หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
คลื่นกระทบฝั่ง
Joined: เสาร์ ม.ค. 08, 2005 1:33 am
96
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - คลื่นกระทบฝั่ง
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Where Are We In The Global Economic Cycle?
ผมก็ไม่ได้บอกว่า peak ผมแค่ถามความคิดนะคุณgenie สิ่งที่บทความนี้บอกก็คือGrowth can be expected to slow down for the next six months or so, but should then recover going into the second half of next year. ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อได้บอกเมื่อเร็วๆนี้(มีลงในหนังสือพิมพ์ด้วย)ี้ ว่าจะลงไปตํ่าสุดประมาณกลางปี 2005แล้ว ฟื้น ( แต่ไม่ได้บอกว่า ฟื้นมากแค่ไหนไปได้ไกลแค่ไหน ) ผมว่าอันนี้อาจจะช่วยบอกถึง timingที่ดีในการเข้าลงทุนครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
พุธ ม.ค. 12, 2005 10:08 pm
0
0
สงสัยครับ 2อันนี้ต่างกันตรงไหน??
ยินดีครับ ที่ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นกันในเนื้อหาสาระ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
พุธ ม.ค. 12, 2005 9:53 pm
0
0
## อ่านแล้วชักเสียวเสียว ##
มาอีกแล้ว 900 จุด 1000จุด เดี๋ยวรายย่อยมั่นใจสุดๆอัดเต็มๆอีก จะเป็นเรื่องนา
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 11:25 pm
0
0
สงสัยครับ 2อันนี้ต่างกันตรงไหน??
เปรียบเทียบได้ชัดเจนดีครับ คุณhouse ถ้าในภายหน้า ประชานิยม aggressive กันสุดๆแบบอาร์เจนตินา ถ้าเป็นแบบนั้น ผมอยากให้นักการเมือง เบี้ยว สิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชนก่อนเลือกตั้งบ้าง ก็ได้นะครับ ไม่ต้องทําจนครบ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:50 pm
0
0
สงสัยครับ 2อันนี้ต่างกันตรงไหน??
คล้ายๆบทความแบบนี้ใช่ไหมครับ คุณhouse ผมทำนายไว้ว่า อีกไม่ช้าจะมีการยกหนี้ให้คนจนในเมืองไทย นั่นไม่ใช่การทำนายครั้งแรก ผมทำนายมาแล้วหลายครั้ง ปัจจัยที่ทำให้ผมกล้าฟันธงเช่นนั้น มี 2 ประการคือ (1) ความเชื่อที่ว่า การพักชำระหนี้ชั่วคราวให้แก่เกษตรกร จะแก้ปัญหาอย่างถาวรให้กับเกษตรกรยากจนได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะไม่สามารถฉุดตัวเองออกจากวังวนของความยากจน และภาระหนี้สินได้ (2) ประวัติศาสตร์บ่งว่า มาตรการประชานิยมเมื่อเริ่มแล้วเลิกยาก หากจะเพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น (ประวัติศาสตร์การใช้นโยบายประชานิยมอาจหาอ่านได้ในหนังสือเรื่อง "ประชานิยม : หายนะจากอาร์เจนตินาถึงไทย " ซึ่งพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 และซีเอ็ด ยูเคชั่น จัดจำหน่าย) เมื่อการพักชำระหนี้ชั่วคราวแก้ปัญหาอย่างถาวรมิได้ ขั้นต่อไปคือการกดดันให้ใช้มาตรการยก ล้างหรือปลดหนี้ ซึ่งมีความหมายเดียวกัน ในระบอบประชาธิปไตย การกดดันอาจมาจากผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจำนวนมาก และจากพรรคการเมืองคู่แข่ง หรือจากทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมๆ กัน ฉะนั้นผมจึงไม่แปลกใจที่นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์รวมมาตรการ "ล้างหนี้" และของพรรคมหาชนมีมาตรการ "ปลดหนี้" สองพรรคนี้แสดงความจำนงที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป และชูนโยบายยกหนี้คนจนเหมือนกัน พรรคไทยรักไทยจะถูกกดดันให้ประกาศนโยบายแนวนี้ หากต้องการที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคมหาชน ชูนโยบายเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญา นโยบายนี้เปรียบเสมือนการต่อยอดนโยบายของพรรคไทยรักไทยให้เข้มข้นขึ้นอีก นโยบายด้านสวัสดิการสังคม และด้านสุขภาพ ก็เช่นกัน เป็นการต่อยอดนโยบายของพรรคไทยรักไทย เช่น การประกันสุขภาพถ้วนหน้า ( 30 บาทรักษาทุกโรค) และการหักค่าดูแลพ่อแม่ยามแก่ชราออกจากภาระภาษีที่จะต้องเสียให้รัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคมหาชนไม่รอจนกว่าจะได้เป็นรัฐบาล ก่อนที่จะออกปฏิบัติการประชานิยม ทั้ง 2 พรรคส่งคาราวานแก้ความยากจนออกเยี่ยมเยียนประชาชนพร้อมๆ กับคาราวานของพรรคไทยรักไทย ซึ่งกำลังใช้เงินของรัฐซื้อความนิยม ก่อนการเลือกตั้งอย่างเอิกเกริก สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงปาหี่ประชันกันมากกว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ พรรคประชาธิปัตย์ยังประกาศนโยบายที่จะประกันให้ทุกคนมีงานทำเมื่อเรียนจบ จริงอยู่โอกาสที่นโยบายนี้จะถูกนำมาใช้ในเร็ววันมีน้อยมาก เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ในวันข้างหน้าจากแรงผลักดันของประชานิยม หากนโยบายนั้นถูกนำมาใช้สักวันหนึ่งเมืองไทยคงจะมีภาพคล้ายที่ผมเห็นในอียิปต์ อียิปต์ ประสบวิกฤติเศรษฐกิจซ้ำซาก และไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หลายครั้ง ปัจจัยหนึ่งซึ่งทำให้เกิดวิกฤติ คือ รัฐบาลใช้งบประมาณขาดดุลอย่างร้ายแรง เพราะอียิปต์ต้องจ่ายค่าแรงงานให้แก่ข้าราชการสูงมากอย่างต่อเนื่อง ผมมีโอกาสไปศึกษาปัญหาของอียิปต์ กับคณะของธนาคารโลก และเคยนำมาเล่าไว้ในจดหมายจากวอชิงตัน (ปี 2543) การไปอียิปต์ครั้งนั้น สร้างความประทับใจหลายอย่าง วันหนึ่งคณะของผมไปเยี่ยมสำนักงานเกี่ยวกับการเกษตรในเมืองอะเล็กซานเดรีย ซึ่งรุ่งเรืองเมื่อครั้งอียิปต์ยังเป็นเมืองขึ้นของกรีกยุคอะเล็กซานเดอร์มหาราช เมื่อพวกเราถามเขาว่า "สำนักงานนี้มีข้าราชการกี่คน" เขาย้อนถามกลับมาว่า "คุณหมายถึงข้าราชการทั้งหมด หรือคนที่มาทำงาน " เมื่อทำความเข้าใจกันได้แล้ว เขาตอบว่า ในสำนักงานมีข้าราชการราว 1,200 คน และมาทำเป็นประจำราว 300 คน ส่วนที่เหลือถูกขอร้องให้ไม่ต้องมาทำงาน เพราะไม่มีอะไรจะให้พวกเขาทำ หากพวกเขาพร้อมใจกันมาทำงานจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวง เพราะสำนักงานจะไม่มีแม้กระทั่งที่ยืน แต่นั่นไม่สร้างประทับใจให้ผมเท่ากับการไปเยี่ยมกระทรวงแรงงาน ครั้งแรกผมไปพบกับข้าราชการผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งดูแลนโยบายหลายอย่างของกระทรวง ผมไม่รู้สึกว่า มีอะไรในกระทรวงนั้นผิดแผกจากสำนักงานทั่วไปในอียิปต์ เนื่องจากผมไม่ได้รับข้อมูลครบตามที่ต้องการ เราจึงนัดคุยกันเป็นครั้งที่ 2 ผมไปตามนัด แต่วันนั้นมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อไปถึงผมพบว่า ทั้งตึกมีคนเต็มไปหมดจนแทบไม่มีที่จะยืน รวมทั้งบนบันไดที่จะขึ้นไปยังสำนักงานของข้าราชการผู้ใหญ่คนนั้นด้วย เมื่อผมถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้คำตอบว่า วันนั้นเป็นวันเงินเดือนออก ข้าราชการทุกคนมารอรับเงินเดือน วันนั้นทั้งวันการทำงานอื่นๆ ต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย เพราะสำนักงานไม่มีที่ให้ข้าราชการนั่ง แม้แต่ในสำนักงานของข้าราชการผู้ใหญ่ที่ผมไปพบก็มีคนเต็ม ยืนบ้าง นั่งบนเก้าอี้บ้าง บนโต๊ะทำงานบ้าง ยังผลให้เรานั่งคุยกันไม่ได้ในวันนั้น ที่มาของปัญหาข้าราชการล้นจนไม่มีที่ยืน คือ นโยบายซึ่งเกิดในสมัยที่อียิปต์ยังมีผู้เรียนจบปริญญาไม่พอแก่ความต้องการ รัฐบาลจึงกระตุ้นให้คนเรียนมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าหางานทำไม่ได้เมื่อเรียนจบ รัฐจะรับอย่างไม่จำกัด นโยบายนั้นกลายเป็นประชานิยม ซึ่งยกเลิกไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน หากคนไทยคิดว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นประตูเดินสู่โลกพระศรีอาริย์ ทำให้เมืองไทยไม่มีคนตกงานแม้แต่คนเดียว อยากให้ไปศึกษาปัญหาของประเทศอียิปต์ วันหนึ่งข้างหน้าลูกหลานจะได้ไม่ถามว่า "เราเก่งกว่าเขา หรือเราไม่อ่านประวัติศาสตร์" ซ้ำอีกครั้งทั้งที่รัฐบาลถูกถามมาแล้ว เพราะนโยบายแนวประชานิยมซึ่งกำลังดำเนินอยู่อาจเกิดจากความโอหังหรืออวิชชา โดยไม่รู้ว่าเคยทำให้อาร์เจนตินาล่มจมมาแล้ว ในช่วงนี้คนไทยกำลังสนุกสนานกับการชมปาหี่ ซึ่งพรรคการเมืองต่างนำออกมาประชันกัน วันนี้ผมจึงจะทำนายไว้เลยว่าหากคนไทยยังเพลิดเพลินกับการชมปาหี่ก่อนการเลือกตั้งอย่างไม่ใช้ความคิด วันหนึ่งข้างหน้าเมืองไทยจะต้องจ่ายค่าชมสูงชนิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เป็นเพียงการโหมโรง จะโดนด่า ว่ามาด่ารัฐบาลอีกหรือเปล่านี่ตรู
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:34 pm
0
0
มีใครคิดหรือลงทุนในต่างประเทศบ้างครับ
ถามคุณ CK หน่อยครับ ประเทศไหนที่เขาไม่เก็บภาษีจาก capital gainเหมือนประเทศไทยครับ อยากทราบ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:27 pm
0
0
มีใครคิดหรือลงทุนในต่างประเทศบ้างครับ
CK Top Posters Joined: 05 Jun 2003 Posts: 3213 Location: บางกอก New postPosted: Tue Jan 11, 2005 10:22 pm Post subject: Reply with quote ลงทุนในต่างประเทศ ส่วนใหญ่มี tax จาก capital gain นะครับ _________________ CK Gallery จริงอย่างที่คุณCKว่า เห็นฝรั่งเขาว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุดในชีวิต 2 สิ่งคือ ความตายและก็ภาษีนี่แหละ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:24 pm
0
0
มีใครคิดหรือลงทุนในต่างประเทศบ้างครับ
น่าสนใจครับ คุณbigbuck ผมว่าการลงทุนในEmerging market น่าสนใจกว่าตลาดที่ค่อนข้างmature แล้วอย่างยุโรปครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:16 pm
0
0
### ใครจะชิงลงมือก่อน ##
อันนั้นเข้าใจครับ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็น VI พันธ์แท้น่ะสิครับ หลายๆคนเกาะกระแสหุ้นBig cap. ตามฝรั่ง หรือหุ้นเล็กๆตามที่เขาคิดว่ามีคนดูแล ผมถึงอยากรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้น คิดกันอย่างไร คําถามนี้คงไม่ได้ตั้งใจถามคุณchatchaiหรือใครที่เป็นVI แท้ๆน่ะครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 10:10 pm
0
0
มีใครคิดหรือลงทุนในต่างประเทศบ้างครับ
คิดที่จะลงทุนต่ีางประเทศเหมือนกันครับ ผมว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมันdynamic มันมีcycleที่ไม่ตรงกัน ช่วงที่ตลาดหนึ่งบูมสูดๆแพงสุดๆ(ซึ่งอาจเป็นจังหวะขายที่ดีที่สุด) อีกตลาดอาจหมดอาลัยตายอยาก(ซึ่งอาจเป็นจังหวะซื้อที่ดีที่สุด) ผมว่าแบบนี้เรา้สามารถหาโอกาสได้ทั่วโลก ไม่จํากัดพรมแดน ไม่จํากัดเวลาครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 9:45 pm
0
0
สงสัยครับ 2อันนี้ต่างกันตรงไหน??
ประชานิยม ระยะยาว win - lost ยังไงหรือคุณhouse ช่วยอธิบายหน่อยครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
อังคาร ม.ค. 11, 2005 9:29 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
ขอขอบคุณ อ.ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์อีกครั้งครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:14 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
(3)ภาระของคนจน แม้จะมีการอ้างว่านโยบายประชานิยมเป็นการสนองความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ภาวะเงิน เฟ้อที่เป็นผลตามมาภายหลังจะทำให้ต้นทุนตกอยู่กับคนจน การสร้างภาวะเงินเฟ้อนั้นเป็นความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นภาษีทางอ้อมที่คนจนไม่สามารถผลักภาระได้เหมือนภาคธุรกิจ ดังนั้น ในหลายประเทศที่ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคแบบประชานิยม คนจนจึงเสียประโยชน์มากกว่าประชาชนกลุ่มอื่นๆ เราควรยอมรับว่าคนจนไม่สามารถปรับตัวได้มากนักเมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤต ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อที่สูงมาก รัฐบาลจะไม่ยินดีกับมาตรการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อลดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ภาคธุรกิจสามารถสร้างแรงกดดันทางนโยบายและผลักภาระต้นทุนการผลิตไปสู่ผู้บริโภคได้ ประชาชนที่ยากจนที่สุดนอกจากจะไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากนโยบายประชานิยมแล้ว ยังเป็นกลุ่มที่ได้รับความไม่เป็นธรรมมากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวเลขการกระจายรายได้ของประเทศที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากนโยบายประชานิยม เช่น บราซิล และชิลีนั้นก็ปรากฏว่าแย่ลง ซึ่งแตกต่างจากกรณีของโคลัมเบียที่วินัยทางการเงินการคลังได้รับการเน้นหนักมากกว่า นักการเมืองของไทยที่ชื่นชมนโยบายประชานิยมอาจมองความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในแง่ร้าย แต่ผลกระทบของนโยบายประชานิยม จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบจากทุกภาคส่วน ซึ่งรวมทั้งจากภายในฝ่ายรัฐบาล และจากฝ่ายค้าน ทั้งนี้ เพื่อช่วยกันป้องกันมิให้เป็นยุทธศาสตร์ที่ครอบงำระบบการเมือง และสร้างความเสียหายแก่ประชาชนส่วนใหญ่ในอนาคต
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:13 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
ความสูญเปล่าทางการคลัง การกระตุ้นเศรษฐกิจที่หวังผลทางคะแนนเสียง มิได้มีวัตถุประสงค์ที่ตรงจุดของปัญหา การใช้จ่ายของภาครัฐ จึงเป็นการใช้ทรัพยากรทางการเงินอย่างไร้ประสิทธิภาพและขาดกฎเกณฑ์ที่มีวินัยอย่างเพียงพอ นอกจากการกระตุ้นอุปสงค์รวมจะขาดประสิทธิผล เพราะทำให้การนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นแล้ว แนวทางประชานิยมยังส่งเสริมการใช้จ่ายที่ขาดความระมัดระวังและเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ การใช้จ่ายมักเป็นไปเพื่อการบริโภคโดยที่งบประมาณมิได้ตกไปยังโครงการที่คุ้มค่าจริงๆ ศาสตราจารย์ ฟินน์ คิดแลนด์(Finn Kydland) ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2004 นี้ ได้เคยศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาที่นำไปสู่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในปี ค.ศ. 2001-2002 และพบว่าในขณะที่เศรษฐกิจอาร์เจนตินาขยายตัวอย่างน่าพึงพอใจในช่วงทศวรรษ 1990 การสะสมทุนเป็นไปอย่างอ่อนแอมากซึ่งศาสตราจารย์คิดแลนด์เชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้อาร์เจนตินาไม่สามารถรอดพ้นภาวะวิกฤต ที่เริ่มก่อตัวในช่วงปลายทศวรรษได้ การหวังคะแนนเสียงทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้ากลายเป็นความสูญเปล่า โครงการสำคัญๆ อย่างเช่น โครงการปฎิรูปที่ดิน และโครงการเพื่อการพัฒนาที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในเขตยากจนและเกษตรกรที่ใช้ที่ดินทำกิน กลับมิได้รับความเอาใจใส่จากรัฐ การกระตุ้นเศรษฐกิจกลายเป็นการเร่งปัญหาการใช้จ่ายเกินตัวและการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน โครงการประชานิยมนั้น ไม่สามารถกระตุ้นการพัฒนาในชนบท และกลายเป็นการใช้จ่ายที่สูญเปล่า ซึ่งเมื่อเงินอุดหนุนหมดลง การกระจายรายได้ก็ยังมิได้ดีขึ้น
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:12 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
(1)ความล้มเหลวอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ นโยบายประชานิยมมักอยู่ในรูปของการแทรกแซง และการกระตุ้นอุปสงค์ระยะสั้น ที่นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งเป็นปัญหาทางโครงสร้างแล้ว ยังนำไปสู่ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจได้โดยง่าย ซึ่งภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็มักจะตกอยู่กับประชาชนส่วนใหญ่ การกระตุ้นอุปสงค์แบบเคนส์เซียนและการบิดเบือนเศรษฐกิจ เพื่อหวังคะแนนนิยมมากกว่าการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด อาจทำให้ประชาชนตื่นเต้นในระยะต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจซบเซาหรือความน่าเบื่อหน่ายทางการเมือง แต่ในระยะต่อมา อุปสงค์รวมที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอันเนื่องมาจากการใช้จ่ายเกินตัว เศรษฐกิจที่ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อสูงและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างหนัก ทำให้หลายประเทศในละตินอเมริกาต้องเผชิญกับปัญหาเงินทุนไหลออกอย่างฉับพลันและปิดฉากลงด้วยการ (ก)เข้าสู่โครงการรัดเข็มขัด(austerity program) ของไอเอ็มเอฟหรือไม่ก็ (ข)ประกาศระงับการชำระหนี้ (debt moratorium) ประเทศที่ดำเนินนโยบายประชานิยมอย่างหนักในละตินอเมริกาล้วนมีวัฏจักรของความล้มเหลวที่คล้ายคลึงกันนี้ รัฐบาลประชานิยมของประธานาธิบดีอิซาเบล เปรอง แห่งอาร์เจนตินา เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมาก เพราะนโยบายประชานิยมดูดีในช่วงระยะเวลาที่สั้นมาก และแปรสภาพเป็นวิกฤตการณ์อย่างรวดเร็ว กลางปี ค.ศ.1973 รัฐบาลอาร์เจนตินาได้เรียกคะแนนนิยมมากมาย จากการหยุดยั้งภาวะเงินเฟ้อ ด้วยการควบคุมราคาสินค้า และค่าจ้างแรงงานอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เศรษฐกิจที่ขยายตัวมีภาวะเงินเฟ้อลดลงทันที อย่างไรก็ตาม จากนั้นเพียงปีครึ่งปัญหาก็เริ่มปรากฏให้เห็น เนื่องจากภาคธุรกิจประสบปัญหาขาดทุน สินค้าเกิดขาดแคลน ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินการคลัง ดังนั้น เมื่อถึงช่วงกลางปี ค.ศ.1975 อาร์เจนตินาก็ประสบวิกฤตการณ์ดุลการชำระเงิน เศรษฐกิจชะงักงัน ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความไม่สงบทางสังคมขยายตัวซึ่งจากนั้นในเดือนมีนาคม 1976 ก็เกิดการรัฐประหารขึ้นและต้องมีการนำเอานโยบายเศรษฐกิจที่เข้มงวดมาใช้ นโยบายประชานิยมดังกล่าวมีอายุสั้นเพียง 2 ปีครึ่ง แต่ได้สร้างปัญหา และความทุกข์ไว้มากมายทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จนอาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครที่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงจากนโยบายประชานิยมในสมัยนั้น
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:12 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
โคลัมเบียซึ่งมีปัญหาการกระจายรายได้คล้ายคลึงกันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคและเป็นประเทศเดียว ที่ไม่เคยถูกครอบงำโดยนโยบายประชานิยม กลับมีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ราบรื่น มีการกระจายรายได้ที่ดีขึ้น เศรษฐกิจเติบโตค่อนข้างดี และมีปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่ต่ำเมื่อเทียบกับมาตรฐานของละตินอเมริกา คนจำนวนไม่น้อยอาจมองด้วยความหวังว่า นโยบายประชานิยมซึ่งมีสีสันน่าจะให้ประโยชน์คนยากจน เพราะเป็นการดึงดูดทรัพยากรทางการเงินจากผู้เสียภาษีอากรมาให้ หรือถ้าส่วนรวมจะมีภาระมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดคนยากจนก็ยังได้รับประโยชน์อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ในเชิงวิชาการ นโยบายประชานิยมเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สร้างภาระอย่างมาก ทั้งในแง่ของสังคมโดยรวมและต่อประชาชนที่ยากจนเอง สาเหตุสำคัญมีหลายประการ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:10 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
นโยบายประชานิยมมิใช่สิ่งใหม่เพราะมีการใช้มายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ เป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง ที่แพร่หลายในละตินอเมริกา ซึ่งไม่มีตัวอย่างใดเลย ที่พบว่านำไปสู่ความสำเร็จในทางเศรษฐกิจ จากประสบการณ์ของละตินอเมริกา ประเทศที่ดำเนินนโยบายประชานิยม มักจบลงด้วยความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ และความยุ่งยากทางการเมือง ไม่ว่าจะใน อาร์เจนตินา บราซิล เปรู ชิลี เวเนซุเอลา เอกวาดอร์หรือเม็กซิโก การกระจายรายได้และฐานะของคนยากจนมิได้ดีขึ้น ส่วนการเมืองก็มักรุนแรงและไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรของนโยบายประชานิยมที่เกิดขึ้นยุคแล้วยุคเล่า
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:10 pm
0
0
=== ทำไมทุกคนจึงเสียหายจากประชานิยม ===
นักเศรษฐศาสตร์ย่อมต้องการเห็นสังคมที่มีความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ มีช่องว่างระหว่างคนจน-คนรวยที่ห่างน้อยลง และมีการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง แต่ทำไมโครงการประชานิยมที่อ้างว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าหรือกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนอย่างง่ายๆ จึงได้รับการคัดค้านอย่างมากมาย ความคิดที่เป็นเอกภาพของนักเศรษฐศาสตร์มิได้มาจาก "ภาวะวิตกจริต" พร้อมๆ กัน หากตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาและความหวังดีต่อส่วนรวม
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 11:09 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ขอขอบคุณ รศ.ดร.ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ ด้วยครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:59 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ประการที่สี่ การก่อหนี้เพิ่มของภาคครัวเรือนเกิดขึ้นโดยผูกกับการให้เงินอุดหนุนและสถาบันการเงินของรัฐ ยกตัวอย่างเช่นโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งผูกพันงบประมาณจากรัฐสูงถึง 80,000 ล้านบาท ภาระทางการเงินส่วนนี้ในท้ายที่สุด ย่อมต้องมีที่มาจากประชาชนผู้เสียภาษีอากร อย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคตเศรษฐกิจไทย ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศ และรัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เพียงพอ ภาคครัวเรือนและสถาบันการเงินของรัฐก็จะประสบปัญหาที่รุนแรงตามไปด้วย การกระตุ้นการก่อหนี้ของภาคครัวเรือนจึงกลายเป็นนโยบายเศรษฐกิจที่ขาดความเบ็ดเสร็จ เนื่องจากเดินสวนทางกับการปฏิรูปในทางโครงสร้าง ภายใต้สถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวเป็นลำดับ รัฐบาลปัจจุบันจะประสบความสำเร็จทางการเมืองได้ไม่นานนัก ถ้าดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างพอเหมาะ ถูกวิธี และไม่มุ่งสร้างฐานการเมืองที่กว้างเกินไป ทั้งนี้ เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีความสม่ำเสมอและยั่งยืนต่างหากที่จะสร้างคะแนนนิยมได้อย่างแท้จริง
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:58 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ประการที่สาม แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ต่ำมาก แต่ความเสี่ยงทางด้านอัตราดอกเบี้ยและรายได้ในอนาคตอาจทำให้ประชาชนไม่สามารถจ่ายหนี้บางส่วน และกลายเป็นความล้มเหลวในระดับครัวเรือน ความจริงแล้วภาคครัวเรือนมีความจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มพูนการออม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งรายจ่ายชำระหนี้จะมีสัดส่วนที่สูงขึ้น ในขณะที่การออมโดยรวมของประเทศก็อาจไม่เพียงพอต่อการลงทุน จนกระทั่งนำไปสู่การพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศเหมือนเช่นในอดีต
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:57 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ประการที่สอง เรามักเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าปัญหาหนี้เสียเป็นปัญหาของนักธุรกิจมิใช่ปัญหาของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป จากข้อมูลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ให้เห็นว่าภาคครัวเรือนของไทยนั้นมีหนี้สินจนน่าเป็นห่วง และก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในอัตราเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 12.6 ต่อปี ในปี พ.ศ.2545 หนี้สินต่อรายได้ของครัวเรือนอยู่ในอัตรา 6.2 เท่า โดยการก่อหนี้เพิ่มขึ้นในแต่ละปีก็อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากคือสูงถึงร้อยละ 65.7 ของรายได้ในแต่ละปี หรือร้อยละ 93.7 ของรายได้สำหรับครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:57 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ประการแรก ในขณะที่ความยากจนและความด้อยโอกาสของผู้มีรายได้น้อยหมายถึงข้อจำกัดด้านสภาพคล่องหรือสินเชื่อ แต่การก่อหนี้เพิ่มขึ้นโดยง่ายจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เว้นเสียแต่ว่าประชาชนจะนำสินเชื่อดังกล่าวไปใช้ในโครงการลงทุนที่มีอนาคตเท่านั้น
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:56 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
แนวทางเศรษฐกิจที่ส่งเสริมการก่อหนี้ของภาคครัวเรือนก็กำลังทวีบทบาทอย่างน่าเป็นห่วง และแม้ว่าแนวทางนี้จะให้ผลที่ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากทางการไม่จำเป็นต้องพัฒนาโครงการรายจ่ายขึ้นมารองรับ แต่จะเป็นกลวิธีที่ส่งผลต่อรายจ่ายรวมในช่วงเวลาที่จำกัด ผลด้านลบของการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยอาศัยการก่อหนี้ภาคครัวเรือนนั้นมีหลายประการ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:56 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านการก่อหนี้ของภาครัฐเริ่มประสบกับขีดจำกัด เพราะกำลังนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต รัฐบาลกำลังจ้องจัดเก็บภาษีประเภทใหม่ๆ มากขึ้นเพื่อชดเชยรายจ่ายที่มุ่งตอบสนอง "ยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาล" รวมทั้งคำมั่นสัญญาในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ภายใต้การเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้ ประเทศไทยก็จะกลายเป็นประเทศที่มีภาษีสูงมากอันเป็นการบั่นทอนศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีโลก
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:56 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
อย่างไรก็ตาม กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันดูเหมือนจะกำลังดำเนินรอยตามละตินอเมริกา ทั้งในแง่ของแนวทาง ทางการเมืองที่มุ่งสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้นำประเทศเป็นศูนย์กลางของการบริหารจัดการและการสงเคราะห์ประชาชน ทั้งในแง่ของการมุ่งสร้างการสนับสนุนทางการเมืองจากประชาชนโดยตรงไม่ผ่านกระบวนการอื่นๆ ทั้งในแง่ของการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทับซ้อนกับการสงเคราะห์ผู้ยากไร้และการกระจายรายได้ ทั้งในแง่ของการละเลยหลักวินัยทางการเงิน-การคลัง ในภาวะที่ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินและประชาชนก็ยังยากจนอยู่มาก
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:55 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ที่จริงแล้วประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเคยประสบภาวะชะลอตัวคล้ายคลึงกับสหรัฐอเมริกา และละตินอเมริกา ในช่วงวิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งที่สอง แต่รัฐบาลในสมัยนั้นตัดสินใจถูกต้องที่บริหารเศรษฐกิจภายใต้ภาวะความเสี่ยงต่างๆ ด้วยความรอบคอบรัดกุม และมีนโยบายที่ยึดมั่นในวินัยทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกก็สามารถฟื้นตัวได้ด้วยพื้นฐานที่เข้มแข็ง ในขณะเดียวกันนั้น เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา กลับไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ส่วนละตินอเมริกาก็ประสบกับวิกฤตเหตุการณ์หนี้สินอย่างหนัก และต้องทนทุกข์กับนโยบายที่ผิดพลาดจนกระทั่งทุกวันนี้
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:55 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
ประเทศส่วนใหญ่ในละตินอเมริกาอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายเศรษฐกิจเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองแบบง่ายๆ แม้ว่าจะมีเหตุผลทางสังคมที่ดีเช่น การกระจายรายได้ การสังคมสงเคราะห์ และการสร้างกระแสพึ่งตนเอง ตลอดหลายทศวรรษละตินอเมริกาจึงมีบทเรียนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองมากมายจากนโยบายประชานิยม ที่ในท้ายที่สุดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กล่าวอ้างไว้ หากแต่กลับนำไปสู่ความยากจนที่มากขึ้น ประชาชนพึ่งตนเองไม่ได้ สังคมแตกแยก และการเมืองไร้เสถียรภาพ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกลับนำไปสู่ภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรงภายหลังภาวะเติบโตเพียง 3-5 ปี เมื่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาการว่างงานเริ่มเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงปี 1979-80 สหรัฐอเมริกาก็เคยประสบกับปัญหา อันเนื่องมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งประธานาธิบดีเรแกน ได้ตัดสินใจลดภาษีครั้งใหญ่ระหว่างปี ค.ศ.1981-83 ด้านหนึ่งนั้นเป็นการหวังผลกระตุ้นการผลิตและการลงทุนให้เป็นที่ประจักษ์ และในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการลดอิทธิพล ของสภาคองเกรสที่มีต่องบประมาณรายจ่าย แนวทางของเรแกนได้รับการเตือนจากนักเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เนื่องจากสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันโลกสูง ดังนั้น การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลาง เพื่อลดภาวะเงินเฟ้อ จึงทำให้นโยบายการลดภาษีนำไปสู่ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างรุนแรง ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวที่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ กลับต้องยาวนานออกไป
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:54 pm
0
0
==กลวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ : ประชานิยมที่หลงทาง==
แม้ว่าการเมืองกับเศรษฐกิจจะเชื่อมโยงกัน แต่วัตถุประสงค์ทางการเมืองที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจบิดเบี้ยวไปจากหน้าที่ที่พึงเป็น มาตรการที่ดีกว่าอาจถูกละเลยในขณะที่มาตรการที่สร้างผลเสียระยะยาวหรือไม่ตรงจุดได้รับการบังคับใช้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยพื้นฐานแล้วเป็นนโยบายที่ให้ผลในระยะสั้นและต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเพื่อมิให้เป็นปัญหาในอนาคต แต่ทว่าหลายครั้งทีเดียวที่ประเทศต่างๆ ประสบความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้นำทางการเมืองตัดสินใจบนพื้นฐานของคะแนนนิยม โดยหันหลังให้กับวินัยในทางเศรษฐกิจ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:53 pm
0
0
ยุคเงินเหรียญสหรัฐกำลังจะจบลง ???
คุณjengคิดว่าจะเป็นอย่างไรครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:36 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
การฟื้นตัวที่เห็นผ่านตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ น่าติดตามครับ ว่าจะชั่วคราวหรือว่ายั่งยืน ยืนยาว
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:20 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
ขอขอบคุณ ดร.ฉวีวรรณ สายบัว ด้วยครับ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:17 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
เพราะถ้าเศรษฐกิจจะไปได้อย่างดีจริงแล้ว การลงทุนต่างๆ นั้นจะต้องเป็นโครงการที่มีกำไรหรือเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ (profitable/viable) ซึ่งหมายความว่าเป็นการลงทุนที่ก่อให้เกิดกระแสรายได้ในระยะยาว (permanent income stream) หรือจะต้องเป็นการเจริญเติบโตที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างและสถาบันต่างๆ (structural and institutional changes) ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในกระแสรายได้ในระยะยาวหรือเป็นการถาวร
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:16 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
เพราะฉะนั้นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นด้วยเหตุดังว่าจึงไม่อาจจะเป็นเครื่องชี้ว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นแล้วหรือไปได้ดีจริงแล้ว แต่ตรงกันข้ามกลับน่าที่จะเป็นเครื่องชี้หรือส่งสัญญาณในทางที่น่าห่วง น่าเป็นอันตรายขึ้นไปอีกมากกว่า ในแง่ของความไร้ประสิทธิภาพของการใช้จ่าย หนี้สินที่นับวันจะเพิ่มขึ้นมากมายตามมา และยิ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยที่สร้างกันมาที่มันไม่ถูกต้อง มันไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีโครงสร้างที่บิดเบือนมากขึ้น จะยิ่งทำให้การแก้ปัญหายิ่งยาก ยิ่งแก้จะยิ่งยุ่ง ยิ่งจะไม่มีวันจะแก้ปัญหากันได้ สภาพการณ์เช่นนี้วันหนึ่งคงจะไม่แตกต่างไปจากประเทศในละตินอเมริกาเป็นต้นว่าอาร์เจนตินา
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:15 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนักของรัฐบาลดังกล่าว ทำให้ใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่แล้วได้มากขึ้น (ยังไม่มีโอกาสหรืออุปสงค์การลงทุนใหม่ๆ) เพราะฉะนั้นแหล่งที่มาของการเจริญเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นที่รัฐบาลพยายามป่าวประกาศ (และดูเหมือนว่าจะพยายามหาเหตุปัจจัยจากรายการการใช้จ่ายในโครงการและกิจกรรมที่พยายามหาทางสร้างกันขึ้นมาใหม่ๆ เกือบทุกวันมาปรับให้มันเป็นตัวเลขที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดเวลาเป็น 5%, 6% หรือ 8%) ตรงนี้ก็มาจากแหล่งนี้โดยเฉพาะจากแหล่งการใช้จ่ายของรัฐบาล (ดังที่ถูกวิจารณ์โดยไอเอ็มเอฟซึ่งทำให้ท่านนายกฯทักษิณไม่พอใจ) เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นการผลิต/ผู้ผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือธุรกิจ/อุตสาหกรรมแม้จะขาดทุน แต่ก็ยังผลิตเพราะมีเงินเข้ามาช่วย และสินค้าส่งออกแม้จะขายได้ราคาก็ไม่ดีและไม่มีกำไร (ดังที่ไมเคิล พอร์เตอร์ วิจารณ์ไว้ด้วย)
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:15 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
(3) แสวงหาช่องทางการลงทุนใหม่ของเอกชน จะเป็นการลงทุนอะไร หรือจะมีธุรกิจใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่และบริการใหม่ๆ หรือความสามารถใหม่และโอกาสใหม่ๆ อะไรบ้างที่ ก) ไม่ต้องอาศัยอุปสงค์ฟองสบู่ ข) มีตลาดหรืออุปสงค์ทั้งในและนอกประเทศ ค) มุ่งให้ได้ประโยชน์/ใช้ประโยชน์จากแรงงานส่วนเกินที่ประเทศไทยมีอยู่มาก และทำเลที่ตั้งที่เป็นทรัพยากรที่เรามีอยู่จริง) การผลิต/การลงทุนหรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ (international competitiveness) และ จ) โดยเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิตอาจเป็นเพียงเทคโนโลยีขนาดกลางเพื่อให้ใช้แรงงานมากดังกล่าว ส่วนด้านไฮเทคไม่ควรให้ความสนใจเป็นหลัก แต่การแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านๆ มา และรวมทั้งรัฐบาลนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน หรือก็เหมือนๆ กันเกือบทั้งหมด หรือทั้งหมดที่ทำก็คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (economic stimu lus) คือมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย (aggregate demand) ทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาล การใช้จ่ายในการบริโภค และการใช้จ่ายในการลงทุน โดยการขยายเงินผ่านทางนโยบายการเงินการคลัง ซึ่งเป็นการพยายามสร้างอุปสงค์เทียม (artificial demand) ขึ้นมาอีกเหมือนเดิม
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:15 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
(2) ผลิตภัณฑ์อะไรที่มันใช้ได้ที่ผลิตเพื่อสนองความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศที่จะต้องปรับปรุง และนอกจากนั้นแล้ว
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:14 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
(1) การผลิต/การลงทุนอะไรที่ต้องทิ้งไปเพราะไม่มีอุปสงค์ในอนาคตแล้วหรือปิดกิจการ และโครงการที่ไม่มีอนาคตเมื่อพิจารณาอนาคตการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศตามโอกาสของตลาดโลก และความสามารถของธุรกิจไทยและคนทำงานไทย
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:14 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
