Re: หนังสือเศรษฐศาสตร์ราม download ฟรี :shock: :D ขอบคุณมากๆครับ โดย bladew124 อาทิตย์ ธ.ค. 18, 2011 11:00 pm

Re: แจก Excel คำนวณ Fair value ครับ ขอคารวะและขอขอบคุณ ในน้ำใจของคุณnattapol_ssp ครับ มีประโยชน์มากๆ จริงๆครับ อันที่จริง ผมกับเพื่อนพยายามทำโปรแกรมสำเร็จรูป ตามหนังสือของคุณนรินทร์อยู่ แต่ติดตรงที่ ความเข้าใจในสูตร และทักษะการใช้ เอ็กเซลล์ พอเจอแบบนี้ เท่ากับว่า...ไชโย... :B ใช้แล้วพบปัญหาใดจะแจ้งให้ทราบครับ โดย bladew124 อาทิตย์ ต.ค. 02, 2011 4:49 pm

Re: ตาราง EXCEL การคำนวน อัตราส่วนทางการเงิน + valution รบกวน ท่านใดที่มีไฟล์ ช่วยอัพโหลดให้ ด้วยครับ เพราะลิ้งค์ เดิม error หมด แล้วครับ ขอบคุณมากๆ ครับ โดย bladew124 เสาร์ ส.ค. 27, 2011 6:07 pm

Re: จะรู้ได้ไงว่า เราให้ P/E ตัวนั้น เหมาะ สม ถามคุณ send ต่อครับ แล้ว leading PE กับ กับ trailing PE เลือกใช้ต่างกันอย่างไรครับ ถามว่าเลือกใช้ต่างกันยังไง???? อันนี้ผมไม่แน่ใจนะ เอาเป็นตอบว่าผมใช่อย่างไรละกัน บางครั้งผมใช้ Trailing PE ในการกรองหาหุ้นราคาถูก(แค่กรองนะครับไม่ได้บอกว่าหุ้นตัวนั้นราคาถูก เพราะบางครั้ง PE ที่ต่ำอาจเกินจากกำไรที่ไม่ปกติ) เนื่องจากฐานข้อมูล PE ของ SET หรือ พวก บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆมักเป็น Trailing PE จากนั้นผมจะใช้ Leading PE เพื่อดูว่าจริงแล้วหุ้นตัวนี้ถูกหรือแพงกันแน่(เนื่องจากการลงทุนต้องมองไปที่อนาคต) ซึ่งการจะหา Leading PE ได้ ก็ต้องมีการคาดการณ์กำไรในอนาคตครับ วิธีการใช้ Leading PE เพื่อดูว่าถูกหรือแพง เราอาจเทียบกับ บริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน, ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม หรือ ใช้ Justified Leading PE นั่นเอง สุดท้ายการใช้อัตราส่วนการเงินนั้นบอกแค่ว่า หุ้น A ถูก กว่าหุ้น B แต่ไม่ได้บอกว่า หุ้น A น่าลงทุนนะครับ บางครั้งทั้งหุ้น A และ B อาจไม่น่าลงทุนทั้งสองตัว ยกเว้น เทียบกับ Justified PE ครับ ถ้าต่ำกว่าแสดงว่าน่าลงทุนครับ แต่ปัญหาของ Justified PE คือ การที่ Re หรือ g เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคำตอบที่ได้จะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก(ซึ่งการคาดการณ์ Re และ g ที่แน่นอนก็ทำได้ยาก) ดังนั้นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้คือการหา Justified PE หรือ ราคาที่เหมาะสมของหุ้นแบบเป็นช่วง (ในกรณีของผมชอบหาแบบ Conservative ไว่ก่อน) สุดท้ายการตัดสินใจอย่าลืม Margin of Safety และ เมื่อลงทุนไปแล้วก็อย่าลืมเรื่อง Mr.Market และคิดให้รอบครอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ ขอบคุณครับ คุณsend ขอถามอีกนิด จากสูตรแสดงว่า leading PE จะต่ำกว่า trailing PE เสมอ หาก อัตราการเติบโต มากกว่า 1% ถูกต้องหรือปล่าวครับ หรือ ค่า g ในสูตร ต้องหารด้วยร้อยครับ โดย bladew124 พุธ มิ.ย. 08, 2011 12:53 am

Re: สอบถามพี่ๆ เวลา Port แดงหมดทุกตัว เราควรจะทำอย่างไร สำหรับผม ถือหลัก ถือเท่าที่สบายใจครับ ถ้าเต็มพอร์ท100%แล้ว และแดงทุกตัว บวกรู้สึกไม่สบายใจ ก็ควรขายออกบางส่วน เพื่อทำให้ตัวเองสบายใจขึ้น(แต่ละคน อดทนต่อการขาดทุนได้ไม่เท่ากัน) เข้าใจว่า ใจยังไม่แกร่งเหมือนวีไอ ที่ลงทุนมานาน (มั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเองมาก ว่าราคาที่ซื้อ โอเคแล้ว) ถ้าพอร์ทติดลบมากๆ น่าจะแย่ แบบนั้นก็ไม่ดีครับ(ยกเว้นเป็นเงินเย็นมากๆ) อีกอย่าง ถ้าตลาดมันลงหนักมากๆและหมดหน้าตัก ก็จะเสียโอกาส ซื้อหุ้นดี ราคาถูก ---------------------- โดย bladew124 อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 10:34 pm

Re: จะรู้ได้ไงว่า เราให้ P/E ตัวนั้น เหมาะ สม ถามคุณ send ต่อครับ แล้ว leading PE กับ กับ trailing PE เลือกใช้ต่างกันอย่างไรครับ โดย bladew124 อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 7:41 pm

Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้ :?: ไม่มีหุ้นครับ แต่อยากทราบว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่างมีนัยยะสำคัญ จะหาข้อมูล ได้ที่ไหน ครับ โดย bladew124 ศุกร์ พ.ค. 06, 2011 10:22 pm

Re: สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: SAP...? กร๊ากๆๆๆ ขำมากมาย สุดยอดครับบบบบบบบ โดย bladew124 อาทิตย์ พ.ค. 01, 2011 11:45 pm

Re: ถ้าหุ้นที่ซื้อราคาขึ้นไป เราจะควรซื้อเพิ่มมั้ย? :D เป็น คำถามที่พบกับตัวบ่อยมากๆ สำหรับผม เล่นหุ้นอย่างไร ก็หวัง capital gain (แบบระยะยาว) ------------------- ขอแชร์ความเห็นนะครับ ไม่มีผิดถูกนะครับ หุ้นบางตัวราคา มันขึ้นไปเรื่อยๆ(แบบไม่หวือหวา) จะมีย่อลงมาบ้าง แต่ไม่นานและมักจะตั้งซื้อไม่ได้ ดังนั้น เราตั้งใจสะสมจำนวนหุ้น(ตริตรองดีแล้วว่า เป็นหุ้นที่ดี เข้าตำรา) ผมทำสามแบบครับ แบบแรก ทะยอยสะสม แบบนี้ จะค่อยๆซื้อทีละน้อยๆ แบบที่สองคือ DCA แบบนี้ ไม่ต้องสนใจราคา แบบที่สาม เฝ้ารออย่างอดทน จนวันที่ตลาดตกใจ ลดราคามากๆ อัดเต็มที่ โดยส่วนตัว แบบแรก สบายใจสุด ซื้อขาขึ้น ตามไปเรื่อย แบบที่สาม น่ากลัวสุด เพราะซื้อแล้วมักลงต่อ แต่ถ้า เรามั่นใจจริง สุดท้ายมันจะกลับมา และได้ ผลตอบแทนดีสุดครับ ส่วนแบบที่สาม ผมใช้ซื้อหุ้นประเภทที่ หุ้นราคาต่อหุ้นสูงมากๆ พวกบลูชิพ ครับ ---------------------------- โดย bladew124 พฤหัสฯ. เม.ย. 21, 2011 10:34 pm

Re: หมอกับการลงทุน :P ชอบที่เขียนมาครับ โดย bladew124 จันทร์ เม.ย. 04, 2011 2:48 pm

Re: เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว ตอน มันนี่ทอล์ค สูตรลับของวีไอ (2703 ปลดด้วยคน ครับ โดย bladew124 อังคาร มี.ค. 29, 2011 7:11 pm

Re: การหา Require Return of Equity ( Re) ด้วย CAPM เชิงปฏิบั :oops: เข้าใจแล้วครับ เท่ากับ นี่คือวิธีหา cost of equity (ซึ่งคำนวณจาก CAPM และ beta แต่อาจมีความคลาดเคลื่อนได้สูง) และเมื่อนำไปถ่วงกับ cost of debt ก็จะได้ WACC ( แล้วนำไปใช้คำนวณ ร่วมกับ อัตราการเติบโต และ FCF เพื่อจะได้ค่า DCF) -------------------------- หาก ใช้สูตร ที่ต้อบคำนวณด้วย ค่า beta คลาดเคลื่อนได้สูง อย่างนั้นจะคำนวณด้วยวิธีไหนดีครับ ขอบคุณมากครับ โดย bladew124 อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 9:44 pm

Re: การหา Require Return of Equity ( Re) ด้วย CAPM เชิงปฏิบั :D ขอบคุณมากครับ อันนี้คือ cost of capital ใช่ป่าวครับ แล้วถ้า weight หนี้สิน กับ ส่วนของผู้ถือหุ้นด้วย ก็ จะกลายเป็น WACC ใช่หรือปล่าวครับ ปล พอจะมี วิธีหาอัตราการเติบโตระยะยาวได้ หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ โดย bladew124 ศุกร์ มี.ค. 25, 2011 11:34 pm

Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54 :bow: ขอบคุณมากๆครับ โดย bladew124 อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 4:14 pm

Re: ค่า FCF t อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล โดย bladew124 พุธ มี.ค. 09, 2011 12:33 am

Re: มือใหม่กับ Fair value ครับ พอเข้าใจความรู้สึก ครับ ผมเอง ก็รู้ไม่มากพอจะอธิบาย รู้แต่ว่า เล่นแนวนี้มานาน วนๆอ่านอยู่ในเวบนี้ แล้วก็พยายาม ยึดหลักการไว้ อย่างเหนียวแน่น ในแง่ของจิตใจวีไอ เช่น การ เป็น นายเหนือตลาด รวมทั้ง เลือกหุ้นเหมือน คิดจะเป็นเจ้าของกิจการ หรือการเลือกหุ้นที่มี DCA เป็นกิจการที่ดี ผลประกอบการดี มีผู้บริหารที่ดี ยังพอถามๆ กันได้ หรือหาข้อมูล ได้ แต่ไอ้ที่ยากที่สุด ก็ เรื่องการประเมินมูลค่าแท้จริงนี่แหละ (เข้าใจว่า เป็นการคาดเดา ที่ คลาดเคลื่อนได้สูง) ถ้าไม่ทราบมูลค่าแท้จริง ก็จะไม่รู้ ว่า MOS อยู่จุดไหน ถ้าไม่รู้ MOS จุดไหน ก็ไม่รู้จะ ซื้อ ถือ หรือขาย อย่างไร ---------------------------- อย่างไร ก็อย่าเพิ่งท้อนะครับ โดย bladew124 อังคาร มี.ค. 08, 2011 2:55 pm

Re: ค่า FCF :shock: ขอบคุณมากๆ ครับ โดย bladew124 อังคาร มี.ค. 08, 2011 12:14 am

Re: มือใหม่กับ Fair value ครับ ตามกระทู้นี่ เลยครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=20&t=46227 โดย bladew124 อังคาร มี.ค. 08, 2011 12:01 am

Re: risk free rate ด้วยครับ :D กำลังหาอยู่ ขอบคุณมากๆ ครับ โดย bladew124 จันทร์ มี.ค. 07, 2011 11:58 pm

Re: มือใหม่กับ Fair value ครับ กำลังหัดเรียนรู้อยู่เช่นกันครับ โดยส่วนตัวคิดว่า จำเป็น ครับ โดย bladew124 จันทร์ มี.ค. 07, 2011 11:55 pm

Re: risk premium ขอบคุณ ครับ โดย bladew124 เสาร์ มี.ค. 05, 2011 4:16 pm

Re: ขอแนะนำเวปรวบรวมข่าวครับ สุดยอดมากๆ ครับ ท่าน ขอบคุณมากๆ ครับ โดย bladew124 พุธ ก.พ. 09, 2011 11:00 pm

Re: หุ้นสร้างมูลค่า มั่งคั่งระยะยาว ขอบคุณครับ โดย bladew124 พุธ ม.ค. 19, 2011 8:39 pm

Re: สรุปงานสัมนา 15 มกราคม แนวโน้ม ศกและหุ้นไทยปี 54 ขอบคุณมากๆครับ ติดตามผลงานมาตลอด ครับ โดย bladew124 จันทร์ ม.ค. 17, 2011 11:20 pm

กฏเหล็ก บริหารเงิน บริหารกาย บริหารใจ ขอบคุณมากๆ ครับ โดย bladew124 พุธ ก.ย. 22, 2010 10:42 pm

Re: สภาวะตลาดค่อนข้างร้อนแรง ในสภาวะแบบนี้ ควรปรับพอร์ตอย่าง แต่ละท่านเห็นว่า ควรระวังอะไรบ้าง ควรใช้กลยุทธ์การลงทุนอย่างไร ความจริงควรว่าด้วยการลงทุนก่อนน่ะครับ ว่าหลักลอยเอ๊ยหลักการแบบไหน ถ้าเราหวังถือหุ้นรับเงินปันผลดีกว่าฝากแบ๊งค์ ส่วนต่างราคาเป็นของแถม ก็อย่าไปมองหุ้นเก็งกำไร เพราะคนถือหุ้นเก็งกำไร โดย bladew124 อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 12:02 am

4 เซียนชี้จังหวะคัดหุ้นเด่น ขอบคุณครับ โดย bladew124 เสาร์ ส.ค. 14, 2010 12:48 pm

จะหาดูว่า pe ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม หาไม่เจอเหมือนกันครับ คงต้องใช้วิธีสอบถามจากมาเก็ตติ้งหรือเข้าไปในเวบ ของบริษัทโบรคเกอร์ แต่ถ้าจะดูเป็นตัวๆ ตามกลุ่มอุตสาหกรรม ก็เข้าไปที่ settrade ก็ได้ครับ เข้าไปที่ ข้อมูลหลักทรัพย์ ข้อมูลหุ้นรายตัว ตัวไหนก็ได้ ในอุตสาหกรรม ที่สนใจ จากนั้นคลิกไปที่ อันดับในอุตสาหกรรม เลือกที่ หัวข้อ จัดลำดับตาม PE หรือPB ก็ได้ จากนั้น หุ้นทั้งเซตเตอร์ จะเรียงออกมาให้ดูครับ โดย bladew124 เสาร์ ส.ค. 14, 2010 12:29 pm

ที่ download หนังสือฟรี สำหรับนักลงทุน (เกษตร, ราม) ได้ประโยชน์มากๆครับ ขอบคุณครับ โดย bladew124 ศุกร์ ส.ค. 13, 2010 12:42 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 ศุกร์ ส.ค. 13, 2010 12:10 am

เนื่องจากมีเพื่อนในบอร์ด ส่งข้อความมาหาผมขอ EXCEL DCF อยากรู้ ด้วยขอ ขอด้วยครับ ขอบคุณครับ [email protected] โดย bladew124 ศุกร์ ก.ค. 16, 2010 10:56 pm

ความรู้สำหรับหุ้นเดินเรือครับ ขอบคุณครับ ดูอยู่ห่างๆ ครับ แต่น่าจะหลายปี กว่าถึงรอบ วัฎจักรขาขึ้น โดย bladew124 ศุกร์ ก.ค. 16, 2010 10:50 pm

วิกฤติ คุณภาพเวปบอร์ด Thaivi.com :wink: ด้วยความเคารพครับ เห็นด้วยทุกประการ แต่เนื่องจากเป็นเวบเปิด และเป็นเวบแห่งการเรียนรู้ ผิดถูกก็เรียนรู้กันไป ครับ คนเก่าๆ ก็ค่อยๆ ตอบน้อยลง คนใหม่ๆ ก็เข้ามา ผมเข้าๆ ออกๆ มานานตั้งแต่รุ่นแรกๆ แต่ไม่ค่อยได้โพสเพราะไม่มีความสามารถอันใด ขอเพียงมีน้ำใจ แบ่งปัน และช่วยกัน ทุกอย่าง มีทางของมัน โดย bladew124 พุธ ก.ค. 07, 2010 3:02 pm

คุณว่า ความรู้ หรือ วินัยการลงทุนกันแน่ที่ทำให้คุณประสบความส วินัยครับ --------------- ความรู้ ส่วนใหญ่เป็นความรู้มือสอง คือ จำมาอีกที หรือได้รับการบอกต่อ ลอกการบ้านมาก็มาก เวลาปฎิบัติจริง สิ่งที่ทำให้ อยู่รอดได้คือ วินัยในการลงทุน ครับ โดย bladew124 อังคาร มิ.ย. 29, 2010 1:24 pm

ในที่สุดก็วิเคราะห์เสร็จ เย้ :wink: อ่านมันส์ ดีครับท่าน อย่างที่ ว่าไว้เป็นมุมมองเฉพาะตัว พิจารณา กันตาม อัธทยาศัยครับ โดย bladew124 พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2010 10:40 pm

ถึงแฟนๆจูบิลี่ รับทราบครับ ท่านประธาน โดย bladew124 พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2010 7:57 pm

ตั้งเป้าหมาย retire ที่อายุเท่าไหร่ และ พอร์ตใหญ่แค่ไหน :8) อิสระภาพ ขึ้นอยู่กับความพอ ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ครับ เรื่องเกษียณ ไม่คิดครับ แค่ขอให้ได้ทำงาน ที่เรารัก และมีเวลา สำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีครับ ทุกวันนี้ ชีวิต ผมเดินทางมาไกลพอควรแล้วครับ คร่าวๆ ก็ราว สองในสามของชีวิตทำงาน เคยมี มากจนเกินพอ แล้วก็หมด ด้วยเหตุ ปัจจัย อันจำเป็น ของมัน ผมเพิ่งเริ่มนับหนึ่งใหม่ เมื่อปีที่แล้ว มีพาสซีฟอินคัม จากการลงทุนในหุ้นพอควร แม้จะไม่มาก มีงานที่ทำด้วยใจรัก เป็นเจ้านายตัวเอง มีเวลาไปทำงานเพื่อตอบแทนสังคม ทุกสัปดาห์ มีเวลาสำหรับคุณภาพชีวิต และครอบครัว มีหนี้พอตัว ทรัพย์สินมีไม่มาก แต่ผมคิดว่า ตัวเองเป็นอิสระภาพมากกว่า สมัยมีเงินหลักสิบล้าน ถ้าควบคุมกิเลสคือความอยากมี อยากได้อยากเป็น ให้พอเหมาะ ถ้าได้ทำงานที่มีคุณค่า ถ้ามีเวลาสำหรับสิ่งอื่นในชีวิต มากกว่าการหาเงิน ผมว่า นั่นแหละ อิสระภาพ ทางการเงิน และเวลา โดย bladew124 พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2010 7:53 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 อังคาร เม.ย. 06, 2010 10:49 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 จันทร์ เม.ย. 05, 2010 3:12 pm

กระทู้รายงานการซื้อขายผู้บริหาร 59-2 ประจำวัน ขอบคุณ ครับ ท่านซาอิ โดย bladew124 พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 8:25 pm

Set ขึ้นเร็วไปหน่อยหรือเปล่าครับ :twisted: เสียอารมณ์ อดซื้อของถูก แฮ่ๆๆ ล้อเล่นครับ ขึ้นไปขนาดนี้ ก็ทะยอยขายคลายเครียดไปบ้าง ขึ้น ก็ดีครับไม่ต้องห่วงอะไร ตอนลงนี้ ดิ ต้องมาคอยดูว่า จะซื้ออะไรดี ปวดหัวมากกว่า ครับ  :D โดย bladew124 พุธ มี.ค. 24, 2010 11:00 am

++++++ออกมาเตือนน้องๆเกี่ยวกับการลงทุนครับ!!!!!!!!+++++++++ :D โอเคครับ โดย bladew124 อังคาร มี.ค. 23, 2010 9:12 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 2:11 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 พุธ มี.ค. 17, 2010 11:00 pm

มุมมองลงทุนสไตล์ Sai :shock: มารอฟังด้วยคนครับ โดย bladew124 พุธ มี.ค. 17, 2010 2:56 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 พุธ มี.ค. 10, 2010 10:25 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย bladew124 พฤหัสฯ. มี.ค. 04, 2010 7:13 pm

เข้าดีหรือไม่เข้าดี.... :D ดีใจด้วยครับ ที่ได้ซื้อหุ้นในราคาที่ต้องการ สำหรับผม ขอรอครับ ภาพที่เห็นข้างหน้าค่อนข้างชัดว่า คลื่นลมยังแรง และส่อเค๊าว่าอาจทวีกำลังขึ้นได้อีก เผลอๆ มีอาฟเตอร์ช็อกอีก ปีนี้คงมี จังหวะให้ทะยอยซื้อได้ เรื่อยๆ ตลอดปี ครับ โดย bladew124 จันทร์ ก.พ. 15, 2010 11:29 pm

วิเคราะห์มูลค่าหุ้นคร่าว ๆ ตามแบบ มาร์ค โมเบียส :D จากตาราง ตัวที่โอกาสกำไร จากราคาวิ่ง บางตัว ก็น่าลุ้น เอาไว้ตีแตก บางตัว คล้ายๆเทิร์นอะราวด์ ตัวที่ติดลบ  เสี่ยงราคาจะร่วง ก็เป็นหุ้นดีๆ ที่คนคาดหวังอย่าง บ้านปู ปูนใหญ่ พฤกษา dcc   โฮมโปร ซีเอ็ด ...... ดูแล้วเหมือนการวิเคราะห์เชิงราคา ดูโอกาสทำกำไร จากแคปปิตอลเกน มากว่าการดูคุณภาพของกิจการ แต่ก็น่าสนนะ บางส่วน(น้อยๆ)ของพอร์ท น่าจะมีหุ้นตีแตก ไว้บ้าง :wink: โดย bladew124 พุธ ก.พ. 10, 2010 12:05 am

ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ :D ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมครับ บางครั้ง หุ้นที่กิจการยอด DCA ดียอดเยี่ยม ดีครบตามสูตร แต่สุดท้ายปัญหาคือ ราคามัน ก็สูงยอด ด้วยเหมือนกัน (พีอีสูง) ยิ่งเลือก กลุ่มธุรกิจที่บูมสุดๆในปีสองปีนี้ เช่น ค้าปลีก อย่างนั้น ก็คงได้แต่มอง บางท่านจึงต้อง แสวงหา หุ้นดี ที่คนยังไม่มอง หรือภาพยังไม่ชัดขนาดเรียกว่า หุ้นดีเยี่ยม พวกนี้ ก็ติดปันผลต่ำ หรือไม่ปันผล เพราะต้องเก็บไว้ ลงทุน บางท่าน ก็เลือกหุ้นเติบโต ที่ตอนนี้ ภาพโตยังไม่ชัด แต่คาดว่ามันจะโต พวกนี้ ก็อาจมี DE สูง ถ้าเน้นปันผลดี ก็อาจจะ สภาพคล่องน้อย หรือ ราคาหุ้นนิ่งสนิท เป็นได้แค่ cashcow นั่นคือ แทนที่เราจะเน้นสไตล์defensive stock อย่างเดียว ก็ควรมี growth stock อยู่ในพอร์ทด้วย และที่แจ๋วสุด ควรมีหุ้นประเภทspeculative stock เพื่อไว้ตีแตกด้วย หุ้นแต่ละแนว ก็มีวิธีการเลือกไม่เหมือนกัน เพราะถ้าใช้หลักการเดียวกัน เราจะได้หุ้นเหมือนกันทั้งพอร์ท ทั้งหมดนี้ ก็คือการmanage port นั่นเองครับ สรุปคือ นอกจาก stock selection แล้ว การ managed port ก็สำคัญมากๆ ครับ โดย bladew124 เสาร์ ก.พ. 06, 2010 12:15 pm