หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Mote_VI
Joined: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 6:14 pm
216
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Mote_VI
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: การปรับโครงสร้างหนี้ กำไร???
มีกำไรแล้วลดทุน ???? น่าสนมีด้วยหรือในตลาด ลดไปทำไม มักเจอแต่บริษัทมีขาดทุนสะสมและลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม เพื่อเริมกันใหม่ ล้างไพ่ เพราะจะให้มีคนใหม่มาลงทุนด้วย ช่วยบอกทีว่ามีบริษัทไหนมีกำไร (สะสม) แล้วลดทุนบ้าง แต่ถ้ามีขาดทุนสะสมมาหลายปี พอมีกำไรฟื้นขึ้นมา แล้วลดทุน เป็นเพราะอยากจ่ายปันผล เพราะบริษัทจ่ายปันผลไม่ได้กฎหมายไม่ให้หากยังมีขาดทุนสะสมอยู่ ต้องเอากไรล้างให้หมดก่อนถึงจ่ายได้ วิธีล้างขาดทุนสะสมได้เร็วสุดคือลดทุน กำไรปีต่อไปก็จ่ายปันผลได้แล้ว การลดทุนโดยการตัดขาดทุนสะสมกับหุ้นทุน ส่วนผู้ถือหุ้นรวมไม่กระทบ เพราะขาดทุนสะสมก็นำมาหักลดส่วนผู้ถือหุ้นอยู่แล้ว ข้อเสียคือ หุ้นเราหายไปแน่นอน ข้อดีคือ ถ้าปีหน้ามีกำไรจะจ่ายปันผลได้ เพราะถ้ามีขาดทุนสะสมอยู่ต้องเอากำไรไปล้างให้หมดก่อน จึงจ่ายปันผลได้ หลายบริษัทที่ลดทุนเพราะเมื่อปรับโครงสร้างหนี้ นักลงทุนใหม่จะมาเขาไม่มาแบกขาดทุนสะสมหลายๆปีหรอก เขาเข้ามาแล้วถ้ามีกำไร เขาต้องได้ผลอบแทนคืน การลดทุนแล้วได้กำไร?? ใครได้ครับ?? ผู้ถือหุ้นเดิมหุ้นหายเงินหายทันที แต่ที่ได้ประโยชน์คือ คนเข้ามาลงทุนใหม่ อ่านเพิ่มเติมได้ใน topic ทุนจดทะเบียน การลดทุนน่าจะมี 2 แบบใช่ไหมครับ คือ 1. การลดจำนวนหุ้น แต่ราคาพาร์เท่าเดิม กรณีนี้ผู้ถือหุ้นเดิมมีจำนวนหุ้นลดแน่นอน แล้วมีผลกระทบอย่างอื่นอีกไหมครับ 2. การลดราคาพาร์ แต่จำนวนหุ้นเท่าเดิม กรณีนี้ไม่แน่ใจว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับผลกระทบยังไงบ้างครับ แล้วทั้งสองกรณี มีผลดี ผลเสียกับผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ถือหุ้นที่จะเข้าใหม่ยังไงบ้างครับ แล้วส่วนใหญ่บริษัทต่างๆนิยมลดทุนแบบไหนครับ ขอบคุณครับ ถ้าข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ
โดย
Mote_VI
ศุกร์ เม.ย. 06, 2012 4:12 pm
0
0
Re: การทำอาบริทาจด้วยเครดิตภาษีปันผล
ขอถามเรื่องเครดิตภาษีปันผลย้อนหลัง ปี 2553 ต้องทำไงบ้างครับ เสียค่าปรับเท่าไร ยื่นผ่านเน็ตได้ไหมครับ ขอบคุณครับ :) ยื่นผ่านเน็ตไม่ได้ครับ ต้องไปยื่นที่สรรพกรเขตเท่านั้น ย้อนหลังได้สามปี เสียค่าปรับ 200 บาท
โดย
Mote_VI
อังคาร มี.ค. 06, 2012 1:21 pm
0
0
Re: เอาบทความมาฝากให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับเรื่อง Business Mo
[email protected]
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
Mote_VI
ศุกร์ ก.พ. 24, 2012 3:40 pm
0
0
Re: ถ้าอยากจะดูกราฟ ราคาย้อนหลังจะสามารถเข้าดูยังไงอ่าครับ
efinance ผมสมัครไปนานแล้ว มันบอกจะส่งอีเมล์มา จนบัดนี้ยังไม่ส่งมาเลย
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.พ. 11, 2012 9:29 am
0
0
Re: RFID หรือจะเป็นแค่เทรนด์เล็กๆ
วันที่ 15 ธันวาคม 2554 เรื่อง แจ้งการลงทุนในบริษัทย่อยเพื่อผลิตอาร์เอฟไอดี แท็ค (RFID Tags) เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) "บริษัทฯ" ขอเรียนให้ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 8/2554 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ได้มีมติให้บริษัทฯเข้าลงทุนในบริษัทย่อยจัดตั้งใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอาร์เอฟไอดี แท็ค (RFID Tags) ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. ชื่อบริษัท : อยู่ในระหว่างการจัดตั้ง 2. ประเภทธุรกิจ : ผลิตและจำหน่าย 3. ทุนจดทะเบียน : 10,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท 4. สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ : 100.00% 5. แหล่งเงินทุน : ใช้จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ 6. วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง : เพื่อผลิตและจำหน่าย อาร์เอฟไอดี แท็ค (RFID Tags) 7. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : 1. ทำให้บริษัทฯมีสินค้าของตนเองซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีความมั่นคงมากขึ้น 2. เป็นสายธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตและมีอัตรากำไรสูง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.พ. 11, 2012 8:59 am
0
1
Re: มีใครยื่นภงด.90 แล้วบ้างครับ ผมว่ามันเพี้ยนๆ อยู่นา
ยื่นผ่านไปเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 1 ปีที่แล้วส่งเอกสารวันที่ 4 ได้เช็ควันที่ 16 ปีนี้เห็นเงียบไม่ขอเอกสารเลยเข้าไปตรวจสอบ เจออย่างงี้เซ็งเลย http://i903.photobucket.com/albums/ac239/55ting55/Capture-7.jpg ลองเข้าไปล็อคอินครับ ถ้าระบบแจ้งว่าคุณได้ยื่นแล้ว แสดงว่าระบบรับข้อมูลแล้วเพียงแต่ว่าระบบยังไม่ลิ้งค์มาที่ระบบตรวจสอบนี้ ผมโทรไปถามกรมสรรพากร เขาบอกว่ากำลังแก้ระบบอยู่ อาทิตย์หน้าน่าจะเช็คได้ ถ้ายื่นซ้ำจะทำให้ได้คืนภาษีช้าครับ เพราะเขาต้องใช้เวลาตรวจสอบอีก ยังไงใจเย็นๆครับ อาทิตย์หน้าเช็คอีกที
โดย
Mote_VI
เสาร์ ม.ค. 14, 2012 9:50 am
0
2
Re: มีใคร ได้เงินภาษีคืนหรือ ขอหลักฐานบ้างครับ กี่วันครับ
ผมโทรไปถามกรมสรรพกรมา เขาบอกว่าใครที่ยื่นแล้วให้เขาไปเช็คโดยการล็อคอิน ถ้ายื่นแล้วระบบจะแจ้งว่า ท่านยื่นแล้วจะยื่นเพิ่มไหม แสดงว่าเราได้ยื่นแล้ว แต่ที่เช็คแล้วไม่เจอระบบบอกว่าให้เช็คหลังยื่นสามวันเพราะว่าระบบยังไม่ลิ้งค์เข้าไปในระบบนั้น เห็นเขาบอกว่าต้องแก้ไขระบบอยู่ น่าจะประมาณอาทิตย์หน้าน่าจะเช็คได้ครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ม.ค. 14, 2012 9:04 am
0
0
Re: มีใครยื่นภงด.90 แล้วบ้างครับ ผมว่ามันเพี้ยนๆ อยู่นา
สามารถขอข้อมูล/เอกสาร เงินปันผล ย้อนหลังได้ที่ไหน บางฉบับยังไม่ได้รับ สงสัยถูกน้ำพัดพาไป ตามลิ้งนี้เลยครับ http://www.tsd.co.th/th/investorportal/
โดย
Mote_VI
เสาร์ ม.ค. 14, 2012 8:37 am
0
3
Re: "หุ้นดี ที่ถูกลืม" "หุ้นดีที่ถูกมองข้าม"
สุดยอดมากครับแต่ละท่าน :bow: :bow: ถูกทุกข้อครับ อันดับหนึ่งของโลก เช่น tuf sta ivl scc (กระเบื้อง) tcb ประมาณนี้ครับ เกือบลืม delta ของคนสาวเนื้อ อย่างที่บอกไม่ใช่ความเก่งแต่อย่างใด ตอนผมคลอด คุณแม่ผมก็ไม่ได้เล่นหุ้น ที่จริงตลาดหุ้นยังไม่เปิดด้วยซ้ำ :oops: เรื่องอย่างนี้ไม่มีทางลัด ต้องอ่านอย่างเดียว อ่าน 56-1 ให้เหมือนอ่านนิยาย... :) ถ้ายังสนุกผมขออีกหน่อยละกัน.. 1.ที่ดิน 400 ไร่กลางกรุง ผมขายคุณแค่ 4 ร้อยล้าน 2.หุ้นอะไร ขายใบมีด 3.หุ้นอะไร มีสวนปาล์มหลายหมื่นไร่ที่อินโด 4.หุ้นอะไร กำไรอยู่ที่โรงกลั่นในมาเลเซีย ข้อสุดท้ายยากที่สุด.. 5.ฮอนชวน เกี่ยวข้องกับบริษัทอะไร (ห้ามใช้ google เสริจนะ) เพิ่มเติมครับ TCB ผลิตผง carbon black เป็นอันดับหนึ่งของโลก หลังเข้าซื้อกิจการของ columbia chemical
โดย
Mote_VI
ศุกร์ ม.ค. 13, 2012 7:36 am
0
1
Re: การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ ผมเริ่มสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงกลางปี 54 เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย จนได้มารู้จัก web thaivi ก็ได้เริ่มทำตามคำแนะนำคือศึกษาภาคทฤษฐีก่อนลงสนามจริง เริ่มจากการซื้อหนังสือแนว vi มานั่งอ่าน โชคดีที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ใช้เวลาศึกษาอยู่ประมาณ 2 เดือน จนเริ่มรู้สึกว่าพอจะเข้าใจศัทพ์เฉพาะ และแนวทาง vi มานิดหน่อยแล้วจึงเข้า trade ในตลาดตอนต้นเดือน กย. หลังจากเข้ามาในตลาด เป็นมือใหม่ถอดด้าม ผมก็เริ่มสะสมหุ้นเข้าพอร์ตทีละน้อย เนื่องจากเงินทุนเริ่มต้นน้อย(เดือนละประมาณ 5,000) แต่ก็พยายามจะเก็บให้ได้ในทุกๆเดือน แต่แม้จะสะสมเงินต้นทุกเดือนก็พยายามศึกษาพฤติกรรมของตลาดหุ้น(mr.market) เข้ามาตลาดยังไม่ทันครบเดือนก็เจอเหตุการณ์ ตลาดตกหนักจนเกือบต้องใช้ circuit breaker ในช่วงปลายเดือน กย. ทำให้พอร์ตขาดทุนแดงแป๊ดในทันที แต่ส่วนตัวแล้วผมถือว่าโชคดีนะ ที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเป็นโอกาสในการซื้อ หุ้นตัวที่ถูกๆ และยังทำให้ได้เจอเหตุการณ์ที่ตลาดตกหนักๆด้วยตนเอง ผมว่าของแบบนี้ ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองจะไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ สิ่งนี้ผมว่าสำคัญมาก เพราะถ้าเจออีกจะได้ทำใจได้ ได้รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร และไม่ตกใจเทขายแบบไร้เหตุผล ช่วงนั้นผมก็ไม่ได้ขายออกเลย พยายามทำตามตำราคือเอาเวลามาวิเคราะห์เพิ่มเติม หาหุ้นที่ตกแรงๆ แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ทำได้ไม่ดีมาก เพราะพึ่งเข้าตลาดมา เป็นมือใหม่ถอดด้าม ถือว่าเสียโอกาสไปพอสมควร แต่ถ้ามองอีกมุมนึงก็จะได้รู้ว่า เราควรหาความรู้ ควรศึกษาให้พร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้หรอก ว่าจะเกิดวิกฤตตอนไหน แต่เราสามารถเตรียมพร้อมเพื่อรอวิกฤตเวลามันเกิด เราจะได้พร้อมที่จะช้อนซื้อได้ สรุปว่าช่วงที่หุ้นตกไป 870 จุดก็ไม่ได้ซื้อมากมาย ผมพยายามใช้วิธีการที่ว่า พยายามจะไม่ให้ขาดทุนในช่วง 2 ปีแรกที่เข้าตลาด เพราะว่าจากที่ศึกษาประวัติของนักลงทุนส่วนใหญ่ จะขาดทุนในช่วง 1-2 ปีแรกเยอะพอควร แล้วจึงมากำไรในตอนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การจะมาเป็นนักลงทุน vi มืออาชีพนั้น ไม่ได้มาจาก"พรสวรรค์" เป็น"ปัจจัยหลัก"เหมือนกับอาชีพบางอาชีพ หากแต่อยุ่ที่"ประสบการณ์"บวกกับ"ความขยัน" ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จากการวิเคราะห์ข้อมูล ผมจึงอาศัยในช่วงที่พอร์ตของผมยังเล็ก(มาก)อยู่ ในการเก็บประสบการณ์ ให้เต็มที่ และ พยายามที่จะไม่ให้พอร์ตขาดทุน เมื่อถึงวันสิ้นสุดปี 2554 ก็ครบเวลาที่ผมเข้าตลาดมาได้ครบสี่เดือนพอดี สรุปว่าพอร์ตโดยรวมกำไรประมาณ 6-8% ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็พอใจมากเลยทีเดียว เพราะหุ้นตัวหลักกำไรถึง 20%กว่า มีแค่หุ้นอสังหาซื้อดังที่ตกไป 20% กว่าเช่นกัน (แต่ % ในพอร์ต น้อย) แล้วก็ยังมีบางตัวที่ "มองถูก" มี upside ขึ้นมา เกือบๆ 20% แต่ว่าไม่ได้ซื้อ เพราะในช่วงเวลานั้น ยังไม่แน่ใจกับข้อมูล แต่ผมก็ถือว่า มาถูกทางแล้ว ไว้รอโอกาสหน้า กลยุทธในการเลือกหุ้นของมือใหม่อย่างผมก็คือ ผมจะเลือกหุ้นตัวใหญ่ๆ ส่วนมากจะอยู่ใน SET 50 กับ SET 100 เพราะว่า ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ไม่พอที่จะวิเคราะห์หุ้นตัวเล็กๆ มีการแอบลอกการบ้านของเซียนหุ้นมาบ้าง แต่ทุกครั้ง ต้องมาทำ"การบ้าน" เพิ่มเติมด้วย ว่าที่เซียนวิเคราะห์มานั้นถูกต้องไหม และเราเข้าใจทั้งหมดไหม ซึ่งก็ทำให้ลดความเสี่ยงสำหรับมือใหม่ไปได้เยอะเลยทีเดียว จากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเอง สี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทำให้สรุปได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัดจริงๆ ทุกคนต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งในการศึกษา การทำการบ้าน การวิเคราะห์ และที่สำคัญคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น เพื่อที่จะได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองในการซื้อ-ขาย ให้เป็นไปตามเหตุผลและตามแผนการที่วางไว้ ไม่ใช่ตามอารมณ์(ทั้งอารมณ์ตัวเอง และอารมณ์ตลาด) ทุกๆคนในตลาดหุ้นเริ่มต้นจากจุด start เดียวกัน แต่ว่ามี"ถนน" หลายเส้นให้เลือกเดิน เช่น vi , เก็งกำไร , เทคนิค 9ล9 ซึ่งทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการเดินด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีทางลัดที่จะให้เราไปถึงปลายทางได้เร็วกว่าคนอื่น วิธีการเดียวที่จะช่วยให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นก็คือ ความขยันในการหาความรู้ เปรียบเสมือนกับการเดินบนถนน ถ้าเราหยุดพักบ่อย เราก็จะไปถึงช้า แต่ถ้าเราขยันกว่าคนอื่น เดินไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เราก็จะสามารถย่นเวลาในการไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเราได้เร็วขึ้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ ลงทุนมาสี่เดือน แต่สามารถถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
โดย
Mote_VI
พุธ ม.ค. 04, 2012 10:49 am
0
1
Re: อย่าลืมยื่นเครดิตภาษี
ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับเครดิตภาษี เช่น ได้รับ บีโอไอ เงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายเท่ากับ 0 บาท แต่พอกรอกใน ภงด 90 แล้วจะหัก ณ ที่จ่าย 10 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเราจะได้ภาษีคืนมากกว่าความเป็นจริงใช่ใหมครับ แล้วอย่างนี้กรมสรรพากรจะเรียกคืนส่วนต่างพร้อมดอกเบี้ยหรือเปล่าครับ ถ้าได้ BOI ให้กรอกในช่อง " ได้ยกเว้นภาษี " เท่านี้ ก็จะไม่มีการหักภาษี 10% ครับ ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ม.ค. 02, 2012 2:47 pm
0
0
Re: มีใครยื่นภงด.90 แล้วบ้างครับ ผมว่ามันเพี้ยนๆ อยู่นา
มีรายการที่ไม่ได้รับเครดิตปันผล เช่น ได้ BOI ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ ( ภาษีที่จ่ายและหักไว้ 0 บาท ) พอกรอกใน ภงด 90 เขาจะคิดภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10 เปอเซ็น เท่ากับว่าเราจะได้เงินคืนภาษีเกินใช่ใหมครับ แล้วอย่างนี้กรมสรรพากรจะเรียกเงินคืนในส่วนที่เกินแล้วคิดดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่าครับ สำหรับBOI ตรงนี้ให้ใส่ ช่อง"ยกเว้นภาษี"ครับ มันจะโชว์หักภาษี ณ ที่จ่าย =0 ครับ ขอบคุณครับ ช่องยกเว้นภาษีน่าจะถูกต้องครับเพราะเขาไม่ได้หักเราไว้ แต่ถามอีกนิดนึงครับ ช่อง "ยกเว้นภาษี" ต่างกับ ช่อง"ไม่ได้รับเครดิตภาษี" ยังไงครับ เพราะใน TSD บอกว่า "เงินปันผล ไม่ได้รับเครดิตภาษี"
โดย
Mote_VI
จันทร์ ม.ค. 02, 2012 2:21 pm
0
0
Re: อย่าลืมยื่นเครดิตภาษี
ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับเครดิตภาษี เช่น ได้รับ บีโอไอ เงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายเท่ากับ 0 บาท แต่พอกรอกใน ภงด 90 แล้วจะหัก ณ ที่จ่าย 10 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเราจะได้ภาษีคืนมากกว่าความเป็นจริงใช่ใหมครับ แล้วอย่างนี้กรมสรรพากรจะเรียกคืนส่วนต่างพร้อมดอกเบี้ยหรือเปล่าครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ม.ค. 02, 2012 12:32 pm
0
0
Re: มีใครยื่นภงด.90 แล้วบ้างครับ ผมว่ามันเพี้ยนๆ อยู่นา
มีรายการที่ไม่ได้รับเครดิตปันผล เช่น ได้ BOI ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ ( ภาษีที่จ่ายและหักไว้ 0 บาท ) พอกรอกใน ภงด 90 เขาจะคิดภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10 เปอเซ็น เท่ากับว่าเราจะได้เงินคืนภาษีเกินใช่ใหมครับ แล้วอย่างนี้กรมสรรพากรจะเรียกเงินคืนในส่วนที่เกินแล้วคิดดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่าครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ม.ค. 02, 2012 12:25 pm
0
0
Re: แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ธ.ค. 31, 2011 7:52 am
0
0
Re: EPS16YEAR งบดุล Q3 2011 ที่ประกาศ อับเดท
ขอด้วยคนครับพี่
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2011 1:40 pm
0
0
Re: เว็ปไซด์ที่มีข้อมูลย้อนหลัง
ไปสมัครกับ Kimeng สิครับ มีข้อมูลแน่นอน (จะ trade หรือไม่ก็ได้ ผมก็เคยสมัครทิ้งไว้เฉยๆ บางช่วง) มีตั้งแต่ยุคที่รายงานเป็นไฟล์ txt อยู่เลย (ก่อน 10 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ zip ที่มี doc และ xls อย่างปัจจุบัน) ตัวอย่าง ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
อาทิตย์ พ.ย. 13, 2011 11:19 pm
0
0
Re: เว็ปไซด์ที่มีข้อมูลย้อนหลัง
พอมีครับ แต่เป็นภาษาัอังกฤษนะครับ เคยเห็นคนในนี้แหละเค้าโพสไว้ http://financials.morningstar.com/ratios/r.html?t=banpu®ion=THA&culture=en-US ชื่อหุ้น เปลี่ยนตรงคำว่า่ "banpu" ครับ แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาใช้เว็บอื่นกันรึเปล่านะครับ ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:49 am
0
0
Re: ขอทางสว่างล้านแรก มือใหม่
คิดคร่าวๆนะครับ เดือนละหมื่น 12 เดือนก็ 120,000+150,000=270,000 บาท (เป็นเงินต้น) ต้องทำได้เกือบ 400% ใน 1 ปี :shock: :shock: ขอให้มุ่งมั่นทำเต็มที่ และบรรลุตามเป้าที่หวังไว้นะครับ ผมว่าเจตนาและความมุ่งมั่นดีครับ และการตอบแทนบุพการีเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ในส่วนการลงทุนเราต้องมองที่ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ครับ ยิ่งสำหรับการลงทุนแล้วหนึ่งปีที่ให้เวลากับมันถือว่าน้อยมาก บางทีการที่เราเร่งผลตอบแทนมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะปีสองปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมามาก เลยทำให้เราคิดว่าการหาเงินในตลาดหุ้นเป็นเรื่องง่าย ทำให้เราหวังผลตอบแทนมากๆในปีต่อๆไป ซึ่งอาจจะทำให้เราหลุดจากหลักการและอาจจะทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ แล้วเงินที่เราตั้งใจทำเพื่อแม่อาจจะมาเสียที่ตลาดหุ้นก็ได้ครับ ผมว่าถ้าจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆควรจะหาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เช่น หารายได้พิเศษ กู้จากแบงค์ ส่วนการลงทุนควรจะยึดมั่นในหลักการที่เราตั้งใจไว้ ผลตอบแทนที่เหมาะสมส่วนที่เกินมาจากที่เราตั้งใจไว้ก็ถือว่าเป็นกำไร
โดย
Mote_VI
ศุกร์ ต.ค. 14, 2011 4:30 pm
0
0
Re: "หรูหรา" ในวิกฤต
ต้องไม่ลืมว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าประเภทนี้คือ คนที่มีรายได้สูง คนรวย ไฮโซต่างๆ ถึงแม้เศรษฐกิจแย่แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้จนลง ยังรวยเหมือนเดิม อาจจะแค่ทำกำไรได้ลดลงเท่านั้นเอง คนกลุ่มนี้จมไม่ลงแล้วละครับ เคยใช้ชีวิตยังไง ใช้สินค้าแบบไหน ก็จะยังคงใช้แบบนั้นต่อไป และเพิ่มระดับอัพเกรดตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณว่า ผู้หญิงอย่าหยุดสวย :B :mrgreen: :B สินค้าที่จับกลุ่มนี้ก็เลยไม่ค่อยได้รับผลกระทบไม่ว่าเศรษฐกิจโลกเป็นยังไง บริษัทผู้ผลิตสินค้ายังทำกำไรได้ต่อเนื่อง ราคาหุ้นย่อมสูงขึ้นตามกำไรที่ทำได้ ผมคิดแบบนี้นะ :D แล้วมีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์บ้านเราที่ขายหรือผลิตเกี่ยวกับพวกนี้ไหมครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.ย. 17, 2011 11:24 am
0
0
Re: "หรูหรา" ในวิกฤต
สินค้าพวกนี้เป็นความฝันของผู้หญิงทุกคนเลยนะครับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็อยากจะได้หลุยสักใบ เฟนดิ กุชชี่ โค้ช ไว้ใช้กันทุกคน ประมาณว่ายอมอดแต่ขอ ดูดีไว้ก่อน อีกอย่างของพวกนี้ เอาไปขายมือสองยังได้ราคาอีก พวกเธอๆทั้งหลายเลยช้อบชอบ บางทีเลยลำบาก ผช อย่างเรา ต้องไปสรรหามาให้ :'O แต่ในเมืองไทยผมยังนึกไม่ออกเลยว่า มีแบรนด์อะไรที่ ผญ ฝันใฝ่ ถ้ามีนี่คงเป็น super stock เลยทีเดียว ผู้หญิงก้ความสวยความงามครับ อย่าง วุฒิศักดิ์คลีนิค ก้น่าสนใจนะครับ ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ทุกวันนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ว่าสวยเลือกได้ ส่วนผู้ชายทุกวันนี้ที่สาวๆๆ ฝันหาคือ หล่อและรวย คงไม่แบบอ้วนล่ำดำสิว แต่มีเงินแบบสมัยก่อน ผมประทับใจคำพูดของท่านอาจารย์ในงาน สอนลูกเรื่องเงิน อาจารย์ท่านบอกว่า ขอให้เก่งเป็นพอ ตัวผมเองก้ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ขอให้เก่งและมุมานะ ถึงผมจะไม่หล่อ แต่ผมก็จนนะ พอจะมีสิทธิ์ไหมครับ 555 ล้อเล่นครับ :D
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.ย. 17, 2011 11:18 am
0
0
Re: วิกฤติปี 2008 VS ปี 2012 ทัศนคติของนักลงทุน
ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าจะเกิดวิกฤติตอนไหน การที่เราจะไปคาดเดากับสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ เสียเวลาเปล่าๆครับ ในเมื่อเราไม่สามารถเดาได้ เราก็ไม่ต้องไปสนใจภาพใหญ่ครับ กลับมาสนใจภาพเล็ก สนใจในตัวธุรกิจ ตัวบริษัทที่เราจะลงทุนดีกว่าครับว่าเป็นอย่างไร มีตัวไหนยังน่าลงทุนบ้าง แต่ผมคิดว่าช่วงที่คนพูดกันมากและระวังกันมากไม่น่าจะเกิดครับเพราะว่าทุกคนจะเตรียมรับมือและมีมาตรการต่างๆรองรับเพื่อไม่ให้เกิดวิฤต แต่ถ้าช่วงไหนที่คนชล่าใจ ไม่ระมัดระวัง อะไรก็ดีไปหมด ช่วงนั้นผมว่าควรจะระวังครับ อาจจะเกิดวิกฤติได้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.ย. 03, 2011 4:08 pm
0
0
Re: EPS16YEAR อับเดทงบดุล Q1 2011 เสร็จแล้ว ครับ
ขอด้วยคนครับพี ขอบคุณครับพี่
[email protected]
โดย
Mote_VI
เสาร์ มิ.ย. 11, 2011 11:21 am
0
0
Re: จากประสบการณ์ที่พี่ๆเจอมา การซื้อขายของผู้บริหาร บอกอะไร
มีคนเคยเขียนไว้ว่า เหตุผลในการขายนั้นมีเยอะแยะครับ ยากที่จะคาดเดา แต่เหตุผลที่ซื้อมีข้อเดียวคือ เค้ามั่นใจว่าบริษัทนั้นดี มีอนาคตจึงลงทุน มีโอกาสไหมครับที่ผู้บริหารซื้อเพื่อปั่นหุ้น หรือ ผู้บริหารคาดการผิด ผมว่าใช้เป็นแค่ข้อมูลในการตัดสินใจครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.พ. 26, 2011 10:23 am
0
0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
ของผมเปิดพอร์ตเป็นชื่อเค้า Password เค้าก็รู้ครับ ถ้าปิดไว้ มันจะดูแปลกๆเหมือนมีเลศนัยนะ ผมทำแบบโปร่งใส เค้าเข้าไปดูพอร์ตได้ตลอด ส่วนเรื่องขาย เราก็อธิบายเค้าครับ ว่าทำไมยังไม่ขาย ทำความเข้าใจกันให้ดี หุ้นดีอย่างไรก็อธิบายไป จะขายก็อธิบายว่าทำไม ส่วนเรื่องระยะเวลา ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไปนะ (ความเห็นส่วนตัว) 1 ปี ผมว่า รู้สึกว่าอาจจะสั้นไปนะ การเปิดในชื่อเขาก็น่าจะโปร่งใสแล้วนะครับเพราะเราขายได้แต่ไม่สามารถเบิกออกมาจากบัญชีออมทรัพย์เขาได้ เพราะเป็นชื่อเขา ส่วนพาสเวิร์ดนั้น ถ้ให้เขารู้แล้วถ้าได้กำไรมากๆ เช่น เป็นหลายล้านบาท แล้วถ้าเกิดเขาขายเองแล้วถอนเงินออกไป แล้วหายไป แล้วจะทำยังไงครับ เพราะตามเอกสารเขามีสิทธิ์ทุกอย่าง เงินไม่เข้าใครออกใครออกใครนะครับ แต่บางที่เขาก็ไม่คิดจะโกงเราหรอก แต่เขาอาจจำเป็นต้องใช้เงิน จึงต้องทำไปอย่างนั้น ทำให้ต้องมาทะเลาะกัน เสียเพื่อนหรือเสียญาติเปล่าๆนะครับ กันไว้ดีกว่า
โดย
Mote_VI
อังคาร ก.พ. 15, 2011 11:51 am
0
0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆมากครับ ขอถามอีกนิดหนึ่งครับ 1. การเปิดพอร์ต ควรจะเปิดพอร์ตเป็นชื่อเขา แต่พาสเวิร์ดเราควรจะรู้คนเดียว การเปิดพอร์ตชื่อเขาเพื่อให้เชื่อใจว่าเราไม่สามารถถอนเงินเขาออกมาได้ และที่เราต้องรู้พาสเวิร์ดคนเดียวเพื่อไม่ให้เขาขายหุ้นไปแล้วโอนเงินออกในกรณีที่กำไรเยอะๆ อย่างงี้ผมคิดถูกไหมครับ 2. การกำหนดระยะเวลาการลงทุนอย่างน้อย 1 ปี น่าจะเพียงพอเพื่อรอให้หุ้นที่เราถือวิ่งหามูลค่าที่แท้จริงของมัน สำหรับการลงทุนในไทยน่าจะเพียงพอหรือเปล่าครับ 3. สำหรับผลตอบแทนผมไม่น่าห่วงครับ เพราะเป็นการตกลง และพอใจทั้งสองฝ่าย ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ก.พ. 14, 2011 11:23 pm
0
0
Re: นักลงทุน VI ต่างแดน
ผมทำงานอยู่ไต้หวัน 3 ปีกว่าแล้วครับ แต่จะกลับเมืองไทยประมาณสี่เดือนต่อครั้ง ลงทุนหุ้นโดยซื้อขายผ่านอินเทอร์เนต และส่วนใหญ่หาข้อมูลจากอินเทอเน็ต ผมว่าข้อมูลในอินเทอเน็ตค่อนข้างครบถ้วน มีเว็ปไซด์ต่างๆมากมายให้เราศึกษา หาข้อมูล ที่ผมคิดว่าเสียเปรียบคนที่อยู่เมืองไทยอยู่บ้างคือ 1. การเรียนคอร์สพิเศษต่างๆที่ทางเว็ปจัดขึ้น 2. meeting ต่างๆที่ทางเว็ปจัดขึ้น 3. company visit แล้วเพื่อนๆพี่ๆ คนไหนอยู่ไต้หวันบ้างครับ ว่างๆจะได้นัด meeting กัน
โดย
Mote_VI
อังคาร ธ.ค. 28, 2010 9:43 pm
0
0
Re: เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน
[email protected]
thank you krab
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. ธ.ค. 23, 2010 11:30 am
0
0
Re: EPS16YEAR อับเดทงบ Q3 2010 เสร็จแล้ว
[email protected]
thank you krub
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. ธ.ค. 16, 2010 11:44 am
0
0
Re: เปิดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย ปี53 'ทองมา' อันดับ1
เปิดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย ปี53 'ทองมา' อันดับ1 ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 2010 ด้วยมูลค่า3.1 หมื่นล้าน,คีรี เสี่ยBTS อันดับ 2, อนันต์ เจ้าพ่ออสังหาฯ อันดับ 3 ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย 2010 ต้อนรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ รวยสูงสุด 3.1 หมื่นล้าน ตามด้วยอันดับ 2 คีรี กาญจนพาสน์ ครองหุ้นรวม 1.78 หมื่นล้าน รวยขึ้นกว่า 5 หมื่นเปอร์เซ็นต์ ด้าน อนันต์ อัศวโภคิน ร่วงนั่งที่ 3 รวย 1.76 หมื่นล้าน ส่วนมาลีนนท์ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 12 ปีซ้อน 10 เครือญาติครองหุ้นรวม 4.4 หมื่นล้าน นับเป็นปีที่ 17 แล้ว ที่วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นในปี 2553 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2553 จำนวน 5,495 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 690,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 235,771 ล้านบาท หรือ 51.88% สาเหตุที่ความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงสุดถึงกว่า 235,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความโดดเด่นในภูมิภาค ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณมูลค่าการถือครองหุ้นของบรรดาเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 258.23 จุดจากช่วงเดียวกันของปี 2552 โดยปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 975.30 จุด หรือเพิ่มขึ้นถึง 36.01% สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2553 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2553 ตกเป็นของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) หลังจากครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 ติดต่อกันมาถึง 4 ปี โดยปีนี้ ทองมา ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 31,422.25 ล้านบาท จากการถือหุ้น PS ในสัดส่วน 58.60% รวยเพิ่มขึ้น 15,591.83 ล้านบาท หรือ 98.49% เนื่องจากราคาหุ้น PS ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.60 บาท หรือ 107.69% จาก 11.70 บาท มาอยู่ที่ 24.30 บาท เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553 ความมั่งคั่งของแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนล่าสุด “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์” เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งที่นำ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 6 ธันวาคม 2548 โดยราคาหุ้น PS ในตอนนั้นอยู่ที่ 6.55 บาท ส่งผลให้ทองมา ก้าวเข้ามาติดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในปี 2549 โดยเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ที่มีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 8,848.33 ล้านบาท จากนั้นทองมาก็ยึดตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ติดต่อกันอีก 3 ปี โดยในปี 2550 ถือครองหุ้นมูลค่า 11,153.95 ล้านบาท ปี 2251 ถือครองหุ้นมูลค่า 9,599.16 ล้านบาท และปี 2552 ถือครองมูลค่า 15,830.43 ล้านบาท เศรษฐีหุ้นอันดับ2 ในปีนี้ ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยถือหุ้น BTS ในสัดส่วน 38.69% รวมมูลค่า 17,816.15 ล้านบาท ก้าวกระโดดจากอันดับ 1,631 ในปีที่แล้วที่ คีรี ถือหุ้น บมจ.ธนายง (TYONG) มูลค่าเพียง 34.07 ล้านบาท คิดเป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 17,782.08 ล้านบาท หรือ 52,194.11% ส่งผลให้ คีรี รั้งตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยที่มีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุดไปอีกตำแหน่งในปีนี้ สำหรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ปีนี้ร่วงมาอยู่ในอันดับ 3 ถึงแม้ว่าหุ้นที่ถือครองจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนก็ตาม โดยปีนี้ อนันต์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 17,635.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,667.96 ล้านบาท หรือ 10.45% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ (LH) 23.76% มูลค่า 17,631.53 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.67% มูลค่า 3.77 ล้านบาท ด้าน ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 ยังคงยึดตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ไว้ได้อีกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ที่ประวิทย์ถือในสัดส่วน 11.42% มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3,688.66 ล้านบาท หรือ 71.46% ความมั่งคั่งของประวิทย์ในปีนี้จึงเพิ่มขึ้นเป็น 8,850.50 ล้านบาท ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ วรวิทย์ วีรบวรพงศ์ เจ้าของสยามแก๊ส เศรษฐีหุ้นที่เพิ่งเข้ามาติดทำเนียบในอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรก โดย วรวิทย์ ถือหุ้น บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) 54.13% รวมมูลค่า 8,793.67 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 4,473.97 ล้านบาท หรือ 103.57% ด้านทายาทโอสถสภา นิติ โอสถานุเคราะห์ ถูกเบียดร่วงลงจากอันดับ 3 มาอยู่ในอันดับ 6 ในปีนี้ แม้ว่าราคาหุ้นในพอร์ตโดยรวมจะปรับเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม โดยนิติถือครองหุ้นมูลค่ารวม 7,701.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,967.69 ล้านบาท หรือ 34.32% ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ตกลงมาจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ วิโรจน์ ธนาลงกรณ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อชั้นในยี่ห้อ “ซาบีนา” โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 6,328.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,947.88 ล้านบาท หรือ 44.47% เศรษฐีหุ้นอันดับ 8-10 ปีนี้ตกเป็นของ 3 พี่น้องแห่งตระกูลมาลีนนท์ซึ่งมีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง หุ้น บมจ.บีอีซี เวิล์ด (BEC) ใกล้เคียงกัน โดยเศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ ประชุม มาลีนนท์ ถือครองหุ้นมูลค่า 6,148.51 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,550.20 ล้านบาท หรือ 70.87% เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ รัตนา มาลีนนท์ ถือหุ้นครองหุ้นมูลค่า 6,130.08 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,548.27 ล้านบาท หรือ 71.14% และเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ อัมพร มาลีนนท์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 6,129.31 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,548.44 ล้านบาท หรือ 71.17% สำหรับตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย ปีนี้นับเป็นปีที่ 12 แล้ว ที่ตระกูลมาลีนนท์ ยังคงครองตำแหน่งแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเครือญาติในตระกูลมาลีนนท์จำนวน 10 คน ได้แก่ ประวิทย์ ประชุม ประสาร รัตนา อัมพร สกลศรี ปิยวดี นิภา เทรซีแอน และแคทลีน มาลีนนท์ ถือครองหุ้นรวมกันมีมูลค่าทั้งสิ้น 44,176.45 ล้านบาท คิดเป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นถึง 18,306.34 ล้านบาท หรือ 70.76% ตระกูลมาลีนนท์ก้าวเข้ามาเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2540 หลังจากที่นำ บมจ.บีอีซี เวิล์ด (BEC) เจ้าของไทยทีวีสี ช่อง 3 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2539 ซึ่งนอกเหนือจากหุ้น BEC แล้ว ยังมีหุ้นที่เครือญาติในตระกูลมาลีนนท์ถือครองอีก 3 บริษัทคือ บมจ.ศิครินทร์ (SKR) บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) และบมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) ส่วนตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ ของแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปีนี้ โดยครอบครัววิจิตรพงศ์พันธ์ นำโดย ทองมา และภรรยา ทิพย์สุดา รวมทั้งทายาท มาลินี-ชัญญา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้น PS ที่ทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรแบรนด์ “พฤกษา” รวมมูลค่า 37,618.75 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 18,804.83 ล้านบาท หรือ 99.95% ตระกูลอัศวโภคิน ปีนี้ตกลงไปอยู่อันดับ 3 โดย 6 เครือญาติ อนันต์ อนุพงษ์ ทรงพล บุญทรง สุดา และอภิชิต ถือครองหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) และ บมจ.เอพี พร๊อพเพอร์ตี้ (AP) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 21,868.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,753.46 ล้านบาท หรือ 8.72% ตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ กาญจนพาสน์ โดยมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 1,135.90% หรือ 18,629.49 ล้านบาท จากการถือครองหุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ของ คีรี และกวิน กาญจนพาสต์ และการถือครองหุ้น บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) ของอนันต์ และ สาคร กาญจนพาสน์ คิดเป็นมูลค่าหุ้นที่ตระกูลกาญจนพาสน์ถือครองรวมทั้งสิ้น 20,269.56 ล้านบาท ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ปีนี้อยู่ในอันดับ 5 โดยมีเครือญาติในตระกูลที่ติดอันดับเศรษฐีหุ้นมากที่สุดถึง 30 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 18,325.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,039.41 ล้านบาท หรือ 37.93% Source : bangkokbiznews/kobkid.com () 14 ธันวาคม 2553 เวลา 12:44 น. http://www.voicetv.co.th/content/26459/%E0%BB%D4%B4%B7%D3%E0%B9%D5%C2%BA%E0%C8%C3%C9%B0%D5%CB%D8%E9%B9%E4%B7%C2-%BB%D553-%B7%CD%A7%C1%D2-%CD%D1%B9%B4%D1%BA1 ตามความหมายข้างบนแสดงว่าจากสามแสนบาทเป็นหมื่นกว่าล้านบาท หรือผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
โดย
Mote_VI
อังคาร ธ.ค. 14, 2010 10:16 pm
0
0
หุ้นปันผล
ปันผลเป็นหุ้น คนที่ถืออยู่แล้วไม่เสียหายครับ แต่คนที่จะเข้าไปใหม่มีปัญหาครับ เพราะจำนวนหุ้นเพิ่ม กำไรต่อหุ้นลดลง เพราะฉะนั้นไม่ควรที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้น ที่เพิ่งจะจ่ายปันผลเป็นหุ้นใช่ไหมครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ พ.ย. 06, 2010 9:31 pm
0
0
หุ้นปันผล
[quote="moonorway"][quote]จอหงวน Posted: Tue Nov 02, 2010 3:25 pm
โดย
Mote_VI
เสาร์ พ.ย. 06, 2010 9:29 pm
0
0
หุ้นปันผล
ปันผลเป็นหุ้นมีจริงๆครับ ดูตัวอย่างเช่น alucon โดยส่วนตัวไม่ชอบวิธีการทชนี้สักเท่าใดครับ :) ไม่ชอบเพราะอะไรครับ แล้วจำนวนหุ้นที่มากขึ้นมันจะ DILUTION เหมือนออกวอร์แรน , esop , หรือเพิ่มทุนหรือเปล่าครับ ผมเข้าใจว่าการจ่ายปันผลเป็นหุ้น จะไม่ทำให้ผลตอบแทนต่อผู้หุ้นลดลง แต่จำนวนหุ้นมากขึ้น ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง ไม่รู้จะมีผลต่อราคาหุ้นในอนาคตอย่างไร
โดย
Mote_VI
เสาร์ พ.ย. 06, 2010 8:08 am
0
0
เชียนหุ้นวัฎจักร
ขอบคุณครับ สำหรับการแนะนำกระทู้ดีๆ
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2010 9:44 pm
0
0
หนังสือแปลเล่มเก่าๆ
[quote="WEB"]เอาอย่างนี้ดีมั๊ยครับ คนที่ไม่ได้อยู่กรุงเทพและปริมณฑล ผมจะส่งทางไปรษณีย์ให้ โดยจะมีค่าส่งค่ากล่องเพิ่มเติม ตามจริง แต่สำหรับคนที่อยู่กรุงเทพและปริมณฑล ผมขอ ให้มาที่งานได้มั๊ยครับ เพราะจะได้ฟังสัมมนาด้วย ได้เห็นสภาพหนังสือ และได้พบเจอกัน แต่ถ้าใครที่ติดธุระจริงๆ (ต้องจริงๆๆๆๆนะครับ) ผมจะส่งทางไปรษณีย์ให้ คือถ้าผมส่งให้ ทุกกรณี ผมก็คงไม่ต้องไปที่งานเลย เนื่องจากผมมีหนังสือจำนวนจำกัด บางท่านก็เกรงว่าจะหมดซะก่อน เอาแบบนี้ครับ ใครอยากได้เล่มไหน ระบุชื่อหนังสือ จำนวน และชื่อ ไปที่
[email protected]
โดย
Mote_VI
เสาร์ ต.ค. 23, 2010 9:03 am
0
0
Re: หนังสือแปลเล่มเก่าๆ
[quote="WEB"][quote]ในช่วงที่ผ่านมา มีคนสอบถามถึงหนังสือเล่มเก่าๆเข้ามา มากพอสมควร
โดย
Mote_VI
ศุกร์ ต.ค. 22, 2010 11:43 am
0
0
ใครมีหนังสือแกะเงื่อนงบการเงิน ดร. ภาพร ครับ
โหลดได้แล้วครับ ขอบคุณครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ต.ค. 11, 2010 9:11 pm
0
0
ใครมีหนังสือแกะเงื่อนงบการเงิน ดร. ภาพร ครับ
ทำไมโหลดไม่ได้ครับ ถ้าพี่ๆมีไฟล์ ขอด้วยครับ
[email protected]
หรือขอ link ก็ได้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
Mote_VI
เสาร์ ต.ค. 09, 2010 11:29 am
0
0
ศึกชิง คาร์ฟูร์ งวดนี้ คุณเชียร์ใครครับ
แล้วตกลงประมูลประมาณช่วงไหนครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ก.ย. 20, 2010 6:39 pm
0
0
พฤ.ที่23Sep2010 อย่าลืมดูWallstreet2กันนะคร๊าบบบ
ยังไม่เคยดูครับ กลัวเกิดกิเลส แล้วหนังแนว vi มีไหมครับ
โดย
Mote_VI
จันทร์ ก.ย. 20, 2010 4:01 pm
0
0
หนังสือหรือวีซีดีการวิเคราะห์งบการเงิน อ.วรศักดิ์ อ.มนตรี
ขอขอบคุณ พี่ฉัตรชัย และพี่ ต. หยวนเปียว มากครับ แล้วจะลอง search ดูครับ
โดย
Mote_VI
อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 1:51 pm
0
0
หนังสือหรือวีซีดีการวิเคราะห์งบการเงิน อ.วรศักดิ์ อ.มนตรี
[quote="srikamneard"]เอาคลิปเก่า ของ อ.วรศักดิ์ไปดูก่อนแล้วกันนะคะ คุณ .way. เคยโพสต์ไว้ในเว็บนี้ค่ะ
โดย
Mote_VI
อาทิตย์ ก.ย. 19, 2010 1:44 pm
0
0
หนังสือหรือวีซีดีการวิเคราะห์งบการเงิน อ.วรศักดิ์ อ.มนตรี
ผมเห็นใจนะครับ แต่ว่าไม่เห็นด้วยครับกับการที่จะมีการบันทึกการสอนเป็น VCD DVD เพราะผมเห็นใจท่านผู้สอนที่กว่าจะสอนต้องทำการเตรียมตัว เตรียมเนื้อหา เตรียมการสอนอย่างยากลำบากครับ ผมหมายถึงทำ vcd ขายเหมือน vcd สอนภาษาที่มีขายตามร้านหนังสืออะไรประมาณนี้ครับ เป็น vcd ที่มีลิขสิทธิ์ น่าจะขายดีนะครับ
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 9:32 pm
0
0
สมาชิก THAIVI อีสานอยากจัด Meeting ไหมครับ?
[quote="sathaporne"][quote="PRO_BABY"][quote="naris"][quote="PRO_BABY"][quote="PRO_BABY"]ผมลองหาสถานที่ได้สถานที่แล้วครับ แต่วันถ้าเป็นวันเสาร์จะเห็นด้วยไหมครับ
โดย
Mote_VI
พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 9:23 pm
0
0
อยากให้พี่ๆจัดคอร์ส valuation (การหามูลค่าหุ้น)
จอง 1 ที่ ครับ
[email protected]
โดย
Mote_VI
จันทร์ ก.ย. 13, 2010 3:58 pm
0
0
อยากทราบว่า หุ้นโตเร็วในสายตาท่านคือตัวไหนบ้าง
alucon swc ครับ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าเป็นหุ้นเติบโต ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่ร้อนแรง ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นที่นิยม ลองศึกษาก่อนซื้อนะครับ
โดย
Mote_VI
อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 10:56 am
0
0
หุ้นถูก เต็มตลาด
เห็นด้วยครับ แต่หุ้นที่คุ้มค่ามีเหลือหรือเปล่า เป็นอีกเรื่งหนึ่ง หุ้นใหญ่ก็ถูก ptt ตอนนี้ก็ถูกกว่า 4xx เมื่อไม่กี่ปีก่อน scb ก็เคยร้อยนิดๆตอนี้เก้าสิบต้นๆ ฯลฯ พวกหุ้นตัวเล็กตัวน้อยอีกเพียบ iec bland loxley live twz ฯลฯ นี่เทียบแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าย้อนกลับไปก่อนต้มยำกุ้ง อีกเพียบๆเลย แต่ราคาหุ้นที่ถูก จะเป็นราคาที่คุ้มค่าหรือเปล่า ? การที่ราคาหุ้นในปัจจุบันถูกกว่าในอดีตไม่ได้แปลว่าจะเป็นหุ้นที่น่าลงทุนนะครับ อาจจะเป็นเพราะในอดีตราคาขึ้นไปเกินมูลค่าที่แท้จริงมากแล้ว อาจจะไม่ขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว หรืออาจจะไม่ขึ้นไปมากกว่านี้แล้วเพราะพื้นฐานต่างๆของบริษัทเปลี่ยนไปแล้ว แต่สำหรับ สองตัวนี้ไม่รู้ครับ เพราะไม่ได้วิเคราะห์และไม่ได้ลงทุนสองตัวนี้
โดย
Mote_VI
อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 7:27 am
0
0
เบื่องานจะลาออกมาลงทุนหุ้นคุณค่าแต่กลัว....
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เครียดมากคำพูดคน เฮ้อ หาความสุขกับปัจจุบันให้เจอเนี่ยไม่ง่ายเลย ต่อไปเราจะพยายามแคร์คำพูดของคนอื่นให้น้อยลงคะ คนเราอายุไม่ยืนยาว เราจะเครียดไปทำไมจริงไหม บ่นไปบ่นมาไม่เกี่ยวกับหุ้นเลย ขอโทษด้วยคะแค่อยากระบาย ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา ใครดุ ใครด่า ทนเอา ตัวเรา ร่มเย็น เป็นพอ โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง.แต่โลกก็กลับสอนให้มนุษย์ผูกพัน ความสุข ๒ ชั้น ( ธรรมะเดลิเวอรี่) โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต อาตมาอ่านเจอกลอนในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่ผู้เขียนระบายไว้ได้สาแก่ใจมากเลย เร็ว ก็หาว่าล้ำหน้า ช้า ก็หาว่าอืดอาด โง่ ก็ถูกตวาด พอฉลาด ก็ถูกระแวง ทำก่อน บอกไม่ได้สั่ง ทำทีหลัง บอกไม่มีหัวคิด เฮ้อ นี่แหละชีวิตคนทำงาน ข้างต้น น่าจะเป็นกลอนที่โดนใจบรรดาคนทำงานหลายๆ คน เพราะสะท้อนความรู้สึกกดดันอย่างชัดเจน ซึ่งจากการได้พูดคุยกับโยมที่เข้ามาปรึกษาหารือถึงสาเหตุที่ทำงานกันอย่างไม่มีความสุขก็มีปัจจัยมากมาย เช่น ทำงานที่ตัวเองไม่ถนัด ทำงานที่ไม่ชอบ โดนหัวหน้างานกดขี่ หรือรู้สึกว่าหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายนั้นต่ำต้อย ฯลฯ โดยจะว่าไปแล้ว บริษัทก็เหมือนกับบ้านหลังที่สองของเรา บางคนใช้ชีวิตในบริษัทมากกว่าที่บ้านซะอีก เพราะต้องตื่นขึ้นมาทำงานตั้งแต่ตี ๔ ตี ๕ กลับถึงบ้านก็ ๒-๓ ทุ่ม วันหนึ่งมี ๒๔ ชั่วโมง หากต้องใช้ชีวิตในการทำงาน (รวมนั่งรถไป-กลับ) วันละ ๑๐ กว่าชั่วโมงแล้ว ถ้าโยมไม่มีความสุขกับงานที่ทำ จึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากๆ อาตมาชอบใจคุณยามที่บริษัทแห่งหนึ่งมาก เคยถามเขาว่า ไม่เบื่อเหรอ เปิดประตูทั้งวัน เขาตอบกลับอย่างฉะฉานว่า ' ไม่เบื่อหรอกครับท่าน เพราะคนจะเข้าไปที่นี่ได้หรือไม่ได้ มันอยู่ที่ผม ถ้าผมไม่เปิดประตู ไม่อนุญาตหรือบอกไม่ให้เข้า เขาก็ไม่ได้เข้านะ อย่างพระอาจารย์มาบรรยายที่นี่ ผมไม่ให้เข้าก็ได้ ... แต่ผมให้เข้าครับ' ( แล้วไป) อาตมาจึงไม่แปลกใจเลย เวลาไปทำธุระที่บริษัทนี้ทีไร มักเห็นเจ้าหมอนี่ ทำหน้าที่ตัวเองอย่างกระตือรือร้น ก็เพราะเขามีทัศนคติที่ดีต่อหน้าที่ เห็นความสำคัญของตัวเอง จึงทำให้เขาทำงานได้อย่างมีความสุข (แถมมีมุขอำกลับอาตมาอีกต่างหาก) ดังนั้นอาตมาจึงอยากจะหนุนใจญาติโยมที่กำลังรู้สึกย่ำแย่กับงานของตัวเองว่า ถ้าเราทำงานจนเมื่อยมือเหลือเกิน ก็จงดีใจเถอะ ที่มีมือให้เมื่อย ถ้าเราเดินไปเดินมาจนปวดขาเหลือเกิน ก็จงดีใจเถอะ ที่มีขาให้ปวด ถ้าเราเห็นหัวหน้า แล้วเซ็งเหลือเกิน ก็จงดีใจเถอะ ที่มีหัวหน้าให้เซ็ง ถ้าเราเห็นงาน แล้วเราเบื่องานเหลือเกิน ก็จงดีใจเถอะ ที่มีงานให้เบื่อ เพราะหลายคนพอไม่มีงานให้ทำ ก็จะประท้วงกัน อยากทำงาน ! อยากทำงาน ! ดังนั้นเมื่อคุณโยมมีโอกาสทำแล้ว ก็จงทำให้ดีที่สุด เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนทัศนคติต่องานที่ทำก่อน เห็นความสำคัญของหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ได้ ทำมันอย่างเต็มที่และดีที่สุด เหมือนดั่งคุณยามที่อาตมายกมาเป็นตัวอย่างข้างต้น อาตมาเคยอ่านเจอคำแนะนำของท่านพระธรรมปิฎก (ป.อ.ประยุตฺโต) ในหนังสือเล่มหนึ่ง ท่านเขียนชี้แนะไว้ว่า งานมีผลตอบแทนสองชั้นด้วยกัน ผลตอบแทนชั้นที่ ๑ คือ ตอนเงินเดือนออก นี่คือความสุขชั้นที่หนึ่ง ซึ่งหลายๆ คนมีความสุขในการทำงานแค่วันนั้นวันเดียว แต่ถ้าเราสามารถพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับงานได้ มันก็จะก้าวไปสู่อีกระดับ อันนำมาซึ่งผลตอบแทนหรือความสุขชั้นที่ ๒ นั่นเอง หนึ่งเดือน คุณโยมอยากมีความสุขเพียง ๑ ชั้น หรือ ๒ ชั้น ก็เลือกเอาตามใจชอบเลย เจริญพร. แล้วมีเพลงของ โรจ เพลง ก้อนหินก้อนนั้น ลองหาฟังดูครับ เวลาใครมาทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้ บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม
โดย
Mote_VI
จันทร์ ส.ค. 23, 2010 11:37 pm
0
0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
ผมยังไม่มีประสบการณ์เสียหนักครับเพราะผมเพิ่งเริ่มลงทุนเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านวิเคราะห์เทคนิค กราฟ แต่อ่านทีไรหลับทุกที ก็เลยยังไม่เริ่มเล่น ถือว่าเป็นโชคดีของผม และที่โชคดีกว่าคือได้มาเจอเว็ปนี้โดยบังเอิญ และส่วนตัวคิดว่าเป็นการลงทุนในหุ้นจริงๆไม่ใช่เล่นหุ้น หลักการเป็นเหตุเป็นผล และคิดว่ามาถูกทางแล้ว และผมชอบอ่านกระทู้นี้มากครับ อ่านเพื่อเป็นการเตือนตัวเองและเป็นบทเรียน เข้ามาอ่านทีไรยิ่งทำให้รู้ว่า ตัวเองยังไม่รู้อะไรอีกเยอะ ยิ่งต้องเร่งศึกษา ไม่อย่างนั้นหายนะจะมาเยือนในไม่ช้า เป็นกำลังให้ทุกคน และเอาอดีตเป็นบทเรียนครับ[/img]
โดย
Mote_VI
จันทร์ ก.ค. 19, 2010 8:59 pm
0
1
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆครับ บ้างทีเราก็เรียนรู้จากความล้มเหลวก็ดีเหมือนกันครับ จะได้คอยเตือนตัวเองและจะไม่เดินไปยังหนทางที่ล้มเหลวนั้น
โดย
Mote_VI
เสาร์ ก.ค. 17, 2010 10:43 pm
0
0
63 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
Mote_VI
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 6:14 pm
ใช้งานล่าสุด:
อังคาร เม.ย. 10, 2012 7:52 am
โพสต์ทั้งหมด:
216 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.04 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว