หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
peaceful
Joined: เสาร์ ม.ค. 15, 2005 11:00 pm
308
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - peaceful
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: จะส่งข้อความหลังไมค์ทำไงคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย
peaceful
จันทร์ ธ.ค. 27, 2010 11:03 am
0
0
ต้นไม้เพิ่งโต อย่ารีบเด็ดยอด : เพิ่งโต อย่ารีบซื้อความสุข
ขอด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
[email protected]
โดย
peaceful
พุธ ก.ค. 28, 2010 2:58 pm
0
0
จะ search ชื่อหุ้นภาษาอังกฤษแค่ 2 ตัว ทำไม searchไม่ได้คะ
ขอบคุณคุณนพพร และคุณครรชิต มากๆค่ะ
โดย
peaceful
พุธ ก.ค. 14, 2010 12:22 pm
0
0
ทำไมผลประกอบการออกแล้ว ต้องมาออกซ้ำอีกคะ ทำให้สับสนเปล่าๆ
ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ ที่ให้ข้อมูล
โดย
peaceful
อังคาร พ.ย. 17, 2009 10:15 am
0
0
ทำไมผลประกอบการออกแล้ว ต้องมาออกซ้ำอีกคะ ทำให้สับสนเปล่าๆ
แล้วส่วนใหญ่ ที่แจ้งก่อนสอบทาน เชื่อถือได้แค่ไหนคะ ส่วนใหญ่จะตรงกับที่สอบทานแล้วหรือเปล่าคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
จันทร์ พ.ย. 16, 2009 3:08 pm
0
0
มีใครยังไม่ได้รับเงินคืนภาษีบ้างมั้ยคะ ยื่นตั้งแต่ 5 มค.
ขอบคุณทุกๆท่าน ที่เข้ามาให้ความคิดเห็นค่ะ เราก็ได้แต่รอต่อไป
โดย
peaceful
จันทร์ เม.ย. 28, 2008 12:37 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
ของเรา เอกสารแค่ 4 ฉบับค่ะ ไม่รวมใบปะหน้ากับ ตารางสรุปเงินปันผลค่ะ
โดย
peaceful
ศุกร์ ม.ค. 18, 2008 4:52 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
ใช่ค่ะ เช็คกี่ทีกี่ที ก็บอกว่าแต่ว่าไม่พบข้อมูลการส่งเอกสารของท่าน มีท่านใดที่ส่งทางเมล์แล้วได้รับเช็คแล้วบ้างคะ
โดย
peaceful
ศุกร์ ม.ค. 18, 2008 2:27 pm
0
0
กระทู้รวบรวม คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับเครดิตภาษี
มีใครแนบเอกสารไปทางเมล์บ้างคะ แล้วเป็นไงบ้าง ของเราแนบไปครั้งแรกวันที่11 มค. วันที่ 16 มค. ระบบทางเว็บก็บอกว่ายังไม่ได้รับเอกสาร เลยโทรถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกให้ส่งใหม่ ก็ส่งไปใหม่ทางเมล์ วันนี้เช็คทางระบบ ก็ยังไม่ได้รับเอกสารเหมือนเดิม โทรถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าฝ่ายที่ทำเรื่องอาจจะได้รับแล้วแต่ยังไม่ update ข้อมูลในเว็บ และเขาไม่สามารถตรวจได้ว่า จริงๆแล้วได้รับแล้วหรือยัง เพราะอยู่กันคนละส่วน ถ้าไม่แน่ใจให้ส่ง เอกสารไปทางไปรษณีย์อีกครั้งหนึ่ง ของเพื่อนๆเป็นไงกันบ้างคะ มีใครเหมือนของเราบ้างมั้ย
โดย
peaceful
ศุกร์ ม.ค. 18, 2008 12:21 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
มีใครแนบเอกสารไปทางเมล์บ้างคะ แล้วเป็นไงบ้าง ของเราแนบไปครั้งแรกวันที่11 มค. วันที่ 16 มค. ระบบทางเว็บก็บอกว่ายังไม่ได้รับเอกสาร เลยโทรถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกให้ส่งใหม่ ก็ส่งไปใหม่ทางเมล์ วันนี้เช็คทางระบบ ก็ยังไม่ได้รับเอกสารเหมือนเดิม โทรถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าฝ่ายที่ทำเรื่องอาจจะได้รับแล้วแต่ยังไม่ update ข้อมูลในเว็บ และเขาไม่สามารถตรวจได้ว่า จริงๆแล้วได้รับแล้วหรือยัง เพราะอยู่กันคนละส่วน ถ้าไม่แน่ใจให้ส่ง เอกสารไปทางไปรษณีย์อีกครั้งหนึ่ง ของเพื่อนๆเป็นไงกันบ้างคะ มีใครเหมือนของเราบ้างมั้ย
โดย
peaceful
ศุกร์ ม.ค. 18, 2008 12:20 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
ไปที่ หัวข้อ บริการสอบถามข้อมูลการขอคืนภาษี ภ.ง.ด. 90,91 ค่ะจากนั้นก็กรอก ชื่อและเลขบัตรประชาชน จากนั้นระบบจะแจ้งว่าให้ส่งเอกสาร ตรงด้านล่างจะมีให้คลิกใบนำส่งเอกสารค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ม.ค. 17, 2008 10:13 am
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
โทรไปถามสรรพากรแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ได้รับเอกสาร ทั้งๆที่เราส่งเมล์ไปแล้ว ก็เลยต้องส่งไปให้ใหม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าได้รับแล้ว เวลาคลิกเช็คจากเว็บ ระบบจะมีการแจ้งให้ทราบ
โดย
peaceful
พุธ ม.ค. 16, 2008 4:14 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
เข้าไป ที่สอบถามข้อมูลการขอคืนภาษีแล้วค่ะ ก็ยังเป็นให้ส่งเอกสารอีกอ่ะค่ะ ทั้งๆที่ส่งใปให้แล้ว พอไปคลิกหมวดตรวจสอบการส่งเอกสารประกอบการคืนภาษี แต่ผลการตรวจสอบ คือไม่พบข้อมูลการส่งเอกสารของท่าน ของคนอื่นเป็นแบบนี้บ้างมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
พุธ ม.ค. 16, 2008 12:04 pm
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
ขอบคุณมากค่ะ คุณ jidapa
โดย
peaceful
พุธ ม.ค. 16, 2008 11:36 am
0
0
ยื่นขอคืนภาษีกันได้แล้วนะครับ
ส่งหลักฐานไปทางเมล์แล้วตั้งแต่ 12 มค. และก็มีอีเมล์ตอบรับอัตโนมัติ ว่าได้รับเอกสารแล้ว แต่พอไปคลิกตรวจสอบการส่งเอกสารประกอบการคืนภาษี แต่ผลการตรวจสอบ คือไม่พบข้อมูลการส่งเอกสารของท่าน ถ้าจะโทรไปถาม ต้องโทรไปเบอร์อะไรคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
พุธ ม.ค. 16, 2008 11:03 am
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
รบกวนขอด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
[email protected]
โดย
peaceful
พุธ ม.ค. 02, 2008 2:19 pm
0
0
เอาของดีไป ของเน่าอุ้ม
สงสัยเรื่องนี้ค่ะ ใครพอจะให้คำตอบได้บ้าง หาก ธ.ทหารไทยมีปัญหา หรือถูกปิด จะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนทหารไทยธนรัฐ และธนบดี หรือไม่ อย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2007 11:14 am
0
0
ลง LTF หรือซื้อหุ้น ดีกว่ากัน
ขอบคุณมากค่ะคุณ kao แต่รบกวนถามเพิ่มเติมค่ะ แล้วฐานภาษี กี่ % จึงจะคุ้มค่ากับการซื้อคะ และเวลาคำนวณเขาคำนวณกันแบบไหนเหรอคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
อังคาร พ.ย. 27, 2007 2:45 pm
0
0
ลง LTF หรือซื้อหุ้น ดีกว่ากัน
อยากสอบถามค่ะ ถ้าคนที่ไม่มีรายได้จากทางอื่น มีแต่ลงทุนหุ้นอย่างเดียว รอเงินปันผลประจำปี กับการเครดิตภาษี กรณีแบบนี้นี่ ถือว่าเสียภาษี ฐานกี่ % คะ และเหมาะที่จะแบ่งเงินไปลงทุน LTF/RMF หรือเปล่าคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
จันทร์ พ.ย. 26, 2007 12:03 pm
0
0
company visit prinsiri
วันที่ตรงกับของ tnh เลย เวลาตรงกันหรือเปล่าคะ เห็นว่าพี่ naris จะไปของ tnh ด้วยไม่ใช่เหรอคะ
โดย
peaceful
ศุกร์ พ.ย. 09, 2007 11:24 am
0
0
NNCL
บล. เอเซียพลัสชี้การกระจายธุรกิจของนวนครฯลดความผันผวนของยอดขายที่ดินได้ -------------------------------------------------------------------------------- Posted on Friday, September 28, 2007 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. เอเชียพลัส กล่าวผ่านรายการ Stock in Focus ว่า ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในปี 2549 มีทิศทางที่ไม่ดีนัก เนื่องจากมีเหตุไม่สงบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้ยอดขายที่ดินในนิคมฯลดลง แต่การที่ผู้ประกอบการ 2 ราย คือ บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJANA) และ บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) มีการกระจายฐานธุรกิจที่ดี จึงสามารถบันทึกรายได้ที่ดีสวนทางกับอุตสาหกรรมได้ อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ดินในนิคมฯมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และในช่วงที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ 6 ราย ก็ได้ให้ความสนใจและตอบรับนโยบายอีโคคาร์กันมาแล้ว โดยเฉพาะ ฮอนด้า ที่อาจเริ่มต้นดำเนินการทำธุรกรรมต่าง ๆ ภายในปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายที่ดินในนิคมฯให้มีแนวโน้มสูงขึ้นได้ในปลายปีนี้ นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า ปริมาณยอดขายที่ดินนิคมฯจะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและฐานลูกค้าเดิมของผู้ประกอบการ โดยบมจ. นวนคร (NNCL) ถือเป็นผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมรายต้น ๆ ของไทยที่มีนิคมฯแรกในปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่คงเหลือเพียง 800 ไร่ จาก 6,000 ไร่ และเหมาะที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่สำหรับการพาณิชย์เป็นหลัก เนื่องจากอยู่ในแหล่งชุมชน จึงคาดว่า NNCL จะพัฒนาพื้นที่ที่เหลือสำหรับให้เช่าหรือขายเพื่อทำที่อยู่อาศัยหรือแหล่งสันทนาการมากกว่าการพัฒนาสำหรับทำโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ NNCL ยังมีนิคมฯในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเริ่มขายที่ดินเมื่อต้นปี 2549 มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,900 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับภาคอุตสาหกรรม 1,300 ไร่ นอกจากนั้น จะเป็นพื้นที่ของระบบสาธารณูปโภค และพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ จึงคาดว่าในระยะนี้ นิคมฯดังกล่าวจะมีรายได้หลักจากการขายที่ดิน ปัจจุบัน NNCL มีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภค ประมาณ 41% ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 44-45% ในปี 2552 โดยมาจากนิคมฯปทุมธานีเป็นหลัก เพราะมีโรงงานผลิตน้ำประปาที่เพิ่งสร้างเสร็จในไตรมาส 2/50 โดยยังคงมีกำลังการผลิตที่น้อยกว่าความต้องการใช้ในนิคมฯ ซึ่งที่ผ่านมา NNCL ยังได้ปรับปรุงคุณภาพท่อน้ำเพื่อลดอัตราการสูญเสียน้ำลง ซึ่งจะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย โดยในระยะนี้ NNCL มีรายได้และกำไรจากธุรกิจให้บริการระบบสาธารณูปโภค จนครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดแล้ว จึงลดความผันผวนที่เกิดขึ้นของรายได้จากการขายที่ดินได้ นอกจากนี้ NNCL ยังได้รุกธุรกิจบำบัดน้ำเสีย โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 280 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย และจะหนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกัน NNCL ยังอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งจากการที่ต้องใช้เงินลงทุนในโรงไฟฟ้าสูงมาก จึงควรติดตามแหล่งเงินทุนของ NNCL ในอนาคต ซึ่งหาก NNCL เริ่มดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า ก็จะทำให้โครงสร้างรายได้ของบริษัทมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นก้าวต่อไปของบริษัทที่น่าสนใจ ปัจจุบัน NNCL มีหนี้ทั้งหมด 2 ส่วน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น - หนี้ที่เกิดขึ้นจากการสร้างโรงงานให้บริการน้ำประปา มีมูลหนี้รวมทั้งหมด 570 ล้านบาท และมีภาระดอกเบี้ยจ่ายไตรมาสละ 11 ล้านบาท - หนี้ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาที่ดิน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มาจากนิคมฯเกิดใหม่ที่นครราชสีมา เมื่อขายที่ดินได้ ก็จะนำเงินไปชำระหนี้ได้ นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่บล. เอเซียพลัสก็ปรับลดประมาณการณ์ลงจากเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยคาดว่า NNCL จะมีกำไรลดลง เพราะยอดขายที่ดินในช่วงที่ผ่านมายังมีไม่มากนัก แต่ในไตรมาส 2/50 NNCL สามารถจำหน่ายที่ดินในทำเลที่ดีให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ในราคาสูง จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาสนี้เฉลี่ยที่ 83% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 41% จึงถือว่า NNCL มีประสิทธิในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก บล. เอเซียพลัสประเมินมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น NNCL ไว้ที่ 3.48 บาท ที่ระดับ P/E Ratio ที่ 12 เท่า ซึ่งในระยะหนึ่งที่ราคาหุ้น NNCL ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่สามารถอธิบายได้ บล. เอเซียพลัสจึงให้คำแนะนำขายในขณะนั้น แต่ในระยะนี้ราคาหุ้น NNCL เริ่มปรับลงมาในระดับที่สามารถยอมรับได้แล้ว จึงแนะนำซื้อ นอกจากนี้ บล.เอเซียพลัส ยังคาดการณ์ว่า NNCL จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้ที่ 0.14 บาทในปีนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากจ่ายปันผลที่ 6% สำหรับแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศนั้น นายเทิดศักดิ์มองว่า ถือเป็นความเสี่ยงของอุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตาม จากการที่แรงงานไทยมีคุณภาพดี และมีระบบโลจิสติกส์และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ มากมาย ทำให้อุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ ที่จำเป็นต้องใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพ ยังคงอยู่ในนิคมฯต่อไป แต่หากประเทศอื่นมีการพัฒนาระบบที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ก็จะถือเป็นความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่อยู่ในนิคมฯของ NNCL ก็มีทั้งอุตสาหกรรมอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า ยานยนต์ และอยู่ในแหล่งพื้นที่แรงงานที่มีคุณภาพอยู่แล้ว จึงเชื่อว่ามีความเสี่ยงต่ำ บริษัทสมาชิกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดการณ์ว่า NNCL จะกำไรสุทธิในปีนี้เฉลี่ยที่ 294 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยที่ 0.26 บาท มีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานเฉลี่ยที่ 2.62 บาท และคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลที่ 5.43% บริษัทสมาชิกสมาคมฯ คาดการณ์ว่า หลังจากที่โรงงานผลิตน้ำของ NNCL เดินเครื่องในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรของ NNCL สูงขึ้น และยังทำให้ความเสี่ยงจากการพึ่งพายอดขายที่ดินลดลงด้วย นอกจากนี้ NNCL ยังสามารถขายที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังมียอดจอง (Pre-sales) ที่ยังไม่บันทึกรายได้คงค้างอีกประมาณ 231 ล้านบาท และยังมีวิธีบริหารหนี้สินที่มีคุณภาพ ทำให้มีหนี้สินต่อทุนต่ำอีกด้วย ติดตามรายการ Stock in Focus ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.00 น. ทาง Money Channel ช่องทางการรับชม Money Channel: True Visions ช่อง 80, จานดาวเทียม Samart DTH ช่อง 08 และเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ ช่อง 30
โดย
peaceful
จันทร์ ต.ค. 01, 2007 4:34 pm
0
0
snc เครดิตภาษีปันผลได้มั้ยคะ ถ้าได้ กี่ % คะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกๆคนค่ะ ขอให้รวยๆๆ
โดย
peaceful
ศุกร์ ส.ค. 10, 2007 11:10 am
0
0
ถามผู้รู้หน่อยค่ะ ราคาตลาดแค่ 4 บาทต้นๆ ทำไมซื้อตั้ง 5.3 บาท
ขอบคุณมากค่ะพี่ปรัชญา
โดย
peaceful
อังคาร ส.ค. 07, 2007 4:06 pm
0
0
ถ้ามีการเปลี่ยนที่อยู่ เวลาเครดิตภาษีต้องแจ้งสรรพากรยังไงคะ
ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ ที่ให้คำแนะนำ
โดย
peaceful
ศุกร์ มิ.ย. 01, 2007 10:39 am
0
0
โอนเงินไปสิงค์โปร์วิธีไหนเสียค่าโอนน้อยที่สุดคะ ถามผู้รู้ค่ะ
ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 6:11 pm
0
0
โอนเงินไปสิงค์โปร์วิธีไหนเสียค่าโอนน้อยที่สุดคะ ถามผู้รู้ค่ะ
ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 5:55 pm
0
0
หุ้นที่เสียภาษี 20 % จะเครดิตภาษีปันผลได้เท่าไหร่คะ เช่น cmo
ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
จันทร์ ม.ค. 08, 2007 8:53 am
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
รบกวนขอด้วยค่ะ
[email protected]
ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 5:49 pm
0
0
หุ้นที่เสียภาษี 20 % จะเครดิตภาษีปันผลได้เท่าไหร่คะ เช่น cmo
หมายความว่า สมมติว่าได้ปันผลมา 10000 บาท ก็หารด้วย 4 เหรอคะ เท่ากับว่าเครดิตได้ 2500 บาท ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
อาทิตย์ ม.ค. 07, 2007 5:32 pm
0
0
แปลกจังหุ้นที่ซื้อไปเมื่อวานแค่นิดเดียวประมาณ 5 หมื่นบาททำไม
ขอบคุณมากค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ธ.ค. 21, 2006 10:42 am
0
0
ทัวร์ นรก-สวรรค์ กับ TRC
คุณ beammy ทำไมไม่คิดว่า จากราคาตรง 3.30 ขึ้นไป เป็น volume ที่เจ้าโยนกันเองคะ อาจจะไม่ใช่รายย่อยเข้าไปโดนเชือดก็ได้ค่ะ :D
โดย
peaceful
ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 4:30 pm
0
0
ขอ comment หุ้น 3 ตัวนี้หน่อยครับ : ILINK, PICO, PYLON
"ชเนศวร์ แสงอารยะกุล" มั่นใจ PYLON ไตรมาส 3-4 ผงาดอีกครั้ง eFinanceThai.com ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษคุณชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังและการแข่งขันของธุรกิจงานฐานราก โดยผู้บริหารมั่นใจว่าครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจยังสดใส หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายและเชื่อนักลงทุนคงจะกลับมาลงทุนเหมือนเดิม ส่วนการแข่งขันในปัจจุบัน ยังไม่ดุเดือด เพราะมีผู้ประกอบการน้อยราย แต่มีงานล้นมือ พร้อมกันนี้โปรยยาหอมหุ้น PYLON เหมาะลงทุนระยะยาวเพราะมีอนาคตที่สดใส จ่ายปันผลสม่ำเสมอ - ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของ PYLON เป็นอย่างไรบ้างพอใจไหม คือครึ่งปีแรกในไตรมาสที่ 1 เราทำกำไรมาก็มากกว่า target ส่วนไตรมาสที่ 2 ต้องยอมรับว่าชะลอตัวเพราะว่าหลายปัจจัยเข้า มากระทบทั้งปัจจัยภายนอกเรื่องต้นทุน แต่ปัจจัยนี้คิดว่าภายในไตรมาสที่ 3 และ 4 คงจะหมดแล้ว เพราะงานต้นทุนเก่าที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วหรืองานที่รับมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแต่อยู่ในช่วงที่ปรับราคาไม่ได้และต่อเนื่องมาในไตรมาสที่ 2 งานที่ต้นทุนเก่าจะหมดไปแล้ว ส่วนต้น ทุนใหม่เราก็รับรู้เข้ามาตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 2 แล้ว และเข้ามาต้นไตรมาสที่ 3 ก็เข้าใจว่าไตรมาสที่ 3-4 ทุกอย่างคงมาเข้าตาม target หรืออาจจะดีกว่า เพราะตอนนี้เราก็มีงานที่รอแต่ยังประกาศไม่ได้ แต่ว่าเรารอที่จะเซ็นสัญญาอยู่ ซึ่งเป็นงานที่มีนัยสำคัญก็มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท โดยงานที่คงจะเข้ามาในไตรมาสที่ 3คงเริ่มงานแต่คงจะไปรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 แต่ไตรมาสที่ 3 เรายังมีงานเติมอยู่ ก็มี ทั้งศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คลองสุวรรณภูมิ มีอีกหลายโครงการที่ยังไม่ได้ประกาศให้กับสาธารณะชนรับทราบเพราะว่ารอประกาศให้ ทราบทีเดียว ส่วนปัจจัยภายนอกเราคงจะปรับตัวกับมันได้พอสมควรแล้วและเรื่องหน้างานที่ช่วงไตรมาสที่ 2 จะชะลอลง เรื่องสภาวะ อากาศมาเร็วกว่าปกติคือฝนมาเร็วและก็หลายหน่วยงานสภาพพื้นที่ไม่อำนวยทำให้เข้าหน้างานไม่ได้ในไตรมาสที่ 2 และอีกหลายปัจจัยเช่น วันหยุดเยอะ สงกรานต์ เลือกตั้ง 2 รอบช่วงที่เฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งปกติในไตรมาสที่ 2 ก็เป็นช่วงโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว ก็สังเกตุจากหลายๆ ปีและงบไตรมาสที่2ปีที่แล้วก็ต่ำกว่าทุกไตรมาส -เหตุการณ์ทางการเมืองที่บอกว่าเริ่มคลี่คลายตรงนี้จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของ PYLON อย่างไรบ้าง เวลาการเมืองไม่ดีมันอึมครึม ไม่ใช่เฉพาะเมกะโปรเจ็ก อยากบอกว่ามันมีผล เพราะทุกคนก็จะชะลอ เริ่มแต่คนแรกเลยคือ ไฟแนนซ์หรือแบงก์ก็ชะลอปล่อยยากขึ้น พอแบงก์ปล่อยยากขึ้นคนที่จะทำโครงการถ้าไม่มี Backup หรือมี Cash Flow ก็จะเกิดปัญหา พอเกิดปัญหาเราเป็นผู้รับเหมาฯเข้าไปเราก็ช้าตาม มันก็จะช้ากันทั้งระบบทำให้ทุกคนอยู่ในภาวะที่ไม่กล้าจะทำอะไร ตรงนี้ต่างหากที่ผมมองว่าจริงๆ แล้วสภาวะเศรษฐกิจเมืองไทยยังคงดีอยู่ประเทศเราเจอภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจมานาน 6-7 ปีที่ผ่านมาและก็เรายังมาเจอภาวะอึมครึมทางการเมืองอีก ทำให้งานการพัฒนาต่างๆ ทางด้านโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ เติบโตน้อยกว่าประเทศอื่น ฉะนั้นมองว่างานอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคพื้นฐานก็คงได้รับผลกระทบรวมทั้ง PYLON ด้วยหากการเมืองไม่ราบรื่น - ในฐานะผู้บริหารของ PYLON รู้สึกกังวลหรือห่วงปัญหาการเมืองด้านใดบ้าง ทุกวันนี้ภาวะการลงทุนของไทยเราเกิดจาก 2 ส่วนจากภาครัฐและภาคเอกชนในส่วนของภาครัฐช่วงนี้ก็ยอมรับว่ามีปัญหาตอนนี้กว่าจะเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งเกิดช้าอีกจนถึงเดือนมกราคม กว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาอนุมัติงบประมาณ ดีไม่ดีงบปี 2550 อาจจะไปรวมกับงบปี 2551 ด้วยซ้ำ ซึ่งกว่าจะใช้งบมันก็เกือบตุลาคมปีหน้า แต่ถ้าทุกๆ อย่างเป็นไปตามที่ทุกคนพยายามกันอยู่ ทุกองค์กรในประเทศช่วยกัน ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นทั้งเศรษฐกิจและการเมืองก็คงจะกลับมาปกติ - แล้วงานของ PYLON ผูกติดไว้กับภาครัฐเยอะไหม งานของ PYLON เราก็ผูกติดไว้กับงานก่อสร้างระบบ ซึ่งงานก่อสร้างระบบก็ผูกติดอยู่กับการลงทุนของภาคเอกชนและของภาครัฐภาวะการเมืองไม่ดี ภาครัฐก็ยังลงทุนอะไรไม่ได้ ภาคเอกชนก็อยู่ในช่วงที่ไม่แน่นอนไม่แน่ใจไม่มีความมั่นใจ จะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ลดลงถ้าทุกอย่างกลับมามั่นใจเหมือนเดิมภาคเอกชนเราก็ยังคงดีอยู่ โครงการต่างๆ ภาครัฐยังคงดีอยู่ ดังนั้นเรายังมองว่างานของเราส่วนใหญ่ก็กึ่งหนึ่งมาจากภาครัฐและกึ่งหนึ่งมาจากภาคเอกชน ซึ่งตอนนี้คงจะเป็น 50 :50 - ตอนนี้ PYLON มีงานที่อยู่ระหว่างประมูลกี่โครงการ มูลค่าเท่าไหร่ และจะทำให้ Backlog ในมือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่ คิดว่างานในครึ่งปีหลังก็คงจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ซึ่งต้องเรียนอย่างนี้ว่าถึงแม้กำไรชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่าปริมาณงานเราเพิ่มขึ้น ก็มองในแง่ดีการที่ปริมาณงานเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วมาก 2 ไตรมาสรวมกันปริมาณเรารวมกันร่วมไป 300 กว่าล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 280 ล้านบาท เราคิดว่าปริมาณงานเราเพิ่มขึ้นแต่บังเอิญเรามาอยู่ในภาวะที่มันยังไม่ปกติ คือต้นทุนสูงขณะที่ราคาขายเรายังปรับไม่ได้และต้นทุนเป็นต้นทุนใหม่ แต่ราคาขายยังเป็นราคาเก่าอยู่ ในช่วงที่อึมครึมช่วงที่ผ่านมา เราคิดว่าเราทำผลงานได้ค่อนข้างดี ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอ ส่วนงานในมือตอนนี้ยังไม่ได้ Update แต่งานเดิมก็คงจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เราก็อาจจะรับรู้ไปบางส่วนแล้ว และตอนนี้ก็ยังมีงานใหม่เข้ามาอีกหลายงาน แต่ยังไม่ได้แจ้งตลาดซึ่งยังบอก รายละเอียดไม่ได้ แต่ถ้าคร่าวๆ ก็ในไตรมาสที่ 3 คงจะมีประมาณ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามปกติคงจะเริ่มรับรู้ปลายไตรมาสที่ 3 ไปถึงต้นไตรมาสที่4 - PYLON มีนโยบายออกไปรับงานในต่างประเทศประเทศหรือไม่ เรายังคิดว่าในวันนี้เราขอเติบโตในประเทศให้แข็งแรงก่อน จริงๆ แล้วมีคนมาชวนมาก ที่ประเทศดูไบ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนามหรือในจีนแม้กระทั่งในลาวแต่ทางเรายังขอเวลาอีกสักสองปี ให้ทางบริษัทเองคือหนึ่งขอให้มันเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้นำตลาดให้ได้ก่อน ขอให้เราแข็งแรงกว่านี้เราไม่อยากออกไปทั้งที่ยังพร้อม เราอยากจะให้ PYLON อยู่ในเมืองไทยเป็นเรือธงที่มีความแข็งแรงก่อน อีกหน่อยจะส่งเรือประจัญบานไปที่ไหนโดนยิงถล่มก็ยังสบายอยู่ - PYLON มีแผนที่จะหาพันธมิตรรายใหม่เข้ามาร่วมลงทุนด้วยไหม การคุยกับพันธมิตรตอนนี้ก็กำลังคุยคร่าวๆ ยังไม่ได้เอาเข้าบอร์ด และจริงๆ ก็มีการคุยไว้เยอะเพราะเราเองบริหารค่อนข้างที่จะเป็นหัวสมัยใหม่ เราไม่ได้คิดว่าเราจะทำทุกอย่างคนเดียวแม้กระทั่งผู้ประกอบการธุรกิจเดียวกันในเมืองไทยเราก็เป็นพันธมิตรกับหลายรายแต่ตอนนี้ขอรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการเมืองก่อน -ที่บอกว่ารอการเมืองชัดเจนรวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็กของภาครัฐด้วยรึเปล่า และคาดหวังแค่ไหน เราเป็นผู้รับเหมาฯย่อยต่อจากผู้รับเหมาฯใหญ่ที่รับมาทั้งโครงการคือผู้ที่ประมูลได้จะไปแยกงานออกมาว่างานฐานรากงานระบบก็จะไปหาผู้รับเหมาฯย่อยมาอีกทีเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ในงานรากฐานงานปรับปรุงคุณภาพดินและปัจจุบันก็มีการคุยกับผู้รับเหมาฯหลักหลายราย แต่เราคิดว่าโครงการเมกะโปรเจ็กถ้าเกิดขึ้นจริงๆ คงจะตกกับผู้รับเหมาฯทุกรายและทุกคนคงจะ Enjoy ก็เค้กก้อนนี้มันก้อนใหญ่มหึมาคือเอาทุกคนมารวมกันก็ทำไม่หมด -ประเมินการแข่งขันของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลังอย่างไร การแข่งขันปัจจุบันถือว่าไม่สูงมากเพราะผู้รับเหมาทุกรายมีงานเต็มมือไม่ว่าจะเป็นผู้นำตลาดอย่าง SEAFCO เอง ไม่ว่าจะเป็นรายอื่นๆ ทั้งที่อยู่ในตลาดเองและที่ไม่ได้อยู่ในตลาดทุกรายค่อนข้างที่จะมีงานเต็มมืออย่างเราเองงานก็เต็มมือ ฉะนั้นปัจจุบันงานใหม่ๆ ที่เข้ามาผู้รับเหมาฯไม่ค่อยเพียงพอและภาวะการแข่งขันไม่สูง - ทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของ PYLON จะเป็นอย่างไรบ้าง ครึ่งปีหลังเราก็มองว่าปัจจัยเรื่องของงานที่ต้นทุนเก่าก็คงจะหมดไป เรื่องของงานใหม่เราก็รับเข้ามาพอสมควรคิดว่าในไตรมาสที่ 3 และ4ก็คงจะกลับมาปกติเพราะปัจจัยลบต่าง ๆ เริ่มหมดไปแล้ววันหยุดต่างๆ นานา ก็คงจะทุเลาลง จะมีการเลือกตั้งอีกทีคงจะมีวันหยุดอีกทีแต่ว่าก็ดีเพราะการเลือกตั้งคือสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย คงจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและในครึ่งปีหลังคิดว่ายอดขายคงจะเติบโตและเรายังสามารถเริ่มปรับราคาตามต้นทุนใหม่ได้ คิดว่า Return ในครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาดีกว่าที่คาดไว้ - ที่บอกว่าได้ปรับค่าจ้างตามต้นทุน ที่ผ่านมา PYLON ปรับเพิ่มขึ้นเยอะหรือไม่ เราเริ่มปรับมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 แล้ว ทยอยปรับมาแต่ว่าก็คงต้องค่อยเป็นค่อยไป ตรงนี้เองมองว่าเป็นช่วงปรับฐานปรับฐาน เพราะตอนนี้เรามีปริมาณงานมีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นเป็นเท่าตัว ฉะนั้นเมื่อสามารถปรับราคาขายเพื่อให้มาร์จิ้นกลับมาสู่ปกติได้ในครึ่งปีหลังเราก็คิดว่าจะกลับมาปกติอย่างมีนัยสำคัญ - ตั้งเป้าทั้งปีจะมี Gross Margin เท่าใด ไตรมาสที่ 1 เรามี Gross Margin อยู่ที่ประมาณ 15 % และ Net Profit อยู่ที่ ประมาณ 7-8 %จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ ซึ่งก็จะพยายามรักษาให้อยู่ที่ 15 % สำหรับ Gross Margin แต่ไตรมาสที่2 อาจจะ Drop ลงมาบ้างแต่ว่าภาพรวมทั้งปีก็ยังอยู่ระหว่าง 10-15% - วิธีการในการที่จะรักษา Gross Margin ให้ได้ตามเป้าหมายจะทำอย่างไรบ้าง ค่อยๆ ปรับราคาขาย แต่ว่าราคาเราก็ต้องค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นทีละ 5 % หรือ 10% ซึ่งจะช่วยเข้ามาชดเชย Gross Margin ที่ลดลงได้แต่การปรับราคาเราจะต้องดู้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วย ซึ่งถ้าเราปรับราคาขึ้นไป Over กว่าราคาที่ควรจะเป็นไม่ได้ และต้องเป็นไปตามกลไกของตลาดด้วย เพราะถ้าเราปรับ Over เราอาจจะไม่ได้งาน - ประมาณการรายได้ของ PYLON ในปีนี้ยังคงเหมือนช่วงต้นปีที่ผ่านมารึเปล่า เป้าหมายรายได้ปีนี้เรามองว่าคงจะไม่ต่ำกว่า 500 -600 ล้านบาท โดยประมาณ แต่คงจะเติบโตเป็นเท่าตัวจากปีที่แล้ว แต่เรื่องของ Gross Margin เองคงจะชะลอ คืออย่างที่เรียนปัญหาไปว่าเกิดจากอะไรบ้าง แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังคงจะกลับมาดีขึ้นคงมาชดเชยได้ - ความคืบหน้าของแผนยกฐานะ PYLON จากตลาด MAI ไปอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์ ในเมื่องานเราเพิ่มขึ้น เราก็อาจจะต้องมีการเพิ่มทุนในอีกปีหรือสองปีข้างหน้าก็ช่วงนั้น เราอาจจะเข้าตลาดใหญ่พอดีและคิดว่าคงจะไม่เกินสามปีแต่ในปีนี้หรือในปีหน้ายังคงไม่มีนโยบายในการเพิ่มทุน ส่วนการนำบริษัทเข้าตลาดใหญ่ที่ปรึกษาฯ ของบริษัทยังคงเป็น บล.ทรีนีตี้ เหมือนเดิมซึ่งตอนนี้ถ้ามีปัญหาก็ปรึกษา และความคืบหน้าของการนำบริษัทเข้าตลาดใหญ่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ - เพราะอะไรถึงอยากเลื่อนไปอยู่ตลาดใหญ่ จริงๆ แล้วเอาตามความเป็นจริงเลยนะ ในแง่มุมมองของผู้บริหารตลาด MAI ก็ดีเพราะว่าเรายัง Enjoy กับสิทธิประโยชน์ที่ทางภาครัฐมอบให้กับบริษัทฯ ที่จดทะเบียนในตลาด MAI ซึ่งตรงนี้ประหยัดไป 10% ก็ถือว่ามาก เราก็อยากจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้เต็มที่เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้นเองแต่เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็อาจจะเข้าตลาดใหญ่ ซึ่งสาเหตุอันดับแรกคือเป็นการระดมทุนอันดับที่สองเพื่อความสบายใจของผู้ลงทุน จริงๆ แล้วอยู่ตลาดเล็กก็ไม่ได้เสียหายอะไรแต่ว่าอาจเป็นเรื่องของสภาพคล่องในหุ้น เมื่อหุ้นน้อยนักลงทุนก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนสถาบันไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนและคงเป็นเรื่องปกติเขาคงกลัวว่ามาลงทุนในหุ้นของเราซึ่งสภาพคล่องน้อยแล้วกลัวจะติดหุ้นคงเป็นเรื่องธรรมดาเข้าง่ายแต่ว่าออกยาก - ปีนี้จะได้เห็น PYLON จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหรือไม่ ปีนี้เราไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล แต่ว่าก็มีนโยบายจ่ายเงินปันผลปลายปีซึ่งคิดว่าการจ่ายปันผลปีนี้คงจะมากกว่าปีก่อนเพราะไม่ได้จ่ายระหว่างกาลเหมือนปีก่อนและนอกจากนี้ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ ยังไม่ชัดเจนเราก็ยังคงไม่มีการลงทุนอะไรเพิ่มฉะนั้นปันผลปีนี้คงจะเต็มเม็ดเต็มหน่วย - ฝากอะไรถึงผู้ถือหุ้นของ PYLON รวมทั้งนักลงทุนที่สนใจในตัวบริษัทฯ หน่อย อยากบอกว่าหุ้น PYLON เป็นหุ้นที่ดี จากหลายปัจจัยปัจจัยแรกคือผู้บริหารเองค่อนข้างที่จะเป็นคนรุ่นใหม่เราบริหารงานค่อนข้างที่จะตรงไปตรงมาโปร่งใส เราเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เรียกว่าปฏิบัติตาม CG ของตลาดมากที่สุดอีกแง่หนึ่ง PYLON เป็นบริษัทที่เรียกว่ายังเล็กอยู่ความสามารถในการเติบโตของเรายังคงมีสูงอยู่ และธุรกิจอยู่ในธุรกิจที่ผู้ประกอบการน้อยรายการเติบโตค่อนข้างสูงปัจจัยที่สาม PYLON มีฐานนะทางการเงินค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าในไตรมาสที่ผ่านมาจะมีการสะดุดไปบ้างแต่เราคิดว่าในครึ่งปีหลังของปีทุกอย่างจะกลับมาปกติ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นของ PYLON น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและได้ผลตอบแทนที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดย..อาภรณ์ สุภาพ www.eFinanceThai.com
โดย
peaceful
ศุกร์ ต.ค. 06, 2006 10:34 am
0
0
หุ้นตัวนี้ดูๆแล้วน่าสนใจ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ
บิ๊ก PYLON เผยปัจจุบันมี Backlog ในมือ 300 ลบ. ส่วนไตรมาส 3-4 คาดได้งานเพิ่มใกล้เคียงปัจจุบัน นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าในปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ในมือจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ในไตรมาสนี้และ ไตรมาสที่ 4 คาดว่าบริษัทฯ จะมีการยื่นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงการ โดยมูลค่างานที่ได้รับ คงจะใกล้เคียงกับปัจจุบันที่มีอยู่ 300 ล้านบาท บิ๊ก PYLON มั่นใจปีนี้โกยรายได้เข้าเป้าที่ 500-600 ลบ. จากปีก่อนที่ทำได้ 289 ลบ. นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าในปี 2549 มั่นใจว่าจะทำรายได้ตามที่ประมาณ การไว้ที่ 500-600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 289 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีงานที่จะทยอย รับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ต้นทุนวัสดุที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นจึงมั่น ใจว่าในปีนี้จะทำรายได้ตามเป้าหมายแน่นอน บิ๊ก PYLON เผยยังมีแผนเดินหน้าเก็บหุ้นในกระดานเข้าพอร์ตอีก หากราคาหุ้นยังถูก นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่ายังคงมีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นของ PYLON ใน กระดานคืนอีก จากช่วงที่ผ่านมาที่เข้าไปซื้อหุ้นในกระดานประมาณ 500,000 หุ้น หากราคาหุ้น ดังกล่าวยังถูก เนื่องจากประเมินว่าหุ้นของ PYLON มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและให้ผลตอบแทนที่สม่ำ เสมออีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุน บิ๊ก PYLON แจงเหตุดอดเก็บหุ้นในกระดานเพราะราคาถูก -พื้นฐานดี-มีโอกาสโตต่อ เนื่อง นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงสาเหตุที่เข้าไปซื้อหุ้นของ PYLON ในกระดาน ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันถูก ประกอบกับมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี รวมทั้งยังมี โอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ' ผมก็เป็นเหมือนนักลงทุนคนหนึ่ง เมื่อราคาหุ้นของบริษัทฯ ถูกก็เข้าไปซื้อและที่ไม่ เลือกซื้อหุ้นของคนอื่นก็เพราะหุ้นของ PYLON มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีโอกาสเติบโตได้อีก ซึ่งที่ เข้าไปซื้อหุ้นในกระดานคืนก็ประมาณ 5 แสนหุ้นจากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 5 ล้านหุ้น ' นาย ชเนศวร์ กล่าว ล่าสุดเวลา 11.23น. ราคาหุ้น PYLON อยู่ที่ 1.90 บาท ลดลง 0.02 บาท มีมูลค่าการ ซื้อขายรวมทั้งสิ้น 0.10 ล้านบาท PYLON เผยมีโครงการรอเซ็นสัญญามูลค่ามากกว่า 100 ลบ. ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอด ขาย 500-600 ลบ. นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON)เปิดเผยว่า บริษัทฯยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญามูลค่า มากกว่า 100 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายร้อยล้านบาท ซึ่ง บริษัทฯจะแจ้งให้ทราบเมื่อได้รับเอกสารยืนยันการว่าจ้างแล้ว ทั้งนี้งานใหม่ๆที่ได้ เสนอราคาและได้รับมาใหม่นั้นได้มีการปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนงานและ ภาวะการแข่งขันแล้ว 'เป้าหมายของเราในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 500-600 ล้านบาท ส่วนกำไรนั้นจะขึ้นอยู่กับภาวะต้นทุนแต่คาดว่าคงจะไม่ต่ำกว่ากำไรของปี 2548 โดย สถานการณ์ของธุรกิจน่าจะฟื้นตัวได้อย่างเด่นชัดในช่วงที่เหลือของปี จาก สถานการณ์ต่างๆ ที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นในไตรมาส 2 น่าจะเป็นไตรมาสที่ ผลประกอบการต่ำที่สุดของปี'นายบดินทร์กล่าวในที่สุด นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON)เปิดเผยว่า แนวโน้มครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทฯคาดว่าสถานการณ์ น่าจะดีขึ้น ซึ่งไตรมาส 2 ที่ผ่านมาน่าจะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการต่ำที่สุดของปี และจะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี เนื่องจากงานราคาเก่าที่ต่อเนื่องจากปีก่อน จะจบในไตรมาสที่ 3 นี้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะทรงตัวและมีโอกาสจะลด ลงจากสถานการณ์สงครามในเลบานอนที่คลี่คลายโดยอิสราเอลได้ถอนกำลังทหาร ออกจากเลบานอนแล้ว ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยคาดว่าน่าจะใกล้จุดสูงสุดแล้ว อย่าง ไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ มากนักเพราะมีหนี้น้อย และยังมีเงินสดเหลืออยู่ ในด้านของการเมืองคาดว่าสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้ง งานภาครัฐ ต่างๆคงเริ่มทยอยออกมาซึ่งสถานการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบกับบริษัทมากนัก โดยบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์หันไปรับงานจากเอกชนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีการ รับงานวัสดุมากขึ้นโดยขณะนี้บริษัทฯได้รับงานใหม่เพิ่มเติม 4 โครงการมูลค่า 36.3 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้แก่ 1.โครงการลุมพินีวิลล์ รามคำแหง 44 เป็นงานเสาเข็มเจาะ ซึ่งบริษัทฯรับ เฉพาะค่าแรง มูลค่างาน 12.4 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการประมาณ 2 เดือน เริ่ม เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 2.โครงการเดอะเน็กซ์ คอนโดมิเนียม ซอยลาดพร้าว 44 มูลค่า 11.8 ล้าน บาทเป็นงานค่าแรงรวมวัสดุ ระยะเวลาประมาณ 45 วันโดยได้เริ่มโครงการแล้วตั้งแต่ กลางเดือนกรกฎาคม 3.โครงการสถานีต้นทางชิดลม ของการไฟฟ้านครหลวง มูลค่าโครงการ 6.2 ล้านบาท (เฉพาะค่าแรง) ระยะเวลาโครงการประมาณ 60 วัน เริ่มกลางเดือนสิงหาคม นี้ 4.งานรับเหมาก่อสร้างโรงอาหาร U-Center ซึ่งเป็ นส่วนเพิ่มเติมของ โครงการตักสิลานคร มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มงานตั้งแต่กลางเดือน มิถุนายน ระยะโครงการประมาณ 60 วัน
โดย
peaceful
พุธ ต.ค. 04, 2006 3:35 pm
0
0
หุ้นตัวนี้ดูๆแล้วน่าสนใจ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ
Update/PYLON เผยการปฏิรูปการปกครองฯ กระทบจิตวิทยาการลงทุน มั่นใจเหตุการณ์ไม่บานปลาย เชื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ ผู้บริหาร PYLON มั่นใจหลังการปฏิรูปการปกครองฯ แล้วเสร็จ ภาพรวมศก.แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่มั่นใจเหตุการณ์ไม่บานปลาย เชื่อ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ พร้อมมั่นใจปีนี้โกยรายได้เข้า เป้าที่ 500 -600 ลบ. นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่ากรณีที่มีการคณะปฎิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในความคิดเห็นส่วนตัว คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนแต่เหตุการณ์ดังกล่าวคงจะไม่ยาว นานและยืดเยื้อซึ่งคงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็วๆ นี้ 'ครั้งนี้ในความคิดเห็นของผม ผมว่ามันไม่น่าจะนานเพราะทุกอย่างก็ดำเนินมา อย่างเรียบร้อยไม่ได้รุนแรงหรือน่ากลัวอย่างที่คิดคงจะจบลงเร็วๆนี้' ทั้งนี้หลังจากที่มีการปฎิรูปการปกครองฯแล้วเสร็จ คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวม ของเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งและมีทิศทางที่ดีขึ้นเนื่องจากจะทำให้นักลงทุนเกิดความ มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองไทยและเข้ามาลงทุนมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตามนักลง ทุนควรที่จะติดตามเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาซึ่งคาดเดาได้ลำบาก นายชเนศวร์ กล่าวต่อไปว่ารายได้ในปี 2549 คงจะเป็นไปตามประมาณการที่ ตั้งไว้ที่ 500-600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 289 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่าน มาบริษัทฯ มีงานทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยังมีการปรับราคาต้นทุนวัสดุ ให้สอดคล้องกับต้นทุนแล้วซึ่งทำให้บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าในปีนี้จะทำรายได้ตามเป้าหมายแน่นอน นอกจากนี้ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือทั้งสิ้น300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีงานที่กำลังอยู่ระหว่างการประมูลอีกหลาย โครงการซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงเดินหน้ารับงานก่อสร้างต่อไปซึ่งไม่ได้ชะลอการรับ งานแต่อย่างใดแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขขึ้น โดยในขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ ระหว่างการยื่นประมูลโครงการประมาณ 5-6 โครงการ Update/บิ๊ก PYLON มั่นใจสถานการณ์ในประเทศชัดเจนขึ้น หลังได้นายกฯคนใหม่ บิ๊ก PYLON มั่นใจสถานการณ์ในประเทศชัดเจนขึ้น หลังได้นายกฯคนใหม่ อีกทั้ง ต่างชาติเริ่มมั่นใจ แต่ต้องใช้เวลา ขอดูความชัดเจนของประชาธิปไตย เผยไม่ห่วงโครงการเมกะ โปรเจ็กเลื่อน ระบุเป็นงานที่ต้องดำเนินต่อไป พร้อมปรับแผนลดความเสี่ยง ขยายฐานลูกค้า เอกชนมากขึ้นจาก 20% เป็น 50% คาดผลประกอบการ Q3/49 ดีกว่า Q2/49 แน่ เหตุทยอยรับ รู้รายได้จากงานในมือ นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บมจ.ไพลอน (PYLON) เปิดเผย กับ eFinanceThai.com ว่ามั่นใจสถานการณ์และภาวะต่างๆในประเทศมีความชัดเจนขึ้น หลัง แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากรัฐบาลมีความโปร่งใส และทำให้สถานการณ์คลี่คลายและ ชัดเจนขึ้น ส่วนชาวต่างชาติก็เริ่มมั่นใจสถานการณ์ในไทยมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ก็มีบางส่วน ที่ยังกังวลและขอดูความชัดเจนของประชาธิปไตยของไทยก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ' มั่นใจกับชุดรัฐบาลนี้ จะทำให้ทิศทางต่างๆมีความชัดเจนมากขึ้น และจะคลี่คลาย ปัญหาต่างๆได้ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นคนที่ดี มีความโปร่งใส ทุกฝ่ายยอมรับ อีก ทั้งทีมเศรษฐกิจที่ให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เข้ามานั่งในทีมนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตามต่างชาติบางส่วนยังคงหวาดกลัวกับการปฏิรูปฯที่เกิด ขึ้น และเป็นห่วงประชาธิปไตย ส่วนสาเหตุที่ต่างชาติกังวลมาก อาจเป็นเพราะต่างชาติไม่เข้าใจ วัฒนธรรมของไทย' นายบดินทร์กล่าว เขากล่าวต่อว่าแม้ว่าโครงการเมกะโปรเจ็กจะเลื่อนออกไป จากผลกระทบการปฏิรูป ของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ไม่ กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการต่อ แต่จะช้าหรือเร็วแค่ ไหนต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาล และมั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทไม่ได้ อิงกับงานของทางภาครัฐบาล โดยขณะนี้บริษัทฯพยายามขยายฐานภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลด ความเสี่ยงจากความผันผวนของภาครัฐบาล โดยปัจจุบันสัดส่วนฐานลูกค้าเอกชนเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 50% สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2549 ออกมาดีกว่าไตรมาส 2 ปี 2549 แน่ นอน เนื่องจากทยอยรับนรู้รายได้จากงานในมือ ประกอบกับงานไตรมาส 2 ปี 2549 ที่ประสบ ปัญหาและเลื่อนม่รับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปี 2549 ' ช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/49 รายได้ของบริษัทดีมาก แต่มาสะดุดที่เดือนสุด ท้ายของไตรมาสจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็มีงานของภาคเอกชน เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/49 ออกมาดีกว่า ไตรมาส 2/49 แน่ นอน ' นายบดินทร์กล่าว
โดย
peaceful
พุธ ต.ค. 04, 2006 3:25 pm
0
0
Pico น่าจะไปได้สวย
พรรคพวกเล่าว่า PICO พยามหลีกเลี่ยง พอร์ตไม่ค่อยมีเอี่ยวกับ งบรัฐบาลมากเท่าไหร่ ???!!! ไม่เหมือนอีกรายหนึ่ง ???!!! cmo ????
โดย
peaceful
ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 4:29 pm
0
0
## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##
ตัวนี้ดูๆแล้วน่าสนใจมั้ยคะ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ ข่าวเก่าๆ เนื่องจากผลงาน "ไตรมาส 2 ต่ำเป้า" ราคาหุ้น "ร่วงหนัก" บิ๊ก PYLON "บดินทร์ แสงอารยะกุล" เลยร้อนอกร้อนใจ รีบออกมาให้คำมั่นว่า "ครึ่งปีที่เหลือ" จะกวาดรายได้ตามเป้า(ทั้งปี)ที่วางไว้ 500-600 ล้านบาทได้แน่ ๐ และมั่นใจว่า ผลงานไตรมาส 3 และ 4 จะ "ฟื้นตัว" ชัวร์ๆ ล่าสุดเพิ่งได้รับงานใหม่มาอีก 4 โครงการ มูลค่า 36 ล้าน และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกกว่า 100 ล้านบาท "บิ๊กไพลอน" เชื่อ 'Fair Price' ต้อง 3 บาท ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพลอน (PYLON) ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก อธิบายแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทสำหรับปี 2549 ว่า จากเดิมที่มักจะอิงแหล่งรายได้ส่วนใหญ่จากงานก่อสร้างฐานรากของโครงการภาครัฐถึงกว่า 80% และได้งานจากภาคเอกชนเพียง 20% จนเมื่อภาวะการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ชัดเจน ทำให้โครงการก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐต้องชะลอออกไป ขณะที่ไพลอนก็พยายามปรับ "สัดส่วน" รายได้ใหม่ ด้วยการหันมาจับงานประมูลจากภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น "รายได้จากภาครัฐและเอกชนของเราในตอนนี้เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่ง" เป้าหมายรายได้ของไพลอนในปี 2549 บริษัทตั้งไว้ที่ 550-600 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่เติบโตขึ้นจากปีก่อน (280 ล้านบาท) ถึง "เท่าตัว" โดยเราตั้งเป้าการเติบโตของกำไรไว้กว่า 30% จากปีก่อนที่มีกำไร 35.75 ล้านบาท...เท่ากับว่า กำไรของไพลอนในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 46.47 ล้านบาท ย้อนกลับมาดูความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PYLON หลังจากขายไอพีโอที่ 2.86 บาท (23 ธ.ค. 2548) ราคาหุ้นปรับลดลงมาตลอดเทรดกันที่หุ้นละประมาณ 2 บาท "ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะราคาหุ้น PYLON ควรจะสะท้อนจากผลประกอบการ และความสามารถในการเติบโต...ซึ่งปัจจุบันเราแข็งแกร่งมาก เชื่อว่าหุ้นของเรา 'ไม่เป็นที่นิยม' คือสภาพคล่องของหุ้นอาจจะน้อย และเคลื่อนไหวไม่หวือหวา นักลงทุนเข้าง่ายแต่กลัวว่าจะออกยาก" และกับราคาปัจจุบัน ประมาณ 2 บาท ผมในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง (38.17%) คงตอบได้ว่า "ไม่พอใจ" เพราะราคา PYLON ตอนนี้มันต่ำกว่าพื้นฐานมาก "พื้นฐานของเราวันนี้ ราคาต้องไม่ต่ำกว่าไอพีโอ คิดว่า 3 บาท น่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ PYLON ในเวลานี้" ชเนศวร์ กล่าวยืนยัน เขามองต่อไปว่านักลงทุนที่มาลงทุนกับเรา (หุ้น PYLON) ในวันนี้ "ผมว่าถือหุ้นเราน่าจะดีกว่าถือเงินสด" เพราะเมื่อเทียบกับอัตราเติบโตอีก 2-3 ปีข้างหน้า รีเทิร์นที่นักลงทุนจะได้จาก PYLON ผมเชื่อว่าน่าจะได้ดีกว่านำเงินไปลงทุนทางเลือกอื่น ไม่อยากให้มองเพียงราคาแค่ระยะสั้น สำหรับมาตรการที่บริษัทต้องดำเนินการในปีนี้คือ "หนึ่ง" ชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น "สอง" เก็บสะสมเงินสด "สาม" ลดและควบคุมต้นทุน และ "สี่" ระมัดระวังในการรับงาน ที่ผ่านมางานรับเหมาส่วนใหญ่ของไพลอนจะอิงกับการเข้าไปซับงานจาก บ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น" ถึงกว่า 80-90% แต่ปีนี้รายได้ของไพลอนเริ่มกระจายตัวอย่างชัดเจน โดยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ สัดส่วนงานจาก บ.ซิโน-ไทย ลดลงมาเหลือเพียง 35-40% "แม้จะเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลง แต่มูลค่างานที่เรารับมาจาก บ.ซิโน-ไทย กลับไม่ลดลง นั่นเพราะเราเริ่มมีรายได้จากงานเอกชนรายอื่นเข้ามามากขึ้น" ชเนศวร์ อธิบายต่อไปว่า เมื่อสิ้นปีก่อนบริษัทมีรายได้จากฐานลูกค้าเพียง 19 ราย แต่ตอนนี้ขยับมาเป็น 30 ราย โดยลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มีตั้งแต่ "ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์" "กรุงธน เอ็นจิเนียริ่ง" "พี คอนสตรักชั่น" และอีกหลายๆ บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะได้มาหลังจากที่เข้าตลาด MAI เมื่อปลายปี 2548 "กับ บ.ซิโน-ไทย เราก็ยังรับงานจากเขาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ส่วนโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ เราก็ยังทำให้เขาอยู่ และยังมีอีกหลายโครงการ" ชเนศวร์ มองว่า ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเด่นของไพลอนที่จะมีงานจากผู้รับเหมารายใหญ่ส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้งานและรายได้ของไพลอน...ไม่ขาดมือ "แต่เราเองก็จำเป็นต้องมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามา เพราะต้องการขยายฐานรายได้และกำไร" ส่วน "งานในมือ" (backlog) ของไพลอนต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า "งานเสาเข็ม" เป็นงานระยะสั้น ใช้เวลาทำงานเพียง 2-4 เดือน หากเปิดประมูลเดือนนี้ อีก 1-2 เดือนก็เริ่มงาน แล้วรออีก 3-4 เดือน...งานก็จบ เพราะฉะนั้น backlog ของบริษัทจะไม่ยาว เพราะมันไม่ใช่งานก่อสร้างอาคาร และทำให้งานในมือที่ค้างมาจากปีก่อน ตอนนี้ก็รับรู้รายได้ไปเกือบหมดแล้ว แต่ในส่วนของ backlog ปัจจุบัน มีงานอยู่ประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยเชื่อว่าอีกสัก 2-3 เดือน คงจะมีงานเพิ่มเข้ามาอีกราวๆ 200 ล้านบาท "เราพยายามที่จะมีสะสมงานในมือให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ตลอดช่วงครึ่งปีหลัง โดยงานส่วนใหญ่จะเริ่มรับรู้ภายในปี 2549 บางส่วนอาจจะคาบเกี่ยวไปถึงช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2550" วันนี้ชื่อเสียงของไพลอนขึ้นไปติดอยู่บน "ท็อป 3" (ไพลอน-ซีฟโก้-อิตัลไทย เทรวี่) ของผู้ประกอบการรายใหญ่ทางด้านธุรกิจเสาเข็ม จึงทำให้โครงการต่างๆ ที่ออกมา มีโอกาสคว้างานจากทุกโครงการ หุ้นที่ต้องจับตาอีก 1 ตัวคือ ไพลอน (PYLON) ที่จะหมดไซเลนท์พีเรียดในวันที่ 22 มิถุนายน นี้ โดยผู้บริหารยืนกรานยังไง...ยังงัย ก็ไม่ปล่อยหุ้นออกมาเด็ดขาด!! โดยให้เหตุผลว่าอนาคตของบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีกยาวไกล มูลค่าเพิ่มของบริษัทเติบโต และแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี แถมยังมีความมั่นคงกว่าการถือเงินสดเสียอีก!! แหม ไม่รู้เอาสมมติฐานไหนมาพิสูจน์เพราะตามหลักแล้วช่วงดอกเบี้ยสูงนี้ควรถือเงินสดไม่ใช่หรือ เลขที่ PL-ADM-047/06 วันที่ 15 สิงหาคม 2549 เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ดังนี้ บริษัทฯมีกำไรสุทธิงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 3.59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ ในงวดเดียวกันของปี 2548 เท่ากับ 7.68 ล้านบาท ลดลง 4.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.26 ซึ่งมีผลแตกต่างมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามรายละเอียดดังนี้ 1. ในงวดปี 2548 บริษัทฯมีกำไรจากการขายเครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 4.51 ล้านบาท 2. ในไตรมาสนี้ มีจำนวนวันหยุดราชการเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายคงที่ของบริษัทฯยังคงมีอยู่ 3. งานบางส่วนเป็นงานต่อเนื่องจากปี 2548 ซึ่งราคางานเป็นราคาเดิมตั้งแต่ปีที่แล้ว ในขณะที่ต้นทุนของปี 2549 ปรับเพิ่มขึ้นเช่น น้ำมัน วัสดุต่างๆ ค่าแรง ทั้งนี้งานต่อเนื่องดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางไตรมาสที่ 3 ปีนี้ 4. ในไตรมาสนี้ บริษัทฯประสบปัญหาสภาพพื้นที่ทำงานใน 3 โครงการ อาทิเช่นน้ำท่วม และเส้นทางเข้าหน่วยงาน ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่องและล่าช้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีเบี้ยปรับจากผู้ว่าจ้างแต่ทำให้ต้นทุนของโครงการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 ทั้งนี้ บริษัทฯได้รับงานใหม่หลายโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างรอเอกสารยืนยันการจ้างงาน โดยโครงการใหม่ที่ได้รับ บริษัทได้มีการปรับราคาให้เหมาะสมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและสามารถแข่งขันกับตลาดได้ ซึ่งบริษัทฯจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ 22 พฤษภาคม 2549 เรื่อง แจ้งรับงานใหม่ 3 โครงการ เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) มีความยินดีแจ้งให้ทราบว่าบริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานตามโครงการต่างๆ ดังนี้ 1. โครงการศูนย์ราชการแห่งใหม่ สัญญาที่ 2 รายละเอียดของงาน: เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) สถานที่ก่อสร้าง: ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ว่าจ้าง: บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม: 42,513,133 บาท (สี่สิบสองล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสามสิบสามบาทถ้วน) ระยะเวลาก่อสร้าง: 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2549 โดยประมาณ 2. โครงการคอนโดมิเนียม เอ็มโพริโอ เพลส รายละเอียดของงาน: เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร สถานที่ก่อสร้าง: สุขุมวิทซอย 24 ผู้ว่าจ้าง: บจ. ทีซีซีซีแอล สุขุมวิท 24 มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม: 56,710,000 บาท (ห้าสิบหกล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ระยะเวลาก่อสร้าง: 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2549 3. โครงการทางเข้า-ออก อาคารสินค้าในประเทศ รายละเอียดของงาน: งานเสาเข็มดินซีเมนต์ สำหรับการปรับปรุงคุณภาพดิน สถานที่ก่อสร้าง: สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้ว่าจ้าง: บจ. พี คอนสตรัคชั่น แอนด์ แมทรีเรียล มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม: 3,616,600 บาท (สามล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหกพันหกร้อยบาทถ้วน) ระยะเวลาก่อสร้าง: 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2549 รวมมูลค่า 3 โครงการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเป็นเงิน 102,839,733 บาท (หนึ่งร้อยสองล้านแปดแสนสามหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยสามสิบสามบาทถ้วน) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ 16 สิงหาคม 2549 เรื่อง แจ้งรับงานใหม่ 4 โครงการ เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)มีความยินดีแจ้งให้ทราบว่าบริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานตามโครงการต่างๆ ดังนี้ 1.โครงการลุมพินีวิลล์ รามคำแหง 44 รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) สถานที่ก่อสร้าง:ซอยรามคำแหง 44 ผู้ว่าจ้าง:บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:12,416,226.50 บาท (สิบสองล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นหกพันสองร้อยยี่สิบหกบาทห้าสิบสตางค์) ระยะเวลาก่อสร้าง:68 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม 2549 2.โครงการเดอะ เน็กซ์ คอนโดมิเนียม รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร สถานที่ก่อสร้าง:ซอยลาดพร้าว 44 ผู้ว่าจ้าง:บจ. เค.ดี.แอสเซท มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:11,770,000 บาท (สิบเอ็ดล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน) ระยะเวลาก่อสร้าง:45 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2549 3.โครงการอาคารสถานีต้นทางชิดลม การไฟฟ้านครหลวง รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) สถานที่ก่อสร้าง:ชิดลม ผู้ว่าจ้าง:บจ. ยูนิมา เอ็นจิเนียริ่ง มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:6,161,916 บาท (หกล้านหนึ่งแสนหกหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยสิบหกบาทถ้วน) ระยะเวลาก่อสร้าง:60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2549 4.งานรับเหมาก่อสร้างโรงอาหาร U-Center ส่วนเพิ่มเติมโครงการตักสิลานคร รายละเอียดของงาน:งานก่อสร้างโรงอาหาร สถานที่ก่อสร้าง:จังหวัดมหาสารคาม ผู้ว่าจ้าง:บจ. ซีทีที เรียล เอสเตท มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:5,978,382.55 บาท (ห้าล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นแปดพันสามร้อยแปดสิบสองบาทห้าสิบห้าสตางค์) ระยะเวลาก่อสร้าง:60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2549 รวมมูลค่า 4 โครงการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเป็นเงิน 36,326,525.05 บาท (สามสิบหกล้านสามแสนสองหมื่นหกพันห้าร้อยยี่สิบห้าบาทห้าสตางค์) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หุ้นที่ต้องจับตาอีก 1 ตัวคือ ไพลอน (PYLON) ที่จะหมดไซเลนท์พีเรียดในวันที่ 22 มิถุนายน นี้ โดยผู้บริหารยืนกรานยังไง...ยังงัย ก็ไม่ปล่อยหุ้นออกมาเด็ดขาด!! โดยให้เหตุผลว่าอนาคตของบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีกยาวไกล มูลค่าเพิ่มของบริษัทเติบโต และแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี แถมยังมีความมั่นคงกว่าการถือเงินสดเสียอีก!! แหม ไม่รู้เอาสมมติฐานไหนมาพิสูจน์เพราะตามหลักแล้วช่วงดอกเบี้ยสูงนี้ควรถือเงินสดไม่ใช่หรือ ***ผู้บริหารมีแต่ซื้อเข้าไม่มีขายออกมาเลยเป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ*** ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/08/2549 24/08/2549 39,100 1.85 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/08/2549 25/08/2549 125,000 1.90 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 29/08/2549 28/08/2549 48,500 1.90 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 30/08/2549 29/08/2549 36,100 1.92 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/08/2549 30/08/2549 87,700 1.95 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 01/09/2549 31/08/2549 44,800 1.91 ซื้อ ชเนศวร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/09/2549 08/09/2549 10,000 1.91 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 07/04/2549 04/04/2549 100,000 2.02 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 07/04/2549 05/04/2549 140,000 2.06 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/04/2549 10/04/2549 90,900 2.10 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2549 11/04/2549 116,100 2.15 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/04/2549 12/04/2549 172,000 2.23 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 01/09/2549 31/08/2549 60,000 1.91 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 04/09/2549 01/09/2549 10,900 1.90 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/09/2549 05/09/2549 4,100 1.91 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/09/2549 07/09/2549 13,000 1.92 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/09/2549 11/09/2549 12,000 1.92 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 13/09/2549 12/09/2549 10,000 1.92 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 14/09/2549 13/09/2549 9,100 1.92 ซื้อ บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/09/2549 14/09/2549 20,000 1.94 ซื้อ น้ำมันลง ตัวนี้ก็น่าจะได้ไปเต็มๆ ดูตัว seafco ธุรกิจคล้ายๆกัน หุ้นไปไกลแล้ว ตอบรับกับการที่ราคาน้ำมันลง แต่ตัวนี้ยังถูกทอดทิ้งอยู่เลย น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจในตลาดใหม่อีกตัวมั้ยคะ ช่วยๆกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ก.ย. 21, 2006 11:56 am
0
0
TFUND ราคาแถวนี้ผมว่าน่าสนใจนะครับ
ซื้อไว้นิดหน่อยเหมือนกันค่ะ ซื้อเมื่อวานราคา 9.4 ตัวนี้ แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน จะเอาปันผลหรือว่าจะเอาส่วนต่าง หรือเอาทั้ง 2 อย่าง เงินเย็นก็น่าซื้อมาก เสี่ยงต่ำ
โดย
peaceful
อังคาร ก.ย. 19, 2006 6:08 pm
0
0
หากมีธุรกิจที่ลงทุนเพียง 6 ปี พร้อม GUARANTEEผลตอบแทน 4 เท่า
ค่าใช้จ่ายแอบแฝง ไม่มีแน่นอนค่ะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมอยู่ใน package ที่แจ้งไว้แล้วค่ะ หากสนใจอยากได้เอกสาร และซีดีจากทางบริษัท แจ้งชื่อที่อยู่ มาทางเมล์นะคะ จะจัดส่งไปให้ค่ะ "การจะทำให้ไม้เกิดกฤษณาได้ จะมีเทคนิคพิเศษ ซึ่งต้องใช้คู่กับสาร "อะไรซักอย่างจำไม่ได้ (ขวดนึงราคาแพงกว่าน้ำมันกฤษณาอีก)" เป็นตัวทำให้เกิดกฤษณา ไม่ใช่เหรอครับ" สารที่ว่าก็คือสารกระตุ้น ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทค่ะ ซึ่งเมื่อต้นกฤษณาโตจนมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 ซม. ต้นโตประมาณ 4 ปีกว่า ทางบริษัทจะต้องใช้สารกระตุ้นที่ว่านี้ เพื่อให้เกิดน้ำหอมกฤษณา สำหรับท่านที่ได้ลงทุนปลูกไปเองแล้ว แต่ไม่ได้ผลผลิตตามต้องการ หรือไม่ได้คุณภาพ หรือปลูกไปนานมากแล้ว ลงทุนเงินและแรงไปแล้ว แต่ยังไม่เกิดสารกฤษณา สามารถปรึกษาได้ค่ะที่อีเมล์
[email protected]
โดย
peaceful
ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 10:46 pm
0
0
หากมีธุรกิจที่ลงทุนเพียง 6 ปี พร้อม GUARANTEEผลตอบแทน 4 เท่า
บริษัทไม่กลัว supply ล้นเนื่องจากการปลูกโดยทั่วไปต้องใช้ระยะเวลายาวนานมาก ประมาณ 10 ปีขึ้นไป จึงจะได้ผลผลิตออกมา และมักจะไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการ และราคาก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วยค่ะ มีเพื่อนที่รู้จักปลูกไว้ 200 ต้น ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ยังไม่เกิดเนื้อกฤษณาเลยค่ะ เทคนิคการกระตุ้นและสารกระตุ้นเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ทางบริษัทมีลิขสิทธิ์สารกระตุ้น ซึ่งสามารถให้ผลผลิตที่เป็นเกรด A ภายในเวลาเพียง 6 ปี น้ำมันหอมตอนนี้ 1 โตล่า (12 cc) ราคาประมาณ 5 พัน ถึง 1 หมื่นบาทขึ้นอยู่กับคุณภาพ สิ่งที่บริษัทกลัวคือ supply ยังตามไม่ทันกับ demand ซึ่งตอนนี้ล้นมากๆ บริษัทจึงต้องเร่งขยาย การที่บริษัทได้เงินจากการขายแปลงปลูก ก็ได้นำไปลงทุนซื้อที่ดินเพื่อขยายการปลูกต่อ โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ถามว่าหากดีทำไมบริษัทไม่ซื้อลงทุนไว้เอง หากทำแบบนั้น บริษัทก็จะขยายงานได้ช้าลง เพราะต้องรออีก 6 ปี จึงจะไปลงทุนต่อได้ วิธีนี้จึงเป็น win win game คือ happy ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายลูกค้าและบริษัท หุ้นของบริษัทแม่ที่ trade อยู่ที่ตลาดหุ้น colombo ราคาขึ้นจาก ไม่ถึง 10 เหรียญ ไปเป็นราคา 100 กว่าเหรียญ เนื่องจากผลประกอบการโตต่อเนื่องตลอด ตามเงื่อนไขของ BOI บริษัทจะต้องปลูกให้เต็มพื้นที่ 1900 ไร่ ภายในระยะเวลา 8 ปี แต่นี่เพียง 2 ปีกว่า บริษัทขายไปแล้ว 900 กว่าไร่ ซึ่งเป็นการเติบโตที่เร็วมาก ปลายเดือนนี้จะมีการออกทีวีช่อง 11 ค่ะ ที่มาแนะนำเพราะหากใครสนใจจะลงทุนอยากให้ได้ราคาเก่ากัน ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้ปรับขึ้นอีก 17 % เนื่องจากดิฉันขอกับทางบริษัทไว้เป็นกรณีพิเศษ ขอใช้ราคาเก่าจนถึงสิ้นเดือนนี้ แต่จริงๆบริษัทปรับราคาขายเพิ่มอีก 17 % ตั้งแต่ 1 กย.ที่ผ่านมาแล้วค่ะ หากใครสงสัยและอยากได้ความกระจ่างกว่านี้ แจ้งชื่อที่อยู่มาได้ค่ะ จะส่งเอกสารและแผ่นซีดีไปให้
โดย
peaceful
ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 10:01 pm
0
0
หากมีธุรกิจที่ลงทุนเพียง 6 ปี พร้อม GUARANTEEผลตอบแทน 4 เท่า
ปกติดิฉันจะกระจายการลงทุนค่ะ ไม่ได้ลงทุนแต่ในหุ้นอย่างเดียว พี่ ต.หยวนเปียว รวยกว่าอีกค่ะ ดิฉันยังต้องฝึกอีกเยอะค่ะ แต่ยังดีว่าการลงทุนในหุ้นที่ผ่านมาก็ยังให้ผลตอบแทนที่พอใจ ธุรกิจตัวนี้ที่ลงทุนไป เพราะเห็นเมืองนอกเขาก็มีกันมานานแล้ว เพียงแต่ในเมืองไทยอาจจะดูเป็นเรื่องใหม่ ก็เลยคิดกันว่า มีธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ ก็คล้ายๆกับตอน ticon จะออก property fund ครั้งแรก คนก็ไม่ค่อยเข้าใจ เห็นถกเถียงกันมานาน จนในที่สุด property fund ของ ticon ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนมีการเพิ่มทุนให้กองใหญ่ขึ้นอีก ธุรกิจ สไตล์แบบนี้ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาไปทำเอง ไม่มีความสามารถพอ ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีทุนที่หนาพอที่จะไปซื้อที่ดินเอง หรืออาจมีทุนแต่ขาดประสบการณ์ในการเลือกทำเล และการต่อรองราคา ไม่มีระบบการจัดการที่ดี บริหารไม่เป็น และหาลูกค้าไม่เป็น หาตลาดรองรับไม่ได้ และเหตุผลอื่นๆอีกร้อยแปดพันเก้า ธุรกิจแนวนี้เลยเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆดังที่กล่าวแล้วข้างต้น พอดีมีญาติอยู่ ตปท เยอะ ก็เลยว่าจะไปแนะนำเขาเหมือนกัน ตอนนี้กำลังจะขยายไปที่มาเลเซีย เซี่ยงไฮ้ เกาหลี ก็เห็นว่าดีเลยมาแนะนำค่ะ เพราะตัวเองก็ลงทุนไปเหมือนกันไม่ได้คิดจะมาหลอกลวงนะคะ ท่าน.......กระทรวงพาณิชย์ และท่าน......ศาลปกครอง ก็ลงทุนด้วยเหมือนกันค่ะ
โดย
peaceful
ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 6:57 pm
0
0
อ่านเจอมาขำๆครับ เรื่องราวของผู้บริหารท่านหนึ่ง
ราคาไม่ได้ลงมา 13% อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกค่ะ ที่ลงเพราะ dilute เงินปันผล 0.20 ค่ะ ลงจริงๆไม่มากเลยค่ะ ประมาณไม่เกิน 5 % ถ้านับคนที่มีทุนติดอยู่ที่ราคา high 2.6 ค่ะ
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 11:35 am
0
0
หุ้นที่มีสินค้าอันดับ 1 ในตลาด.....P/E เท่าไหร่ดี
ใครกันน๊า ! ที่บอกว่าอยากซื้อต่ำกว่าราคา 20 บาท ตอนนี้มีผู้ช่วยทุบให้แล้วค่ะ
โดย
peaceful
อังคาร ก.ค. 18, 2006 11:02 am
0
0
ได้ขึ้นราคา 1 บาท กับ น้ำมันขึ้นไป 3x บาท อันไหนแรงกว่ากัน?
........อย่าลืมภาษีสรรพสามิตด้วยครับ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ 35 สตางค์/ 1 บ. หรือเปล่าไม่แน่ใจ ต้นทุนรวมภาษีสรรพสามิตแล้ว ก็ยังน้อยกว่าราคาที่ปรับเพิ่มค่ะ งานนี้ดูแล้ว eps กรณีแย่ๆก็น่าจะเท่าเดิมไม่น่าลดลง มีโอกาสที่ eps เพิ่มขึ้นมากกว่าค่ะ เมื่อเดือนก่อนมี big lot ราคา 21 บาท มูลค่า 170 ล้านบาท ไม่รู้ฝีมือใคร เท่าที่ดูหุ้นลงมาแบบไม่มี vol เลย เอ ! ไม่รู้ใครแอบทุบ :roll:
โดย
peaceful
จันทร์ ก.ค. 17, 2006 4:30 pm
0
0
ได้ขึ้นราคา 1 บาท กับ น้ำมันขึ้นไป 3x บาท อันไหนแรงกว่ากัน?
ประมาณการณ์จากท่านผู้รู้ ......สำหรับราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น 3 บาทต่อ กก และล่าสุด 0.75 บาท คิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มต่อขวด ( 8 บาท ) ขวดละ 0.15 บาท ในขณะที่ ssc ได้ปรับขึ้น 1 บาทครับ ส่วนน้ำมันที่เพิ่มก็ยังไม่เกิน 0.3 บาทต่อขวด เท่าที่ถามทางบริษัท volume ไม่ลดลงจากการขึ้นราคา eps ปีหน้าก็ประมาณ 3.5 บาท
โดย
peaceful
จันทร์ ก.ค. 17, 2006 3:16 pm
0
0
ท่านผู้ใดต้องการ Research ถึงเมล์ท่านทุกๆเช้าครับ รับฟรีครับ
ขอด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
[email protected]
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. ก.ค. 06, 2006 2:15 pm
0
0
ลุงขวด,คุณปรัชญา หรือท่านอื่นที่ถือ tks ค่ะ ขอสอบถามค่ะ
ขอบคุณคุณลุงขวดและคุณปรัชญาและผู้รู้ทุกๆท่านค่ะ
โดย
peaceful
อังคาร มิ.ย. 06, 2006 9:40 am
0
0
มีข้อมูลกองทุนเปิดพันธบัตรรัฐบาล ssf มาบอกค่ะช่วยกันดูหน่อย
ไม่มีใครมาตอบเลย :(
โดย
peaceful
อังคาร พ.ค. 30, 2006 11:27 am
0
0
หากจะ search หุ้น kh ไม่ทราบว่าต้องพิมพ์ยังไงคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณ woody
โดย
peaceful
พฤหัสฯ. เม.ย. 20, 2006 11:46 am
0
0
ถามท่านผู้รู้ค่ะ kh เครดิตภาษีปันผลได้หรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ
ได้โทรไปถามบริษัทแล้วค่ะ เครดิตภาษีได้ค่ะ บริษัทเสียภาษี 25% และได้ข้อมูลจากบริษัทมาว่ามีกองทุน และbroker หลายแห่งสนใจในตัว kh มากและได้มีการเข้ามาเยี่ยมชมและคุยกับบริษัทอยู่
โดย
peaceful
อังคาร เม.ย. 04, 2006 11:21 am
0
0
ถามท่านผู้รู้ค่ะ kh เครดิตภาษีปันผลได้หรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ
มีใครเคยได้ ปันผล kh จาก รอบก่อนบ้างคะ สามารถทำเครดิตได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
โดย
peaceful
จันทร์ เม.ย. 03, 2006 12:58 pm
0
0
149 โพสต์
of 3
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
peaceful
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ ม.ค. 15, 2005 11:00 pm
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ ส.ค. 17, 2012 10:54 am
โพสต์ทั้งหมด:
308 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.04 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว