หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
Marketplace
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
drsp
Joined: ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 5:34 pm
381
โพสต์
|
0
กำลังติดตาม
|
0
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - drsp
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: Value investing และการ disruption
หลักการของvalue investingคือ คุณใชัความพยายามหามูลค่า(value) ของหุ้นเทียบกับราคาตลาด(price) ถ้าpriceตํ่ากว่าvalueมากจนมี margin of safety คุณก็ซื้อ ถ้าpriceเกินvalueมากคุณก็ขาย หุ้นstart upที่กิจการยังขาดทุน และคุณก็ไม่แน่ใจว่าจะกําไรเมื่อไหร่ หรือหุ้นเทคโยโลยีที่ราคาไปไกลแล้วและคุณไม่รู้ว่าgrowthจะมาทันราคได้อย่างไร แสดงว่าคุณไม่สมารถหาvalueของมันได้ ตามหลักการก็ไม่ควรไปยุ่งกับมัน ผมเล่นหุ้นมาสิบกว่าปี ผมก็ยังประเมินราคาหุ้นพวกนี้ไม่ได้ บนโต๊Buffettมีตะกร้าใส่แฟ้มที่เขียนว่า too hard วีไอทุกคนก็ควรมีตะกร้าแบบนี้ของตัวเอง ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นที่ทํากําไรสมํ่าเสมอ จ่ายปันผลดีอีกจํานวนมากมาย ซึ่งสามารถใช้หลักการวีไอประเมินราคาได้ไม่ยากเกินไป โดยเฉพาะช่วงนี้มีหุ้นดีๆที่ราคาตกเพราะโควิดมากมาย ทั้งโรงแรมสายการบินโรงพยาบาลฯลฯ ผมว่ามีโอกาสอยู่ไม่น้อย ถ้าคุณมีทักษะในการประเมินราคาและขยันหาข้อมูล ผมเชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจในความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ทักษะการประเมินราคาหุ้นเป็นสิ่งที่ต้องทุมเทและฝึกฝนยาวนาน เซียนวีไอหลายท่านที่ไปลุยหุ้นต่างประเทศ ล้วนลงทุนหุ้นไทยประสพความสําเร็จมาอย่างยาวนาน จนบางท่านมองว่าตลาดหุ้นไทยโอกาสน้อยและไม่ท้าทายพอ แต่ถ้าทักษะเรายังไม่สูงขนาดนั้น แล้วพยายามไปลงทุนหุ้นที่ตัวเองประเมินราคาอย่างมั่นใจไม่ได้ ก็เหมือนกับออกจาก circle of competence ของตัวเอง ระดับBuffettยังไม่กล้าทํา ออกจากวงกลมนี้แล้วก็มีแต่โชคที่ช่วยคุณได้
โดย
drsp
จันทร์ ก.พ. 15, 2021 10:56 pm
0
12
Re: การประเมินมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่ขาดทุน
ผมต้องขอขอบคุณคุณpicatosที่โพสท์สุดยอดกระทู้นี้ขึ้นมา ช่วยเปิดกะลาให้กบแก่ๆอย่างผมรู้ว่า ตลาดหุ้นอเมริกานั้นกว้างใหญ่และลํ้าหน้าเพียงใดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทย สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากกระทู้นี้ที่พอนึกออกมีดังนี้ 1.ตลอด10กว่าปีที่เล่นหุ้นมาผมไม่เคยใช้dcfประเมินหุ้นเลยสักตัว เพราะอ่านเกี่ยวกับdcfแล้วผมรู้สึกว่ามันต้องอนุมานมากเกินไป ทั้งกระแสเงินสดที่ได้และdiscount rateที่ใช้ ถ้าตัวเลขฐานผิดแต่แรกแล้วประเมิน10ปีตัวเลขที่ได้ยิ่งผิดมหาศาล แต่พอดูอจ.Asawath Damadoran แกทําผมว่าดูน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งทีเดียว ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อที่แค่ใช้ P/E P/B roe margin และการขยันติดตามข้อมูลหุ้นแค่นี้ สามารถทํากําไรได้พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวโดยไม่ต้องทํางานประจํามานานขนาดนี้ ต้องขอบคุณตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่efficientเท่าอเมริกา ไม่เช่นนั้นผมคงต้องทํางานประจําจนเกษียณ 2.ผมรู้สึกประะทับใจในตัวอจ.ADมาก ท่านทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการvaluation จนผมเชื่อว่าเก่งระดับต้นๆของโลก แทนที่จะใช้ความรู้ที่มีหาเงิน ท่านกับทุ่มเทชีวิตแจกจ่ายความรู้ฟรีๆเป็นวิทยาทาน ผมว่าท่านมีจิตใจสูงส่งอย่างหาได้ยากมากในยุคปัจจุบัน 3.ผมนึกถึงที่Mungerพูดว่า สิ่งเดียวที่ผมอยากรู้ว่าคือผมจะตายที่ไหน แล้วผมจะไม่ไปที่นั่นตลอดชีวิต ผมรู้เลยว่าถ้าไปอเมริกาตอนนี้ผมตายแน่นอน แต่มันมีควาสนุกท้าทายที่เย้ายวนมาก ผมคิดว่าจะให้เวลาตัวเองสัก1-2ปีหาความรู้ที่จําเป็น ถ้ามั่นใจว่าไปแล้วไม่ตายแน่ ผมอาจแบ่งเงินบางส่วนไปอเมริกาบ้าง ไม่ใข่เพื่อผลตบแทน แต่เพื่อความสนุกและอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ ปล.เกือบ10ปีก่อนผมซื้อหนังสือInvestment Valuation ของอจ.AD จากAmazon จําได้ว่าหลักพัน หนังสือหนา800กว่าหน้า ผมอ่านไป20กว่าหน้ายอมแพ้เพราะไม่รู้เรื่องเลย เป็นหนังสือที่ซื้อแล้วเสียดายเงินที่สุด ตอนนี้รู้แล้วว่าผมคือไก่ได้พลอย ตั้งใจว่าจะอ่านจนจบให้ได้ สุดท้ายอยากบอกว่ากระทู้นี้มีคุณค่ามหาศาล ผมอยากให้มันอยู่ค้างในหน้าvalue investingไปนานๆ ไม่อยากให้มันตกหล่นเลือนหายไปตามกาลเวลา
โดย
drsp
อาทิตย์ ก.พ. 14, 2021 12:28 am
0
14
Re: ลงทุน10ปี กำไรหุ้น 700 เท่า ใครก็ทำได้!
ตอนแรกเห็นหัวข้อเรื่องแล้วไม่ชอบมากๆจนว่าจะไม่ดู 700เท่า ไม่ใข่ใครๆก็ทําได้ แต่ไม่มีใครทําได้ต่างหาก แต่พอดูแล้วรู้สึกชื่นชมว่าของจริงเก่งจริง 700เท่าใน10ปีเท่ากับทําผลตอบแทนได้68%ทบต้นทุกปี สูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยทีเดียว แม้แต่Jim Simons บิดาแห่งquantที่เชื่อว่าผลตอบแทนสูงที่สุดในโลกแล้ว ยังแค่30กว่าเปอร์เซนต์ ถ้าทําได้ต่อเนื่องถึง20ปี นี่จะเป็นสถิติโลกแน่นอน ถ้าพอมีเวลาว่างน้องvuuddน่าจะเขียนหนังสืออขายนะ ขายดีแน่นอนและจะเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ผมจะรอซื้อเป็นคนแรกๆเลย
โดย
drsp
พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2021 10:45 pm
2
3
Re: ในไทยวีไอมีตั้งกลุ่ม line บ้างมั้ยครับ
ขอเข้ากลุ่มด้วยคนครับ ID : dr_sp
โดย
drsp
พุธ ก.พ. 03, 2021 11:13 pm
0
0
Re: MONEY TALK Special - กลยุทธ์วีไอ (4) ในปี 64 - พีรนาถ โชควัฒนา - 13 มกราคม 2564
เป็นคลิปที่ดูแล้วประทับใจมาก คนจะเป็นเซียนหุ้นได้ ต้องมีอีโก้ในระดับหนึ่ง เซียนหุ้นถ้าพลาดพลั้งแรง ส่วนใหญ่จะกลืนเลือดไม่บอกใคร ถ้ารุนแรงถึงหายนะ ก็คงออกจากสังคมไปเร้นกายไม่เจอใคร จะมีสักกี่คนเอาอาการบาดเจ็บปางตายมาเป็นอุทาหรณ์สอนคนอื่น ต้องขอชื่นชมคุณพีรนารถอย่างยิ่ง ที่ยอมเสียสละเป็นตัวอย่างสอนคนว่า ดูจากสื่อต่างๆมีแต่คนเก่งคนสําเร็จ เบื้องหลังยังมีคนตายที่ไม่ได้พูดอีกหลายเท่าตัว อีกเรื่องที่สอนได้เป็นอย่างดี อย่าเอาเงินคนอื่นมาเล่นหุ้น อย่ากู้เงินเล่น อย่าใช่มาร์จิ้น ถ้าเล่นด้วยเงินตัวเอง หุ้นตกหนักแค่ไหนก็ไม่มีใครมาบังคับคุณให้ขายที่ราคาตํ่าเกินจริงได้ เงินสดและทรัพย์สินสภาพคล่องคือาวุธต่อสู้อย่างเดียวในยามวิกฤติ พกอาวุธของคุณตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้ว่าวิกฤติจะมาเมื่อไหร่ อสังหาไม่มีสภาพคล่องพอ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นเงินยามฉุกเฉิน คุณต้องขายในราคาที่คุณต้องเจ็บปวด สุดท้าย นึกถึงปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้าไว้เสมอ ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์แก่ตน และคนอื่น ให้สำเร็จบริบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด ประสพความสําเร็จมาทั้งชีวิต ประมาทเพียงครั้งเดียว ทรัพย์สินเงินทองชื่อเสียงทั้งชีวิต อาจกลายเป็นปราสาททรายที่โดนคลื่นซัดในพริบตา
โดย
drsp
พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2021 12:26 pm
1
16
Re: อีกหนึ่งปีที่หายไป/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เป็นบทความที่สรุปความยําแย่ของเศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบัน และอนาคตที่มืดมัวได้ดีที่สุด
โดย
drsp
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2021 12:51 pm
0
2
Re: ขออนุญาตเล่าประสพการณ์ลงทุนปีcovid
ขอถามพี่ drsp ครับ หากว่ารอบนี้ ไม่ได้ซื้อหุ้นหรือปล่อยไว้ไม่ได้ทำอะไรกับพอร์ตเหมือนอย่างที่เคยทำ พอร์ตจะกลับมาจากติดลบ50% เป็นประมาณเท่าไหร่ครับ ในวิกฤตหากเราลงทุนไป100% ทำให้ไม่มีเงินสดเหลือ แบบนี้กลยุทธ์ที่ดี ควรทำอย่างไรดีครับ เราควรอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องทำอะไร เหมือนที่ผมฟังจาก ดร.นิเวศน์พูดไว้ หรือ เราควรมีสติ และ แอคชั่นอย่างเข้มข้นในการขายหุ้นบางตัวเพื่อซื้อหุ้นบางตัวดีครับ ในทุกครั้งผมคิดจะอยู่นิ่งๆแบบคนอื่นที่เขาทำได้ แต่สุดท้ายก็ขายตัวนั้นไปซื้อตัวนี้เหมือนเดิม ยอมรับเลยครับว่าทำใจยากมาก อยากทราบมุมมองของพี่ครับ ถ้าไม่ได้ซื้อหุ้นคิดว่าพอร์ทปีนี้น่าจะติดลบ20-30%ครับ เมื่อก่อนผมก็ถือหุ้น100%ตลอด แต่ตอนนี้ผมถือเงินสดจํานวนหนึ่ง และแบ่งเงินไปซื้อกองทุนหุ้นต่างประเทศหลายกอง เอาไว้กระจายความเสี่ยง และเอาไว้เปลี่ยนเป็นเงินสดยามจําเป็นครับ
โดย
drsp
อาทิตย์ ม.ค. 03, 2021 12:22 am
1
5
Re: ใครที่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ที่พึ่งเข้าตลาดปีนี้บ้างครับ หรือรุ่นพี่viอยากจะแนะนำหน้าใหม่บ้างครับ
สิ่งงที่อยากจะบอกนักลงทุนมือใหม่คือ ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับการเล่นหุ้น คนที่เหมาะกับการเล่นหุ้นคือ คนที่มีpassionในเรื่องหุ้นจริงๆ ภาษาชาวบ้านคือ บ้าหุ้น หรือหายใจเข้าออกเป็นหุ้น การเล่นหุ้นให้ประสพความสําเร็จเป็นงานหนักใช้เวลามาก คุณต้องอ่านหนังสือการลงทุนการบัญชีธุรกิจฯลฯหลายสิบเล่มทั้งไทยและอังกฤษ (เซียนบางคนอ่านเป็นร้อยเล่ม) คุณต้องดู56-1เป็นร้อยบริษัท คุณต้องดูวิดีโอoppdayเป็นร้อยชั่วโมง คุณต้องตามผลประกอบการหลายสิบบริษัทหรือเป็นร้อยทุกไตรมาศ ถ้าคุณทําทั้งหมดนี้ได้คุณมีโอกาสประสพความสําเร็จในตลาดหุ้น แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนบ้าหุ้นอย่างแท้จริงคุณทําทั้งหมดนี้ไม่ได้แน่นอน สุดท้ายนี้ขอต้อนรับสู่โลกอันโหดร้ายของตลาดหุ้น มีแต่มนุษย์หุ้นพันธุ์แท้เท่านั้นที่จะเอาสมบัติลํ้าค่าออกจากที่แห่งนี้ได้
โดย
drsp
พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2020 11:33 pm
0
18
Re: ทำไมเราต้องลงทุนหุ้นต่างประเทศ? มาแชร์กันครับ
และ มันก็เป็นสงครามที่เลือดสาดและเหนื่อยแน่ๆ แม้แต่กับนักรบที่ชนะสงครามครั้งนี้ เพราะ ยังมีสงครามไม่รู้จบรออยู่ในอนาคต [/quote] เห็นเซียนในตํานานทั้งหลายมาโพสท์กระทู้นี้แล้วชุ่มชื่นหัวใจบอกไม่ถูก นึกถึงวันคืนที่เวปนี้เต็มไปด้วยเซียนหนุ่มต่างแสวงหาความรู้และความรํ่ารวย กระทู้ปะทะสังสรรค์มีแทบทุกวัน เซียนเกือบทั้งหมดพอรวยแล้วเริ่มปลีกวิเวกไม่โพสท์ไม่ตอบกระทู้ หลายๆคนรวมทั้งผมโหยหาวันคืนเก่าๆ คุณpicatosสรุปได้ดีที่สุดในประโยคเดียว ตลาดหุ้นต่างประเทศเหมาะสําหรับนักลงทุนwarriors ที่ตลาดไทยไม่เป็นที่ท้าทายอีกต่อไปแล้ว สําหรับคนแก่หมดไฟอย่างผม นึกถึงคําของMungerที่ว่า "ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะตายที่ไหน แล้วผมจะไม่ไปที่นั่นเลยตลอดชีวิต"
โดย
drsp
พุธ ต.ค. 14, 2020 12:57 pm
0
7
Re: ทำไมเราต้องลงทุนหุ้นต่างประเทศ? มาแชร์กันครับ
เป็นกระทู้ที่อ่านสนุกและได้ความรู้มาก 1.ผมเล่นหุ้นไทยมาสิบกว่าปี ผมเชื่อว่าที่ผมอยู่รอด มีอิสรภาพทางการเงินระดับหนึ่ง ไม่ต้องทํางานประจํา มีเงินปันผลพอเลี้ยงครอบครัว เป็นเพราะผมเล่นเกมส์ที่ผมมีแต้มต่อ เวลาใครรู้ว่าผมเล่นหุ้นมักจะมาชวนคุย 90%เป็นนักเก็งกําไร มีน้อยมากที่ศึกษาปัจจัยพื้นฐานหุ้นอย่างจริงจัง 2.หุ้นต่างประเทศดังๆที่ผมรู้จักเช่นamazon facebook netflix ฯลฯ ผมจะมีแต้มต่ออะไรในเมื่อมีนักวิเคราะห์อาชีพติดตามตลอดเวลาเป็นร้อยเป็นพันคน 3.หุ้นไทยประมาณ600ตัว ผมใช้วิธีตัดทิ้งเป็นกลุ่มเช่นผมไม่เล่นอสังหา ผมไม่เล่นcommodities เหลือหุ้นในโฟกัสไม่ถึง100ตัว ผมยังใช้เวลาเป็นสิบปีศึกษาติดตาม หุ้นอเมริกา6พันกว่าตัว ผมจะไปเอาเวลาและความพยายามศึกษาค้นคว้ามาจากไหน ตัวผมเองก็อยู่ในปัจฉิมวัยแล้ว ผมคงขอใช้คันเบ็ดเล็กๆ เรือลําน้อย จับปลาแค่พอกินในตลาดหุ้นไทยต่อไป ถึงแม้มันจะจับยากขึ้นและได้ปลาน้อยลงเรื่อยๆ แต่เมื่อพิจารณาศักยภาพตัวเองแล้ว ถึงแม้มหาสมุทรจะมีปลาใหญ่ๆราคาแพงเยอะกว่า แต่มันคงเกินเอื้อมสําหรับผม
โดย
drsp
อังคาร ต.ค. 13, 2020 9:43 pm
0
11
Re: อยากรบกวนพี่ๆ ที่มีประสบการณ์การผ่านวิกฤติ มาช่วยแชร์แนวคิดฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันครับ?
ตรง ปล. อ่านจากไหนครับ อยากหาอ่านมั่งครับ https://www.efinancethai.com/HotTopic/HotTopicMain.aspx?release=y&id=Ym1rNHE3cTYrMkU9
โดย
drsp
ศุกร์ เม.ย. 10, 2020 10:31 am
0
3
Re: อยากรบกวนพี่ๆ ที่มีประสบการณ์การผ่านวิกฤติ มาช่วยแชร์แนวคิดฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันครับ?
นั่งทบทวนเหตุการณ์ว่าวิกฤติครั้งนี้สอนอะไรบ้าง 1.หุ้นทำให้คุณรวยได้ ก็ทำให้คุณหายนะทางการเงินได้ 2.วิกฤติครั้งนี้ทิ้งห่างจากsubprimeกว่า10ปี มันนานจนหลายคนรวมทั้งผมประมาทว่ามันคงไม่มา ขนาดอจ.นิเวศน์ทำนายไว้ว่า10ปีมาแน่จนเตรียมเงินสดไว้มาก รอแล้วรอเล่าไม่ยอมมา จนอจ.รอไม่ไหวกลับมาซื้อหุ้นใหม่ 3.ตอนsubprimeผมเพิ่งเริ่มเล่นหุ้นไม่นาน พอร์ทเล็กนิดเดียว ขาดทุน50%ยังเฉยๆ ตอนนั้นผมยังทำงานประจำเงินเดือนสูงอยู่ แต่เที่ยวนี้ผมลาออกจากงานมาหลายปี พอร์ทใหญ่กว่าเดิมหลายสิบเท่า พอร์ทหายไป50%เที่ยวนี้ยอมรับว่าแทบหมดแรง อีก5ปียังไม่แน่ใจว่าพอร์ทจะกลับมาที่เดิมไหม อายุก็มากขึ้นถึงตอนนั้นเรายังจะมีไฟในการลงทุนอยู่ไหม 4.เงินปันผลคือลมหายใจ ช่วง3-4ปีมานี้ผมได้ปันผลปีละ2-3ล้านบาท ซึ่งพอใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้หุ้นที่ถืออยู่แม้จะตกมากผมก็ไม่ถูกบังคับให้ขาย 5.ยิ่งวิกฤติยิ่งต้องยึดหลักการให้มั่นคง นายตลาดกำลังบ้าคลั่ง เทขายทุกกิจการในราคาเลหลัง เราเป็นวีไอราควรขายตามนายตลาดหรือช้อนหุ้นดีๆราคาถูกกันแน่ 6.ถ้าพอร์ทคุณยังเล็กเป็นเรื่องปกติที่เงินคุณจะอยู่ในหุ้นทั้งหมด แต่ถ้าพอร์ทคุณใหญ่ถึงระดับหนึ่งแล้ว การรักษาความรวยไว้อาจสำคัญกว่าการพยายามจะรวยมากขึ้น ความเห็นผมคิดว่าถ้าพอร์ทใหญ่แล้ว น่าจะกันสัก20-30%ไปเป็นเงินสดตราสารหนี้และหุ้นต่างประเทศบ้าง ถ้าเกิดวิกฤติอีกเงินส่วนนี้จะช่วยไม่ให้เราต้องทุกข์ร้อนใจมากเกินไป รวมทั้งอาจแปรกลับมาเป็นเงินให้เราช้อนหุ้นราคาถูก 7.บังเอิญผมโชคดีเพิ่งขายที่ดินได้แปลงหนึ่งไม่กี่วันนี้ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้ระดับหนึ่ง อันที่จริงมีถ้าเงินสดมากในช่วงเวลาแบบนี้ อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องสนุกสนานที่ได้ช้อนหุ้นที่เคยได้แต่มองในราคาสะใจ อยากฝากไว้ว่า This too shall pass , stay calm stay invest สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนพี่น้องวีไอทุกท่าน รอดปลอดภัยทั้งจากตลาดหุ้นและcovid19ครับ ปล.เพิ่งอ่านข่าวเจอว่าเซียนวีไอระดับต้นของประเทศโดนหนักแทบทุกคน แล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้นบ้าง
โดย
drsp
พุธ เม.ย. 08, 2020 9:44 pm
0
26
Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก
ผมเป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากงานประจำ และยังชีพทุกวันนี้ด้วยเงินจากตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว อยากขอร่วมแสดงความคิดเห็น 1.ผมมองว่าถ้ารายได้จากการลงทุนมากกว่าค่าใช้จ่ายครอบครัวอย่างต่อเนื่องยาวนาน และมีอิสรภาพที่จะเลือกทำหรือไม่ทำงานทั้งงานประจำและพาร์ทไทม์ ผมถือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว 2.คนที่มีแนวคิดแบบวีไอ มักจะพยายามจำกัดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด จึงให้คิดว่าถ้าเงินปันผลพอเลี้ยงครอบครัวถือว่ามีอิสรภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วcapital gainที่ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานมันมากกว่าเงินปันผลหลายเท่า และความรวยที่แท้จริงมาจากผลกำไรส่วนต่างราคามากกว่าเงินปันผล 3.เอาเข้าจริงๆแล้ววีไอพันธุ์แท้ไม่ได้ต้องการเงินมากมายเท่าไหร่ในการดำเนินชีวิต ผมไม่ค่อยเห็นวีไอใช้ของฟุ่มเฟือยราคาแพง หรือพยายามแสดงสถานะความร่ารวย ผมมองไม่เห็นประโยชน์ในการที่คนอื่นคิดว่าเรารวย ผมกลับมองว่าอันตรายต่อตัวเองและคนในครอบครัวด้วยซ้า และสำหรับคนมีความคิดแบบวีไอ รถสปอร์ทราคาสิบล้านมันคือเงินร้อยล้านที่หายไปในอนาคต 4.เงินทองอาจซื้อความสุขและสะดวกสบายได้ถึงระดับหนึ่ง พ้นกว่านั้นมันอาจมีความหมายน้อยมาก สมมติคุณอายุ40ปี พอร์ทหุ้นคุณ60ล้าน คุณใช้ปีละ1ล้านอยู่ได้พอเพียง ถ้าไม่มีรายได้เพิ่มเงินคุณจะหมดตอนอายุ100ปี ต่อมาพอร์ทหุ้นคุณใหญ่ขึ้นเป็น80ล้าน เงินคุณจะหมดตอนอายุ120ปี มันแตกต่างกันมากแค่ไหน ในเมื่ออายุเฉลี่ยคนเราแค่80กว่าปี 5.ถ้าคุณมีเงินมากพอแล้วและคุณมีเหตุผลและคุณธรรมในจิตใจเพียงพอ คุณย่อมเข้าใจได้ว่า คุณได้จากคนอื่น จากสังคม จากประเทศชาติ รวมทั้งจากพระเจ้ามามากมายแล้ว ถึงเวลาที่จะตอบแทนคนอื่นบ้าง ความสุขที่เราทำสิ่งต่างๆเพื่อตัวเองนั้นเทียบไม่ได้กับความสุขที่เราได้ทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทำไมมหาเศรษฐีระดับโลก เช่น Carnegie Buffett Bill Gates จึงบริจาคทรัพย์สินมากกว่า90%ให้กับการกุศล ทั้งๆที่ต้องเหนื่อยยากหามาทั้งชีวิต บางทีเพราะเขาอยากให้มีคนรักและคิดถึงเมื่อเขาจากไป หรือถ้าเขาทำดีมากพอประวัติศาสตร์จะบันทึกชื่อเขาไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษา แทนที่จะเป็นแค่คนรวยเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่ได้ตายจากไป ขอบคุณจขกท สำหรับกระทู้สนุกๆ และต้องขอโทษถ้านอกเรื่องไปไกล ถือเสียว่าฟังคนแก่บ่นเพ้อตามวัย
โดย
drsp
ศุกร์ เม.ย. 21, 2017 12:51 am
0
19
Re: คนที่ถึงอิสระภาพทางการเงินแล้ว วันๆกระดิกเท้ารับปันผล ช
ในความเห็นส่วนตัวผม มีปัจจัยสำคัญ3ข้อที่ต้องพิจารณาก่อนเลิกทำงานประจำ คือ 1.งานที่ทำอยู่มีคุณค่าความหมายกับชีวิตของคุณไหม และคุณมีความสุขในการทำงานไหม ถ้าคำตอบคือใช่ทั้ง2ข้อ คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะเลิกทำงานประจำ หมอหลายคนรวยมหาศาลแต่ยังทำงานอย่างหนักแทบทุกวัน ถ้าไปบอกศิลปินบางคนว่าคุณรวยแล้ว เลิกวาดภาพเถอะ เขาอาจตอบว่าผมเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้ แต่ถ้างานของคุณเต็มไปด้วยความเครียดและเป็นทุกข์ และเหตุผลเดียวที่คุณทำอยู่คือเงิน คุณก็ควรรีบวางแผนเปลี่ยนงานหรือเลิกทำงานประจำเสีย 2.พอร์ทคุณต้องใหญ่พอ เงินปันผลอย่างเดียวต้องมากกว่าค่าใช้จ่ายประจำของครอบครัว อย่าคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ทุกปีและเอากำไรมาเลี้ยงครอบครัว เพราะไม่เช่นนั้นคุณไม่เพียงเอาความเสี่ยงมาสู่ตัวเองแต่รวมถึงครอบครัวและคนที่คุณรักด้วย ในความเห็นผม ถ้าพอร์ทเล็กกว่า20ล้าน อย่าคิดลาออกเลย ยกเว้นว่าคุณตัวคนเดียวและค่าใช้จ่ายรายเดือนต่ามากๆ 3.คุณต้องวางแผนว่าจะใช้เวลาว่างจำนวนมากอย่างไร ถ้าคุณมีแผนการและสิ่งที่ตั้งใจจะทำอยู่มาก คุณอาจไม่รู้สึกว่ามีเวลาว่างเลย แต่ถ้าคุณไม่มีอะไรจะทำและมีเวลาว่างมากมาย ชีวิตคุณจะน่าเบื่อและเป็นทุกข์อย่างมาก ผมเป็นหมอที่ลาออกจากงานประจำตอนอายุ50กว่า จริงๆผมชอบอาชีพหมอมาก ได้ช่วยเหลือคน ได้เงิน ได้รับความเคารพให้เกียรติ แต่ก็เต็มไปด้วยความเครียด ความเหนื่อยล้าหลายๆครั้งต้องอดหลับอดนอน รวมทั้งความเสี่ยงจากการฟ้องร้องที่มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเป็นหมอมา20กว่าปี รู้ตัวว่าหมดไฟในการทำงานและการตื่นไปทำงานแต่ละวันเป็นเรื่องยากขึ้น ผมจึงลาออกมาได้3ปีกว่าแล้ว สิ่งที่ผมได้รับจากการลาออกคือ 1.อิสรภาพในชีวิตที่ไม่ต้องรับคำสั่งจากใครอีกเลย ตอนเป็นหมอผมแทบไม่เคยกินข้าวเที่ยงหมดจาน โดยไม่ถูกตาม แม้แต่เข้าห้องน้าก็ยังถูกตาม ผมจึงรู้สึกเป็นสุขแทบเหมือนขึ้นสวรรค์ ที่ได้อิสรภาพของชีวิตกลับมา เหตุผลข้อนี้ข้อเดียวสำหรับผมก็เกินคุ้มแล้วสำหรับการลาออก 2.สุขภาพดีขึ้นเป็นอย่างมาก ปัจจุบันผมเข้าฟิตเนสครั้งละ3ชั่วโมงอาทิตย์ละ3วัน ตอนเป็นหมอผมอ้วนลงพุงหนั80กว่ากิโล เป็นความดันและเริ่มเป็นเบาหวานขั้นแรก 3ปีนี้ผมลดน้าหนักได้12กิโลโดยไม่ค่อยได้ควบคุมอาหารเท่าไหร่ เพื่อนที่นานๆเจอทีบอกว่าหุ่นดีขึ้นและหน้าอ่อนลง ปัญหาสุขภาพต่างๆหายไปหมด 3.มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น ลูกผมเรียนอ่อนได้เกรดแค่1.9 เนื่องจากติดเกมและผมไม่ได้เคี่ยวเข็นเท่าที่ควร ผมรู้สึกรับไม่ได้จึงติวหนังสือลูกเองทุกวัน ใช้เวลาปีกว่าเกรดลูกขึ้นมา3.4 รวมทั้งมีเวลาพาครอบครัวกินเทียวไปต่างประเทศมากขึ้น 4.มีเวลาทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น ผมมีเวลาศึกษาหุ้นมากขึ้นทำให้เข้าใจธุรกิจมากขึ้น รู้จักหุ้นใหม่ๆมากขึ้น และรู้สึกมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ผมชอบอ่านหนังสือและดูหนัง 3ปีนี้ผมอ่านหนังสือเป็นร้อยเล่ม ดูหนังเป็นร้อยเรื่อง โดยสรุปคือผมมีชีวิตที่มีความสุขขึ้นมากมายหลังลาออกจากงานประจำ และไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจเลยสักนาที แต่ยอมรับว่าเบื่อและเหนื่อยกับการตอบคำถามซ้าๆจากผู้คนที่รู้จักแทบทุกคนว่าลาออกทำไม สิ่งเดียวที่รู้สึกเสียดายคือผมเริ่มลงทุนแนววีไอตอนอายุ40กว่า ซึ่งช้าไปมาก ถ้าผมเริ่มต้นเร็วกว่านี้ ผมน่าจะได้อิสรภาพทางการเงินมาเนิ่นนานแล้ว หวังว่าสิ่งที่เล่ามาจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่อยู่ระหว่างวางแผนและตัดสินใจ
โดย
drsp
เสาร์ เม.ย. 01, 2017 3:57 pm
0
57
Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ
เป็นความจริงที่คนลงทุนแนววีไอมากขึ้น หุ้นดีและถูกหายากขึ้นมากๆ แต่การจะเป็นวีไอที่เก่งและเฉียบคม ไม่เคยง่ายเลย ต้องอาศัยทั้งสติปัญญา ความมุมานะ ประสพการณ์ และระยะเวลาอันยาวนาน ดังนั้นวีไอที่เก่งจึงเป็นคนจํานวนน้อยในหมู่มากอยู่เสมอ หุ้นในตลาดประมาณ500ตัว ถ้าหาหุ้นคุณภาพสูงราคาไม่แพงสัก1-3ตัวได้ในแต่ละปีก็เพียงพอแล้ว เอาจริงๆตัวเดียวก็อาจจะพอแล้วถ้ามันดีจริงๆ และอาจไม่ต้องหาทุกปี เพราะเราถือหุ้นหลายปี ในช่วงลงทุนวีไอใหม่ๆ หลายคนรวมทั้งตัวผม มักจะหมกมุ่นอยากได้ผลตอบแทนสูงๆรวยเร็วๆ จนหลายครั้งกลายเป็นเครียดและทุกข์ แต่พอลงทุนมานาน แล้วจะเข้าใจว่า ถ้ามีหลักการลงทุนที่ถูกต้อง ในระยะเวลาที่ยาวนานพอ คุณรวยแน่นอน ทําไมต้องรีบรวยอย่างรวดเร็ว แล้วใจมีแต่ความเครียดและทุกข์ไปเพื่ออะไร ในความเห็นของผม การลงทุนเหมือนการเดินขึ้นภูเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม ค่อยๆเดินค่อยๆดูวิวตามทางไปก็ได้ จะวิ่งตลอดทางเป็นสิบกิโลไปทําไมให้เหนื่อย บางคนใจร้อน ขับsport carเลย แต่ไม่เห็นวิวอะไรเลย ผมลงทุนมาประมาณ10ปี ผลตอบแทนล้อมากับsetมาตลอด ไม่เคยมีปีไหนแพ้ชนะมากๆเลย แต่มันก็เป็นบวกทุกปีไม่เคยลบ ยิ่งนานพอร์ทใหญ่ขึ้น สิบเปอร์เซนต์ต่อปีมันก็เหลือเฟือ สําหรับใช้จ่ายดําเนินชีวิตแล้ว แล้วจะไปกังวลทําไมว่าชนะหรือแพ้set เกินจากนั้นมันก็เป็นเรื่องของความโลภและอีโก้ส่วนตัวเท่านั้น สุดท้ายอยากบอกว่ารวยช้าๆอย่างมีความสุข ดีกว่าเร็วแต่เครียด และเพิ่มความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง สวัสดีปีใหม่ครับ
โดย
drsp
จันทร์ ม.ค. 02, 2017 1:03 pm
0
27
Re: ชาว VI มีความเห็นอย่างไรกับ ทองคำครับ
วีไอพันธ์ุแท้สนใจการลงทุน คือซื้อสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ และประเมินราคาสินทรัพย์ตามผลตอบแทนที่คาดหมายในอนาคต ทองคํา นํ้ามัน และcommoditiesต่างๆ สิ่งเหล่านี้โดยตัวมันเองไม่สร้างผลตอบแทน เราซื้อมาเพื่อขายไปในราคาแพงกว่าซื้อ คือการเก็งกําไรไม่ใช่การลงทุน หรือมองแง่หนึ่งก็คือการพนันนั่นเอง ในมุมมองส่วนตัวผม ทองคําคือการพนันราคา ผมจึงไม่สนใจทองคําเลย เว้นแต่ซื้อให้เมีย หรือแอบซื้อแจกสาว
โดย
drsp
ศุกร์ มิ.ย. 10, 2016 8:35 pm
0
4
Re: ดราม่าในตลาดหุ้น/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
1.Integrity is not a drama. 2.Profits without virtue is a shame. 3.Wrong can be right according to one's benefits. PS: I love drama.
โดย
drsp
พุธ ก.พ. 24, 2016 5:02 pm
0
13
Re: ลงทุน 100 ปี กับ หุ้นต่างประเทศ
ทุกครั้งที่ได้อ่านสิ่งที่คุณpicatosและLinzhiเขียน จะรู้สึกทั้งสนุกและได้ความรู้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน อ่านกระทู้นี้แล้วเห็นได้ชัดว่า ในขณะที่นักลงทุนธรรมดาแบบผม พยายามจะไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยน โดยออกนอกวง circle of competenceของตัวเอง นักลงทุนระดับเซียนกลับใช้ความขยัน ทุ่มเท และกําลังภายในทุกอย่าง ขยายขอบฟ้าของตัวเองให้กว้างขึ้นอย่างมากมาย เวลาลงทุน ผมประเมินอนาคตธุรกิจแค่3-5ปี ถ้าถามว่าอีก10ปีหุ้นที่ผมถืออยู่จะเป็นอย่างไร ผมว่าจะเริ่มเป็นการเดาสุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การที่สามารถประเมินอนาคตระยะยาวได้เป็นสิ่งที่ดีมาก แต่สําหรับผม เกินขอบเขตความสามารถไปมาก ผมรู้ว่าต่างประเทศมีโอกาสมากกว่าหุ้นไทย แต่ผมคุ้นเคยหุ้นไทยมากกว่ามาก แทบไม่มีความรู้หุ้นต่างประเทศเลย รวมทั้งไม่คิดว่าจะมีความขยันและเวลาไปเรียนรู้มัน ลงทุนห้นไทยจึงนอนหลับสนิทกว่าลงทุนหุ้นต่างประเทศ คุณpicatosรวยและประสพความสําเร็จมากแล้ว การมาเล่าเรื่องต่างๆถือเป็นวิทยาทานที่มีค่า ทั้งเปิดโลกทัศน์ สนุก และให้ความรู้ ว่างๆมาเขียนบ่อยๆนะครับ เป็นประโยชน์กับชาวviอย่างยิ่ง
โดย
drsp
พุธ ม.ค. 06, 2016 3:14 pm
0
16
Re: ข่าวCPALL ล่าสุด เรื่องผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาล
แมลงสาบในครัวไม่ได้มีตัวเดียว ผู้บริหารไร้คุณธรรมไม่ได้มีคนเดียว คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ ของบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พิจารณา กรณีนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล และนายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ ถูก สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์ แลตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับ ข้อหาใช้ความข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้น ที่ประชุมรับทราบว่านายก่อศักดิ์ นายพิทยา และนายปิยะวัฒน์ ได้ยอมรับในคำตัดสินของสำนักงานก.ล.ต.โดยได้รับการเปรียบเทียบปรับแล้ว และได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆอย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงการลงโทษของสำนักงานก.ล.ต.ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดจนพฤติกรรมและผลงานในอดีต รวมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์อันโดดเด่นของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหาทดแทนได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับผลกระทบและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ และเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระจึงลงความเห็นว่า ยังสมควรที่จะให้บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ กรรมการตรวจสอบ นอกจากมีหน้าที่ สอบทาน งบการเงิน รายงานข้อมูล ให้ถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่ รับผิดชอบ สอบทานให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท หลักการ แนวความคิด ของการตั้งกรรมการตรวจสอบ ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ เพื่อให้บริษัทมีธรรมาภิบาล หรือ การกำกับกิจการที่ดี การที่ กรรมการตรวจสอบ ต้องเป็นกรรมการอิสระ เท่านั้น คือ ไม่ใช่ผู้บริหาร ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น ก็เพื่อให้ กรรมการมีอิสระในการ ทำหน้าที่ ตรวจสอบ สอบทาน ผู้บริหาร ความเห็นของ คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ บมจ. ซีพีออลล์ จึงควรจะจำกัดเพียงแค่ว่า เมื่อกรรมการและผู้บริหารของซีพีออลล์ ทำผิดมาตรา 241 พรบ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 ยังจะมีคุณสมบัติของการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ตามกฎของ ก.ล.ต. และตามนโยบายเรื่องกรรมการและผู้บริหารของ ซีพีอออล์เองหรือไม่ การพิจารณาว่า บุคคลที่ทำผิดกฎหมายเหล่านั้น มีผลงานที่ดี มีความเก่งกล้าสามารถ ไม่อาจหาใครมาทดแทนได้ จึงสมควรให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ควรจะเป็นความเห็นของฝ่ายผู้ถือหุ้น และผู้บริหาร ซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรงกับ การบริหารงาน มากกว่า มติของคณะกรรมการตรวจสอบซีพีออลล์ เป็นการเห็นแก่ประโยชน์ในทางธุรกิจองบริษัทซีพีอออล์ มากกว่า หลักการกำกับกิจการที่ดี ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการส่งสารต่อสังคมว่า คนทำผิด หรือ ทุจริต อาจได้รับการให้อภัย เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ผิดหรือโกงไม่เป็นไร ถ้าเป็นคนเก่ง คณะกรรมการตรวจสอบ 3 คน ของ ซีพีออลล์ ประกอบด้วย นายโกเมน ภัทรภิรมย์ อดีตอัยการสูงสุด ตุลาการรัฐธรรมนุญ และ กรรมการร่างฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ นายปรีดี บุญยัง อดีตอธิบดี กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร และกรมธนารักษ์ นายผดุง เตชะศรินทร์ อดีตกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กรรมการอิสระอีก 2 คนคือ นายศุภชัย พิศิษฐวานิช อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานประจำปีของบมจ. ซีพีอออล์ ประจำปี 2557 เรื่องค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงินของ คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ เปิดเผยข้อมูลว่า ในปี 2557 นายโกเมน ได้รับค่าตอบแทน 1,200,000 บาท ได้ โบนัส 4,465, ,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ห้าล้านแปดแสนบาท นายปรีดี และนายผดุง ได้รับ ค่าตอบแทนคนละ 1,080,000 บาท โบนัสคนละ 4,020,000 บาท รวมห้า ล้านหนึ่งแสนบาท นายศุภชัย ซึ่งเป็น กรรมการอิสระเพียงตำแหน่งเดียว ไม่ได้เป็นกรรมการตรวจสอบด้วย ได้ ค่าตอบแทน 720,000 บาท โบนัส 2,680,000 บาท รวมสามล้านสี่แสนบาท พล. ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กรรมการอิสระ ได้รับ ค่าตอบแทน 720,000 บาท โบนัส 2,457,000บาท รวม สามล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท ยกเว้นพลตำรวจเอกพัชรวาท ซึ่งเพิ่งเป็นกรรมการอิสระ เมื่อต้นปี 2556 กรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระคนอื่นๆ ล้วนอยู่ในตำแหน่งคนละหลายๆปี นายศุภชัย เป็นกรรมการอิสระ ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน รวม 6 ปี นายโกเมน เป็นกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระตั้งแต่ปี 2548 นายปรีดี และนายผดุง เป็นกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2542 รวมแล้วนานถึง 16 ปี
โดย
drsp
ศุกร์ ธ.ค. 25, 2015 9:28 pm
0
9
Re: ข่าวCPALL ล่าสุด เรื่องผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาล
รวยแล้วไม่รู้จักพอ ผลประโยชน์แค่ไม่กี่ล้าน ก็ยอมเสียชื่อเสียงความดีที่สั่งสมมาทั้งชีวิต คนไร้ศักดิ์ศรีมีค่าแค่ธุลี ทําผิดยังไม่มีสํานึกความรับผิดชอบ คนแบบนี้ยังมีหน้ามาสั่งสอนคนอื่นได้อีก คนไม่มีคุณธรรม ผมไม่คบ บริษัทไม่มีคุณธรรม ผมไม่ลดศักดิ์ศรีไปถือหุ้นคุณ เงินคือพระเจ้าของพวกคุณ แต่คุณธรรมความซื่อสัตย์คือพระเจ้าของผม
โดย
drsp
พฤหัสฯ. ธ.ค. 24, 2015 9:35 am
0
16
Re: สถานการณ์ ตอนนึ้ คุณ กล้า หรือ กลัว ครับ
สถานการณ์ตอนนี้หรือตอนไหน ก็ไม่จําเป็นต้องกล้าหรือกลัว ทําใจให้สงบนิ่งเหมือนภูเขา มีโอกาสที่คุ้มความเสี่ยงไหม มีเงินอยู่ในมือไหม ถ้ามีทั้ง2อย่างก็ลงทุน พิ้นฐานกิจการแย่ลงไหม ราคาเกินจริงไปมากไหม ถ้าเป็นแบบน้้นก็ถึงเวลาขาย ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ใช้ชีวิตให้มีความสุข ช่วยเหลือคนอื่นบ้างเมื่อมีโอกาส ทําแบบนี้ไปนานๆๆๆ ถ้าไม่ตายเร็วเกินไป ก็เห็นรํ่ารวยมีความสุขกันทุกคน
โดย
drsp
อาทิตย์ ธ.ค. 06, 2015 9:38 am
0
13
Re: รถยนต์ไร้คนขับ
ในความเห็นผม ผมว่ารถไร้คนขับ ยังอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริงอีกมาก ผมขอยกตัวอย่างดังนี้ ถ้าสมมติมีเด็กเล็ก คนชรา เต่า สุนัข วิ่งตัดหน้ารถ ถ้ามีคนขับ เราจะรูัว่าสิ่งนั้นคือะไร ตอบสนองอย่างไรจึงจะถูกต้อง รถไร้คนขับ มันจะรู้ไหมว่าอะไรตัดหน้า และจะตอบสนองแต่ละกรณีเหมาะสมหรือไม่ ถ้ามีคนขับเราเห็นนํ้าบนถนนเราอาจไม่หลบ แต่ถ้าเป็นคราบนํ้ามันเราอาจขับหลบ รถไร้คนขับมันจะแยกคราบนํ้ากับนํ้ามันได้ไหม ฯลฯ ถ้ายังไม่ปลอดภัยในทุกกรณี ใครจะกล้าอนุญาตให้นํามาใช้
โดย
drsp
ศุกร์ ธ.ค. 04, 2015 11:08 pm
0
1
Re: หุ้นมือถือ/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ในมุมมองของผม ธุรกิจtelecomกําลังเปลี่ยนจากblue oceanเป็นred ocean แต่ถ้าjasประมูล900ได้ มันจะกลายเป็นbloody oceanทันที
โดย
drsp
ศุกร์ พ.ย. 27, 2015 10:18 am
0
5
Re: เหมือนกัน แต่ ไม่เหมือนกัน / คนขายของ
สุดยอดบทความเหมือนเช่นเคย ขอบคุณมากครับ ที่เขียนบทความดีๆเป็นวิทยาทานอยู่เสมอ
โดย
drsp
พฤหัสฯ. พ.ย. 26, 2015 11:03 pm
0
2
Re: ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นเงี๊ยบมาก หลายห้องไม่มีการเคลื่อนไหว
ผมไม่ได้เห็นแย้งกับท่าน greenstic นะครับ :D แค่ อ่านโพสท์นี้แล้ว เกรงว่า มือแปะข่าว top3 ของไทยวิ เช่น ท่าน pipatc ท่าน pakapong_u จะเสียกำลังใจ :| ผมขอขอบคุณและให้กําลังใจมือแปะข่าว ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีเวลาติดตามข่าวมากนัก ข่าวที่ถูกต้องและรวดเร็วช่วยชีวิตผมไว้หลายครั้ง ในบางแง่มุมข่าวยังอาจมีประโยชน์กว่าความเห็น เพราะบางครั้งความเห็นมีอารมณ์และอคติเจือปนอยู่มาก ผมว่าพวกเราหลายคนออกอาการเกร็งมากเกินไป ในเวปมีคนเก่งหลายคน บางครั้งแสดงความเห็นไปแล้วรู้สึกไม่ค่อยเข้าท่า คนโพสอาจรู้สึกอาย จนคิดว่าโพสไปก็เข้าเนื้อเข้าตัว อยู่เฉยๆดีกว่า ความจริง คนเก่งหลายคนในเวปนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนอัทธยาศัยดีและใจดี คนเราหลายครั้งต้องยอมโง่ก่อนฉลาด ไม่มีใครเข้าตลาดหุ้นวันแรกแล้วเป็นเซียนเลย ทุกคนต้องผ่านการเป็นคนโง่มาก่อนทั้งนั้น การที่เราแสดงความเห็นแล้วมีคนแย้ง ไม่ว่าถูกหรือผิด เราก็จะได้แง่มุมความคิดด้านอื่นของคนอื่น ถ้าเราเอามาใคร่ครวญวิเคราะห์ เราก็จะได้เรียนรู้มากขึ้นไปเรื่อยๆ อยากเชิญชวนทั้งมือใหม่และเก่าช่วยกันโพสท์เยอะๆ เพื่อความน่าอยู่ของเวปthaiviบ้านเรา ผมเห็นด้วยนะ ที่จะให้รางวัลเป็นincentivesคนที่โพสท์บ่อยโพสท์มีประโยชน์ จะได้มีกําลังใจทําสิ่งดีๆกัน
โดย
drsp
ศุกร์ ต.ค. 09, 2015 11:02 am
0
10
Re: ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นเงี๊ยบมาก หลายห้องไม่มีการเคลื่อนไหว
สังคมโดยรวมคงไม่ดีขึ้นจากการด่าว่าคนอื่นในสังคสว่าเห็นแก่ตัวเอาแต่ประโยชน์ตัวเอง แต่สังคมอาจดีขึ้นถ้าเราแต่ละคนพยายามทําตัวเองให้ดีขึ้น ถ้ามีคนโพสท์น้อย เราก็เข้าไปขอบคุณคนที่ให้ข้อมูลบ่อยๆ เข้าไปกดบวกให้เขาเรื่อยๆ เขาจะได้มีกําลังใจ ว่ากันตามจริง ผมก็ไม่เดือดร้อนที่คนโพสท์ห้องร้อยคนร้อยหุ้นน้อย เพราะผมก็ตามอ่านหุ้นที่ผมมีหรือสนใจแค่ไม่กี่ตัว ไม่ได้อ่านทุกตัว แค่นี้บอกตามตรงว่า ผมก็ตามอ่านไม่ค่อยไหวแล้ว อีกอย่างที่ผมมั่นใจมากๆก็คือ มากกว่า80%ของคนในเวปนี้เป็นคนดีมีนํ้าใจ คนที่ประสพความสําเร็จส่วนใหญ่ก็อยากช่วยให้คนรุ่นหลังสําเร็จเช่นกัน เพราะตัวเขาเองก็รํ่ารวยจากนํ้าใจเซียนวีไอรุ่นก่อนๆสั่งสอนให้ข้อมูลมาเช่นกัน สุดท้ายอยากบอกว่าที่แห่งนี้เป็นสายธารแห่งนํ้าใจ ให้ทุกคนได้ดื่มกินตลอดมาและตลอดไป
โดย
drsp
พุธ ต.ค. 07, 2015 8:35 pm
0
26
Re: เบิร์กไชด์ มีเงินสดเฉลี่ยเท่าไรในแต่ละปี
เงินสดส่วนใหญ่ได้จาก"float" ซึ่งfloatมากขึ้นทุกปี ปีล่าสุดจําได้ว่าประมาณ7หมื่นล้านเหรียญ Buffettสัมภาษณ์หลายครั้งว่าถือเงินสดอย่างน้อย2หมื่นล้านเหรียญเสมอ
โดย
drsp
พุธ ต.ค. 07, 2015 8:20 pm
0
1
Re: นักลงทุนแนว vi เปิดดูพอร์ทบ่อยแค่ไหน?
ดูทุกวันๆละ5-10นาที คือดูเพื่อให้รู้ว่ามีสิ่งไม่คาดคิดเกิดกับหุ้นที่เราถือหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่ดูแล้วก็ไม่ได้ทําอะไร เวลาในชีวิตยังมีค่ากว่าเงินทองอีก เงินทองหาเสียไปหาใหม่ได้ เวลาผ่านไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เอาเวลาที่เหลือไปออกกําลังกายให้แข็งแรงไม่ป่วย อ่านหนังสือที่ทําให้เราเก่งและฉลาดมากขึ้น หาข้อมูลบริษัทที่เราสนใจ สอนหนังสือลูกเล่นกับลูก พาครอบครัวไปกินไปเที่ยว ฯลฯ จะมานั่งเฝ้าจอเสียเวลามากมายไปทําไม
โดย
drsp
ศุกร์ ก.ย. 25, 2015 10:32 pm
0
16
Re: ตลาดหุ้นไม่มีอยู่จริง !
โง่ๆแบบผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ "ตลาดหุ้นไม่มีอยู่จริง !" ผมเห็นมันก็ยังอยู่ที่อาคารสินธร ไม่ไปไหน ถ้าเราคาดเดาอนาคตระยะสั้นดัชนีได้จริงด้วยวิธีใดก็ตาม แล้วซื้อขายตามจังหวะ จะทํากําไรได้มากกว่าถือหุ้นระยะยาวไม่ซื้อขายมากมาย ผมเคยพยายามกระโดดเข้าออกตามดัชนีหลายครั้ง ปรากฏว่าผิดเกือบทุกครั้งและผลตอบแทนก็หายนะมาก จนได้บทเรียนสําคัญในชีวิตคือ"มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อว่าตัวเองคาดเดาดัชนีตลาดได้ถูกต้องแม่นยํา" และผมเลิกคาดเดาตลาดมาหลายปีแล้ว คนที่รู้ว่าผมเล่นหุ้นก็ชอบมาถามตลอดว่า หุ้นตกเยอะซื้อได้ยัง พอบอกว่าไม่รู้ ถ้ารู้ไปเล่นหวยหรือเป็นหมอดูแล้วไม่มาเล่นหุ้น บางคนยังทําหน้าไม่พอใจว่าเรื่องแค่นี้รู้แล้วก็ไม่บอก ไม่ช่วยเพื่อนบ้างเลย ไร้นํ้าใจ ส่วนเรื่องถือหุ้น100%หรือถือเงินสดบ้าง ผมว่าเป็นเรื่องที่เถียงกันได้อีกเยอะ ถ้าภาวะตลาดกระทิงถือเงินสดจะเสียโอกาสทั้งปันผลและกําไรส่วนต่างราคา ตลาดsidewayถือหุ้นก็ยังได้ปันผล ถ้าตลาดหมีเงินสดอาจให้ผลตอบแทนดีกว่า แต่ถ้ามีเงินสด เจอจังหวะหุ้นตีแตกก็อาจได้กําไรมากมายชดเชย ผมเคยแปลกใจที่Buffettบอกว่าถือเงินสดอย่างน้อย2หมื่นล้านเหรียญตลอดเวลา เก็บเอาไว้หาจังหวะยิงช้าง ระยะหลังผมเริ่มเห็นด้วยว่าถือเงินสดไว้สัก5-10%น่าจะเป็นกลยุทธที่ดี ว่าแต่หุ้นตกรอบนี้รถe-classหายไป3คัน ยังดีหน่อยสองวันนี้หุ้นขึ้นเลยกลายเป็นc-class คนที่เป็นวีไอมานานผมว่าทุกคนเจอแบบนี้มาคนละหลายรอบ แต่ถ้าแนวคิดวิธีการเราถูกต้อง ในที่สุดพอร์ทจะกลับมาใหญ่กว่าเดิมทุกครั้ง วีไอพันธ์แท้ไม่กลัวหุ้นตกเห็นเป็นเพื่อนเป็นโอกาสด้วยซํ้า กลัวอย่างเดียวคือถูกเมียด่าที่เงินหายไปหลายล้าน :mrgreen:
โดย
drsp
จันทร์ ส.ค. 31, 2015 11:10 pm
0
18
Re: อคติของแมงเม่า/วีระพงษ์ ธัม
เขียนดีมากครับ แต่ในความเห็นส่วนตัว สาเหตุหลักที่แมงเม่าขาดทุนหุ้น คือ ไม่เข้าใจคําว่า"เก็งกําไร"กับ"การลงทุน"ว่าต่างกันอย่างไร เล่นแบบการพนันจนแทบหมดตัว ยังบอกคนอื่นว่า"ผมเป็นนักลงทุน"
โดย
drsp
พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2015 12:28 pm
0
1
Re: เสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน / คนขายของ
นับถือในความรอบรู้ของคุณคนขายของมากๆครับ ไม่ทราบพอบอกได้ไหมครับว่า อ่านหนังสือพิมพ์หรือวารสารธุรกิจต่างประทศฉบับใดบ้างครับ ขอบคุณครับ ที่อ่านประจำจะเป็นหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal และ Financial Time ที่อ่านบ้างแต่ไม่ประจำพวก Fortune, Forbes, Barron's และก็พวก website ต่างประเทศครับเช่น http://www.fool.com, cnbc, bloomberg นอกจากนี้ก็มี บทวิเคราะห์อุตสาหกรรม ของต่างประเทศ เช่น McKinsey, Bain, CBRE, Deloitte ขอบคุณมากครับ ตอนแรกก็ว่าจะอ่านตามครับ แต่เห็นรายชื่อแล้ววถอดใจเลยครับ อ่านมากขนาดนี้ มิน่าบทความที่เขียนถึงข้อมูลแน่นและเฉียบคม อ่านบทความของคุณ คนขายของ ทีไร รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างโง่ทุกที :cry:
โดย
drsp
อาทิตย์ มี.ค. 08, 2015 12:24 am
0
1
Re: ปันผลเป็นหุ้นเพื่ออะไรครับ
บอกตามตรงว่ายังรู้สึกว่ามันไม่ make sense capital gain ถ้าหุ้นมันดีจริง ในระยะยาว ไม่ว่าเพิ่มทุนหรือไม่ มันก็ได้capital gainเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับวิธีการนี้ ผมเสียงส่วนน้อยก็คงไม่ว่าอะไรครับ :'O
โดย
drsp
ศุกร์ มี.ค. 06, 2015 5:42 pm
0
9
Re: เสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน / คนขายของ
นับถือในความรอบรู้ของคุณคนขายของมากๆครับ ไม่ทราบพอบอกได้ไหมครับว่า อ่านหนังสือพิมพ์หรือวารสารธุรกิจต่างประทศฉบับใดบ้างครับ ขอบคุณครับ
โดย
drsp
ศุกร์ มี.ค. 06, 2015 12:22 am
0
8
Re: สามารถดูกราฟ pe ย้อนหลังของ set ได้จากที่ไหนบ้างครับ
PE ของตลท. น่าจะเป็นแบบ 12 month Trailing PE ขณะที่ ของ WSJ เป็น Forward PE ครับ ขอบคุณมากครับ
โดย
drsp
พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2015 2:21 pm
0
0
Re: สามารถดูกราฟ pe ย้อนหลังของ set ได้จากที่ไหนบ้างครับ
ผมเปิดหนังสือพิมพ์ asian wall street journal ไม่กี่วันก่อน ในตารางดัชนีแต่ละประเทศ เห็นp/eตลาดหุ้นไทยแค่15 คิดว่าวิธีคิดน่าจะต่างจาก ตลท และอาจไม่update แต่มันต่างกันมาก ไม่รู้อันไหนน่าเชื่อกว่ากัน ระดับaswjก็ไม่น่าผิดพลาดมาก
โดย
drsp
พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2015 1:04 am
0
0
Re: annual letter ฉบับครบรอบ50ปี ลุงบัฟ
หัวใจของBerkshireคือกลุ่มธุรกิจประกัน ตัวธุรกิจประกันทํากําไรไม่มาก แต่สามารถสร้างอาวุธที่รุนแรงที่สุดคือ "float" ปี2014 Berkshitreมีเงินfloatรวม83.9billion$ หรือประมาณ2.7ล้านล้านบาท เงินจํานวนนี้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยไม่ต้องรีบคืน เพราะธุรกิจประกันออกแบบมาให้ไม่มีการเคลมเป็นเงินก้อนใหญในทันที ฺBuffettจึงมีเงินสําหรับซื้อธุรกิจดีๆเพิ่มได้มากมายทุกๆปี ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ก็สร้างกระแสเงินสดมากมายกลับเข้าBerkshire ผมว่าถ้าBuffettอายุยืนอีกหลายสิบปี กิจการดีๆทั้งโลกจะอยู่ในมือBerkshireหมด
โดย
drsp
อาทิตย์ มี.ค. 01, 2015 3:15 pm
0
4
Re: แบตเตอรี่ชนิดใหม่ ชาร์จประจุไฟได้มากถึง 70% ในเวลา 2 นาท
‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ โละหุ้น ‘เอ็กซ์ซอนโมบิล’ เกลี้ยงพอร์ต วอร์เรน บัฟเฟตต์ สุดยอดมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของอเมริกา และอันดับ 4 ของโลก จัดการล้างหุ้น ‘เอ็กซ์ซอนโมบิล‘ เกลี้ยงพอร์ต ฟันกำไรนิ่ม ‘บลูมเบิร์ก‘ ดอทคอม รายงานข่าวว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานเบิร์กไชร์แฮธาเวย์ได้ขายหุ้น ‘เอ็กซ์ซอนโมบิลคอร์ป‘ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เกลี้ยงพอร์ต ถอนการลงทุนมูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.22 แสนล้านบาท หลังราคาน้ำมันเข้าสู่ช่วงขาลง ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของผู้ผลิตน้ำมัน ทำให้อุตสาหกรรมพลังงานไม่มีความน่าสนใจอีกต่อไป ซึ่งอยู่ในภาวะที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับปีที่ผ่านมา โดยที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถอนการลงทุนดังกล่าว ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นเอ็กซ์ซอนซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 93.27 ดอลลาร์/หุ้น ในช่วงดังกล่าว ขณะที่ราคาหุ้นเฉลี่ยในปี 56 อยู่ที่ 90.86 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งการขายหุ้นของเบิร์กไชร์ยังคงทำกำไรได้จากการถือหุ้นจำนวน 4.1 ล้านหุ้น ทั้งนี้ ณ เวลาปัจจุบัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในวันนี้ราว 8,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรวมทั้งหมดอยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท http://news.mthai.com/headline-news/422465.html ปกติBuffettไม่ยอมขายหุ้นที่ยังมีอนาคตง่ายๆ แม้ขาดทุนอยู่ แต่ถ้ายังมีอนาคตก็จะไม่ยอมขายง่ายๆ ถ้าขายหุ้นนํ้ามันยักษ์ใหญเกลี้ยงพอร์ท แสดงว่าในสายตาBuffettกิจการนํ้ามันในระยะยาวมืดมนมาก แสดงว่าในอนาคตนํ้ามันจะoversupplyมากหรือพลังงานทดแทนจะกินตลาดนํ้ามันไปมาก ผมว่านี่เป็นข้อมูลสําคัญบอกแนวโน้มพลังงานของโลก
โดย
drsp
พุธ ก.พ. 18, 2015 3:57 pm
0
4
Re: สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2557
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. (F45-2) บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 118,768 78,318 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.46 0.33 ต่อหุ้น (บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 118,867 78,586 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.46 0.33 ต่อหุ้น (บาท)
โดย
drsp
ศุกร์ ก.พ. 13, 2015 5:39 pm
0
1
Re: สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2557
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. (F45-1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล (หน่วย : พันบาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 331,002 5,926 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.7042 0.0126 ต่อหุ้น (บาท)
โดย
drsp
ศุกร์ ก.พ. 13, 2015 5:38 pm
0
1
Re: สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2557
สรุปผลการดำเนินงานของบจ. (F45-1) บริษัท ฟูรูกาวา เม็ททัล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 83,063 34,055 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 1.73 0.71 ต่อหุ้น (บาท)
โดย
drsp
ศุกร์ ก.พ. 13, 2015 5:37 pm
0
1
Re: สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2557
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3) บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (หน่วย : พันบาท) งบการเงินรวม ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 10,715 51,037 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.02 0.15 ต่อหุ้น (บาท) งบการเงินเฉพาะกิจการ ประจำปี ตรวจสอบ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2557 2556 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 49,411 56,602 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.09 0.16 ต่อหุ้น (บาท) ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน ไม่มีเงื่อนไข
โดย
drsp
ศุกร์ ก.พ. 13, 2015 10:28 am
0
1
Re: ค่าเช่าตู้นิรภัย (ราคาแพง)/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
อ่านแล้วรู้สึกขําๆ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับปรมาจารย์วีไอ นอกจากขายประกันให้อาจารย์ไม่ได้แล้ว ยังโดนเอามาเขียนบทความ ผมว่าใครอ่านบทความอาจารย์ อาจตัดสินใจเลิกซื้อประกันไปอีกหลายคน ผมว่าbankเมืองไทยคงไม่ค่อยเข้าใจคําว่า happy customer ผมได้ยินเสียงคนด่าเรื่องบังคับขายประกันของธนาคารไทยจนเบื่อจะฟัง ไม่รู้แบงค์ชาติหลับหูหลับตาไม่ได้ยินเสียงชาวบ้านด่าได้ยังไง น่าจะออกมาตรการไม่ให้ธนาคารเอาเปรียบประชาชนมากเกินไปได้แล้ว
โดย
drsp
อังคาร ก.พ. 10, 2015 5:55 pm
0
5
Re: พอร์ตอภิมหาเศรษฐี
Michael Larson ที่เป็นคนลงทุนให้ Bill Gatesนี่ถือเป็นสุดยอดฝีมือในการลงทุนเลยครับ ขนาดBill Gatesบริจาคเงินมหาศาลทุกปี แต่ทรัพย์สินBill Gatesกลับยังเพิ่มขึ้นทุกปี ปีที่แล้วBill Gates จัดงานเลี้ยงใหญ่โตขอบคุณLarsonคนเดียว และกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งต่อLarson นักวิเคราะห์ยังบอกว่ารถไฟของBill Gates ชนะรถไฟBuffett ขาดลอย
โดย
drsp
ศุกร์ ม.ค. 09, 2015 5:17 pm
0
3
Re: ไม่โลภ ไม่กลัว ไม่ไร้สติ!
ดัชนีหุ้นขึ้นลงก็เหมือนนํ้าขึ้นนํ้าลง เป็นไปตามธรรมชาติของมัน ถ้าขึ้นโดยไม่ลงเลย มันจะมีแรงขึ้นรอบใหม่ได้อย่างไร สําหรับคนที่เจอมาหลายวิกฤติแบบผม วิกฤติตอนปี40 ดัชนีลดลง80กว่าเปอร์เซนต์ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ดัชนีลงประมาณ50เปอร์เซนต์ เที่ยวนี้2ส้ปดาห์ดัชนีลงไปแค่10กว่าไม่ถึง20เปอร์เซนต์ เงินในพอร์ทผมก็หายไปหลายล้าน แต่ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรเลย ผมเชื่อว่าถ้ากิจการที่เราถือยังดีอยู่ มันก็แค่ตัวเลขติดลบทางบัญชีเท่านั้น อันที่จริงหุ้นที่ผมอยากได้เพิ่ม แต่ละตัวยังp/eเกิน30อยู่เลย ไม่เห็นถูกตรงไหน ผมว่าเคล็ดลับอันหนึ่งที่สําคัญสําหรับผม คือ "อย่านั่งเฝ้ากระดานหุ้น" ผมดูราคาหุ้นวันละ1ครั้งตอนตลาดปิดแล้ว วันที่ดัขนีหุ้นลดลง138จุด ผมมารู้ตอนตลาดปิดแล้ว ซึ่งตอนปิดก็ลดลงแค่30กว่าจุด ถ้าผมนั่งเฝ้าจออยู่ก็อาจมือบอนทําอะไรโง่ๆลงไป การดูห้นตอนตลาดปิดแล้วมีข้อดีคือ คุณซื้อขายไม่ได้แล้ว คุณต้องนอนคิด1คืนว่าจะเอายังไง Buffettเคยบอกว่าดูราคาหุ้น2อาทิตย์ครั้ง ผมยอมรับว่ายังทําตามไม่ได้ ในความรู้สึกส่วนตัว ผมมองว่า สําหรับตลาดหุ้น ถ้าคุณวิเคราะห์ธุรกิจและราคาอย่างดีแล้ว ใครนั่งทับมือตัวเองโดยไม่ขยับได้นานเท่าไหร่ คนนั้นเป็นคนชนะและรํ่ารวย ใครขยับมือยิ่งเร็วยิ่งบ่อย คนนั้นแพ้ และต้องจ่ายเงินรอบวง :mrgreen:
โดย
drsp
พุธ ธ.ค. 17, 2014 3:34 pm
0
19
Re: โบรกไหนซื้อหุ้นในเวียดนามได้ครับ
ตกลงว่าถ้าจะใช้โบรกเกอร์ไทยซื้อขายหุ้นเวียตนาม มีโบรกเกอร์ไหนให้บริการบ้าง และแต่ละที่มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย
drsp
จันทร์ ก.ย. 15, 2014 10:17 pm
0
0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
ผมอ่านแล้วรู้สึกยอมรับว่าคุณบรรยงมีความรู้กว้างมาก แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ารู้ลึกแค่ไหน ถ้าต้นทุนเงินกู้ถูกลง แต่ธนาคารในประเทศทั้งหมดเป็นของต่างชาติ ไม่มีธนาคารไทยสู้ได้เลย แล้วมันดีกับประเทศไทยในระยะยาวจริงหรือ เศรษฐีไทยถือครองที่ดินจํานวนมาก ควรอนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินไทยได้ ถ้าที่ดินผืนงามที่สุดครึ่งประเทศเป็นของต่างชาติ แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ เปิดเสรีให้ต่างชาติมาลงทุน ในขณะที่ธุรกิจไทยยังไม่แข็งแรง แล้วธุรกิจยักษ์ใหญ่ในประเทศเป็นของต่างชาติหมด ไม่มีธุรกิจยักษ์ใหญ่ของคนไทยสู้ได้เลย แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ คนเข้าตลาดหุ้นวันแรก มีใครไม่ใช่คนธรรมดา แล้วคนไม่ธรรมดาคนไหนที่ไม่ได้เริ่มจากคนธรรมดาบ้าง จะไปห้านเขาได้หรือ แล้วไม่สงสัยบ้างหรือว่า แทบทุกประเทศในโลกรายย่อยแพ้สถาบันหมด จนตลาดหุ้นโลกแทบไม่มีรายย่อยเลย แต่ทําไมรายย่อยไทยไม่แพ้สถาบัน ยังยืนหยัดอยู่ได้จนทุกวันนี้ 10ปีก่อนพอร์ทวีไอทั้งหมดไม่น่าถึง1หมื่นล้าน ทุกวันนี้ผมว่าน่าจะหลายหมื่นอาจถึงแสนล้าน อีก20ปีผมก็ว่ารายย่อยไทยก็ไม่แพ้สถาบันอยู่ดี :8)
โดย
drsp
อังคาร ก.ย. 02, 2014 4:31 pm
0
5
Re: รบกวนถามพี่ๆ ครับ ลง ทุน เวียดนามเปิดพอร์ต 5แสนบาทได้ไหม
สนใจอยากไปเวียตนามเหมือนกันครับ เห็นเขาว่า ขาวสวยอึ๋ม เอ๊ยไม่ใช่ ตลาดหุ้นไทยหาหุ้นถูกและดี ยากเย็นแสนเข็ญ ตลาดเวียตนามเท่าที่ดูคร่าวๆเห็นหุ้นp/e4-6 ปันผล10%มีหลายสิบตัว แต่ผมยังไม่มีความรู้อะไรเลย ไปตอนนี้คงเปลี่ยนจากหมูไทยเป็นหมูเวียตนาม ตลาดหุ้นเวียตนามเพิ่งผ่านวิกฤตมาไม่นาน สภาวะคล้ายตลาดไทยหลังปี40 นับเป็นโอกาสทองที่หาได้ยาก วีไอไทยส่วนใหญ่ที่รํ่ารวยแทบทั้งหมด ก็รวยมาจากการฟื้นตัวจากมหาวิกฤต2540ทั้งนั้น ใครไปเวียตนามแล้ว ใครสนใจไปเวียตนาม น่าจะมารวมกลุ่มกันช่วยทําการบ้าน แบบ100คน100หุ้นเวียตนาม ผมเห็นด้วยกับท่านอจ นิเวศน์ว่า เวียตนามเป็นโอกาสทองในอนาคตอันใกล้ จริงๆปีนี้ตลาดเวียตนามก็ขึ้นมา20กว่าเปอร์เซนต์แล้ว ถ้าไปกันเยอะๆ วีไอไทยอาจกลายเป็นขาใหญ่ในตลาดหุ้นเวียตนามก็เป็นได้ :mrgreen:
โดย
drsp
อังคาร ก.ย. 02, 2014 3:20 pm
0
7
Re: VI บ้าน ๆ
ยินดีกับคุณนุชด้วยครับที่ได้อิสรภาพทางการเงินตั้งแตยังอายุน้อย เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมก็เพิ่งearly retireมาเมื่อเดือนเมษายนนี้เอง แต่ผมอาย50กว่าแล้ว แก่กว่าคุณนุชเยอะ ผมเป็นกุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชน ภรรยายังบ่นอยู่ทุกวันนี้ เสียดายเงินเดิอนที่ค่อนข้างสูง แต่สําหรับตัวผมเองแล้ว รู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงทีมีความสุขที่สุดในชีวิต ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีความกังวลอะไรเลย ทําแต่ในสิ่งที่อยากทํา ไม่ต้องทนฝืนใจทําในสิ่งต่างๆ สุดท้ายอยากบอกว่า ขอต้อนรับสู่ "มหัศจรรย์ความสุขแห่งอิสรภาพทางการงิน" :mrgreen:
โดย
drsp
อาทิตย์ ส.ค. 24, 2014 11:54 am
0
4
Re: ผมเรียนป.โทกำลังจะทำงานวิจัยครับ มีท่านไหนหัวข้อน่าสนไหม
ลองทําวิจัยเทียบผลตอบแทนกองทุนหุ้นแบบpassiveเทียบกับactive ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเกิน20ปี ถ้าจําไม่ผิด ของเมืองนอกถ้าระยะยาวมาก แทบจะไม่มีactive fundsที่ชนะpassiveได้เลย
โดย
drsp
ศุกร์ ส.ค. 08, 2014 10:00 pm
0
5
Re: ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่Thaiviจะให้สมาชิกทั่วไปเข้าห้อ
ผมว่าประเด็นเปิดห้อง100 กับประเด็นคนโพสท์น้อยนี่มันคนละเรื่องเดียวกันเลย ถ้าเปิดให้สมาชิกทั่วไปโพสท์ห้อง100ได้ ผีดิบทั้งหลายก็จะกลับมาคืนชีพอีกครั้ง ทั้งพวกday trade พวกปั่นหุ้นตัวเอง พวกขี้โม้ เซียนกํามะลอ 18มงกุฏ ขาเกรียน ขาป่วน พวกลอกการบ้านไม่รวยแล้วตามด่าฯลฯ ต้องเดือดร้อนmodมาตามลบกระทู้ มาห้ามมวยเวบบอร์ดทุกวัน ใครจะยอมเป็นmod หลายคนยังจําความสยองบรรยากาศห้องjas PTLสมัยก่อนไม่ลืม ผมจึงไม่เห็นด้วยที่ให้คนทั่วไปโพสท์ห้อง100 ส่วนประเด็นคนโพสท์น้อย ผมว่ามีหลายสาเหตุ อย่างที่คุณpicatosเขียนไว้ว่า การจะตั้งกระทู้แต่ละทีต้องใช้ความคิดมาก ต้องเขียนแล้วแก้หลายที บางทีแก้เสร็จก็ไม่โพสท์ เพราะในเวปนี้มีคนเก่งสุดๆอยู่มาก โพสท์อะไรไม่เข้าท่า ตัวเองก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า รวมทั้งbig nameเรียกแขกหายกันไปหมด ถ้าคนดังทั้งหลายยอมมาโพสท์บ้าง ผมว่าบอร์ดก็จะกลับมาคึกคัก แต่คนดังเขาก็กลัวถูกกล่าวหาว่าเชีนร์หุ้นอีก ผมเสนอว่าน่าจะให้แรงจูงใจบ้าง เช่น ใครโพสท์ครบพันข้อความ ให้ดาวติดชื่อ1ดวง ในรอบปีใครโพสท์มากสุดให้รางวัลเล็กน้อย เช่นหนังสืออจ นิเวศน์พร้อมลายเซ็น ใครโพสท์มีประโนชน์ที่สุดในห้อง100 มาโหวตกันแล้วให้รางวัลใหญ่ ฯลฯเป็นต้น ถ้าขัดใจท่านใด ขออภัยล่วงหน้า :mrgreen:
โดย
drsp
พุธ ก.ค. 30, 2014 2:28 pm
0
9
207 โพสต์
of 5
ต่อไป
ชื่อล็อกอิน:
drsp
ระดับ:
Verified User
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
ศุกร์ มิ.ย. 05, 2009 5:34 pm
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. มิ.ย. 17, 2021 10:45 pm
โพสต์ทั้งหมด:
381 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.07 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์ [กระทู้รับชมออนไลน์]
↳ ศาสตร์ของหุ้นเติบโต โดยอ.เบส ลงทุนศาสตร์
↳ ThaiVI GO Series
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว