หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
slalom
Joined: พุธ มี.ค. 24, 2010 1:18 pm
111
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - slalom
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: กระทู้รับสมัครหลักสูตรการลงทุนแบบเน้นค่า รุ่น 17
สมัครเรียน
โดย
slalom
จันทร์ ส.ค. 03, 2020 9:02 am
0
0
Re: เปิดจอง CV ACAP ในวันอังคารที่ 28/2/60 เวลา 10.00 น.
ขอจอง 1 ที่ครับ
โดย
slalom
อังคาร ก.พ. 28, 2017 10:02 am
0
0
Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี
รบกวนขอไฟล์ด้วยครับ พี่ครรชิต
[email protected]
ขอบคุณมากครับ
โดย
slalom
พฤหัสฯ. มี.ค. 19, 2015 4:01 pm
0
0
Re: ในตลาดมีหุ้นตัวไหนที่มีหน่วย logistic กระจายสินค้าตัวเอง
PB
โดย
slalom
อังคาร พ.ย. 04, 2014 9:33 am
0
1
Re: Com Visit AUCT วันที่ 6 กย. 2557 เวลา 9.00 - 12.00 น
ผมขอขอบคุณ ทีมงาน ThaiVI มากๆๆ เลยครับ ที่จัด Company Visit ครั้งนี้ ขอให้มีกำลังใจทำงานต่อนะครับ
โดย
slalom
เสาร์ ก.ย. 06, 2014 8:57 pm
0
0
Re: เปิดจอง Com Visit AUCT วันที่ 26 สค 57 เวลา 10.00น. 57 ท
ขอจอง 1 ที่ครับ ขอบคุณครับ
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ส.ค. 28, 2014 10:12 pm
0
0
Re: VI อดทนกับความยั่วยวนตอนนี้กันยังไงครับ
เจ็บแล้วต้องจำ เมื่อก่อนก็เคยเล่นหุ้นปั่น ต่ำบาท warrant top gainer หลับตาจิ้ม ใส่หมด มาร์ก็ช่างรู้ใจ sms มาใบ้หุ้นเด็ด เอาละเว้ย ซัดขวาหมดช่อง รวยแน่ หุ้นตัวนี้เค้าจะเพิ่มทุน แถมยังมาเสนอผู้ถือหุ้นเดิมก่อนด้วย ถ้าเราซื้อเพิ่ม รวยแน่นอน ซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วยดีกว่า สุดท้ายเลือดสาด บางทีก็บอกยากว่าเป็นหุ้นปั่นหรือหุ้นพื้นฐาน เอาเป็นว่าเป็นหุ้นที่เราไม่รู้จักดีกว่า เดี๋ยวนี้ รออย่างเดียว รอวันงบออกครับ ตอนนี้เลยลุ้นหุ้น แค่ปีละ 4 วัน จริงๆ ก็ทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ แต่เลิกเล่นหุ้นที่เราไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง (ทุกวันนี้หุ้นที่ถืออยู่ก็ยังไม่แน่ใจว่ารู้จักมันดีพอหรือยัง) เหมือนคุณส สลึงว่า รถเลนข้างๆ วิ่งฉิวๆ พอเราตัดสินใจเปลี่ยนเลน รถที่อยู่เลนเดียวกับเราก็เปลี่ยนพร้อมๆ กัน สุดท้าย ถ้าเราขับรถไปตามเลนเดิม ไปเร็วกว่า มีข้อสังเกตว่า ถือหุ้นพวกนี้แล้วใจเราจะร้อน ไม่เป็นสุข กระวนกระวาย ต้องมาคอยเฝ้าหุ้นตลอดเวลา ไม่สามารถปล่อยวางได้ ถ้าถือหุ้นตัวไหน แล้วเกิดอารมณ์แบบนี้จะไม่ถือครับ
โดย
slalom
ศุกร์ ม.ค. 18, 2013 10:23 am
0
5
Re: pak มาแล้ว พฤหัส 16มิย สึ่ทุ่ม moneytalk tnn2
ผมมักจะจำชื่อหุ้นผิดว่า หุ้น PAE ชื่อหุ้น PAK :P พิมพ์หาเท่าไหร่ก็ไม่มี ปล.ไม่ได้เชียร์หุ้นนะครับ
โดย
slalom
ศุกร์ มิ.ย. 17, 2011 1:08 pm
0
0
Re: ็HFT: ถือหุ้นแค่ 11 วินาที...2-3 นาที (สงสัยต้องเรียกว่
อ่านตอนแรกนึกว่า เล่นหุ้น ฮั้วฟงไทย 11 วินาที :D
โดย
slalom
ศุกร์ พ.ค. 06, 2011 1:16 pm
0
0
Re: การซื้อรถของชาวVI
เท่าที่ดูจากขนาดพอร์ต ยังไม่น่าจะซื้อรถนะครับ เพราะถ้ามีรถก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ประกัน ฯลฯ แล้วเท่าที่ดูไอ้ค่าใช้จ่ายพวกนี้มันจะไปกินเงินที่เติมเข้าพอร์ตเดือนละ10,000อีกด้วยนะครับ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ลองดูพวกรถมือสองน่าจะดีกว่ามั้ยครับ
โดย
slalom
จันทร์ เม.ย. 11, 2011 4:25 pm
0
0
Re: ตลาดหุ้นเป็น zero-sum game จริงหรือไม่ ขอความเห็นและข้อโ
ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกที่จะเล่นเกมไหนครับ
โดย
slalom
ศุกร์ เม.ย. 08, 2011 10:44 pm
0
0
Re: ทำไมเต่าถึงชนะกระต่าย??
ผมไม่ทราบว่าทำไมเต่าถึงชนะกระต่าย แต่รู้อยู่อย่างว่า "คนส่วนใหญ่.. ทนที่จะเป็นเต่าไม่ได้" และชอบที่จะเป็นกระต่ายมากกว่า
โดย
slalom
ศุกร์ เม.ย. 08, 2011 10:00 pm
0
0
Re: พี่ๆมีเทคนิคกันอย่างไรให้ port โต ครับ
เพิ่มเติมจากประสบการณ์ส่วนตัว - ลงทุนไม่หวังโต(เร็ว) ไม่หวังรวยเร็ว เน้นถือกิจการที่ดียาวไปเรื่อยๆ...... เปรียบได้กับการจีบสาวเรียบร้อย นิสัยดี ไม่หวือหวา เหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นภรรยา ........... เออ พอร์ตมันโตเว้ย ปันผลก็ชื่นใจ - ลงทุนหวังรวย(เร็ว) เน้นหุ้นมีสตอเบอรี่ชีสเค้ก ไม่ได้หวังลงทุนยาว.................. เปรียบได้กับการจีบสาวสวยเซ็กซี่ ร้อนแรง เหมาะอย่างยิ่ง กับการเป็นกิ๊ก................... พอร์ตเจ๊ง ครับ เลือดกลบปาก ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เหมือนข้างต้น อาจจะต่างกรรม ต่างวาระ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานสะสม (นิสัย-สันดาน) ของแต่ละท่าน และขึ้นอยู่กับว่า ท่านอยากได้ภรรยาหรืออยากได้กิ๊ก
โดย
slalom
ศุกร์ เม.ย. 08, 2011 9:49 pm
0
0
Re: พี่ๆมีเทคนิคกันอย่างไรให้ port โต ครับ
โตขึ้นเรื่อยๆ แบบยั่งยืน ครับ ผมคิดว่า น่าจะเน้น ความปลอดภัยของเงินต้น ก่อนครับ
โดย
slalom
จันทร์ เม.ย. 04, 2011 2:47 pm
0
0
Re: CLSA ชูหุ้นไทยติด 3 ตลาดหุ้นเด่นของเอเชีย
ขอบคุณครับ ที่นำบทความและมุมมองดีๆ มาให้อ่าน
โดย
slalom
จันทร์ เม.ย. 04, 2011 1:28 pm
0
0
Re: ก.ล.ต. เปิดเผยการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคา
ใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลนาน 4-5ปีเลยเหรอครับ หรือว่าเพิ่งนำข้อมูลในอดีตมาเปิดเผย เฮ้อ เมืองไทยเนี่ย รายย่อย...ยับจริงๆ
โดย
slalom
ศุกร์ มี.ค. 25, 2011 9:42 pm
0
0
Re: แฟน ปืนใหญ่ Arsenal เชิญทางนี้...
ผมอยากให้ปีนี้ปืนได้แชมป์อย่างน้อยซักแชมป์ครับ ไม่อย่างนั้นวัฏจักรเดิมมันจะกลับมา ปั้นเด็ก -> ชวดแชมป์ -> ทีมแตก -> ปั้นเด็ก ชุดใหญ่ก่อนชุดนี้ กำลังจะลงตัว นักเตะก็ย้ายกันไปก่อน พวก ฟลามินี่, ฮเล็บ, กัลลาส เชื่อในฝีมือเวนเกอร์ครับ แต่เวลามันผ่านไปไว ความสำเร็จไม่รอใครครับ ชุดนี้ถ้าไม่ได้แชมป์ สงสัยทีมคงจะแตกอีกแน่นอน
โดย
slalom
ศุกร์ มี.ค. 11, 2011 2:13 pm
0
0
Re: คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนจริงๆ
ขอให้ได้หุ้น (ส่วนชีวิต) ที่ดี มีค่ามากกว่าหุ้นทุกตัวในตลาด (เอามาจากเฮีย endophine ครับ)
โดย
slalom
พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 11:47 am
0
0
Re: Fair Value ที่คำนวณจากโบรกเกอร์เชื่อได้มั๊ยครับ
ที่สำคัญ โบรกส่วนใหญ่มักจะออกบทวิเคราะห์มาตอนที่ราคาหุ้นขึ้นไปแล้ว โดยเฉพาะหุ้นร้อนๆ พยายามหาเหตุผลการคำนวณราคา ว่าราคาปัจจุบัน "ยังถูกอยู่" ยังขึ้นไปได้อีก ผมว่าอันตรายมาก วิเคราะห์ด้วยตัวเองน่าจะดีกว่านะครับ
โดย
slalom
พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 11:40 am
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
ขอบคุณครับ คุณ leaderinshadow ไม่เสียว...ก็ได้ :P
โดย
slalom
พุธ มี.ค. 02, 2011 7:03 pm
0
0
Re: กระทู้ PTL ชั่วคราว
อ่านกระทู้นี้แล้ว ชวนให้นึกถึง เทพ JR ในพันทิพ เมื่อหลายปีก่อน พี่ท่านแปลงร่างมาในหลาย log in ทำตัวเป็นหน้าม้า (สาวบ้าง) เชียร์หุ้นตัวเอง คุยหลังไมค์เสร็จแล้วรับบริหารพอร์ต ผมไม่ทราบว่า จะใช่คนเดียวกับใน ThaiVI หรือเปล่า ความจริงน่าจะมีระบบสกรีน โดยใช้บัตรประชาชนสมัคร นึกแล้วยังเสียวตูดไม่หาย ลองไปอ่านดู อันนี้หลุด ทำตัวหน้าม้า แต่ลืมเปลี่ยน log in http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2007/10/I5877346/I5877346.html เสียว http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2007/09/I5850066/I5850066.html กลับมาร่างใหม่ในปี 2010 http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2010/09/I9752338/I9752338.html ล่าสุด 2011 (ไม่รู้ว่าใช่ไหม) http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10193030/I10193030.html ยังไงขอให้เพื่อนๆ ระวัง ข้อมูลที่อ่านด้วยนะครับ ผมเองยังยอมรับว่าล่าสุดยังเคลิ้มไปกับน้องสุดสวยเลย ยังไงต้องระวังข้อมูลที่ไม่มี แหล่งอ้างอิง นะครับ ยิ่งเว็บ ThaiVI มีชื่อเสียงมากขึ้น คนที่เค้าคิดไม่ดี เค้าคงค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในนี้แล้วมาปั่นข้อมูล พักหลังผมสังเกตว่าเทพเดิมๆ ทั้งหลายไม่ค่อยเข้ามาโพสต์ข้อมูลแล้ว อาจจะกลัวไม่อยากเปลืองตัว ผมหวังว่าเว็บนี้จะกลับมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหมือนเมื่อก่อนนะครับ
โดย
slalom
พุธ มี.ค. 02, 2011 5:50 pm
0
0
Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ)
เจอแล้วครับ แนวคิดของคุณสุมาอี้ ลองอ่านดูน่าจะได้ประโยชน์และเข้าใจว่าทำไมเรา ควร ถึอหุ้น 100% ตลอดเวลา “วันนี้มีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งมาแนะนำกัน หุ้นตัวนี้ราคาไม่เคยขยับไปไหนตั้งแต่มีตลาดหุ้นมา มี P/E ราว 50-100 เท่าในปัจจุบัน จ่ายปันผล 1-2% ทุกปี ราคาหุ้นนิ่งสนิทติดต่อกันยาวนานสิบๆปี ได้อ่านแล้วถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะซื้อหุ้นตัวนี้ไหม? .. ผมว่า ถ้าหุ้นตัวนี้มีอยู่จริงในตลาดเรา คงไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากซื้อเก็บไว้ แต่ทราบหรือไม่ว่า นักลงทุนทุกคน รวมทั้งตัวคุณด้วย ชอบซื้อตัวนี้แถมบางคนซื้อบ่อยด้วย ! ขอเฉลย.... หุ้นตัวนี้ มีตัวย่อว่า CASH เป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด ไม่มีนักลงทุนคนไหนไม่เคยซื้อ ทุกครั้งที่ขายหุ้นอะไรในพอร์ท นักลงทุนก็กำลังซื้อหุ้นที่ชื่อว่า CASH เข้ามาในพอร์ท เจ้า CASH นี้ มันไม่เคยให้ Capital Gain เลย P/E ก็สูง (50-100 เท่า) แค่จ่ายปันผลทุกปี ในขณะที่หุ้นที่เราขายทิ้ง ให้ปันผลที่สูงกว่านี้ มี P/E น้อยกว่านี้ เราก็ยังตัดสินใจขายมันทิ้งไป .. “ทุก ๆ ครั้งที่เราจะขายหุ้น ให้ลองมองเงินสดเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ชื่อว่า CASH แล้ววิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ อาจจะเป็นการยับยั้งชั่งใจก่อนที่เราจะขายหุ้นทิ้งไปได้” .. ข้อดีของ CASH คือ ราคาไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง .. แต่ข้อเสียก็คือจ่ายปันผลน้อย และไม่ได้ Capital Gain เช่นเดียวกัน .. ”
โดย
slalom
อังคาร ก.พ. 15, 2011 6:02 pm
0
0
Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ)
ท่านลองเปลี่ยนมุมมอง หรือ วิธีคิดสิครับว่า เงินสด ...... คือ หุ้น ประเภท นึง ที่มีปันผลเป็นดอกเบี้ย ในบางช่วงของเวลา หุ้นเงินสด ก็ดีนะครับ เพื่อรอเวลา.....ที่ดี อ่านตรงประโยคข้างบน "เงินสดคือหุ้นประเภทนึง" ทำให้ผมนึกถึงบทความที่เคยอ่านจากคุณสุมาอี้ มุมมองอาจจะแตกต่างจากด้านบน "ถ้าคุณเลือกถือเงินสด เท่ากับว่าคุณกำลังถือหุ้น PE 50 เท่าอยู่ (กรณีผลตอบแทนดอกเบี้ยเท่ากับ 2 เปอร์เซนต์) " ประมาณนี้นะครับ เลยคิดว่าถือหุ้นในตลาดดีกว่า เลือกหุ้นดีๆ PE ซัก 8-15 เท่า
โดย
slalom
อังคาร ก.พ. 15, 2011 5:49 pm
0
0
Re: New Normal : สิ่งใหม่ ที่กลายเป็นสิ่งธรรมดา
พริตตี้ครับ.. new normal เดี๋ยวนี้มีทุกงานเลยครับ ตั้งแต่งานขายรถ จนถึง งานขายกะปิ น้ำปลา ซาลาเปา
โดย
slalom
ศุกร์ ก.พ. 04, 2011 5:08 pm
0
0
Re: หุ้นตก!..value investor ควรจะดีใจหรือเสียใจ?
ดีใจ... เพราะ Mr.Marketผู้มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ได้มาเสนอสินค้าราคาแสนถูกให้ถึงหน้าบ้าน เราควรคิดว่าตลาดเป็นผู้รับใช้เรา ไม่ใช่ผู้นำเรา
โดย
slalom
พุธ ม.ค. 12, 2011 7:27 pm
0
0
Re: เหตุผลที่ผมชอบวันจันทร์ ?
สรุปว่าอาทิตย์นี้ ดร.ท่านไม่ได้เขียนบทความเหรอครับ หาไม่มีเลย
โดย
slalom
อังคาร ม.ค. 11, 2011 5:39 pm
0
0
Re: โพลสำรวจผลตอบแทนปี 2010 หายไปไหน? ถูกลบไปแล้วเหรอ
สรุปไม่ได้ว่าใครเก่งกว่า สภาพตลาดไม่เหมือนกัน ธุรกิจไม่เหมือนกัน ระยะเวลาสั้นไป ถ้าจะเทียบ ต้องอยู่ในตลาดเดียวกัน วัดผลตอบแทนในระยะเวลา 10 ปี
โดย
slalom
อังคาร ม.ค. 11, 2011 5:32 pm
0
0
Re: จิบเบียร์ Q3/53 เสาร์ 27 พย 11-15 น.(Meeting Room 3-4)
รบกวนด้วยครับ พอดีจองไป 2 ที่ แต่ในรายชื่อปรากฏที่เดียวเองครับ รบกวนช่วยเพิ่มให้เป็น 2 ที่ด้วยครับ ขอบคุณครับ slalom Post subject: Re: จิบเบียร์ Q3/53 เสาร์ 27 พย 11-15 น.(Meeting Room 3-4) ขอจอง 2 ที่ ครับ :oops:
โดย
slalom
อังคาร พ.ย. 23, 2010 1:37 pm
0
0
Re: จิบเบียร์ Q3/53 เสาร์ 27 พย 11-15 น.(Meeting Room 3-4)
ขอจอง 2 ที่ ครับ :oops:
โดย
slalom
จันทร์ พ.ย. 22, 2010 8:24 pm
0
0
ปกติเราควรได้อะไรจากโบรเกอร์บ้างครับ
ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้หมูฝอยมา..อร่อยมาก บทวิเคราะห์ไม่ได้แล้ว สงสัยเห็นเราไม่ค่อยซื้อตามที่เชียร์มั้ง
โดย
slalom
พุธ พ.ย. 10, 2010 1:51 pm
0
0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
ของอย่างนี้ พูดยาก ถ้าไม่เคยเจ็บ ก็คงไม่เคยจำ นักลงทุนหน้าใหม่เห็นกำไรอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรจะมานั่งอ่านตำราเสียเวลาทำกำไร ผมคิดว่าทางหนึ่งที่พอจะปรามได้ ลองเล่าประวัติคนที่เคยพลาดกับตลาด เช่นคุณศิริวัฒน์ ดูเป็นตัวอย่าง น่าจะลดความคึกคะนองลงได้ แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้หรอก ความคิดที่ตกผลึกแล้ว ย่อมได้มาจากประสบการณ์จริงทั้งดีและโหดร้ายที่บ่มเพาะผ่านช่วงเวลามาระยะหนึ่ง ตัวผมเองกว่าจะเปลี่ยนแนวคิดมาเป็น VI ได้ ก็ต้องอ่านหนังสือหลายๆ รอบ ซึมซับ ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็อ่านซ้ำๆ ซากๆ ประกอบกับขาดทุนหนักๆ ทำให้บรรลุสัจธรรมทันที ถ้าเล่นแบบไวไว ก็จะเจ๊งแบบไวไว แต่ถ้าเล่นแบบ VI ก็จะมีความสุขแบบ VI (ลงทุนแล้วมีความสุข)
โดย
slalom
พุธ พ.ย. 10, 2010 1:44 pm
0
0
ปิด 1,OOO แสดงถึงอะไรมั่งครับวันนี้
"งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ...ใครลุกช้า จ่ายตังค์และล้างจาน" ผมว่า วีไอ ไม่ค่อยได้จ่ายตังค์กับล้างจานนะ เพราะวีไอชอบไปโต๊ะที่อาหารเพิ่งลง คนนั่งน้อยๆ พออาหารเริ่มพร่อง ก็เดินไปกินโต๊ะอื่นต่อ สุดท้ายกินหมดทุกโต๊ะ ก็ย้ายไปงานอื่นต่อ... สรุปว่า วิชาเดินชิมพันลี้มแบบนี้เป็นวีไอ หรือพรรคกระยาจกหว่า ?? :lol:
โดย
slalom
จันทร์ พ.ย. 01, 2010 8:12 pm
0
0
learn to earn มีแปลขายในไทยไหมครับ
ไปบูธ SE-ED ได้เลยมีขายแล้ว มีของ Philip A.Fisher - Paths to wealth through common stocks ออกมาแล้วด้วยนะเออ siam inter - เทพมารสะท้านภพ ทั้งชุด ลด 50% เครือผู้จัดการ - หนังสือหลายเล่ม 20 บาท / 50 บาท แนะนำหนังสือ 50ผู้จัดการ + บริษัท 100ปี เนชั่น - อ่านก่อนรวยถาวรกว่า + หนังสือหุ้น 6 เล่ม 100
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2010 5:26 pm
0
0
พฤหัสนี้ พี่คลายเครียด ออกรายการ มันนีทอล์ค tnn2 ครับ
ผมคิดว่า อ่านหนังสือเฮียคลายเครียดแล้วจะเข้าใจเนี่ย อาจจะต้องลงทุนมาซักระยะนึงครับ ต้องเจ็บ(ขาดทุน)ก่อนแล้วจะอ่านได้เข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น ผมยอมรับว่าซื้อมาตอนแรก อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ แต่สำหรับตอนนี้ถือว่าเป็นคัมภีร์เอาไว้ควบคุมความโลภได้ดีเลยครับ ไม่ทราบว่าเฮียพอจะรู้จักนักลงทุนรุ่นเก๋าๆ รุ่นก่อนฟองสบู่ ที่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ไหมครับ ผมว่าน่าจะแนะนำให้อาจารย์ไพบูลย์เชิญมาออกรายการนะครับ เพราะคนที่สามารถรอดจากวิกฤตหลายๆ รอบมาได้เนี่ย น่าจะมีวิชาระฆังทองคุ้มครองกาย คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนรุ่นใหม่มากๆ ให้ระวังก่อนเข้าทุ่งสังหาร
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2010 4:34 pm
0
0
ขออำลาครับ
ขอบคุณคุณหมอ และทีมงานที่ทำให้เว็บนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีของนักลงทุน การที่คุณหมอ พอร์ตโตขึ้น น่าจะเป็นเพราะผลบุญจากการทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวม ผมว่าคนเรา "ยิ่งให้มากเท่าไหร่ ยิ่งได้รับกลับคืนมากเท่านั้น" ครับ
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ต.ค. 28, 2010 4:01 pm
0
0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว(๒๕ต.ค.๒๕๕๓) ตอน เลิฟมีเลิฟมายบุ๊คส์
กระบี่ ผีเสื้อ ดาวตก
โดย
slalom
พุธ ต.ค. 27, 2010 4:50 pm
0
0
สวัสดี ทักทาย จาก ทีมงานชุดใหม่ครับ
ผมเองก็ได้รับประโยชน์จากเว็บนี้มากๆๆ ทั้งแนวคิดการลงทุน และข้อมูลหุ้นแต่ละตัว ผมขอขอบคุณทีมงานเว็บทุกท่าน เพื่อนนักลงทุนที่มาโพสต์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สุดท้ายก็ต้องขอบคุณให้กับความเสียสละของผู้ที่รับตำแหน่งประธานคนเก่า (หมอสามัญชน) และประธานคนใหม่ (คูณบู) ผมเองยังเป็นน้องใหม่ในเว็บก็ฝากตัวด้วยครับ
โดย
slalom
พุธ ต.ค. 27, 2010 4:23 pm
0
0
มือใหม่ครับมีทุน 3 แสนตอนนี้ควรซื้อตัวไหนดีครับ
แบ่งเงิน 1% มาซื้อหนังสือเลยครับ 3 พันบาท ตอนนี้ยังมีงานหนังสืออยู่นะเออ ก่อนเข้าสนามรบ เราต้องติดอาวุธให้พร้อมนะครับ ถ้าเข้าไปตัวเปล่าระวังโดนฟันเลือดสาดนะครับ หรือจะตะลุยอ่านคลังกระทู้ของ Thaivi เพิ่มเติมก็ได้ครับ ขอให้โชคดีในการลงทุนนะครับ
โดย
slalom
อังคาร ต.ค. 26, 2010 12:32 pm
0
0
หุ้น 10 เด้งในอดีต(ลงเหว)
นอกจากหุ้นปั่น ก็มีบางกิจการที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงตามสภาวะเศรษฐกิจ หรือโดยตัวกิจการเอง เช่นพวกหุ้นวัฎจักร ในอดีตก็พวก ATC ลงสิบเด้ง ขึ้นสิบเด้ง คนที่เล่นหุ้นปั่น ก็เหมือนแมงเม่าแหละ ชอบไฟสว่างๆ เข้าไปเล่นแล้วมีความสุขคิดว่าจะรวยได้ง่ายๆ เหมือนสาวเซ็กซี่ อยู่ด้วยแล้วตื่นเต้น วูบวาบ เสียว แต่มันไม่ยั่งยืน หุ้นดีๆ เหมือนเมียเราไม่เซ็กซี่แต่อยู่ด้วยแล้ว...สบายใจไปตลอดชีวิต ส่วนหุ้นบางตัวที่เคยแย่ แต่ต่อมากิจการอาจจะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาก็ได้ พวก VNG SINGER อาจจะยังไม่ขึ้นหลายเด้งแต่ก็นับได้ว่าเป็น Turnaround ถ้าถามตัวเองที่เคยเล่นหุ้นปั่น คงเป็นเพราะ คิดว่าทำกำไรได้ง่ายๆ มีราคาเป้าหมายในใจแบบกูคิดเอาเอง ที่เล่นก็มีหลายแนวเช่น เล่นหุ้น IPO (ยุคนี้ก็ UAC ถ้าเมื่อก่อนก็เป็น TNDT บวกทุกวัน) บางทีก็เล่นตามข่าวพวกหวยออนไลน์ โบรคเกอร์เชียร์มั่ง ฯลฯ บางครั้งกว่าจะเข้าใจอะไรก็ต้องอาศัย เวลา + ประสบการณ์ ต้องโดนหนักมากๆ แบบเจ็บแล้วต้องจำ ถึงจะเปลี่ยนแนวคิดทางการลงทุนได้ เวลาเราขาดทุน 50% ถ้าเราจะกลับมาให้ได้เท่าเดิมก็ต้อง ทำให้ได้ 100% เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เปลี่ยนแนวคิดมาเป็น VI คุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะ อันนี้ไม่รู้เป็นที่ผมคนเดียวหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าตั้งแต่ลงทุน VI "หวังผลตอบแทนน้อย แต่กลับได้มาก"
โดย
slalom
พุธ ต.ค. 20, 2010 8:01 pm
0
0
หุ้น 10 เด้งในอดีต(ลงเหว)
เคยอ่านกระทู้สิบเด้ง(ขึ้น) ตอนแรกคิดว่าจะตั้งกระทู้สิบเด้ง(ลง) เหมือนกัน แต่พอคิดไปมา มันเยอะนะ สิบเด้งลง เนี่ยมี เพียบเลย นับไม่หมดหรอก หลักๆก็หุ้นปั่น(แปะ)นั่นแหละ bliss (+w) , live (+w) , iec , mpic (traf) , n-park , psaap , bland , gsteel , singha , tcc (-w1) (ตัวนี้ต้นธารเคยเชียร์ทุกวัน) สรุปว่าเมื่อก่อนเคยเล่นทุกตัวเลยจ้า ยกเว้น สวนนรก (รู้สึกเหมือนคบคนชั่วยังไงไม่รู้ อันธพาลทุกตัวเลย) เมื่อก่อนมีความสุขแบบแมงเม่า เล็งกระดาน top gainer ตอนเช้าแล้วรีบเข้ารีบออก มีความสุขที่ได้ตังค์วันละร้อย วันละพัน ต่อมาฉลาดขึ้นมาอีกนิด สอยตอนปิดตลาดแล้วมาขายเปิดเช้า ฮ่าฮ่า ตูเก่งที่สุดในโลกเลย สุดท้ายก็ต้องตายไปตามวิถีแมงเม่า โดนไฟแห่งความโลภเผาจนตาย.. แต่หุ้นทุกตัว เวลาเปลี่ยน ปัจจัยพื้นฐานก็เปลี่ยน อนาคตพวกข้างบนอาจจะเป็นสิบเด้ง(ขึ้น)ก็ได้ใครจะรู้
โดย
slalom
พุธ ต.ค. 20, 2010 1:05 pm
0
0
ถ้าน้ำมัน 100 เหรียญ และ Inflation สูง หุ้นไหนจะมาครับ
เคยอ่านมาไม่แน่ใจว่าถูกป่าวนะ เงินเฟ้อมากเกินไป ทำให้ราคาวัตถุดิบสินค้าเพิ่มขึ้นทำให้กิจการต่างๆมีต้นทุนสูงขึ้น ที่เห็นชัดเจนถ้าน้ำมันแพงขนาดนั้น ค่าขนส่งที่เป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานของกิจการทั่วไปคงเพิ่มขึ้นสูงมาก มีผลทำให้ต้นทุนของแต่ละกิจการเพิ่มสูงขึ้น กำไรลดลง ตลาดหุ้นน่าจะตก ส่วนกิจการน้ำมันก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้กำไรมาก เพราะราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นก็ต้องใช้ working capital มากขึ้น ต้องกู้เงินมากกว่าเดิมมาทำธุรกิจ ดอกเบี้ยเพิ่ม ส่วนพลังงานทดแทนก็ไม่แน่ใจว่าถึงเวลานั้นจะมามั้ย เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่ต้นทุนสูง พวกโซล่าเซล พลังงานลม เป็นธุรกิจดูดี แต่ไม่มีกำไร แต่พวกถ่านหิน เอทานอล ก๊าซ น่าจะดี โรงกลั่นน่าจะดีด้วยมั้ย ค่าการกลั่นปรับได้ตามราคาน้ำมันหรือเปล่า หรือไม่ก็กลับไปดูช่วงก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอเกอร์ ตอนนั้นน้ำมัน 100 เหรียญ หุ้นอะไรเอ่ย วิ่งแรงช่วงนั้น
โดย
slalom
อังคาร ต.ค. 19, 2010 6:23 pm
0
0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๑๗ต.ค.๒๕๕๓) ตอน พันจุดแค่เอื้อม
จัดหนักมาด่วน
โดย
slalom
อาทิตย์ ต.ค. 17, 2010 11:30 pm
0
0
ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น
ผมว่าถ้าคุณได้ขาดทุนใหญ่สักครั้ง หรือผ่านรอบหุ้นขาขึ้นและขาลงมาสักรอบ คงจะเข้าใจการลงทุนแนวVI ได้ดีขึ้นครับ สำหรับผมผ่านรอบหุ้นใหญ่มาหนึ่งรอบ กับ วิกฤตแฮมเบอเกอร์ บวกวิกฤตความโลภในใจ ที่ทำให้ขาดทุนมากสุดสุด ทำให้ผมละทิ้งทุกแนวทางเข้าสู่ เส้นทาง VI ตั้งใจว่าขอโตแบบอยู่เฉยๆปีละ 10-15 % ทุกวันนี้ ผมยังต้องคอยตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ ว่า ตัวเองไม่เข้าใจในหุ้นที่ถือ หรือว่ามีความโลภเกินกว่าความสามารถของตัวเองหรือเปล่า เฮียคลายเครียดกล่าวไว้ว่า "เจ้ามือไม่ได้ปั่นราคาหุ้น แต่เขาปั่นความโลภและความกลัวในใจเรา" ครับ ปีหนึ่งลุ้นหุ้นแค่ 4 วันก็พอนะครับ (วันประกาศงบ)
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 11:28 am
0
0
ขอเสียงสนับสนุนเพื่อนๆเชิญพี่คลายเครียดเป็นแขกรายการmoneytal
ถ้าท่านใดพอจะกรุณาโพสต์คลิป หลังจากออกอากาศแล้วจะเป็นพระคุณอย่างสูงมากครับ เมื่อก่อนสมัยเล่นหุ้น(ปั่นแปะ)ใหม่ๆเนี่ย อ่านไม่ค่อยเข้าใจหรอกหนังสือมวยวัด แต่พออยู่มานานเริ่มเข้าใจ ต้องบอกว่าหนังสือมวยวัดสามารถประยุกต์เป็นแนวทางเฉพาะตัว(มวยหย่งชุน?)ที่แตกต่างจากหนังสือการลงทุนเล่มอื่นๆ (ไม่แน่ใจว่าทางเฮียชอบอ่านนิยายจีนกำลังภายในหรือเปล่า เพราะอ่านแล้วได้แนวคิดคล้ายๆกันนะ) ติดตามรออ่านในพันทิปทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ ช่วยออกหนังสือเล่มใหม่ด้วยนะครับ รออ่าน
โดย
slalom
อังคาร ต.ค. 12, 2010 5:38 pm
0
0
จังหวะสูงสุดของหุ้นเราควรเอาเงินไปลงทุนอะไรต่อในช่วงหุ้นขาลง
โดยความคิดเห็นส่วนตัว ถือหุ้นต่อรับปันผล แล้วเอาปันผลที่ได้ไปซื้อหุ้นเพิ่มในช่วงขาลง อีกอย่างไม่มีใครรู้หรอกครับว่า จังหวะสูงสุด จังหวะต่ำสุดอยู่ตรงไหน ดัชนีหุ้นเป็นดัชนีชี้นำ ไม่มีใครทำนายตลาดได้ถูกต้อง 100%หรอกครับ
โดย
slalom
ศุกร์ ต.ค. 08, 2010 10:36 pm
0
0
ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55
คือผมเคยอ่านประวัติชีวิตเจ้าของ ชอบในความเป็นคนสู้ชีวิตครับ เลยอยากนำมาแบ่งปัน อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์น่าจะประมาณปี 49 ครับ จากวันวาน...สู่วันนี้ี้ของสวนสยาม จากเด็กบ้านนอกที่ครอบครัวยากจน แต่มีความฝันยิ่งใหญ่ที่อยากจะมีเงินเพื่อสร้างสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีความสุข ทุกวันนี้ความฝันของเขาเป็นจริงขึ้นมา เขาเป็นถึงเจ้าของสวนสนุกที่เปิดมา 26 ปี ภายใต้คำขวัญสั้นๆ ว่า สวนสยาม...โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม เขาผู้นี้คือ คุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไร ช่วงเด็กก็สนุกแบบเด็กๆ เราเป็นเด็กจนๆ ไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น แต่ไม่เคยคิดน้อยใจ รุ่นเด็กผมผ่านมาตั้ง 60-70 ปีที่แล้ว สมัยนั้นใครกินน้ำส้มไบเล่ก็เป็นลูกเศรษฐีแล้ว เราเป็นคนจนก็สนุกแบบคนจนไป เราไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจเรื่องจนเลย เราคิดว่าทำอย่างไรวันหนึ่งจะรวย แล้วจะทำอย่างไรที่จะช่วยคนจนได้และไม่ให้ใครเรียกเราคนจน คิดอยู่แค่นี้ ในวัยเด็กเราอย่าไปคิดถึงปมด้อยของตัวเราเองดีกว่า เพราะถ้าเราคิดถึงปมด้อยตัวเอง มันก็จะมีปมด้อยอยู่ตลอด ถ้าเราจนเราอย่าโทษพ่อแม่ จริงอยู่ พ่อแม่เราจน แต่ทำไมเราต้องจนตามพ่อแม่เราด้วย เรามีโอกาสรวยเหมือนคนอื่น คนอื่นเขาจนมาก่อน เขายังรวยได้ เราไม่มีความรู้ ทำอย่างไรถึงมีความรู้ มันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมด สำเร็จการศึกษาจากที่ไหน ผมไม่มีโอกาสได้เรียนเลย อยากเรียนจะตาย จบแค่ป.4 โรงเรียนบ้านนอกนี่มันมีแค่ป.4 ซึ่งเป็นภาคบังคับก็ถือว่าจบแล้ว ผมเองพ่อแม่จน ไม่มีปัญญา เลยไม่ได้เรียน หนังสือผมไม่เป็นเลย แค่ภาษาอังกฤษคำเดียวยังไม่เป็นเลย ผมไปเมืองนอกเมืองนาเหมือนคนตาบอด แต่ไปทุกปี ปีหนึ่งหลายครั้งด้วย ไปทุกประเทศทั่วโลก แต่ไม่เคยรู้ภาษาเขาเลย พอขึ้นเครื่องบินก็เหงาแล้ว จะขอน้ำยังไม่เป็นเลย แล้วติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศอย่างไร ภาษาอังกฤษก็ใช้ล่าม เมืองไทยเราคนเก่งๆ เยอะ แต่ก่อนเวลาผมติดต่อธุรกิจ ผมก็เอาดอกเตอร์ ที่เก่งภาษาอังกฤษติดต่อ ทั้งวิศวะ สถาปนิก ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ภาษาอังกฤษเป็นไฟ ไปไหนก็ไปกัน 3-5 คน เราพูดภาษาเขาไม่เป็น ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นใบ้นี่ พูดภาษาไทยได้ก็ใช้ได้แล้ว พรรคพวกเราเยอะแยะไป ก่อนที่จะทำสวนสนุกเคยทำอาชีพอะไรมาก่อน อาชีพที่ผ่านมาเยอะ ตั้งแต่กระเป๋ารถเมล์ รถรับจ้าง ขายปลาทู ขายของชำ ก่อนที่จะมาทำสวนสนุกก็เคย เป็นเศรษฐีบ้านจัดสรรมาก่อน เป็นคนแรกที่คิดทำบ้านจัดสรร ที่คิดได้เพราะตอนที่ไปเมืองนอกเห็นเขาทำเลยมาทำบ้าง กลับมาทำที่เมืองไทยก็โอเคใช้ได้ และได้เป็นอุปนายกสมาคมบ้านจัดสรร เป็นนักธุรกิจตัวอย่างของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นอะไรอีกเยอะ เป็นที่ปรึกษาของพรรคการเมือง เป็นส.ส.สอบตกของเขต เป็นกรรมการหอการค้าไทย เป็นจนไม่อยากจะเป็นอะไรแล้ว ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยจันทรเกษม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยจันทรเกษม 4 สมัยซ้อน เป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาฯ ไปสอนเป็นบางครั้งบางคราว จะไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์ ส่วนเรื่องวิชาความรู้มีอาจารย์สอนเยอะแล้ว เราเอาประสบการณ์ที่ในตำราไม่มี มีจุดหักเหในชีวิตบ้างไหม ทุกช่วงได้ ผมหักเหตั้งแต่เด็กจนโต ไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่หักเห ผมหักเหจากตรงนี้กระโดดไปนี้ หักเหมาตลอดในชีวิต มันเป็นจังหวะของชีวิต ไม่ค่อยอยู่นิ่ง สวนสยามมีจุดเริ่มต้นอย่างไร จุดเริ่มต้นของการทำสวนสนุก คือ ตอนเด็กๆ เราเคยเล่นแต่ไม้กระดก ม้าก้านกล้วย ทอยเบี้ย เมื่อโตขึ้นจึงตั้งใจไว้ว่าจะพัฒนาอะไรบางอย่างให้เด็กสามารถสนุกและคลายความตึงเครียดได้ หลังจากที่เติบใหญ่มาแล้วก็มีโอกาส เพราะตอนเด็กๆ มันจน พอมีโอกาสทำบ้านจัดสรรแล้วมีเงินเหลือและช่วงนั้นมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศหลายครั้ง ทั้งในอเมริกาและยุโรป ทีี่ีแรกคิดการใหญ่ถึงดิสนีย์แลนด์ เพราะช่วงนั้นมีเงินเยอะแล้ว จากการจัดสรรที่ดิน เงินเรามาจากประชาชน แล้วเราก็เคยจนมาก่อน เลยอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อประชาชน ก็คิดไปคิดมา อยากทำสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ทันสมัย พอดีได้ที่ดิน 1,000 กว่าไร่ที่บึงกุ่ม ก็แบ่งส่วนหนึ่งมาจัดสรร อีก 500 ไร่มาทำสวนสนุกซะ ทีแรกไม่คิดว่าจะหารายได้ จะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน แล้วทำไมถึงเปลี่ยนความคิด เพราะต่อมามีการศึกษาในเรื่องของความเป็นไปได้ในการสร้างสวนสนุกและทำอย่างไรถึงจะให้มีสวนสนุกในเมืองไทยได้ ปรากฏว่าได้มีการวิเคราะห์และหาความรู้ลึกลงไป เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ดิสนีย์แลนด์ใช้เงินลงทุนมหาศาล เงินลงทุนมหาศาลเหล่านั้นหากไม่ทำให้เกิดรายได้ก็ไม่สามารถอยู่ได้ เมื่อเราตั้งใจทำและประกาศไปแล้วว่าเราจะทำดิสนีย์แลนด์ในเมืองไทย เลยล้มความคิดเก่า เนื่องจากว่าต้องใช้เงินร่วมหมื่นล้านบาทในสมัยนั้น (ประมาณปีพ.ศ. 2523) การบริหารจัดการก็ค่อนข้างซับซ้อนและการลงทุนต้องใช้เทคโนโลยีอย่างสูง คิดว่าไม่เอาดีกว่า ไม่เอาแล้วต้องทำอย่างไรล่ะ จะเลิกก็เลิกไม่ได้ เลยต้องศึกษาความเป็นไปได้ให้เหมาะสำหรับประเทศไทย กลับมาดูที่ญี่ปุ่น เขามีสวนน้ำ เขาเอาทะเลขึ้นมาไว้บนบก แล้วก็พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักผ่อนหย่อนใจ พอกลับมาเมืองไทยก็ศึกษา เมืองไทยเรายังมีคลองอยู่ มีทะเลใกล้ๆ เยอะ ไปเที่ยวได้ทั้งนั้น ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น เพราะที่ญี่ปุ่นทะเลคลื่นใหญ่ มาคิดอีกทีว่าคลองหรือแม่น้ำบ้านเรามีโอกาสที่มีมลภาวะมากขึ้นและคนกรุงเทพฯ จะไปเล่นน้ำที่ต่างจังหวัดอาจจะไกล ประกอบกับสระว่ายน้ำกำลังเป็นที่นิยม เลยมาสร้างทะเลกรุงเทพฯ ขึ้น สวนสนุกก็เกิดจากการสร้างทะเล เครื่องเล่นของสวนสยามเข้ามาเมื่อไร พอสร้างทะเลแล้วก็ยังขาดเครื่องเล่น เราก็เริ่มหาเครื่องเล่นเข้ามา แต่เนื่องจากว่าช่วงนั้นพื้นที่ 500 ไร่ กว่าจะพัฒนา ปรับปรุงและกว่าจะลงทุนเรื่องสวนสนุก มันหมดไปแล้วหลายร้อยล้านบาท เมื่อเราสร้างสวนสนุกไปแล้ว การพัฒนาเงินและรายได้ก็ไม่พอ เลยหยุดพัฒนามาเรื่อย จนในที่สุดเป็นหนี้แบงค์ถึงสามพันล้านบาท ต้องหยุดพัฒนามาร่วม 20 ปี การสร้างสวนสนุกเรามีโอกาสทรมานจิตใจของครอบครัวอย่างหนัก เพราะเป็นหนี้แบงค์อยู่ร่วมสามพันล้านบาท แต่เราไม่มีโอกาสที่จะชำระคืนได้ โอกาสล้มละลายอยู่แค่เอื้อม ผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราทนอยู่มาได้แบบทนล้มละลายอยู่ 26 ปีเต็ม ปีที่ 22-23 เกิดเหตุการณ์ช่วยประเทศชาติ ครั้งนั้นมีคนล้มมากกว่าเราเป็นหมื่นๆ ล้าน เราสามพันล้านเลยกลายเป็นจิ๊บจ๊อยสำหรับประเทศไทยไป เราเคยเป็นหนี้ธนาคารอันดับ 1 แต่พอ 23 ปีให้หลังเรากลายเป็นผู้ที่เป็นหนี้แบงค์น้อยที่สุด ต่อมารัฐบาลและแบงค์มีประกาศให้มีการช่วยเหลือหนี้ที่มีปัญหา เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้เป็นเหมือนเดิม เราเลยเคลียร์ปัญหากับหนี้เสียได้และปรับโครงสร้างหนี้ได้ แล้วชำระหนี้แบงค์ไปได้จนหมด ทำให้เป็นอิสระ แล้วโอกาสที่เราทำธุรกิจอย่างนี้เรารู้สึกว่าเลิกไม่ได้ เราต้องพัฒนา มนุษย์เราเวลาเครียดจะคลายเครียดอย่างไรไม่มีตำราบอก คุณเครียดแล้วคุณคิดว่าคุณไม่เครียด คือคลายเครียดแล้ว มันไม่มีอะไรที่คลายเครียดได้ แต่ถ้าเราไปจมปลักหรือจะเป็นจะตาย คุณต้องเอาชนะตรงนี้ให้ได้ มันก็คิดอยู่ทั้งปีและอาจเครียดจนแก้ปัญหาไม่ตก ผมเองเป็นหนี้มา 26 ปี จะล้มละลายอยู่ทุกปี ใครก็บอกว่าคุณอยู่ไม่ได้ล้มละลายแน่นอน ถ้าถามผมว่าเครียดไหม ผมเครียดก็เครียด แต่ผมคิดอย่างไม่เครียด ล้มละลายพรุ่งนี้เราก็หิ้วกระเป๋ากลับบ้าน เกิดมาเรามีอะไรมามีแต่ตัวมา เมื่อล้มละลายก็กลับไปเหมือนเดิม เราเคยกินสเต็ก วันนี้กินข้าวเปล่ากับเกลือก็ได้ เครียดเดี๋ยวเดียว อย่างปีหน้าเราล้มละลายแน่แล้ว โอ๊ย ปีหน้าอีกตั้งนาน 365 วัน เป็นห่วงทำไมปีหน้า แล้วจุดต่ำสุดกับสูงสุดในชีวิตอยู่จุดไหน ช่วงเดียวกันเลย บางครั้งวันนี้ต่ำสุดเหลือเกิน เป็นหนี้แบงค์ตั้งสามพันล้าน เดี๋ยวพรุ่งนี้แบงค์ บอกไม่เอาแล้วยกหนี้ให้เลย กลายเป็นเศรษฐีสามพันล้านแล้ว ชีวิตต่ำสุดสูงสุดอยู่คู่กันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ชีวิตผมปล่อยให้อยู่ที่จังหวะและโอกาส เราตั้งเข็มอะไรไม่ได้หรอก เพราะเราไม่มีความรู้ที่จะตั้งเข็มหรือคอนโทรลชีวิตเรา เราก็ใช้จังหวะเวลาและโอกาสหันเหชีวิตเรา ในการทำงานมีคติอะไร คติในการทำงานนะง่าย ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน แล้วก็อย่าไปคิดเพ้อฝันโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ จากการบริหารสวนสยามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์ไหนที่ประทับใจมากที่สุด ประทับใจมากที่สุด คือ คนมาเที่ยวแล้วมีความสุขกลับไป แต่ที่ทุกข์ที่สุด คือ คนมาเที่ยวแล้วบางทีไม่เข้าใจ หรือว่าเด็กเราไม่เข้าใจเขา มีบ้างที่คนมาเที่ยวแล้วคนที่ให้บริการหงุดหงิดใส่ เพราะพนักงานเรายังไม่เป็นสากล ถ้าถามว่าใครผิด เราคนบริหารจัดการผิด เราไม่เคยสอนเขาว่าบริการอย่างไร ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแปลง ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้วรู้สึกมันดีขึ้นในสวนสยามนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การปลูกต้นไม้ การเปลี่ยนแปลงเริ่มดีขึ้น แต่ก่อนคุณจะมาหาใครสักคน เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันทั้งหมด เพราะเขาว่าคุณมากวน แต่สมัยนี้มันไม่ได้แล้ว ใครมาต้องรู้เรื่องว่ามาทำไม สมัยก่อนกับสมัยนี้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การบริหารจัดการ แต่ก่อนจะเป็นการบริหารแบบครอบครัว ไม่พอใจก็ด่า พอใจก็ให้รางวัลแต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว เพราะว่าโลกมันเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารแบบครอบครัวมาเป็นสากลแบบมีความรู้และการให้บริการแบบที่มีหลักวิชาการมาช่วยจัดการมันหนักและลำบากมาก เพราะว่าเราปกครองแบบเก่ามา 26 ปีและบุคลากรเก่าๆ ก็โดนใช้มาแบบไม่มีระบบระเบียบ ต้องใช้วิทยากรมาอบรม วิธีการจัดการสมัยนี้กับสมัยเก่ามันผิดกัน ถ้าเป็นสมัยใหม่ก็ง่ายขึ้น แต่ต้องมีการอบรม ต้องใช้อาจารย์เข้ามาติวมากพอสมควร เริ่มติวที่หัวหน้าก่อน ติวเสร็จหัวหน้าก็มาติวต่อ มันก็จะเป็นระบบ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ใช้มา 2 ปีแล้ว ปีนี้เข้ารูปเข้ารอยหน่อย ปีหน้าคงจะเรียบร้อยหมด ใครไม่ดีก็จะโดนรีไทร์ออก วางอนาคตให้สวนสยามอย่างไร ตอนนี้ได้เครื่องเล่นใหม่ๆ มา 6 ตัว เป็นเครื่องเล่นที่ทันสมัย มีรถไฟเหาะห้อยขาตีเกลียว เป็นตัวที่ใหญ่ที่สุด วิ่งแล้วก็เหาะไปแล้วตีเกลียวกลับมา ตัวนี้วัยรุ่นมาเห็นต้องกรี๊ดกร๊าดขึ้นไป ถามว่ากลัวกันไหมก็คงกลัวกันทั้งนั้น แต่ขึ้นไปแล้วเนี่ยจะทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดสูบฉีดร่างกายดี ทำให้สมองปลอดโปร่ง ตัวที่สอง เรียกว่า บูมเมอแรง เป็นรถไฟเหาะ นั่งตีลังกากลับไปแล้วก็ตีลังกากลับมา ตัวที่สาม ไจแอนท์ ชอป หรือ ตกตึก สูงประมาณ 60 เมตร เมื่อดึงขึ้นไปแล้วก็ปล่อยลงมา ทิ้งดิ่งลงมา ไม่อันตรายเพราะมีแม่เหล็กคอยเบรกอยู่ เป็นตัวที่สร้างความตึงเครียดของคนได้ ตัวที่สี่ เรียก คอนดอร์ เป็นตัวที่ใส่ตะกร้าแล้วหมุนขึ้นไป อีกตัวหนึ่งเรียกว่า พรมเหาะ พอนั่งไปแล้วจะหมุนเหาะขึ้นไปถึงข้างบน เหมือนคนนั่งแล้วเหาะได้ ตัวสุดท้ายสำหรับครอบครัว เป็นหอประมาณ 100 เมตร เพื่อขึ้นไปดูสถานที่ บางคนถามว่าแถวนี้ขึ้นไปดูอะไร เราก็บอกว่าไปดูตรงไหนก็ได้ ดูมีนบุรี ดูกอล์ฟนวธานี ดูวิวในสวนสยามได้ทั้งหมด 6 ตัวนี้การลงทุนหลายพันล้านบาท ถ้าบวกสถานที่ไปด้วยที่ต้องลงทุนก็ประมาณ 2-3 พันล้านบาท เครื่องเล่น 6 ตัวนี้จะเสร็จเมื่อไร คิดว่าเสร็จในปลายปีหน้า ปี 2550 ก่อนหน้านี้เราได้สร้างอีก 2-3 อย่างที่สำหรับครอบครัว คือ ไดโนเสาร์จำลองแบบจูราสสิคพาร์ค จะให้นั่งรถจิ๊ปเข้าไปชมไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวได้ เราลงทุนร่วม 100 กว่าล้าน แล้วก็มีท่องแดนซาฟารีสำหรับเด็ก มีสัตว์ที่เราสร้างขึ้นมาเหมือนสัตว์จริง ตัวที่สาม เป็นรถไฟด่วนจิ๋ว ซึ่งเป็นคิงคอง เด็กจะได้เห็นคิงคอง ที่เราสร้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อต้องการให้เด็กได้เรียนรู้ถึงสัตว์ป่า อนุรักษ์สัตว์ป่าและอาจเป็นสัตว์ที่เด็กชอบในหนังหรือสารคดี แต่อย่างไรก็ตามสวนน้ำและทะเลกรุงเทพฯ เรายังเป็นเอก ตอนที่เปิดสวนน้ำช่วงแรกๆ มีปัญหาอะไรไหม ตอนที่เราสร้างแรกๆ คนไทยลงไม่ได้ เพราะไม่มีชุดว่ายน้ำ ไม่กล้าลง อายไม่เหมือนฝรั่ง เขาสามารถใส่วันพีช ทูพีชลงกันได้ แต่คนไทยเราจะนุ่งโสร่งลงอย่างเดียว ก็มีปัญหาหนักที่คนไม่มาเที่ยว ต่อมาเราให้ใส่อย่างเหมาะสม ชุดว่ายน้ำที่มีการตัดเย็บแบบไทยๆ สามารถลงสระว่ายน้ำได้ ก็ปรากฏว่า มีคนมาเล่นเยอะและเราสามารถสอนนักเรียน ให้ว่ายน้ำเป็น ปีหนึ่งๆ มีเด็กที่มาว่ายน้ำเป็นหลายหมื่นคน ทำให้เป็นที่ฮือฮา ในเรื่องทะเลกรุงเทพฯ ของสวนสยาม เครื่องเล่นในสวนสยามมาจากที่ไหน เครื่องเล่นมาจากเนเธอร์แลนด์ส่วนหนึ่ง จากเยอรมันส่วนหนึ่ง จากเนเธอร์แลนด์ก็มาจากบริษัททำเครื่องเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านความปลอดภัยของเครื่องเล่น ความปลอดภัยมันเป็นหลักสากล เครื่องเล่นทุกชนิดกว่าจะดีไซน์ออกมาที่แพงนี่ เพราะเขามีการจัดการที่ดีและมีคู่มือบอกว่า มีการบำรุงรักษาอย่างไร วิธีการป้องกัน เครื่องเล่นต้องเซฟตี้มาเป็นร้อยเป็นหมื่นเปอร์เซนต์ หากเสียหายนิดเดียว บริษัทเขาก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนคิดเครื่องเล่นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ ต้องคิดเรื่องปลอดภัยก่อน ความปลอดภัยสมัยนี้เทคโนโลยีช่วยให้มีความปลอดภัยได้สูง แล้วยังใช้เรื่องจัดการเข้ามาช่วยด้วย เรื่องพวกนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เคยเล่นเครื่องเล่นในสวนสยามบ้างไหม เครื่องเล่นทุกตัวที่มี ในฐานะเจ้าของต้องลองเล่นก่อน แต่เมื่อมาติดตั้งแล้ว เราลองแล้วรู้แล้ว เราคงไม่มาเล่นบ่อย เพราะการบริหารจัดการเราจะมานั่งเล่นให้ลูกน้องดูไม่ได้หรอก เราเล่นลูกน้องเล่นบ้าง คนอื่นไม่ต้องเล่น ถ้าเราเล่นแล้วรู้สึกว่าปลอดภัยดีแล้ว ทุกคนลองครั้งแรกรู้แล้ว ก็ไม่ต้องเล่นให้บ่อยๆ ทุกตัวเราก็ต้องลองมาแล้วทั้งนั้น เราจะซื้อตัวไหนต้องรู้ถึงความเป็นมาของมันและต้องเล่นด้วย คิดว่าสวนสยามเทียบเท่ากับต่างประเทศได้ไหม ถ้าถามว่าเทียบต่างประเทศ ต้องว่าประเทศไหน ถ้าประเทศทางอาเซียนเรากินหมด ถ้า 6 ตัวที่กำลังจะเสร็จนี้เสร็จนะ ไม่ว่าจะเป็นลาว เขมร พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ เราชนะ แต่มาเลเซีย อินโดนีเซียเราไม่แน่ใจแต่คงสู้ได้ เพราะสวนน้ำไม่มีใครใหญ่เท่าเรา ที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย ใหญ่กว่าญี่ปุ่นและอเมริกาด้วย ถึงเราเอาเครื่องเล่น 6 ตัวนี้มายังสู้เขาไม่ได้ แต่ก็ไม่น้อยหน้าล่ะ จากนี้ไปง่ายแล้ว การพัฒนาจากตรงนี้ไปมันพ้นขีดอันตรายใน 26 ปีที่แล้วมาแล้ว มีการวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง หากหนี้สินสำเร็จผมก็คงตายพอดี ปีนี้ 60 กว่าแล้ว เราคงไม่มีปัญญาไปดูแลมากกว่านี้ ตอนนี้ก็ให้ครอบครัว ลูกทั้ง 3 คนเป็นผู้จัดการบริหารจัดการ คนแรกเรียนจบเอแบค (ABAC) ตอนนี้ให้ไปเรียนโทที่จุฬาฯ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้วให้ขึ้นเป็นประธานแทน คนที่สองส่งไปเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ จบโทการเงินจากจุฬาฯ และโทการตลาดจากธรรมศาสตร์ มาเป็นผู้จัดการใหญ่ ส่วนลูกสาวคนเล็ก จบจากอังกฤษ กำลังเรียนโทด้านการเงิน เพื่อจะได้ดูแลการเงินของที่นี่ ก็มอบให้พวกเขาไป แต่ว่าเขาจะทำหรือสานต่อหรือจะขายหรือจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ จะทำอะไรก็เป็นหน้าที่ของเขาแล้ว หลังจากเครื่องเล่น 6 ตัวนี้มา คิดว่าจะลาแล้ว ที่นี้จะสานต่อหรือไม่สานต่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เวลานี้พอใจกับชีวิตหรือยัง ผมพอใจมาตั้งแต่เกิดแล้วครับ เกิดมาผมก็พอใจกับชีวิตผมแล้ว ถ้าผมตายเมื่อไหร่ก็พอใจ http://utcc2.utcc.ac.th/faculties/comarts/webjrshow/Toy/suansiam.htm
โดย
slalom
พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 2:32 pm
0
2
เนื่องจากมีเพื่อนในบอร์ด ส่งข้อความมาหาผมขอ EXCEL DCF
รบกวนขอด้วยครับ ขอบคุณครับ
[email protected]
โดย
slalom
จันทร์ ก.ย. 13, 2010 11:40 am
0
0
แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี)
รบกวนขอด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
[email protected]
โดย
slalom
อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 7:15 pm
0
0
น้องใหม่ขอถามความคิดเห็นกับแนวทางการเล่นหุ้นครับ
เลือกเอาทางใดทางหนึ่งดีกว่าครับ แต่สำหรับผมแนะนำว่าแนวVIครับ ข้อดีของ VI คือ กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องลุ้นราคาเฝ้าจอทุกนาที ข้อสำคัญที่สุด สุขภาพจิตดีครับ
โดย
slalom
ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 7:21 pm
0
0
หุ้นที่ถือใว้ครับ
แนะนำว่าเจียดเงินไปซื้อหนังสือมาอ่านก่อนดีกว่าครับ ทุกเล่มของ ดร.นิเวศน์ ทุกเล่มของ บัฟเฟต ทุกเล่มของ นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ฯลฯ ในห้องร้อยคนร้อยเล่ม เสียเงินซื้อหนังสือน่าจะเป็นจำนวนเงินไม่มาก ถ้าเทียบกับค่าซื้อประสบการณ์จากตลาดหุ้น ผมเองกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็หลายปีครับ อาศัยว่าอ่านหนังสือดร.มากๆ หลักการมันค่อยๆ ซึมเข้าหัวครับ ไม่อยากเห็นคนบาดเจ็บจากตลาดหุ้นครับ วิถีการลงทุนไม่มีทางลัดครับ
โดย
slalom
ศุกร์ ส.ค. 20, 2010 6:58 pm
0
0
55 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
slalom
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พุธ มี.ค. 24, 2010 1:18 pm
ใช้งานล่าสุด:
-
โพสต์ทั้งหมด:
111 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.02 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว