Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย รบกวนขอไปศึกษาด้วยคนครับ [email protected] โดย Aegiszero ศุกร์ ก.ย. 07, 2012 11:46 pm

Re: แจก EPS16YEAR (งบดุล,ราคา,19ปี,Ratio ต่างๆ,แบบเครดิตภาษี รบกวนด้วยครับ ขอบคุณมากครับ [email protected] โดย Aegiszero ศุกร์ ก.ย. 07, 2012 11:42 pm

Re: ในเวปhttp://siamchart.com/stock/ ครับ ที่มุมขวาบนใต้กล่อง please choose funderจะมีคำว่าconfigอยู่ คลิกที่configแล้วเลือกถูกที่indicatorsที่ต้องการได้เลยครับ โดย Aegiszero อังคาร มิ.ย. 07, 2011 10:04 pm

Re: กำไรจากการขายเงินลงทุน ก้อคือกำไรที่ได้จากเงินที่ผู้บริหารมองว่า เอาไปลงทุน เช่น ดอกเบี้ยจากเงินฝาก ปันผลจากเงินลงทุนในหุ้น กำไรจากการเก็งกำไรหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ถ้าอยากทราบว่าคืออะไร แนะนำให้ลองดูที่หมายเหตุประกอบงบ ไม่ก้อถาม IR ครับ โดย Aegiszero อังคาร มิ.ย. 07, 2011 11:39 am

Re: ทำไมเงินทุนหมุนเวียนถึงไม่รวมเงินสด? เพราะเงินสดไม่ได้เป็นสินทรัพย์ดำเนินงานครับ การหาเงินทุนหมุนเวียนเพื่อหาเงินที่จมในการลงทุนเพื่อดำเนินงานของบริษัท ส่วนเงินสดจะถูกย้ายไปรวมกับ Net capital แทนตามรูปแบบงบFinance base ในการปรับรูปงบการเงินจากรูปแบบปกติ ไปเปน Finance base (เป็นรูปแบบหนึ่งของงบการเงินที่ใช้เพื่อการวิเคราะห์) งบFinance base ฝั่งซ้ายจะเป็น ฝั่งขวาจะเป็น Total Operating Assets Total Net Capital ก้อที่เหลือยกเว้นฝั่งขวา หนี้ระยะสั้น+หนี้ระยะยาว+ส่วนผู็ถือหุ้น-เงินสด หวังว่าคงตอบตรงคำถามนะครับ สงสัยเมลล์สอบถามที่ [email protected] โดย Aegiszero อังคาร มิ.ย. 07, 2011 9:51 am

Re: ขอคุยเรื่องการวิเคราะห์หุ้นแนว vi ชักหน่อยนะครับ เนื่องจ ผมว่าคุณคิดถูกแล้วละคับ ต่างคนต่างความคิด ต่างการศึกษา ต่างประสบการณ์ ย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเปนตลาดขึ้นมา สินค้าตัวหนึ่งคุณคิดแล้วบอกว่า น่าซื้อที่ 5 บาท แต่อีกคนกลับบอกว่า เงิน 5 บาท มีค่ากว่าสินค้าชนิดนี้ สองคนนี้เลยเกิดการซื้อขาย แลกเปลี่ยนกัน ส่วนเรื่องวิเคราะห์แม่นยำเพียงใดนั้น คงต้องแนวทางของแต่ละคนเปนหลักเพราะวิชาความรู้มันก้อมีคล้ายๆกัน ที่สำคัญ เป็นโบรคเกอร์ไม่ได้หมายความว่าวิเคราะห์หลักทรัพย์แม่นนะครับ ไม่เชื่อลองดูข้อสอบ single licence ดูสิ มันไม่เห็นเกี่ยวกะการวิเคระห์หุ้นตรงไหนเลย มีแต่วิชาการ การเรียนวิเคาะห์หลักทรัพย์ในห้องเรียนก้อเช่นกันครับ ผมเรียนบัญชี 3 ตัว วิเคราะห์งบการเงิน 1 ตัว ใช้กับหุ้นไม่ได้ ที่ใช้ทุกวันนี้ คือเอาความรู้ที่มีมา ประกอบกับแนวทางการวิเคราะห์ที่ได้รับคำแนะนำจาก อ.มนตรี การมองกันคนละมุม แต่ต่างคนรับฟังเหตุและผลของกันและกัน ถ้าเราชอบในข้อดี ยอมรับข้อเสียได้หุ้นตัวนี้เหมาะกับเราแน่นอนครับ ที่สำคัญผมว่าควรมีการบันทึกทุกครั้งที่เราเทรดว่า ซื้อ-ขายเพราะอะไร เป้าหมายหุ้นที่ซื้อในช่วงเวลาที่กำหนดควรจะเป็นอย่างไร แล้วจดเปนสถิติครับ ถ้าผิดพลาดแสดงว่า แนวทางวิเคราะห์เรามีปัญหา ให้รีบแก้ไขmodelการวิเคราะห์ใหม่ โดย Aegiszero จันทร์ มิ.ย. 06, 2011 11:36 pm

Re: ROE ต่างจาก ROA อย่างไรครับ คุณAegiszero ช่วยขยายความและสอนต่อได้ไหมครับ สนใจมาก ขอบคุณล่วงหน้าครับ :P opp roa มันคืออะไรครับ ขอบคุณที่สนใจ เปนคำถามที่ดีมากคับ และขอโทษที่ผมลืมกล่าวถึงเอง อาจจะยาวแต่ค่อยๆอ่านดูนะครับ สงสัยก้อ เมลล์มาถามได้ คือผมไม่ค่อยได้เข้ามาดูใน ThaiVI นานๆจะเข้ามาดูที ติดต่อผมได้ที่ aegiszero.blogspot.com [email protected] สูตร ROA ใน set.or.th อ้างอิง http://www.set.or.th/th/market/files/SET_Formula_Glossary.pdf สําหรบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ (Form 7) [กำไร (ขาดทุน) ก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้/รวมสินทรัพย์(เฉลี่ย)] * 100 สําหรับธุรกิจอื่นๆ (Form 1-6 และ Form 8) [กำไร (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้/รวมสินทรัพย์ (เฉลี่ย)] * 100 สูตร ROE ใน set.or.th อ้างอิงจากแหล่งเดียวกัน [กำไร (ขาดทุน) สุทธิ/รวมส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่(เฉลี่ย)] * 100 จากสูตรทั้งสองขั้นต้น เราจะทราบว่า ROA และ ROE ใน web set.or.th นั้น สามารถนำมาใช้ได้แค่คราวๆเท่านั้น เพราะจากสูตร Returnทั้งสองสมการไม่ได้มีค่าเท่ากัน(นักลงทุนหลายท่านที่นำไปใช้เปรียบเทียบกันโดยไม่เข้าใจ) ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ที่วิเคราะห์งบมักจะหาค่า ROA และ ROE เอง ซึ่งผมเองก้อใช้วิธีหาเองครับ โดยจะหาออกมาในรูป opp roa(ROAจากการดำเนินงาน) โดยหาได้จาก Opp ROA ของ ศาสตราจารย์ Krishna G. Palepu - Harvard Business School Opp ROA=Net operating profit after taxes/Total net capital (NOPAT=Net income+Net Interest Expense After Tax) (Total net capital=Short-term debt+Long-term debt-cash+Equity) อธิบายที่ละอย่างนะครับ ผมใช้NOPAT เพราะว่าเป็นรายได้จากการดำเนินงานจริงๆของบริษัทจากนั้นมาหารด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้นจริงๆ ในขณะที่ ROE =opp roa + [(opp roa-ดอกเบี้ยที่แท้จริงหลังภาษี) x D/E] ของ ศาสตราจารย์Palepuเช่นกัน เปนการถอดความสัมพันธ์ระหว่างROEและ ROA ซึ่งความสัมพันธ์มันก้อคือหนี้แหละครับ จากงบดุลฝั่งซ้าย(สินทรัพย์)=ฝั่งขวา(หนี้สิน+ทุน) เพราะฉะนั้นเมื่อ A=Asset, E=Equity ส่วนที่มันหายไปก้อคือ L=Liability(หนี้) โดย Aegiszero อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 10:43 am

Re: หลักการคิดเรื่องของมูลค่าของหุ้นเมื่อมีการเพิ่มทุน การเก็งกำไรในกรณีนี้ ตามโจทย์ที่ บริษัท มีหุ้นเดิมอยู่ 100,000,000 หุ้น หุ้นละ 5 บาท รวม 500,000,000 บาท นั้น ถ้ามีการปันผลหุ้นเพิ่ม 10:1 จำนวนหุ้นใหม่หลังจาก ปันผลเป็น 110,000,000 ผมใช้ จำนวนหุ้นหลังปันผล/ราคารวมหุ้นเดิม = ราคาหลังการปันผล 110,000,000/500,000,000 = 4.5454 บาท เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีปัจจัยใดมาทำให้ราคาผันผวนอย่างมีนัยยัสำคัญ ราคาควรอยู่ที่ 4.55บาทตามสมการขั้นต้น ในกรณีที่มีความผันผวนเข้ามาเกี่ยวข้อง 1 ปรับราคาก่อนการปันผลหุ้นให้รองรับความผันผวน เช่นจาก 5 บาท ลดลงมาเหลือ 4.8 เป็นต้น 2 ปรับลดราคาหลังจากคำนสวนได้โดยเผื่อ MOS เข้าไปตามความต้องการ เช่น ให้ MOS 5% = 95% x 4.55 = 4.32 บาท โดย Aegiszero อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 9:36 am

Re: ขอความเห็นครับ ผมมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างต่างมีวัฐจักรคับ วัฐจักร ผันแปรไปตาม demand & supply "ไม่ใช่หุ้นวัฏจักรเพราะกำไรขึ้นลงไม่ได้มาจากความต้องการ แต่มาจากการควบคุมการผลิตของบริษัทแทน" ประโยคนี้แสดงให้เห็นชัดเลยคับว่า การควบคุมการผลิตของบริษัท ก็คือการเปลี่ยนแปลงของsupplyนั่นเอง จริงแล้วธุรกิจนี้ demandเปลี่ยนแปลงตามอัตราการเพิ่มของประชากรประกอบกับเงินเฟ้อ หมายความว่า การเคลื่อนไหวของdemandมีอัตราเพิ่มที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว ราคาจึงมักจะเปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนไหวของsupplyมากกว่า เช่นที่ผ่านมาเกิดเหตุให้ไข่ไก่ขาดตลาด ราคาไข่ก้อเพิ่ม ดังนั้น การควบคุมการผลิตของบริษัท คือการcontrol supply นั่นเองคับ โดย Aegiszero อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 8:12 am

Re: ROE ต่างจาก ROA อย่างไรครับ มันมีความสัมพันธ์กันอย่างนี้คับ roe=opp roa + [(opp roa-ดอกเบี้ยที่แท้จริงหลังภาษี) x D/E] จริงๆแล้วสองตัวนี้ พูกจริงล่ะก้อยาวมากคับ เอาเปนว่า หลักเลยการที่ roa มีค่าต่างจาก roe มากๆ หมายความว่าบริษัมมีหนี้มาก roe มีค่าน้อยกว่า roa หมายความว่า d/eมีค่าเปน ลบ ก้อคือ บริษัทมีเงินสดเยอะมากกว่าหนี้ roe บริษัทปกติจะมีค่ามากกว่า roa เพราะ d/e เปนบวก เนื่องจาก มีหนี้มากกว่าเงินสด ในมุมมองปกติการมีเงินสดเยอะเปนเรื่องดี แต่ความเปนจริงแล้วการที่บริษัทมีเงินสดเก็บไว้มากเกินไปแสดงว่า บริษัทไม่รุจะลงทุนเพิ่มยังไง ถ้ามีกรณีแบบนี้ควรเอาเงินไปลดหนี้ หรือไม่ก้อปันผลออกมาดีกว่า เพราะเงินสดมีต้นทุนของมันอยู่ คือเงินเฟ้อ การดองเงินไปเยอะๆ จะทำให้มูลค่ามันลดลง เอาคร่าวๆเท่านี้ก่อนครับ เดวจะยาว โดย Aegiszero เสาร์ มิ.ย. 04, 2011 1:41 pm

Re: เราจะหาความรู้เกี่ยวกะเรื่อง Model buisness ได้ที่ไหนครั ถ้าเริ่มต้นจากเล่มนั้นแล้วผมแนะนำลองหาบทความของharvard business review มาอ่านนะคับ เพราะบทความนี้เรียกได้ว่าเปนแม่บทของวิชากลยุทธ์สมัยใหม่เลย ปกติแล้ว ในอดีตกลยุทธ์อยู่ในรูปแบบของการทหารเท่านั้น เนื่องจากประเทศไหนอยากร่ำรวยมั่งคั่งก้อไปโจมตี ยึดประเทศอื่น ทำให้กลยุทธ์ทางการทหารถูกพัฒนาอย่างมาก เช่น พิชัยสงครามซุนวู หรือ On War ต่อมาเมื่อแต่ละประเทศมีความสัมพันธ์ทางการฑูต การจะยกทัพไปยึดเมืองเช่นอดีตคงเป็นไปได้ยาก ประเทศที่อยากรวยจึงมีการสร้าง ตลาด ขึ้นมาแลกปลี่ยนสินค้ากันแทน ทำให้การพัฒนากลยุทธ์ทางทหารค่อยๆลดลง ต่อมาทางธุรกิจก้อได้นำวิชานี้ไปใช้ในการตลาด ทำให้กลยุทธ์ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในวงการธุรกิจ ในที่สุด กลุ่มศาสตราจารย์ในHarvard ก้อได้แยกวิชานี้ออกมาจากวิชาการตลาด คือไม่ทราบว่าตอบตรงคำถามรึไม่นะคับ แต่มุมมองของผม business model มันผูกติดอยู่กับกลยุทธ์การแข่งขันอย่างแยกไม่ออก เพราะต้องการแข่งขันจึงสร้างกลยุทธ์ เมื่อมีกลยุทธ์จึงออกมาเปนbusiness model โดย Aegiszero เสาร์ มิ.ย. 04, 2011 1:09 pm

Re: สงสัยเกี่ยวกับรายได้อื่น ๆ ครับ สาเหตุที่มันบันทึกเปนรายได้อื่นๆ ก้อเพราะว่าผู้บริหารมองว่า รายได้นั้นไม่ได้มาจาก ธุรกิจหลักของกิจการ ก้อมองได้ว่า 1 มันไม่มั่นคงนะ อาจไม่ได้มีประจำ 2 อาจเปนทางเลือกใหม่สร้างรายได้เพิ่ม(อย่างที่คุณว่า) ทั้งนี้กรณีนี้ ถ้าไม่มีในหมายเหตุประกอบงบ ก้อถาม IR ดีกว่าครับว่ามันมาจากอะไรบ้าง แล้วถ้ามันมากขนาดนั้นผู้บริหารมีมุมมองยังไง โดย Aegiszero เสาร์ มิ.ย. 04, 2011 12:21 pm

re ยกตัวอย่างวิศวะที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินเลยครับ ชัดๆ คือ ดร.นิเวศ และ อ.มนตรี ครับ ทั้งสองท่านจบวิศวะมาทั้งคู่ และสนใจด้านกางเงินจึงไปศึกษาต่อ ในปริญญาโทสาขาทางด้านการเงิน ไม่ทราบว่า ตอบตรงคำถามหรือไม่นะครับ แต่สาขาการเงินนั้น เป็นวิชาชีพครับ จึงกล่าวได้ว่าแทบไม่มีมหาวิทยาลัยที่ไหนสอนได้ ผู้ที่ประสบความสำเร็จจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมาจากทุกสาขา โดย Aegiszero พุธ ก.ย. 22, 2010 8:46 pm

เชียร์ด้วย ไปเรียนมาด้วยเหมือนกันคับ ถูกใจมากเลย ชอบที่ 'จารย์ เป็นกันเองมากในทุกเวลา นานแล้วที่ไม่มีใครสอนจนถึงขั้น work shop แบบนี้ รู้อะไรเพิ่มขึ้นมากเลย แถมยังได้รุจักเพื่อนใหม่มากมายเลยคับ คาดว่าจะติดตาม 'จารย์มน ไปทุกคอร์สเลย โดย Aegiszero อาทิตย์ ก.ย. 12, 2010 10:03 pm

ขอรบกวนอีกรอบครับ ผมขอรบกวนอีกรอบครับ [email protected] โดย Aegiszero อาทิตย์ ส.ค. 29, 2010 10:07 pm

ผมขอรบกวนครับ ขอด้วยคนครับ [email protected] โดย Aegiszero เสาร์ ก.ค. 17, 2010 8:42 am

ตอบครับ ขอแนะนำการเปิดบัญชี cash balance นะครับ คือ บัญชีที่ต้องโอนเงินเข้าไปตามปริมาณที่ต้องการซื้อขาย หลักฐานที่ต้องใช้มี 1 สำเนาบัตรประชาชน 2 สำเนาทะเบียนบ้าน 3 สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกที่มีชื่อบัญชี และหน้าสุดท้ายครับ   (สำหรับบัญชีที่ไม่ใช้margin) สำหรับบัญชี margin ไม่แน่ใจนะครับไม่เคยสมัครเอง รู้สึกว่าต้องใช้สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ครับ วิธีสมัครก้อมี การสมัครทางไปรษณีย์ และ สมัครด้วยตัวเองที่ บริษัท อันนี้ก้อแล้วแต่สะดวกนะครับ การสมัครทางไปรษณีย์สามารถขอใบขอเปิดบัญชีได้ทาง internet เลยครับ โดย Aegiszero อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 10:19 pm

ขอรบกวนด้วยครับ รบกวนส่งให้ผมด้วยนะครับ [email protected] โดย Aegiszero อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:54 pm

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] ครับ โดย Aegiszero พุธ มิ.ย. 02, 2010 11:17 pm

เป็นกำลังใจให้ครับ ทำได้แน่นอนครับ แนะนำลองไปดูวิธีของ คุณสุมาอี้ ที่ dekisugi.net นะครับ เพราะนยี่เป็นหนึ่งในการทดลอง ของพี่สุมาอี้เค้า โดย Aegiszero อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 10:29 pm

ตอบด้วยครับ แมงเม่า มีความสามารถ จะกลาร่างเป็น รายใหญ่ หรือ เซียนในอนาคต โดย Aegiszero เสาร์ พ.ค. 01, 2010 4:19 pm

มีถามเรื่องงบการเงินของบริษัทหน่อยครับ งบเดี่ยวเป็นงบการเงินของบริษัทเดี่ยวๆ ครับ ส่วน งบรวมเป็นงบของบริษัท ที่รวมเอางบของบริษัทย่อยมารวมด้วยวิธีส่วนได้เสีย ตามความเชื่อของนักบัญชีที่ ว่า บริษัทใหญ่สามารถควบคุมบริษัทย่อยได้ แล้วเอาส่วนแบ่งกำไรขาดทุนของบริษัทร่วม มาบันทึกรวมในรายการที่ชื่อ เงินลงทุนซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ความสัมพันธ์ของบริษัทเราจะดูได้ใน หมายเหตุประกอบงบการเงินนะครับ โดย Aegiszero พุธ ม.ค. 27, 2010 8:31 pm

ไม่มีหัวข้อ โดย Aegiszero พุธ ม.ค. 27, 2010 8:22 pm

ขอ eps 16 year อัพเดตทีครับ รบกวนพี่ครรชิตส่ง ไฟล์อัพเดตให้ทีครับ ของเก่ามันอัพเดตมะได้ หรือผมอัพมะเปงก้อม่ายรุ ยังไงก้อรบกวนอีกทีนัครับ [email protected] โดย Aegiszero จันทร์ ม.ค. 25, 2010 2:40 pm

เริ่มต้นคับ ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าเราเข้าใจหลักการของการลงทุนแค่ไหน พร้อมกับตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า สนใจการลงทุนแบบไหน จากนั้น ต้องเริ่มจากการศึกษางบการเงิน กับเศษฐศาสตร์อีกเล็กน้อยให้พอเห็นภาพรวมของการลงทุนทั้วโลก เอาเปนว่าสำหรับมือใหม่ เริ่มด้วยงบการเงินก็ปวด่หัวแล้วคับ โดย Aegiszero จันทร์ พ.ย. 23, 2009 8:39 am

ขอรบกวนส่งมาทั้ง สอง เวอร์ชั่นเลยครับ ปล. ลืมบอกไป ขอทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลยนะครับ โดย Aegiszero จันทร์ ต.ค. 12, 2009 12:17 am

อยากได้งบดุลอัพเดตตัวใหม่คับ คือไมารุเปงไง ตัวเก่าที่ พี่ให้มาผมเปิดไม่ได้เลยคับ รบกวนพี่ส่งตัวอับเดตมาอีกทีนะครับ [email protected] โดย Aegiszero จันทร์ ต.ค. 12, 2009 12:12 am

รบกวนด้วยครับ รบกวนขอด้วยคนครับ [email protected] โดย Aegiszero เสาร์ ส.ค. 15, 2009 10:30 am

ชอบๆๆ ขอบคุงคับ โดย Aegiszero จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 7:39 pm

ขอด้วยครับ ขอด้วยครับ [email protected] โดย Aegiszero จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 7:34 pm

ขอด้วยครับ ขอด้วยครับ [email protected] โดย Aegiszero จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 7:34 pm

จงอยู่คู่กัน ยิ่งยืนนาน 1. ชีวิตก่อนแต่งกับหลังแต่ง แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ---ถ้าเราตอบตัวเองได้ว่า คนที่เราแต่งงานด้วย เป็นคนที่เราเลือกอย่างมีสติแล้ว ก่อน หรือหลังแต่งย่อมมีความสุขเหมือนกัน เพราะไม่ว่า จะมีทุกข์ หรือสุข ถาดโถมเข้ามาเราก็ยังมี คนที่คอยเคียงข้างเราเสมอ---- 2.เคล็ดลับ หรือ ข้อแนะนำ ในการ สร้างชีวิตแต่งงานให้ดี ---เข้าใจกัน ใช้สติให้มากไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือการคิด สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จงเชื่อใจ คู่ชีวิตของเราให้มากที่สุด ---- 3. ข้อควรระวังในการใช้ชีวิต ร่วมกัน ---อย่าให้มือที่สามมาทำให้เราแตกแยกกันได้ เชื่อเถอะว่าคู่รักส่วนใหญ่เลิกกันเพราะความเข้าใจผิด + อารมณ์ชั่วครู่ จากเรื่องหึงหวงเป็นหลัก--- โดย Aegiszero จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 7:13 pm