หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
Sorgios
CHIN UP, Do not give up !!!
Joined: พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 11:46 am
368
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - Sorgios
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: คำถามเกี่ยวกับจังหวะตอนสมัครเวลา 8:59
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เต็มเสียแล้ว... รอใหม่รอบหน้าครับ :D
โดย
Sorgios
พุธ ธ.ค. 12, 2012 5:45 pm
0
0
Re: จุดเริ่มต้นของพอรต์ร้อยล้าน เกิดขึ้นได้อย่างไร
Good Topic, Good reply, Thank you to everyone krub
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ย. 27, 2012 11:25 am
0
6
Re: ขอบคุณผู้จัดงานmeeting q3-2555
This is my first ThaiVI meeting. Great atmosphere and Knowledge received. Thank you for everyone that make this good meeting happened. Will join next time meeting for sure. Sorgios.
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 26, 2012 12:34 pm
0
1
Re: Presentation งานสังสรรค์ 3Q12 ที่เสวยริมน้ำ
Very good presentation. Smoothly explanation, easy to understand. Happy to have chance to join this meeting krub. Also have to say Thank you very much for พี่คนขายของ krub. Sorgios
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 26, 2012 11:33 am
0
0
Re: ประกาศรายชื่องานสังสรรค์ VI Q3/55 "จากดักแด้เป็นผีเสื้อ"
Payment made krub, Amount = THB 1300.47 Thank you very much krub, Sorgios
โดย
Sorgios
อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 2:55 pm
0
0
Re: เปิดจอง งานสังสรรค์ VI Q3/55 "จากดักแด้เป็นผีเสื้อ"
Please reserve for me 1 seat krub. Thank you krub.
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ย. 13, 2012 1:36 pm
0
0
Re: รายการทีวี VI สายดำ เทป 5 Super Stock กับดร.นิเวศน์ !!!
Thank you very much for valuable content and link krub
โดย
Sorgios
พฤหัสฯ. ต.ค. 25, 2012 1:32 pm
0
0
Re: ทำไมเมื่อก่อนห้างเจ๊งครับ?
In my area. Same location, 3 or more department stores 've gone. As I remember; Big bell and December. May be because of the location.
โดย
Sorgios
ศุกร์ มิ.ย. 22, 2012 9:12 pm
0
0
Re: Letter to Value Friends
Thank you very much krub
โดย
Sorgios
ศุกร์ มิ.ย. 22, 2012 2:50 pm
0
0
Re: สรุปหลักการลงทุนที่ได้รับvi on cruise 2 มิย 2012 ยกยอมาร
Thanks a lot krub khun Champ
โดย
Sorgios
อังคาร มิ.ย. 05, 2012 4:10 pm
0
0
Re: ผมคิดว่าค่า PEG มีเกินสามสิบสอง
แต่ก่อนดู PE เป็นหลัก พอเอา growth มาช่วยตัดสินใจด้วย ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นครับ ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
พุธ พ.ค. 30, 2012 2:59 pm
0
0
Re: กลยุทธ์ยามหุ้นแพง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ค. 21, 2012 8:49 am
0
0
Re: หุ้นในดวงใจที่ VI อยากเป็นเจ้าของมากที่สุด
มีเงื่อนไขไหมครับ เช่น ตลาดไหน? ราคาปัจจุบัน?
โดย
Sorgios
พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2012 10:09 am
0
1
Re: cpall vs cawow
อืมมมม.....
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ค. 08, 2012 10:02 am
0
0
Re: วีธีทำให้ชีวิตตกอับ --สุนทรพจน์ชาลี มังเกอร์ HARVARD SCH
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ค. 08, 2012 9:59 am
0
0
Re: สิ่งที่ควรจะทำ(สำหรับนักลงทุนแนวพื้นฐาน) by hongvalue
ขอบคุณมากครับ
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ค. 08, 2012 9:49 am
0
0
Re: RIP : Walter Schloss ซุปเปอร์เต่าตัวใหญ่ Super Investor
ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ค. 01, 2012 11:26 am
0
0
Re: เปิดความลับพอร์ต"ดร.นิเวศน์" "ไตรมาสแรก" กำไรทะลุเป้า!!
ขอบคุณอาจารย์สำหรับแนวทางการลงทุนแนวคุณค่าครับ ชื่นชมแนวทางที่มั่นคงของอาจารย์มากครับ
โดย
Sorgios
อังคาร พ.ค. 01, 2012 9:45 am
0
0
Re: "Try Arm" Underwear
ขอชื่นชมครับ น่าจะเข้า Mai ระดมทุนนะครับ ถ้าสินค้ามีกลุ่มลูกค้าชัดเจน มีตลาดชัดเจน ฝีมือคนไทยไม่น่าแพ้ใคร
โดย
Sorgios
อาทิตย์ เม.ย. 29, 2012 8:25 pm
0
0
Re: ถ้าวันหนึ่งฟองสบู่ของโลกแตก VI จะลงทุนแบบใด
ฟองสบู่ ดอกทิวลิป ฟองสบู่ เซ๊าท์ซี ฟองสบู่ อสังหา ฟองสบู่ ดอตคอม อะไรๆ ที่มีราคาสูงเกินจริง คนแห่ตามด้วยความละโมบมากๆ มันก็กลายไปฟองสบู่ทั้งนั้น เหอะๆ ขอฝากบทความจาก คุณ IH ผมไปเอามาจาก ห้องบทความ อ่านแล้วชอบมาก จะได้ไม่หลงไปกับความโลภ บริษัทหลายๆ แห่ง เสื่อมมนต์ลงไปถาวร แต่ก็มีหลายๆ บริษัท แข็งแกร่งขึ้นอย่างยอดเยี่ยม ใช่มั้ยครับ ดังนั้นทำใจเย็นๆ นะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=32559 เล่าอดีตสมัยดัชนี 1 พันกว่าจุด ลองนึกๆ เท่าที่จำได้นะครับ ใช้ตัวเลขดัชนีประมาณ 800-1300 จุดช่วงก่อน crisis นะครับเพราะช่วง 1500-1700 จำได้ว่าหุ้นวิ่งแบบไม่มีใครสนใจ p/e กันอยู่แล้ว หุ้นสื่อสาร เป็นหุ้นที่ทุกคนยอมรับว่า p/e ต้องสูงมากเพราะ growth สูง ถ้าเป็น shin advanc ก็ p/e 30-40 เท่า แต่คนที่ลงทุนใน shin advanc ตอนนั้นถึงปัจจุบันก็ยังพอกำไรเพราะธุรกิจมือถือเติบโตได้จริง ส่วนสื่อสารตัวอื่นๆ TT&T ตอนเข้าตลาดก็ประมาณ 150 บาท ( ปัจจุบันยังพาร์เดิมอยู่คือ 10 บาท ) ส่วน TA ก็ 100 กว่าบาทเหมือนกัน เมื่อไม่นานนี้ช่วง dot com boom คือปี 2543 TA หรือ TRUE ปัจจุบันก็เคยขึ้นจาก 10 กว่าบาทเป็น 70 กว่าบาท ปัจจุบันเหลือ 5 บาทกว่า ลงเหมือนแตกพาร์ ส่วน Samart ราคา IPO 80 บาท ราคานอกตลาด 200 กว่า เทรดวันแรกประมาณ 450 ( พาร์ 10 ) ตอนนี้แตกพาร์เหลือ 1 ราคาหุ้นตอนนี้ก็ 8 บาท คนถือตอนนั้นก็ไม่เสียหายเท่าไหร่ ราคาหุ้นกลับมาที่ IPO พอดี ส่วน JAS หรือ Jasmin Inter ราคา trade วันแรก 450 บาท ตอนเข้าตลาดมีโฆษณา TV เป็นฉากการประชุม มีผู้บริหาร ( ซึ่งเข้าใจว่าเป็นนักแสดง ) ประชุมแบบถกกันหน้าตาเคร่งเครียดแล้วประธานก็ทุบโต๊ะแล้วพูดว่า " Project นี้พลาดไม่ได้ เพราะผมหมายถึงชื่อเสียงของประเทศ " แล้วจบท้ายว่า Jasmin สยายปีกเทคโนโลยีสื่อสารไทย ฟังแล้วรู้สึกว่าอีกไปกี่ปีจากนี้ประเทศไทยต้องยิ่งใหญ่ในระดับโลกแน่ๆ เลยครับ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อนเค้าว่ากันว่าในปี 2020 แม้บอลไทยจะชนะฝรั่งเศสไม่ได้ก็ตาม แต่ GDP ของเราจะโตแซงฝรั่งเศส ตอนนี้ราคาหุ้น Jas ก็อยู่ 1 บาทกว่า ผมเลยไม่แน่ใจว่า project ที่หมายถึงตอนนั้นประมูลได้หรือเปล่านะครับ หรือเพราะประมูลได้ตอนนี้จึงเป็นเช่น ณ ปัจจุบันนี้ ส่วนหุ้นอสังหาฯ ตอนนั้นจำได้ว่า ในสายตานักลงทุนบ้านเรานั้น b-land หรือ tyong หรือที่เรียกกันว่า ตี๋ย้ง นั้นดูจะดังกว่า LH เสียอีกครับ p/e กลุ่มก็ประมาณ 20-50 เท่าเหมือนกัน story ของ tyong ก็คือรถไฟฟ้า BTS ครับ ถ้าช่วง 2-3 ปีนี้หุ้น EVER ดัง เมื่อก่อนหุ้น RR ก็ดังประมาณนี้เหมือนกันครับ โดย RR เค้าจะขึ้นลงตามหุ้นอีกตัวหนึ่งคือ FCI เพราะผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน จึงเรียกหุ้นคู่นี้กันว่า คู่แฝดอภินิหาร แต่ปัจจุบัน คู่แฝดที่ว่านี้ไม่อยู่แล้ว เข้าใจว่าตัวหนึ่งหายไปก่อน อีกตัวเลยตรอมใจตามไปครับ หุ้นหลายๆ ตัวตอน IPO นั้นเฟื่องขนาดมีงบโฆษณาเข้าตลาด แม้กระทั่งหุ้นอสังหาฯ อย่าง CNTRY หรือ บริษัทคันทรีประเทศไทยก็โฆษณาเป็นเพลงเพราะเชียวคือ ใช้เพลง Sailing เป็นภาพเรือใบล่องโต้คลื่นในทะเล ผมจำได้ว่าหุ้นหลุดจองตั้งแต่วันแรก เลยเพิ่งตีความภายหลังว่าในเพลงที่ร้องว่า I m sailing นั้นมันคือ Im selling. เสียมากกว่า หุ้น CNTRY นั้นหายไปปรับโครงสร้างหนี้อยู่นานก่อนกลับมาในชื่อใหม่ว่า EVER หมายถึง เคย อยู่ในตลาดหุ้นมาก่อนนั่นเอง อสังหาฯ ตอนนั้นนโยบายบัญชีคือ รับรู้รายได้เมื่อจอง คือลูกค้าเอาเงินมาจอง 5 หมื่นบาท ยังไม่ทันสร้างอะไรก็เริ่มรับรู้รายได้กันแล้ว ตอนนั้นหลายๆ บริษัทเปิดจองโครงการใหม่ๆ พอเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าทิ้งเงินจองเงินดาวน์ แต่รับรู้รายได้ไปแล้วเสียเยอะเลย เราจึงเห็นหุ้นอสังหาฯ บางตัวตอนปี 39-40 มีรายได้เป็นเครื่องหมายลบ ดังนั้นที่มาตรฐานทางบัญชีใหม่บอกว่าวิธีรับรู้ตาม % ของงานนั้นไม่ conservative ให้เปลี่ยนเป็นรับรู้เมื่อโอนทั้งหมด ถ้าย้อนไปดูสมัยก่อนแล้วจะตกใจยิ่งกว่าครับ สมัยนั้นอสังหาฯ บูมขนาดที่เจ้าของโครงการเอาเงินไปมัดจำที่ดินจะสร้างตึกแถว สถาปนิกเพิ่งเขียนแบบร่างเสร็จ ก็ขายหมดแล้วครับ พอขายหมดก็อาจจะโดนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต่อว่าว่ามีของดีแบบนี้ทำไมไม่บอก LPN หรือ PS ที่ว่าขายดีเทน้ำเทท่า เปิดวันแรกจอง 100% ผมว่าจำนวน unit ตอนนั้นต้องสู้โครงการแฟล็ตปลาทองกระรัตไม่ได้ครับ ตอนนั้นเป็นโฆษณาเพลง โดยใช้นักแสดงตลกชื่อดังๆ มาร้องเพลงโฆษณา ดาวน์ก็น้อยผ่อนนิดโอนสิทธิ์โฉนดเอาไปเลยง่ายดาย ย้า ยา ยา หย่า ยา จะไปจะไปใกล้หมด สะดวกมีรถเมล์ผ่าน มีสระว่ายน้ำและมีสวนหย่อมปลาทองมีพร้อมทุกสิ่ง เพลงนี้เด็กอนุบาลยังจำไปร้องกันได้เลยครับ ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟล็ตปลาทองที่ว่านั้นอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยเลยครับ แต่ได้ยินว่าสร้างเสร็จจนได้ครับ ถ้าจะไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้คือ หุ้นไฟแนนซ์ เป็นสุดยอดหุ้น blue chip สมัยนั้นไม่ว่าจะเป็น FIN1 DS CMIC NFS p/e ก็ 30-50 เท่าตลอด และคงไม่มีใครที่เล่นหุ้นช่วงนั้นจะไม่เคยมีหุ้น finance เหล่านี้อยู่ในพอร์ต อย่างน้อยต้องมีไม่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ดังนั้นใครที่ท่องหลักการว่า ไม่ขาย ไม่ขาดทุน ขอให้ดูประวัติศาสตร์ดีๆ ด้วยครับ สมัยนั้นหุ้น Fin1 นั้นกลุ่มเค้ามีหลายตัว ถ้าเป็นหลักทรัพย์ก็มี Fin1 S-one FAS ซึ่งถือหุ้นโดย ONE ซึ่งอยู่กลุ่มสิ่งทอ ทำเหมือนเป็น holding company หุ้นกลุ่มนี้ติด top active อยู่เป็นประจำต่อเนื่อง ถ้าไม่ล้มไปก่อนไม่ทราบจะเหมือน Berkshire รึเปล่านะครับ ช่วงซักปี 37-38 ก็เล่นข่าวกันว่า Fin1 จะ takeover ธ. ไทยทนุ แล้วยกระดับเป็นธนาคาร แต่ตอนปี 39 เริ่มมีปัญหา ก็มีข่าวว่า ธ. ไทยทนุ จะไปช่วยเหลือ Fin1 กลับตาลปัตรภายในเวลาอันรวดเร็ว หุ้นธนาคาร ช่วงนั้นเหมือนโดนรัศมีหุ้น finance กลบไปเยอะครับ หุ้นธนาคารที่เหมือนจะ hot สุดคงจะหนีไม่พ้น BBC หรือ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการครับ ถ้าตอนนี้หุ้นแขกเป็นที่นิยม ตอนนั้นเค้าก็เล่นหุ้นแขกกันเหมือนกันครับ แต่แขกที่ว่านั้นคือ ราเกซ สักเสนา ครับ แต่ใครถือหุ้นแขกก็อย่าตกใจครับมันคงจะต่างกันครับ หุ้นธนาคารเล็กๆ หลายแห่งเช่น BMB LTB นครธน สหธนาคาร ไทยทนุ IFCT ปัจจุบันถูกลดทุนเหลือ 1 สต. ไปรวมกับอะไรต่ออะไรไปเสียหมดแล้วครับ จริงๆ แล้วสัญลักษณ์ของ ธ. กรุงเทพพาณิชยการนั้นคือ สตางค์แดง เค้าเลยเรียกว่าแบงค์สตางค์แดง เหมือนคนคิดสัญญลักษณ์นั้นมี six sense ว่าท้ายสุดแล้วมันจะเหลือ 1 สตางค์จริงๆ ครับ เรื่องเพิ่มทุนของหุ้นในตลาดทำกันเป็นว่าเล่น ตอนนั้นไม่ต้องเพิ่มทุนบวกวอร์แรนท์ให้เมื่อย แค่ประกาศเพิ่มทุนหุ้นก็วิ่งทั้งก่อนและหลังประกาศแล้ว XR เสร็จหุ้นก็วิ่งต่อ ยิ่งอัตราเพิ่มทุน สวย เท่าไหร่หุ้นยิ่งวิ่งแรง คำว่า สวย สมัยนั้นกับสมัยนี้ไม่เหมือนกันแน่นอนครับ สวยสมัยนั้นต้องประมาณ 1: 2 หรือ 1: 3 ผมไม่ได้เขียนสลับนะครับ 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ถ้าขืนเพิ่มแบบเขียมๆ แบบปัจจุบันประเภท 2: 1 หรือ 3: 1 หุ้นไม่วิ่งหรอกครับ ยุคสมัยเปลี่ยนไป คำว่าสวยก็เปลี่ยนไปครับ ผมดูภาพวาด Impressionist ของยุโรปสมัยศตวรรษที่ 18 ผู้หญิงสวยๆ ของเค้าต้องอ้วนๆ หน่อยมีพุง สมัยนี้ต้องผอมบางถ้าไปอยู่ยุคอดีตเค้าคงคิดว่าเป็นโรค ดังนั้นเวลาเปลี่ยน อะไรๆ ก็เปลี่ยน ผู้หญิงคนไหนที่ตัวใหญ่หน่อยก็มองโลกในแง่ดีครับว่าเราเกิดช้าไปแค่ 200 ปีเอง ดังนั้นสมัยนี้ หุ้น p/e เกิน 10 บางตัวว่าค่อนข้างแพง p/e เกิน 20 คือ แพงมาก เกิน 30 แพงอย่างไร้เหตุผล ถ้าเป็นเมื่อปี 253x ผมเห็นหุ้น p/e เกิน 30 อยู่น่าจะเกินครึ่งหนึ่งของตลาดครับ ผมเริ่มแก่แล้วล่ะครับ โอวววว ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ บางตัวไม่เคยรู้ประวัติมาก่อนเลย
โดย
Sorgios
อาทิตย์ เม.ย. 29, 2012 8:19 pm
0
0
Re: ศึกชิงตา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะครับ ขอบคุณคุณ little wing ที่นำมาให้อ่านครับ
โดย
Sorgios
อาทิตย์ เม.ย. 29, 2012 8:11 pm
0
0
Re: Internet นั้นจำเป็นไหมสำหรับการลงทุน
ถ้าไม่มี internet คงไม่เจอขุมทองใน thaivi.org :D ---------------------- ความรู้ คู่คุณธรรม + 1
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 12:22 am
0
0
Re: อย่าเปลี่ยนแนวเพราะโลภ
ขอบคุณครับ ปล.กำลังหาแนวของตัวเองอยู่ แฮ่ื :twisted:
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 12:20 am
0
0
Re: 20 อันดับ แบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
Tuk Tuk
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 12:09 am
0
0
Re: เรตติ้งดิจิตอล เพื่อคนดาวเทียม (ระบบเรียลไทม์)
ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 24, 2012 11:26 am
0
0
Re: ก.ล.ต.กล่าวโทษ “ฉาย บุนนาค” พร้อมพวกยักยอก GEN
คุณ pak นี่ขยันจริงๆ ไม่ทราบว่าพอจะมีข้อมูลพอร์ทของ คุณฉาย บุนนาคไหมครับ :twisted:
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 24, 2012 11:23 am
0
2
Re: ในโลก ความเป็นจริง มีทั้ง panic sale และ panic buy
1.2. การจำกัดความรับผิดชอบของเงินฝาก (เงินฝากมหาศาลจะไหลออกจากการฝากเงินกับธนาคาร) เงินที่จะไหลออกน่าจะเป็นเงินฝากของมหาเศรษฐี นิติบุคคล หรือไม่ครับ แต่ถ้าใช่ บุคคลเหล่านี้น่าจะมีการเตรียมตัวไปแล้วรึเปล่าครับ โดยอาจโยกเงินมาลงในตลาดทุนไปแล้วหรือไม่ครับ ขอความรู้จากพี่ blueplanet และ พี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นด้วยครับ
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 24, 2012 11:19 am
0
0
Re: 'เซียนมี่'รวยเละ!'เสี่ยนิด'ให้โชค แค่ 3-4 เดือน..โกยกำไร
เข้ามาคารวะพี่มี่ ยินดีด้วยครับ
โดย
Sorgios
จันทร์ เม.ย. 23, 2012 2:33 pm
0
0
Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: Level of loss
เขียนได้น่ารักมากครับ ชอบ "พญาปลวก"
โดย
Sorgios
จันทร์ เม.ย. 23, 2012 10:08 am
0
0
Re: เข้า - ออก อย่างไร ในสภาวะตลาดอย่างนี้
ตามไปอ่าน blog คุณซุนเซ็กมา ทำให้รู้ว่า ต้องขยันมากๆๆถึงจะอยู่รอดได้ในสนามนี้ ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 12:11 am
0
0
Re: บางคนไม่กล้าซื้อหุ้น แต่กล้าถือเงินสด
Waiting For The Right Pitch... ตีมั่วๆอย่าตีดีกว่า เปลืองแรงเปล่า เสียหาย มากว่าอยู่เฉยๆแน่นอน... อีกอัน (จาก Intel. Investor) The punches you miss are the ones that war you out. อ.ปู่ยังพลาด... I made a mistake when I bought US Air Preferred some years ago. I had a lot of money around. I make mistakes when I get cash. Charlie tells me to go to a bar instead. Don‘t hang around the office. But I hang around the office and I have money in my pocket, I do something dumb. It happens every time. ถ้าห้าหุ้นซื้อไม่ได้ กลัวอยู่เฉยๆแล้วเงินลดมูลค่า ลองแบ่งเอาไปทำบุญซิครับ ได้คุณค่ากว่าเอาไปลงทุนมั่วๆแน่ ชอบครับ ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
เสาร์ เม.ย. 21, 2012 10:34 pm
0
0
Re: เข้า - ออก อย่างไร ในสภาวะตลาดอย่างนี้
ขอบคุณมากๆๆครับพี่ picatos ที่แนะนำ ตาสว่างขึ้นมากครับ ยอมรับว่ายังต้องไปอ่านอีกเยอะมากๆๆๆๆ รบกวนถามพี่ picatos เพิ่มเติมครับ ในกรณีที่ยังไม่สามารถหาหุ้นที่ undervalue และ มี MOS มากเพียงพอ พี่ picatos คิดว่าการถือเงินสด และ รอจังหวะ (+ศึกษาไปเรื่อยๆ) กับการนำเงินสดมาลงทุนในบริษัทที่ให้ปันผลดี และ หุ้นไม่หวือหวาตามตลาดมากนัก อย่างไรน่าจะดีกว่ากันครับ
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 3:52 pm
0
0
Re: 20 หุ้นเด่น ที่ลงน้อยมาก ในวันเกิดวิกฤต
หุ้นเด่นเช้านี้ 3. ช่วงเดือนเมษายน เป็นช่วงสงกรานต์ ถือว่า "Demand เยอะ" 555
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 3:08 pm
0
0
Re: เข้า - ออก อย่างไร ในสภาวะตลาดอย่างนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ Reflexivity ทฤษฏีที่ทำให้เรารู้จัก George Soros พ่อมดการเงิน by Mr.Messenger ขอเซฟเอากระทู้น่าแนะนำใน pantip ของ พี่ Mr.Messenger มาแปะไว้ใน Blog นะครับ Credit Link : http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11446062/I11446062.html สำหรับชื่อ George Soros (จอร์จ โซรอส) แล้ว นักลงทุนเกือบร้อยทั้งร้อย รู้จักเขา ก็เพราะสิ่งที่เขาทำไว้กับประเทศไทยของเราตอนโจมตีค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 แต่นั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำให้เขาเป็นที่จนจำในโลกการลงทุน ฉายาที่ได้มาว่า "the man who broke the Bank of England" ต่างหาก ที่ทำให้นักลงทุนทั้งโลกจดจำชื่อของเขาได้ ผลงานการลงทุนของ Soros ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ในปี 1973 เขาตั้งกองทุนชื่อว่า Quantum Fund ร่วมกับ Jim Rogers เจ้าพ่อตลาด Commodity และสามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 40%!! เป็นเวลาร่วม 10 ปี ด้วยกัน แถมช่วงวิกฤต Subprime ตอนปี 2008 รายงานจากผลตอบแทนจากการลงทุนของเขานั้น ก็ยังสามารถที่จะเอาชนะตลาด น่าทึ่งใช่มั้ยครับ ภายใต้ผลงานการลงทุนอันเป็นที่จดจำของเขา บ้างก็ว่าเป็นผู้ร้าย บางก็ว่าเขาเป็นผู้ฉวยโอกาส บ้างก็ยกย่องเขาราวกับเป็นศาสดาของ Hedge Fund คำถามคือ ชายคนนี้ มีหลักคิดในการลงทุนแบบไหนน้อ ? กลยุทธ์การลงทุนของ Soros เน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้น หาผลตอบแทนในทุกรูปแบบจากตลาด (Absolute Return) ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ค่าเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ แต่คำว่าสั้นของนักลงทุนระดับโลกเขาก็กินเวลาเป็นเดือนๆ หรือบางถึงปีในบางช่วงนะครับ ไม่ใช่ซื้อเช้าขายบ่ายเหมือนแมงเม่าอย่างพวกเรา Soros ไม่เชื่อในทฤษฏี Efficient Market Hypothesis (EFM) ที่บอกไว้ว่า ราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวและข้อมูลในอดีต รวมถึงการคาดการณ์ในอนาคตไปหมดแล้ว จึงไม่มีทางที่นักลงทุนจะเอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่อง จริงๆแล้ว กูรู และนักลงทุนระดับโลกส่วนใหญ่ก็เชื่ออย่างที่ Soros เชื่อนะครับ ไม่งั้นคงไม่รวยล้นฟ้ากันหลายคนหรอก แต่สิ่งหนึ่งที่แยก George Soros ออกจากเหล่าเซียน กลายเป็นเซียนเหนือเซียนก็คือ แนวคิดจากทฤษฏี Reflexivity ซึ่งเขาได้รับรากฐานความคิดมาอีกทีจาก Sir Karl Raimund Popper นักปรัชญา และศาสตร์จารย์แห่ง London School of Economics ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นปราชญ์ เกี่ยวกับวงการวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในทศวรรษที่ 20 ทีเดียว ... เอ นี่ผมจะบอกทำไมเนี่ย ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาที่คุยเลย เหอๆ Reflexivity อธิบายไว้ว่า จุด Equilibrium หรือ จุดดุลยภาพ มีไว้แค่เป็นจุดอ้างอิง แต่จริงๆแล้วทุกสิ่งในสังคมเราไม่เคยอยู่ในจุดนั้น ตลาดหุ้นก็เช่นกัน สาเหตุก็เกิดจากมีแรงบางอย่างส่งผลให้เกิด “Negative Feedback” ซึ่งทำให้ราคานั้นวิ่งออกจากจุดดุลยภาพไปอย่างมาก ตลาดหุ้นจึงมีแนวโน้มที่จะมี boom & burst ไปเรื่อยๆเป็นวงจรอยู่อย่างนั้น เราลองมาดูกันหน่อยว่า Negative Feedback นั้นเป็นยังไง ส่งผลยังไงต่อตลาด ลองดูตัวอย่างจากปัญหาหนี้ยุโรป (Euro Debt Crisis) ในตอนนี้ก็ได้ครับ เมื่อมีข่าวร้ายเกิดขึ้นในตอนแรก ข่าวร้ายต่อๆมาก็จะทยอยออกมาเรื่อยๆ และส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดนั้นด้วย ตอนแรก เริ่มจากกรีซหนี้บวก Debt-to-GDP โตเกิน 100% >> รัฐบาลประกาศใช้แผนรัดเข็มขัด >> แต่ประชาชนประท้วงไม่ยอมให้หักสวัสดิการและเงินเดือน >> ขอความช่วยเหลือการกลุ่ม EU >> ต้องรัดเข็มขัดเพิ่มอีก >> ประท้วงอีก >> S&P และ Moody’s ทนไม่ไหว ก็ประกาศ Downgrade ตราสารหนี้ของกรีซกลายเป็น Junk Bond >> Cost of Funding สูงขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว >> รัดเข็มขัดเพิ่มขึ้นอีก ถ้าเปรียบกรีซเป็นมนุษย์ ผมว่าตอนนี้ น่าจะเป็นมนุษย์ที่มีเอวเล็กที่สุดในโลกแล้วนะ รัดจังเลยเข็มขัดเนี่ย 555+ เอาจริงๆแล้ว การ Downgrade ของ Credit Rating Agency (CRA) นั้น ใช้ข้อมูลในอดีตมาประเมินส่วนใหญ่ และคาดการณ์ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งอนาคต เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจาก Negative Feedback ก็คือ พอนักลงทุนเห็นกรีซกลายเป็นขยะ อารมณ์ก็ยิ่งแย่ ยิ่งขายหนักขึ้นไปอีก มันช่างสวนทางกับสิ่งที่กรีซต้องการ ณ ขณะนี้เป็นอย่างมาก นั้นก็คือ อยากให้ต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง (Capital Requirement) เพื่อฟื้นฟูจะประเทศในระยะยาว แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปแล้ว อ๋อ... อย่ามอง Reflexivity ในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียวนะครับ Positive Feedback ก็มีให้เห็น ยกตัวอย่างเช่น ราคาบ้านในอเมริกาปรับตัวสูงขึ้น >> ประเมิณหลักทรัพย์ ได้วงเงินเพิ่ม ก็ไปกู้มาเพิ่ม >> ได้เงินกู้มา ก็เอาไปซื้อบ้านเพิ่มอีก >> ราคาบ้านก็ปรับตัวสูงขึ้นอีก .... แต่สุดท้าย ตลาดก็ตระหนักถึงความจริงที่ว่า มีแต่ผู้ซื้อมาเก็งกำไร แต่ไม่มีคนอยู่จริงๆ เมื่อนั้น วิกฤต Subprime ก็มาเยือนเราเมื่อปี 2008 แต่ก่อนหน้านั้นร่วมๆ 10 ปี ก็ด้วยเจ้าราคาบ้านนี้ล่ะครับส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ GDP อเมริกาโตมาได้ขนาดนี้ โดยสรุป เมื่อดูจากตัวอย่างแล้วจะเห็นว่า ไม่ใช่แค่ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้นส่งผลต่อราคาหุ้น แต่ตัวราคาหุ้นเอง ยังส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นมันเองอีกด้วย ไม่ว่าจะทิศทางไหน ขึ้นหรือลงก็ตาม ที่ผมสรุปไปว่า ราคาหุ้นต่อปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้น นักลงทุนหลายคนอาจงงๆ เพราะเรียนมา ไม่เห็นเคยมีใครบอกอย่างนั้น นั้นผมขอยกตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่งครับ เอาใกล้ๆตัวเรานี่ล่ะ เหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ เดือนร้อนกับถ้วนหน้า สภาพัฒน์เอย ศูนย์วิจัยกสิกรเอย หรือ World Bank เอย ต่างออกมาบอกว่า GDP ปีนี้ลดลง และจ่อปรับประมาณการณ์ GDP ปีหน้า คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในหลาย Sector จะลดลง แล้วเกิดอยู่ดีๆ ดันมี Invisible Hands สอยหุ้นไทยทะลุ 1,000 จุดขึ้นมา เพราะเก็งไปเลยว่า กระทบไม่เยอะ ระยะยาวยัง OK อยู่ ทั้งๆที่เอาเข้าจริง ตอนนี้ก็ไม่มีสัญญาณอะไรบอกเรามาเลยว่า รัฐบาลมีมาตรการอะไรออกมากระตุ้น หรือ บริษัทจะกำลังดำเนินการผลิตได้ทันจริงๆไหม แต่ถ้าตลาดหุ้นยังหน้าด้านวิ่งขึ้นต่อไป ความมั่งคั่งของนักลงทุนในตลาดโดยรวมก็ยังเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็จะกลับมา ใครลงทุนแล้วกำไรในรอบนี้ มีสภาพคล่องมากขึ้น หันมาเจอไอ้หุ้นที่ถูกมองว่าแย่ๆเพราะเจอน้ำท่วม ก็ช้อนซื้อไว้ ไปๆมาๆ ราคาหุ้นไม่ลง แถมวิ่งตามชาวบ้านเขาขึ้นไปได้อีก เห็นไหมครับ Reflexivity ของ George Soros สามารถอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดในตลาดหุ้นได้ในอีกมุมหนึ่ง ที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึง ด้วยทฤษฏีนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่า ราคาหุ้นจะวิ่งออกจากจุดดุลยภาพไปอย่างมาก ทำให้เขากล้าที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลกับการเก็งกำไร เพื่อรอคอยจุดกลับตัวของตลาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเก็งว่าตลาดจะ Burst มากกว่าจะเก็งว่า Boom เลยถูกมองว่าเป็น “Satan” ซึ่งตรงกันข้ามกับ Warren Buffet ที่ทำกำไรจากการลงทุนเข้าซื้อและถือในระยะยาวเท่านั้น แถมตลาดตกลงมาซักระยะ ยังพยายามหาโอกาสเข้าไปช้อนซื้อ ทำให้ภาพของ Buffet เป็นเหมือน “Santa” ในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก สิ่งที่ Soros และ Buffet เหมือนกันก็คือ - เขาทั้งคู่เริ่มจากคำว่า รวย เป็น โคตรรวย ด้วยการทุ่มและเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง ส่วนการกระจายความเสี่ยง (Diversification) ในพอร์ตการลงทุน เกิดขึ้นหลังจากที่พอร์ตการลงทุนของทั้งสองใหญ่จนไม่รู้จะเอาไปซื้ออะไรแล้ว - ทั้งคู่ไม่เคยตั้งเป้าหมายการลงทุนว่าจะได้กำไรเท่าไหร่ ...แปลง่ายๆว่า เงิน ไม่ใช่เป้าหมายสำคัญที่สุดในการลงทุนของทั้งสอง (แล้วมีทำไมเยอะแยะขนาดนั้นฟร่ะ) - ทั้งคู่ ไม่อ่าน Research ที่มีอยู่เกลื่อนตลาด แต่ใช้วิธีศึกษาด้วยตัวเอง และทีมงานของตัวเอง เห็นอย่างนี้แล้ว ก็ทำให้คิดขึ้นมาว่า บางครั้ง Satan กับ Santa มันต่างกันนิดเดียวเท่านั้น ผมเชื่อว่า ในหลายวิกฤต Buffet ก็เอาเห็นช่องในการทำกำไรเหมือนกัน (รวยขนาดนั้น เก่งขนาดนั้น จะไม่รู้อะไรเลยหรอ ?) เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ เพราะมันขัดกับหลักการลงทุนและจริยธรรมของเขา ในขณะที Soros มองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิด ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ขอวิจารณ์ Soros นะครับ แต่ขอนำข้อดี และสิ่งที่เป็นประโยชน์เอาไปต่อยอดตัวเองดีกว่า สุดท้าย ปัจจุบัน George Soros ซึ่งอายุ 81 ปี เพิ่งยุติอาชีพการเป็นผู้จัดการกองทุน Hedge Fund ให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้วเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และคืนเงินให้กับนักลงทุนเป็นที่เรียกร้อย สาเหตุก็เพราะสำนักงาน กลต. ของสหรัฐฯ กำหนดให้ Hedge Fund ที่มี AUM เกิน $150ล้าน ต้องขึ้นทะเบียนกับ SEC ภายในปี 2012 ที่จะถึงนี้ เพื่อกำกับดูแล และอยู่ในสายตาของทางการมากขึ้น (ตอนนี้ Soros Fund มี AUM สิริรวม $20,000ล้าน) การเลิกบริหารกองทุนของ Soros สาเหตุมาจาก ถ้าต้องขึ้นทะเบียนและรายงานการซื้อขายให้กับ SEC ก็จะกลายเป็นว่า ต้องเปิดเผยข้อมูลการลงทุนแก่สาธารณะ กลยุทธ์อาจถูกเปิดเผย และการทุ่มโจมตีอะไรอีกซักอย่าง ก็จะเป็นข่าวก่อน และเป็นตกเป็นเป้าของสาธารณะชน ... หลายคนกระโดดดีใจ ร้องเย้ๆๆๆ แต่ขอโทษ Hedge Fund มีอยู่ทั่วโลก มีแค่ Soros ออกจากตลาดคนเดียว คนอื่นยังอยู่ โฮะๆ เอาเถอะครับ หลังจากนี้ เราคงไม่เห็นผลงานของ Soros อีกแล้ว แต่แน่นอนว่า เขาจะเป็นที่จดจำในฐานะนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกคนหนึ่ง ถึงแม้วิธีการได้มา มันจะโหดร้ายสำหรับหลายๆคน บั๊บบาย โซรอสสสสส โชคดีในการลงทุนครับ Mr.Messenger +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ที่มา: http://value-visions.blogspot.com/2011/12/reflexivity-george-soros-by-mrmessenger.html
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 3:02 pm
0
1
Re: เข้า - ออก อย่างไร ในสภาวะตลาดอย่างนี้
คุณซุนเซ็ก : ไปแอบอ่านเรื่อง Reflexivity มานิดนึง น่าสนใจครับ เลยอยากถามคุณซุนเซ็กว่าปลายปีที่ผ่านมา ใช้หลักของ Reflexivity อย่างไรครับ คุณ sipoonya , คุณ iruma : ขอบคุณครับ
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 2:57 pm
0
0
Re: หุ้นถูกเรื้อรัง
ขอบคุณมากครับ
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 10:42 am
0
0
Re: Rule of Rich & Wealth
ขอบคุณครับ ส่วนตัวคิดว่าเลือกหุ้นด้วยหลักการของ Value Invesment และ เข้า-ออก ด้วยหลักเทคนิคคอลเป็นตัวช่วยตัดสินใจ (ไม่ใช่ 100%) น่าจะเป็นวิธีที่ดีมาก :P แต่ด้วยไม่มีความรู้ทางเทคนิคอลเลย :oops: พี่ๆพอจะมีแหล่งข้อมูลไหนที่พอจะศึกษาได้ด้วยตัวเองไหมครับ :D
โดย
Sorgios
ศุกร์ เม.ย. 20, 2012 8:40 am
0
0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
แล้วถ้าร้านแบบนี้มีหลายจังหวัดขึ้น (อาจจะคนละเจ้าในแต่ละจังหวัด) ร้านระดับชาติก็น่าจะได้รับผลกระทบพอสมควรนะครับ (ระยะสั้น) แต่ในระยะยาวไม่รู้ครับ
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 17, 2012 12:46 am
0
1
Re: แจ้งข่าว มารดา ของ ดร.นิเวศน์ เสียชีวิต ครับ
ขอแสดงความเสียใจกับอาจารย์และครอบครัวครับ
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 17, 2012 12:43 am
0
0
Re: ธุรกิจอะไรที่คาดว่าน่าจะมาแรงในอนาคต
กระทู้ทรงคุณค่ามาก หลายๆความเห็นเมื่อ 6 ที่แล้ว แม่นยังกับตาเห็น ชาบูๆ ธุรกิจที่น่าสนใจในอนาคตน่าจะเป็นอะไรที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ โดดเด่นมากๆ เพราะสมัยนี้แข่งขันกันสูงเืกือบทุกวงการครับ
โดย
Sorgios
อังคาร เม.ย. 17, 2012 12:41 am
0
0
Re: เล่นหุ้นตามสูตร /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณอาจารย์นิเวศน์ และคุณ Otty มากๆครับ
โดย
Sorgios
พุธ ม.ค. 26, 2011 6:08 am
0
0
Re: จิบเบียร์ 27/11/53 เป็นอย่างไรบ้าง
ไม่รู้ว่ารอบนี้คุณแชมป์ไปด้วยรึเปล่า หลายคนรออ่านเล็ดเชอร์ขั้นเทพอยู่อ่ะครับ :lol:
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 29, 2010 12:26 pm
0
0
Re: บัฟเฟตต์ข้างบ้าน / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณครับ :D
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 29, 2010 12:24 pm
0
0
Re: บริษัทที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่ยังไม่ได้เข้าตลาด
เสนอ DKSH ดีทแฮล์ม ครับ
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 29, 2010 12:22 pm
0
0
Re:
ขอเขียนจากความเข้าใจส่วนตัวนะครับ เพราะผมก็เป็นอีกคนนึงที่หลงไหลหุ้นประเภทนี้อยู่มากๆเช่นกัน ถ้าพูดถึง "หุ้น Turnaround" ก็ต้องนึกถึงคำสำคัญที่สุดคำหนึ่ง นั่นก็คือคำว่า "จุดต่ำสุด" หรือ "จุดวกกลับ" นั่นเอง คล้ายๆกับภาพ "กราฟพาราโบลาหงาย" ที่เราเรียนสมัยมัธยมอ่ะนะครับ หุ้น Turnaround มี Criteria มากมายในการสังเกต แต่มันต้องใช้ระยะเวลายาวนานเพียงพอ ในการ Confirm การเป็นหุ้น Turnaround จริงๆ การลงทุนหุ้นประเภทนี้ มีผลตอบแทนที่ดีมากๆ จะว่าไปแล้ว อาจจะมากพอๆกับหุ้น Super Stock เลยก็ว่าได้ เพราะระหว่าง การเติบโตจากสิ่งที่เลวร้าย(ฐานเก่าต่ำ) กับ การเติบโตจากสิ่งที่ดีอยู่แล้ว สองอย่างนี้ มี Momentum ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย แต่ปัญหาคือว่า เรามั่นใจได้แค่ไหนว่า หุ้นที่เราสนใจ จะเป็น "หุ้น Turnaround แท้" หรือเป็นแค่ "หุ้น Turnaround เก๊" *** และสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ... ระหว่างคำว่า "หุ้น Turnaround" กับคำว่า "หุ้นที่เข้าข่ายน่าจะ Turnaround" สองคำนี้ความหมายต่างกันฟ้ากับเหวเลยนะครับ!!! เพราะ"หุ้นที่เข้าข่ายน่าจะ Turnaround" มีมากมายอยู่เกลื่อนตลาด หรือบางคนอาจเรียกว่า "หุ้นก้นบุหรี่" อาทิเช่น P/BV ต่ำ, ผลประกอบการเริ่มดีขึ้น จากขาดทุนเป็นกำไร, มีการปรับ Business Model ,มีการปรับโครงสร้างหนี้ หรือมี Hidden Asset มากมาย แต่ในหุ้นจำนวนมากมายเหล่านี้... คงมีเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่จะเป็น "หุ้น Turnaroundแท้ๆ" ที่จะสามารถพลิกฟื้นได้อย่างแข็งแรง และยั่งยืน และถ้าคุณค้นพบ มันจะเป็นหุ้นที่คุณจะถือได้อย่างมั่นใจและสบายใจในระยะยาว ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครมอง "หุ้น Turnaround" ออกได้ภายในไม่กี่วัน เพราะผมมองว่า ระยะเวลาและผลประกอบการเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ "เพชรในตม" เม็ดนี้ การซื้อที่ "จุดวกกลับ" หรือ "จุดต่ำสุด" นั้น ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ยากมากแล้ว แต่ผมว่า การซื้อก่อนถึงจุดวกกลับนั้นยากเย็นยิ่งกว่า สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด คือ... "เราซื้อเมื่อมั่นใจว่า มันได้ผ่านจุดต่ำที่สุด" มาแล้ว และมันกำลังจะฟื้นตัวได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า "เพราะอะไร?" มิใช่เพียงหลับหูหลับตาซื้อตามคนอื่น สรุปว่าสำหรับผมแล้ว... การลงทุนใน "หุ้น Turnaround" นั้นก็คือ "การซื้อของดีในราคาถูกเหลือเชื่อ" ก็เท่านั้นเองครับ เห็นด้วยครับ :D
โดย
Sorgios
จันทร์ พ.ย. 29, 2010 12:09 pm
0
0
"บินก่อน ผ่อนทีหลัง"
อยากทำให้ได้ครับ อยากลำบากก่อนสบาย แต่มันไม่ง่ายเลยนะครับ ก็ต้องฝึกฝนกันต่อไป สวัสดีพี่ๆทุกคนนะครับ :D
โดย
Sorgios
เสาร์ พ.ย. 13, 2010 12:13 pm
0
0
กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ
[quote="naris"]ในเมื่อพูดถึงเล็กๆใหญ่ๆขอฝากมุมมองอีกด้านของเล็กๆและใหญ่ๆดูนะครับ :D ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
โดย
Sorgios
ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 9:38 pm
0
1
บทเรียนการปรับฐานครั้งนี้ อยากให้ VI หน้าใหม่ดูเป็นกรณีศึกษา
ตอนแรกอ่านแล้ว นึกว่าเพิ่งโพสท์อาทิตย์ที่แล้ว :lol: เขกหัวตัวเอง 1 ที ปล.ขอบคุณทุกความเห็นครับ อ่านเพลินเลย
โดย
Sorgios
ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 9:28 pm
0
2
โปรแกรมรายการ Money Talk
ขอบคุณมากครับพี่ฉัตรชัย :D
โดย
Sorgios
ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 9:13 pm
0
0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
กระทู้ดี มีประโยชน์ คนดังๆมากันเพียบ ว่าแล้วก็ตี่ตั๋วหนึ่งใบมาชมที่ขอบเวที :D
โดย
Sorgios
พุธ พ.ย. 10, 2010 5:51 pm
0
0
319 โพสต์
of 7
ต่อไป
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
Sorgios
อายุ:
42
กลุ่ม:
สมาชิก
งานอดิเรก:
VI, SMEs, Plastic Model
ความถนัด:
Pharmacist
ที่อยู่:
BANGKRAPII BKK
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 11:46 am
ใช้งานล่าสุด:
จันทร์ มี.ค. 09, 2020 11:40 am
โพสต์ทั้งหมด:
368 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.07 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
CHIN UP, Do not give up !!!
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว