Re: ทำดีมานานและทำสม่ำเสมอครับ งั้นPATO CPF ก็แย่สิ ^^ อาชีพทั้ง 5 นี้รวยทั้งนั้นเลยนะครับ ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนครับ ส่วนตัวผม บางทีก็อยากซื้อหุ้นพวกนี้ แต่ต้องทำใจไม่ซื้อครับ โดย chatree ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 9:58 pm

Re: แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] ขอบคุณครับ โดย chatree พุธ พ.ค. 25, 2011 5:22 pm

Re: บทเรียนห่านป่วย หุ้นไม่มี free float ! แต่ไทยพาณิชย์ไม่เหมือนเจ้าสัวนะครับ ไทยพาณิชย์เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่ยังต้องรักษาภาพพจน์ตัวเอง การทำแบบเจ้าสัวคนนั้นก็คือการโกงบริษัทที่เอาออกจากตลาดแล้ว ผมคิดว่า scnyl น่าจะไม่ออกจากตลาด เพราะไม่งั้นก็น่าจะขอเอาออกจากตลาดตั้งแต่ตอนนี้แล้ว และถ้าถูกเอาออกจากตลาดจริง ไทยพาณิชย์ก็น่าจะไม่โกงหรือเปล่าครับ โอกาสที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเสียหายจริงๆมีเท่าไหร่ครับ (ไม่ได้ดื้อนะครับ ถือว่าถกกัน ผมก็ยังไม่มีหุ้น แต่เห็น growth 40% ต่อปีแล้วน้ำลายไหลครับ) โดย chatree เสาร์ เม.ย. 02, 2011 7:27 am

Re: บทเรียนห่านป่วย หุ้นไม่มี free float ! ถ้ามีหุ้นอยู่แล้วไม่ขาย การเป็นผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อยจะมีผลเสียยังไงบ้างครับ 1.ถูกบังคับให้ขายในราคาที่ขาดทุน(ไม่น่าจะทำได้หรือเปล่าครับ) 2.ถูกผู้ถือหุ้นเสียงข้างมากเอาบริษัทไปปู้ยี่ปู้ยำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง (ไทยพาณิชย์ก็ไม่น่าจะทำนะครับ มันดูทุจริตยังไงชอบกล ยิ่งเป็นของตัวเองเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ยิ่งไม่น่าทำใหญ่ ไม่มีแรงจูงใจ บริษัทที่มีหุ้นซักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ยังน่าทำกว่าเพราะโกงผู้ถือหุ้นอีกตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์) 3.ผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อยไม่มีสิทธิ์มีเสียง (ผมว่ามีหุ้นอยู่สามสิบเปอร์เซ็นต์ หากไทยพาณิชย์มีห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อยก็โหวตแพ้อยู่ดี เพราะฉะนั้น free float น้อยหรือเยอะไม่น่ามีผลเลยครับ) 4.ขายไม่ออก (อันนี้ท่าจะจริง แต่ถ้าบริษัทโต จะไม่มีคนสนใจจริงหรือ แล้วไทยพาณิชย์จะไม่ให้ปันผลเชียวหรือ แล้วไทยพาณิชย์จะซื้อไปทำไมเนี่ย ตัวเองก็จะไม่ได้ capital gain แถมไม่ปันผลอีกต่างหาก ไทยพาณิชย์ก็เป็นผู้ถือหุ้นเหมือนกันนะ เค้าก็น่าจะอยากได้ผลประโยชน์เหมือนผู้ถือหุ้นทั่วไป) จะมีข้อเสียอะไรอีกครับจากการที่มี free float ต่ำขนาดนี้ บางทีการที่เค้า tender ที่ราคาต่ำอาจจะเพราะไม่อยากให้เราขายก็ได้หรือเปล่าครับ ขอความเห็นผู้รู้นะครับ ผมแค่คิดขึ้นมาเอง ไม่รู้ข้อมูลใดๆ และไม่มีหุ้นๆ แต่อยากซื้อเหมือนกัน แต่กล้าๆกลัวๆครับ โดย chatree ศุกร์ เม.ย. 01, 2011 7:58 am

Re: เป็นไปได้ไหมที่ผู้ตามจะประสพความสำเร็จ คิดเหมือนกันเลยครับ สิ่งที่ผมกลัวก็คือ ถ้าเพื่อนที่มาโพสท์เกิดขี้เกียจแชร์ข้อมูลขึ้นมา แล้วผมจะมองบริษัทได้ทะลุเหมือนเพื่อนๆมั๊ย อีกอย่างคือ รู้สึกเอาเปรียบเพื่อนๆยังไงไม่รู้ที่เป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ โดย chatree จันทร์ มี.ค. 21, 2011 11:20 pm

Re: วิเคราะห์การลงทุนจากพอร์ต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทุกวันนี้น่าจะพบกรณีแบบนี้ได้เป็นจำนวนมาก คือเห็นว่านักลงทุนรายใหญ่ๆในสังคม VI หรือพวกเซียนในเวปนี้ลงทุนในหุ้นตัวไหน ก็จะตามไปซื้อด้วย แต่มักจะไม่ทันได้คิดว่า เซียนๆเหล่านี้เขาเก็บหุ้นไปนานแล้วด้วยราคาต่ำๆ ก่อนที่คนอื่นๆจะรู้กันว่าพวกเซียนมีหุ้นตัวนั้นอยู่ ดังนั้นการเลือกหุ้นตามเซียนเราก็ควรจะรู้มูลค่าที่ควรจะเป็นของหุ้นตัวนั้นให้ได้ก่อนจะซื้อ หากเราไม่รู้มูลค่าก่อนซื้อ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นนั้นถูกหรือแพง การประเมินหามูลค่าหุ้นก็ควรคิดแบบ Conservative ที่สุด หรือคิดในแง่ร้ายๆไว้ก่อนจะประเมิน ผมสังเกตุเห็นคนมักจะมองหุ้นที่ตัวเองมีในแง่ดีจนเกินไป เวลาประเมินก็มักจะประเมินแบบดีเกินปกติซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ที่สำคัญต้องจำกฎที่สำคัญที่สุดของการลงทุนให้ได้คือ "จงอย่าขาดทุน" ขอบคุณ ดร.นิเวศน์มากครับ สำหรับบทความและประสบการณ์ดีๆที่นำมาแบ่งปัน :D :D :D อยากได้รับการถ่ายทอดวิชาวีไอจากพี่สามัญชนจังเลยครับ ผมจะมีโอกาสนั้นมั๊ยครับ โดย chatree เสาร์ มี.ค. 19, 2011 5:45 pm

Re: มูลค่าซื้อขายต่อวันเท่าไหร่ถึงถือว่าหุ้นมีสภาพคล่องโอเคค ตั้งใจจะซื้อตัวละประมาณ ฿200,000 น่ะครับ ยอดซื้อขายหุ้นต่อวันเท่าไหร่ขึ้นไปถึงจะถือว่าใช้ได้ ถ้าลงทุนระยะยาวไม่ต้องสนสภาพคล่องจริงหรือครับ และต้องยาวกี่ปีขึ้นไปครับ จำนวนกระทู้ที่โพสท์ในร้อยคนร้อยหุ้นบ่งบอกถึงสภาพคล่องมั๊ยครับ เพราะรู้สึกว่าหุ้นที่สภาพคล่องต่่ำส่วนใหญ่จำนวนกระทู้จะน้อย และอ่านไม่มันเพราะไม่ค่อยมีสมาชิกมาเม้นท์ให้อ่านครับ โดย chatree พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 8:06 am

Re: รู้สึกว่า trend ใหม่ คือ เล่นกันเป็นรายไตรมาศ ดีจัง Mr.Market จะได้ทำงาน ถ้าทุกคนมีเหตผลหมด มันคงไม่มีหุ้นถูกแต่ดีเหลือให้เราซื้อครับ โดย chatree ศุกร์ ก.พ. 25, 2011 6:27 am

Re: เศรษฐีเซียนหุ้นVIที่ไม่ได้รวยจาก"วิกฤติทางการเงิน"มีไหม? ผมกับมองตรงข้ามนะครับ ผมคิดว่าหลักการลงทุนที่ดีต้องพาเราฝ่าวิกฤตได้ และถ้าผ่านวิกฤตแบบได้กำไรด้วยยิ่งสุดยอด เราะตอนหุ้นพุ่ง ใช้หลักอะไรก็กำไรทั้งนั้น ตอนตลาดนี่แหละที่ทำให้คนหมดตัว เพราะฉะนั้นถ้าเซียนหุ้นผ่านวิกฤตแล้วจนผมว่าไม่ใช่เซียนครับ แต่เป็นแมงเม่า ส่วนเรื่อง p/e นั้นคงแล้วแต่หลักการลงทุนของแต่ละคน แต่ถ้าเราคิดว่าของเราดี แล้วคนอื่นไม่รับฟัง ก็นึกถึงเรื่องบัวสี่เหล่าแล้วกันครับ โดย chatree ศุกร์ ก.พ. 25, 2011 6:23 am

Re: Earning สำคัญแค่ไหน สรุปแล้วหุ้นอย่างนี้น่าซื้อมั๊ยครับ หรือควรจะข้ามไปเลย หุ้นที่ pe ไม่แพง earning เยอะดี แต่ไม่เติบโตและไม่ปันผล โดย chatree ศุกร์ ก.พ. 18, 2011 5:35 pm

Re: การจัดพอร์ทของ VI(ลูก) VS. Speculator(พ่อ) 1.ผมว่า VI ไม่จำเป็นต้องถือหุ้น 100% ถ้าไม่มีหุ้นที่มี mos มากๆให้ซื้อ 2.ลองเปรียบเทียบ return ว่าใครมากกว่ากัน 3.ชมป๊าไปเลยว่า ผมเป็นคนเก็งกำไรเค้าขาดทุนเต็มไปหมด มีป๊านี่แหละที่สามารถทำกำไรได้ ถ้าผมเก่งเท่าป๊าผมคงทำได้แบบป๊า แต่ผมไม่ไวเท่าป๊า ผมลงทุนแนวนี้จะปลอดภัยกว่าสำหรับผม โดย chatree อังคาร ก.พ. 15, 2011 6:23 am

Re: หุ้นสภาพคล่องต่ำควรซื้อหรือไม่ ขอบคุณทุกความเห็นครับ สรุปว่า ซื้อได้ แต่ต้องศึกษามากๆ และต้องเป็นเงินที่สามารถอยู่ในตลาดหุ้นได้นานๆ โดย chatree อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 8:44 pm

Re: StockAnalysis เวอร์ชั่นผมเองครับ อัพเดทให้ใหม่แล้วนะครับ แต่ผมขึ้นกระทู้ใหม่เลยครับ โดย chatree อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 12:28 am

Re: ขอถามการปรับพอร์ตใน The Little book that beat the market ขอบคุณมากครับ ละเอียดและจะแจ้งดีครับ โดย chatree จันทร์ ม.ค. 24, 2011 9:57 pm

Re: สรุปงานวิจัยเบื่้องต้นการลงทุนแบบวีไอในรายการมันนี่ทอร์ค ขอบคุณครับ สไลด์แผ่นสองเครื่องหมายรู้สึกจะหันผิดด้านครับ กลายเป็น PE มากกว่า 10, PBV มากกว่า 1 และ Div Y น้อยกว่า 3 โดย chatree เสาร์ ม.ค. 22, 2011 9:41 am

Re: ขอถามการปรับพอร์ตใน The Little book that beat the market ถ้าเช่นนั้นหากหุ้นราคาเท่าเดิม ก็ไม่ต้องขาย ผมคิดว่าหรือจะต้องบังคับให้ขายเพื่อป้องกันการซื้อหุ้นที่ถูกเรื้อรัง โดยให้โอกาสหุ้นแต่ละตัวแค่ปีเดียว ไม่ว่าหุ้นขะเป็นอย่างไร ขึ้นหรือลงหรือไม่เปลี่ยนแปลงก็ขายหมด หรืออาจจะไม่ต่องขายหุ้นในพอร์ต หาก Rank แล้วชื่อซ้ำกับหุ้นในพอร์ต เพราะมีหุ้นตั้ง 30 ตัว มันคงไม่เรื้อรังทุกตัว แต่ก็ยังเห็นเค้าให้ขายก่อนหนึ่งปีหากกำไรเพื่อเลี่ยงภาษี และหากขาดทุนก็ให้ขายเมื่อครบหนึ่งปีพอดี เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าจะให้ถือหุ้นเกินปีนึงนะ เพราะไม่งั้นหากมันเกิดกำไร ก็ต้องเสียภาษีสิ นี่คือวิเคราะห์จากหลักกรในหนังสือนะครับ ในประเทศเราไม่มีเรื่องภาษี ไม่ทราบว่าอย่างไหนจะถูก รบกวนขอความเห็นด้วยครับ โดย chatree เสาร์ ม.ค. 22, 2011 8:40 am

Re: แบบ 56-1 จุดเริ่มต้นของนักลงทุนหุ้นคุณค่า ยังมะเคยอ่านเลยครับ ว่าแต่ไปหาอ่านจากที่ไหนหรือครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ โดย chatree พุธ ม.ค. 19, 2011 11:39 pm

Re: อยากให้พี่ๆจัดคอร์ส valuation (การหามูลค่าหุ้น) จาได้เรียนมั๊ยเนี่ย อยากเรียนมากครับ แต่สมัครไม่ทันทุกที เต็มไวไม่แพ้กวดวิชาเลยครับ โดย chatree พฤหัสฯ. ม.ค. 13, 2011 7:50 pm

Re: worksheet สำหรับบันทึกการลงทุนแบบทำเอง sumif จะรวมตัวเลขที่มีเงื่อนไขที่ตรงกับที่เราต้องการ โดยมีสูตรดังนี้ครับ =sumif(ช่วงข้อมูลที่มีเงื่อนไข, เงื่อนไขที่เราต้องการหา, ช่วงข้อมูลตัวเลขที่เราจะบวก) ผมว่าสูตรนี้สะดวกดีครับ อีกสูตรที่ชอบคือ =sumproduct ครับ ถ้าลองค้นดูในเวปคงจะมีตัวอย่างที่ละเอียดกว่าที่ผมกล่าวถึงครับ โดย chatree อังคาร ม.ค. 11, 2011 9:09 pm

Re: เปิดเรียน วิธีอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับนักลงทุน สมัครไม่เคยทันเลยครับ อยากเรียนจัง โดย chatree ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 11:25 pm

Re: StockAnalysis เวอร์ชั่นผมเองครับ มีเพื่อนๆ pm มาบอกให้ช่วย Rank ให้หลายๆแบบหน่อย จริงๆทำไม่ยากนะครับ พอดีผมมีทำอยู่แล้ว แต่เดิมนึกว่าจะประหยัดขนาดไฟล์เลยเรียงตาม pe+roa อย่างเดียว ตอนนี้เลยเอาแบบที่เรียงทุกแบบมาแชร์ครับ เผื่อท่านใดจะใช้ประโยชน์ได้ครับ ตามลิงค์นี้เลยครับ http://www.mediafire.com/file/b8bbat3ea1ptp3d/StockAnalysisforThaiVI-Ranking.xls โดย chatree ศุกร์ ม.ค. 07, 2011 11:07 pm

Re: StockAnalysis เวอร์ชั่นผมเองครับ สีพื้นหลังเดิมตั้งใจว่าถ้าปีถักไปมันมากขึ้นหรือเท่าเดิม มันจะสีเขียวครับ แต่ถ้ามันน้อยลงมันจะสีแดง ถ้าน้อยกว่านิดนึงจะสีเหลือง แต่สุดท้ายไม่ได้ใช้ครับ เพราะดูเอาเอง เห็นมันสวยดีเลยไม่ได้เอาออกครับ โดย chatree ศุกร์ ธ.ค. 31, 2010 11:59 pm

Private Equity เค้ามีชื่อผู้บริหารมาให้ครับ มีคนไทยด้วย ถ้าเราตั้งใจจะลงทุนจริง เค้าสามารถให้นัดคุยกับผู้บริหารได้ครับ ทั้งคนไทย พาร์ทเนอร์ที่สิงคโปร์ หรือ ผู้บริหารที่ฮ่องกงก็ได้ครับ โดย chatree เสาร์ พ.ย. 20, 2010 9:01 pm

ถือหุ้นในกิจการอาจจะผิดศีล ก็คิดอยู่เหมือนกันครับ เพราะอาชีพต้องห้ามในศาสนาพุทธมีดังนี้ครับ 1. ค้าขายอาวุธ เนื่องจากเป็นเครื่องมือประหัตประหาร ทำลายล้างเผ่าพันธุ์ 2. ค้าขายมนุษย์ หรือเอาศักดิ์ศรีของมนุษย์เอาไปขาย (ขายตัว) 3. เลี้ยงสัตว์ไว้ขาย เพื่อฆ่าหรือนำไปทรมาน 4. ค้าขายสุรา ขาย เครื่องดื่ม มึนเมา น้ำเมา เนื่องจากสนับสนุนให้คนผิดศีล 5 ทำให้ขาดสติ 5. ค้าขายยาพิษ เนื่องจากเป็นพิษภัยต่อมนุษย์ แมลง และสัตว์ตลอดจนทำลายสิ่งแวดล้อม ผมมี Pato อยู่อะ ผมอยากให้เค้าขายปุ๋ยได้มากกว่ายาค่าแมลงจะได้บาปน้อยๆหน่อย หรือต้องขายทิ้งดี แต่มันเป็นหุ้นที่เข้าตาสำหรับผม คือ ธุรกิจเดิมๆ เข้าใจง่าย ไม่หวือหวา ผลกำไรสม่ำเสมอ จ่ายปันผลงาม เลยจัดใจไม่ลงสักที โดย chatree อาทิตย์ ต.ค. 24, 2010 8:30 am

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำถูกหรือปล่าว ผมจะรองบออกครบทุกตัวก่อน แล้วค่อยมาดูหุ้นทุกตัวว่าจะปรับพอร์ตยังไง ระหว่างนั้นผมก็ขะไม่รู้การเคลื่อนไกวของราคาเลย แต่จะอ่านร้อยคนร้อยหุ้น ในหุ้นที่เราซื้อ เผื่อมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเราจะได้ทราบ นอกนั้นรู้ราคาแค่ปีละ 4 ครั้งครับ ดูเหมือนไม่สนใจการลงทุนของตัวเองยังไงก็ไม่รู้ โดย chatree พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 5:15 pm

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย ผมยกตัวอย่างนะครับ หากตอนนั้นเรามีหุ้น TPI Polene เราอาจจะรู้ว่าบริษัทติดหนี้ต่างชาติอยู่ แล้วประเทศก็ลอยค่าเงินบาท เราอาจจะคิดว่า ค่าเงินบาทคงลงไม่เท่าไหร่ แต่สุดท้ายมันลงไปถึงเกือบหกสิบบาทต่อดอล ตอนนั้นเราก็พบว่า บริษัทที่เราลงทุน มันกลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวซะแล้ว เรามีวิธีหลบเลี่ยงปัญหาอย่างนี้มั๊ยครับ หรือว่าถือว่าซวย เพราะเรื่องอย่างนี้มันไม่มีใครคาดได้ ผมว่า ผมอาจจะต้องอ่านร้อยคนร้อยหุ้นเยอะๆ เผื่อจะมีใครฉุกคิดได้รีบเตือนซะก่อน ผมหวังมากเกินไปมั๊ยครับ โดย chatree อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 9:43 pm

ผมอยากถือหุ้นตัวเดียวได้จัง..... ผมไม่คิดว่าการถือหุ้นตัวเดียวหรือหลายตัวจะเกี่ยวกับเป็นคนสร้างกิจการหรือไม่ ผมคิดว่า ดร.นิเวศน์ ก็ไม่ได้มีหุ้นแค่ตัวเดียว ผมว่าแค่ขึ้นกับกลยุทธ์ในการลงทุน กับจังหวะเวลา หากตอนนั้นมีหุ้นน่าซื้อ 3 ตัว จะซื้อตัวเดียวไปทำไม และหากในเวลาเดียวกัน เห็นหุ้นน่าซื้อแค่ตัวเดียว จะซื้อ 3 ตัวไปทำไม หรือหากไม่เห็นหุ้นน่าซื้อเลย ก็สู้เก็บเงินไว้เฉยๆดีกว่า แม้นไม่มีหุ้นน่าซื้อ การซือหุ้นตัวเดียวก็ไม่ได้ทำให้เป็นนักลงทุนชั้นยอดครับ โดย chatree อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 9:22 pm

ผมอยากถือหุ้นตัวเดียวได้จัง..... ปีเตอร์ลินซ์บอกควรถืออย่างซักห้าตัวหรือเปล่าครับ เพราะในนี้บางตัวจะเป็น winner บางตัวจะเป็น loser และบางตัวจะธรรมดา แต่ถ้าตัวที่เป็น winner ขึ้นไปได้หลายเด้ง พอร์ตเราก็มีผลงานดีแล้วครับ ส่วนผม คงมีห้าถึงสิบตัว เพราะใช้หลักของ Green Blatt ด้วย ต้องอาศัยสถิติเป็นตัวช่วย ผมยึดหลักของบัฟเฟตที่ว่า กฎข้อหนึ่งห้ามขาดทุน กฎข้อที่สอง ให้กลับไปดูกฎข้อแรก เพราะฉะนั้นพอร์ตผม โดยรวม กำไรน้อยไม่เป็นไร แต่ห้ามขาดทุนครับ โดย chatree อาทิตย์ ก.ย. 05, 2010 9:08 am

จิบเบียร์คิว2 ศุกร์ที่ 3 กย. 6โมงเย็น สโมสรทหารบก(กระทู้สาม) ไปไม่ทันครับ โดนภรรยาวางยาให้ไปรับลูกแถวสุขุมวิทตอน 5 โมงกว่าแล้วให้เอามาส่งที่สยาม 1 ทุ่มยังอยู่แถวสยามเลยครับ แล้วรถก็ติดมโหฬาร เลยต้องขอบายครับ แต่ขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการจ่ายค่าเข้างานครับ เพราะจองแล้วแต่ไม่ไป รบกวนผู้จัดขอเบอร์บัญชีด้วยครับ ต้องขออภัยอย่างสูงครับ โดย chatree ศุกร์ ก.ย. 03, 2010 10:01 pm

ทะเลาะกับแฟนเรื่องหุ้น สิ่งที่ยากในชีวิตคือการสร้างความสมดุลย์ครับ บางครั้งก็ต้องยอมบ้างเพื่อรักษาบางสิ่ง ผมว่าลองอธิบายแผนการเงินของคุณให้เค้าฟัง ลองอัพเดทการเลือกหุ้น ความคืบหน้าของการลงทุนให้เธอฟัง แบ่งปันความฝันและเป้าหมายที่คุณจะไปให้เธอฟัง และคุยกันว่าหากจะต้องทำให้ความฝันมันช้าไปบ้าง ก็อาจจะต้องทำ เพื่อให้คนที่ไปถึงความฝัน คือครอบครัวของคุณ ไม่ใช่ตัวคุณคนเดียว และอาจจะต้องทำการต่อรองให้เค้ารู้สึกว่าได้อะไรบ้าง เช่น เลื่อนเวลาไปอีกซักครึ่งปี เอารถถูกหน่อยได้มั๊ย หรือรอให้พอร์ตคุณโตซักเท่านี้ก่อน เผื่อเธอจะมาร่วมลุ้นในผลการลงทุนด้วย และเวลาเลือกหุ้น อาจจะให้เธอมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ในทางเลือกที่เราแอบเลือกไว้แล้ว เช่น เอาหุ้นเอมากกว่าดี หรือ เอาหุ้นบีมากกว่าดี เรื่องพรรณนี้มันเป็นศิลปะครับ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้อยู่พอสมควร ขอให้โชคดีนะครับ โดย chatree ศุกร์ ก.ย. 03, 2010 10:55 am

ลงทุนในหุ้ืน หรือ ลงทุนในอสังหาฯดีกว่ากัน ขอบคุณทุกคำตอบครับ พอดีผมเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิก VI เลยอยากถามต่อว่า แล้วที่เค้าว่าลงทุนหุ้นมีโอกาสหมดนี่ ถ้าพวกเราต้องผ่านวิกฤตเศรษฐกิจกันอีกรอบเหมือนปี 40 พวกเราชาว VI จะรอดมั๊ยครับ ถ้าเรายึดหลัก VI หรือว่าเราก็มีโอกาสเหลือศูนย์เช่นกัน โดย chatree พุธ ก.ย. 01, 2010 4:19 pm

แจก EPS16YEAR (งบดุล ย้อน 19 ปี,ราคา,Ratio,แบบเครดิตภาษี) ขอด้วยคนครับ [email protected] ขอบคุณครับ โดย chatree จันทร์ ส.ค. 30, 2010 9:20 pm

ทำไม่โบรกเกอร์ ถึงเกลียดนักลงทุนแนว VI ผมว่ามาร์เค้าคงเบื่อน่ะ แนะนำอะไรก็ไม่ค่อยฟัง เวลามาร์ผมโทรมาบอกว่าตัวนี้ถึงแนวต้านแล้วให้ขายทำกำไร ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เก็บไว้ก่อน เวลาเค้าโทรมาบอกว่า ตอนนี้หุ้นตัวนี้คนกำลังเล่นกัน น่าซื้อ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร แล้ววันดีคืนดี เราก็โทรไปซื้อหุ้นอะไรก็ไม่รู้ที่คนอื่นไม่เล่น ผมว่าเค้าคงเซ็งเหมือนกัน หลังๆเลิกแนะนำเลย เพราะไม่เคยฟัง กลัวไขว้เขว โดย chatree จันทร์ ส.ค. 30, 2010 5:58 am

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ สุดยอดครับ ทำให้คนที่ไม่ได้ไปมีโอกาสรับรู้ข้อมูลดีดี เก่งและมีน้ำใจมากครับ โดย chatree จันทร์ ส.ค. 23, 2010 8:33 am

สอบถามข้อสงสัยในหนังสือลงทุนอย่างปีเตอร์ ลินซ์ ถ้าเป็นเฉพาะเงินสดและทรัพย์สินเทียบเท่าเงินสด ลบกับหนี้ระยะยาว แล้วหนี้ระยะสั้นล่ะ จะเอามาคิดหรือปล่าว หรือถ้าเอาเงินสดและทรัพย์สินเทียบเท่าเงินสดลบด้วยหนี้ทั้งหมด แล้วยังเหลืออยู่ อย่างนั้น PBV ก็คงต่ำน่าดู คิดว่าอย่างนั้นมั๊ยครับ โดย chatree อังคาร ส.ค. 17, 2010 12:52 pm

ผลกำไรของ STPI จะยั่งยืนหรือไม่ อ่านไปอ่านมา น่าซื้อหุ้น Woodside นะ ท่าทางรวยดี ให้งาน STPI ทีเดียวเกิดเลย โดย chatree เสาร์ ส.ค. 14, 2010 9:58 pm

ผลกำไรของ STPI จะยั่งยืนหรือไม่ ทำไงถึงจะรู้แบบที่ทุกท่านคอมเม้นท์มาน่ะ แต่ละท่านอย่างกับเป็นผู้บริหารในบริษัทนี้เลย ช่วยแนะนำด้วยครับ โดย chatree พุธ ส.ค. 11, 2010 9:05 pm

วาทะเซียนหุ้น ทำไมรู้สึกว่ามันตรงข้ามกับที่ผมอ่านเกี่ยวกับ VI หว่า โดย chatree จันทร์ ส.ค. 09, 2010 2:06 pm

ผลกำไรของ STPI จะยั่งยืนหรือไม่ ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ผมซื้อหุ้นตัวนี้เพราะเห็นว่า PE ต่ำ ROA สูง พอมันราคาขึ้นยังนึกว่าเราซื้อหุ้นเติบโต พอเข้าไปอ่านในร้อยคนร้อยหุ้น ก็นึกว่า มันเหมือนหุ้นเก็งกำไร พอมาอ่านความคิดเห็นกระทู้นี้ กลายเป็นหุ้นไม่แน่นอนไปซะแล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่า จะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรที่จะทำให้ตัวเองสามารถที่จะอ่านธุรกิจได้ทะลุปรุโปร่งเหมือนหลายท่านในนี้ โดย chatree จันทร์ ส.ค. 09, 2010 11:19 am

มีปัญหาคาใจครับเรื่องในหนังสือ One up on wall street ผมเพิ่งอ่านมาเหมือนกัน ขออนุญาติแชร์นะครับ ประโยคนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองประโยคครับ ประโยคแรกคือ ดูว่าเมื่อไหร่มันจะหยุดโต หมายถึงถ้าเรานึกว่าบริษัทนี้จะโตต่อไปซัก 10 ปี แต่จริงๆมันใกล้จะหยุดโตแล้ว เราก็จะซื้อแพงเกินไป เพราะฉะนั้นจึงต้องดูว่ามันจะหยุดโตอีกใกล้หรือไกลเท่าไหร่ อีกประโยคหนึ่งคือ ต้องจ่ายเท่าไหร่เพื่อซื้อการเจริญเติบโตนั้น หมายถึงว่า หากเราเทียบราคาของบริษัทที่มีผลตอบแทนใกล้เคียงกัน อาจจะพบว่าบริษัทที่กำลังเติบโตนั้น มีราคาแพงกว่า แต่เราคิดว่าเราจะจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ถึงจะคุ้มหากบริษัทยังจะเติบโตต่อไป คิดว่าอย่างเป็นอย่างนี้นะครับ โดย chatree ศุกร์ ส.ค. 06, 2010 1:05 pm

จิบเบียร์คิวสอง ศุกร์ที่ 3 กันยา หกโมงเย็นครับ +1 ครับ แต่ขอไม่จิบเบียร์นะครับ เข้าพรรษาน่ะครับ โดย chatree พุธ ส.ค. 04, 2010 8:44 pm

น่าอ่านครับ อ่านเพลินมากๆ เศรษฐศาสตร์สัญชาตญาณสัตว์ ขอด้วยครับ [email protected] ขอบคุณมากครับ โดย chatree พุธ ก.ค. 14, 2010 7:46 pm

มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง จองด้วยครับ โดย chatree จันทร์ เม.ย. 19, 2010 9:21 pm

ROA สำคัญจริงหรือ ขอบคุณทุกท่านมากครับ ได้ความรู้มากครับ และรู้สึกดีว่าแต่ละท่านในที่นี้ มีความยินดีที่จะได้แบ่งปันความรู้ให้มือใหม่อย่างผมได้มองหลายๆมุม ผมว่าการที่ได้ใช้สมองคิดหลายๆแบบอย่างนี้ มันทำให้การลงทุนรู้สึกสนุกมากขึ้นนะครับ โดย chatree จันทร์ เม.ย. 19, 2010 9:20 pm

ROA สำคัญจริงหรือ คุณ Chatchai ใช่ท่านที่เป็นวิทยากรบนเวทีในงาน Money Talk หรือปล่าวครับ ถ้าใช่ ขอแสดงความชื่นชมด้วยนะครับกับความรู้ความสามารถของคุณฉัตรชัย ผมถามเรื่องนี้ เพราะผมรู้สึกว่า พอผมสกรีนหุ้นที่มี ROA ต่ำกว่า 20 ออก ผมได้เอาหุ้นออกหลายตัว ที่แม้ ROA จะต่ำกว่า แต่มีผลกำไรที่ค่อนข้างแน่นอน และ PE ก็ต่ำด้วย ผมเลยมีความรู้สึกว่า ROA และ ROE มันคือผมตอบแทนของผู้ถือหุ้นชุดแรก เช่น หากมีคนลงทุนสร้างโรงงาน 100 ล้านบาท และสามารถทำกำไรได้ปีละ 5 ล้านบาท ROE ของเค้าก็คือ 5% แต่หากเจ้าของเก่าเค้าเบื่อแล้ว เอามาขายให้เราที่ราคา 50 ล้านบาท และบริษัทยังสามารถทำกำไรเท่าเดิม ROE ของเราก็จะเท่ากับ 10% ซึ่งหากดู PE ก็จะเท่ากับ 10 เท่า แต่หากดู ROE ตาม Book ก็จะเท่ากับ 5% เพราะฉะนั้น ผมจึงสับสนว่า ROA และ ROE ที่น้อย อาจจะไม่ได้แปลว่ากิจการไม่น่าสนใจก็ได้ หากว่าความสามารถในการทำกำไร สามารถคาดการณ์ได้ และราคา PE ยังต่ำในจุดที่น่าสนใจ ผมเป็นมือใหม่ครับ เลยอยากทราบความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อคอนเฟิร์มในบางส่วนที่ผมอาจจะคิดไม่ถึงครับ โดย chatree อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 2:37 pm

สรุปสัมมนาเรื่องลงทุนแบบวอร์เรนและ วิถีVIไทย 17/4/10 สุดยอดครับคุณ champ_st ขยัน และมีน้ำใจ ถ้าเรียนหนังสืออยู่ ผมจะขอไปนั่งข้างๆเลยครับ จะได้ขอยืมเลคเชอร์อ่านตอนสอบ อิอิ สัมมนาสนุกดีนะครับ เวลาน้อยไปนิด เลยยังไม่ได้เจาะลึกเทคนิคการเลือกหุ้นของแต่ละคนเลย น่าจะมีการรวมตัวทำ workshop แบบให้โปรแต่ละคนมาจำลองการเลือกหุ้นว่าทำอย่างไร วิเคราะห์อย่างไร และตัดสินใจอย่างไร เพื่อจะทำให้ มือใหม่ที่ยังตามืดบอด เกิดความสว่างไสว ไม่หลงผิดไปทางด้านมืดของการลงทุนนะครับ โดย chatree อาทิตย์ เม.ย. 18, 2010 8:57 am

ROA สำคัญจริงหรือ A ไม่ได้เปรียบยังไงครับ ถ้า A ลงทุนเพิ่มอีก 100 บาท ได้ผลตอบแทนกลับมา 35 บาท เทียบกับ B ที่ลงทุนเพิ่ม 100 บาท ได้ผลตอบแทน 5 บาท ถ้าเงินที่ลงทุนเพิ่ม มีต้นทุนการเงิน 10% บริษัท A ขยาย มีแต่กำไรจะเพิ่ม บริษัท B ขยายไม่ได้เลย เนื่องจากต้นทุนการเงินสูงกว่าผลตอบแทนสินทรัพย์ สำหรับผม PE เป็นตัวเรียบง่าย สะดวก และที่ดีที่สุด ในการดูมูลค่าหุ้น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า คุณได้ Take ตัวแปรทุกตัวลงไปในสมองเรียบร้อยแล้ว A ไม่ได้เปรียบ ฺB เพราะ ROA นั้นเป็น ROA ที่คำนวณจากมูลค่าทรัพย์สินตามบัญชีครับ หากคำนวณจากมูลค่าทรัพย์สินจริงตามมูลค่าตลาด ก็จะได้ ROA เท่ากันครับ โดย chatree เสาร์ เม.ย. 17, 2010 10:59 am

ลุงข้างบ้านเล่นหุ้นแบบ VI จนหมดตัว ต้องเสียใจกับลุงด้วยครับ ถ้าจะใช้กลยุทธ์เหาฉลาม คือตามเซียน ต้องตามให้ถูกคน ถ้าลุงตามถูกคน คงไม่แย่ขนาดนี้ครับ ถ้าคิดอะไรไม่ออก บอก dr นิเวศน์ครับ hmpro cpall cpf aot ถ้าซื้อไว้ตอนที่ท่านบอก ป่านนี้คงยิ้มกริ่ม ส่วนใหญ่ท่านจะบอกตอนไหนและที่ไหนครับ จะได้ติดตามถูก โดย chatree เสาร์ เม.ย. 17, 2010 10:50 am

ROA สำคัญจริงหรือ ถ้าบริษัท A กับ บริษัท B มีราคาทรัพย์สินตามมูลค่าตลาดเท่ากันล่ะครับ บริษัท A ก็ไม่ได้เปรียบบริษัท B ส่วน PE นั้น ถ้าสมมุติว่าทั้งสองบริษัทปันผล 100% เช่นบริษัท A ซื้อ 80 บาท ได้ปันผล 10 บาท ก็จะได้ผลตอบแทนเท่ากับ 12.5%  บริษัท B ซื้อ 40 บาท ได้ปันผล 10 บาท ก็จะได้ผลตอบแทนเท่ากับ 25% ถ้าบริษัทไม่มีการการเก็บกำไรไว้เลย ราคาก็จะเท่าเดิมถ้า PE เท่าเดิม ซึ่งท้ายที่สุด ผมว่า PE ก็น่าจะปรับมาใกล้เคียงกันในอนาคต หากผลประกอบการเท่ากัน ที่ผมต้องสมมุติให้สองบริษัทเท่ากันทุกอย่าง เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบ ในชีวิตจริงผมทราบว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่มันก็ไม่ได้บอกเหมือนกันว่า บริษัท A ต้องดีกว่าบริษัท B หาก ROA มากกว่า ในทางตรงกันข้าม บริษัท B อาจจะดีกว่าก็ได้ เพียงแค่มีมูลค่าทรัพย์สินในบัญชีมากกว่าบริษัท A เท่านั้น พอดีผมดูงบดุลของบางบริษัท เกิดความสงสัยบางอย่าง เช่นราคาที่ดิน ที่ซื้อไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ราคาก็ไม่เท่าเดิม พวกตีกอาคาร เครื่องจักร ก็ถูกหักค่าเสื่อมไปหมด ซึ่งจริงๆแล้ว ก็ยังมีมูลค่าอยู่ ถ้าดูมูลค่าทรัพย์สินตามบัญชี ก็จะน้อย แต่หากคู่แข่งจะต้องทำโรงงานในแบบเดียวกัน มูลค่าทรัพย์สินอาจจะต้องเยอะกว่านี้มากก็เลยเกิดความสงสัยครับ โดย chatree เสาร์ เม.ย. 17, 2010 10:33 am

ต้องดู Market Cap มั๊ยครับในการเลือกซื้อหุ้น ผมดู ROA 5 ปีประกอบกันครับ ว่าต้องมีความสเถียร และ เทรนด์ดี ถ้าดูตามคำแนะนำก็คงไม่ต้องกังวลกับเรื่อง Market Cap มาก ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะครับ โดย chatree อังคาร มี.ค. 30, 2010 5:45 pm