หลักสูตรใหม่.. สงสัยตัวจริงของคนเขียน ไม่ดัดจริตเป็นคนดี หรือพูดง่ายๆเป็นคนเลว หรือเปล่า คุณโป้งคิดถูกแล้วครับ "ผมเป็นคนเลว" .... ผมเคยเห็น "คนดี" มาเยอะแล้ว ส่วนใหญ่จบไม่ค่อยสวย (ขอไม่อธิบาย...ยาว) ถ้าผมเล่นการพนัน แล้วเสีย...ผมว่า "การพนันเป็นสิ่งไม่ดี" แต่ถ้าผมเล่นแล้วได้....ผมว่า "การพนันเป็นสิ่งที่ดี" ทุกวันนี้ ผมก็ว่า "การพนัน" เป็นสิ่งไม่ดี เพราะผมไม่ได้ โดย Jaffa อาทิตย์ เม.ย. 17, 2005 9:37 pm

หลักสูตรใหม่.. อา ได้เวลาแสดงอภินิหาร "เป็นคนดี" อีกแล้ว และยกเลิกหวยบนดิน หวยใต้ดิน เรื่องบอลด้วย ปราบให้หมด อินเตอร์เน็ตแทงบอล ก็ตามไปปราบทุกเว็บไซด์ เรียกว่า เอาให้เหี้ยนไปเลย ถ้าทำได้อย่างนั้น ถ้ามีนักการเมืองคนไหน ประกาศแบบนี้ตอนเลือกตั้ง แล้วประชาชนเลือก ผมให้กระทืบ...สังคมไทย สังคมของคน "ดัดจริตเป็นคนดี" ...มีหวย เหล้า การพนัน ครบ (ไม่มีลูกค้ามันจะอยู่ได้อย่างไร) โดย Jaffa อาทิตย์ เม.ย. 17, 2005 11:13 am

ปตท. ทนรับภาระขาดทุนไม่ไหว ปรับขึ้นอีก 40 สต. น่าเห็นใจไหมนี PTT จำไว้เป็นบทเรียน.... คนไทยน่ะ ทำดีก็ว่า ทำชั่วก็ด่า อยากขึ้นก็ขึ้นไปเลย ทำชั่ว ก็ด่าว่าชั่ว ค้ากำไรเกินควร ไม่เห็นใจคนจน..... แต่ถ้าทำดี มันก็ว่า สร้างภาพ หลอกลวง หน้าไหว้หลังหลอก....อีกเยอะแยะ "เสียเงิน แล้วถูกด่า" หรือจะสู้ "ได้เงิน แล้วถูกด่า" โดย Jaffa เสาร์ เม.ย. 16, 2005 2:05 pm

เมื่อวานใครดูถึงลูกถึงคนบ้างครับ เรื่อง คดีบัตรเครดิต !!!! ตามกฏหมายแล้ว ต้องพิสูจน์ครับ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำ ก็ ฟ้องกลับครับ +เรียกค่าเสียหายครับ เพราะเขาแจ้งความเท็จ ยุติธรรมครับ :mrgreen: ผมฟังอยู่ครับ ถ้าเราฟ้องกลับ เราก็ได้แค่เงินค่าปรับ (ธนาคารก็เป็นคนจ่ายอยู่ดี) แล้วคุณคิดว่า ทนายมันจะกลัวการฟ้องกลับหรือเปล่า.... ถ้าจะยุติธรรม ต้องสามารถฟ้องให้คนชี้ทรัพย์ติดคุกได้ด้วย พวกมันถึงจะระวังตัว ไม่ชี้มั่ว โดย Jaffa จันทร์ มี.ค. 28, 2005 11:13 am

เมื่อวานใครดูถึงลูกถึงคนบ้างครับ เรื่อง คดีบัตรเครดิต !!!! ผมก็ดูอยู่ ฟังแล้วเหมือนๆกับว่า "ผมชี้ว่า คุณฆ่าคนตาย"...จากนั้น "คุณก็ต้องมาพิสูจน์ว่า คุณไม่ได้ฆ่า(ไม่ใช่คนกล่าวหาพิสูจน์)" ...ฟังแล้วก็แปลกๆ โดย Jaffa เสาร์ มี.ค. 26, 2005 3:02 pm

ขอโทษผิดคำพูดว่าไม่ post แต่อยากพูดเรื่องเบียช้าง เพราะทนไม่ นอกจากรณรงค์ "ห้ามเบียร์เข้าตลาดหลักทรัพย์" แล้ว ผมขอเพิ่ม "ให้นำทีวี ตู้เย็น และอินเทอร์เน็ต ออกจากกุฏิ" ด้วย โดย Jaffa พุธ มี.ค. 23, 2005 1:14 pm

ขอโทษผิดคำพูดว่าไม่ post แต่อยากพูดเรื่องเบียช้าง เพราะทนไม่ ในฐานะที่ผมที่ "ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ"... ทำไม "ผมต้องทำตามคำสอนของศาสนาพุทธ"ด้วย ไหนบอกว่า "คนไทยมีสิทธิและเสรีภาพในการนับถือศาสนา" ไง โดย Jaffa พุธ มี.ค. 23, 2005 1:08 pm

ขอโทษผิดคำพูดว่าไม่ post แต่อยากพูดเรื่องเบียช้าง เพราะทนไม่ คนรวย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของเมืองไทย ทำไมต้องพยายามเอาเบียร์เข้าตลาด เพราะเขาใช้เงินที่มีอยู่ เป็นเจ้าของแต่ผู้เดียวก็ได้ สบายอยู่แล้ว ? - มีแต่กิจการดีจริง จะไม่เข้ามาในตลาด ในทางกลับถ้าอยู่ในตลาดจะพยายาม tender ตัวเองออกนอกตลาด อย่างที่ท่านรู้กัน เหมือนคำถามของคนที่ไม่ได้เล่นหุ้น หรือทำกิจการ.....ไปเรียนก่อนดีกว่ามั๊ง โดย Jaffa อังคาร มี.ค. 22, 2005 1:20 pm

ขอโทษผิดคำพูดว่าไม่ post แต่อยากพูดเรื่องเบียช้าง เพราะทนไม่ เย้ๆ เอาเข้าตลาดหุ้นเหอะ...ผมจะได้กินเบียร์ได้เพิ่มขึ้น เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่...เอ ปกติผมดื่ม 2 ขวดก็แย่แล้ว เอาเข้าตลาดหุ้นนี่ ผมจะกินเพิ่มได้ 3 ขวดหรือเปล่านะ....อืมๆๆๆๆๆ โดย Jaffa อังคาร มี.ค. 22, 2005 1:18 pm

อุปมา DSM -- ความเข้าใจพื้นฐานของ Den Sri Method ผมว่า "สาเหตุหลัก" ที่คนไม่เข้าใจระบบนี้ น่าจะเป็นเพราะ "การไม่มีระบบบัญชี" แน่ๆเลยครับ...ที่ผมเข้าใจระบบนี้ เพราะผมมีโปรแกรมระบบบัญชี (เขียนเอง-เป็นโปรแกรมเมอร์ ตอนนี้เพิ่มระบบ SAP เข้าไปแล้ว) พอคุณเด่นศรีอธิบายปุ๊บ ผมก็ Get ปั๊บ เพราะผมเคยทำอยู่บ้างในบางครั้ง แต่ไม่เป็นระบบเหมือนคุณเด่นศรี ผมว่า "พี่ CK น่าจะหาระบบบัญชีมาแจกนะครับ" โดย Jaffa ศุกร์ มี.ค. 11, 2005 9:01 pm

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM ว่า "ลาขาด" แล้วนะ แต่กลัวคุณ ba_2l จะเข้าใจผิด เหตุผลที่ผมขอลาขาดเนี่ย 1. คนเริ่มต้นมาเขียนที่นี่คือคุณ CK ผมแค่มาเสริมเท่านั้น ไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาคุณ CK 2. ตอนที่ผมตั้งกระทู้ บังเอิญตอนนั้นอารมณ์ดี ก็เลยตั้งขึ้นมา พอตั้งเสร็จ มีคำถามเข้ามาเยอะ จะทิ้งเลยก็น่าเกลียด 3. ผมเองก็ยังไม่เคยใช้ DSM เลย กลัวถามมากๆ แล้วผมจะตัน (ถามคุณ CK ดีกว่า) หลังจากอธิบายด้วยเหตุผลต่างๆนานาแล้ว เหตุผลสุดท้าย(ในใจเลย).... ตอนนี้ขี้เกียจแล้วครับ (ฮิๆ)...ไปล่ะ โดย Jaffa พุธ มี.ค. 09, 2005 9:25 pm

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM ป.ล.(ก่อนจาก) หลายท่านอาจจะสงสัยคำว่า "กำไร" จากการขาย Short (Short->ขาย 20 ซื้อ 10 = กำไร 10 บาท) = ( ปกติ->ซื้อ 10 ขาย 20 = กำไร 10 บาท) จริงๆแล้ว ผมอธิบาย "หลักการ" ให้ท่านเห็นภาพพจน์ว่า ทำไม Short Sell ถึงทำกำไรได้ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว "คุณไม่ได้กำไรเป็นตัวเงิน" สิ่งที่คุณได้จริงๆ ก็คือ 1. "จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น" เช่น ซื้อ 1@10 บาท ขายไป 20 บาท ได้เงิน 20 บาท แล้วซื้อกลับที่ 10 บาท ได้ 2 หุ้น หรือ 2. "ต้นทุนหุ้นลดลง" เช่น ซื้อ 1@10 บาท ขายไป 20 บาท ได้เงิน 20 บาท ซื้อคืน 1@10 บาท เหลือเงิน 10 บาท นั่นหมายความว่า หุ้น 1 หุ้นที่คุณซื้อคืนมา มีต้นทุนเป็น 0 บาท (ชักทุนออก 10 บาท) ลาขาดครับ โดย Jaffa อังคาร มี.ค. 08, 2005 7:53 pm

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM ผมฝากพี่ CK ด้วยนะครับ ผมแค่ช่วยอธิบายเรื่องที่มาที่ไป และหลักการเบื้องต้นของ DSM เท่านั้น ส่วนเทคนิคการซื้อขายต่างๆ รบกวนพี่ CK ด้วยนะครับ เพราะผมเองก็ไม่เคยใช้ DSM แต่ผมใช้การ Short โดยดู Elliotte's wave และ Technical เป็นหลัก บางครั้งก็พลาด บางครั้งก็ได้...ฝากด้วยนะครับ ผมไปล่ะ (ขอเห็นแก่ตัวนิดนึง) โดย Jaffa อังคาร มี.ค. 08, 2005 7:32 pm

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM คุณ Jaffa ครับ แล้วถ้าเดาตลาดว่าลง แล้วเราขายไป แต่มันไม่ลงแต่กลับขึ้นเราก็ขายหมูเสียหุ้นไปฟรีๆ ไม่ใช่หรือครับ ถูกแล้วครับ ดังนั้นก่อนขายผมก็กำหนด Stop Loss ไว้ที่ 22 บาท นั่นคือถ้าหุ้นไม่ลงจริง หรือลงไปนิดแล้วแล้วเด้งขึ้น เมื่อราคาถึง 22 บาท เราก็ซื้อกลับหมด นั่นก็คือ "เราขาดทุนไปหุ้นละ 2 บาท" ->ซื้อ 22 ขาย 20 ดังนั้น พวก VI ควรจะแน่ใจเสียก่อนว่า ตลาดมันลงแน่ๆ แล้วจึงใช้วิธี DSM DSM คงไม่เหมาะกับทุกคนครับ ต้องมีเวลาเฝ้าหน้าจอด้วย ถูกต้องแล้วครับ แต่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าตลอดเวลาหรอกครับ เพราะพวกคุณเป็น VI การบริหารพอร์ตแบบ DSM จะใช้เมื่อคุณต้องการจะทำครับ ไม่ได้บังคับ DSM เป็นเทคนิคในการบริหารพอร์ตเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเลือกหุ้นแต่อย่างไร ทั้ง VI และ VS ก็ใช้ได้ (ดูเรื่อง Short Sell ข้างบนประกอบ) ทีนี้ ถ้ามันลงเกินกว่าที่เรากำหนดไว้ 10 ขั้น เราขายหุ้นไปหมดก่อน เราจะทำยังไง จะซื้อคืนเมื่อไหร่ งง อันนี้ยิ่งดีใหญ่เลยครับ สมมุติว่าคุณมีหุ้น 1 หุ้น และขายหุ้น 1 หุ้นไปในราคา 20 บาท(ก็คือตอนนี้คุณไม่มีหุ้นมือแล้ว-น่าจะตรงกับคำถาม) คุณก็มีเงินในมือ 20 บาท พอลงมาที่ 10 บาท แต่คุณมองว่าสภาพตลาดไม่ดี มันน่าจะลงได้อีก คุณก็ปล่อยให้มันลงไปจนกว่ามันจะเริ่มผงกหัวขึ้น(อาจใช้หลักการ-ขึ้นจากราคาต่ำสุด 3 ช่องราคา แล้วซื้อกลับก็ได้) สมมุติว่า 5 บาท ดังนั้นเมื่อคุณมีเงิน 20 บาท แทนที่คุณจะซื้อในราคา 10 บาท (ได้ 2 หุ้น) คุณก็ซื้อได้ที่ราคา 5 บาท (ได้ตั้ง 4 หุ้น) แต่ขายหุ้นตัวเองที่ 20 แล้วมาซื้อที่ 10 ผมไม่รู้ว่าผมกำไรหรือขาดทุน สมมุติว่าคุณมีเงินทุนแค่ 10 บาท แล้วคุณก็ซื้อหุ้น A ในราคา 10 บาท คุณก็ได้ 1 หุ้น และรอปันผลปีละ 1 บาท ซึ่งก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเกิดตลาดวิ่งขึ้นแบบไร้เหตุผลไปที่ 20 บาท คุณก็รู้ว่ามันผิดปกติ ก็ให้คุณขายออกไป ผลก็คือ คุณได้เงิน 20 บาท ทีนี้หุ้นก็เริ่มลง เพราะมันขึ้นแบบไม่มีเหตุผล เมื่อหุ้นลงมาที่ 10 บาท คุณก็ซื้อกลับ เมื่อคุณมีเงิน 20 บาท คุณก็ซื้อหุ้น A ราคา 10 บาท ได้ 2 หุ้น เห็นไหมครับว่า ถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย คุณก็มีอยู่ 1 หุ้นเหมือนเดิม แต่ถ้าคุณบริหารพอร์ตบ้าง คุณก็อาจจะมีหุ้นได้ถึง 2 หุ้น และรับปันผลเหมือนเดิม โดย Jaffa จันทร์ มี.ค. 07, 2005 7:31 pm

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM คุณ wpong ครับ ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ แล้วคุณจะเข้าใจทั้งเรื่อง DSM, Short Sell, Short Against Port โดยปกติ ถ้าคุณซื้อหุ้น 1 หุ้นที่ราคา 10 บาท แล้วขายที่ราคา 20 บาท คุณก็จะกำไร 10 บาท ( ปกติ->ซื้อ 10 ขาย 20 = กำไร 10 บาท) ในทางกลับกัน ถ้าคุณเดาตลาด แล้วเชื่อว่าลงแน่ๆ คุณก็ขายหุ้นไปที่ราคา 20 บาท จากนั้นเมื่อลงมาถึง 10 บาท คุณก็ซื้อกลับ ผลก็คือ คุณซื้อ 10 บาท ขาย 20 บาท คุณก็จะกำไร 10 บาท (Short->ขาย 20 ซื้อ 10 = กำไร 10 บาท) = ( ปกติ->ซื้อ 10 ขาย 20 = กำไร 10 บาท) จะเห็นว่าทั้งสองอันจะเป็น "ซื้อ 10 ขาย 20 เสมอ" .....คุณ wpong งงไหมครับ ถ้าไม่งง ก็มาดูว่า "แล้วเอาหุ้นที่ไหนมาขายล่ะ?".....ถ้าคุณยืมหุ้นคนอื่นมาขาย จะเรียกว่า "Short Sell" ถ้ายืมหุ้นตัวเองมาขาย จะเรียกว่า "Short Against Port" ส่วน DSM ก็คือ "Short Against Port" โดย Jaffa จันทร์ มี.ค. 07, 2005 12:40 am

ความเหมือนที่แตกต่างของ VI และ DSM DSM เป็น Trading System เหมือนกับ Turtle Trading เป็น trading system DSM ใช้เทคนิดที่รู้กันอยู่แล้ว คือ short -and- cover แต่เอามาประยุกต์แบบเป็น step. จริงๆแล้ว ผมก็คิดเหมือนคุณ CK คุณ loong_p และคุณ ba_2l แหละครับ เพียงแต่ถ้ามาอธิบายในนี้แล้ว จะยิ่งสับสนไปกันใหญ่ ผมจึงพยายามนำมาเปรียบกับวิธีของ VI เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ เป้าหมายของผมก็คือ ผมไม่อยากให้คนที่เป็น VI ถือหุ้นไว้อย่างเดียว แล้วปล่อยให้ราคาหุ้นมันขึ้นมันลงโดยไม่ทำอะไรเลย เพราะผมเองก็จะถือหุ้นอีกอย่างน้อย 4 ปี ตอนนี้ผมพยายามบริหารพอร์ตอยู่ตลอดเวลา จนต้นทุนหุ้นของผมลดลงทุกวันๆ จนผมสามารถซื้อหุ้นตัวอื่นได้แล้ว (อยากได้หลายตัว แต่ทุนน้อย) เอ่อผมเห็นคุณเด่นศรีเขียนหลักการลงที่พันทิพย์มาไม่ถึงปีไม่ใช่เหรอครับ แล้วไหงมีตั้งหลายคนใช้มา 1 -2 ปีแล้วครับ จริงๆแล้ว คุณเด่นศรีใช้มาหลายปีแล้ว (เท่าที่แกเล่าให้ฟัง) แกเคยเสนอที่พันธุ์ทิพย์มาแล้ว แต่คนไม่เข้าใจ และด่าแกด้วย แกก็เลยเลิกไป แต่ปีที่แล้วหุ้นลงทั้งปี (ทั้งๆที่ผลประกอบการออกมาดี...VI งงไหม) คนก็เลยเข้าใจไอเดียของแก โดย Jaffa จันทร์ มี.ค. 07, 2005 12:27 am

ขอกลับมาเรื่อง DSM อีกครั้ง ผมกลับใช้ Elliott's wave แทน เช่น แนวต้าน wave 3 20 บาท และแนวรับ wave 4 10 บาท ผมก็Short 20 บาทบางส่วน รอดูว่าทะลุหรือเปล่า ถ้าไม่ แล้วเริ่มตกลงมา ผมก็เริ่มขายออกเรื่อยๆ โดยตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 22 บาท (Cover กลับ กรณีไม่ลงจริง) และมาหยุดขายที่ 15 บาท (ครึ่งทาง) แล้วรอรับกลับที่ 10 บาท ถ้า 10 บาท เอาไม่อยู่ ก็เริ่มขายอีก ส่วนเงินที่เหลือ ผมก็เอาไปซื้อ Long หุ้นตัวอื่นบ้าง ตัวเดิมบ้าง เก็บไว้สำรองบ้าง แล้วแต่กรณี โดย Jaffa ศุกร์ มี.ค. 04, 2005 9:48 pm

ขอถามทางเทคนิคหน่อยครับ ว่า ถ้าฟอร์มตัวได้จริง แนวรับ ก็ 717 และ 694 โดยประมาณครับ .. ผมว่าน่าจะจบที่ 717 ถึงแม้รายสัปดาห์จะทำ wave 4 แต่รายเดือนยังทำ wave 3 อยู่ โดย Jaffa พุธ มี.ค. 02, 2005 7:20 pm

ซื้อหุ้นเบียร์ ส่งเสริมอบายมุขหรือไม่ การนับถือศาสนาเป็นเรื่องของ "จิตใจ" พระพุทธเจ้า ท่านไม่เคยบังคับใครให้นับถือและปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธ ท่านจึงใช้คำว่า "ควรละเว้น" ไม่ใช่ "ห้าม" แต่พวกท่านทั้งหลาย (ทั้งพระและฆราวาส) กำลังบังคับจิตใจคนอื่นอยู่... พวกท่านกำลัง "บิดเบือน" คำสอนของพระพุทธเจ้า ...ถ้าพูดแบบน่าเกลียดก็คือ "ท่านบัญญัติศาสนาเอง" โดย Jaffa อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 10:33 pm

ผลสรุปการประชุมกลต. 1. ให้ทุกคน log in 2. ให้กรองคำที่มีความหมายในทางปั่นหุ้น เช่น เจ้ามือ 3. ให้ลบข้อมูลที่ส่อไปในทางปั่นหุ้นภายใน 30 นาที 4. ถ้าไม่ดำเนินการตามนั้น เจ้าของเว็บ หรือเว็บมาสเตอร์จะมีความผิด ตามพรบ.กำกับหลักทรัพย์ มาตราที่ 240 ข้อ 2-4 สะท้อนถึงความไม่รู้ในเรื่อง "คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต" แก่แล้วแก่เลยจริงๆ มีเจ้าหน้าที่คนไหนเคยแย้งให้พวกเขาฟังบ้างไหมเนี่ย แล้วยังงี้จะไว้ใจเว็บไซต์ของ settrade ได้ยังไงเนี่ย ต่อให้มีคอมพิวเตอร์ดีเยี่ยมขนาดไหน โปรแกรมเมอร์เก่งแบบอัจฉริยะยังไง ถ้าเจ้านายออกคำสั่งที่ผิดพลาด มันก็มีรูโหว่อยู่ดี .เคยเป็นโปรแกรมเมอร์มาก่อน เจอคำสั่งแย่ๆมาแล้ว ประเภทใช้Login เดียวทั้งแผนก...พอมีปัญหาจับมือใครดมไม่ได้ เพราะใครๆก็เข้าได้ "หน่วยงานที่คุมผลประโยชน์มหาศาล กลับออกกฎที่สะท้อนความ....ออกมาได้" โดย Jaffa เสาร์ ก.พ. 19, 2005 8:35 pm

ถ้าเบียร์เข้าได้ ต่อไปมหาลัยเอกชนขอเข้าบ้าง คิดว่าไงครับ ผมว่าคนคงกลัวว่าถ้าเบียร์เข้าได้ ธุรกิจกลางคืนอย่างก็คงเข้าได้ กลต. เขาตัดสินเรื่องธุรกิจกลางคืนไปแล้วนี่ครับ โดย Jaffa ศุกร์ ก.พ. 18, 2005 5:04 pm

ซื้อหุ้นเบียร์ ส่งเสริมอบายมุขหรือไม่ "ประเทศเราไม่ได้ใช้หลักศาสนาพุทธในการปกครองประเทศ" ...เราเปิดกว้างให้ทุกคนนับถือศาสนาอะไรก็ได้ ถ้าศาสนาพุทธเรียกร้องให้ใช้หลักศาสนาในการกำหนดบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เกิดวันหน้าศาสนาอื่นเขามาร้องเอาบ้าง ประเทศไม่วุ่นวายหรือ โดย Jaffa ศุกร์ ก.พ. 18, 2005 4:59 pm

ถ้าลีนุกซ์จะเติบโต ต้องเรื่องเกมส์ Windows 2000 ใช้ tester มากที่สุดในโลก Bug เยอะขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าใช้ Tester มากที่สุดในโลก...ปกติเห็นใช้นโยบาย "เข็นออกมาก่อน แล้วตามแก้บั๊กทีหลัง" ไม่ใช่หรือ Microsoft ก็ไม่ต่างจากบริษัทเก่าแก่ทั้งหลาย....การเมืองภายในเยอะจริงๆ...ยิ่งทำก็ยิ่งห่วย โดย Jaffa พฤหัสฯ. ก.พ. 17, 2005 4:45 pm

มีผู้เข้าแข่ง 22 คนแล้ว เงินต้น 10 ล้าน เอาไปเลย ขอเล่นด้วยครับ ใช้ราคาปิดวันที่ 7 กพ. 48 [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] รวม 9,999,280.00 บาท โดย Jaffa อังคาร ก.พ. 08, 2005 10:15 am

nvdr บอกอะไรเราบ้างหรือเปล่า เข้ามาดูครับ โดย Jaffa อาทิตย์ ก.พ. 06, 2005 10:29 am