การที่จะแก้ปัญหาหรือการที่จะฟื้นฟูการตกต่ำของเศรษฐกิจหรือการตกต่ำของรายได้ของประเทศ แม้จนถึงขณะนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่จะต้องลงไปสำรวจดูกันว่า การผลิตหรือกำลังการผลิตที่มีอยู่แล้ว ที่สร้างกันขึ้นมาแล้วทั้งโดยรัฐและเอกชนทั้งหมด (existing production capacity) มันอยู่ในสภาพอย่างไร (ไม่ใช่ยังคงไปอุ้มกัน ยังคงปล่อยให้ผลิตกันไปเหมือนเดิม) เป็นต้นว่า
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:13 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
โดยสาเหตุวิกฤตเศรษฐกิจมาจากปัญหาการจัดสรรทรัพยากรผิด/ปัญหาเกิดจากการลงทุนผิด (เรียกว่าเป็นปัญหาทางโครงสร้าง/ปัญหารากฐาน) จากเมื่อมีเงินไหลเข้ามาจากต่างประเทศมาก (ผลของนโยบายการเปิดเสรีทางการเงิน การเปิดธุรกิจวิเทศธนกิจและแรงจูงใจนักลงทุนต่างประเทศจากอัตราดอกเบี้ยสูง และระบบตะกร้าคงที่ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงภาวะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน) แล้วไม่รู้จะจัดสรรไปทำอะไรกัน ก็จัดสรรผิดหมดจนพังทั้งระบบเอง คือการเอาเงินไปใช้จ่ายโดยไม่ก่อให้เกิดเป็นกำลังการผลิตที่ให้รายได้เป็นการถาวรหรือการผลิตที่ผู้ผลิตมีรายได้ กำไร และชำระหนี้ได้ (ส่วนใหญ่ลงทุนในการซื้อที่ดิน เก็งกำไรจากหุ้นและที่ดิน การขยายการลงทุนอื่นทั้งรัฐและเอกชนที่เกินตัวและนำเข้ามาก ไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพ) เมื่อกิจการลงทุนโดยอาศัยเงินกู้จากต่างประเทศแสดงอาการขาดทุนและความไม่สามารถชำระหนี้ ผลกระทบเป็นลูกโซ่ เป็นการหยุดการใช้จ่าย หยุดการผลิต หยุดการลงทุนก็ตามมาดังที่เห็นกัน
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:13 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
มาตรการแก้ไขปัญหาหรือการฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจจึงไม่เห็นว่ามันจะตีถูกจุดกับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร (และดังนั้นจะให้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยดีแล้ว ฟื้นแล้ว รัฐบาลทำทุกอย่างถูกต้องแล้วได้อย่างไร) เพราะโดยวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มปรากฏขึ้นนับตั้งแต่ปี 2540 มันเป็นภาวะที่เศรษฐกิจ รายได้ หรือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมันขาดหายไปมาก มันขยายตัวลดลงจากเดิมมาก จากที่เคยเฉลี่ย 7-8% ต่อปีต่อเนื่องกันมาหรือบางปีกว่า 10% จนกลายมาเป็นติดลบ
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:12 pm
0
0
= ดูอย่างไรว่าเศรษฐกิจไทย "ดี" หรือ "ฟื้น
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองตามความรู้และความจริง จริงๆ แล้วมองไม่เห็นว่าคนไทยโดยทั่วไปจะสามารถรู้สึกวางใจ สบายใจ และมั่นใจตามรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการคิดใหม่ ทำใหม่จริง เรายังใช้วิธีแก้ปัญหาโดยวิธีเก่าๆ ใช้ความรู้จากตำราที่อ่าน (ดังที่นายกฯทักษิณมักจะเที่ยวบอกใครต่อใครให้หาหนังสืออย่างท่านมาอ่านกันให้มาก) หรือใช้ความรู้จากนักวิชาการที่มีความรู้ผิวเผินมาก ความรู้ที่มันไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงไม่ได้
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 10:12 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
ไม่รู้จะไปไหน มาแวะตลาดหุ้นไทยก็ดี แต่มาแล้วมายาวยาว ลากยาวยาวหน่อยนะ อย่าทําตัวเป็นกองทุนอีแร้งให้มาก
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:34 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
Mixed Views On Fund Inflow Into Commodities In 2005 He argued should global industrial growth slow in 2005 to around 3.1% after having peaked at around 5.1% in 2004 as CIBC expects, fund flow into industrially exposed commodities could slow. However, a senior commodities strategist at a major macro hedge fund said despite the potential for a global slowdown, hedge funds will likely remain active participants in many commodity markets. "Chinese industrial expansion will continue, and the U.S. dollar will remain under pressure so those two factors alone will keep many markets attractive," he said. "And we've seen some markets that have registered fewer gains than others over the past year so we'll be looking into rotating into some of them from potentially overextended markets. For instance, while it's hard to see copper prices repeating their 2004 performance, I quite like the look of aluminum and zinc. And there's some agricultural commodities that could do better. "So while the commodity price gains may be less uniform next year, I don't think that means we'll be less active in commodities. Just a bit pickier perhaps," he said.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:32 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
Huge Price Gains in 2005 Unlikely "It's not that demand is suddenly going to fall away or that we'll have a sudden huge supply surge, but it's hard to argue that we're going to see another 50% rise in copper prices within the next year," he said. Ingrid Sternby, base metals analyst at Barclays Capital in London, agreed. "I think it's safe to say that the bulk of copper's tightness is behind us and that most of the price gains may have been seen," Sternby said. While she and other market analysts agree copper prices will nevertheless remain strong and prone to further price spikes higher, the fact that the rate of ascent is expected to slow may diminish the hedge fund appetite for the metal, Sternby argued. "The risk/reward ratio of investing a lot of money in a market that may be topping out could decline, so the funds may have to or want to look elsewhere in due course," she said. The macroeconomic outlook may also spur hedge funds to alter or adjust strategies, according to Bart Melek, senior analyst and manager at CIBC World Markets in Toronto.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:31 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
Reducing Appeal Of Commodities However, concerns now arise that a potential slowdown in Chinese economic growth in 2005, combined with increased output of many industrial commodities will reduce the appeal of the commodities sector to hedge fund players. Market watchers are fearful that without the hedge fund community driving commodities broadly higher, there will be less follow-through investment backing the markets up and deepening the liquidity pool to keep the sector a popular place to be. "The hedge funds participated strongly in commodities over the past two years and correctly anticipated the strong demand, low inventory situation we have now in many commodities," said Jim Steel, director of research at major futures commission house Refco LLC. "But it could be argued now that the low hanging fruit has now been removed so they're going to have to be more selective going forward," he said.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:31 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
Impressive Returns From Commodities This largely uniform progress of commodity prices consequently made it possible for large investors to place pan-market bets in the form of baskets of commodities and secure impressive year-on-year returns. One of the most popular gauges of the commodity sector's general performance is the Commodity Research Bureau Futures Index, which tracks the prices of more than 20 commodities and is designed to provide a dynamic representation of broad commodity price trends. The index scaled all-time highs in 2004 of 291.50, after having peaked at around 263.50 in December 2003. U.S. fund manager PIMCO's Commodity Real Return Strategy Fund, made of commodity-linked derivative instruments and with over $5 billion in assets, is another popular vehicle and recorded a 19% year-on-year return by the end of the third quarter of 2004.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:30 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
China Consumes Large Amounts Of Materials This foreseen demand surge began that year as China's drive toward development gained momentum and generated an estimated 14%-16% jump in annual industrial production for 2003. The country's economy followed that up with an estimated 18% rise in industrial growth in 2004, according to CIBC World Markets. With base metals such as copper, nickel and aluminum in particular required for effective industrial expansion, those inventories dropped sharply over the course of 2003 and 2004 as China voraciously consumed most major commodities. The fall in copper inventories on the London Metal Exchange from over 800,000 metric tons in early 2003 to less than 60,000 tons in late 2004 highlighted how clearly demand outstripped supply over the past 24 months. Copper prices rose commensurably during the same period, climbing from around 80 cents a pound in early 2003 to over $1.40 a pound in late 2004. In addition to copper and crude oil, which hit a lifetime price high of over $50 a barrel in 2004, nickel, gold, soybeans and cotton all pushed to multiyear highs within the past 12 months.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:30 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
Large Money Inflow Into Commodities in 2004 At the same time, the rather anemic performances across equity markets prompted many money managers to seek out assets offering diversification, higher rates of return or a defined price trend in which to invest. The net result was the largest inflow of speculative and investor money into the commodities arena in several years, and the emergence of the raw materials sector as one of the most popular destinations for money in 2004. Hedge Funds Anticipated Supply Shortage Earlier Hedge funds correctly anticipated that, following several years of infrastructure underinvestment through the 1990s as the technology sector garnered most investor attention, any surge in industrial expansion would leave several commodities such as base metals and energy products in short supply. Further, they surmised that increasingly stringent environmental standards and regulations would result in longer ramp-up periods between locating a viable ore body or oil reserve and actual development. As a result, several commodity and hedge funds began amassing exposure to certain industrial commodities from early 2003 in a bid to front-run any widespread demand pick-up.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:30 pm
0
0
2003-2004 Commodity/ 2005 Hedge fundจะไปทางไหน ???
4 Jan 2005 NEW YORK (Dow Jones)--After racking up impressive gains through general commodity investing over the past two years, hedge and commodity funds may need to be more specific in asset selection going forward in order to keep their streams of rising returns intact. The pronounced decline in the U.S. dollar set against the backdrop of explosive industrial expansion in China sent industrially exposed dollar-priced commodities such as crude oil and copper surging to historic price highs over the past year.
โดย
คลื่นกระทบฝั่ง
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 9:29 pm
0
0
86 โพสต์
of 2
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
คลื่นกระทบฝั่ง
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
เสาร์ ม.ค. 08, 2005 1:33 am
ใช้งานล่าสุด:
พุธ ม.ค. 12, 2005 11:07 pm
โพสต์ทั้งหมด:
96 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.01% จากโพสทั้งหมด / 0.01 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว