หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
ก้อนกรวด
Joined: อังคาร เม.ย. 27, 2010 12:09 pm
141
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - ก้อนกรวด
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: หรือว่า Trading จะไม่แย่เท่าที VI หลายๆคนคิด
อย่าเพิ่งบอกดิคับ......
โดย
ก้อนกรวด
พุธ เม.ย. 06, 2011 9:03 am
0
0
Re: ส่วนลดจากระแสเงินสด หรือ discounted cash flow คืออะไรครั
ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้ สนใจไปอ่านได้ครับ http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/28/dcf-made-easy-1/ ผู้รู้ตัวจริงครับ :mrgreen: :mrgreen: ถามพี่หน่อยครับ บ.ที่มี FCF ดีมาก แต่ชอบนำเงินที่ว่างไปกินดอก พันธบัตร ไดลูทมูลค่าหุ้นตัวเองแถม จ่ายปันผลไม่มากด้วย กรณีนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ ผมเลยมองว่า FCF ทีดีแค่ไหนหาก ไม่นำเงินไปทำให้โกรท และ ไม่จ่ายปันผลสูงๆ FCF ดีมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ พอดีเจอ บ.อย่างนี้มากับตัวเอง นั่นเป็นความคิดผมนะครับ ไม่ทราบพี่คิดเห็นอย่างไร ตรงจุดนี้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น ครับ :D :D บริษัทแบบนั้นใช้ dividend discount model คงดีกว่ามั้งครับ เพราะว่า "Free Cash Flow" มันไม่ได้ Free จริงๆ
โดย
ก้อนกรวด
จันทร์ เม.ย. 04, 2011 3:45 pm
0
0
Re: ทำไมผมทำ DCF 10 ปีแล้วมูลค่าหุ้นมันสูงมากๆทุกตัวเลยครับ
ผมลองทำ DCF ดูตามตารางท้ายหนังสือ warren buffet way ทำไมผมทำ DCF 10 ปีแล้วได้มูลค่าหุ้นมันสูงมากๆทุกตัวเลยครับ เอา earning มาใส่ ใส่ค่า growth และ discount rate ปรากฎว่าหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีๆนี่มูลค่าคิดเป็น 10 ปีย้อนกลับมา มีค่ามากจังครับ มีโบรกเกอร์ ที่ไหนเขาทำเป็นหลัก 10ปีอย่างนี้บ้างครับ อยากจะลองเทียบความถูกต้องดูครับ เห็นโบรกเกอร์ทำแต่ปีต่อปี สงสัยอยากให้เล่นสั้นกันอย่างเดียว :D - ทำ DCF (FCFF) ออกมาจะได้เป็น firm value นะครับ ลองหักลบหนี้ออกไปอาจจะได้ค่าที่ดู realistic มากขึ้น - ไม่ใช่ earning แต่เป็น free cash flow - growth คิดว่าคงหมายถึง terminal growth ถ้า projection 10 ปีผมแนะนำ 3-4% แต่นั่นก็แล้วแต่คุณ - Discount rate ถ้าคุณใช้ CAPM ห่าค่า Re ใน wacc กับหุ้นไทย มันจะพังเพราะว่าตลาดบ้านเราไม่ liquid เท่าเมืองนอกและมันจะมีผลกระทบกับค่า beta นะครับ - ถ้าไม่รังเกียจลอง PM model ของคุณมาหาผมก็ได้เผื่อจะช่วยไรได้มากขึ้นครับ
โดย
ก้อนกรวด
จันทร์ เม.ย. 04, 2011 6:28 am
0
0
Re: ตราสารหนี้รัฐบาล ที่ประสบปัญหาการเงิน นี้น่าลงทุนมั้ยครั
ผมเคยฟังพวก fund manager ที่ลงทุนใน distressed debt นะครับ เขาบอกว่าเขาไม่ชอบพวกนี้ถ้าเทียบกับพวก bond ของ distressed company เพราะว่าคำถามไม่ใช่ว่าเราจะได้ recovery rate เท่าไรแต่คำถามคือรัฐบาลมันจะยอมจ่ายหรือเปล่า ซึ่งมันตีเป็นตัวเลขยากมากเลย
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ เม.ย. 02, 2011 10:10 am
0
0
Re: ทำไมเต่าถึงชนะกระต่าย??
เคยทราบมาว่า ที่ญี่ปุ่น เวลาเค้าสัมภาษณ์งาน เค้ามักจะถามว่า จงบอกวิธีที่เต่าจะชนะกระต่ายได้ โดยไม่ผิดศีลธรรม ถ้าผู้สัมภาษณ์ ตอบมา 2 แนวทางนี้ จะได้คะแนนมากเป็นพิเศษ 1. แข่งว่ายน้ำ หรือ แข่งวิ่ง โดยต้องผ่านแม่น้ำ (คิดนอกกรอบ ใช้จุดเด่นเรา เอาชนะจุดด้อย) 2. แข่งวิ่งให้นานที่สุด เพราะกระต่ายอายุสั้น แต่เต่าอายุยืน แข่งวิ่งไปเรื่อยๆ จนกระต่ายตาย เต่าก็จะชนะ (มองการณ์ไกล หวังผลระยะยาว) กวนเล่นๆ ผมไม่คิดว่ากระต่ายจะยอมแข่งด้วยอ่ะดิ 555
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 30, 2011 4:45 pm
0
0
Re: ขอนอกเรื่องนิดหน่อย ปีนี้ใครสอบ CFA บ้างครับ
ขอถามเพิ่มเติมครับ CFA กว่าจะได้รับอนุญาตใ้ห้สอบได้นี่ต้องจบ ป.ตรี ก่อนใช่หรือไม่ครับ แล้วเนื้อหาทั้ง 3 level นั้น แค่เรียนจบ ป.ตรี เราก็สามารถทำความเข้าใจได้แล้วหรือต้องต่อป.โท ก่อนถึงจะมีความรู้มากพอที่จะสอบได้ครับ ขอบคุณครับ ไม่จำเป็นต้องจบ ป.ตรี ก็สามารถเริ่มสอบได้เลยครับ แต่สอบตอน ปี4 น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดครับ ส่วนเนื้อหานั้น ส่วนตัวรู้แค่ lv1 ความรู้ ป.ตรี ก็สามารถที่จะสอบได้ครับ (กรณีที่มีพื้นฐานมาบ้าง ถ้าไม่มีพื้นฐานด้านการเงินมาเลย จะยากทีเดียวครับ) ส่วน lv2-3 ต้องให้ท่านอื่นมาตอบครับ ไม่ต้องจบ ป.ตรี แต่รู้สึกว่าต้องอย่างน้อยอยู่ปี 3-4 นะครับ
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 29, 2011 6:19 am
0
0
Re: จะทำตามที่ ดร.นิเวศน์ แนะนำดี หรือ ทำตาม ที่ดร.นิเวศน์ทำ
คุณ blueplanet ลองทายนิสัย ดร จากหุ้นที่แกถืออยู่สิครับว่าแกเป็นคนยังไง แล้วก็มาคิดอีกทีว่าคุณควรทำไง
โดย
ก้อนกรวด
พฤหัสฯ. มี.ค. 24, 2011 9:35 am
0
0
Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ
ผมว่าไม่ใช่ zero-sum game ในระยะยาวครับ เพราะตลาดมีการโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะพูดถึงเรื่อย opportunity loss ของคนที่ขายไปผมว่าควรมองที่ utility curve ของเค้าด้วย (ความพึงพอใจ) คือถ้าเค้าพอใจนะจุดนั้นแล้ว เค้าก็ไม่ได้มอง opportunity loss ซักเท่าไหร่ ครับ ผมว่าการมองในมุมของ opportunity loss เป็นการมองที่ผิดเพราะเป็นการคิดย้อนกลับมาเทียบกับในอดีต ทั้งๆที่มันไม่สามารถย้อนกลับมาได้แล้ว แต่มันก็ยังเป็นมุมมองเชิงจิตวิทยาที่คนส่วนใหญ่ยังติดอยู่กับมันอยู่ครับ (ปล. ผมก็ยังเป็น ถ้าโน่น ถ้านี่ อะไรต่างๆนาๆกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว) ผมว่ามันไม่ต่างอะไรกับการที่เราไปที่คาสิโนแล้วเล่น poker นะครับ ไปเช้าๆมีคนเล่นน้อย พอตกดึกหน่อยมีคนมาเยอะแต่พี่จะเคลมว่ามันมีการเติบโตได้จริงหรือ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 23, 2011 11:46 am
0
0
Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ
ผมเริ่มมองว่ามันเป็น positive, negative, zero-sum game รึเปล่าว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเราคิดว่าใครคือ player ในตลาด ถ้ามองว่ามันแค่คนซื้อ คนขาย กับ broker มันก็คงเป็น negative ที่ซุนเซ็กถามมาว่าแล้วบริษัทมีกำไรมันจะเป็น zero ได้อย่างไร ก็คงต้องตอบว่าได้ถ้าคุณรวมแหล่งที่มาของเงินที่บริษัทได้มาไว้ใน player list แต่ถ้ามองภาพที่คุณ ซุนเซ็ก มีไว้ในหัวก็คงเป็น positive ได้ สมมติว่าถ้าโลกนี้มีเงินและ resource อื่นๆเป็นจำนวนจำกัด เงินที่เราได้มามันก็คงต้องมาจากคนสักคนแหละ ส่วนคนที่มีคำถามว่าทำไมเราไม่ยอมมองตลาดเป็น positive sum game แล้วแบ่งปันกัน ผมก็คงต้องตอบด้วย concept ของ prisoner's dilemma กับ war of attrition ของ game theory ครับ เสือกินเสือ รุ่นหนึ่งกินรุ่นสอง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเพราะมันก็ตามธรรมชาติของ Darwin กับ evolution อ่ะนะ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 23, 2011 11:43 am
0
0
Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ
เป็น zero sum game หรือไม่เป็นแล้ว มันเปลี่ยนอะไรครับ แต่ถ้าแค่อยากรู้ คำตอบผมคือทั้งเป็นและไม่เป็นครับ ความหมาย ถ้าจะเป็น zero sum คือ กำไร หรือ ขาดทุน ของทุกคนที่มีการซื้อขาย (ถือว่า complete transaction, open-close position) ต้องรวม เป็น 0.... ยังไม่เอาเรื่อง direction และ time factor เข้ามาเกี่ยวอีก ว่าจะคิดบน direction และ time horizon ไหน..... สมมุติถ้าหุ้นขึ้นอย่างเดียวววววววเป็นเวลานานๆ เรา snapshot ช่วงเวลานั้นมา ถือซะว่า ทุกคน complete transaction มีการซื้อขายจบ จะเห็นได้ไม่มีใครเสียเลยยยยย แต่คงเป็นไปได้ในซักสถานการณ์ ที่ ณ จุดนึง ตัวเลขของ total gains บวก total loss อาจเป็น 0..... แต่เพราะ การซื้อขาย dynamic และ อยู่ใน perpetuous time loop จึงวัดไม่ได้เลยครับ... :D ที่เขียนมาข้างบนนั้นถ้าพูดในการซื้อขายล้วนๆนะ ถ้ามองเลยไปอีก มีการ create หรือ destroy value ที่เป็น chain เหนือกว่า การซื้อขาย ทั้งตอนเพิ่มทุน, ออก derivatives, จากการที่เงินของนักลงทุนคนนึงไปเป็นทุนให้กับบริษัทดำเนินงาน ... สร้าง value และ wealth ได้ "not at someone's loss"... โอ้ คงคิดอีกยาวมากมาย ผมขอไม่คิดละกัน ส่วนถ้าพูดในการซื้อ ขายล้วนๆสำหรับ futures นั้นน่าจะใช่ ยังไม่ได้คิดถี่ถ้วนว่าใช่หรือไม่ใช่ หวังว่าได้ผมตอบคำถาม ของคุณได้นะครับ :D ไม่ได้สนว่ามันเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอะไรครับ ประเด็นคือแค่อยากได้ความเห็นของคนในนี้ แล้วที่บอกว่าถ้าหุ้นขึ้นยาวๆแล้วไม่มีใครเสียนี่คือไม่ได้รวม opportunity cost ใช่ไหมครับ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 23, 2011 5:45 am
0
0
Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ
ความหมายของ zero-sum game จาก wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Zero-sum
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 23, 2011 1:22 am
0
0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
คนกินคนมันผิด หรือไม่เหมาะสมตรงไหนหรือครับ
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 22, 2011 2:21 pm
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
ทส คือ ทรัพย์สิน ทุกประเทศ ถ้าปล่อยไว้เฉย ไม่แทรกแทรง ค่าเงิน ปล่อยให้ USA เพิ่มปริมาณเงินประเทศเดียว ทุกประเทศเงินจะแข็งขึ้น แต่ ทุกประเทสก็เพิ่มปริมาณเงินเหมือนกัน การแทรกแซงค่าเงินง่ายมาก ถ้าต้องการให้เงินอ่อนตัว แต่ถ้าต้องการให้แข็งค่าอาจจะยากต้อง ขึ้นอยู่กับ ความสามารถในหารผลิตของประเทศนั้นๆ ดูแล้วกันเงินเฟ้อ จะทำให้หุ้นตกไม๊ ตอนนี้ใครๆก็เชื่อว่าเงินเฟ้อแน่ เฟ้อจากการเพิ่มปริมาณเงินของ USA ที่บางคนเรียกว่า cost push ผมว่ามันไร้สาระ เงินมาก ของก็แพง เป็นธรรมดา ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนเลย คิดให้มันดูยาก และเป็นวิชาการ เงินมากค่าของเงินลดของแพง หลักมีแค่นี้จริงๆ ผมว่าบางคนที่ปิดกั้นตัวเองแล้วเชื่อแค่ว่า ถ้าเกิด x แล้ว y จะต้องตามมาอย่างเดียวไม่มีอย่างอื่นนี่ไร้สาระมากกว่านะครับ เหมือนแบบพวกนักวิชาการที่บอกว่าเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องลงไม่มีทางขึ้น หรือบอกว่าเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องขึ้นไม่มีทางลง แต่ก็อ่ะนะ...เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผม
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 2:42 pm
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
เงินเฟ้อทำให้ discount rate สูงขึ้น ซึ่งทำให้ fair value ของหุ้นลดลงรึเปล่าครับ เหมือนที่อธิบายให้คุณ blueplanet ฟังแล้วอ่ะครับ ถ้าในแง่ finance เงินเฟ้อก็จะทำให้ discount rate สูงขึ้นแต่ว่าสมมติว่าบริษัทสามารถ pass cost ไปที่ผู้บริโภคได้เต็ม 100% ก็จะได้รับผลกระทบน้อยลงเพราะว่า FCF ก็จะเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อด้วย แต่จะมีพวก Depreciation ที่ไม่ได้เพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อจึงทำให้ได้ tax-saving น้อยลงและอาจทำให้ valuation ตกลงนิดหน่อย
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 1:36 pm
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
ที่บอกว่าเงินเฟ้อจากต้นทุนเพิ่มทำให้ธุรกิจกำไรลดลง และมีข้อยกเว้นไว้นิดว่าถ้าไม่สามารถผลักภาระให้คนซื้อได้ ความจริงคือพ่อค้าจะตั้งราคาขายที่มีกำไรและสามารถขายได้ อย่างปุ๋ยก็ไม่ต้องขายเพราะราคาควบคุมขายแล้วขาดทุน พี่ก็ตอบคำถามแล้วนี่ครับ ว่าถ้าผลักภาระไปที่ผู้ซื้อไม่ได้หุ้นก็ตก..... ขายแล้วขาดทุน กับไม่ขายเลย หุ้นมันก็ตกอยู่ดี ตกน้อยตกมากแค่นั้นนิ
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 1:30 pm
0
0
Re: ทำไมเงินเฟ้อแล้วหุ้นต้องตก
เห็นด้วยกับคุณ leader คับ ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทสามารถ pass cost ไปที่ผู้บริโภคได้มากเท่าไรด้วย ยิ่งมากก็น่าจะทำให้หุ้นตกน้อยลงถ้ามีเหตุการณ์แบบที่ว่าขึ้น โดยปกติผมไม่ค่อยเห็นนะที่ inflation มาแล้วหุ้นตกแต่ถ้าใครมีเคส study มาเถียงผมก็อยากรับฟังเหมือนกัน แต่ก็ด้วยนะ ถ้า inflation มันมาแบบปกติเพราะว่าเศรษฐกิจดี ก็ไม่น่ามีเหตุผลไรที่หุ้นต้องตก เผลอๆควรจะขึ้นด้วยซ้ำและก็มีเคสมา support หลายๆที่เหมือนกัน แบบที่ zimbabwe มั้งที่มี hyperinflation แล้วหุ้นมันพุ่งกระฉูด
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 5:52 am
0
0
Re: Short squeeze case study
ข้อมูล short data หาได้ที่ shortsqueeze.com มั้งครับ แต่ถ้าอยากได้แบบ updated ต้องเสียตัง
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 19, 2011 4:56 am
0
0
Re: สงสัยการโพสต์เรื่องPe
Post ไปเลยคับคุณ Newbie อย่าไปกลัว ผมยังไม่ได้เห็น mod มาห้ามพี่เลยในกระทู้นั้น ซึ่งปกติ mod จะมาจัดการกับอะไรที่มันผิดกฎ ไวปานสายฟ้า แต่ถ้า post PE แล้วผมขอ rationale ในการเลือก PE นั้นด้วยก็ดีนะครับ เม่าๆอย่างผมจะได้เห็นความคิดเซียน
โดย
ก้อนกรวด
พฤหัสฯ. มี.ค. 17, 2011 2:18 pm
0
0
Re:
ได้เลยครับพี่ก้อนหิน เดี๋ยวจัดให้ ราคาหุ้นนั้นมีหลายสำนักนำมาเป็น "อันดับหนึ่ง" และต่อยอดเป็นวิชา Technical Analysis ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐาน ตลาดมีประสิทธิภาพ ด้วยความเคารพ แต่ผมว่าพี่เข้าใจผิดมั้ง ผมคิดว่า technical analysis มาจาก base ที่ว่าตลาดไม่ efficient มากกว่านะครับ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 16, 2011 12:31 pm
0
0
Re: ใช้อะไรเป็น Risk free สำหรับการลงทุนในหุ้น ใน SET
Risk free ใน CAPM มีสองตัวครับและมีค่าต่างกัน ตัวแรกให้ดูว่าระยะเวลาของโปรเจคคือประมาณไหน ถ้าเป็นระยะยาวก็ให้ใช้ long-term gov bond 10++ ปี ถ้าระยะสั้นก็ปรับให้มันสั้นลง ส่วนตัวข้างในถ้าจะเอาให้แม่นยำ มันคือค่าเฉลี่ยของ short-term bond ว่า on average yield of short-term bond = ? ถ้าขี้เกียจทำก็ใช้ค่า risk premium 5% ไปก็ได้มั้งครับ เพราะมันคือค่าที่ "experts" จากอเมริกายอมรับ
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 15, 2011 4:59 pm
0
0
Re: ขอนอกเรื่องนิดหน่อย ปีนี้ใครสอบ CFA บ้างครับ
พื้นฐานทางการเงินถ้ามีมันก็น่าจะช่วยให้ผ่านได้ง่ายขึ้นหน่อยมั้งครับ แต่ผมก็เห็นมาหลายคนแล้วที่มี CFA แต่ไม่สามารถเข้าใจลึกๆว่า concept ของแต่ละอย่างคืออะไร อย่างเช่นผมเคยถามเกี่ยวกับ contango/backwardation ท่านเหล่านั้นก็บอกได้แค่ว่ารูปร่างของกราฟแต่ละแบบเป็นอย่างไรแต่ไม่สามารถบอกเหตุผลว่าทำไมมันถึงเกิดอย่างนั้นและเกิดกับ commodities ไหนๆ
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 2:52 am
0
0
Re: ขอนอกเรื่องนิดหน่อย ปีนี้ใครสอบ CFA บ้างครับ
ใช้จริงได้แน่นอนครับและใช้ได้ดีด้วย แต่ต้องบอกว่าเนื้อหา CFA ครอบคลุมกว้างขวางมาก ที่จับมาใช้จริงๆเป๊ะๆในแต่ละวัน ไม่เกิน 5-10% หรอกครับ ที่่เหลือเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเขาคัดมาแล้วว่าควรจะรู้ไว้เพื่อที่จะได้จับมาใช้ได้หรือทบทวนได้ทันท่วงทีในวันที่ปัญหาหรือโอกาสมาถึง ใช้จริงได้อย่างไรหรือครับขอให้ช่วยอธิบายหน่อย เพราะเท่าที่ผมรู้คนที่มันสอบผ่านทั้ง 3 level แล้วอ่ะ หลายๆคนก็ยังไม่เข้าใจ finance ลึกขนาดนั้นแต่พวกเขาค่อนข้างมีความจำที่ดีแค่นั้นเอง แล้วโดยส่วนตัวพี่สอบถึงเลเวลไหนแล้วหรือครับเพราะผมก็ดูๆอยู่
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 12, 2011 4:04 am
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ผมยังไม่ได้เห็นคุณ Harikung กล่าวหาใครแบบเจาะจงเลยนะครับ เท่าที่ผมอ่านๆความเห็นคุณมาก็มีหลายอย่างที่ make sense ดี ไม่เห็นจะต้องออกมาโวยวายไรเลยอ่ะ
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 11:26 am
0
0
Re: มูลค่าซื้อขายต่อวันเท่าไหร่ถึงถือว่าหุ้นมีสภาพคล่องโอเคค
สำหรับผม ถ้าขายทีเดียวทั้งหมด โดยใช้ MP ราคาต้องลงไม่เกินสามช่องครับ ไม่งั้นถือว่าสภาพคล่องน้อยไปนิด แบ่งไปซื้อตัวอื่นดีกว่า สำหรับผม... ถ้าหุ้นคุณภาพกิจการไม่ค่อยดี ผู้บริหารสีเทา ถือไม่เกิน 10% ของพอร์ต ก็ใช้เกณฑ์แบบนี้ครับ แต่ถ้าเป็นหุ้นที่คุณภาพดี Upside เยอะ... ถึงแม้ว่าจะถือมากเป็นนัยยะกับพอร์ต แต่ถ้าออกหมดได้ภายใน 1 สัปดาห์ ถือว่าโอเคครับ อ้อ... เวลาดูสภาพคล่อง ต้องดูตอนสภาพคล่องปกติ ช่วงที่ราคาหุ้นมัน Sideway นะครับ... ไม่ใช่ดูตอนที่คนมาซัดกันตูมต้าม... อันนั้นดูไม่ได้.. . ตรงที่ผม bold ไว้ คุณ Picatos พูดได้ดีมากเลยครับ ผมเห็นด้วย
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 9:23 am
0
0
Re: มูลค่าซื้อขายต่อวันเท่าไหร่ถึงถือว่าหุ้นมีสภาพคล่องโอเคค
สำหรับผม ถ้าขายทีเดียวทั้งหมด โดยใช้ MP ราคาต้องลงไม่เกินสามช่องครับ ไม่งั้นถือว่าสภาพคล่องน้อยไปนิด แบ่งไปซื้อตัวอื่นดีกว่า สำหรับผม... ถ้าหุ้นคุณภาพกิจการไม่ค่อยดี ผู้บริหารสีเทา ถือไม่เกิน 10% ของพอร์ต ก็ใช้เกณฑ์แบบนี้ครับ แต่ถ้าเป็นหุ้นที่คุณภาพดี Upside เยอะ... ถึงแม้ว่าจะถือมากเป็นนัยยะกับพอร์ต แต่ถ้าออกหมดได้ภายใน 1 สัปดาห์ ถือว่าโอเคครับ อ้อ... เวลาดูสภาพคล่อง ต้องดูตอนสภาพคล่องปกติ ช่วงที่ราคาหุ้นมัน Sideway นะครับ... ไม่ใช่ดูตอนที่คนมาซัดกันตูมต้าม... อันนั้นดูไม่ได้.. . ตรงที่ผม bold ไว้ คุณ Picatos พูดได้ดีมากเลยครับ ผมเห็นด้วย
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 8:22 am
0
0
Re: เมื่อ VI เต็มตลาดแล้วมือใหม่จะเป็นใช่ไร ???
ผมแค่สมมติขึ้นมาเล่นๆแต่ถ้าทั้งตลาดมีแต่ VI แล้วจะซื้อหุ้นจากใครอ่ะครับ? หรือว่า VI ที่โง่กว่าก็จะต้องซื้อจาก VI ที่ฉลาดกว่าและมีข้อมูลมากกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง :!: ราคาหุ้นทุกตัวก็จะอยู่ที่ Fair price ครับ อยากได้หุ้น ต้องยอมจ่ายสูงกว่า Fair price ถึงจะมีคน ยอมขาย แต่คนที่ยอมจ่าย คือ VI หรือเปล่า ? กับการยอมจ่ายเงินสูงกว่า Fair price โดยไม่มี MOS มันจึงเป็นการขัดแย้งในตัวเอง กับขอสมมุติฐานนี้ เหมือนกับทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพ ที่เชื่อว่าตลาดที่มีประสิทธิภาพ ราคาหุ้นจะตอบสนองข้อมูล ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งการที่ตลาดจะมีประสิทธิภาพในระดับสมบูรณ์นั้น มันเป็นโลกอุดมคติครับ (ราคาตอบสนองอนาคตได้อย่างสมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เป็นอย่างมากก็เป็นได้แค่ในระดับ Semi-strong form) เหมือนกับ การที่คิดว่าโลกทั้งๆโลก ทุกคนเป็นคนดี โลกจะเป็นเช่นไร คำตอบ ก็ง่ายๆครับ โลกจะจะสงบสุข น่าอยู่ แต่น่าเสียดาย ที่ความคิดนี้เป็นเพียงเรื่องของอุดมคติ ในโลกของความเป็นจริง ก็คือ โลกเรามีทั้งคนดี และไม่ดี สิ่งที่เราทำได้คือ เราต้องเป็นดนดี และดึงคนรอบข้างให้ดีตาม เพื่อให้มีคนดีมากที่สุด :roll: สรุปคือถ้าทั้งตลาดมีแต่ VI ที่ฉลาดเท่ากันและมีข้อมูลเหมือนกันก็ไม่ใช่เรื่องดีซะทีเดียว ถ้าอย่างนั้นผมก็คงจะไม่ชักชวนใครให้เป็น VI ยกเว้นแต่ว่าผมมั่นใจว่าผมมีข้อมูลที่แม่นยำกว่าและสามารถชักชวนพวกคนเหล่านั้นให้กลายเป็นสาวก (supporting tranche) ให้ผมได้ใช่ป่ะครับ ถ้ามีคนที่ทำอย่างนั้นจริงผมว่ามันทุเรศมากเลยนะเนี่ย........
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 5:41 am
0
0
Re: เมื่อ VI เต็มตลาดแล้วมือใหม่จะเป็นใช่ไร ???
ผมแค่สมมติขึ้นมาเล่นๆแต่ถ้าทั้งตลาดมีแต่ VI แล้วจะซื้อหุ้นจากใครอ่ะครับ? หรือว่า VI ที่โง่กว่าก็จะต้องซื้อจาก VI ที่ฉลาดกว่าและมีข้อมูลมากกว่า
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ มี.ค. 05, 2011 1:29 am
0
0
Re: มี VI คนไหนเป็นนักเพาะกาย หรือ สนใจกีฬาเพาะกายมั้ยครับ ?
สมัยก่อนเคยถามผู้ฝึก (เค้าเคยได้รางวัลชายงามแห่งประเทศไทยทำนองเนี้ย) เค้าบอกว่า คนที่จะไปแข่งเพาะกาย จะกินไข่ขาว วันนึงเป็นสิบลูก เอาไข่แดงทิ้ง ตอนจะขึ้นแข่งก็ห้ามกินน้ำ เพราะจะทำให้กล้ามเหี่ยวอะไรทำนองนั้น งดอาหารไขมัน แล้วกินอาหารประเภทโปรตีนเยอะๆ ถ้ากินครั้งละเม็ดเมื่อสิบปีก่อนผมว่ามันไม่ใช่ protein นะครับ แล้ว whey protein มันก็ไม่ได้ทำให้ออกแรงได้เยอะขึ้นด้วยแต่มันจะช่วยในเรื่องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังจากการยกน้ำหนักนะครับ ถ้าสิบปีก่อนผมคิดว่าน่าจะเป็นพวก creatine monohydrate ที่มาเป็นเม็ดๆมากกว่า แต่ก็ต้องกินครั้งละหลายๆเม็ดอยู่ดีนะครับ โดยส่วนตัวผมจะยกน้ำหนักตอนห้าหกโมงแล้วก็จะกิน whey protein ผสมน้ำตามแล้วก็รอครึ่งชั่วโมงจึงทานอาหารอีกที ก่อนนอนผมจะเอา whey protein ผสมกับนมพร่องมันเนยเพราะว่าข้อเสียของ whey คือมันดูดซับได้ง่ายและเร็วเกินไปจึงใช้นมซึ่งส่วนใหญ่เป็น casein protein ซึ่งดูดซับช้ากว่ามาช่วยเสริม ไข่ขาวกินดีนะครับ แต่ว่าไม่แนะนำให้กินไข่ดิบเพราะว่ามันอันตราย และเอาจริงๆมันมีหลายวิจัยออกมายืนยันว่าร่างกายไม่สามารถดึงเอาโปรตีนที่เรียกว่า albumin ออกมาใช้งานจากไข่ดิบได้ ตอนขึ้นแข่งเท่าที่ผมรู้ เขาจะอยู่ใน cut state ซึ่งอาจมีการ supplement ด้วย diuretic แบบ dandelion root ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายขับน้ำ แต่ว่าผมเคยได้ยินมาว่าช่วงนั้นเนี่ยเขาจะทานน้ำมากกว่าปกตินะครับยกเว้นวันสองวันก่อนแข่งจริงๆ
โดย
ก้อนกรวด
ศุกร์ มี.ค. 04, 2011 7:03 pm
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
แต่ข้อมูลเรื่องกำลังการผลิตต่างๆ ได้มาจากผู้บริหารจริงนะ ไม่โกหกแน่นอนจ๊ะ เพื่อนๆ หลายท่านก็ย้อนกลับไปถามที่บริษัทแล้ว น่าจะทราบดี ที่โกหกก็มีอยู่แค่เรื่องเดียว คือราคาวัตถุดิบที่อ้างว่ามาจากเวบนั้น ส่วนเอามาจากเวบไหนได้ชี้แจงไปแล้ว ไม่ใช่ข้อมูลเท็จเลย ผมเคยถามคนที่ถนัดเรื่องโกหกนะครับ เค้าบอกว่าการโกหกที่แนบเนียนที่สุดเนี่ย คือการปนคำพูดโกหกรวมไปกับความจริง ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าคุณ.....ผมก็ไม่รู้ว่าคุณชื่ออะไรแล้วแหละเอาจริงๆ...กำลังทำอยู่ บางคนอาจจะไม่รู้ตัว แต่พอโกหกบ่อยๆมันจะเริ่มชินที่จะทำอย่างนั้นเพราะคุณเห็นว่าคนเชื่อกับสิ่งที่คุณพูดเวลาคุณปนคำลวงไปพร้อมความจริง ส่วนที่ถามว่าไม่รู้ว่าโกหกทำไมเนี่ย ก็ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านที่ผมโพสต์ไว้หรือไม่เรื่อง delusional disorder: Grandiosity ถ้ายังไม่ได้อ่านก็ไปลองอ่านซะเพราะว่าถ้าคุณโกหกโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเนี่ย ผมว่าอาจจะเข้าข่ายนะครับ ไปหาทางบำบัดตอนนี้ยังไม่สาย ผมแค่เตือนด้วยความหวังว่าคุณอาจจะคิดได้ว่าตัวเองทำผิดแล้วกลับตัวกลับใจซะ ส่วนที่มีคนจะเอาเรื่องหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของคุณละผมคงไม่ช่วยอะไร
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มี.ค. 02, 2011 11:27 am
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ครับ ผมได้ถามเพื่อนที่เป็นทนายมาแล้ว การให้ข้อมูลของคุณ มาดำ เนี่ยอาจมีโทษถึงจำคุกได้ถ้ามีเจตนาชัดเจนว่าต้องการหลอกนักลงทุนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ตัวอย่างคือ โพสต์ว่าราคาขึ้นเรื่อยๆไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ว่าตัวเองกลับขายออกมาเรื่อยๆ อะไรเป็นต้นนะครับ แต่ว่าอาจจะมีอีกเคสนึงซึ่งเคสนี้คงไม่นอนคุกแต่อาจโดนส่งไปสถานบำบัดทางจิตใจ โรคนี้เรียกว่า Delusional Disorder (case: Grandiosity) นะครับถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คือ หลอกคนอื่นจนกระทั่งตัวเองก็เชื่อเป็นตุเป็นตะคิดว่าเป็นเรื่องจริงไปแล้ว อย่างเช่นไปหลอกคนอื่นว่ามี lambo หลายๆคันทั้งที่ไม่มี แต่พอมีคนมาถามก็ยังยืนยันว่ามีและพยายามหาหลักฐานข้ออ้างต่างๆนาๆ ถ้าอยากอ่านเพิ่มเต็มก็เชิญที่เว็บนี้ http://www.webmd.com/schizophrenia/guide/delusional-disorder
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 01, 2011 9:39 am
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
นี่คือ e-mail ที่ได้มา
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 01, 2011 1:44 am
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ตามที่สัญญานะครับ ผมได้เมลไปถามทาง pcifilms แล้วนะครับ นี่คือคำตอบที่ได้มา จะเชื่อถือผมหรือไม่นั่นก็แล้วแต่ทุกท่านเองนะครับ ผมสัญญาว่าผมไม่ได้แก้ content ใน e-mail อะไรทั้งสิ้นแต่ขออณุญาติลบชื่อตัวเองด้วย privacy reason ส่วนทางด้านคุณมาดำ ผมไม่ต้องการคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้นแต่ถ้าทางคุณอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจก็แล้วแต่ตัวคุณนะครับ
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร มี.ค. 01, 2011 1:43 am
0
0
Re: หา FCF ออกมาแล้วติดลบ ต้องทำอะไรกับมันมั้ยครับ
ผมคิดว่าที่เจ้าของกระทู้พูดว่าติดลบนั่นหมายถึง NPV นะครับ ถ้าคิดว่าสมมติฐานของท่านที่ใช้ในการคำนวนมีความแม่นยำค่อนข้างสูงแล้ว NPV ยังออกมาติดลบละก็ไม่ควรลงทุนนะครับ ผมคิดว่ายังมีหุ้นอื่นอีกหลายตัวที่น่าจะเป็นบวกได้
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ ก.พ. 27, 2011 10:56 am
0
0
Re: JAS [เฉพาะวันที่ 24 - 25 FEB 2011] เชิญคุยกันที่นี่ชั่วค
โยกที่ผมถามมาไว้ที่นี่ละกันหวังว่า mod คงไม่บ่นอะไร คือผมอยากเป็น VI มั่งอ่ะคับพี่ๆเลยอยากถามว่าเวลาเราดูว่าบริษัทดีไม่ดีเนี่ยทำไมเราสนใจแค่งบกำไรขาดทุนเหมือนที่หลายๆคนโวยวายกันอ่ะคับ ทำไมเราไม่ดูงบกำไรขาดทุนควบคู่ไปกับกระแสเงินสดอ่ะคับ ถ้าผมมีสองบริษัทให้เลือก สองบริษัทนี้ทุกอย่างเหมือนกันหมดยกเว้น อันแรกบริษัท A กำไร 10 บาททุกปีแต่ CFO เป็นลบตลอด กับบริษัท B ที่กำไร 2 บาทแต่ CFO ดีมากพี่ๆจะเลือกอะไรหรือครับ ช่วยผมด้วยเพราะผมก็อยากเป็น VI
โดย
ก้อนกรวด
พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 9:37 am
0
0
Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ)
PE ต่ำราคาสูงคือไรหรือครับ งง หรือหมายความว่าราคาสูงแล้วเมือเทียบกับ value?
โดย
ก้อนกรวด
ศุกร์ ก.พ. 18, 2011 11:16 am
0
0
Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ)
ตลาดหมี short ไม่ได้หรือครับ?
โดย
ก้อนกรวด
พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2011 9:07 am
0
0
Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ)
ส่วน VS นั้นมักลงทุนในช่วงที่หุ้นกำลังขึ้นซึ่งไม่เสียโอกาสในการรอคอย มันเป็นแบบนั้นจริงเหรอครับ จริงครับ
โดย
ก้อนกรวด
พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2011 2:46 am
0
0
Re: ทำใจไม่ขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันตกเอาตกเอา ?
เห็นด้วยเลยคับพี่ Hughes แต่ถ้าผมเป็น VI จะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นมันจะถล่มล่ะครับเพราะว่าผมไม่ได้ตามตลาดทุกๆวัน?
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร ก.พ. 15, 2011 2:50 am
0
0
Re: ทำใจไม่ขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันตกเอาตกเอา ?
ความเห็นแต่ละคนสุดยอดมากเลยครับ ในแง่นักลงทุนแบบ VI ที่เก๋าจริงๆ ถ้าเห็นหุ้นตัวเองถล่มลงไปเยอะโดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยนก็อาจจะถือได้มั้งครับ แต่ผมลองมาคิดในมุมมองของคนอื่นแบบพวก Fund Manager ที่บริหารเงินจำนวนมากให้คนอื่น ถ้าพวกพี่เป็นคนเหล่านั้นผมไม่รู้จะยอมให้ port ตัวเองตกลงขนาดนั้นได้หรือเปล่าเพราะว่านักลงทุนที่เอาเงินมาฝากคุยย่อมมีการโวยวายแน่นอน ที่ Hedge Fund แบบเน้นลงทุนในมูลค่าหรือไม่ก็แบบอื่นๆต้องปิดไปในปี 2008 ก็เพราะว่า NAV ของพวกเขาถล่มลงมาเกินที่นักลงทุนจะรับได้ ผมอยากถามพวกพี่ๆหน่อยครับว่าในเคสแบบนั้นพี่จะทำอย่างไรถึงแน้นว่าพวกพี่ๆจะรู้ว่า intrinsic value ของ NAV บริษัทนั้นสูงกว่าที่เห็นอยู่ตอนนั้นมากๆ
โดย
ก้อนกรวด
อังคาร ก.พ. 15, 2011 1:39 am
0
0
Re: ทำใจไม่ขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันตกเอาตกเอา ?
อ่อผมขอเถียงคุณ วรันศ์ บัฟเฟต นิดนึงนะครับเพราะผมคิดว่าซื้อหุ้นมันก็เหมือนซื้อห้องในกรณีที่คุณมี full control นะครับ แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของห้องคุณบริหารจัดการอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่กรณีหุ้นมันก็จะต่างกันนิดหน่อยนะครับยกเว้นว่าคุณซื้อเหมายกล๊อตจนมีอำนาจเหนือผู้บริหารจริงๆคราวนี้ ทั้งห้องและหุ้นก็จะเหมือนๆกัน
โดย
ก้อนกรวด
จันทร์ ก.พ. 14, 2011 4:21 pm
0
0
Re: ทำใจไม่ขายหุ้นได้ยังไงครับเวลาหุ้นมันตกเอาตกเอา ?
ถ้าแนว VI, สมมติผมซื้อราคา 100 แล้วมันถล่มลงมาเหลือ 50 ก็คงคิดในอีกแง่นึงว่า ถ้าตอนนี้ผมมีเงินในแบงค์อยู่ 50, ผมจะซื้อไอ้หุ้นตัวนี้รึเปล่า ถ้าไม่ก็ขายทิ้งซะถ้าซื้อก็ถือไว้ แค่นั้นละมั้งครับ โดยส่วนตัวผมตัดทิ้งที่จุดที่ตั้งไว้แล้วมาดูๆอีกทีว่ามีไรผิดไปหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ว่ากันใหม่
โดย
ก้อนกรวด
จันทร์ ก.พ. 14, 2011 4:17 pm
0
0
Re: กระทู้สนทนา แลกเปลี่ยน รวบรวมข้อมูล และ แนวทางเกี่ยวกับ
ที่ผมดูๆในรายชื่อ ผถห ใหญ่ ส่วนใหญ่มีแค่รายย่อยนะครับยกเว้นบริษัท ทีพีพี อินเตอร์แนชั่นแนล อันนี้ไม่ทราบว่าคืออะไร http://www.settrade.com/C04_05_stock_majorshareholder_p1.jsp?txtSymbol=IHL&selectPage=5
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 3:51 am
0
0
จิบเบียร์ Q3/53 เสาร์ 27 พย ย้ายเป็นห้อง (Plenary Hall 1-3)
ขอยกเลิกด้วยครับ ขออภัยอย่างสูง
โดย
ก้อนกรวด
พุธ พ.ย. 17, 2010 11:53 pm
0
0
จิบเบียร์ Q3/53 (เสาร์ 27 พย 2553) เวลา 11-15.00 น.
จองสองที่ครับ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ พ.ย. 17, 2010 4:30 am
0
0
หุ้นธุรกิจดีอย่างไรก็ต้องขึ้นแม้ฝรั่งไม่ต้องการ
ผมก็เห็นด้วยนะครับว่าสักวันมันจะต้องขึ้น แต่ว่าเมื่อไรเนี่ยเราจะรู้ได้ยังไง บางคนก็ชอบบอกว่าต้องมองยาวๆหรือ Long-run ผมก็อยากจะขอ quote คำพูดของ John Maynard Keynes หน่อย "In the long run, we are all dead" ดังนั้นผมคิดว่าแค่หุ้นดีไม่น่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่ผมซื้อ แต่ว่าผมจะซื้อหุ้นดีที่ยัง undervalue และเริ่มเข้า uptrend เพราะผมไม่ชอบหลักการที่จะเอาเงินไป lock ไว้กับหุ้นสักตัวและเฝ้ารอวันที่มันจะขึ้น แต่นี่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ มีอะไรโปรดชี้แนะด้วย
โดย
ก้อนกรวด
อาทิตย์ พ.ย. 07, 2010 11:09 pm
0
0
ขอคำแนะนำเรื่อง FCF (กระแสเงินสดอิสระหน่อยครับ)
หา weighted-average tax rate ครับ หรือ อีกคำหนึ่งคือ effective tax rate. สมมติว่าถ้าคุณมี EBIT จากสอง operation ก็ให้หา tax rate และ EBIT weight ของแต่ละ operation แล้วมาทำเป็น effective tax rate Effective Tax = w1 * (Tax 1) + W2 *(Tax 2) ถ้าผมพูดผิดไปก็ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
โดย
ก้อนกรวด
เสาร์ ส.ค. 21, 2010 1:10 pm
0
0
เชื่อมั้ยคุณสามารถดูดวงจากหุ้นที่คุญถือได้
ขอบคุณครับสำหรับคำ่ตอบ ผมคิดว่าคุณทำนายได้ค่อนข้างตรงกับตัวผม แต่ว่าพอผมไปอ่านของคนอื่น แล้วผมก็คิดว่ามันก็ยังตรงกับตัวผมอยู่ดี ช่วยอธิบาย concept คร่าวๆหน่อยครับว่าอะไร ยังไง กับหลักการ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มิ.ย. 09, 2010 10:54 pm
0
0
เชื่อมั้ยคุณสามารถดูดวงจากหุ้นที่คุญถือได้
ขอบคุณครับสำหรับคำ่ตอบ ผมคิดว่าคุณทำนายได้ค่อนข้างตรงกับตัวผม แต่ว่าพอผมไปอ่านของคนอื่น แล้วผมก็คิดว่ามันก็ยังตรงกับตัวผมอยู่ดี ช่วยอธิบาย concept คร่าวๆหน่อยครับว่าอะไร ยังไง กับหลักการ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มิ.ย. 09, 2010 10:28 pm
0
0
เชื่อมั้ยคุณสามารถดูดวงจากหุ้นที่คุญถือได้
NNCL 20% D1 30% SLC-T1 15% USA T-Bond 10 years 30% Cash 5% ปล. D1 ผมติดดอยนานแล้วไม่ได้อยากถือ
โดย
ก้อนกรวด
พุธ มิ.ย. 09, 2010 5:21 pm
0
0
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
ก้อนกรวด
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร เม.ย. 27, 2010 12:09 pm
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. พ.ย. 08, 2012 10:07 pm
โพสต์ทั้งหมด:
141 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.03 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว