราะเห็นว่าทีมมดเสียสละดังนั้นควรต้องยอมรับครับ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. พ.ค. 31, 2007 8:47 am
0
0
ขอกันได้ไหมครับ ช่วยไม่โพสการเมืองในเวปนี้ได้ไหมครับ
ขนาดสรยุทธยังต้องให้แต่ SMS เห็นด้วยเท่านั้นที่เอามาแสดง thaivi เส้นเย็นตาโฟ ต้องถนอมตัวหน่อยครับ ยุคนี้เป็นยุคเอาตัวรอดเป็นยอดดี ไม่ใช่ยุคยืนหยัดกับความถูกต้องแล้วครับ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. พ.ค. 31, 2007 7:51 am
0
0
web ของ คุณ rockriverarm ถูกปิดครับ
แต่ก็อาจจะจริงแฮะ สั่งปิดแค่ยี่สิบเอง อีกหมื่นกว่าแห่งที่เหลือ แค่ ISP "ให้ความร่วมมือ" ไม่ได้สั่งซักกะนิด
โดย
MisterK
อังคาร พ.ค. 29, 2007 12:47 pm
0
0
web ของ คุณ rockriverarm ถูกปิดครับ
[quote="ลูกไม่ท้อ"]เห็นว่ารัฐบาลที่แล้ว สั่งปิดเว็บไปประมาณหมื่นกว่าเว็บ รัฐบาลนี้ก็เพิ่งสั่งปิดไปไม่ถึงร้อยเว็บ
โดย
MisterK
อังคาร พ.ค. 29, 2007 12:41 pm
0
0
"นั่งเล่น" โดนตรวจจนได้
แค่โดนตรวจเอง ร้านหินแม่น้ำโดนสั่งปิดดื้อ ๆ เลยครับ :lol:
โดย
MisterK
จันทร์ พ.ค. 28, 2007 2:45 pm
0
0
PC Backup
External harddisk มีทั้งแบบที่เอา Harddisk desktop มาใส่กับแบบที่เอา harddisk notebook มาใส่ซึ่งจะเล็กกว่า ถ้าต้องการขนาดเล็กพกพาสะดวกก็ใช้แบบใส่ HD notebook แต่ถ้าเอามาใช้ที่บ้านใช้แบบที่ใส่ HD desktop ดีกว่ามาก เพราะความจุสูงสุดเยอะกว่า ราคาถูกกว่า และเร็วกว่า
โดย
MisterK
เสาร์ พ.ค. 26, 2007 5:08 pm
0
0
PC Backup
Harddisk usb 2.0 (คิดว่าเดี๋ยวนี้คงไม่มี 1.0 แล้วมั้ง) ทำ backup ได้สบายครับ ถ้าเครื่องมี Scsi หรือ eSata ก็จะเร็วขึ้น แต่ไม่จำเป็นเท่าไหร่ Harddisk เดี๋ยวนี้ 300gb ถูก ๆ เอามา backup server ยังไหว ถ้าเขียน script เป็น ทำเป็น xcopy เอาเฉพาะไฟล์ที่มี update ก็ได้ เร็วดี
โดย
MisterK
เสาร์ พ.ค. 26, 2007 9:15 am
0
0
MBK เตรียมต่อสัญญามูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท 20 ปี
ตัว MBK คงคิดมาอย่างดีแล้วว่ายังไงก็คุ้มแน่ ไม่ต้องห่วงเขาหรอกครับ มือระดับนั้นแล้ว รายได้ของจุฬาผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมน่าจะได้ต้องเยอะแล้วยังไม่พอ แต่ถ้าคิดดี ๆ แล้วบุคลากรทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และอื่น ๆ (เช่นยาม) น่าจะหลายพันคน และค่า maintenance ดูแลพื้นที่ตึก สวนหย่อม ห้องเรียน สวัสดิการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ (ทั้งถูก ๆ หรือแพง ๆ อย่างคอมพ์ เครื่องมือแปลก ๆ ทางวิศวะ ทางแพทย์ ฯลฯ) เดือนนึงคงอยู่ระดับร้อยล้าน เห็นช่วงที่จะออกจากระบบ ได้ข่าวว่าจุฬาเองก็ต้อง active หารายได้ต่าง ๆ มาเพิ่มเติมกันยกใหญ่ ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเป็นมหาลัยอื่นจะย่ำแย่ขนาดไหน
โดย
MisterK
จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:16 pm
0
0
รบกวนถามเรื่องเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ในบ้าน
ตอนนี้ใช้อยู่สามยี่ห้อ ไดกิ้น มิตซู ฮิตาชิ คิดว่ามิตซูดีกว่ายี่ห้ออื่นมาก ๆ ตรงรีโมตครับ ใช้ง่าย ฟังก์ชันชัดเจน กำหนดได้ว่าจะหยุดส่ายที่มุมไหน ในขณะที่ตัวอื่น ๆ ต้องมาเล็งเอาเอง ความเงียบและความเย็นก็ดี เป็นตัวที่ผมใช้ก่อนตัวอื่นและถูกใจที่สุด อีกสองตัวลองซื้อเพราะอยากลองของใหม่และได้โปรโมชันดี :oops: มิตซูราคาจะแพงที่สุดในกลุ่ม สูงกว่ายี่ห้ออื่นประมาณ 10% ถ้าเอาแบบได้อย่างใจแทบทุกอย่างก็ค่อนข้างคุ้ม แต่ถ้าจะ value หน่อยไม่เน้นความสะดวกสบายก็ยี่ห้ออื่น ๆ รอง ๆ ลงมา ตัวไดกิ้นกับฮิตาชิก็โอเคนะถึงตัวรีโมตจะสู้มิตซูไม่ได้
โดย
MisterK
จันทร์ พ.ค. 14, 2007 1:57 pm
0
0
ช่วยด้วยครับ โอวนี่-แปะก๊วย
ไปกินตามร้านหรือภัตตาคารหลาย ๆ แห่ง เดี๋ยวนี้เขาก็แกะ s&p เข้า wave หรือไม่ก็อุ่น ให้กินแล้วนะครับ เก็บส่วนต่างสบาย ๆ ไม่ต้องเสี่ยงตุนของ แถมรสชาติคนกินส่วนใหญ่ก็โอเค ช่องทางตลาดที่สำคัญช่องทางนึงเลยนะนี่ ไม่รู้มีคู่แข่งบ้างหรือเปล่า 8)
โดย
MisterK
ศุกร์ พ.ค. 11, 2007 10:45 am
0
0
มี VI เล่นvdo เกมส์ ไหมครับ
Lord Of The Ring Online http://www.lotro.com Open Beta ถึง 24 เมษายนนี้ ถ้า Pre-Order ก่อน 24 จะได้สิทธิ์พิเศษเลือกได้ว่าลดราคารายเดือนจาก 14.95 เหลือ 9.95$ ต่อเดือน หรือเลือกจ่าย 199$ ฟรีรายเดือนตลอดชีพ เหมาะกับคนชอบ LOTR เห็นฝรั่งซื้อไปเล่นกันทั้งครอบครัวหลายคน แต่ Value หรือเปล่าไม่แน่ใจเหมือนกันแฮะ น่าจะมีคนเอาเข้าไทยบ้างนิ แต่คงแปลเควสกันหน้ามืด :lol:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. เม.ย. 19, 2007 1:30 pm
0
0
เหอๆ สบายดีกันมั๊ยเพื่อนๆ
หวัดดีครับ หายไปนานเลย
โดย
MisterK
พุธ เม.ย. 11, 2007 10:51 am
0
0
ทีม Moderator ชุดใหม่ครับ
ขอคารวะให้กับความเสียสละทั้งทีมงานเก่าและใหม่ และยินดีด้วยกับทีมงานใหม่ทุกท่านครับ :cheers:
โดย
MisterK
พุธ เม.ย. 04, 2007 3:43 pm
0
0
มี VI เล่นvdo เกมส์ ไหมครับ
หนังสือกำลังภายใน+เกมส์ http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=261393 ที่สุดแล้วเกมส์ก็คงพัฒนาไปถึงขั้นนั้น แต่คงไม่ทันในยุคเราแหง :?
โดย
MisterK
อังคาร เม.ย. 03, 2007 1:45 pm
0
0
หุ้นเกียร์ว่าง
อ่านแล้วนึกถึง SUC เหมือนกัน
โดย
MisterK
จันทร์ เม.ย. 02, 2007 5:03 pm
0
0
ข่าวด่วน นายสนธิ ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
ล้มละลายล้างหนี้ยังผ่านมาแล้ว ล้มเสร็จรวยแค่ไหนก็เห็น ๆ อยู่ เจ้าหนี้ทำอะไรได้ คดีแค่นี้จิ๊บ ๆ :lol:
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 10:58 am
0
0
เมื่อไหร่ซีเอ็ดจะกลายเป็นโชว์รูมโชว์หนังสือ
ผมคิดว่า E-Commerce เมืองไทยตอนนี้น่าจะเริ่มก้าวได้แล้ว สมัยก่อนทำกันเร็วไปหน่อย เหตุผลคือ เมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว ฐานคนใช้ internet มีแต่นักเรียน นักศึกษา ซึ่งไม่มีกำลังซื้อและไม่มีบัตรเครดิต ทำให้การสั่งซื้อต่าง ๆ ยุ่งยากมาก แต่คนเหล่านั้นตอนนี้ก็เข้าสู่วัยทำงานกันหมดแล้ว ฐานคนเล่น net จึงน่าจะเลื่อนมาเป็นกลุ่มวัยทำงาน และจะเพิ่มฐานอายุคนเล่นขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่าน ประกอบกับเน็ตเริ่มเป็นที่คุ้นเคยกับคนไทยมากขึ้น คนทุกช่วงอายุมีโอกาสได้เล่นแล้ว (แต่ก่อนเน็ตแพงงงงง เพราะผูกขาดโดยกสท. ตามบ้านแทบไม่ได้เล่นกัน) ADSL ก็ใช้กันเยอะ โอกาสขาย online น่าจะดีกว่าแต่ก่อนมาก
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 10:51 am
0
0
พาลูกไปสอบสาธิตเกษตรมา
[quote="MisterK"]การสอบเข้าสาธิต ป.1 นี่แข่งขันกันสูงจริง ๆ ครับ
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 10:39 am
0
0
พาลูกไปสอบสาธิตเกษตรมา
การสอบเข้าสาธิต ป.1 นี่แข่งขันกันสูงจริง ๆ ครับ ถ้าไม่ได้ตั้งใจเตรียมมาให้เข้านี่ยากมาก ๆ ผมมีสารพัดครู (พิเศษ) ที่สอนเรื่องสมาธิ การคิดต่าง ๆ เพื่อเข้าสาธิตโดยเฉพาะเยอะมาก ทำให้เด็กที่ไม่ได้เรียนหรือเตรียมมาโอกาสเข้าได้จะค่อนข้างน้อย แต่ผมก็รู้จักหลายคนที่ไม่ได้เรียนพิเศษ พ่อแม่ติวให้เองก็สอบเข้าได้สบาย ๆ พ่อแม่หลายคนก็จะคิดว่าแข่งทีเดียว สบายไปอีก 12 ปี (ไปห่วงอีกทีตอนเอ็นท์เลย) เลยยอมทุ่มเทเวลาให้กับการสอบเข้าป. 1 มาก ยอมเครียดทีเดียว ตัวอย่างเช่น สมัยลูกคนแรกผมสอบเข้า เท่าที่รู้มาคะแนนเต็ม 50 คนสุดท้ายที่เข้าได้คือได้ 43 นั่นคือประมาณ 86/100 ถึงจะเข้าได้ ตัดกันที่เกรด A เลยนะนั่น :shock: พอเข้าไปแล้วเด็กสาธิตกลับเน้นที่การแสดงออกมากกว่าวิชาการจริง ๆ ไปดูค่ายลูกเสือรอบกองไฟแล้ว เห็นเด็ก ๆ แต่ละกลุ่มออกมาแสดง สมัยเราอยู่มหาลัยยังทำไม่ได้อย่างนี้เลย :oops:
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 10:38 am
0
0
เมื่อไหร่ซีเอ็ดจะกลายเป็นโชว์รูมโชว์หนังสือ
สองงานยักษ์ชนกันทุกปี สัปดาห์หนังสือ และ งานกาชาด ซีเอ็ดผมไปทีไรหาหนังสือที่อยากได้ไม่มีทุกที เพราะร้านเขาขนาดเล็กและเน้นแต่หนังสือขายดีใหม่ ๆ มั้ง เวลาผมนึกจะหาหนังสือนี่ต้องไปหาจากศูนย์หนังสือจุฬาเป็นหลัก ซีเอ็ดกลับไม่ค่อยได้ซื้อแฮะ แต่ซื้อเยอะสุดก็เป็นในงานสัปดาห์หนังสืออยู่ดี :oops:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 2:12 pm
0
0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
ประกันเราสามารถแยกออกเป็นสามส่วนนะครับ 1. ประกันชีวิต -> พื้นฐานของระบบประกันจริง ๆ คือ แชร์ความเสี่ยงเวลาเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือตาย 2. ประกันสุขภาพ -> ประกันว่าเวลาไม่สบายมีคนจ่ายแทน 3. ออมทรัพย์ -> อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยว แต่บริษัทประกันนิยมเอามารวมไปมาก เริ่มฮิตเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยดอกเบี้ยลดฮวบ ๆ AIA ออกประกันแนวนี้ออกมาโฆษณาว่าผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย ซึ่งที่จริงมันไม่ได้ดีกว่า แต่คนขายประกันเองส่วนใหญ่ก็เชื่อตามนั้นเพราะถูกสอนตัวเลขง่าย ๆ มา คนมีเงินเก็บเลยนิยมทำกันมากเพราะเชื่อคนขาย ข้อ 1. อันนี้ผมคิดว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนขายประกันจะค้อนเอา เพราะเบี้ยประกันในส่วนนี้จะน้อยมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนขายที่จรรยาบรรณดีมั่ก ๆ มักจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมขายประเภทนี้ให้ -> ผมซื้อแต่แบบนี้เป็นหลักแบบสองนิดหน่อย ข้อ 2 ถ้ามีสวัสดิการไม่ว่าจะจากรัฐหรือบริษัทจะไม่ค่อยจำเป็น ยกเว้นแต่คุณอยากเข้า BH, BGH, .... ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ก็ควรทำ ข้อ 3 ที่จริงค่อนข้างคล้ายกับฝากประจำ ถ้าตัวเราไม่ค่อยมีวินัยก็ช่วยได้ แต่ต้องแยกให้ออกจาก 1,2 ต้องรู้ตัวว่ายอดฝากจริงเท่าไหร่ประกันเท่าไหร่ สำหรับนักลงทุนแล้วข้อนี้ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะมีอะไรอย่างอื่นให้ลงทุนได้ผลตอบแทนดีกว่า
โดย
MisterK
พุธ มี.ค. 21, 2007 3:19 pm
0
0
Re: พาลูกไปสอบสาธิตเกษตรมา
แต่พอเตรียมความพร้อมลูกเราก็เห็นทันทีเลยว่าลูกเรามันขาดไปหลายเรื่อง ไม่ใช่เรื่องอ่านออกเขียนได้ หรือบวกเลข เขาไม่สอบอย่างนั้น แต่ขาดเรื่องการคิดที่เป็นระบบ การสังเกตุและจดจำ ผมว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคนที่จะโตขึ้นไปเรียนระดับสูงๆ เพราะต้องคิดเป็นช่างสังเกตุและจดจำรายละเอียดได้เป็นอย่างดี เครือสาธิตในระดับประถมเขาเน้นเตรียมพัฒนาการเด็กมากกว่าความรู้ทางวิชาการครับ เพราะเขาถือว่าถ้าเด็กพร้อมและมีความคิดสร้างสรรค์การเรียนรู้ทีหลังจะไปได้เร็วกว่ามาก และเขาจะเน้นที่พ่อแม่ให้มีส่วนร่วมด้วย บางปีเห็นสาธิตจุฬาให้พ่อแม่เข้าสอบกับลูกด้วย ถ้าเข้าไม่ได้นี่ต้องโทษพ่อแม่ :lol:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 15, 2007 11:50 am
0
0
ขำขำ คลายเครียด
เรื่องของหัวหอม http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5191166/A5191166.html :oops:
โดย
MisterK
พุธ มี.ค. 14, 2007 5:02 pm
0
0
นิยายแปลเรื่องใหม่ของหวงอี้และน.นพรัตน์
สิ้นเดือนนี้ถึงต้นเดือนเมษามีงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมสิริกิต์นี่ครับ หนังสือดี ๆ มีกำหนดออกเพียบ และอย่าลืมงานกาชาดที่สวนอัมพรช่วงเวลาเดียวกัน งานนี้รายจ่ายเพียบ :oops:
โดย
MisterK
พุธ มี.ค. 14, 2007 12:32 pm
0
0
ข้อมูลคดีไอทีวีตั้งแต่ปี 42 -49 แล้วจะรู้ความจริง
[quote="tanatat"]บังเอิญไม่ใช่นักกฏหมายแต่ผมว่าต้องดูเจตนารมย์ของกฏหมายจะดีกว่าตีตามตัวหนังสือในข้อกฏหมายจะดีกว่ามั่งครับ กรณีของช่อง 7 เป็นคนละเรื่องกับ itv ต่างกรรมต่างวาระ ผมว่าต้องลองดูครับตอนนั้นใครเป็น ผบทบ
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2007 11:20 am
0
0
ถ้า TV เหล่านี้ต้องปิดตัวลง ใครจะเสียใจมั้ยคับ
ดูอยู่สามช่องครับ เรียงตามลำดับความถี่ ช่อง 3 ITV ช่อง 9 ช่อง 7 รับไม่ค่อยชัด แต่ก็ไม่คิดว่ามีรายการอะไรน่าดู อีกสองช่อง เปิดไปดูเสียดายค่าไฟเปล่า ๆ ยิ่งช่อง 5 ของท่าน ๆ สีเขียวมีไว้สำหรับดูตอนปฏิวัติอย่างเดียวครับ :lol:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2007 10:39 am
0
0
ชีวิตไม่มี Undo
ชอบ " ชีวิตไม่มี reset " ครับ
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 2:47 pm
0
0
สนธิ ลิ้มทองกุล เปลี่ยนทิศทางแล้วครับ
ผมมองคล้าย ๆ freemindd ครับ ประชาธิปไตยมันต้องค่อย ๆ เติบโต ผมเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่สำคัญจนขาดไม่ได้ หรือผู้นำคนไหนที่จะมีอำนาจค้ำฟ้าได้ตลอด แต่รากฐานของบ้านเมืองต้องค่อยๆ ไต่และเติบโตขึ้นไป ไม่ใช่พออึดอัดก็เรียกร้องหาฮีโร่ออกมาล้มระบบทิ้ง เริ่มกันใหม่จากศูนย์ ประชาธิปไตยและการเมืองไทยถึงไม่เดินหน้าไปถึงไหนซักที วนกลับมาเริ่มต้นใหม่ตลอด เพราะความเชื่อว่าไม่ดีก็ล้มทำใหม่ แต่ไม่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกและแก้ไขได้ในที่สุด ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าเมื่อเราเริ่มรัฐธรรมนูญใหม่ ตั้งไข่ประชาธิปไตยใหม่ ก็ต้องมีคนออกมาหาผลประโยชน์และรูโหว่ใหม่อีก มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่จะสามารถสร้างให้ perfect ตั้งแต่วันแรก แต่ถ้าพอถึงวันนึงเราไม่พอใจก็ล้มมันใหม่อีก ก็คงวนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์อย่างนี้ไม่รู้จบ
โดย
MisterK
ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 10:44 am
0
0
หม่อมอุ๋ยลาออก!!
ในที่สุด *"ปรีดิยาธร"ลาออกจากตำแหน่งมีผลพรุ่งนี้ ระบุไม่พอใจคนในรัฐบาล Source - IQ Biz (Th) Wednesday, February 28, 2007 11:42 16015 XTHAI XECON HOTN V%WIREL P%IQ อินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 50)--ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงขอลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดมีผลตั้งแต่ 1 มี.ค.โดยได้รับการอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีแล้ว "ผมไม่ต้องการทำงานในสภาวะที่มีการปิดบังอำพราง และไม่ต้องการทำงานในสภาวะที่ดูเหมือว่ารัฐบาลอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนบางกลุ่ม"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวในการแถลงข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เปิดแถลงข่าวในวันนี้ โดยระบุว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ที่เอื้อประโยชน์กับสื่อมวลชนบางราย รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการที่บุคคลในรัฐบาลชุดก่อนเข้ามาช่วยงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นข้ออ้างที่ไม่สมจริงและมีจุดประสงค์ที่ปิดบังอำพราง และการถอนตัวออกไปก็ไม่เป็นการถอนตัวอย่างแท้จริง เพราะสายสัมพันธ์ยังคงอยู่ เนื่องจากยังมีตัวเชื่อมอยู่ในรัฐบาล --อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]
โดย
MisterK
พุธ ก.พ. 28, 2007 11:44 am
0
0
เรียนคุณเฟยหง และคุณ Jeng
ตามอ่านกระทู้คุณเฟยหงมาตั้งแต่สมัยพันธ์ทิพย์แล้ว คิดว่าสไตล์คุณเฟยหงนี่ "เซลล์แมนมาเอง" ครับ คือจะใช้สำนวน+วิธีที่ค่อนข้างโอเวอร์ ซึ่งมีหลายท่านที่ผมเห็น ก็ชอบใช้วิธีประมาณว่าเอาไตรมาสที่ดีที่สุดคูณ 4 แล้วประเมินเป็น P/E :oops: (ตัวอย่างนะครับไม่ได้บอกว่าใครทำบ้าง) ที่จริงผมก็เห็นหุ้นหลายตัวก็ดีจริงขึ้นจริง แต่ไม่มีความจำเป็นต้องฮาร์ดเซลล์ขนาดนั้น หลายอย่างมันจะพาเข้าข่ายบิดเบือนซึ่งผิดกฏของบอร์ดแน่ ๆ ข้อมูลหลายอย่างทีคุณเฟยหงโพสต์ก็เป็นประโยชน์ แต่การถูกถอดสมาชิกจากบอร์ดหลาย ๆ แห่งซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา น่าจะกลับมาพิจารณาวิธีการโพสต์และนำเสนอของตนเองบ้างว่ามีอะไรที่ผิดกฏของชุมชน
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 11:10 am
0
0
มีความเห็นอย่างไรกับการทวงคืนดาวเทียมไทยคม
คำต่อคำบทสัมภาษณ์'สุรยุทธ์'เปิดใจกับBBC โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2550 01:36 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี บีบีซีนิวส์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเทพฯ โดยที่โทรทัศนืบีบีซี เวิลด์ ได้นำบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาตัดต่อออกอากาศเป็นรายงานข่าว ในช่วงกลางวัน และออกอากาศบทสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ในช่วงรายการ เอเชีย ทูเดย์ ตอน 20.30 น. ตลอดจนนำคลิปวิดีโอมาเสนอไว้ในเว็บไซต์ news.bbc.co.uk ต่อไปนี้เป็นหลายประเด็นหลายคำถามคำตอบของการให้สัมภาษณ์คราวนี้ เกี่ยวกับผลงานของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าตนเองเป็นผู้นำที่อ่อนแอและไม่กล้าตัดสินใจนั้น เป็นการวิจารณ์ที่ไม่เป็นธรรม เพราะขณะนี้ เรากำลังพยายามแก้ไขปัญหาทางการเมือง เรากำลังพยายามแก้ไขความไม่ยุติธรรม เรากำลังพยายามสร้างรัฐบาลใหม่ และรัฐธรรมนูญใหม่ และผมเชื่อว่า เราจะสามารถจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และเป็นอิสระได้ภายในสิ้นปีนี้ พลเอกสุรยุทธ์ กล่าว ในเรื่องแก้กฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พล.อ.สุรยุทธ์บอกว่า สิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือ พยายามทำให้สนามแข่งขันมีความราบเรียบสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพื่อไปสู่ทิศทางใดๆ หรอก บีบีซี: การรัฐประหารทำให้เกิดความวิตกอย่างมาก กระทั่งเป็นไปได้ว่าถึงขั้นตื่นตระหนกสำหรับวงการนักลงทุนต่างประเทศ หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือไม่ได้เห็นว่ามีการนำเสนอนโยบายกันอย่างดีเท่าที่ควร สุรยุทธ์: เรายังคงเปิดกว้างรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มันยังอยู่ในกระบวนการร่างเท่านั้น บีบีซี: ท่านวิตกไหม ถึงปฏิกิริยาในทางลบของประชาคมนักลงทุนต่างประเทศ สุรยุทธ์: ผมรู้สึกวิตก แต่ไม่ใช่ในทางที่จะทำให้ผมไม่สามารถเดินหน้าตามเจตนาของผมที่จะจัดเตรียมสนามที่เสมอภาคเป็นธรรมสำหรับนักลงทุนในอนาคต การสอบสวนความผิดของ ทักษิณ บีบีซี: ทำไมรัฐบาลของท่านและหน่วยงานต่างๆ ที่ท่านตั้งขึ้น จึงต้องใช้เวลานานเหลือเกินในการหาหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเมื่อการกระทำผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ การกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณคอร์รัปชั่น ถูกหยิบยกมาเป็นเหตุผลความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร สุรยุทธ์: ผมขอบอกคุณว่ามันเป็นภารกิจที่ยากลำบากมาก เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วได้ใช้อำนาจในทางมิชอบ เข้าครอบงำสิ่งที่คุณอาจจะเรียกว่า หน่วยงานสาธารณะที่เป็นอิสระ หน่วยงานเหล่านี้ทั้งหมดไม่สามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหน้าที่ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นมา เช่น ไม่มีการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ไม่มีระบบตรวจสอบและคานอำนาจ สิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่คือ การปกครองโดยหลักนิติธรรม ผมคิดว่าในระยะเวลาอีกไม่นาน อาจจะในสองหรือสามเดือนข้างหน้า คุณจะสามารถได้เห็นคดีหลายๆ คดีที่พิสูจน์ถึงการใช้อำนาจในทางมิชอบ คดีการทุจริตคอร์รัปชั่น บทบาทของทหาร บีบีซี: สิ่งหนี่งที่ชาวต่างประเทศจำนวนมากรู้สึกกังวลก็คือ คณะนายพลที่นำการก่อรัฐประหารในปีที่แล้ว ยังคงออกมาพูดอย่างเปิดเผยมากในเรื่องเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ทั้งที่พวกเขาได้ให้สัญญาไว้ในเดือนกันยายนว่า จะถอยกลับไปอยู่ข้างหลังอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดขึ้น ทำไมถึงไม่ถอยกันไปล่ะ สุรยุทธ์: พวกเขาย่อมสามารถที่จะออกความเห็นอะไรกันบ้าง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะดี เพราะผมคิดว่าผมเชื่อในเรื่องการพูดการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และผมยังส่งเสริมคนอื่นๆ ให้เข้าร่วมในการแสดงทัศนะ บีบีซี: แต่ท่านต้องการให้คณะนายพลที่ล้มรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้ว ออกมาพูดถึงประเด็นซึ่งอ่อนไหวจริงๆ แทบเหมือนกับว่าพวกเขากำลังบริหารประเทศอยู่งั้นหรือ สุรยุทธ์: ผมคิดว่าน่าจะดี สำหรับตัวผมนะ เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของการรับฟังแนวความคิดหลากหลาย ให้มีการเข้าร่วมมากๆ จากประชาชนคนไทยทั้งมวล ในระเบียบวาระของผมนั้น ผมมีประเด็นปัญหาอยู่เยอะแยะมากมาย ถ้าพวกเขาคิดว่ามันเป็นปัญหา ผมก็ยินดีรับฟัง แต่ไม่ใช่ผมจะทำตามนะ สไตล์ความเป็นผู้นำ บีบีซี: นั่นทำให้ท่านดูจะเป็นผู้นำที่ค่อนข้างลังเล เป็นผู้นำในสไตล์ผ่อนคลายสบายๆ เหมือนกับไม่ต้องกังวลกับอะไรเลย สุรยุทธ์: ผมไม่ใช่ผู้นำที่ลังเลนะ ผมเป็นผู้นำที่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ฟังคำแนะนำ และแม้กระทั่งการสบประมาท ตลอดจนจากคนของฝ่ายอื่นๆ ด้วย ผมไม่เคยมองว่านั่นเป็นการละเมิดทำให้ขุ่นเคืองหรืออะไร ในกรณีของรัฐบาลชั่วคราว คุณจะต้องมีพวกนักการเมืองทั้งหลาย กลุ่มกดดันทั้งหลาย ที่พยายามทำให้คุณเห็นด้วยว่า นี่เป็นวิธีที่ถูกในการทำสิ่งต่างๆ และนั่นอาจจะนำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ ผมเชื่องช้าเกินไป แต่ผมต้องเฝ้าดูและรับฟังและขบคิดว่าผมควรจะต้องทำอะไร ผมไม่สามารถทำอะไรทั้งหมดโดยทันที เพราะผมไม่ได้มีฐานสนับสนุนอะไรเลย การแก้ปัญหาภาคใต้ บีบีซี: ปัญหาที่หนักหนาสาหัสปัญหาหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยรัฐบาลชุดก่อนหน้าท่าน ก็คือความขัดแย้งในภาคใต้ ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่โดยส่วนตัวของท่านเองมีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อแก้ไขวิกฤตดังกล่าวให้ได้อย่างสันติ นับตั้งแต่ที่ท่านเข้ามาดำรงตำแหน่ง ท่านคิดว่าทำไมจึงยังไม่ได้ผล ยังคงมีความรุนแรงมากมายในภาคใต้เหมือนกับช่วงที่ผ่านๆ มา สุรยุทธ์: ห้าปีแห่งความรุนแรงเชียวนะครับ ในระยะเวลาของรัฐบาลชุดก่อนหน้าผม ผมคิดว่ามันจะไม่ใช่ง่ายๆ หรอกที่จะแก้ไขความรุนแรงทั้งหมดภายในระยะเวลา 4 เดือน (ของรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์) มันจะต้องใช้เวลานานทีเดียว ในความพยายามที่จะทำให้ผู้คนแน่ใจว่า นั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องหรอกที่จะแก้ปัญหา ถ้าพวกเขาต้องการแก้ปัญหาแล้ว พวกเขาควรจะเข้ามาและพูดจากัน นั่นเป็นวิธีดีที่สุด เรากำลังพยายามเรื่องนี้กันอยู่ ผมคิดว่าก่อนที่รัฐบาลของผมจะหมดอายุลง เราจะสามารถสร้างความคืบหน้าได้ในแง่ของการลดระดับความรุนแรง และริเริ่มให้เกิดการพูดจาอะไรกัน กับกลุ่มที่เป็นผู้ก่อการร้ายตัวจริงซึ่งพยายามสร้างความรุนแรงในภาคใต้ ถ้ารู้ว่าหนักขนาดนี้ยังจะรับตำแหน่งไหม บีบีซี: ท่านทราบไหมว่ามันจะภารกิจที่หนักหน่วงขนาดนี้ ตอนที่ท่านได้รับการทาบทามให้รับตำแหน่งนี้ ภายหลังการรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว ท่านคิดไหมว่าถ้าตอนนั้นท่านทราบอย่างที่ตอนนี้ได้ทราบแล้ว ท่านจะตอบปฏิเสธไป สุรยุทธ์: ไม่ครับ ผมทราบดีว่าภารกิจข้างหน้าผมนั้นเป็นภารกิจที่ใหญ่โตมโหฬาร บีบีซี: ท่านทราบไหมว่ามันจะลำบากถึงขนาดนี้ ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขนาดนี้ สุรยุทธ์: ผมทำใจไว้แล้วว่าผมจะต้องเผชิญกับสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากทีเดียวสงสารผม แต่ผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ของผมในฐานะคนซึ่งพยายามแก้ไขวิกฤตนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครล่ะที่จะสามารถทำเรื่องนี้ได้ :lol:
โดย
MisterK
ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 10:57 am
0
0
มีความเห็นอย่างไรกับการทวงคืนดาวเทียมไทยคม
"สุรยุทธ์"ยอมรับห่วงปัญหาใต้ ย้ำจับเข่าคุยแกนนำป่วนใต้แน่ Source - เว็บไซต์คมชัดลึก (Th) Thursday, February 22, 2007 15:21 32149 XTHAI XCLUSIVE ARTI V%NETNEWS P%WKC นายกฯ ยอมรับห่วงปัญหาใต้ ขอให้ใจเย็นอีกนิด เพราะศอ.บต.เพิ่งเริ่มทำงาน ยังไม่ปลด"สนธิ"คุมแก้ใต้ เรียกร้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ย้ำเปิดเจรจาแต่รอรมว.ต่างประเทศ ไทย-มาเลย์ หารือรายละเอียกกันก่อน (22กพ.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์และนายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมงาน นายกฯ พบสื่อทำเนียบ ครั้งที่ 4 โดยในครั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้แจกหลวงพ่อสิงห์เพชร วัดบุญวาทย์วิหาร จ.ลำปาง นอกจากนั้นยังจัดเตรียมอาหารกล่อง อาทิ ข้าวหน้าปลาแซลมอล ราเมงหน้าเนื้อ หน้าหมู เป็นต้น ไว้เลี้ยงสื่อมวลชน นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนแรกว่า ตนมีความห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และในช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.พ. ตนได้เชิญประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ซึ่งได้มีการวางแนวทาง เพื่อให้เกิดความร่วมมือจากประชาชนให้มากขึ้น และการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือนและทหารกระชับมากขึ้น ส่วนการปฏิบัติงานในระดับล่างนั้น เป็นเรื่องของกอ.รมน. ภาคที่ 4 และศูนย์อำนวยการบริหารงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะนำไปดำเนินการในรายละเอียดต่อไป สิ่งที่มีความห่วงใย คงเป็นเช่นเดียวกับประชาชน คืออยากเห็นความรุนแรงในพื้นที่ลดลง และการที่จะบรรลุความมุ่งหมายนั้น จะต้องมีวิธีการทั้งในด้านการปฏิบัติทางยุทธวิธี และการได้รับความร่วมมือจากประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองและเขตชุมชน ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังทหารลงไปในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การดูแลกำลังทหาร เป็นเรื่องของ กอ.รมน.ตนคงไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะเป็นการทำงานในเรื่องนโยบายเท่านั้น ส่วนการปฏิบัติ หรือการใช้กำลังทางยุทธการเป็นเรื่องที่ กอ.รมน.จะต้องพิจารณาเอาเอง หากมีความจำเป็นอื่นใดเพิ่มเติม คงจะต้องมีการขอการสนับสนุนในภาครัฐต่อไป "ส่วนการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น ผมได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการที่จะเปิดการหารือ และพูดคุยกันในแนวทางกว้างๆ แต่ยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด ซึ่งได้มอบหมายให้ รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้หารือในรายละเอียดในทุกๆ เรื่อง ที่จะมีความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ รวมทั้งการเจรจาด้วย เราไม่ดำเนินการในลักษณะที่กระทำโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ต้องเป็นความเห็นชอบร่วมกัน ระหว่างไทยและมาเลเซีย ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นผู้แทนในการเจรจาในเรื่องเหล่านี้ให้ลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำให้เหตุการณ์สงบ หรือความร่วมมือด้านสังคม เศรษฐกิจ " นายกฯระบุ เมื่อถามว่า การเจรจากับกลุ่มต่างๆ มีความคืบหน้าอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นเรื่องที่ตนต้องรอ รมว.ต่างประเทศ พูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศมาเลเซียก่อน ส่วนการพูดคุยในระดับล่างนั้น เป็นเรื่องที่ ศอ.บต.หรือ กอ.รมน. สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเราได้เปิดโอกาสให้มีการหารือกันภายในอยู่แล้ว และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดย ศอ.บต.จะเป็นจุดศูนย์รวมข้อคิดเห็น ปัญหา และหาทางแก้ไขปัญหา ต่อข้อถามว่า นายกฯ มีมาตรการในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ด้านอื่นอีกหรือไม่ นอกจากขอความร่วมมือจากประชาชน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องที่ตนเป็นห่วงคืออยากให้มีความสงบ เพราะฉะนั้นความร่วมมือจากทุกส่วน เป็นเรื่องสำคัญ และเห็นว่าเหตุการณ์ร้ายแรงไม่มีประโยชน์ หรือทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ จึงควรจะร่วมมือกัน นอกจากนั้นยังได้มีการหารือด้านอื่นๆ เช่น มีการกำหนดเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ ที่ทุกกระทรวงและศอ.บต. ได้ทำงานร่วมกัน เหตุที่ติดขัดคงมีเรื่องเดียว คือความรุนแรงที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการคาดการณ์จากที่ประชุม กอ.รมน. ว่าเหตุการณ์อาจจะลุกลามมาถึงพื้นที่กทม. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำถามถามว่าเป็นการคาดการณ์ เพราะฉะนั้นการคาดการณ์ ก็คือการคาดการณ์ ซึ่งถือว่าสามารถคาดการณ์ได้ แต่ภาครัฐจะต้องยืนอยู่บนความไม่ประมาท และพยายามตรวจสอบดูแลให้เหตุการณ์สงบ และยุติลงในเวลาที่เร็วที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ เมื่อถามว่า กฎหมาย ศอ.บต. กำหนดให้การทำงานขึ้นตรงกับกระทรวงหมาดไทย จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นการแยกการทำงาน ระหว่างพลเรือนและทหาร อย่างชัดเจน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า กฎหมายศอ.บต. เป็นแนวทางการบริหารงานบุคคล หมายความว่าข้าราชการส่วนใหญ่ขึ้นกับการบังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทย มีบางกระทรวงเข้าไปร่วมงานด้วย เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น แต่การตั้งอัตราประมาณ 200 อัตรานั้น เป็นข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย จึงให้การบริหารงานบุคคลขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ส่วนการทำงานนั้น แนวความคิดคือการทำงานร่วมกัน ระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งจะต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ และกองบัญชาการพลเรือน ตำรวจและทหาร อยู่ภายใต้ กอ.รมน.ภาคที่ 4 ซึ่งกอ.รมน.ภาคที่ 4 จะดูแลภาพรวม และทำงานร่วมกับ ศอ.บต. ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อเหตุในขณะนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะในเรื่องการค้าการลงทุนซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณจำนวนหนึ่ง ในการแก้ไขปัญหาแล้ว คิดว่ารัฐบาลได้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้หรือไม่พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้รับทราบในการประชุมที่ กอ.รมน. ซึ่ง เลขาธิการ กอ.รมน. ได้ชี้แจงว่า เป็นการทำงานที่สามารถเชื่อมโยงครอบคลุมพื้นที่ได้ และมีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่พอสมควร สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ เพียงแต่ขาดการเชื่อมโยงเครือข่ายกัน เพื่อสะดวกในการติดตามข่าวสาร ส่วนการเพิ่มจำนวนนั้น คงจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตัวเมืองมากนัก แต่จะเป็นการเพิ่มในส่วนพื้นที่อำเภอ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ประเมินผลการทำงานของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ว่าเป็นอย่างไร และควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนรับฟังโพล และความคิดเห็นต่างๆ และสิ่งที่ตนได้พูดตั้งแต่เบื้องต้น คือเรื่องสถานการณ์ทางภาคใต้ เพราะอยู่ในลำดับความเร่งด่วนสูงที่สุดของรัฐบาล เพราะการดำเนินการยังไม่คืบหน้าไปมากนัก ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในใจตนก็ทุ่มเท ที่จะสร้างความสงบสันติสุขที่เกิดขึ้นมาให้ได้ ตนถือว่าปัญหาภาคใต้ เป็นปัญหาสำคัญเป็นลำดับที่หนึ่ง ส่วนปัญหาอื่นๆ รองลงมา และได้พยายามหาทางดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า รัฐบาลมีแนวคิดในการจัดพื้นที่ปกครองพิเศษในพื้นที่ภาคใต้ในบางเรื่องอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้จัดให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษแล้ว ซึ่งถือว่ารัฐบาลให้ความสนใจ ส่วนเรื่องการปกครองไม่ได้มีการดำเนินการอื่นใดนอกเหนือจากที่เป็นอยู่ เพราะการปกครองเป็นเรื่องที่กว้างใหญ่ ต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นผู้พิจารณาอย่างไรก็ตามรัฐบาลนี้พยายามที่จะยุติความรุนแรงที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ลดลง และขณะนี้ยังไม่มีนโยบายอื่นในการที่จะแก้ไขปัญหาภาคใต้ ต่อข้อถามว่า ดูเหมือนว่ายังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาในภาคใต้ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีได้มอบอำนาจเต็ม ให้กับพล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ. เมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมไม่ประเมิน และหาคนอื่นที่มีศักยภาพเข้าไปแก้ไขปัญหาให้เกิดผล เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผมก็คิดเหมือนคุณเวลารัฐบาลก็เหลือน้อย สิ่งที่เราจะต้องดำเนินการก็ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ในเรื่องของกฎหมาย ตัวบุคคล งบประมาณ เราก็คงจะต้องใจเย็นๆ อีกนิดหนึ่ง แต่สิ่งที่มีความเป็นห่วงคือ ทำอย่างไรที่จะสร้างความร่วมมือ สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน ให้หันมาร่วมมือกับเราให้มากขึ้น สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญ เราเรียนตามตรงว่า เราเพิ่งทำงานได้ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่จะเข้าไปทำงานพบปะกับประชาชนในพื้นที่ เพราะเดิมที่ผ่านมา เป็นการทำงานในส่วนของกองกำลังเพียงอย่างเดียว แต่ขณะนี้มีส่วนราชการอื่นเข้าไปทำงานด้วย การที่จะทำให้ประชาชนให้ความร่วมมือ ก็ต้องใช้เวลา ตนอยากให้พี่น้องคนไทยทุกคน ได้ตระหนักว่าการที่จะสร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ ต้องใช้เวลาและใช้ความอดทน ใช้เวลาสั้นๆ 3-4 เดือนก็คงยังไม่เห็นผลอะไรมากมายนัก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา เป็นบาดแผลที่ลึกพอสมควร ที่เกิดขึ้นกับประชาชนในระดับล่าง ในความรู้สึกของพี่น้องมุสลิมภาคใต้ การที่จะเยียวยาสร้างความเข้าใจ เป็นเรื่องไม่ใช่ง่ายนัก แต่มีโอกาสที่จะดีขึ้น ซึ่งตนลงไปในพื้นที่หลายครั้ง ก็ได้รับการตอบสนองที่ดีขึ้น แต่ในส่วนของผู้ที่พยามยามขัดขวาง และผู้ก่อความไม่สงบ เขาก็จะต้องพยายามขัดขวาง เพื่อไม่ให้แนวทางสมานฉันท์ประสบความสำเร็จ เพราะหากความสมานฉันท์ก้าวหน้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ก็หมายถึงว่า ผู้ก่อความไม่สงบ และแนวคิดของเขา ก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จตามที่เขาคิดไว้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกคนมองว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด เป็นเพียงนามธรรม ไม่ปรากฎเป็นรูปธรรม ทั้งการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ที่ยังไม่นำมาสู่การปฏิบัติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งนี้ได้นำไปสู่การปฏิบัติแล้ว ตนไปพูดกับประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัตแห่งชาติ และได้หารือกันตลอดว่า จะทำอย่างไรกันบ้าง โดยคณะกรรมการซึ่งมีพล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ก็เป็นผู้ที่ได้พยายามจะดำเนินการในส่วนนี้ซึ่งคนเหล่านี้มีความตั้งใจ และพยายามแก้ปัญหาภาคใต้ ดังนั้นขณะนี้ทำอย่างไรที่จะเยียวยาจิตใจของพี่น้องประชาชนซึ่งต้องมีผู้เข้าไปสัมผัส สร้างความเชื่อใจในระดับตำบลระดับหมู่บ้าน ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และหากสื่อมวลชนต้องการดูการทำงาน เราก็พร้อมให้ไปดูได้ว่า ศอ.บต.และจังหวัด ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนมองว่าประธานคมช. ไม่ใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ แต่กลับใช้เวลาไปตามหากลุ่มอำนาจเก่า หรือยึดคืนดาวเทียม นายกรัฐมนตรี กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า ผมคิดว่า ถามผิดที่แล้ว ท่านควรจะไปถามประธานคมช.-- จบ-- :rofl: :rofl: :rofl:
โดย
MisterK
พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 3:28 pm
0
0
575 โพสต์
of 12
ต่อไป
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
MisterK
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
จันทร์ เม.ย. 04, 2005 12:11 pm
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2016 9:22 pm
โพสต์ทั้งหมด:
857 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.05% จากโพสทั้งหมด / 0.12 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว